Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 1

Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Money talk@SET 3Nov13
ช่วงที่ 1 "ชีวิต ธุรกิจ สังคม"
ช่วงที่ 2 “สอนลูกให้รวยหุ้นอย่างมีคุณค่า”
____________________________________
Monety talk ครั้งต่อไป เสาร์ 14ธ.ค.56 2 หัวข้อ
1) วางแผนการเงินเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
(ทีมงาน advance life 2 ท่าน, คุณเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์)
2) Vi กับหุ้นไทยปี 57
(ดร.นิเวศน์,คุณพีรนาถ,คุณโจ ลูกอีสาน)
• เปิดจอง FB เสาร์ 7ธ.ค. (ผู้อาวุโสจองก่อน 1 วัน)
• ปี 57 มีกำหนดการ Money talk แต่ละเดือนแล้ว จะมีแจ้งผ่าน Facebook Money talk
จะเน้นมากขึ้นไปทางชีวิต ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าเงินทองไม่ใช่สิ่งสุดท้ายในชีวิต
_____________________________________________________________
ขอขอบคุณอ.ไพบูลย์,ผู้ดำเนินรายการ,วิทยากร และทีมงาน Money talk ที่ออกแรงกายแรงใจจัดงานขึ้นครับวันนี้
เนื้อหาอาจไม่เกี่ยวกับการลงทุนนักแต่ได้ประโยชน์มากในการพัฒนาจิตใจรวมถึงความรู้ที่น่าสนใจสำหรับการใช้ชีวิต
ในบางช่วงฟังไปก็น้ำตาซึม(ผงเข้าตา) ฟังไปสักพักก็น้ำตาเล็ด(ขำ)
หวังว่าเพื่อนนักลงทุนก็จะได้ประโยชน์จากการหัวข้อนี้เช่นกันครับ
มีขาดตกบกพร่องรบกวนช่วยเสริมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
_______________________________________________________________
Money talk@SET 3Nov13
ช่วงที่ 1 "ชีวิต ธุรกิจ สังคม"
คุณบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานกลุ่ม DMG
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.ถาวร โชติชื่น ดำเนินรายการ

Intro
• หัวข้อวันนี้ไม่มีเรื่องหุ้น เป็นความรู้ทางชีวิต
• แนะนำหนังสือ หัวใจสีขาว โดยคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย เป็นหนังสือธรรมะ detox ใจให้ไม่ขุ่นมัว
• คุณดนัย เสริม
o อัตราการอ่านของคนไทยน้อยมาก เวียดนาม 50 เล่ม สิงคโปร์ 60 เล่ม มาเลเซีย 40 เล่ม คนไทย 12 บรรทัดต่อปี
o คุณภาพการศึกษาไทย รั้งอันดับ 8 อาเซียน
o ถ้าจะสร้างวัฒนธรรมการอ่าน ผู้ใหญ่ต้องอ่านก่อน เด็กจึงอ่านตาม
o จึงได้จัดทำโครงการ “อ่านล้านเล่มประเทศไทย” (http://www.onemillionreadthailand.com/)
o สังคมใดที่รักการอ่าน สังคมนั้นรัฐจะปกครองโดยความไร้เหตุผลไม่ได้
• อ.ไพบูลย์เสริมว่า พระพุทธเจ้าสอนว่ากรรมดีหักล้างกรรมชั่วไม่ได้ ยังไงก็ต้องชดใช้กรรม ใครทำคนนั้นก็รับกรรม
การพูดเรื่องธรรมะเรื่องความตายไม่ใช่ว่าต้องละได้แล้ว เป็นการสอนตัวเองไปด้วย

อ.ถาวรถามแขกรับเชิญท่านละ 3 ข้อ เป็นคำถาม 3 ด้าน คือ 1)ธุรกิจ 2)ชีวิต 3)สังคม
คุณบวรตอบ
1) ธุรกิจ : PTTGC ซื้อได้หรือยัง?
• ซื้อไม่ได้ วันนี้วันอาทิตย์
2) ชีวิต : ถ้าซื้อหุ้น pttgc ชีวิตจะดีขึ้นหรือไม่?
• ดีขึ้นแน่นอน เคยไปเดิน shopping แล้วมีความสุขใช่ไหม การได้เดินดูได้เลือกก็ทำให้เรารู้สึกดี ถ้าเลือกแล้วว่า หุ้นที่ดูชอบถูกใจแล้วซื้อในราคาเหมาะสมก็ต้องดี
3) สังคม : ถ้าผมซื้อหุ้น pttgc แล้วขาดทุน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจะรับผิดชอบอย่างไร?
