MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2637
ผู้ติดตาม: 270

MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 1

โพสต์

MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

สัมมนาช่วงแรกหัวข้อ“ทำไอบีบริหารพอร์ตลงทุนหุ้นแบบมืออาชีพการเงิน”


1) ผศ. ดร.ณัฐวุฒิ เจนวิทยาโรจน์
ผอ. FIRM NIDA BUSINESS SCHOOL

2) คุณ พิชญา ซุ่นทรัพย์ (คุณพิช )
นักวางแผนการเงินอิสระ เคยทำงานที่บลจ บัวหลวง

3)คุณ ปฐมวงศ์ เกิดโภคา หรือ คุณปอม
Senior Investment Manager

4)ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน

ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

Money Talkครั้งหน้า วันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย. จองวันเสาร์ที่ 15 เมย เวลา 7.00 น.

หัวข้อที่ 1 กลต กับการดูแลนักลงทุน
ท่านเลขาฯกลต คุณรพี สุจริตกุลเปิดใจให้สัมภาษณ์
ผู้สัมภาษณ์ คือ ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กับ ดร ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา

หัวข้อที่ 2 หุ้นเด่นไตรมาส2 บริษัท 3 บริษัท ได้แก่
Interlink communication (ILINK) , บริษัท ศรีสวัสดิ์ เพาเวอร์ 1979 (SAWAD) คุณธิดา
และ บริษัท ช การช่าง (CK) คุณประเสริฐ

หัวข้อ 3 ฝรั่งมองหุ้นไทยอย่างไร และมองหุ้นไหน
ดร แอนดรูว์ สตอทซ์ เป็นนายกสมาคม CFA ประเทศไทย และตั้งกองทุนใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นไทย/เวียดนาม,
คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย)
คุณภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และประธานกรรมการ บล ดีบีเอส วิคเคอร์ส

เกริ่นนำ

ดร นิเวศน์เคยสอนที่นิด้า และแนะนำนักศึกษาหญิงว่าเวลาแต่งงานให้แต่งกับคนรวย
สอนโครงการFLEX ที่นิด้า
อจ เสน่ห์ ถาม เรียนเพื่ออะไร
ดร นิเวศน์ ตอบ เรียนเพราะว่าไม่รู้ แต่อจ เสน่ห์ บอกว่า เรียนมาเพื่อทราบ เป็นการประกาศทุกที่เลย 555
หัวข้อสัมมนา ทำไอบีบริหารพอร์ตลงทุนหุ้นแบบมืออาชีพการเงิน
หนทางสู่ IB ( investment banking )
เรียนกับเงินทอง ได้ค่าปรึกษาเป็นหลัก เช่น ให้คำปรึกษาเข้าตลาดหุ้น หรือ ซื้อบริษัทอื่น
โบรกเกอร์ ก็เป็น IB รายได้มาจากเชียร์ให้ซื้อขายวันละรอบ นักลงทุนยิ่งหมุนยิ่งขาดทุน
แต่Brokerได้ค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ยังรวมถึงการบริหารกองทุน เทรดหุ้นเพื่อหากำไร
คุณพีค เคยเป็น product manager มาก่อน
คุณปอม ตอนนี้เป็น senior manager ลงทุนในหุ้น และ ปล่อยกู้ โดยมีผู้ถือหุ้นของบริษัทเป็นประเทศเยอรมัน

ประวัติของวิทยากร

ดร ณัฐวุฒิ รับผิดชอบที่หลักสูตร FIRM ที่นิด้า
ประวัติการศึกษา เรียนวิศวะจุฬา สาขาโยธา
ทำงานได้ 2-3 ปี ผลงานเช่นโครงการที่สาทร ตรงข้ามกับรพ เซนต์หลุยส์
ผันตัวเองมาเรียนการเงินที่จุฬา จบมาก็ทำงานด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์
และ บริหารความเสี่ยงที่ธนาคารกสิกรไทย
สอบCFA สมัยตอนเรียนปริญญาโท เรียนต่อปริญญาเอกที่ นันยางเทคโนโลยีที่ประเทศสิงคโปร์
ได้ทุนจากที่นั่น ค่าเรียนไม่เสีย แต่ไปช่วยตรวจข้อสอบ และได้เป็นเงินเดือน
กลับมาเป็นอาจารย์ที่ภาคการเงินมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่หลายปี
จน อจ ไพบูลย์ชวนมาดูแลหลักสูตรFIRM ที่นิด้าได้2ปี

วงการเงินยอมรับประกาศนียบัตรได้แก่

1.CFA (Chartered financial analysts) ทำงานมา2ปี จึงสามารถสอบ levelแรกได้
มีทั้งหมด 3 ระดับ ผลการสอบ ผ่านไม่เกิน50% แต่ปีที่แล้ว นิด้าสอบ4 คนได้4คน
คุณแอนดรูว์ที่มาคราวหน้าเป็นประธาน CFA ในไทย มีการแข่งขันในต่างประเทศด้วย

2. FRM (Financial risk manager) ประกาศนียบัตรบริหารความเสี่ยง
มีการสอบ 2 ระดับ โดยต้องมีประสบการณ์มาก่อน

3. CFP (Certified financial Planner)
ถือเป็น license นานาชาติ เนื้อหาค่อนข้างกว้างกว่า 2 ตัวแรก เป็นการบริหารการเงินส่วนบุคคล
เช่น ประกันชีวิต ประกันภัย จัดพอร์ตการลงทุน ภาษี จัดการมรดก ภาพค่อนข้างกว้าง
มีทั้งหมด 6 Module เริ่มจากพื้นฐานการเงิน ตลาดทุน การเกษียณ สอบทั้งหมด 5 paper

ดร มารับผิดชอบFIRMที่นิด้า ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครรอบสุดท้าย ช่วง เมย – พค (รับ4รอบ/ปี)
เปิดเรียนเดือนสค จุดแข็งคือเอาความรู้ทางด้านวิชาการรวมกับภาคปฏิบัติ
เนื้อหาตรงกับหลักสูตร CFA, FRM ซึ่งเป็นองค์การนานาชาติ จะรู้ว่าทฤษฎีอะไรใช้ได้ หรือ ใช้งานอยู่
เป็นจุดแข็งของหลักสูตร ตอนนี้มีเฉพาะที่นิด้าที่เดียว
วุฒิการศึกษาในการสมัคร จบปริญญาตรีสาขาอะไรก็ได้

