มุมมอง เกี่ยวกับ cp

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
somkull
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 4

มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คนมีหุ้นcp ควรอ่าน

ถ้าเราพูดถึงนักธุรกิจในเลเวลระดับโลก ก็คงต้องพูดกันถึงพวก บิล เกต ,สตีฟ จ็อบส์(ตายแล้ว) ,มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ,บัฟเฟต

แต่ในสายตาของผมแล้ว เท่าที่ผมศึกษาแนวคิดและวิธีทำธุรกิจของนักธุรกิจดังๆระดับโลกมา ร่วม50คน ผมคิดว่า เจ้าสัวธนิน ซีพี นี่แหละ เบอร์1ของโลกตัวจริง

จากกระทู้แนะนำเรื่องข้าวกล่องเซเว่น ที่หลายคนพูดกันว่า ราคามันลงมาแข่งกับข้าวแกงข้างถนนได้แล้ว
ผมจะบอกว่าเรื่องนี้ เจ้าสัวเคยพูดไว้นานแล้วครับหลายปีแล้ว และมาพูดอีกครั้งเมื่อเดือนเมษา57ที่ผ่านมา
ลองเข้าไปอ่านดูครับ http://thaipublica.org/2014/04/dhanin/

ถ้าขี้เกียจอ่าน ผมสรุปให้ฟังง่ายๆ เจ้าสัวบอกว่า ถึงจุดนึง ป้าที่หาบเร่ขายแกงเขียวหวาน ต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบมาทำแกงเขียวหวานขาย จะแพงกว่าซื้อแกงเขียวหวานจากซีพี

ธนิน อ่านเกมขาดมานานแล้วครับ ว่าถึงจุดนึงร้านข้าวแกงทั่วประเทศจะไม่สามารถแข่งขันกับซีพีได้ เพราะซีพีคุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ข้าวกล่องแช่แข็งเจ้าแรกๆของไทยคือ เอสแอนด์พี ขายกล่องละ70กว่าบาท ใช้เวลาเวฟ7-8นาที
แต่ธนิน เข้ามาทำข้าวกล่อง แค่ก้าวเท้าเข้ามาก็ฆ่าเอสแอนด์พีตายในดาบแรกแล้ว เพราะเจ้าสัวให้ทีมงานคิดนวัตกรรมกล่องใส่ข้าวที่ใช้เวลาเวฟเหลือ แค่3นาที และทำราคาถูกลงมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เหลือแค่ 30บาท

ข้าวกล่องเอสแอนพี และ ข้าวแกงข้างทาง มันมีจุดอ่อนคือ รสชาติไม่นิ่ง
แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไม อาหารของเซเว่น รสชาติมันนิ่งมาก มันเลยจุดที่มาพูดเรื่องการตวงน้ำปลาแล้วครับ
ธนิน ซื้อนวัตกรรมจากยุโรป ที่ทำให้วัตถุดิบมีรสชาติคงที่

เรื่องข้าวกล่องผมพักแค่นี้ก่อน ถ้าให้ผมเขียนเล่าความเป็นมา เขียนได้เป็นสิบหน้าครับ

กลับมาเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงคิดว่า ธนิน คือ นักธุรกิจที่เก่งที่สุดอันดับ1ของโลก

เพราะ วันนี้เครือซีพี ผูกขาดครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ ต้นน้ำอย่างเจียไต๋ที่คุมตั้งแต่การปลูกเมล็ดถั่ว ไปจนถึงการผลิตและแปรรูปโดยซีพี จบด้วย2ช่องทางจำหน่าย อย่าง แมคโคร และ เซเว่น

มาพูดถึงการซื้อแมคโคร มีคนถามเจ้าสัวว่าซื้อแมคโครราคานี้ คุ้มรึ ???
เจ้าสัวธนิน ตอบว่า แค่เอาราคาประเมินที่ดินของแมคโครทุกสาขารวมกัน เขาก็คุ้มแล้ว

