Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตาปี58

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2636
ผู้ติดตาม: 269

Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตาปี58

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Money Talk วันที่ 21 กุมภาพันธ์ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตาปี 58”
แขกรับเชิญ
1.คุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART
2.ดร.นฤมล สิงหเสนี
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินและสนับสนุนธุรกิจ MC
3.คุณวิวัฒน์ ฑีฆะคีรีกุล
ประธานกรรมการบริหาร KAMART
4.คุณวรวุฒิ อุ่นใจ
ประธานกรรมการบริหาร OFM

ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ. ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ดำเนินรายการ

หมอเค ให้ความเห็นเกี่ยวกับหุ้นเด่นต้องจับตา ที่ต้องจับตาเพราะอยู่ในกระแสและเราต้องศึกษาข้อมูลตลอดเผื่อมีจังหวะที่สามารถลงทุนได้
ดร ไพบูลย์ ถามว่า หุ้น4ตัวนี้ธรรมดาชอบไหม
หมอเค ตอบว่า ชอบ เพราะอยู่ในกลุ่มค้าปลีก เติบโตในระยะยาว
หมอเคสรุปแต่ละบริษัทดังด้านล่างครับ
JMART เป็น Holding company มี3ธุรกิจในมือ คือ ค้าปลีกมือถือ บริหารจัดการหนี้ บริหารจัดการพื้นที่ให้เช่า
MC ธุรกิจค้าปลีกยีนส์ ผลิตเองด้วย
KAMART ธุรกิจเครื่องสำอาง ขาย และ เริ่มผลิตเองด้วย
OFM มี2ธุรกิจหลัก เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน office mate และ B2S

คำถามแรก ธุรกิจทำอะไรก่อน
OFM
เริ่มที่ คุณวรวุฒิ OFM เริ่มจากธุรกิจเครื่องเขียน คอลเซนเตอร์ มีระบบlogisticที่แข็งแกร่ง จนปี2555 เข้าตา Central สนใจซื้อธุรกิจเข้ามาในเครือ
ปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น 3 ธุรกิจ
1.ธุรกิจ office supply ขายเครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน มี office manager มีระบบ website , store , call center และ e ordering ที่เป็น commissioner
สั่งที่ store และ เชื่อม online เข้ากันหมด ถ้าไปที่ร้านจะระบบ e ordering ไว้สั่งของด้วย
2. ธุรกิจ B2S จำหน่ายหนังสือ รวมถึง entertainment
ภาพรวมเป็นธุรกิจขาลง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมหนังสือในตลาดเป็นขาลง เนื่องจากมีการdownload กันมาก บริษัทพยายามปรับ ให้ไม่อยู่ในขาลง มีการปรับตัวค่อนข้างเยอะ
3. ธุรกิจ Central online
เอา officemate เข้าไปรวมกับ Central group
พยายามปรับธุรกิจ retail เป็น online ถึงแม้จะไม่ได้ทำทุกส่วน พยายามบุกด้วย website central.co.th เป็นห้างสินค้ารวมสินค้าทุกประเภททุกธุรกิจมาอยู่ ในนี้ เช่น powerbuy เมื่อแข็งแกร่งค่อยพัฒนาแต่ละbusiness unit ต่อ
ปีนี้ OFM เริ่มศักราชใหม่เปลี่ยนชื่อ Central online (COL) จำกัดมหาชน
ปีนี้บุก online เต็มรูปแบบ เราไม่มองเฉพาะขายของ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสร้าง eco system ระบบนิเวศ์นของ online ให้สมบูรณ์ such as digital agency , logistic , market place website ในอนาคต พัฒนา website สำหรับประมูลสินค้า onlineก็ได้
พอเราจะบุกตลาดonline เลยใช้ชื่อ central online group เป็นการเปลี่ยนแปลงในรอบ 20 ปี ทุกวันนี้ สัดส่วนการถือหุ้น central 62% คุณวรวุฒิ 12-13% ที่เหลือเป็น free float แต่คุณวรวุฒิ เป็นผู้บริหาร100% และ บริหารได้ดีในกลุ่มretail ทั้งหมด
MC group
ดร.นฤมล บอกว่าMCเป็นผลิตภัณฑ์คนไทย สินค้าคุณภาพสูง ฉลองครบรอบ 40 ปี คนไทยเป็นคนมีฝีมือดีมาก คนเย็บคนแรกยังทำงานอยู่ สินค้าดีกว่า brand นอก เราได้take over กิจการ Time deco มียี่ห้อที่บริหารนาฬิกา มากกว่า 20 ยี่ห้อ
เราเป็นบริษัทเดียวที่เป็นretail มีสาขา 819 สาขา OFM 150 สาขา JMART 255สาขา KAMART 370 สาขา ตอนเข้าตลาด มีประมาณ 600 สาขา นาฬิกาแค่80สาขา
เริ่มขยายไปต่างประเทศ เช่น ที่พม่า มี 18 สาขา นิยมมาก เช่น Mc mini สำหรับเด็กใส่ขายดีมาก เมืองไทยยังไม่ค่อยรู้จัก
Mc lady ของผู้หญิง Mc yeanของผู้ชาย Mc bluebrother สำหรับคนรวย จับทุกสเกล Mc me รุ่นของผู้หญิง 40+ กางเกงจะช่วยให้รอบรับรูปร่างที่เปลี่ยนแปลง Mc plus สำหรับ หุ่นใหญ่เกินกว่าปกติตอนนี้เอว 24 ไม่ค่อยมีในคนรุ่นใหม่แล้ว ต่ำสุด 25 แล้ว เราตัดเย็บเองหมด ผ้าซื้อจากในประเทศและต่างประเทศ ตัดเย็บเอง และ มี outsourc ทำบ้าง factory อยู่ที่ประเวศ
กางเกงsales บ่อย ตอนสิ้นปี 50% ข้อดีของยีนส์ เป็น timeless ถึงแม้มีstock มาก แต่ไม่ใช่สินค้าล้าสมัย เดี๋ยวแฟชั่นก็กลับใหม่ เพิ่มมูลค่าทุกวัน เพราะค่าแรงเพิ่มตลอด
หมอเคถามว่า กางเกงรุ่นไหนกำไรเยอะสุด
ดร ไพบูลย์ บอกว่า กางเกงฟิต กำไรเยอะ
คุณหมอเค บอกว่า กางเกงเด็ก กำไรเยอะ สุด ตอบว่า ใช่ เพราะพ่อแม่เต็มใจจ่ายเพื่อลูก