คุณปอมจบการตลาด ป ตรี ที่นิวซีแลนด์ ตอบว่าเรื่องจิตวิทยาการตลาดเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนซื้อสินค้า
ภาษาอังกฤษมีส่วนช่วยในการฟัง เขียน อ่าน เพราะ textbook เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดจาก CFA
ถ้าเรียนจบได้ปริญญาโท และเตรียมพร้อมสอบ ระหว่างเรียนก็สอบ CFA level 1
พอจบก็ได้อย่างน้อย CFA level1
ค่าเรียน ประมาณ 4 แสนนิดๆ รวมการเรียนที่ USA 1 สัปดาห์ (Indiana U)
หลักสูตรนี้ให้ทุนการศึกษา ถ้าเป็นคนมีศักยภาพ และ เป็นประโยชน์ต่อสังคม
มีทุนอยู่ 3-6 ทุน จาก นักศึกษาที่เรียนในชั้นทั้งหมด 30 คน ไม่ห้ามกีดกันเพศ หรือ ชนชาติ
มีคนจบป เอก ด้านวิศวกรรมจากญี่ปุ่นมาเรียนด้วย
อจ ไพบูลย์ เสริม นักศึกษาMBAทุกหลักสูตร ถ้าสอบ CFA, FRM ได้สามารถเบิกค่าสอบได้
มีหลักสูตรภาคภาษาไทย แต่ยังไม่อนุมัติ จะเปิดได้ในปีหน้า ตลาดCFPเปิดกว้าง designให้กับคนต้องการ
เรียนด้านการเงิน แต่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านนี้ก่อน แล้วค่อยแยกเป็นแต่ละสาย
เช่น ชอบการวางแผนทางการเงิน ก็ไปทาง CFP
อจ ไพบูลย์ เตือนว่าอย่าประมาท ความตายจะช่วยให้เราระมัดระวังเรื่องกิเลส
ดร นิเวศน์ ไม่ได้เรียนหลักสูตรเหล่านี้ แต่มีประสบการณ์เอาตัวรอดจากความเสี่ยงได้
ดร ผ่านการเลี้ยงกุ้ง ขายหมากฝรั่ง อยู่โรงงานน้ำตาล ทำโรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์
เคยทำบริหารความเสี่ยงที่ธนาคารมาด้วย ทุกรายมีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จนเรารู้เรื่องความเสี่ยง โดยไม่ได้เรียนมาก่อน การเรียนCFAมีความเสี่ยงมากในการเรียน
เป็นการทำแบบไม่มีประกาศนียบัตร

คุณพีช จบป ตรี จบ เศรษฐศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี 2551 ซึ่งอยู่ในช่วงวิกฤตSubprime
คนจำนวนครึ่งคณะไปเรียนต่อ แค่ 25%ได้งานทำ
คุณพีชเป็น TA Finance เพราะอยากเป็นคนเก่งที่นิด้า คุมสอบ และ ได้ทำงานวิจัย สอบ CFA,CISA ระหว่างนั้น
ทำresearchเกี่ยวกับกองทุนรวมของตลาดหลักทรัพย์ หลังจากนั้นก็ไปร่วมงานกับคุณตู่ วรวรรณ ที่บลจ บัวหลวง
เห็นภาพรวมของบริษัทและธุรกิจกองทุนรวม และ ทำ Sourcingรายชื่อกองทุนเอามาขายด้วย
เป็นนักการเงินอิสระ สอนin-houseกับการเงินต่างๆสำหรับคนอยากสอบ CFA ด้วย
จบภาคregular MBA เป็นนักเรียนทุนของรัฐบาล เรียนภาคปกติช่วงวันจ-ศ เรียนเป็นภาษาไทย
หลักสูตรนี้ไม่ยากถ้าเราตั้งใจ แต่มีงานกลุ่มค่อนข้างมาก ได้เรื่องการทำงานเป็นทีม ได้ฝึกskillมากมาย
อจ ไพบูลย์ บอกว่าถ้าทำด้วยใจ จะได้อะไรมากมาย

ดร บอกว่า ตอนนี้ต้องการคนที่มี certified เพื่อไปวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ
คนที่สอบต้องผ่านEthic(จรรยาบรรณ) ในการทำงานด้วย

ถามคุณปอม ว่าทำไมมาถึงที่นี่ได้
คุณปอม ตอบว่า ตอนนี้สอบ CFA ,FRM และได้งานที่ธนาคาร Standard charter
ทำงาน4 แผนก ใน2ปี
ตอนนั้นมีการแข่งขันตอนสมัครสูง การมี CFA level1 ,FRM อยู่แล้วทำให้ได้เปรียบคนอื่น
ที่ไทยรับแค่ 1 คน คนอื่นที่ได้งานต้องจบ TOP University ที่ต่างประเทศ
และมีข้อกำหนดสำหรับคนที่ได้งาน ต้องผ่าน CFA level1 ไม่งั้นทำงานต่อไม่ได้
ตอนนั้น ทำงาน Corporate Banking ของ Standard chartered
พยายามหาความท้าทายใหม่ๆ โดยย้ายมาทำงานที่บริษัท DEG ( German investment )
ลงทุนในภูมิภาคเอเชีย มีงานด้านนั้นพอดี เลยไปทำงานที่นั่น
รายได้เงินเดือน คุณปอม ตอบ รายได้ต้องขึ้น Demand/Supply เรามี Certified CFA,FRM
supply น้อย ทำให้มีโอกาสได้เงินเดือนสูง

ดร ณัฐวุฒิ เสริมว่าตอนนี้ CFA ในไทยมีแค่ 600-700 คนเท่านั้น supplyน้อยมาก

อจ ไพบูลย์ มีคำถามว่าคนประสบความสำเร็จ เช่น มาร์ค (Facebook) สตีป จอบป์ (Apple)
หรือ บิลเกลต์ (Microsoft) ไม่ได้เรียนมา คิดอย่างไร
ดร นิเวศน์ ตอบว่า คนส่วนใหญ่ที่พูดมา คือ เรียนได้แต่ไม่อยากเรียน สมองGenius
แต่คนที่เก่งขนาดนี้มีอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น

