โพสต์ทูเดย์ “พรก.เงินดิจิทัล” มุมมองนักลงทุนคนหนึ่ง ตอนที่ 1

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
doctorwe
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 152
ผู้ติดตาม: 0

โพสต์ทูเดย์ “พรก.เงินดิจิทัล” มุมมองนักลงทุนคนหนึ่ง ตอนที่ 1

โพสต์ที่ 1

โพสต์

กรมสรรพากร-บิทคอยน์.png
คอลัมน์: หุ้นส่วนประเทศไทย
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์
“พรก.เงินดิจิทัล” ...มุมมองนักลงทุนคนหนึ่ง ตอนที่ 1
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
http://www.CsiSociety.com
Add Line: @CsiSociety

สำหรับคุณผู้อ่านที่เป็นนักลงทุนเงินสกุลดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี ในเวลานี้ไม่มีอะไรที่น่าจะสนใจไปมากกว่า “พรก.เงินดิจิทัล” หรือมีชื่อเต็มว่า “พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๑” พรก.ตัวนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายในแวดวงผู้ที่สนใจลงทุนสินทรัพย์ประเภทนี้ ผมจึงขอถือโอกาสนี้มาคุยให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้เข้าใจตามมุมมองง่ายๆของผมเอง ดังนี้ครับ

หนึ่ง ภาษี 15% สูงไปหรือเปล่า?
กฎหมายตัวนี้ได้ระบุให้เงินได้จากสินทรัพย์ดิจิทัล 2 ประเภทต้องเข้าข่ายเสียภาษีประกอบด้วย หนึ่ง เงินส่วนแบ่งกำไร หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้จากทรัพย์สินดิจิทัล ซึ่งในที่นี้น่าจะหมายถึงเงินดิจิทัลที่ให้ปันผล และสอง รายได้จากการซื้้อขายทรัพย์สินซึ่งมากกว่าเงินลงทุน ตรงนี้น่าจะหมายถึงกำไรจากการซื้อมาขายไปหรือ Capital Gain นั่นเอง (หุ้นไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ไม่มีการเก็บภาษีจากกำไรจากการซื้อขายนะครับ) รายได้จากทรัพย์สินทั้งสองประเภทนี้ต้องเสียภาษีที่อัตรา 15% โดยหัก ณ ที่จ่าย และนักลงทุนยังต้องนำไปรวมในการคำนวณฐานเงินได้สุทธิประจำปีเพื่อเสียภาษีตอนสิ้นปีอีกด้วย แล้วเสียภาษี 15% นี้มันสูงเกินไปหรือเปล่าล่ะ?
ผมเคยเขียนบทความเรื่อง “เก็บภาษีเงินดิจิทัล ประเทศ…ได้หรือเสีย?” (http://www.doctorwe.com/posttoday/20180327/6889) ซึ่งได้ชี้ให้เห็นว่าประเทศอื่นๆเขาเก็บภาษีกันในอัตราเท่าไรบ้าง เริ่มจากจีนที่ไม่มีการเก็บภาษีเลยเพราะการค้าขายเงินดิจิทัลในจีนถือว่าผิดกฎหมาย ญี่ปุ่นเกเก็บสูงสุดถึงอัตรา 55% ทีเดียว ซึ่งเป็นไปตามภาษีบุคคลธรรมดา สหรัฐอเมริกาถ้าค้าเงินดิจิทัลไม่เกิน 600 ดอลลาร์ไม่ต้องเสีย นอกนั้นต้องเสียภาษีรายได้บุคคลตามปกติ สหภาพยุโรป...เยอรมันและฟินแลนด์นอกจากจะต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาแล้ว ยังต้องเสียภาษีความมั่งคั่ง (Wealth Tax) อีกด้วย ส่วนประเทศอื่นๆก็เสียภาษีตามปกติ
ประเทศที่ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของชาวคริปโต (Crypto Haven) ได้แก่ สิงคโปร์ ยังไม่มีการกำหนดภาษีอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีการเก็บภาษี ณ ที่จ่าย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา ทุกวันนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆที่บ่งว่า นักลงทุนในสิงคโปร์ต้องนำรายได้ไปเสียภาษี ประเทศที่ทำตัวเป็นสวรรค์จริงๆของชาวคริปโต ได้แก่ ประเทศมอลตา และเบอร์มิวดา ทั้งสองประเทศนี้จะเสียภาษีเพียง 5% เท่านั้น และยังมีกฎหมายที่เอื้อการประกอบธุรกิจเงินดิจิทัลอย่างจริงจัง
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การเก็บภาษีของประเทศไทยก็คล้ายๆประเทศส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ นั่นคือ ไม่ได้เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% เท่านั้น แต่ผลกำไรทั้งปีที่ได้มาจากเงินดิจิทัลท้ายที่สุดก็ต้องนำไปรวมกับรายได้อื่นๆ และนำไปคำนวณเสียภาษีบุคคลธรรมดาอยู่ดี ส่วนที่หลายๆคนออกมาต่อว่าว่า การเก็บภาษีครั้งนี้ไม่ดีต่อประเทศ ผมคิดว่ามาจากการที่ไม่ต้องเสียภาษี พอต้องเสียภาษีขึ้นมาก็เลยไม่ค่อยพอใจ ในข้อนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า... ประเทศไทยเสียภาษีสูงไปหรือไม่? คำตอบคือ เสียภาษีเหมือนๆกับประเทศอื่นๆ