KAMART
คุณวิวัฒน์ขอแก้ข้อมูลของหมอเค รายได้ค้าปลีกไม่ถึง 10% เป็นธุรกิจเครื่องสำอาง เป็นเจ้าของbrand ให้คนอื่นไปขาย ค้นคว้า วิจัย และ ผลิตขายปลีกให้ผู้บริโภค ในตลาดมีอีก ยี่ห้อ beauty buffet ค้าขายเครื่องสำอาง 100% ค้าปลีก 100% มีสาขาเยอะแยะ ขายให้ผู้บริโภค
KAMART 90% เป็นธุรกิจเจ้าของbrand supply ให้เจ้าอื่นอีกทีขายต่อ เราไล่ตัวเองขึ้นไป ปีแรก นำเข้าสินค้ามา ปีที่สองทำเอง ปีที่สาม เปิดร้านขายปลีกบ้าง ปีที่สี่ ค้นคว้าผลิตวิจัย ยอดขาย 100 % ถ้าเป็นราคาขายจะเป็น 200%
การsupply ของ ขายส่งให้ wholesales เช่น modern trade
ขาย รายได้จาก modern trade 70-80% export 10%
จะprelaunch product ใหม่ ในเดือนมีนาคม มี บอย ปกรณ์ เป็น presenter
ยอดขายแต่ละปี ดีขึ้นทุกปี ปีที่ผ่านมาเจอปัญหาทางการเมือง ปกติโต 5-8%
ปีที่แล้วเหมือน ปี40 โต 0.3-0.5%
ธุรกิจค้าปลีกแย่มาก รากหญ้าไม่มีกำลังซื้อ ผู้ผลิต ผู้ค้า ประสบปัญหา ปี57 ยอดขายปิด 1000 ล้านบาท ไม่สามารถโต30% โตแค่ 17%
ยอดผลิต หนึ่งในสามของยอดขายแล้ว
ขั้นตอนการผลิต
ซื้อสำเร็จรูป
ค้นคว้าวิจัย ซื้อวัตถุดิบมาmix ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเบ้าส์
บรรจุผลิตภณฑ์
ปีนี้ครบทุกขั้นตอน ลงทุนสร้างบุคคลากร จ้างนักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศจากเกาหลีมาช่วย ธุรกิจขนาดใหญ่ ปกติ จะแบ่งสัดส่วน นำเข้า กับ ผลิตเองเป็น 50:50
เราพยายาม ให้เป็น 50:50
สินค้าของ KAMART 3 กลุ่ม
1.หลักเป็น Body care สบู่เหลว เครื่องหมักผม โลชั่น
2.Skin care
3.Make up

JMART
หมอเคให้ข้อมูลว่า ประกอบไปด้วย 1. ค้าปลีกมือถืออันดับหนึ่ง 2.บริหารจัดการหนี้ 3. บริหารจัดการพื้นที่ให้เช่า
คุณอดิศักดิ์ แจ้งว่าปีนี้เป็นปีที่26ของบริษัท เจ้าของอายุจะ 60 ปีแล้ว
มี 4 business
1.โทรศัพท์มือถือ 2. บริหารหนี้สิน 3.บริหารพื้นที่เช่า 4. ลงทุนต่างประเทศ
ธุรกิจที่1 เป็นผู้ค้าโทรศัพท์มือถือ 255 สาขาทั่วประเทศมีแผนขยายสาขาต่อ
ธุรกิจที่2 มีบริษัทลูก JMTเข้าตลาดมา2ปี บริหารหนี้สิน และ รับซื้อหนี้มาเข้าตลาดไป 2 ปี JMARTถือJMT 75% เริ่มซื้อเมื่อ 8 ปีที่แล้วหนี้จำนวน 32,000ล้านบาท ปีที่แล้วซื้อหนี้มากสุด 30,000 ล้านบาท น่าสนใจ ว่าหนี้ทำไมมีเยอะ หรือเป็นจังหวะที่บริษัทขายหนี้ให้ JMT ใช้เงินไป 3000 กว่าล้านบาท สำหรับหนี้ 63,000 ล้านบาท คิดเป็น 5-6% ของมูลหนี้
เป็นช่วงจังหวะของ JMT ที่ผู้ขายอยากขาย ปีนี้ อยากซื้อ 30000 ล้านบาท ใช้เงิน 1000 กว่าล้านบาทซื้อมา
ธุรกิจที่ 3 JASASSET โดยJmart ถือ 100% อยู่ในกระบวนการทำIPO จะเข้ากลางปี ทำพื้นที่เช่า ต่อเนื่องจาก JMART ที่ทำมือถือ มีสัญญาใน Big C ห้ามไปทำกับคู่แข่งเรียกว่า IT Junction ทำซอยเป็นห้องย่อย ให้ร้านค้ามือถือมาเช่าจำหน่ายมือถือ ตอนนี้มีผู้เช่า 1400 ราย ส่วนใหญ่รับสินค้าราคาต่ำ ปีที่แล้ว Jasasset เปิด community mall Jas วังหิน ปีนี้เปิดในเดือนสิงหาคม ที่รามอินทรา
จุดยืนของกลุ่ม มองไปที่ retail ค้าขายกับค้าปลีก ตามหนี้กับretail ขายพื้นที่กับretail และต้องการเป็นที่ 1 ของทุกธุรกิจที่เราทำ เราต้องอยู่ให้ได้ในอันดับต้น ถ้าไม่อยู่ในลำดับต้นๆ การแข่งขันจะลำบาก จะไม่ได้เรื่องeconomy of scales
ธุรกิจที่ 4 ที่พม่าเปิด ร้าน Jmart Mobile เราถืออยู่ 40% อยู่ที่ย่างกุ้ง 22 สาขา โชคดีไปเมื่อ2ปีที่แล้วไม่งั้นต้นทุนเพิ่มอีก 30-40% เพราะหาพื้นที่เช่ายากขึ้น
ซื้อ Jmart ตัวเดียวได้ทั้ง Jmart ,Jmt ,Jasasset และร้านค้าที่พม่าซึ่งถือ40%ด้วย