ถามมุมมองนักการเงินในมุมมองของ ดร.นิเวศน์ ต้องคุณสมบัติอย่างไร

ดร นิเวศน์ ตอบว่า
1.ดูจากวิทยากร ต้องเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน ผู้หญิงเก็บเงิน แต่ก็ทำได้
2.ต้องรู้ว่าตัวเองไม่ชอบเสี่ยง จะแนะนำคนอื่นไม่ให้เสี่ยง และจะไปจัดการความเสี่ยงให้
โครงการของนิด้า มีหลายหลักสูตร เช่น Regular MBA, Young executive MBA ,
Executive MBA, FIRM , International MBA

ดร ณัฐวุฒิ เสริมว่า ต้องมี
1. มีจริยธรรมและจรรยาบรรณทางการเงิน
เช่น ผู้จัดการกองทุนต้องมีเพราะเงินที่ลงทุนเป็นเงินของคนอื่นที่ให้ บลจ ดูแล
2. มีความรู้ทันสมัย เช่นความรู้ที่ได้มาจาก CFA,FRM ซึ่งเอาเหตุการณ์ปัจจุบันเข้าไปด้วย

อจ เสน่ห์ ถามว่า Fintech มีผลต่อ FIRM หรือไม่
ดร ณัฐวุฒิตอบว่า ทฤษฎียังคงเดิม แต่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ทำให้จรรยาบรรณมีความสำคัญมากขึ้น

อจ ไพบูลย์ ถามปอม ในฐานะที่ประสบความสำเร็จระดับนึงแนะนำน้องๆอย่างไร ต้องมีอะไร
คุณปอมตอบว่า ถ้าสนใจ โครงการFIRM ดีมาก CFA ครอบคลุมความรู้ที่ทันสมัยมาก
ตอนเรียนเยอะมากเกี่ยวกับfinance เช่น เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง สุดท้ายใช้ลึกมากในฐานะ
นักลงทุน วิเคราะห์สถาบันการเงินมีการบริหารดีไหม
นอกจากนี้ CFA เป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยสรุปถ้าสนใจทำงานด้านการเงิน ควรเรียน

คุณพีท แนะนำน้องๆ โดยผมทำงานสายวางแผนการเงิน
ซึ่งในต่างประเทศนิยมมาก มีถึง 3-4แสนคน ปัจจุบัน ธนาคารในประเทศไทยเห็นว่าCFPมีความสำคัญมากขึ้น
นักวางแผนการเงินเป็นคนกลางที่บอกว่าสินค้านั้นดีอย่างไร ชอบงานแบบนี้ ต้องมาเริ่มสอบ
แต่ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง สุดท้ายต้องเจาะอีกทีนึง โดยไปเรียนแต่ละหลักสูตร
สุดท้ายขึ้นอยู่กับชอบสายไหน เช่น นักวางแผนทางการเงิน เหมาะสำหรับคนชอบคุยหรือ นักวิเคราะห์
เหมาะสำหรับคนที่ชอบวิเคราะห์

อจ ไพบูลย์ บอกว่า ความรู้เป็นเรื่องเดิม แต่ Fintechเป็นTechnologyที่ช่วยทำให้เร็วขึ้น
ทำให้เรื่องจรรยาบรรณเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น
ช่วงก่อนเหตุการณ์Subprime ตัวอย่างเช่นหนังเรื่อง Bigshot คนที่มองไม่เหมือนคนอื่น
ซึ่งจบหมอทำผลตอบแทนได้ 400% ในช่วงนั้น
สรุป เรียนมากดีกว่าเรียนน้อยเสมอ คนที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ได้เรียนเพราะเขาเป็นคนเก่งอยู่แล้ว
การที่จะทำอะไร ต้องมีCertificateในแต่ละด้านจึงสามารถทำได้
AASCB เป็นมาตรฐานรับรองโรงเรียนสอนธุรกิจ นิด้าได้เป็นที่แรกในทุกหลักสูตร
หลักสูตร FIRM รับรองโดย FRM
ถ้าต้องการเรียนในเมืองไทย สามารถเลือก จุฬา ธรรมศาสตร์ และ นิด้า
แต่ถ้าต้องการเรียนในต่างประเทศ และ มีเงินทุนก็ไปเรียนได้

อจ เสน่ห์ เสริมว่าคุณอานันท์ ปันยารชุนเคยบอกว่าการเรียนทำให้คนเก่ง
แต่ไม่มีประโยชน์ถ้าเป็นคนนิสัยไม่ดี ถ้าเป็นคนไม่ดี ไม่ควรเรียน
สิ่งที่ต้องคู่กันคือ มีEthic มีจรรยาบรรณ
เก่งแล้วทำงานอยู่ในแวดวงการเงิน
แต่นิด้าจะสอนให้มีจริยธรรมและจรรยาบรรณด้วย
วันนี้เราเรียนอะไรก็แล้วแต่ สำคัญต้องเลือกให้ถูกด้วย
กรอบที่สำคัญ ให้เรียนเป็นคนเก่งและนิสัยดี ไปช่วยประเทศชาติ
โดยทำงานในทุกภาคส่วน
ใครสนใจ เข้า website http://nidabusinessschool.com เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมครับ

สัมมนาช่วงที่2หัวข้อ“ยุทธวิธีลงทุนของ 3 นายกและหนึ่งกูรูวีไอ”

1) คุณ ธันวา เลาหศิริวงศ์
อดีตนายก สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)

2) คุณ อนุรักษ์ บุญแสวง
อดีตนายก สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)

3) คุณ ชาย มโนภาส
นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)

