สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถียรไทย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ผักกาด
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 238
ผู้ติดตาม: 11

สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถียรไทย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เมื่อวานไปฟังรีวิวหนังสือเล่มนี้ที่ห้องสมุดมารวย เเล้วรู้สึกอินและมันดีมาก จนต้องมาแชร์ค่ะ
ปกติทางห้องสมุดจะอัพโหลดขึ้นยูทูปให้ แต่ว่าจะดีเลย์สักอาทิตย์ หรือสองอาทิตย์
ลองมาอ่านกันก่อนคร่าวๆว่า ดร. สันติธารพูดว่าอะไรบ้างค่ะ
2.png
==Futuration by ดร.สันติธาร เสถียรไทย==

บางคนเรียกเค้าว่าอัจฉริยะ บินมาจากสิงคโปร์เพื่องานนี้ (จริงๆเราว่าพิธีกรก้อพูดเว่อร์ไป เค้ามาพูดงาน Tech Sauce พรุ่งนี้ 19-June-19 ด้วยนะ) ..มุมมองงี้คมมาก ทั้งๆที่ใช้ภาษาธรรมดาๆค่ะ

จากที่เค้าแนะนำตัว ดร. สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์ (ดาวรุ่งของเอเชีย) เคยทำงานที่ธนาคาร Credit Suisse 8 ปีในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดทีมวิเคราะห์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของบริษัท SEA Group ที่เป็นแม่ของ Garena, Shopee และ AirPlay

ตอนย้ายมาทำที่ SEA Group ตำแหน่งที่เค้าเป็นนี่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ Founder คุยด้วยแล้วชอบ อยากให้มาทำด้วย แต่ไม่รู้จะลงในตำแหน่งไหน บอกให้ไปคิดมาว่าตัวเองจะเข้ามาทำตำแหน่งอะไรในบริษัท.... สร้างตำแหน่งด้วยตัวเอง (ย้ายจากการเงิน มาทำ Tech) จบตรีเศรษฐศาสตร์จาก LSE, โทเอก ฮาร์วาร์ด ได้รางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยม

หนังสือที่เขียนจะเขียนแนวพ่อคุยกับลูกเพราะต้องการสื่อถึงลูกที่กำลังจะโตขึ้นไปเจออะไร ในอนาคต

-เดิมโลกเป็นยุคการค้า ทำอุตสาหกรรมผลิตมาเพื่อขาย>> ต่อมาเป็นยุคการเงิน (มักเกิดวิกฤตการเงินบ่อยๆ เช่น เตกิล่า, ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์...ชื่ออาหารทั้งนั้น) >> เข้าสู่ยุคปัจจุบันคือยุคที่โลกเชื่อมกันด้วย Data

..อยากรู้ว่าโลกเป็นยุคอะไร ให้ดูหน้าตาของบริษัทที่เป็น Topๆ หรือดูว่านักเรียนอยากไปเรียนต่อที่ไหน
เมื่อก่อนอยากเรียน MBA เดี๋ยวนี้อยากเรียน Data science, อยากไปทำบริษัท Tech


-เดิมบริษัทTech อยู่อเมริกา ตอนนี้ย้ายขั้วมาเป็นจีน

มหาอำนาจที่เเข่งขันกันอยู่ทำให้ประเทศเล็กๆมีอำนาจต่อรองมากขึ้น อย่างเช่นอินโดนีเซียต่อรองรถไฟความเร็วสูงกับจีน

-การค้าออนไลน์ของเอเชียคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2-3% เท่านั้น ในขณะที่อเมริกาเป็น 1x% จีนเป็น 2x%... แปลว่าไทยตามหลังจีนอยู่ 8 ปี

-จากรายงาน Internet report 2019 ของ Mary Meeker ราชินีแห่งเทค เค้าจะอัพเดททุกปี ถึงรายงานมันจะดูน่าเบื่อแต่คนทั่วไปจะใช้อันนี้เป็น
guideline แนวโน้มอุตสาหกรรมตลอด...ปี 2019 มีความพิเศษคือเป็นครั้งแรกที่ คนใช้อินเตอร์เนทมีจำนวนมากกว่าคนไม่ใช้เนท
แปลว่าเรื่องง่ายๆที่เกี่ยวกับเนทเราทำไปหมดแล้ว

-บริษัทที่เป็น platform ยิ่งทำ ยิ่งคนใช้เยอะ ยิ่งมีมูลค่าเยอะเพราะมีnetwork effect พวกstart up เริ่มไม่แข่งกันเองเเล้ว หันมาจับมือกันรวมทั้งไป
จับมือกับบริษัทใหญ่ๆด้วย เช่นกับ Bank การปล่อยกู้เริ่มเปลี่ยนจาก collateral-based loan >> information-based loan คือไม่ต้องมีหลักประกัน
แต่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมเราแทน อย่าง Ant financial ของ Alibaba

-บริษัทที่จะถูก disrupted ไปก่อนคือพวกที่ไม่ตื่นตัว ไม่ยอม disrupted ตัวเอง ยกตัวอย่าง Gerena เมื่อก่อนไปซื้อเกมมาปรับแต่ง ตอนนี้ยอมเปิด
กว้างให้พนักงานพัฒนาเกมเอง จน free fly ติดอันดับ Top 5 และเป็นเกมที่ถูกdownload แล้ว 450 ล้านครั้ง มีคนเล่นวันละ 50 ล้านคน
แล้วไปฮิตแถบลาตินอเมริกา