สอง กฎหมายตัวนี้ปิดโอกาสการเป็น...ศูนย์กลางการลงทุนเงินดิจิทัลหรือไม่?
เวลาเราพูดถึง...ศูนย์กลางการลงทุนเงินดิจิทัล ผมจะนึกถึงศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ซึ่งตอนนี้ผมว่า มีเป็นร้อยๆแห่งแล้วทั่วโลก ในประเทศไทยตอนนี้น่าจะมีประมาณซัก 10 แห่งได้กระมังครับ ตอนนี้เรามาดูกันหน่อยว่า เว็บไซต์ซื้อขายเงินดิจิทัลระดับโลกมีใครบ้าง?
Binance น่าจะเป็นเว็บไซต์ซื้อขายเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินดิจิทัลกับเงินดิจิทัล (Crypto-Crypto Exchange) เท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ไม่สามารถเทรดภายในประเทศได้ และลูกค้าก็ไม่สามารถเทรดแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นๆ เช่น ดอลลาร์ เยน ยูโร หรือหยวน ดังนั้นจึงไม่มีการเก็บภาษีจากเว็บไซต์นี้
Coinbase ของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 2555 ลูกค้าจากทั่วโลก แต่ลูกค้าชาวอเมริกันมากที่สุด ซึ่งไม่ต้องห่วงว่า คนอเมริกันต้องเสียภาษีรายได้จากกำไรอย่างแน่นอน
Bitflyer ก่อตั้งเมื่อปี 2557 และมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโตเกียว ลูกค้ามากกว่า 90% เป็นชาวญี่ปุ่น และต้องเสียภาษีจากกำไรตามกฎหมายญี่ปุ่น
Bithumb เป็นอีกหนึ่งเว็บเทรดเงินดิจิทัลที่ใหญ่ของโลก ลูกค้าส่วนเป็นเป็นชาวเกาหลี และลูกค้าชาวเกาหลีทุกคนต้องเสียภาษีจากกำไรตามกฎหมายเกาหลี
จนถึงบรรทัดนี้ คุณผู้อ่านคงเห็นภาพที่ชัดเจนกันแล้วว่า เว็บไซต์แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลใหญ่ๆบนโลกใบนี้ก็ต้องเสียภาษีกันแทบทั้งนั้น และบางเว็บเทรดที่ตั้งอยู่ในประเทศที่เสียภาษีบุคคลธรรมดาสูงก็ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นผมจึงคิดว่า การที่นักลงทุนในประเทศไทยต้องเสียภาษีกำไรตามกฎหมายไทย จึงเป็นเรื่องธรรมดา และคงไม่ได้ปิดโอกาสประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดังกล่าว