4)ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนแบบวีไอ

ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

อจ เสน่ห์ เริ่มต้นรายการ ชักชวนให้มาที่นี่ดีกว่าดูFB Liveที่บ้าน
เพราะเจอวิทยากรตัวจริงๆ มีเครื่องดื่ม ซาลาเปา ขนมเปาให้ทาน
รายการไม่ได้จัดบ่อย จัดเดือนละครั้งเอง มานั่งสูดแอร์ ถ้าหลับก็ดูย้อนหลังได้
บางครั้งเอาการลงทะเบียนมาเป็นข้ออ้างในการออกนอกบ้าน อาจนั่งรถเลยตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ 555
FB Live เสมือนจริง แต่ไม่เหมือนจริง
ดร นิเวศน์ให้หลานเรียก Daddy , ป่าป้า ดูดีกว่าเรียกปู่
อจ ไพบูลย์ บอกว่า เป็นแค่บัญญัติ (ความจริงระดับสมมติจากภาษาเช่น ความเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านั้นโดยใช้ชื่อ
เช่น Daddy ) ไม่ใช่ ปรมัตถ์ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามชื่อหรือกลุ่มชน
อจ เสน่ห์ บอกว่า ดร สอนให้เรียกอะไรก็ได้ ให้เรียก….ก็ได้ เป็นชื่อที่ อจ ไพบูลย์เรียกดร นิเวศน์ตั้งแต่สมัยเรียน
ส่วน คุณโจ วันนี้มาขึ้นเครื่องบินผิดเวลา เลยตกเครื่อง แต่โชคดีมีFightอื่นขึ้นได้ เลยมาทันสัมมนา
ส่วนแฟนคุณโจ ยังทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่หาดใหญ่
คราวที่แล้วคุณโจติดผ่าตัดเนื้องอกที่ไทรอย เลยไม่สามารถร่วมงานใหญ่เดือนมกราคมที่ผ่านมาได้
ส่วนนายกคนปัจจุบัน คุณชายมีระดับทางธรรมสูงมาก ไม่กล้าแซวนักลงทุนที่เดินทางธรรม
นายกคนต่อไป คือ คุณ ณัฐชาติ คำสิริตระกูล หรือ คุณกานต์
อจ เสน่ห์ แซว คุณกานต์ว่าต่อไปต้องคิดในใจ ห้ามคิดนอกใจ
ส่วนอีก 1 กูรู อจ เสน่ห์ เปลี่ยนหัวข้อ เป็น 3 นายก กับ 1 นกรู้
เปิดความหมายนกรู้จาก Google
นกรู้คือผู้ที่มีไหวพริบเท่าทันเหตุการณ์
หรือภัยที่จะมาถึงตน แล้วหาผลประโยชน์หรือหนทางเอาตัวรอดไปก่อน
ดร นิเวศน์ เหมาะสมกับคำ”นกรู้”มากสุด

กลอน 3 นายก กับ 1 นกรู้

สามนายกวีไอเปิดไต๋หุ้น
หลักลงทุนตามวิถีที่เหมาะสม
จะเลือกหุ้นอย่างไรไม่ติดจม
หุ้นนิยมหุ้นเสี่ยงเลี่ยงอย่างไร
คุณธันวา นายกเก่าเขาคนเก่ง
หุ้นบานเบ่งเพิ่มค่าพาสดใส
คุณอนุรักษ์หรือคุณโจโก้กว่าใคร
นายกเก่าวีไอใจสู้จริง
นายกชาย มโนภาสมาดเขาหล่อ
คิดสานต่อวีไอทั้งชายหญิง
ดอนิเวศน์ นกรู้กูรูลิง
ตอบทุกสิ่งการลงทุนหุ้นวีไอ


อจ เสน่ห์ บอกว่า ดร นิเวศน์ไม่ใช่รอบรู้แค่การลงทุน ทุกอย่างคิดแบบวีไอ
ทุกอย่างมีวัตถุประสงค์หมด เช่น ดูจากภาพแรก
การออกกำลังซักผ้า ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อสะโพกแข็งแรง
การตากผ้า ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนกลางแข็งแรง
การรีดผ้า ทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรง
การปัดกวาด ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนนอกแข็งแรง
การล้างชักโครก ทำให้กล้ามเนื้อขาด้านหลังแข็งแรง
การก้มกราบ ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างแข็งแรง โดยมือไม่ต้องแบถ้ากราบภรรยา

อจ ไพบูลย์ บอกว่า ดู Money talk จะได้เนื้อหาสาระ และ ความบันเทิงแทรกอยู่
อจ เสน่ห์ แซว อจ ชายว่าอาจไม่ได้ไปทุกที่ เช่น โรงพัก ต้องไม่เคยไปแน่ๆ

เริ่มเข้าสู่ช่วงสัมมนา

1.ประวัติของสามนายก

เริ่มที่คุณธันวาเป็นคนแรก อจ เสน่ห์ ถามว่าทำไมชื่อนี้
คุณธันวา บอกว่า เกิดจากคุณแม่ตั้งให้ เป็นคนที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ใกล้เขาพนมรุ้ง
อจ ไพบูลย์ เสริมว่าครอบครัวคุณธันวาบริจาคทรัพย์บ่อยมาก
คุณธันวาจบป7 และเรียนต่อที่ โรงเรียน ราชสีมาวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนผู้ชายประจำจังหวัด
อจ เสน่ห์เสริมว่า อำเภอในโคราชมีลักษณะเป็นผู้หญิง เช่น สูงเนิน
คุณธันวา จบม ปลาย ที่เตรียมอุดม เรียนต่อป ตรี ที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ลาดกระบัง(KMITL)
จบมาทำงานที่ บริษัทโตโยไทย ในตำแหน่ง System Engineer และ on the job training ที่ญี่ปุ่น
และ เคยไปดูงานที่ IBM เลยไปสมัครงานที่นั่น
ตอนนี้ IBM ขายธุรกิจ margin ต่ำออกไป เช่น PC , Server เน้นธุรกิจที่มีmarginสูง
ทำงานที่ IBM 21 ปี ส่วนเรื่องการลงทุน คุณธันวาชอบการออมเงินตั้งแต่เด็ก
ตอนเรียน ป ตรี ตั้งแต่ ปี 2 ทำงาน part time เขียนโปรแกรมจนถึงเรียนจบป ตรี
สนใจการเก็บเงิน และ ช่วงที่อยู่ญี่ปุ่น มีเงินก้อน และ เพื่อนที่ญี่ปุ่นชวนลงทุน
แต่เจอวิกฤตซัดดัม หมดไปหลายตังค์ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจลงทุน แต่เอาเงิน
ที่จะสร้างบ้านมาลงทุน สุดท้ายกลายเป็นกู้เงินมาสร้างบ้านแทน
ตอนอยู่สิงค์โปร์ ลงทุนอีกครั้ง และเจอวิกฤตปี40 อีกรอบ
รู้สึกผิดหวัง แต่ก็พยายามศึกษาเพิ่มเติม ช่วงนั้นเจอดร นิเวศน์
และ อ่านหนังสือตีแตก ซึ่งด้านท้ายของหนังสือมีใบสมัคร เป็นสมาชิกสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า
แสดงว่าดร นิเวศน์มีวิสัยทัศน์ในการลงทุนมาก
ปกติเป็นคนอนุรักษ์นิยม เลยเห็นว่าแนวทางวีไอเป็นแนวทางที่มีเหตุผล
ช่วงนั้นวิกฤตต้มยำกุ้ง ราคาหุ้นถูก เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นราคาถูก