3ปีก่อน ธนิน ผลักดันโมเดล ร้านขายยา เข้าสู่เซเว่น บนแนวคิดที่ว่าเซเว่นทุกสาขา จะมีร้านขายยาข้างในด้วย แต่มาติดตรงเรื่องที่ไม่มีเภสัชกร เพราะยาจะให้พนักงานเซเว่นมาขายไม่ได้ แต่...วันนี้ธนิน ผลักดันกฏหมายขายยาสำเร็จแล้ว ต่อไปร้านขายยาไม่ต้องขายโดยเภสัชกร
ใครได้ประโยชน์ที่สุด คิดเอาเองง่ายๆ ต่อไปเซเว่นทุกสาขาจะมียาขายแบบร้านขายยา และร้านขายยาจะตายหมด สเต็ปต่อไป ซีพีจะผลิตยาแบบ เฮ้าท์แบรนด์ ผลิตเองขายเอง

ธนิน จะก้าวเข้ามาคุมอีก1ใน4 ของปัจจัย4ของมนุษย์ อาหาร เขาคุมหมดแล้ว ต่อไปคือ ยารักษาโรค

ธนาคารก็ไม่รอดครับ คนไทยทุกคนต้องทำธุรกรรมกับธนาคาร มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเซเว่นมีธนาคาร !!!!

เรื่องนี้ผมขออุบเอาไว้ก่อน แต่คุณเซฟกระทู้ผมไว้ได้เลย ภายใน5ปีนับจากนี้ เซเว่นทุกสาขาจะมีเค้าเตอร์ให้คุณฝากเงิน ถอนเงิน
และหนึ่งในแบงก์ปัจจุบัน กำลังถูกเจ้าสัวจะเทคโอเวอร์อยู่ เพื่อเข้าสู่โมเดลให้เซเว่น กลายเป็นธนาคารด้วย ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่เจ้าสัวถอดตู้atmของธนาคารอื่น แล้วเอาตู้ของตัวเองเข้าไป แค่นี้ก็สบายแล้วครับ ตอนนี้ธนินกับดำเนินการเรื่องนี้อยู่

พวก ลอว์สัน , แฟมิลี่มาร์ท ,แม็กแวลู พวกนี้ไม่ใช่คู่แข่งครับ ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยครับ

ผมยังไม่ต้องพูดถึงกิจการอื่นๆในเครือ อย่าง ทรูมูฟ หรือ รถยนต์เอ็มจี นะครับ

กลับมาต่อในเรื่องที่ว่า ทำไมธนิน เหนือกว่านักธุรกิจระดับโลกคนอื่นๆ

นั่นคือเรื่องของความยั่งยืนไงครับ

คุณคิดว่าระหว่างบริษัทอย่าง แอปเปิ้ล กับ เครือซีพี ใครจะยืนยาวกว่ากัน
หรือ เฟสบุ๊ค กับ เครือซีพี ใครจะม้วนเสื่อไปก่อนกัน

ผมมั่นใจว่าเครือซีพีจะยืนยาวกว่า เพราะ เขาไม่ได้เล่นอยู่บนเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และเกิดผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ แต่เขาอยู่บนกิจการที่ผูกขาดเบ็ดเสร็จ คุมทั้งระบบ คู่แข่งแทบจะโงหัวขึ้นมาไม่ได้

ในขณะที่เฟสบุ๊ค มันเป็นกิจการที่อยู่บนเทรนด์ และ ผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เมือไรที่เทรนด์ของมนุษย์เปลี่ยน เฟสบุ๊คจะจบทันที
ในขณะที่แอปเปิ้ล ใครมองว่าแกร่ง ผมกลับมองว่ามันอยู่ได้เพราะสตีฟ จ็อบส์ ไม่ได้อยู่ได้ด้วยระบบ หลังจากจ็อบส์ตาย บริษัทก็ไม่มีอะไรใหม่
ไม่เคยมีของใหม่อีกเลย มีแค่เอาของเก่ามาเพิ่มสเปค ลดขนาด ลดน้ำหนัก มันอยู่ในวงจรที่ไม่ไปไหนแล้ว ในขณะที่จ็อบส์จะสร้างสิ่งใหม่ออกมา