• จะหุ้นตกหุ้นขึ้น pttgc รับผิดชอบต่อสังคมอยู่แล้ว ระบบ CSR ต่างๆ เราทำอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นจะทำให้ชีวิตคนทั่วไปดีขึ้น vision ของบริษัทจะเป็นบริษัทชั้นนำ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หินยกขึ้นมาล้างหิน ทรายขุดขึ้นมาล้าง เพื่อคงระบบนิเวศน์เอาไว้ให้ได้มากที่สุด
คุณดนัยตอบ
1)ธุรกิจ : เราทำธุรกิจซึ่งเป็นธุรกิจที่ดี ไม่ผิดกฏหมาย เป็นประโยชน์ แต่เกิด side effect เช่น ขายยาดอง แต่ทำให้ลำยอง(ในละครทองเนื้อเก้า) ติดเหล้า ผิดไหม?
• ธุรกิจต้องรอบคอบมากขึ้น สมัยนี้มีมิจฉาชีพที่จะเอาสินค้าไปดัดแปลงมาขาย ต้องระวังให้มากขึ้น
2)ชีวิต : ถ้าทำธุรกิจแล้วผลิตภัณฑ์ทำให้ชีวิตคนคนหนึ่ง ผิดพลาดเสียหาย ถูกต้องไหม?
• ถ้าประเมินแล้วสิ่งที่ทำส่งผลไม่ดี ผู้บริหารต้องหาทางเลือกอื่น
• trend ของโลกคนสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น มี aging population รายได้ต่อครอบครัวสูงขึ้น ต้องหันมาดูแลชีวิตให้ดี ต้องพิจารณาดูหา product line ตัวอื่นเข้ามาแทน
• คุณบวรเสริม ที่บริษัทคิดพัฒนาทำไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้ พลาสติกดำๆที่ใช้ใส่ต้นไม้สำหรับปลูกสามารถเอาไปใช้ลูกได้เลย มีการเติมกลิ่นที่จุลินทรีย์ชอบทำให้ควบคุมการย่อยสลายได้เร็วขึ้น แถมเป็นปุ๋ยได้ด้วย
• อ.ไพบูลย์เสริม แก้วอเมซอนที่ใช้ในห้องนี้ก็เป็นแบบ degradable ย่อยสลายได้ ไม่ได้เป็นพลาสติค และคุณสมบัติก็ดีกว่าแก้วกระดาษ
3)สังคม : ความประพฤติเด็กชายวันเฉลิม(ในละครทองเนื้อเก้า) เกิดมาในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ธุรกิจจะช่วยสังคมได้อย่างไร?
• คนจะมักคิดว่าคนเกิดในสิ่งแวดล้อมไม่ดี จะเป็นเด็กไม่ดี สถานพินิจ มีบ้านเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา บ้านปราณี กาญจนาภิเษก ในปีหนึ่ง 5 หมื่นคน สิบปี 5 แสนคน ครึ่งหนึ่งมาจากครอบครัวสภาพแวดล้อมไม่ดี ครึ่งหนึ่งเป็นคนที่มาจากครอบครัวฐานะดี เด็กบางคนหน้าตาดีมากแบบเกาหลีเลย พบว่าฆ่าคนตาย เด็กบางคนเป็นโสเภณีเด็ก
• ปัญหามาจากครอบครัว เขียนจดหมายอยากให้แม่มีเวลา อยากกอดแม่ อยากให้พ่อมาเยี่ยมบ้าง
• สังคมขาดมุทิตาจิต ขาดการดูแล ไม่มีเวลาคุณภาพ คำพูดดีๆกับลูกเท่าที่ควร ต่างกับสังคมที่เจริญ การแสดงออกแบบนี้เห็นได้น้อยในครอบครัวไทย
• หลายคนเข้าใจผิดเอาแต่หาเงิน ลูกไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการพ่อและแม่
• สังคมไทยมีความอิจฉา ริษยา มาก ไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ มันเริ่มจากในครอบครัว เด็กที่รู้สึกว่าพ่อแม่รัก จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี
• ในมุมธุรกิจ ต้องเปิดโอกาสให้เด็ก ต้องไม่ตัดสินว่าเด็กดีหรือไม่ดี
• มีทำโครงการ the ambassador
o ให้เด็กทุกชนิดทุกประเภทขึ้นเวทีได้หมด ไม่ว่าจะหน้าตาไม่ดี เต้นไม่เป็น เราต้องการให้เขามีที่แสดงออก