คุณโจ ตอนนี้อาศัยอยู่ที่หาดใหญ่ เกิดที่ จังหวัด พังงา และเรียนที่อำเภอ ตะกั่วป่า
สนใจหุ้นตั้งแต่ ม4-5 ช่วงที่อยู่กรุงเทพกับน้า โดยเห็นน้าจะออกจากงานมาเล่นหุ้นเพราะได้กำไรดี
หลังจากจบ ป ตรี Food Science ที่ มอ (มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์) อำเภอ หาดใหญ่
ทำงานที่กรุงเทพ ขายกล้องที่บริษัท แคนนอน เป็นเสมียนทำคลังสินค้า
และเรียนป ตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้านการเงิน สนใจเรื่องการเงิน
เรียนอยู่ 2 ปี ก็แต่งงาน และ ย้ายตามแฟนที่เรียนต่อที่US คุณโจทำงานทุกอย่างอีก 1 ปีกว่าๆที่US
เหตุผลที่ทำงานเมืองนอก คือต้องการเก็บเงินมาซื้อหุ้น
ช่วงเวลาในการซื้อหุ้นมา 20 ปี และ ลงทุนแนววีไอมา 18 ปี หลัง ดร นิเวศน์ 2-3 ปี
ช่วงนั้น แฟนไปทำงาน คุณโจก็ป้อนข้าวลูก และ ดูหุ้นไปด้วย ตอนนี้ยังอยู่บ้านของหลวง
เคยตัดสินใจผิดซื้อรถยนต์ แต่ถ้าไม่ซื้อและเอาไปลงทุนแทน จะได้รถแลมโบกีนีในปัจจุบันได้หลายคัน
เตือนคนที่จบใหม่ ปีแรกการตัดสินใจซื้อมีผลต่อการเงินในอนาคต หรือ เอาเงินไปเที่ยวเพราะกลัวแก่ตัวไม่มีแรงเดินทาง
เงินทบต้นถ้าเก็บตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ จะได้ผลตอบแทนมากมาย

นายก ชาย เกิดกรุงเทพ เรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
เคยถามคุณพ่อว่าทำไมตั้งชื่อ ชาย ครั้งแรกให้พระเป็นคนตั้ง ชื่อสิทธิเดช
แต่คุณพ่อไม่ชอบ เลยตั้งง่ายๆว่า ชาย
เรียนจบม 6 ต่อ วิศวเกษตร และ สมัครงานขายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อนึง
เป็น Sales Engineer เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจมากมาย
ปกติบริษัทดูแล dealer ทั่วประเทศ
เจ้าของdealerสอนคุณชายว่า ขายของยังไม่เก่ง ต้องเก็บเงินได้ด้วย
ดังนั้นหุ้นที่สร้างกำไรคือหุ้นค้าปลีก
กิจการที่ไม่เบี้ยว เก็บเงินได้ ก็คือธุรกิจค้าปลีก
สมัยนั้น คนจบวิศวไม่ชอบขายของ จริงๆรายได้ดีกว่างานfieldอื่น
เริ่มติดใจงานขาย และ ยังทำงานอีกหลายแผนก
ช่วงก่อนปี 40 เก็บเงินไปเรียนต่อโท ที่ต่างประเทศ
ตอนนั้นได้ซื้อหุ้นธนาคารรวงข้าว หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง
คุณบัญฑูร ทำ re-engineering เลยซื้อหุ้นก่อนแก้ปัญหาเพิ่มทุน
เหมือนได้ทุนจากธนาคารรวงข้าว ไปเรียนต่อที่เมืองนอก
ซื้อหุ้นธนาคารรวงข้าว ตอนราคาต่ำกว่า 20 บาท
ดร นิเวศน์ เคยทำงานที่ธนาคารของคุณอุเทน ซึ่งอยู่ตรงสวนมะลิ (ซึ่งไปควบกับธนาคาร
ที่ดร นิเวศน์ไปทำงานหลังสุดก่อนเกษียณหลังช่วงต้มยำกุ้ง)
ดร บอกว่า ตัวดรเอง สามารถออกมาก่อนวิกฤตได้
ตอนเรียนค่าเงิน 23บาท/$ เรียนจบกลับมาทำบริษัทเดิม
จุดเปลี่ยนคือ เรียนโทต่างประเทศที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
ได้ศึกษาcase study มาก และหลังกลับมาเมืองไทย
ก็อ่านหนังสือมากมาย รวมถึง หนังสือ ตีแตกด้วย
พอกลับมาย้ายไปหลายแผนก ได้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ เลยลงทุนแบบวีไอในปี2002
เงิน 3 แสนบาท ลงทุนมาถึงตอนนี้
ฝากนักลงทุนFull time ว่าการทำงานบริษัทก็มีประโยชน์ มองภาพออกว่าบริษัทเป็นอย่างไร
เช่น การตั้งยอดขายโต 20%ยากมาก ดังนั้น เราเป็นนักลงทุน การโต50% ค่อนข้างยาก
ดังนั้นหลังจบมาให้ไปทำงานก่อน จะได้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์บริษัท