สาม กฎหมายภาษีดังกล่าว ปิดโอกาสไทยในการ...พัฒนาเป็นศูนย์กลาง ICO หรือไม่?
การพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลาง ICO (Initial Coin Offering) หรือการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และออกเหรียญใหม่ๆเพื่อเป็นการระดมทุนนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาษีส่วนบุคคล หรือภาษีบริษัทซื้อขายเงินดิจิทัล อันที่จริงแล้ว หากรัฐบาลต้องการที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลาง ICO มีคนเก่งๆทางด้านเงินดิจิทัลหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และมีการออกเหรียญใหม่เพื่อระดมทุนสร้างนวัตกรรมนั้นๆแล้ว รัฐบาลควรจะออกกฎหมายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้ว โดยผ่านคณะกรรมส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI
แต่หากรัฐบาลไทยต้องการที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในเรื่องนี้แล้ว อาจจะดูประเทศมอลต้าเป็นตัวอย่าง มอลต้าพยายามฟังบริษัทเงินดิจิทัลใหญ่ๆว่าเขาต้องการอะไรกันบ้าง? จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งผลประโยชน์ที่จะให้กับบริษัทเหล่านี้ ล่าสุดเว็บเทรดยักษ์ใหญ่อย่างไบแนนซ์ได้เข้ามาเปิดกิจการในประเทศนี้แล้ว จึงทำให้บรรดาบริษัทเล็กใหญ่ที่เป็นห่วงโซ่ธุรกิจ (Supply Chain) ของไปแนนซ์ต้องตามเข้ามาเปิดกิจการด้วย เช่นเดียวกับการที่ประเทศไทยได้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบาเข้ามาเปิดกิจการ ก็นำพาให้บริษัทที่เป็นห่วงโซ่ธุรกิจต้องเข้ามาเปิดกิจการในไทยกันอย่างมากมาย
พรุ่งนี้เราจะคุยกันต่อเรื่อง “พรก.เงินดิจิทัล” ...มุมมองนักลงทุนคนหนึ่ง ตอนจบ” แล้วพบกันนะครับ
หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorwe.com
บทความ… เงิน 1,000 บาท กับการลงทุนใน “บิทคอยน์” เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171215/6809

“อยากลงทุนใน...เงินสกุลดิจิทัล ง่ายๆ ทำไง? ตอนที่ 1”
https://pantip.com/topic/37597859
“อยากลงทุนใน...เงินสกุลดิจิทัล ง่ายๆ ทำไง? ตอนจบ”
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180426/6920

บทความ... 6 เงินสกุลดิจิตอล “ความเสี่ยงต่ำ-ผลตอบแทนใช้ได้” ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180221/6874
บทความ... 6 เงินสกุลดิจิตอล “ความเสี่ยงต่ำ-ผลตอบแทนใช้ได้” ตอนจบ
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180222/6882

บทความ… ฤา งานนี้… “บิทคอยน์” จะตายแน่?
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20180209/6870

บทความ... “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ…ซื้อไปเลย ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180111/6860
“บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ…ซื้อไปเลย ตอนจบ
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180112/6865

บทความ...“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180125/6836
“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนจบ
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180126/6843

บทความ… “บิทคอยน์” สร้าง…ความร่ำรวย ได้หรือไม่? เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20170922/6815

บทความ...“บิทคอยน์” เรื่องราวของ…คนกลัวตกรถ…คนติดดอย
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171117/6820

บทความ... “บิทคอยน์” ความเชื่อ vs. ความจริง
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20180112/6826
โพสต์โพสต์