และจ็อบส์สู้ธนินไม่ได้ เพราะเมื่อเขาตาย บริษัทก็ลดความสามารถลงไปเกินครึ่ง
ในขณะที่ธนิน สร้างระบบผูกขาด คุมการบริโภคเบ็ดเสร็จ ถ้าเขาตาย กิจการมันก็ไปต่อได้แบบไม่ตก
ผู้บริหารที่สุดยอดต้องแบบนี้ครับ

ธนิน ยังคงถือครองที่ดินมากเป็นอันดับ2ของประเทศ ซึ่งถ้าฟอร์บประเมินราคาขายที่ดินที่เป็นราคาแท้จริงของตลาด
พอร์ตที่ดิน3แสนกว่าไร่ของธนิน มันจะเป็นตัวเลขเท่าไร อันดับในฟอร์บจะขึ้นไปอยู่สูงกว่านี้อีกเยอะ

ผมรู้สึกทึ่งในการทำธุรกิจของเครือซีพีมากๆ ก้าวแต่ละก้าวของเจ้าสัว ล้วนเหนือเมฆทั้งนั้น
เท่าที่ผมศึกษามา แทบจะไม่มีกิจการไหนในโลกที่โยงใยเป็นเครือข่ายและผูกขาดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเบ็ดเสร็จแบบนี้เลย
แม้แต่ บริษัทอย่างแอปเปิ้ล จะผลิตไอโฟนสักเครื่อง ก็ยังไม่สามารถผลิตได้ทุกชิ้น หน้าจอยังต้องจ้างซัมซุงผลิตให้ และล่าสุดก็ทะเลาะกันแล้ว

แต่เครือซีพี ครอบคลุมปัจจัยการบริโภค ซึ่งเป็น1ใน4ปัจจัยของมนุษย์ วันนี้คุณอาจจะยังเห็นภาพไม่ชัด แต่อีก10ปี คุณจะเห็นเลยว่าคนไทยทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่สามารถรอดพ้นจากการเป็นลูกค้าในเครือซีพีไปได้เลย

และอีก1ปัจจัย คือ ยารักษาโรค กำลังจะถูกยึดแบบเบ็ดเสร็จแล้ว สิ่งไหนที่เจ้าสัวทำไม่เป็น เขาก็จะเทคโอเวอร์ เมื่อเขาคุมช่องทางจำหน่ายยาได้หมด
ต่อไปก็จะผลิตเอง และ รวมถึงการเทคโอเวอร์บริษัทผลิตยาขนาดกลาง

ปัจจัยที่5 อย่างการสื่อสาร ซีพียังคุมได้ไม่หมด เพราะ เจ้าตลาดอย่างเอไอเอสแข็งแกร่งมาก แต่ทรู ก็ถือเป็น1ใน3 ยักษ์ใหญ่ของประเทศ

หลังจาก เรื่องยา และ แบงก์ แล้ว ผมก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเจ้าสัวจะเดินไปทางไหนต่อ แต่เป็นเรื่องที่น่าติดตามทั้งสิ้น และก้าวเดินนั้นต้องสามารถคุมระบบใดระบบหนึ่งในชีวิตของเราได้

ผมขอปิดท้ายด้วย คำพูดของป้าเช็ง ที่บอกว่า ในอนาคต จะเหลือแค่2สิ่งสุดท้ายที่ซีพี ไม่ทำ คือ
1.ขายโรงศพ
2.ไปขอทานบนสะพานลอย