อจ เสน่ห์ เสริม ให้ลูกหลานมาดูรายการ จะได้รู้ว่าควรทำงานก่อนการลงทุน
อจ เสน่ห์บอกว่า หลังจากขาดทุนจากหุ้น ไม่ได้คิดเรื่องเงินอย่างเดียว จัดสัมมนาฟรีบ้าง
อจ ไพบูลย์ เสริมว่า ประเทศที่พัฒนาไม่ค่อยเน้นเรื่องการลงทุน
จะเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ ผลผลิตมากกว่า
การเน้นลงทุน จะไม่ได้ผลผลิต ถ้าคนส่วนใหญ่คิด ประเทศนี้น่าเป็นห่วงมาก
ดร นิเวศน์ เป็นตัวอย่าง ในเรื่องไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนสมัยก่อน เป็นข้อเตือนใจให้กับนักลงทุน
ดร บอกว่า ประวัติการลงทุนต่อจากการทำงาน เป็นการหาทางออกของชีวิต
ตอนวิกฤต ถูกออกจากงาน ต้องหางานใหม่ทำ แต่สถาบันการเงินช่วงนั้นปลดคนออกมาก
โชคชะตาบีบเรา เงินก้อนสุดท้ายอาจไม่พอ ลูกยังเล็ก เคยคิดซื้อคอนโดมาให้คนเช่า
เมื่อก่อนแค่ 10 กว่าล้านบาท สำหรับห้อง 50 ห้อง แต่ต้องเลือกว่าให้ชีวิตเหมือนเดิม
เช่น เดินทางต่างประเทศปีละครั้ง ลูกเรียน โรงเรียนinterได้ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม
ราคาทรัพย์สินลงหมด รวมทั้ง apartment
เรามองว่าซื้อ property ดูแลยาก ไม่กระจายความเสี่ยง
แต่หุ้น Dividend yield 10% กำไรดี รายได้ดี เราก็ไปซื้อ ให้เป็น asset เลี้ยงเรา
ปันผลเกือบล้านบาทต่อปี ซื้อแล้วอยู่เฉย เป็นจุดเริ่มในการลงทุน
คิดว่าตัวเองโชคดีด้วยนอกจากฝีมือในการลงทุน
ทฤษฏีตีแตก มาจาก การไปเที่ยว และ เล่นตีแตกในช่วงนั้น
มีครั้งนึงถือไพ่ในมือ A 4ตัว มันยากมาก ถ้าเราได้ มีโอกาสแพ้น้อยมาก
วันที่เขียนหนังสือตีแตก มีข้อมูลแค่ปีกว่าเอง หนังสือโตมาพร้อมกับการลงทุน
เขียนหนังสือก่อนประสบความสำเร็จ
โชคดีมหาศาลเพราะว่าถ้าใครปีนี้เริ่มลงทุนในหุ้น จะกำไรเหมือนสมัยก่อนยากขึ้นเยอะ
ศึกษามาทั่วโลก ก็ไม่เจอรวยกันแบบง่ายๆ อยากเตือนคนที่ลงทุนในช่วงนี้
ผมพยายามมองการลงทุนโดยมองล่วงหน้า 5-10 ปี เป็นอย่างไร
สมัยก่อน ก็มองล่วงหน้าเหมือนกัน และ ตัดสินใจลงทุน
ปกติคิดและทำไปเรื่อยๆ มีการขาดทุน แต่โชคดีถูกรางวัลที่1ได้
การไปลงทุนที่เวียดนาม คิดแบบเดียวกันว่า อีก 10ปีที่นั่นจะเป็นอย่างไร พยายามองล่วงหน้า
และซื้อกระจายไป หวังว่าอีก 10 ปีเจอกัน ไม่ได้คิดอะไรมาก
(ดังนั้นจุดที่น่าเอาอย่างดร คือ ต้องคิดอะไรล่วงหน้าตลอด และ วางแผนทำทันที)
เมื่อก่อน ดร นิเวศน์ถือเป็นคนกลุ่มแรกที่ไปเรียน MBA โดย อจ ไพบูลย์ เป็นคนชักชวน
ใช้เวลาตัดสินใจครู่เดียว มีอะไรมาจุดประกายทำให้ความคิดแบบสร้างศักยภาพ ให้รู้จักโลกมากขึ้น
ตอนนั้น ทำงานโรงงานน้ำตาล มองอนาคตไม่ออก เมื่ออจ ไพบูลย์ชวนเลยตัดสินใจไปเรียนต่อ

2.กลยุทธ์การลงทุน

คุณธันวา
ปกติชอบวางแผนในชีวิต ออกแบบชีวิตเป็น 3 ช่วง
คือช่วงเรียน ช่วงทำงาน และ ช่วงใช้ชีวิตอย่างที่ชอบ
หลังจากทำงานพอแล้ว ก็เกษียณออกมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
แต่อยากแนะนำ อยากให้คนรุ่นใหม่ทำงานก่อน เพื่อพัฒนาประเทศ
ตอนนี้คุณธันวาอยากใช้เวลากับการลงทุนน้อยลง และ มีส่วนในการช่วยเหลือหน่วยงานราชการมากกว่า
3ปีที่ผ่านมาไม่ได้ปรับportเลย ผลตอบแทนไม่สูง แต่ก็ไม่เพิ่มความเสี่ยงของตัวเอง
ปีที่แล้ว หุ้นตัวที่อยู่ในport 80%ขึ้นมามาก ทำให้ผลตอบแทน 3 ปี ยอมรับได้
หุ้นที่เลือก คือ หุ้นแบบ Super stock เป็นหุ้นที่ชนะในการแข่งขัน มี EOS เป็นผู้นำ มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด
คาดการณ์ผลประกอบการได้ สามารถเยี่ยมชมกิจการได้ง่าย
หุ้นที่ไม่เข้าใจ ก็ตัดออกไปไม่ลงทุน
รวมถึง หุ้นในเวียดนาม ก็ถามนักลงทุนดู ปรากฏว่า หุ้นมีตำหนิจึงไม่ได้ลงทุน เพราะไม่เข้าเงื่อนไข
Super stock
ถือเป็นนักลงทุนที่ปล่อยวางระดับนึง กระจายลงทุนหลายตัว ลงทุนอย่างสบายใจ ทำงานอื่นที่สนใจได้

อจ เสน่ห์ บอกว่า สามารถดูจากชื่อพื้นที่ของเวียดนาม ก็รู้ได้ เช่น ทางใต้ ฮานอย ก็สนุก ฮา
ทางเหนือ โฮจิมิน ก็โฮ เศร้า ส่วนตรงกลาง ดานัง ก็มีความสุข ดา ดา ดา

