บันทึกงานสังสรรค์ VI ครั้งที่ 2(04/09/2016)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
nuthjira
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 238
ผู้ติดตาม: 71

บันทึกงานสังสรรค์ VI ครั้งที่ 2(04/09/2016)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

บันทึกงานสังสรรค์ VI ปี 2559 ครั้งที่2
(04/09/2016)
nuthjira

ผมอาจจะจดได้ไม่หมดต้องขออภัยด้วยครับ ^^

PART l
อ.นิเวศน์/พี่เชาว์/พี่กานต์
พี่เชาว์
เริ่มลงทุนหลังกลับจากอเมริกา เริ่มต้นปี 2548 จากการบังเอิญเจอหนังสือของอ.นิเวศน์
(พี่เชาว์สอบ CFA เลเวล3ได้ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกา แต่ไม่ได้ลงทุน)แล้วเข้าใจง่าย เปลี่ยนมุมมองต่อการลงทุน มุมมองในการลงทุน
1."มองไปข้างหน้า"
ในการลงทุนพี่เชาว์บอกว่าให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ในปัจจุบัน และ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2."ความจริง คือ ความจริง ความเห็น คือ ความเห็น"
เราต้องแยกแยะความเห็นออกจากความจริงให้ออกการจะ assumption ต้องพยายามแยกแยะความเห็นออก เหลือความจริงให้เยอะที่สุด

อ.นิเวศน์
จากการเกิดวิกฤต ปี 40 สถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเลือกลงทุน
ในช่วงนั้น อาจารย์ได้ดูโอกาสหลายๆอย่างในการลงทุน ทั้งอพาร์ทเม้นให้เช่า ทำธุรกิจ และ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์
หลังจากช่างน้ำหนักในการลงทุนต่างๆแล้วก็ตัดสินใจลงทุนในหุ้น มุมมองในการลงทุนของอาจารย์ในช่วงนั้นคือ
เลือกบริษัทที่มั่นคง เติบโต ไม่มีหนี้ ปันผลสูง เพื่อต้องการ cash flow มาใช้ในชีวิตประจำวัน

พี่เชาว์ -การลงทุน การทำธุรกิจคือการมองอนาคต
หุ้น10เด้งมีมากมายอยู่ในชีวิตประจำวันให้สังเกต เหมือนการเล่น PokemonGOปิกาจูชอบอยู่ในห้าง หุ้น10เด้งก็เช่นกัน มักมีอยู่ใน7/11
แยก FACT และ OPINION ให้ออก

"Investment by walking around"
อ.นิเวศน์ -สังเกตุสิ่งรอบๆตัวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วตั้งคำถามออกไป ยกตัวอย่าง เวลาเข้า7/11เห็นนักท่องเที่ยว "สังเกตุ"
ว่าเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ชอบซื้ออะไร"ตั้งคำถาม" ขนมสาหร่าย ที่นักท่องเที่ยวชอบซื้อในอีก10ปีจะเป็นอย่างไร ยังจะชอบอยู่มั้ย
ในประเทศไทยคนจะกินเยอะขึ้นมั้ย แล้วถ้าไปขายในเมืองจีนคนจะกินเยอะขนาดไหน ทำไมคนจีนถึงชอบซื้อ
ex.การลงทุนใน CPALL ของอาจารย์ เมื่อ10ปีที่แล้ว ซอยรางน้ำตอนนั้นมี 1 สาขาปัจจุบันซอยเดียวมี 5 สาขา
แล้วกลับไปมองในประเทศญี่ปุ่นตอนนั้นมี 4หมื่นสาขา เทียบกับ7/11 ตอนนั้นมี3-4พันสาขา อาจารย์มองว่า ในอนาคต7/11
ต้องมีอย่างน้อย 2หมื่นสาขา market cap ตอนนั้น 3หมื่นร้าน ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับบริษัทที่จะบริการคนทั้งประเทศในอนาคต
1.ศึกษาโดยพฤติกรรม ประวัติศาสตร์ เปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วกลับมามองบ้านเรา
2.ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ที่อยู่ในยีน

พี่เชาว์ -ตระกร้าสามใบ
1.เลือกบริษัทที่มี DCA (durable competitive advantage )
1.1) TOP of MIND เลือกบริษัทที่แบรนด์อยู่ในใจผู้บริโภค
1.2) ธุรกิจที่มีความยากในการเข้ามาแข่งขัน เช่น
-ธุรกิจยา ซอฟต์แวร์
1.3) network effect ธุรกิจที่คนใช้เยอะถึงจุดนึงแล้ว คนไม่เปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น
1.4) economy of scale
1.5) บริษัทต้องมี pricing power ขึ้นราคาแล้วผู้บริโภคยังไม่เปลี่ยนไปใช้สินค้าอื่น
2.การเติบโต
สนใจในบริษัทที่เติบโตในระยะ 3ปี 5ปี โดยไม่สนว่ามี DCA รึเปล่า
มองเทรนด์ Growth 10-15% อย่างน้อยไปอีก 3ปี
3.Super stock(DCA+Growth)ดีและมีการเติบโต แต่ส่วนมากมักจะแพง