แต่ผมว่าไม่แน่นะ ธุรกิจจัดงานศพแบบครบวงจร ตั้งแต่ปลูกไม้ผลิตโรง ,ปลูกดอกไม้จัดพวงหรีด , รวมถึงผลิตเทียน
ในเมื่อคนตายทุกวัน และคนก็ต้องตาย เหตุใดซีพี จึงจะไม่สนใจ

แต่อย่าไปเดาความคิดเจ้าสัวธนินเลยครับ ถ้าระดับเขา เราเดาได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ธนินแล้วครับ

เผลอๆอาจคิดยาอมตะ กินแล้วไม่ตายออกมาขายก็ได้ ฮ่าๆๆ

คนอ่านประมาณ 90% เข้ามาด่าเจ้าสัวกัน

แต่นี่แหละคือความสุดยอดของเจ้าสัวที่ทำให้เหนือกว่านักธุรกิจคนอื่นๆ มันยิ่งพิสูจน์ความคิดของผมว่าถูกต้องแค่ไหน

ถ้าคุณเกลียด มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก คุณไม่ต้องเล่นเฟสบุ๊คก็ได้
ถ้าคุณเกลียดจ็อบส์ คุณก็ไม่ต้องเป็นลูกค้าแอปเปิ้ลได้

แต่ถ้าคุณเกลียดธนิน คุณไม่มีทางหลุดพ้นเงื้อมมือของเครือซีพี

ผมรับประกันว่าคุณหนีไม่พ้นครับ ถึงคุณไม่ใช่ลูกค้าทางตรง ก็ต้องเป็นลูกค้าทางอ้อม

คุณบอกว่าคุณไม่กินข้าวเซเว่น คุณกินข้าวแกงข้างทาง รู้ไหมครับว่ามาร์เก็ตแชร์ข้าวสาร35%ในตลาดคือข้าวตราฉัตรของซีพี
หมู ไก่ กุ้ง ซีพีเป็นเบอร์1ในตลาดครับ ยังไงคุณก็ต้องบริโภคสินค้าของซีพี คุณบอกว่าฉันเป็นมังสวิรัตกินแต่ผัก แต่ผักที่คุณกินปลูกจากเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋

ปลาทับทิม ทุกตัวในประเทศไทย ซีพีเป็นคนพัฒนาสายพันธุ์มาจากปลาเวียดนาม คุณหนีไม่พ้นครับ

เมื่อคุณใช้โทรศัพท์ ถ้าคุณใช้ทรู คุณคือลูกค้าซีพี
และหลายๆคนนั่งพิมพ์ด่าเจ้าสัว ผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ชื่อทรู วันนี้ทรูมีส่วนแบ่งตลาดด้านอินเตอร์เน็ตบ้านเยอะสุดในตลาดครับ แซงทีโอทีแล้วครับ

คุณหนีไม่พ้นครับ

ในโลกยังไม่เคยมีนักธุรกิจคนไหนที่สามารถครอบงำระบบทั้งระบบในชีวิตมนุษย์ได้ขนาดนี้
แล้วถ้านี่ไม่ใช่เบอร์1ของโลก แล้วจะเป็นใครครับ


อีกประเด็นคือ ข้าวเซเว่น 30บาท VS ข้าวแกงข้างทาง 30-35 บาท

ผมไม่ได้เข้าข้างซีพีนะครับ แต่ผมเห็นหลายคนพูดแต่เรื่องปริมาณ บอกว่าข้าวแกงข้างทางได้เยอะกว่า ข้าวเซเว่นได้น้อย สรุป ข้าวเซเว่นแพ้

ผมมองต่างครับ ผมมองในเรื่องคุณภาพ

ยกตัวอย่าง ข้าวกระเพราะหมูสับแล้วกัน

ข้าวเซเว่น คุณได้ข้าวหอมมะลิ ที่เม็ดสวยกว่า นุ่มกว่า คุณได้หมูที่เนื้อๆแทบไม่มีมัน รสชาตินิ่ง เหมือนกันทุกกล่อง