คุณโจ ลูกอีสาน
จบมาเกรดไม่เกิน 3 ไม่ฉลาดแน่นอน แต่โชคดีว่ารู้จักตัวเองค่อนข้างเร็ว
ตอน ม 4 รู้ว่าชอบการลงทุน ก็เตรียมตัวตั้งแต่ตอนนั้น
เจอหลักการการลงทุนเน้นคุณค่า ของ ดร นิเวศน์ ทำให้ประสบความสำเร็จ
ถ้าไม่เจอ ดร อาจไม่ประสบความสำเร็จ
สไตด์แตกต่างกับพี่ธันวา ผมสนว่า หุ้นดี ไม่ว่าอยู่ในกลุ่มไหน
หุ้นที่ดีมีองค์ประกอบแบบไหน
หุ้นราคาถูก ลงต่อน้อยมาก หุ้นราคาแพง เวลาหุ้นลงจะดิ่งมหาศาล
วิธีการดูว่าหุ้นถูกหรือแพง ดูจาก PE , PB ratio สำหรับหุ้นราคาถูก จะมีค่าน้อย
รังเกียจหุ้นราคาแพง
PE ของหุ้นในพอร์ต ตั้งแต่ PE ตั้งแต่ 5-30 หุ้นแพงสุดเป็น Growth stock
ไม่เคยไล่หุ้นร้อนแรง แต่เก็บหุ้นที่ไม่มีใครสนใจ ซื้อทุกวัน วันละ แสน หรือ 3-4 แสนหุ้น
บางทีเก็บเป็นเดือน ตอนนี้ถือหุ้นน้อยลงจาก 60 เป็น 40กว่าตัว
ปีแรกที่ลงทุนมีเงินทุน 8 แสนบาท ซื้อหุ้นแค่2ตัว หลังจากนั้นไม่เคยถือหุ้นแค่ 2 ตัวเลย
การเข้าใจในบริษัทที่ลงทุน แม้แต่ผู้บริหารก็ยังไม่รู้เรื่องบริษัทหมด นับประสาอะไรกับเรา
ไม่ต้องการรวยเร็วเหมือนดร นิเวศน์ ขอผลตอบแทนสม่ำเสมอดีกว่า
การต้องการรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทำให้ขาดทุนได้
การไปเรื่อยๆ ความเสี่ยงต่ำ จะดีกว่า
คุณโจอยู่ต่างจังหวัด แต่ลงทุนในหุ้นจำนวนเยอะตัว
คุณโจ รู้จักหุ้นมากมาย โดยอ่าน 56-1
อจ ไพบูลย์ ให้ผู้สรุปถามคุณโจว่ารู้ข้อมูลทุกบริษัทหรือไม่
ผมเลยถามคุณโจว่ารู้จักบริษัท MINT หรือไม่
คุณโจบอกว่า หุ้น MINT สมัยก่อนเป็น RGR ตอนหลัง merge กับ Minor international
จนเป็น MINT คุณโจประกาศ ไม่ไป company visit บริษัททุกที่
คุณเวปเคยบอกว่า คนรวยแค่หยิบมือ แต่ไปทำอะไรเทาๆ มันหมิ่นเหม่
อาจโดยกล่าวหา อยากให้ประเทศเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ปัญหา ประเทศที่พัฒนามีน้อย ดังนั้นมองเรื่องการลงทุน
อยากแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ไม่แน่ใจ ดังนั้นเลยประกาศว่าไม่ไป company visit
เคยไป cv 5 บริษัท พบว่า 2 บริษัท ให้ข้อมูลที่ยังไม่น่าประกาศ ดูไม่เหมาะสม
คุณโจเลยตัดเรื่องcompany visit เพื่อไม่ให้โดนครหา
แต่มีวิธีหาข้อมูล คือ ข้อมูล Public เช่น Opp day ,
ประกาศในสิ่งที่ทำใจยาก เพราะคนอื่นได้ 100%
แต่เราก็พอใจในผลตอบแทนที่ผ่านมา
การไป CV ขึ้นกับผู้บริหาร ถ้าผู้บริหารให้ข้อมูลที่ประกาศแล้ว ผมยอมรับได้
แต่ถ้าได้ยินว่ามีข้อมูลที่ยังไม่ประกาศ เราจะทนซื้อได้ไหม เลยประกาศไม่ไป CV

อจ ไพบูลย์ บอกว่า กฎหมายใหม่ ห้ามให้ข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผย

คุณโจ พูดต่อ เรารู้ตัวเองตอน อายุ 14 ปีตอนฟังน้าบอกว่าลาออกมาลงทุน
แต่อจ เสน่ห์ รู้ตัวตอน 40 ว่าเป็นเบาหวาน

คุณชาย บอกว่า คุณแม่บอกให้ดูรายการ Money talk ซึ่งออกที่ช่อง 11
คุณชายใช้ทั้ง Top down และ Bottom up ซึ่งเหมาะกับตัวเอง แต่อาจไม่เหมาะกับบางคน
สิ่งที่อยากแชร์ คือ การบริหารความเสี่ยง ค่อนข้างมาก
ไม่สนใจว่าชนะหรือแพ้ตลาด
ถ้าต้องการชนะตลาดมาก อาจเพิ่มความเสี่ยง โดยกำไรในระยะสั้น
จำกัดในหุ้นที่เราเข้าใจในระยะยาว
นักลงทุนตอนนี้สนใจกำไรในระยะสั้น
ยกตัวอย่าง สายการบินแพนแอม ก่อตั้งในปี 1927 เป็นสายการบินใหญ่สุดในโลก
รับผู้โดยสาร 8 ล้านคน ต่อปี แต่ ล้มละลาย ปี 198x
บริษัท ตะขาบห้าตัว ผงวิเศษตราร่มชูชีพ ว่านชักมดลูก หมอเส็ง ยังอยู่ได้ในระยะยาว
ยาดม พระสังค์ชนช้าง อยู่มา 60 ปี
บางทีการลงทุนในหุ้น ไม่ต้องกำไรทุกปี แต่อยู่ให้รอด
การลงทุนสมัยก่อน สนพ หุ้นไทย สัมภาษณ์นักลงทุนดังๆ ตอนนี้หายไปแล้ว
โนเกีย โดย Microsoft ซื้อไป เพราะ โดน iphone, Samsung แย่งตลาดไป
บางทีไม่ต้องเน้นกำไรให้รวดเร็ว ต้องอยู่ให้ได้ หมั่นหาความรู้ตลอด
หลายคนportใหญ่กว่า และลงทุนนานกว่า ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว
สิ่งสำคัญ อยู่ให้รอด และ หมั่นความรู้สม่ำเสมอ
ประคองตัวให้รอด บางบริษัทกำไรเล็กน้อย แต่อยู่ได้ในระยะยาว เพื่อรอสักวันโอกาสเป็นของเรา