คำถามที่2 ผลการดำเนินงานในปี57
OFM
ภาพรวมปีที่แล้ว หลุดเป้า 20% พอมีปัญหาการเมือง ปรับลดมาที่13% แต่โตได้ 7-8% ถือว่าดีสำหรับ office supply โต 10%
B2S โต 2.5-2.6% ใน industry ติดลบ 10-20% B2S ดีใจที่คู่แข่งปิดสาขาไป เรามีสินค้า mix ขายในstore
Content ซีดีเพลง หนัง 97% Non content สินค้าหมวก หน้ากาก iron man 3% พอปลายปี56 คนชอบโหลดฟรี เราปรับตั้งแต่ต้นปี57 เหลือ 80 % สินค้า non content ขึ้นมา 20% กำไรเลยโต 8-9% music box เป็น trend ดี เอามาขาย ทำให้ B2S ยอดขายไม่ได้เติบโตมาก แต่กำไรโตขึ้นเยอะ B2S มีการปรับสาขา
สาขาในอดีต ธุรกิจ B2S อยู่ที่นศ คนทำงานจบใหม่ กลุ่มครอบครัว แต่Store ไม่ intrend กับกลุ่มนี้เลย
สาขาชิดลมปรับก่อน เพื่อรับกับ trend ที่เปลี่ยนไป ต่อมาเป็นสาขา central world เริ่ม roll out ไปเรื่อยๆ ผลักดันสินค้าให้ขาย onlineมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อน office mateสาขาใช้ พื้นที่ 1000 – 1500 ตรม ตอนนี้ 600-800 ตรม ลดพื้นลง40%แต่ขายสินค้าได้เท่าเดิม โดยใช้ ระบบ E ordering มีtouch screen สำหรับสั่งสินค้า ทำให้สินค้าไม่ต้องเก็บไว้ที่สาขา แต่ไปส่งให้ลูกค้า เช่น เก้าอี้ หรือ กระดาษ 30 รีม
ค้าปลีก ที่อยู่รอดได้ จาก 100 มาเหลือแค่ 50ราย เพราะต้องปรับตัว ใช้ technology website online มาช่วย
อนาคต OFM จะโฟกัสไปที่คนทำงานนoffice แนวโน้ม store OFM สินค้าไปที่ฐานลูกค้าคนทำงาน
ในส่วน online เริ่มต้น ยอมรับว่าไปช่วย central group แต่มีปัญหาอยู่เยอะ ดังนั้นปีนี้ปรับกระบวนการ ทีมonlineแยกออกมาต่างหาก web central online ปีที่แล้ว เจอปัญหาของไม่พอขาย เช่น Samsung galaxcy note4 ได้มา 80 เครื่อง ขาย บน central online 15 นาทีหมด ได้เปรียบเพราะชื่อ central ขายไม่พอ order ที่เข้ามา order แรก 2400 บาท ซื้อครั้งที่สอง เป็น 3000 บาทขึ้นไป
การเติมของจาก retail เข้า online ไม่ทัน ตอนนี้รับพนักงานทำ online 200 คน
จุดเด่นของ central online เมื่อเทียบกับ คู่แข่ง คือ web เราเป็น web น่าเชื่อถือที่สุด
และ ต้องแก้ของไม่พอลูกค้าสั่ง ของไม่มีให้เลือก
การจัดส่ง เราส่งฟรี ถ้ายอดสั่งเกิน 499 บาท ส่งเฉพาะในอำเภอเมือง ในวันรุ่งขึ้น10กว่าจังหวัด ตอนนี้พยายามปรับให้ส่งในวันรุ่งขึ้นทุกจังหวัด เฉพาะในอำเภอเมือง
เกิดธุรกิจ logistic ให้ผู้ขายสามารถมาใช้บริการ logistic system OFM ได้ ทำให้ต้นทุนการจัดส่งถูกลง
ธุรกิจ Digital agency สำหรับ support บริษัทในเครือ ให้ Google มาช่วยเป็น partner ให้เรา เป็นบริษัทขายAd ซื้อเหมาเข่ง และ มาขายแยก
บริษัท เกิดมาปั๊บก็กำไรเลย
บริษัทในเครือ เช่น Centel เราไปพัฒนาว่า ทำอย่างไรให้ใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพ
บางทีต้องการเทคโนโลยีใหม่ เช่น Icon Ifind ทดลองอยู่ เห็นคนซื้อในห้างในพื้นที่ไหน ธุรกิจค้าปลีกท้ายสุดก็มาใช้ระบบนี้ เราทำตัวเป็น venture capital
Catalog OFM ถ่ายสินค้า มือถือในหนังสือ ก็จะกลายเป็น buy ordering ทันที
เทคโนโลยีนี้จะนำไปสู่ ธุรกิจ Website marketplace สำหรับขายสินค้า เหมือน Ebay , alibaba เก็บค่าtransaction fee
ยอดขายปีนี้ตั้งเป้าแบบ conservative 15% จริงๆคิดไว้ 18-20%
กำไรจะโตมากกว่า 18-20% fix asset ไม่ได้เพิ่ม ธุรกิจ retail เรามีแผนขยายไปใน south east asia : เวียดนาม มาเลย์เซีย ไม่ได้มองแค่ไทย ทำให้บริษัท secure ขึ้น เพราะไทยโตต่ำสุดในภูมิภาค เป็นจุดที่เราต้องไปต่างประเทศ