o ตอนที่เริ่มทำผู้ทรงคุณวุฒิคัดค้านมากเลย เราต้องการเปลี่ยนกรอบความคิดว่าเด็กทุกคนดีหมด เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ องค์กร ธุรกิจต้องโอบอุ้มเขา สิ่งที่ได้ผลลัพธ์ดีมาก เด็กติดยาเสพติด 5,000 คนเปลี่ยนได้ มีเด็กที่เป็นหัวหน้าแก๊งค์ยาเสพติด บอกผมเคยเลวที่สุดแล้ว ผมจะลองดูว่าเป็นเด็กที่ดีที่สุดได้หรือไม่
o ปัจจุบันผลสำรวจเยาวชนอายุน้อยกว่า 25 ปี ยอมรับการ corruption สูงสุด 70% ยอมรับว่าพร้อมโกงถ้ามีโอกาส มีการวิจัยต่อไปว่าเกิดมาจาก พ่อแม่พูดอย่างทำอย่าง ครูบาอาจารย์สอนอย่างทำอย่าง เด็กซึมซับพฤติกรรมมา ถ้าเราปล่อยสังคมไทย โกงได้ ทุจริตได้ ต่อไปเราจะเหลืออะไร
• อ.ไพบูลย์ เสริมว่าเคยเชิญบ้านกาญนาภิเษกมา เด็กพูดแล้วคนในห้องน้ำตาไหลกัน เค้าดีใจที่ให้โอกาสเขา ทั้งที่สังคมประนามเขาแล้ว
• คุณดนัย มีเด็กเขียนจดหมายมาขอบคุณว่ายังทำให้เขารู้สึกว่าเขายังเป็นคนอยู่ ยังมีที่ยืนในสังคม เด็กผิดยังมีสำนึก ดีกว่าผู้ใหญ่ทำผิดไม่สำนึก
• คุณบวร เสริมมีน้องที่ pttgc ไปสอนหนังสือเด็กช่วงเย็น เริ่มจากสอนวงเล็กกลายเป็นวงใหญ่ เด็กก็มีกำลังใจมีความฝันรู้สึกว่านายช่างทำงานบริษัทดีๆจบจากมหาวิทยาลัยดีๆ ซึ่งก็ทำให้สถิติเข้ามหาวิทยาลัยสูงขึ้น
o เรื่องการเล่นกีฬา นักบอลที่สำเร็จมีชื่อเสียง ก็ทำให้เด็กหันมาเล่นกีฬากัน
o มีตัวอย่างโรงเรียนคุณธรรม โรงพยาบาลคุณธรรม ที่พิจิตรให้เด็กคิดว่าจะทำอะไรดีๆให้กับสังคมได้อย่างไร เป็นการเริ่มต้นใส่ความคิดดีๆให้เด็กมัธยม ต้องสร้างตั้งแต่เด็ก
• คุณดนัยเสริม
o ว่าเป็นโรงเรียนบ้านบุญนาค เคยเชิญมาเวที วันต่อต้านcorruption ทางน้องๆก็ขึ้นมาทีละคนสองคนเอาน้ำเทใส่ถังซึ่งมีน้ำสีดำเทน้ำสีขาว เทเข้าไปหลายๆคนน้ำก็ยังคงดำอยู่ จนสุดท้ายขึ้นมาเป็นร้อยคนน้ำก็กลายเป็นสีขาว ผู้ใหญ่ปรบมือกัน ชื่นชมกัน
o สมัยนี้ต้องให้เด็กมาสอนผู้ใหญ่ มีเด็กอนุบาลขึ้นมาพูดบนเวที หยุดโกงกินกันได้แล้วค่ะ เด็กภาคใต้ขึ้นพูดว่าไม่ต้องเปลี่ยนแปลประเทศไทยหรอก เปลี่ยนนิสัยคนไทยดีกว่า เด็กอีสานพูดว่า คนดีหายหัว คนชั่วจริงลอยนวล
o เรามีทำ live audition ที่ขอนแก่น มีเด็กตาบอดที่เรียนครู ที่ราชภัฏอุบล ชีวิตเขายากจน โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้เร็ว คือรวยรัด รวยเร็ว รวยกะทันหัน แต่เป็นงานที่บอกที่มาที่ไปกับคนอื่นไม่ได้ ซึ่งสังคมยอมรับ เป็นหายนะธรรมของสังคม เด็กคนนี้ขึ้นเวทีมีพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัวขึ้นมาบนกลางเวที แล้วชูขึ้นมาสุดแขน บอกว่าหนูตาบอดมาตลอดไม่เคยเห็นว่าพระพักตร์ท่านหน้าตาเป็นอย่างไร หนูจึงใช้หัวใจหนูสัมผัสท่าน หนูเกิดมาก็พิการทางสายตาแต่จะไม่ยอมให้ใครมาเรียกว่าพิการทางใจ หนูขอสัญญาจะไม่ยอมโกงกิน คอร์รัพชั่น จะเดินตามรอยพระเจ้าอยู่หัว

ธุรกิจที่ให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม พนักงาน ให้กับโลกซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจโดยตรงมันคุ้มหรือไม่?