ในขณะที่ข้าวกระเพราะข้างทาง หรือในตลาดสด คุณจะได้ข้าวชนิดที่เรียกว่า10% ส่วนมากทีแต่เม็ดหักๆ บวมๆ หยาบกระด้าง หมูก็มีมันปนมาเยอะมาก บางเจ้าใส่ถั่วฝักยาวมาเอาเปรียบอีก แถมรสชาติแต่ละวันก็ไม่นิ่ง

ผมแค่มองในมุมต่างครับ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค

วันนี้อาจไม่เห็นภาพชัด แต่วันใดที่ข้าวกระเพราข้างทางราคา50บาท และข้าวเซเว่น 30-35
ส่วนต่างถึง 15-20 บาท ถูกกว่าแถมคุณภาพดีกว่า วันนั้นจะเห็นอะไรมากกว่านี้ครับ

Cr.Slark

แล้วแต่มุมมอง ครับ
ท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1496
ผู้ติดตาม: 38

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 2

โพสต์

วันนี้ธนิน ผลักดันกฏหมายขายยาสำเร็จแล้ว ต่อไปร้านขายยาไม่ต้องขายโดยเภสัชกร
ใครได้ประโยชน์ที่สุด คิดเอาเองง่ายๆ ต่อไปเซเว่นทุกสาขาจะมียาขายแบบร้านขายยา และร้านขายยาจะตายหมด สเต็ปต่อไป ซีพีจะผลิตยาแบบ เฮ้าท์แบรนด์ ผลิตเองขายเอง
คิดว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ที่บอกว่า กฏหมายที่ร้านขายยาไม่ต้องมีเภสัชแล้ว

เพราะได้ยินว่าตลอดว่า ทาง อย. พยายามผลักดัน ให้ร้านขายยามีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะต้องมีเภสัชกร
โดยที่สำคัญคือ ได้มีการจัดทำกฏหมายใหม่เรื่อง มาตรฐานร้านยาคุณภาพ (Good Pharmaceutical Practice) ที่มีข้อกำหนดมากกว่าเดิม หาก ร้านยาไม่สามารถทำมาตรฐานได้ ก็ไม่สามารถต่ออายุร้านยาได้ครับ (ซึ่งแน่นอนต้องมีเภสัชกรขายยาครับ)

ปัญหาของร้าน eXta ที่ผ่านมา คือจำนวนเภสัชกรมีไม่เพียงพอ ทาง cp ก็ได้พยายามแก้ปัญหา คือ ให้เภสัชกรที่ต้องการเปิดร้านยา มีสิทธิ์พิเศษ สามารถเปิดร้าน 7-11 คู่กันได้ (แยกทางเข้าได้หน้า) เพราะปัญหานึงคือ ทางเภสัช ก็ไม่อยากขายยาในร้าน 7-11 เลยเพราะจะรุ้สึกว่า ดูเหมือนพนักงานในร้าน 7-11

อีกอันที่เห็นทำ คือ ไป recruit เภสัช ที่กำลังจบที่มหาลัย

ส่วนที่คิดว่าจะกระทบอีกอันคือ เรื่อง AEC ที่คาดกันว่า หลังเปิด AEC อาจเกิด แรงงาน เภสัช เคลื่อนย้ายมาทำงานในเมืองไทยกันมากขึ้น เพราะระบบการศึกษาบ้านเราเภสัชกร เรียน 6 ปี แต่ประเทศอื่นเรียน 5 ปีครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
netirut
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมว่ามีคนนึงนะ ที่เหนือกว่าธนินในแง่การพยายามทำธุรกิจแบบผูกขาดในการใช้ชีวิตของคนในประเทศเขา "คาลอส สลิม" ครับ
ผมว่าไม่แน่ว่า ธนิน อาจพยายามประยุกต์หรือนำแนวคิดของสลิมมาปรับเข้ากับบริบทของประเทศเราด้วยซ้ำ
netirut
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 4