ดร นิเวศน์
กลยุทธ์การลงทุน มองไปข้างหน้า ผมไม่ไป Company visit ผู้บริหารคิดคนละทางกับเรา
เรามองบริษัท สุดท้ายเป็นอย่างไร ผมรู้ดีกว่าผู้บริหารในระยะยาว ส่วนระยะสั้นผู้บริหารอาจตอบถูก
หลายครั้งผู้บริหารขายหุ้น แต่สุดท้ายเขาผิด เพราะดูแค่ระยะสั้น
การมองระยะยาวกับระยะสั้นไม่เหมือนกัน
ถ้าผมเห็นบริษัทที่คาดการณ์ในระยะยาวได้ ราคาหุ้นถูก ก็น่าสนใจ นี่คือสิ่งที่เรารู้
แต่ที่เวียดนาม ผมไม่รู้ว่าหุ้นแต่ละตัวทำอะไร ก็เลยซื้อเป็น ร้อยตัว
แต่มั่นใจว่า อีก 10 ปีเวียดนามเป็นอย่างไร ซื้อกวาดเป็น 100 คัว เศรษฐกิจเติบโต
บริษัท โตปีละ 10% ก็พอใจแล้ว ถึงแม้บางบริษัทลดลงก็ยังถือ
ต้องทำให้น้อย แต่ทำถูก
ชีวิตผ่านมาผิดตลอด แต่ภรรยาเราถูกตลอดอยู่กับเราในตอนที่เรายังไม่มีอะไร
จริงๆเขาเก่งกว่าเราเยอะ ไม่ต้องทำอะไร

อจ เสน่ห์ บอกว่า 3 นายก 1 นกรู้ กับ 1 ผู้เฒ่า
อจ ไพบูลย์สรุปแนวทางการลงทุนของนายกแต่ละคนดังนี้
กลยุทธ์ในการลงทุนของ อจ นิเวศน์ กับ คุณธันวา ใกล้เคียงกัน
คุณโจ บอกว่าต้องหาความรู้เรื่องหุ้นตลอดเวลา
คุณชายลงทุนแบบแนวธรรมะ
อจ ไพบูลย์ ลงทุนแนวผสมผสาน

การลงทุนต้องเป็นโลกธรรม8
มีทรัพย์เสื่อมทรัพย์
มียศเสื่อมยศ
มีสรรเสริญมีนินทา
มีสุขมีทุกข์


ข้อแรกตรงกับหุ้น ดังนั้นต้องรู้จักกระจายการลงทุนในหุ้น
มันช่วยลดความร้อนแรงของจิตใจด้วย เหมาะสำหรับผู้อาวุโส

มีทรัพย์เสื่อมทรัพย์ หุ้นบางตัวในช่วง 3 วันราคาหายไป 70% แล้ว

มียศเสื่อมยศได้ อาจารย์มีตำแหน่งแต่เสื่อมได้

มีสรรเสริญ แต่มีคนนินทา เป็นเรื่องปกติของโลก
ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จอย่างไร เมื่อเราตายก็หายหมด
เกิดใหม่ ก็เริ่มสร้างใหม่เลย

อจเสน่ห์ เสริมว่า การลงทุนต้องรู้เท่าทันตัวเอง
ต้องคุมตัวเองได้ แต่เราต้องรู้ตัวเองตลอดเวลา

สุดท้ายขอขอบคุณ วิทยากรทุกท่าน อจ เสน่ห์ , อจ ไพบูลย์ ดร นิเวศน์ น้องแป๋ม น้องเมย์ คุณ ตรีนุช และ ทีมงาน Money talk ทุกท่าน ที่ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้การลงทุนผ่านงานสัมมนา Money talk
Cheevitmai
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Thanks so much
donnyvi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 466
ผู้ติดตาม: 9

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับพี่อมร เมื่อวานได้ทักทายพี่เป็นครั้งแรก ^^
"The Winners .... never Quit, The Quitters .... never Win"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1736
ผู้ติดตาม: 38

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณพี่อมรมากเลยค่ะ

เมื่อคืน ตีสองกว่ามารอ link อยู่
รอไปรอมา "หลับ" หน้าคอม :oops:

ในขณะที่พี่อมรยังทำงานอยู่เลยค่ะ

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ^^
taovi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 59
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณพี่อมรมากค่ะ
เห็นเวลาพี่อมรโพสต์แล้วเหนื่อยแทนเลย :roll: :wink:
multisontaya
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 6

โพสต์

thank you
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2637
ผู้ติดตาม: 270

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 7

โพสต์

theenuch เขียน:ขอบคุณพี่อมรมากเลยค่ะ

เมื่อคืน ตีสองกว่ามารอ link อยู่
รอไปรอมา "หลับ" หน้าคอม :oops:

ในขณะที่พี่อมรยังทำงานอยู่เลยค่ะ

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ^^
ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณนุชนอนดึกไปด้วยครับ
คราวหน้าจะพยายามให้เร็วกว่านี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1442
ผู้ติดตาม: 14

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณครับ พี่อมร
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
conseto
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1187
ผู้ติดตาม: 5

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณครับ
ทำ..เพื่อไม่ต้องทำ
auspicja
Verified User
โพสต์: 404
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET 12 Mar 2017

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ยิ่งรู้มากขึ้น ทำให้เข้าใจว่าเรานี่ช่างอ่อนหัดยิ่งนัก
โพสต์โพสต์