อ.นิเวศน์ - หุ้นที่ดีต้องมี DCA และบริษัทจะไม่โดนทำลายโดย Technology Growth มีทั้ง Growthในด้านน้ำหนัก
ถ้า Growth ในด้านน้ำหนัก ในอนาคตอาจจะผอมลงได้ เช่น บริษัทที่รายได้โตจาก commodity
บริษัทแบบนี้ในลงทุนในตอนที่ยังผอมอยู่ Growth ในด้านความสูงโตแล้วโตเลยไม่ลดลง อันนี้คือ True Growth
กลุ่มนี้คือมองเห็นว่าเติบโตแต่ต้องให้เวลา ตัวอย่างเช่นการลงทุนใน CPALL ของอาจารย์ใน 10 ปีก่อน

หุ้น 10 เด้ง
พี่เชาว์ -หุ้นสิบเด้งคือหุ้นที่เรามองเห็น แต่ตลาดมองไม่เห็น
"อะไรก็ตามที่เราถูก แต่คนส่วนใหญ่ผิด"
เช่น การคิดเป็นเส้นตรง ที่นำมาวิเคราะห์คนส่วนใหญ่มองว่า 5 ปีก่อนโต 5% แล้วมองไปในอนาคตว่าจะโต 5%ไปเรื่อยๆ
หุ้น 10 เด้งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มที่ 1 มี DCA แต่ยังไม่ระเบิด สะสมพลัง สะสมความนิยมของผู้บริโภคอยู่
"ตาไหนที่ใช่จัดเต็ม ตาไหนที่ไม่ชัวร์อย่าไปเล่น"
คล้ายหลักการของดันโด ออกหัวได้เงินเยอะ ออกก้อยเสียเงินนิดหน่อย
"หา Timing ที่ถูก"

อ.นิเวศน์ - หุ้น 10 เด้ง ให้เวลา 10 ปี ให้น้ำหนักกับการลงทุนในระยะยาวมองการลงทุนในระยะยาว
หาบริษัทที่เป็นผู้ชนะที่แท้จริงจึงจะลงทุนบริษัทที่มีความเสี่ยงที่เราไม่เข้าใจก็จะไม่เลือก
"ยอมตกรถดีกว่า โดนรถทับ"
"เลือกหุ้นที่โตช้าหน่อย แต่มาชัวร์ และใส่เงินให้เยอะ"

ข้อคิดฝากไว้ให้ทุกคน
พี่เชาว์ -
1."life is too short not to do something that matters"
ชีวิตคนสั้น จงทำแต่สิ่งที่สำคัญ
2."Connecting the dots" -Steve Jobs-
ทำทุกวันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองย้อนกลับมาเราจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
3.มองทุกยอย่างตามความเป็นจริง ไม่เอาความคิดเห็นมารบกวน
4.เมื่อไรก็ตามที่เจอสิ่งแย่ๆในชีวิต ให้มองย้อนกลับไปว่า "เราทำเพื่ออะไร"

อ.นิเวศน์ -
มองภาพใหญ่ให้มากขึ้น ถ้าภาพใหญ่ดี การลงทุนจะง่ายขึ้น
"เลือกสู้ในสนามที่ถูกต้อง"

ปล.สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ อาจารย์ทุกท่าน คนในสมาคมทุกคนที่จัดงานนี้ขึ้นมา ฟังแล้วได้แรงบันดาลในเยอะเลยครับ
=/l\=
แนบไฟล์
01.JPG

....ความโลภจะนำนักลงทุนส่วนมาก ไปแสวงหาทางลัดเพื่อความสำเร็จในการลงทุน
แทนที่จะคาดหวังผลตอบแทนทบต้นที่เหมาะสมในระยะยาว ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
JUMP
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 188
ผู้ติดตาม: 0

Re: บันทึกงานสังสรรค์ VI ครั้งที่ 2(04/09/2016)

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์มากครับ และดีสำหรับคนที่ไม่ได้ไปอย่างผม สมาชิกท่านใดต้องการแบ่งปันเพิ่มเติม ขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ
สติ รู้ตัว, ปัญญา รู้คิด.
โพสต์โพสต์