โพสต์

อ่อ ผมอยากเสริมอีกนิด ถ้าเราจะมองในแง่การพยายามผูกขาดการใช้ชีวิตของผู้คนเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเป็นสำคัญ
ผมก็เห็นด้วยว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่พยายามมาตลอดชีวิตของเขา และทำได้เกือบจะสำเร็จหมดอย่างที่กล่าวมาครับ ผมเห็นด้วย

แต่ผมไม่คิดว่าการพยายามผูกขาดปัจจัยสี่อย่างนี้จะอยู่ยืนยงคงกระพันไปได้ เพราะในประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยมีการผูกขาดใด
ที่อยู่ได้อย่างยืนนานอย่างแท้จริงได้ ขนาดว่าประเทศระบอบคอมมิวนิสต์ที่ผูกขาดทุกอย่างได้ยังคงล่มสลาย เพราะเมื่อถึง
จุดนึง การผูกขาดมันจะไปต่อไม่ได้เพราะขัดกับธรรมชาติความเป็นมนุษย์ และหากจะเทียบกับกรณีสตีปจ็อบ ผมว่าก็ไม่แน่ว่า
หากซีพีขาดธนินจะเป็นเช่นไรในอนาคต

แต่อีกแง่หนึ่งในฐานะนักธุรกิจ แม้ว่าซีพีจะพยายามผูกขาดปัจจัย4 เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเป็นหลัก แต่มันก็ทำให้ประเทศ
ได้รับประโยชน์ผลพลอยได้จากวิธีการทำธุรกิจของซีพี คือทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนสะดวกสบายขึ้น แม้ว่าหมูไก่กุ้ง
ที่ผลิตให้คนกินนั้น คนกินไม่อาจรู้เห็นกระบวนการและตรวจสอบได้ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เขาวิจัยหรือซื้อมาเพื่อใช้ในธุรกิจ
ซึ่งหากเป็นอย่างผมคิด เมื่อถึงจุดนึงที่ผมว่า โนว์ฮาวและเทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสาธารณะไป เพียงแต่ซีพีเป็นผู้บุกเบิก
และพยายามจะผูกขาด แต่ไม่อาจผูกขาดได้อย่างเบ็ดเสร็จในระยะยาว

ส่วนในแง่ประโยชน์ที่เกิดกับมนุษยชาตินั้น จะเอาธนินไปเทียบกับสตีปจ็อบไม่ได้เลยครับ แม้แต่บัฟเฟต์ในแง่นี้ก็เทียบกันไม่ได้
การนำคอมพิวเตอร์มาทำให้คนใช้ในบ้านได้ และมันกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆไปทั่วโลก และมีคนนำมาพัฒนาต่อๆกันไปอีก
อาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องกับชีวิตผู้คนไปอีกหลายร้อยปี ในขณะที่ธนินพยายามหาวิธีว่าทำอย่างไรเงินในกระเป๋าผู้คนจะย้าย
มาสู่กระเป๋าของตนได้ในทุกๆช่องทางเท่านั้นเอง

ถ้าจะคิดในกรอบการทำธุรกิจว่ายังไงจะเจ๋ง จะผูกขาดได้และข้าจะรวยผู้เดียว แบบนั้นก็มี บิลเกต สลิม ธนิน ฯลฯ ซึ่งในอดีตก็มาก
ระบบขุนนางราชวงศ์อังกฤษ ฝรั่งเศษยุคล่าอาณานิคม เขาก็ผูกขาดได้หมด แต่ทุกวันนี้เขาก็ผูกขาดแบบนั้นไม่ได้ มาถึงยุคธุรกิจ
ผมก็เชื่อว่าถึงจุดหนึ่งการผูกขาดต่างๆก็จะค่อยล่มสลายไป แต่น่าสังเกตุว่า เวลาเรียนประวัติศาสตร์ เราไม่ค่อยอยากจดจำชื่อ
ของนักการเมืองหรือนักธุรกิจที่ผูกขาดทั้งหลาย แต่ผู้คนมักจะจดจำคนที่ทำประโยชน์ให้คนส่วนใหญ่ และผมเชื่อว่า คนจะจดจำ
สตีฟจ็อป ได้นานกว่า คาลอส สลิม แน่นอน
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 1