คุณบวรตอบ
• คุ้มมาก เราไม่อยากให้องค์กรมีแต่คนเก่งแล้วไม่ดี ต้องมี สองอย่าง ต้องรู้จักแบ่งปัน และเคารพสังคม สิ่งแวดล้อม
• การทำอะไรดีๆ ไม่จริงที่จะไม่ได้อะไรกลับมา อย่างน้อยที่สุดคือพนักงานจะมีความรู้สึกดีๆว่าเราได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม
• ที่บริษัทมี carbon footprint จะต้องมีการตรวจวัดว่าปล่อย carbon เท่าไร และต้องมีแผนที่จะลดลง สิ่งที่ได้กลับมานอกจากลดโลกร้อน ต้นทุนบริษัทก็ยังลด พลังงานก็ลด
• ที่โรงงานมีปล่องสูงที่มีลูกไฟดวงใหญ่ น้องๆที่บริษัทก็ช่วยปรับปรุงหาเทคโนโลยี เป็นไฟเล็กๆหลายๆดวง ซึ่งช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ปิดไม่ให้ความร้อนออกมา สิ่งที่ได้คือความสบายใจ ผ่านไปแล้วก็ไม่เห็นลูกไฟ เสียงดังอะไรก็ไม่มี ชาวบ้านก็สบายใจ การพูดคุยอยู่ร่วมกันกับสังคมก็จะดี

อ.ไพบูลย์ ถามในต่างประเทศมีกองทุนรวมที่ระดมเงินจากคนไปลงทุนในธุรกิจบาปโดยเฉพาะ เช่นคาซิโน ซ่อง บุหรี่ เหล้า ผลิตอาวุธ ยาพิษ เรียกกว่ากองทุนบาป ได้ผลตอบแทนสูงมาก ถ้าทำธุรกิจแบบนี้ แต่ได้กำไรมาเอาไปตอบแทนสังคม เช่นทำเหล้า เกิดอุบัติเหตุ ก็ไปทำโรงพยาบาล ทำแบบนี้จะได้ไหม?
คุณดนัยตอบ
• ถ้าเราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ถือว่าผิดศีล เป็นการทำธุรกิจที่ผิดศีลไม่ควรทำ
• ศีลคือความเป็นปกติของมนุษย์ ทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราพร่องหายไป
• จะมีความร่ำรวยขนาดไหนก็ตาม เอาเงินไปทำประโยชน์ ก็ลบล้างกันไม่ได้ ศีลเป็นสะพาน ทานเป็นเสบียง
• ผลลัพธ์ที่เกิดชาติต่อไปไม่ได้เป็นมนุษย์แน่นอน
• คุณบวร เสริม ต้องดูตั้งแต่เริ่มต้นว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์หรือเปล่า ผลที่ได้จึงจะบริสุทธิ์ด้วย

อ.ไพบูลย์ถาม ถ้ามีธุรกิจที่กำไรดี แต่คาบเกี่ยวกับการส่งเสริมหรือทำลายสังคม ควรเอาเงินไปซื้อหุ้นไหม?
