Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Stock lover
Verified User
โพสต์: 448
ผู้ติดตาม: 0

Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ แล้วทำไมถึงทำให้ พันธบัตรของไทยน่าสนใจลดลง
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พัธบัตรไทยไม่น่าสนใจแต่เงินมันเยอะไม่มีที่ไปก็มาฝากไทยไว้ก่อน
ป60เขาได้กำไรอัตราแลกเปลี่ยน10%
ตอนนี้พธบ10ปีอเมริกากำลังเป็นขาขึ้นเขาก็ถอนเงินกลับ
ผมตอบแบบงูงูปลาปลาครับ555
clarkfire
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 102
ผู้ติดตาม: 0

Re: Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ถามว่า Fed ลดงบดุลไปทำไม
ก็ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าว่าทีแรก Fed เพิ่มงบดุลไปทำไม

ที่มาเกิดจากในปี 2008 เกิด Subprime crisis ธนาคารใหญ่ในอเมริกาขาดทุนย่อยยับจากการเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์อสังหา ทำให้เศรษฐกิจจริงทุกสาขาถูกกระทบไปหมด การแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือการตัดหนี้เสียทิ้ง แล้วขายทรัพย์สินเอามาล้างหนี้ ทุกอย่างจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ เป็นแบบที่ไทยเคยถูกบังคับให้ทำเมื่อวิกฤติต้มยำกุ้ง

แต่เหล่าเจ้าของธนาคารใหญ่ในอเมริกาไม่เอา ทำอย่างนั้นฉันเจ๊ง นายธนาคารถือว่าตัวเองเป็นต่อเพราะเงินของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก เงินลงทุนหุ้น เงินลงทุนกองทุนต่างๆ อยู่ในมือธนาคาร ถ้าฉันเจ๊ง คนอเมริกาต้องหมดตัวกันหมดเพราะธนาคารจะไม่จ่ายเงินคืนใครเลยสักเหรียญ จะเหมือนกับตอน Great depression ในปี 1929 ที่คนแห่ไปยืนต่อคิวรอหน้าธนาคารเพื่อปิดบัญชี แต่ธนาคารไม่ยอมให้ถอน

เหล่านายธนาคารกดดันให้รัฐบาลอเมริกาเอาภาษีมาอุ้มหนี้ธนาคารไม่ให้เจ๊ง นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้รัฐบาลอัดฉีดเงินเพิ่มในระบบ เพื่อชดเชยปริมาณเงินที่หายฮวบไปจากการที่ฟองสบู่แตก

การฉีดเงินที่ว่าก็คือนโยบาย QE

ขั้นตอนก็คือให้รัฐบาลอเมริกาออกใบกู้หนี้ (เรียกชื่อเพราะๆ ว่า พันธบัตร) คนที่ซื้อพันธบัตรนี้ไปก็คือธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) แล้วเฟดจะก็พิมพ์เงินออกมาให้รัฐบาลเอาไปอัดฉีดในระบบ โดยมากมักอัดฉีดผ่านระบบธนาคารโดยรัฐบาลจะเข้าไปซื้อสินทรัพย์(ห่วยๆ) เข้ามาถือ

เฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลเข้ามา และต้องเนรมิตเงินมาจ่ายออกไป จึงทำให้สินทรัพย์ที่เป็นพันธบัตรโป่งขึ้นมา และจำนวนเงินด้านหนี้สินที่เป็นเงินที่จ่ายออกไปก็โป่งขึ้นไปในปริมาณที่เท่ากัน (สินทรัพย์ = หนี้สิน+ทุน พอสินทรัพย์โป่ง หนี้จึงต้องโป่ง ทุนไม่โป่งเพราะมีเท่าเดิม)

ตัวเลขทีึ่โป่งขึ้นมาจากปี 2008 ถึงวันนี้ จำได้ลางๆ ว่าจาก 1 ล้านๆ USD มาเป็น 4 ล้านๆ ผลที่เกิดตามมาก็คือค่าเงินสหรัฐก็ร่วงลง

ปกติการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลประเทศตัวเองเป็นเรื่องที่ผิดจารีตของธนาคารกลาง ไม่มีใครเขาทำกัน มันคือการยอมให้รัฐบาลพิมพ์เงินออกมาได้เองแบบไร้วินัย แต่ความที่อเมริกาถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มทุนยักษ์กับพวกอำนาจมืด (Deep state) อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐก็เป็นองค์กรเอกชน (ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ) มีรายได้และแบ่งผลกำไรเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น สิ่งแปลกๆ และประหลาดล้ำจึงสามารถเกิดขึ้นได้กับประเทศนี้

ตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่รายงานออกมาไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงาน ตัวเลขเงินเฟ้อ และอัตราค่าจ้างเริ่มดูดีขึ้น มันเลยสมเหตุสมผลที่ควรจะดึงจารีตที่ถูกต้องกลับคืนมา จึงกลายเป็นที่มาของการลดงบดุลครับ
soros
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 5

Re: Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถามหน่อยครับ ที่ว่า FED เป็นองค์กรเอกชน ใครเป็นคนถือหุ้น แล้วทำไมการตั้งประธาน FED ต้องให้ ประธานธิบดีอเมริกาแต่งตั้งครับ
clarkfire
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 102
ผู้ติดตาม: 0

Re: Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ตกใจกับชื่อคุณ SOROS ที่เข้ามาถามเรื่องของเฟดครับ
(ถ้าเป็นคุณ George Soros ตัวจริง คงจะรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้งทีเดียว อันนี้ล้อเล่นนะครับ)

เฟดเป็นองค์กรที่มีเจ้าของเป็นเอกชน แต่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลให้ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการพิมพ์เงินของประเทศครับ เรื่องนี้แม้แต่คนอเมริกันส่วนใหญ่ก็ไม่รู้

ผมอ้างตามเว็บนี้ละกันนะครับ แล้วจะถอดความแบบสั้นๆ เท่าที่พอจะแปลออก
https://www.facts-are-facts.com/news/th ... oUakHxLfIU

เจ้าของเฟดเป็นธนาคารใหญ่ 12 ธนาคาร คือ
Rothschild Bank of London
Warburg Bank of Hamburg
Rothschild Bank of Berlin
Lehman Brothers of New York
Lazard Brothers of Paris
Kuhn Loeb Bank of New York
Israel Moses Seif Banks of Italy
Goldman, Sachs of New York
Warburg Bank of Amsterdam
Chase Manhattan Bank of New York
ความเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วนใน FED ไม่มีการซื้อขาย แต่ส่งต่อกันในตระกูลผู้ถือหุ้น เฟดพิมพ์เงินขึ้นมาจากอากาศได้ฟรีๆ แล้วชาร์จดอกเบี้ยเอากับรัฐบาลสหรัฐ ผลกำไรแต่ละปีจะถูกแบ่งออกมา 6% เป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น

ในบทความอ้างไปถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคที่อังกฤษครอบครองอเมริกา แต่พ่ายแพ้ในสงครามการปฎิวัติเพื่อเสรีภาพของอเมริกา ทำให้อังกฤษไม่สามารถกอบโกยผลประโยชน์จากอเมริกาได้ต่อไป เหล่านักธนาคารจากอังกฤษจึงพยายามหาทางเข้ามาควบคุมอเมริกาผ่านการควบคุมระบบการเงินของอเมริกา

มีความพยายามจะควบคุมอเมริกาโดยกลุ่มนักการธนาคารของอังกฤษที่จะจัดตั้งธนาคารกลางสหรัฐถึง 2 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล โดยเฉพาะในครั้งที่ 2 ประธานาธิบดี Jackson เป็นผู้ต่อสู้กับเหล่านักการเงินยุโรปจนไม่สามารถตั้งธนาคารกลางได้

ความพยายามของนายธนาคารอังกฤษมาบรรลุในสมัยประธานาธิบดี Woodrow Wilson โดยการหารือการตั้งธนาคารกลางครั้งนี้ทำกันแบบลับๆ ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง และถัดมาในค่ำคืนวันที่ 23 ธ.ค. 1913 ประธานาธิบดี Wilson ก็ผ่านร่างกฎหมายให้ Congress เห็นชอบในการตั้ง FED (ถือว่าเป็นการลักหลับครั้งร้ายแรงเลย เพราะช่วงคริสมาสต์ไม่ค่อยมี สส. และ วุฒิสมาชิกอยู่กัน หยุดกลับไปเยี่ยมบ้านกันหมดแล้ว)

การออกกฎหมายรับรอง FED ในครั้งนั้นเป็นตราบาปของประธานาธิบดี Wilson เห็นได้จากการสำนึกผิดของเขาที่ทำให้อเมริกาจะต้องพบกับความพินาศ

ในบทความสาธยายอีกหลายประเด็น แต่ขอถอดความเฉพาะที่ตอบคำถามคุณ Soros นะครับ

ส่วนเรื่องการตั้งประธานเฟดนั้น แม้ประธานาธิบดีจะเป็นผู้เสนอชื่อก็จริง แต่ก็เป็นชื่อที่มาจากตำแหน่งผู้ว่าการสาขาของ FED
soros
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 5

Re: Fed จะลดขนาดงบดุลไปทำไมครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณครับ ผมชอบศึกษาข้อมูลแนวนี้มาก เป็นความรู้ใหม่สำหรับผม แต่เสียดายที่ผมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก
โพสต์โพสต์