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 5

โพสต์

somkull เขียน: ยกตัวอย่าง ข้าวกระเพราะหมูสับแล้วกัน

คุณได้ข้าวหอมมะลิ ที่เม็ดสวยกว่า นุ่มกว่า คุณได้หมูที่เนื้อๆแทบไม่มีมัน รสชาตินิ่ง เหมือนกันทุกกล่อง

ในขณะที่ข้าวกระเพราะข้างทาง หรือในตลาดสด คุณจะได้ข้าวชนิดที่เรียกว่า10% ส่วนมากทีแต่เม็ดหักๆ บวมๆ หยาบกระด้าง หมูก็มีมันปนมาเยอะมาก บางเจ้าใส่ถั่วฝักยาวมาเอาเปรียบอีก แถมรสชาติแต่ละวันก็ไม่นิ่ง

ผมแค่มองในมุมต่างครับ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค

ใช่ครับ และก็มีอีกหลายคนที่เห็นในมุมต่างเช่นกันครับ

http://pantip.com/topic/30241867

http://drama-addict.com/2013/03/12/%E0% ... %E0%B8%B9/

http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B ... 2%E0%B8%94
"Become a risk taker, not a risk maker"
chitadisai
Verified User
โพสต์: 483
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ตอนนี้ Extra รุกต่างจังหวัดแล้วครับ ผมอยู่สุราษฎร์ธานี เปิดใหม่ 3 ร้าน ต้องเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น อย่างน้อยสี่ห้อง ไม่ได้ใหญ่แบบ Extra ใน กทม.
ต้องมีที่ตั้งสินค้า 3 shelf ขึ้นไป ขายยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น อุปกรณ์ปฐมพยาบาล อุปกรณ์สำหรับคนจัดฟัน
ผลิตภัณฑ์สำหรับทารก คนท้อง ยาสมุนไพร แล้วก็กลุ่มยาเสริมความงาม ครีมทาหน้า วิตามิน อาหารเสริม เวย์โปรตีน ทุกตัวกำไรสูงมาก
ซึ่งในมุมมองผู้บริโภคมันมีประโยชน์มาก คนที่เจ็บป่วยกลางดึก สามารถมาซื้อยาบรรเทาได้ ไม่ต้องไปโรงพยาบาลอย่างเดียว
ไม่ต้องมีเภสัชกร ร้านไหนที่ได้ Extra จะได้เครื่องกันโขมยด้วย ซึ่งดีมากๆ เพราะสินค้าหายเยอะ ปรามลูกค้าได้เยอะ
ถามว่าจะทำให้ร้านยาทั่วไปแย่ลงไหม คงไม่ครับเพราะ Extra ขายแต่ยาทั่วๆไปไม่มีให้เลือกเยอะเหมือนร้านยา และไม่ได้ขายถูก เน้นความสะดวก แต่จะเน้น ขาย ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามมากกว่า กับได้ยอดขายช่วงดึกที่ร้านยาทั่วไปปิดคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
narakon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 1

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ในโลกยังไม่เคยมีนักธุรกิจคนไหนที่สามารถครอบงำระบบทั้งระบบในชีวิตมนุษย์ได้ขนาดนี้

ก็ต่างประเทศเขามีกฏหมายไม่ให้ผูกขาดนะสิครับ
somkull
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 4

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3 แสนล้านแล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ

เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEO ของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการด้วยเงิน 3 แสนล้าน
มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครื่อเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทรบ้าน โทรมือถือ internet และมีสื่อในมือ คือ truevision สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร มี 7-11 ส่วนห้างค้าปลีก ค้าส่ง makro และ Lotus

ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK? ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท

ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีกและครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู" ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง



สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แมคโคร 129,780 ล้านบาท รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก



ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4 ก่อนที่จะไปซื้อ L&H แบงก์ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5

ข่าวจาก line
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 24

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ธุรกิจนี้การผูกขาดเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสังคม แต่จะผูกขาดหรือไม่ผูดขาดต้องว่ากันที่ตัวเลขนะครับไม่ใช่ความรู้สึก

บางทีเรามักได้ยินการใช้คำว่าผูกขาดในการโจมตีธุรกิจต่างๆที่เป็นของคนไทยกันเอง พอไปดูตัวเลขบางทีก็พบว่ามันไม่เป็นจริงตามที่กล่าวหา
Vi IMrovised
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มาดูกันว่าเจ้าสัวธ กับ อ ใครจะอึดกว่ากัน
LH BANK 555
T@NG555
Verified User
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 11

โพสต์

narakon เขียน:ในโลกยังไม่เคยมีนักธุรกิจคนไหนที่สามารถครอบงำระบบทั้งระบบในชีวิตมนุษย์ได้ขนาดนี้

ก็ต่างประเทศเขามีกฏหมายไม่ให้ผูกขาดนะสิครับ
อันนี้จิง ยอมรับว่าเก่งครับเจ้าสัว แต่มีคุณธรรมไหมอีกเรื่องนึง ส่วนตัวไม่ชอบครับ
ทศพร29
Verified User
โพสต์: 306
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมไม่เห็นด้วยครับว่าเจ้าสัวธนินเก่งที่สุดในโลก
netirut
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมรู้สึกว่าการผูกขาด อาจไม่ได้วัดที่ตัวเลขเสมอไปเพราะทำได้ยาก แต่ส่วนใหญ่คนทั่วๆไปใช้สามัญสำนึกรู้ได้ว่าระดับใดเรียกว่าผูกขาด อย่างที่ช่วงนี้รู้สึก cp กำลังดัง หรือ"เมื่อถึงจุดหนึ่ง" อย่างที่ว่า มันจะมาถึงไวกว่าที่คิด
ZVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 436
ผู้ติดตาม: 10

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เพิ่มเติมเรื่องร้านขายยานะครับ ... ฉบับนี้ครับ ที่ออกใหม่

กฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน พ.ศ. 2556
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /126/1.PDF

เนื้อหาจริงๆคือ ทำให้ร้านขายยามีคุณภาพมากขึ้น เข้มงวดมากขึ้นด้วยซ้ำ ถ้ามีการบังคับใช้จริงจัง
โดยเฉพาะร้านขายยาใหม่ๆ ต้องทำตามหลักเกณฑ์นี้เลย ส่วนร้านขายยาเก่าๆจะมีระยะเวลาให้ปรับตัว

แต่เนื่องจาก exta แต่ละสาขาไม่ได้มีเภสัชฯ ประจำตลอดเวลาและทุกวัน
exta ก็จะไปเน้นพวก ยา OTC ต่างๆ หรืออาหารเสริม

อาหารเสริมบางตัว ก็มีการปรับสูตรนิดหน่อย เพื่อไม่ให้ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยา
ประมาณว่าสูตรในร้านขายยาทั่วๆไป กับใน exta สำหรับอาหารเสริมบางยี่ห้อ แตกต่างกัน
(ตัวยาเดียวกัน แต่ลดปริมาณตัวยา ก็ทำให้จากยากลายเป็นอาหารเสริมได้)

ส่วนยาแผนปัจจุบันบางชนิด ก็เปลี่ยนขนาดบรรจุ หรือลดขนาดความเข้มข้นลง ก็จะกลายเป็นยา OTC
ไม่ต้องมีเภสัชก็ขายได้
sous2011
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับ cp

โพสต์ที่ 15

โพสต์

คนรวยระดับโลกคนอื่นๆที่ไม่ใช้เจ้าสัวธนินธ์ เขาใจบุญมากครับ
โพสต์โพสต์