• คุณดนัย หลายคนคงต้องเจอสถานการณ์นี้ ลังเลใจ ต้องเข้าใจว่าสิทธิเสรีภาพในการเลือก เกิดเป็นยุงต้องกินเลือด เป็นผีเสื้อกินน้ำหวาน เป็นเต่ากินผักบุ้ง เกิดมนุษย์กินได้ทุกอย่าง อย่าลืมสิทธิในข้อนี้
• อย่างที่พระพระสังฆราชตรัสไว้ ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก จะขึ้นจะลงก็ได้ ต้องตระหนักว่าทำธุรกิจที่ทำลายสังคมถึงจะได้มา ก็เป็นการฝังรากลึกในระยะยาว ต้องหักห้ามใจตัวเอง เป็นการต่อสู้กับกิเลสในใจตัวเอง
• ดีชั่วอยู่ที่หัวใจตัวเองตัดสิน จะคุ้มกันไหมกับความเป็นมนุษย์ของเรา ความพร่องของเราจะหดหายไปหมด เราจะสว่างไปหรือจะมืดไป
• ปีที่แล้วผมประมูลงานภาครัฐได้หนึ่งงาน รายได้มากกว่าทำงานทั้งปี และทีมงานใช้เวลาเตรียม 3 เดือน ก่อนเซ็นสัญญา 3 วันมีการเรียกเจรจาต่อรองให้เพิ่มราคาขึ้นอีก และให้ทำเป็นถอยราคาลง 2 ครั้ง แต่ต้องมีเงินทอนให้ 50% ซึ่งทำให้ผมน้ำตาซึมเลยทั้งๆที่ผมเป็นแกนนำด้านต่อต้าน corruption ยังเจอแบบนี้ ใจบอกว่าเราอย่าก้มหัวให้ความชั่ว ผู้ติดตามก็พิมพ์จดหมายถอนสัญญาทันที เราต้องมาสู้กับกิเลสที่ขี่หัวเราเอง
• อ.ถาวร เสริมด้วยกลอน
“ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน...ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี
ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี.....ถ้าไม่มีคุณธรรมก็ต่ำคน”

อ.ไพบูลย์ ถาม ธุรกิจที่คาบเกี่ยว เช่น ผลิตอาหาร พระพุทธเจ้าสอนว่าฆ่าสัตว์เป็นมิจฉาอาชีวะ แต่ถ้าไม่มีคนทำแล้วจะมีอาหารกินอย่างไร?
• คุณดนัย มันเป็นสิ่งที่ต้องคิดแบบแยบคาย ถ้าจิตหยาบ เราก็คิดแบบนี้ได้ แต่คนที่จิตปราณีต เป็นสิ่งไม่ควรทำ คนที่มีสติจะมีทางเลือก ต้องกลับมาที่ความแยบคาย
• การมีชีวิตที่ประเสริฐมี 2 ข้อ
o ข้อ 1 กัลยาณมิตร มีเพื่อนดี มีครูบาอาจารย์ดี ผู้นำที่ดี ถ้าไม่มีกัลยาณมิตรอย่าคิดการใหญ่
o ข้อ 2 โยนิโสมนสิการ คือการพิจารณาอย่างแยบคาย บุคคลที่ปฏิบัติเป็นเป็นพุทธแท้ ต้องเข้าใจว่าหน้าที่ของการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีมี บันได 3 ขั้น ทาน ศีล ภาวนา ทานเป็นการสละออก แต่ศีลเราก็พร่องแล้ว ทำให้เกิดการฆ่า ความเป็นพุทธที่ดีของเราก็พร่องไปอีก ขึ้นกับสติสัมปชัญญะที่อยู่ในหัวใจเรา
• ถ้าดูความเป็นจริง มนุษย์ เป็นสัตว์กินพืช ลำไส้ยาวแค่ช่วงตัว สิ่งที่กินเข้าไปจะขับออกหมดทัน ไม่เป็นพิษ แต่มนุษย์เราสำไส้ยาวเหมือนวัวควาย เนื้อสัตว์ย่อยไม่ออกจะสะสมเป็นพิษในร่างกาย เวลาเป็นโรคไปหาหมอก็จะห้ามไม่ให้กินเนื้อสัตว์ก่อน แล้วเราจะกินพิษเข้าไปทำไม เราต้องเข้าว่าเรามีทางเลือกเพื่อดูแลธาตุ-ขันธ์ของเรา
• มีคนกินเนื้อสุนัข เนื้อแมวไหม? มีบางประเทศเขากินกัน แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ควรกินใช่ไหม? ที่จริงแล้วกระบวนการฆ่าสัตว์ทุกชนิดมีการทรมานเหมือนกัน แม้รูปร่างจะต่างกัน แต่มีชีวิตมีหัวใจเหมือนกัน

อ.ไพบูลย์ ถามมีธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ที่ดี ทำอาหาร เบเกอรี่ เจ้าของดีมาก ธรรมะธรรมโม แต่มีการขายเบียร์หลัง 5 โมงเย็น คิดว่าอย่างไร?