.. SEA Group listed ใน NYSE มีมูลค่าเทียบเท่ายูนิคอร์นแล้ว

-Shopee เข้ามาทีหลัง Lazada แต่ด้วยคอนเซป we run กล้าเปิดตัวเวบไซต์พร้อมกัน 7 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยที่แต่ละประเทศมีภาษาและฟังก์ชั่นของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นถือว่าเสี่ยงมาก แต่ตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้ว

-ชอบที่ Kai Fu Lee พูดว่า AI ไม่ได้จะมาแทนที่คน แต่มันเป็นสิ่งที่บอกว่า..อะไรที่ทำให้เราเป็นคน (แตกต่างจากหุ่นยนต์)
เค้าคิดได้ตอนป่วยเป็นมะเร็งใกล้จะตาย มาคิดว่าอะไรคือความเป็นคน..

1)คนมี creativity ความคิดสร้างสรรค์
2)คนมี compassion คือความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ

ดึงทักษะความเป็นคนออกมาใช้เพื่อเอาชนะ AI

-ระบบการศึกษาปัจจุบันมันเตรียมคนเพื่ออุตสาหกรรมยุคเก่า เรียนเพื่อลดความผิดพลาด (ของกระบวนการผลิต) แต่ปัจจุบันเรียนเพื่อ learn how to learn..เพื่อเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะ 60% ของอาชีพในอนาคตจะไม่ใช่อาชีพที่มีในทุกวันนี้(ซึ่งก้อยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นอาชีพอะไรบ้าง) ดังนั้นวันนี้ต้องเรียนเพื่อที่รู้ว่าล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้

ที่ Sweden เปิด Museum of Failed Innovation เช่นซอส Heize เคยทำสีเขียว Colgate เคยออกลาซานญ่าแช่เเข็งเพื่อที่จะบอกว่าแปรงฟันด้วย
Colgate แล้วกินลาซานญ่าอร่อยขึ้น...Sweden ต้องการจะบอกคนในประเทศว่ามันเป็น Museum ที่รวบรวมความคิดสร้างสรรค์ ต้อง failed กันมาก่อนทั้งนั้น

ค่านิยมทั้งไทยและสิงคโปร์ในปัจจุบันไม่นิยมความล้มเหลว..ห้ามล้มเหลว ซึ่งมันปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์
เพราะความคิดสร้างสรรค์มันต้องล้มเหลวมาก่อน

-มีบทความหรือหนังสืออะไรสักอย่างบอกว่า มหาวิทยาลัยจะเดินตามโลกดนตรี..โลกดนตรีมันถูก disrupted ไปก่อนเพื่อน
ไม่มีเทป ไม่มี CD แล้ว อยากฟังเพลงไหนก้อจ่ายแค่เพลงนั้น มหาวิทยาลัยก้อเช่นกัน จะจบปริญญาไม่ต้องเรียนตามหลักสูตรแบบเดิมๆเเล้ว
อยากลงคอร์สไหนก้อลงเลย อยากเรียนกฎหมาย การเงิน data science ก้อลงไปตามรายวิชา


..เป็นไปได้ว่าการสมัครงานในอนาคตไม่ต้องใช้ใบปริญญา
-ต่อไปบริษัทจะมองหาคนที่มี mindset แบบ C O R E
C-Coordination ทำงานกับทีมได้
O-Open mindset เปิดกว้าง อีโก้ต่ำๆหน่อย
RE- Resilient ยืดหยุ่น ทนทาน เหมือนหนังสือชื่อ GRIT คืออึด อดทน วิริยะอุตสาหะ พลาดแล้วต้องทนได้

-Mindset ของการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือ
1)ลด Ego ของตัวเองลงบ้าง, humble ถ่อมตัว ฟังความเห็นคนอื่นบ้าง
2)Curiosity สงสัย ตั้งคำถาม
3)Courage กล้าที่จะออกนอกกรอบที่เราไม่คุ้นเคย

เปิดรับความคิดของคนรุ่นเก่าบ้าง..เพราะเค้าก้อมี Data ..แต่มันอยู่ในรูปของ 'ประสบการณ์'

-ชอบอ่านหนังสือของ Yuval Harari...เค้าเหมือนมนุษย์ต่างดาว มองเข้ามาในหมู่มนุษย์
1.png
จบค่า^^
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถีย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

สนุกมากครับ ขอบคุณครับ

:D :D :D
JUPERJOE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 219
ผู้ติดตาม: 2

Re: สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถีย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณที่มาสรุปเรื่องราวดีๆให้ฟังครับ มีประโยชน์มากครับ
จอมยุทธอินทรี
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 530
ผู้ติดตาม: 233

Re: สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถีย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
torque
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 245
ผู้ติดตาม: 0

Re: สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถีย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ
JUPERJOE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 219
ผู้ติดตาม: 2

Re: สอนลูกแบบไหนในยคดิจิตัล-Futuration โดยดร. สันติธาร เสถีย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

https://youtu.be/3CiRl2Osu9c
คลิปวันน้ั้นครับ
โพสต์โพสต์