MC group
ปีที่แล้วยากสำหรับ retail ทุกแห่ง แต่เราโต 17%
Button line NPM เกิน 20%มาตลอด ปีที่แล้ว drop ไปนิดหน่อย
ปีนี้มั่นใจ แตะ 5,000 ล้าน โต 25-30% รวมนาฬิกา 400 ล้าน กางเกง4,600 ล้านบาท
เราตัดกางเกงและเสื้อ 5ล้านตัว
ปีที่ผ่านมา ลงทุนระบบ SAP 200 ล้าน บริหารหน้าร้าน หลังบ้าน ในการบันทึกบัญชีและ เปิด warehouse ใหม่ ที่ WHA บริหารstock สินค้าคงคลังเพื่อรอบรับสาขา 800สาขามี size ทุกขนาด
Strategy 2 อย่างคือ
1. ทำอย่างไรให้ลูกค้ามาเข้า 17-18 ครั้งต่อปีเหมือน sara MC เข้าปีละ2ครั้ง
2. ทำอย่างไรเพิ่มจำนวนเงินของการซื้อของลูกค้า เช่น ซื้อเสื้อเพิ่มนอกจากซื้อกางเกง เพิ่มสินค้า เช่น กระเป๋าเดินทางที่นำเข้ามา น้ำหนักเบาๆ มีล้อลากสำหรับคนสูงวัย
Ecommerce เหมือน OFM ได้คุยกับ คุณวรวุฒิแล้ว เพราะtrend มาแน่ๆ เรามีขั้นตอน Ecommerce อยู่แล้ว แต่มีปัญหาการวัดตัว แก้โดยมีสาขาเยอะ ถ้าใส่ไม่ได้ไปเปลี่ยนที่800สาขาได้
เสนอแนะจากดร ไพบูลย์ว่าน่าจะมีการเอาเสื้อ กางเกงมาลองใน application เพื่อดูความเหมาะสม เรามีเทคโนโลยีคล้ายกัน สามารถลองดูสีมาเข้ากันหรือเปล่า ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าเรามากขึ้น ระบบ ERP ทำให้เรารู้ว่าแต่ละสาขาขายสินค้าอันไหนดีมาก ระบบใหม่จะรู้ว่าจัดสรรทรัพยากรอย่าง ดี
นาฬิกา time deco ที่ขายใน MC ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ คุยกับผู้บริหาร time decoคนซื้อจะไม่ไปลองที่ร้าน MC ปกติต้องไปดูที่ร้าน นาฬิกา ผลตอบรับ ปิดยอดปี57 ได้ 400 กว่าล้านบาท ไม่ hit target แต่รับได้ กำไรเป็น double digit แล้วจากเมื่อก่อนเลขหลักเดียว
ดร ไพบูลย์ ถามว่า คนใส่ตัวเดียวนานมาก
ตอบว่า คนชอบยีนส์ จะไม่ได้มีแค่ตัวเดียว จะซื้อหลายแบบ
บริษัทให้พนักงานใส่ยีนต์ทุกคน พนักงานจะได้คึกคัก
เจ้าของ kamart ยังใส่ยีนต์ด้วย โชว์ในงาน
บริษัทมีแผนไปขายสินค้ายีนส์ และ สินค้าอื่นด้วยตามปั้มน้ำมัน ปตท ตามแนวการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ รถติด ศึกษาfeasibility study เรื่องนี้กับปตทอยู่ ปตท ก็พยายามขายพื้นที่ นอกจากมี 7-11 ทาง MC ดู เขตใกล้ชุมชน ทุกแห่งมีwifi ก็มาเล่นที่นี่ ซื้อของ online MC คนที่กิน amazon ก็มาเป็นลูกค้าได้
ปี 58 ยอดขายโต 30% คง profit 20-25%
นาฬิกา มีตั้งแต่เรือนแสน ไปถึงเรือนหมื่น
KAMART
มีการเติบโตทุกปี โครงสร้าง GP กำไรเพิ่มทุกปี ธุรกิจเป็นการแปลงธุรกิจจาก Distar ทำรถ เป็น ธุรกิจเครื่องสำอาง มีการขาดทุนสะสม ปีที่ 1,2 ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ มี tax shield ช่วยเรื่องกำไร พอมา 2 ปีหลังยอดขายโต กำไรโตขึ้น ตัดstockเก่าออก เริ่มทำปีที่แล้วส่วนหนึ่งและต้องจ่ายภาษีเงินได้ ทำให้เงินสด เหลือมากขึ้น กำไรรวมโตขึ้นทุกปีปันผลQuarter ละ 6 สต ทุกไตรมาสตั้งแต่4ปีที่แล้ว ดูได้จากbalance sheet เอาเงินลงทุน 30 บาทมาตก 70 บาท ดูจาก ชิเซโด โลลีโอ ดูผลประกาศต้องเข้าใจธุรกิจ
ปีนี้ write off NGV 100กว่าล้าน หมดปี58 ปันผลน่าจะมากขึ้น
ปีนี้ตั้งเป้าจาก 1,000 ไป 1,500 ล้านบาท โต 50% ปีนี้จะบุก มี spot มากขึ้น มี4ชุด เริ่มที่นางฟ้าเคทีดอลออกมาในมีนา magic vita sun creamโดย บอย มาเปิดตัวในวันที่ 27 กพ ปีนี้เป็นปีแรกใช้งบค่อนข้างสูง ปีที่แล้ว มีแค่ชุดเดียวตอนมีนาคม
ตั้งเป้าเพิ่ม โดยเน้นที่product ที่ขายดี มั่นใจมาก ถ้าได้ยอดขายสัก 1,400 ล้านบาทกำไรไม่รู้เรื่องแล้ว ตั้งเป้าโตทุกช่องทาง ของไม่พอขายโดย เฉพาะแป้ง cc compact powder baby doll
ธุรกิจต่างประเทศ ปกติแบบไม่official agent สั่งไปขาย ในอินโดจีนอยู่แล้ว
เราเริ่ม official ที่ KL Malaysia ยังอยู่ในช่วงจัดตั้ง ต้องใช้เวลา เช่น apply FDR ยังไม่ได้แจ้งตลท เราจะแจ้งเมื่อใส่เงินไปจริง อีก 2 ที่ คือ กวางเจา เวียดนาม
ตอนนี้สินค้าไปจำหน่ายอย่างไม่ทางการที่ จีน เวียตนาม มาเลย์เซีย แล้ว

JMART
1. มือถือ GDP 1% เชื่อว่าต่ำสุด ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว ปีนี้น่าจะดีขึ้น มือถือล้อตาม GDP
2. ธุรกิจตามหนี้ มีการเติบโต 50-60%
3. ธุรกิจพื้นที่เช่า โต 60% รอบรับการทำ IPO กลางปี
สัดส่วนรายได้ มือถือ 90% อีก 10%มาจาก2 ธุรกิจ ปกติกำไรมาจากมือถือ 75% อีก25% มาจาก2 ธุรกิจหลัง
ปีที่ผ่านมากำไร มือถือ 50% , อีก 2 ธุรกิจ เป็น 50% แล้ว
เมื่อรวมกันเทียบกับ ปี 2013 รายได้drop 5% แต่รวมแล้วโตขึ้น
ปี 58 จะเป็นอย่างไร ตัว market share สูง ซัมซุงโดนกระทบสูงจากสินค้าจีน แต่ปีนี้จะกลับมาใหม่ น่าจะทำให้ภาพโดยรวมดีขึ้น
การใช้จ่ายภาครัฐมากขึ้น ทำให้ภาพรวมปีนี้ มือถือดีกว่าปีที่แล้ว ยังขยายสาขาอยู่
ธุรกิจตามหนี้ จะซื้อหนี้มากขึ้น ประกาศproject ใหม่ ธุรกิจสินเชื่ออันใหม่ร่วมกับ ทีมงานญี่ปุ่น สินเชื่อมีหลายรูปแบบ เราเลือกทำสองอย่างก่อน
จำนำทะเบียนรถ กับ Nano finance หัวใจของธุรกิจเช่าซื้อคือการเก็บเงิน ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราที่ทำมา 20 ปี set up ทีมงาน และ รูปแบบธุรกิจ เรียบร้อย ประกาศในเดือนเมษายน จะเห็นผลกำไรในปีที่สองและสาม เป็นบริษัทลูกของJMT และ จะเข้าตลทในปีที่ 4-5 เชื่อว่าคนได้ประโยชน์มากสุดคือผู้บริโภคที่มี choice มากขึ้น
ธุรกิจพื้นที่เช่า เราพยายามขยายพื้นที่เช่า IT junction ขยายอีก 8 เป็น 52 สาขา
โดยภาพรวม Jasasset โต 70% hit record ขยายสาขาปีละแห่ง

