หลักคิดการลงทุนหุ้นระยะยาว / Billionaire Vi

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
always24
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 854
ผู้ติดตาม: 10

หลักคิดการลงทุนหุ้นระยะยาว / Billionaire Vi

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หลักคิดการลงทุนหุ้นระยะยาว

คุณเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาบ้างไหม?

“หุ้นขึ้นแล้วไม่ได้ขาย พอราคาตกลงมาที่เดิมก็รู้สึกแย่ เสียดาย”

“ลงทุนระยะยาวกว่าจะกำไร รอไม่ไหว”

“ขายหุ้นทิ้งก่อน กำไรน้อยดีกว่าไม่ได้เลย”

“คาดว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ขายหุ้นทิ้งก่อนแล้วค่อยมารับตอนต่ำๆ”

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผมเคยผ่านมาแล้วในช่วงที่ยังไม่ได้ลงทุนแบบวีไอ

แล้วผมทำอย่างไรถึงสามารถก้าวข้ามแนวคิดที่ไม่สามารถทำให้ลงทุนระยะยาวได้?

มีหลักคิดอยู่ 3 ข้อที่อยากจะมาแชร์ให้ทุกท่านเพื่อใช้เป็นข้อคิดในการลงทุน

1. เชื่อมั่นในธุรกิจที่ลงทุนอย่างหนักแน่น แต่ไม่ลำเอียงจนไม่ฟังใครเลย

การศึกษาหุ้นให้ลึกซึ้งเพียงแค่ไม่กี่ตัวในชีวิตก็สามารถสร้างความร่ำรวยให้นักลงทุนได้อย่างมหาศาล

ดูตัวอย่างจาก ดร.นิเวศน์ที่เลือกหุ้นลงทุนแบบตีแตกทั้งชีวิตสิบกว่าตัว ก็ทำให้ท่านมีพอร์ตขนาดหลายพันล้านบาทได้

เเนะนำให้เลือกบริษัทคร่าวๆดังนี้

- มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10-15% ต่อปีเพราะจะทำให้ประเมินราคาได้แม่นยำกว่าธุรกิจที่ผันผวน

- มีหนี้สินน้อย อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1 เท่า ยิ่งต่ำยิ่งดีถือแล้วสบายใจ

- ผู้บริหารดีเชื่อใจได้ เพราะถ้าขี้โกงเงินที่ลงทุนไปจะไม่เหลือเลย

2. ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกสุดๆ มีส่วนเผื่อความปลอดภัยไว้ป้องกันความเสี่ยงอย่างดี

หุ้นดีแต่ราคาแพงก็คงไม่มีประโยชน์ ผมเลือกลงทุนในช่วงที่คนอื่นเทขายแต่ต้องเป็นหุ้นที่ตรงสเป็คข้อแรก

นักลงทุนต้องมีความสามารถในการประเมินราคาที่เหมาะสมพร้อมทั้งส่วนเผื่อความปลอดภัย ยิ่งซื้อได้ถูกเท่าไหร่ยิ่งความเสี่ยงน้อย กำไรยิ่งเยอะ

3. ฝึกมองอนาคตหุ้นในระยะยาว ถ้าเป็นหุ้นดีก็ไม่ต้องขายทิ้ง

ฝึกมองหุ้นเหมือนเป็นการลงทุนในที่ดิน ผมโชคดีที่คุณแม่ลงทุนในที่ดินระยะยาว 40 ปีไม่เคยขาย มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า ทำให้ผมได้แนวคิดดีๆมาใช้ในการลงทุน

ผมจึงมองการลงทุนแบบยาวๆ ไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวร้ายมากและก็ไม่ดีใจมากเกินไปตอนหุ้นขึ้นเยอะ ต้องเข้าใจว่าหุ้นมีขึ้นมีลง ถ้าธุรกิจดีจริงก็ถือไว้ไม่ต้องกังวล

นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องขยันติดตามข่าว แนวโน้มธุรกิจ เศรษฐกิจ ที่อาจจะเป็นผลบวกหรือลบต่อธุรกิจ เพราะถ้าธุรกิจที่ลงทุนโดนคู่แข่งแย่งลูกค้าไปหมด ก็ต้องขายทิ้งไปก่อนที่จะเกิดวิกฤตขึ้น

โดยสรุปถามว่าง่ายไหมที่จะรู้ว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นกับธุรกิจเมื่อไหร่ คงตอบว่าไม่ง่ายนักแต่ก็ติดตามดูได้จากผลดำเนินงานรายไตรมาสว่ารายได้ลดลงไหม

ถ้าลดลงก็ต้องหาเหตุผลว่าเป็นเพราะคู่แข่งแย่งตลาดไปหรือเปล่า การบริหารต้นทุนเป็นอย่างไร ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไปไหม

สิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถของแต่ละบุคคลในการคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำขนาดไหน แนะนำให้อ่านงบการเงินให้เป็นเพราะสำคัญมาก

สุดท้ายนี้ผมเน้นลงทุนหุ้นระยะยาวในหุ้นดี ราคาไม่แพง แต่ก็ติดตามผลประกอบการทุกไตรมาสเพื่อความไม่ประมาทในการลงทุนครับ

#ลงทุนหุ้นระยะยาว
#หุ้นวีไอ
#หุ้นอเมริกา
โพสต์โพสต์