ปีนี้ ตั้งเป้าโต 15% ไม่มีอะไรง่าย ตลาดdynamicมาก การแข่งขันสูงขึ้น คนขาย กล้อง คอม ขายไม่ได้ ก็มาขายมือถือ ผมเชื่อว่าเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นเหตุในการทำ M&A ร่วมทุน อีก 2 บริษัท
บริษัทแรก เป็น xxxx hut ถือ 70% เขาถือ 30% สามารถเพิ่ม product line ได้
อีกธุรกิจจะไปซื้อมา เป็นธุรกิจต่อเนื่องกัน Jmart , JMT ก็ได้ benefit น่าจะจบไม่เกินกลางเดือนหน้า
โดยมีแผนการเพิ่มทุนคร่าวๆ Jmart & JMT ยังไม่ได้ประกาศ
ตอนเข้าตลาด 6 ปีที่แล้ว Market cap 560 MB เป็น 7,000 MB อยากเห็น6ปีข้างหน้ามีการพัฒนามากขึ้น ในแง่การทำธุรกิจต้องมีstrategy ที่จะไปมีรูปธรรม เป็น long term มือถือ ก็ 25 ปี เมื่อก่อนไม่มีระบบ สร้างขึ้นมา ของใหม่ไม่ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี
เข้าตลาด funding , ทีมงาน , technology ไม่น่ามีปัญหา อีก 4 -5 ปี ก็โตตามที่ต้องการ
ตามหนี้ ถือ 75% , Jasasset ถือ 67%
Nano finance อยู่ใน บริษัทลูก ของ JMT

Summarize ยอดขายทั้ง4บริษัท
OFM โต 15% พัฒนาเป็น Central online
MC โต 25%
Kamart โต 50%
JMart จะมีบริษัทลูก เข้าตลาด คือ JASASSET


สัมมนาหัวข้อที่สอง “บริหารเงินบริหารหนี้และภาษี ให้มั่งคั่งแบบมืออาชีพ”

1.ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร
ประธานชมรมคนออมเงิน

2.ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย

3.ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน

4.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
ผู้เชี่ยวชาญจากรายการ Money Talk

อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

ดร สุวรรณ พูดว่าเมื่อหลายปี เคยเขียนหนังสือ รู้อย่างงี้ขอเกิดเป็นม้าดีกว่า
ที่อเมริกา มีม้าตัวหนึ่งชนะตลอด มีใครต้องการเอาม้าตัวเมียมาผสมจริง
ต้องจ่ายเจ็ดแสนห้า คนต้องการต้องผสมจริง 35 ครั้งต่อปี เชื้อต้องพัก10วัน มีม้าตัวเมียมาผสม 35 ครั้ง เป็นม้าไม่ต้องเสียภาษี เจ้าของยังวางกฏ ถ้าไม่ท้อง ต้องเสียอีกครั้ง
ดร ไพบูลย์ เวลาด่ากัน เก๋าเจ้ง แปลว่า ชาติม้า เวลาหนัง เป็นชาติหมา
อจ เสน่ห์ เวลาเผาของ เผาน้อยลง เมื่อก่อนหาของมาเผา บรรพบุรุษ บอกว่าไม่ต้องหามาเผามาให้ สดวก เผา central world ,central point ,big c ไม่ต้องส่ง iphone Job ทำ iphone 8 แล้วไม่ต้องเผาส่งมา ต่อไปดีๆจะส่งลงมาให้
ช่วงแนะนำตัววิทยากร
ดร สุวรรณ ถ้านับเวลาที่อยู่กับเรา คิดค่าสัมมนา money talk รายได้ทั้งปียังไม่มีเงินจ่าย
เป็นประธานชมรมผู้ออมเงิน เชิญชวนคนออมเงิน ให้ประโยชน์แก่ส่วนรวม ขอปรบมือให้ดร สุวรรณ ด้วยครับ
ดร สมจินต์ sponsor และ ช่วยพูดให้ความรู้ เป็นคนจิตใจงาม ครอบครัว จิตใจงามทุกคนโดยเฉพาะน้องชาย คุณมนตรี อ้วนไปบ้าง 120 โล อจ เสน่ห์ดูผอมไปเลย
มีคนถามดร ไพบูลย์ ว่า ดร นิเวศน์ มีคนถามว่ามีเงินจริงหรือเปล่า จบดรหรือเปล่า
อจ เสน่ห์บอกจริง แต่รวยจริงแต่ทำงานเหมือนหมาตัวหนึ่ง เหมือนชมวีดีโอหมาในงานแต่ขอชม ดร นิเวศน์ ชีวิตสมถะ คนใช้รถปานกลาง
ดร ไพบูลย์ บอกว่า ดร นิเวศน์ จนลงเยอะ เพราะ ไม่ค่อยได้ใช้ตังค์ มีแต่ตัวเลจ อจ เสน่ห์ บอกควักกระเป๋าตังค์ มาดู มากกว่า ดร นิเวศน์ อีก 400 นับแล้วนับอีก
ดร ไพบูลย์ ราคา โรงแรม และ ตั๋วเครื่องบิน มีราคาขึ้น มีลง มีการสอนวิชาpricing ที่นิด้า อจ พึ่งจบจากมิชิแกน มีสอนแค่ที่เดียว
งานวันนี้คนไม่เยอะ ดร ไพบูลย์ บอกว่าเล่นไพ่ดึก เลยตื่นไม่ไหว คนเล่นตีแตกตามดร นิเวศน์ ดร นิเวศน์ โฆษณา ถ้าเล่นตีแตกไม่เป็น ให้อ่านหนังสือของอจได้
เริ่มเข้าเนื้อหา
ดร ไพบูลย์ ถาม ทำไมต้องบริหารเงินบริหารหนี้และภาษี อจ เสน่ห์ ตอบว่า
เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่ไม่มีก็แย่
ถ้าเราใช้เงินอนาคต บัตรเครดิตเต็ม บ้าน รถ เป็นหนี้ จัดงานแต่งเกินตัว เป็นหนี้
อีกกี่ชาติก็ส่งไม่หมด ส่งหนี้ไปอยู่ชาติหน้า
เราต้องจัดการเรื่องภาษี ภาษีไม่ได้มีไว้เลี่ยง เราต้องบริหารให้เป็น จัดการเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีเงินออมเพิ่มขึ้น
อจ สมจินต์ และ ดร นิเวศน์ น่าจะพูดเรื่องการบริหารเงินออม
อจ สุวรรณ ไม่เคยเป็นหนี้ มีแต่หนี้บุญคุณ แต่มีคนมาปรึกษาเรื่องหนี้เยอะ
อจ นิเวศน์ มีแต่หนี้รัก 555 อจ ดราม่ามาก
ภาษีมรดก ภาษีทรัพย์สิน พูดโดยดร สุวรรณ ยังมีเรื่องกฏหมายค้ำประกัน
นักลงทุนไม่ควรละเลยเรื่องการลงทุน การบริหารหนี้ และ ภาษีมรดก
รวมถึงการบริหารคณะบุคคล

บริหารเงิน โดย ดร สมจินต์
Money coach เพื่อนรักพารวยเป็นหนังสือที่มอบให้ลูกค้าที่สำคัญ เขียนแบบเล่าเรื่อง สอนวัยรุ่นดีมาก อยากได้ โทรไปที่ 1725 จำกัด 50 เล่ม ลงชื่อหน้างาน สำหรับลูกค้าบลจ ทหารไทย ได้ บลจ ทหารไทย อยากเป็นเพื่อนคู่การลงทุน สร้างนิสัยการลงทุน
สิ่งที่แนะนำเรื่องการลงทุน
ประการแรก รู้เขา รู้เรา ของ ซุนวู
รู้เรา ตั้งใจลงทุน แบ่งเป็น วัตถุประสงค์
กองหน้า wealth builder สร้างความมั่งคั่งในระยะยาว อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต้องสูง ความเสี่ยงต้องควบคุม
ระยะ 5-7 ปี
กองกลาง Income provider medium risk medium return ปกติ bond yield ตอนนี้ ผลตอบแทนต่ำ เปลี่ยนไปลงทุนเป็น property income example : TMB property income invest ใน ประเทศ 1/3 เป็นกองริส และลงทุนpropertyใน ต่างประเทศ 2/3 จ่ายปันผลรอบละ 12 สต ปีละ 48 สต
กองหลัง money manager สำหรับรองรับการใช้จ่าย 6 เดือน ถึง 1 ปี ลงทุนในตราสารระยะสั้น เช่น กองทุนทหารไทยธนพลัส ธนไพบูลย์ ซึ่งกองธนไพบูลย์ โต 5,000 ล้านบาท
ไม่ว่ามืออาชีพ หรือ มือสมัครเล่นทำแบบนี้ ไม่ว่าศก ผันผวนอย่างไร เรามีกองหลังคอยsupport ถ้าช่วงดี เอากองกลาง ย้ายไปกองหน้าได้ บางครั้งไม่ดี ย้ายกองกลางไปกองหลัง
ดร ไพบูลย์ ถาม อจ นิเวศน์ ซื้อรถ เป็นหนี้ได้ไหม
ดร นิเวศน์ บอกว่าเป็น หนี้ได้ แต่ ต้องดูว่า เป็นหนี้แล้วพอกินหรือเปล่า
สมัยก่อน เป็นหนี้ โดยซื้อบ้านเมื่อหลายสิบปี ผ่อน และ ให้เช่า ปรากฏว่าไม่คุ้ม ก็เลยขายไปใช้หนี้ หนี้ของการบริโภค การใช้จ่าย ซื้อรถ มีเสื่อมสภาพ ยิ่งใช้ยิ่งเสื่อมมาก
บ้าน ถือเป็น หนี้ดี ราคาไม่ค่อยลง แต่ไม่ค่อยขึ้น
ถ้าไม่มีเงิน ก็อยู่บ้านพ่อแม่ และ เอาเงินไปลงทุนหุ้น ได้ผลตอบแทนดี
อจ เสน่ห์ แย้งว่า เหตุการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนตัวไม่มีแม่ยายให้พึ่งอยู่อาศัย
พ่อแม่อยู่ ไกล อยู่ต่างจังหวัด ไม่สดวก เลยต้องซื้อบ้าน ตอนนี้ยังเหลือบ้าน ถ้าซื้อหุ้นปี40 ไม่น่าจะเหลือเงิน ตอนปี 40 รายได้ดี ฝากตั๋ว PN สัญญาจะจ่าย เราเชื่อเขา ดอกเบี้ยดี แต่ตอนซื้อบ้าน ก็ถอนออกมาซื้อบ้าน ปรากฏว่า เศรษฐกิจไม่ดี เงินที่อยู่ PN ออกไม่ได้ โชคดียังหารายได้ อยากเอาเงินออก ต้องเสียค่าเอาออก โดน discount ถ้าวันนั้น โชคดีไม่ได้ลงหุ้น และ ตั๋วPN หมด มีบ้านเป็นกองหลัง ไม่ต้องเสียค่าเช่าใคร สามารถตั้งเนื้อตั้งตัว กลับมาพูดหารายได้
ดร นิเวศน์ แย้งว่า อยู่บ้านแม่ยายดี อาหารพร้อมเสร็จ พอมีลูก มีคนดูแล ประหยัดเงินดี
อย่างน้อยมีคนช่วยดูแล บ้าน ลูก จะเอาอะไรอีก ไม่ต้องจ้างคนมาดูแล สวรรค์ เอาเงินที่เหลืออยู่ไปลงทุน ดร ให้ชื่อเจ้าของหุ้นเป็นชื่อภรรยา ให้เขามีความสุข ตัวเองได้เงินแค่ 400 บาทต่อวันก็มีความสุขแล้ว คนหนุ่มสาว ประหยัดเงิน อยู่บ้านพ่อแม่ หรือถ้ามีบ้าน ก็ขาย ไปอยู่กับพ่อแม่ดีกว่า หรือ เช่า บ้าน คอนโด ถูกๆ เจ้าของคอนโด ซื้อมาปล่อยเช่า ไม่คุ้ม
ดร สมจินต์ เรื่องการบริหารเงิน อย่างมีความสุข การเช่าอยู่ นึกถึงตอนแต่งใหม่ที่ญี่ปุ่นเช่า อพาร์เมนต์ มีวิธีเลือกบ้าน เพื่อนทำงานชาวอเมริกัน เช่าบ้านหลังใหญ่ เดินทางไกลเป็นชั่วโมง ดร เช่าหลังเล็ก แต่ใกล้กว่า แค่ 20 นาที มีพลังการทำงาน มีเงินเหลือไปลงทุน
เวลามีหนี้สิน แบ่งเป็น หนี้สินบริโภค และ หนี้สินบ้าน
หนี้สินทั่วไปไม่ควรเกิน 20% หนี้บ้านไม่เกิน 25% รวมหนี้สินทั้งหมดไม่เกิน 45% ของรายได้ ในช่วงต้นของการแต่งงานไม่ควรมีบ้าน แต่ถึงเวลาหนึ่งเจอบ้านถูกใจ ไม่อยากให้ภาระบ้านเยอะไป หนี้ทั้งหมดไม่ควรเกิน 45% ซัก 30% ก็ดี
ดร นิเวศน์ อยู่บ้านแยกกับแม่ยาย ไม่ต้องมีแม่บ้านมาดูแล ลูกอยากอยู่กับยาย
ดร ทำตามบทบาท หมายถึง ทำงานบ้าน
ดร สุวรรณ ซื้อบ้านคุ้ม 30 กว่าปี ที่สุขุมวิทซอย 8 ประมาณ 5 ล้าน ตอนนี้ ราคาขึ้นไป100 กว่าล้าน ซื้อที่เพิ่มหลังบ้าน 1 ไร่ ไว้เลี้ยงกระรอก เหลือแค่มะกรูด เพราะกระรอกกินผลไม้อื่นหมด ประโยชน์คือได้สวนเบญจกิตติ อีก 500 ไร่ ได้ทะเลสาบ มีคนคอยตัดหญ้า รดน้ำใส่ปุ๋ย จ่ายอีก 100 กว่าล้านบาท สำหรับที่ดินนี้ ตอนนี้ขายน่าจะได้หลายร้อยล้าน ติเรื่องหุ้น เป็นทรัพย์สินที่ไม่เห็น ถ้าลงในทองคำก็มีความสุข เพราะเห็นของ เคยเป็นหนี้บ้าน กู้จากเอไอเอ ร้อยละ 14 กู้ 15 ปี แต่ทำงานใช้คืนภายใน 4 ปีกว่า
การบริหารเงิน วิเคราะห์ ฟังผู้รู้ แต่มีตัวช่วย คนหนึ่ง คือ พระผู้เป็นเจ้า อยู่หน้าเราปกป้องเรา อยู่หลังเรา อยู่บนเรา ก็เลยดูแลเด็ก autistic ที่ย้ายมาอยู่โบสท์มหาไท 200 คน ดร สุวรรณ ใจบุญมากครับ ต้องขอบคุณแทนเด็กๆด้วยครับ
ภาษีนิติบุคคลสมัยคุณกิติรัตน์ลดจาก 30 เหลือ 20%
ตอนนี้ คณะบุคคล หสม เสียภาษีซ้ำซ้อน ควรปิด ห้างหุ้นส่วนซะ
พยายามหาเงินเป็นชื่อตัวเอง ให้เสียภาษีแค่ครั้งเดียว
ภาษีมรดก ใน เดือน มีค ประกาศ และเตรียมตัว 90 วัน ใช้ เดือนกค
50 ล้านบาทแรก ไม่เสียภาษี เกิน เสีย 10%
วิธีแก้ไข คือ พยายามหายใจ ไม่ตาย ก็ไม่เสียภาษี ผมยังทำงานอยู่เลย
สมัย จอมพล ป ปี 2478 ใช้ได้ 8 ปี ก็ยกเลิก เพราะ เก็บภาษีไม่ได้
ต่างประเทศ ยกเลิกกันหมด เช่น มาเลย์ สิงค์โปร์ ฮ่องกง อินเดีย ออสเตรเลีย
ตัวภาษีที่น่าเป็นห่วง คือ ภาษียกให้อย่างเสน่หา เช่นให้ลูก ต้องให้แบบไม่มีร่องรอยเช่นให้เงินสด หรือ ทองคำ ตอนนี้อยู่ในวาระสองของ สนช
ทำอะไรก็ตาม เล่นหุ้น เสียอย่างเพราะต้องทำตามโบรก เงินผ่านธนาคาร มีหลักฐานถ้าโอนให้คนอื่นต้องเสียภาษี
ส่วนหุ้นนอกตลาด โอนใบหุ้นผู้ถือ ยังไม่ลงลึก ต้องรอรายละเอียดประกาศอีกที
ณ ขณะนี้ ถ้ามีหุ้นอยู่ ต้องโอนหุ้นภายใน90วันหลังประกาศ แต่มีข้อเสีย ถ้าลูกขายทิ้ง
ถ้าเราไม่ได้เล่นการเมือง ไม่ค่อยมีใครสนใจ
ภาษี โอนให้ลูกในไส้ เสีย 5% แต่โอนให้คนอื่น รวมลูกบุญธรรม เสียภาษีสูงสุด 35% ถ้าเกิน 4 ล้านบาท ตามกฏหมายภาษีบุคคลธรรมดา
ภาษีบ้านและที่ดิน ไม่น่าเกิดได้เพราะ ออกยาก
ภาษีที่ดิน 22 ล้านใบ มีราคาประเมินแค่ 8 ล้านฉบับ ต้องใช้เวลามาก และ ยังมี ที่ดินออกบนภูเขา เช่น ภูเก็ตที่ยังมีการฟ้องร้อง ถ้าเก็บแสดงว่ายอมรับโฉนดที่ดิน
RMF – LTF
ยังไง LTF ยังไม่เลิก แต่เพิ่มเงื่อนไข ขยายเวลา จาก 5 ปี เป็น 7 ปี ยังไม่ยืนยันตอนนี้
วิธีแก้ไขที่ดีการซื้อ RMF / LTF เพื่อลดหย่อนภาษี
ดร สุวรรณ เห็นคนมาซื้อคอมพิวเตอร์ ที่งานคอมมาร์ต แย่งกันซื้อ
แนะนำตั้งPrivate company ตั้งขึ้น ตัวบุคคลตาย บริษัทตาย ดังนั้นคนตาย แต่บริษัทไม่ตาย จ้างคนทำภาษีมาทำ เอาค่าเครื่อง เข้าบริษัท คืนvat 7% เคลมค่าเสื่อมได้
ถ้าขยันดูแล หัก ไม่จำกัด ตามความเป็นจริง
เรื่องรายได้ บริษัท ตั้งขึ้น เอาเงินลงทุน ซื้อที่ ปล่อยเช่า ก็มีรายได้
คนกินเงินเดือน ปรึกษาบริษัทให้เปลี่ยนรายได้เงินเดือน เป็นที่ปรึกษา หักภาษีได้ 30 % provident fund หักได้ 30% บริษัท มีเราแค่คนเดียว ไม่มีใครไล่เราออกได้
การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าเราลงทุนได้ 5-7ปี เราจะไม่ขาดทุน ดูจากสถิติได้ปีละ 17% ซื้อหุ้นไม่ดูเงินปันผล ดูว่ามี growth หรือเปล่า ดูเจ้าของ ว่าเป็นคนดูแล market making หรือเปล่า หมายถึง ถ้าหุ้นถูก ซื้อคืน ถ้าแพงไป ปล่อยหุ้นออกมาให้ราคาลง

ดร นิเวศน์ บอกว่า ได้เงินแค่ 200 บาท เห็น 500 บาทก็ดีใจ
ดร ไพบูลย์ บอกว่า
ความตายต้องมีการบริหาร เราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้จริง ระลึกถึงความตายเสมอ บริหารเวลา ลงทุน และ ภาษี ไม่ประมาทการใช้ชีวิต ไม่ทำความชั่ว ไม่ก่อหนี้
ซึ่งอาจถ่ายทอดไปให้ทายาทด้วย
ดร สมจินต์ บอกว่า ทำความเข้าใจในอนาคตว่าคำถามมีกองทุนประหยัดภาษีหรือเปล่า
ปี 58 – 59 ลงทุน LTF ได้อยู่ สมมติ ว่าไม่ต่อ แต่ยังถือได้ต่อไป แต่เห็นด้วยว่า
น่าจะให้ต่ออายุกองทุน LTF ต่ออีก
ถามดร นิเวศน์ ว่าควรซื้อประกันชีวิต หรือเปล่า
ดร ตอบว่าไม่ควรซื้อ ประกัน เพราะรับเงินเราไปยาวมาก ถ้าเราเอาไปลงทุนset50 ได้มากกว่า ถ้าเราตาย ทายาทได้ไปไม่เยอะ ส่วนใหญ่คนซื้อมีเงิน ถ้าตายก็ไม่เดือดร้อนมากนัก อย่าคิดว่าการซื้อประกันชีวิต คือการลงทุน ผลประโยชน์ต่ำเป็นเวลายาวมาก
เงินก้อนนี้ จม แต่ถ้าลงกองทุนรวม เวลาเท่ากันได้มากกว่า ต้องพยายามปฏิเสธ
ประกันสุขภาพน่าจะมีประโยชน์กว่า เพราะ มีโอกาสใช้ ถ้าสุขภาพไม่ดี
เรื่องสุขภาพ ราคารักษาเพิ่มขึ้นตลอด ป่วยครั้งเดียวหมดตัวได้
อจ เสน่ห์ แย้งว่า ประกันสุขภาพไม่มีผลต่อคนรวย เช่น ดร นิเวศน์
แต่มีประกันสามี มั่นใจว่ามีสามีอยู่กับเราตลอด ถ้าสามีหายไป ประกันจะตามให้ถ้าหายไปมีคนใหม่ให้ตามทุนประกัน พูดเล่นครับ 555
ประกันช่วยลดหย่อนภาษี ได้ 100,000 บาทเท่านั้น มีเงื่อนไข ประกันเกิน 10 ปีขึ้นไป
คณะบุคคล เสียภาษีซ้ำซ้อน ควรหลีกเลี่ยง
ภาษีดอกเบี้ยบ้าน ไม่เกิน 100,000 บาท
จ่ายภาษีเฉพาะ 3.3% และยังมีภาษีอื่นอีก ดังนั้นไม่ควรอั้นเพดาน แค่ 100,000 บาท ควรมีสิทธิเต็มตามที่จ่ายจริง
อจ เสน่ห์ บอกว่า ควรให้ตอนมีชีวิต ทำประโยชน์ให้สังคม บริจาคเพื่อการศึกษา หักได้2เท่า บางอย่างช่วยกันในวงการลงทุน อย่าโยนให้คนอื่น

Money talk ครั้งหน้า 14 มีค 2515
หัวข้อ จับตาหุ้นดีปีแพะ กับ บริษัทใน Digital economy
เช่น SAMART , TRUE และ อีก 2 บริษัท
หัวข้อที่สอง หลากหลายวัยในการลงทุน
แขกผู้รับเชิญ
ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากรณ์ Gen B อจ เสน่ห์ให้ชือ วัยกล้วยไม้ ใกล้ม้วย
คุณ วิบูลย์ พึงประเสริฐ Gen X
คุณ กานต์ นัฐธชาติ Gen Y
ดร ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
อจ เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

ต้องขอบคุณผู้ดำเนินการ และ วิทยากรทุกท่านที่ได้ให้ความรู้เราตลอดช่วงบ่ายวันเสาร์นี้ครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ กับผู้อ่านทุกท่านนะครับ มีคำถามเพิ่มเติมสอบถามมาได้นะครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1736
ผู้ติดตาม: 38

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณพี่อมรค่ะ...ที่กรุณาช่วยสรุปแทนน้องบิ๊กค่ะ
แตะมือกับพี่อมรแล้ว...น้องบิ๊กเลยไปตามหาแสงเหนืออย่างสบายใจเลย

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ :D
ลูกหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 1

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากๆนะครับ
ivory_castle
Verified User
โพสต์: 11
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณค่ะ ^_^
Jetsabass
Verified User
โพสต์: 17
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับ ละเอียดสุดยอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 19

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 25

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
Vi IMrovised
ภาพประจำตัวสมาชิก
simpleBE
Verified User
โพสต์: 2335
ผู้ติดตาม: 2

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากๆ ครับ
รอบหน้าจัดเต็มแบบนี้อีกนะครับ
:mrgreen:
Batistuta
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 9
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
GINTOKI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 3

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณมากๆครับ :D
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2636
ผู้ติดตาม: 269

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตอบคุณ simpleBE เดือนหน้าน้องBig มาสรุปอย่างละเอียดเหมือนเดิม ผมมาช่วยตอนน้องBig ไม่อยู่เช่นเดือนนี้ หรือ ช่วง money talk mai ที่จัดวันธรรมดา ซึ่งน้องBigมาไม่ได้ครับ
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2636
ผู้ติดตาม: 269

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ตอบคุณนุช ยินดีครับ อยากให้คนได้ความรู้จากรายการดีๆแบบนี้ครับ
ต้น.เจียงฮาย
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 42
ผู้ติดตาม: 2

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอขอบคุณมากคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
shinray
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 1

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณมากๆๆครับ
จอมยุทธอินทรี
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 532
ผู้ติดตาม: 234

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ขอบคุณพี่อมรครับ
Percen
Verified User
โพสต์: 44
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
khwannaret
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 54
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอบคุณ ครับ. สรุปได้ดีมาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 1

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ขอบคุณมากครับพี่อมร
ได้ตามมาอ่านแล้ว ดีจัง :D :D :D
Go against and stay alive.
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2636
ผู้ติดตาม: 269

Re: Money Talk วันที่ 21 กพ สัมมนา หัวข้อ “หุ้นเด่นต้องจับตา

โพสต์ที่ 19

โพสต์

คราวหน้าจะตามอ่านของน้องบิ๊กบ้าง อิอิ
โพสต์โพสต์