• คุณดนัย ขอยกตัวอย่าง ที่เคยพบผู้บริหาร s&p บอกว่าแต่ก่อนเคยขาย ตอนนี้ไม่มีแล้ว มีนโยบายให้พนักงานปฏิบัติธรรม สุราผิดศีลข้อ 5 เลยยอมเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่ถ้ามีขายจริงๆมีทางเลือกอื่นก็สามารถเลือกได้
• อ.ไพบูลย์ เสริมว่าคุณอนันต์เปิด mall ให้เช่าที่ขายของ มีคนมาเปิดร้านขายเหล้า ท่านไม่อนุญาตจึงให้เปลี่ยนไปขาย chocolate แทนและลดค่าเช่า เป็นตัวอย่าง

อ.ไพบูลย์ น้ำมันรั่วตั้งใจหรือเปล่า?
• คุณบวร ไม่มีใครอยากทำอะไรให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว
• เป็นท่อซื้อจากต่างประเทศ 2 เส้น หลังจากเจอว่ามันแตกแล้ว ผ่าพิสูจน์พอจะบอกได้ว่าตัวท่อมันเองไม่ดีนัก ตอนซื้อมาก็ผ่านทดสอบ แต่การออกแบบอาจมีผิดพลาด ซึ่งใช้ไประยะหนึ่งก็แตก ระยะเวลาแค่ 1ปี 3 เดือนเอง ซึ่งระบบเรามีขั้นตอนที่เยอะมาก มีมาตรการในการดูแลระวังรักษา มี third party มาตรวจสอบ ระบบว่าเราทำจริง
• โดยปกติเราจะไม่รอให้มันเกิดขึ้น มีทำขั้นตอนไว้ถ้าเกิดเหตุแบบนี้จะทำอะไร 1,2,3,4,5 ใครต้องทำหน้าที่อะไร นอกจากนั้นทดลอง ว่าถ้าเกิดขึ้นจริงๆต้องทำอย่างไร เดือน พ.ค. เพิ่งซ้อม เกิดเหตุ ก.ค.ปลายเดือน
• ช่วงที่เกิดจริงปลาย ก.ค. หน้าฝน ลมพายุแรง ทำงานลำบากมาก จะมีคนคอยดูแลสั่งการในทีม เราก็คอยอยู่ข้างหลัง
• มีใช้น้ำยาเคมี ที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดไว้ว่ามีตัวไหนใช้ได้ เราเลือกตัวที่เป็นระดับ top เป็นพิษน้อยที่สุดแล้ว หยดลงไปจะทำให้น้ำมันเป็นก้อนแตกกระจายออก แล้วแขวนลอยบนน้ำ จุลินทรีย์จะมาย่อยสลายไป ซึ่งก็พยายามแล้ว แต่ในที่สุดมันก็ขึ้นฝั่งจนได้ทำให้ต้องทำงานหนักมาก และแต่ละอย่างก็พยายามทำให้ดีกว่าระดับสากลด้วย
• ตอนนี้น้ำมันหมดแล้ว อาหารทานได้ หน่วยราชการจะมีเก็บตัวอย่างปลามาทดสอบ
• อ.ไพบูลย์ถามเพิ่ม ใช้เงินเยอะไหม?
o เงินทำความสะอาด เครื่องมือ ชุด อะไรมีพร้อมแต่แรกแล้ว ใช้เงินไม่เยอะมาก แต่นึกดูก็พอสมควรกระดาษซับแผ่นหนึ่ง 100 กว่าบาท
o เงินเยียวยา โดยเฉพาะรายเล็กๆที่เดือดร้อนจริงๆเราต้องรีบจ่าย แต่ประเทศไทยพอประกาศออกไปทุกคนก็เลยลำบากหมดเลย จำนวนรายชื่อขึ้นมา 16,000 กว่าราย ต้องมาพิสูจน์ทราบกัน ได้ยินขนาดว่าไปบอกจากอีสานให้มารับเงิน ซึ่งตอนนี้ก็ทำไปได้เยอะแล้ว เยียวยาไปได้กว่า 6,000-7,000 คนแล้ว
o เงินฟื้นฟู ต้องดูระบบนิเวศน์กระทบแค่ไหน บริษัททำเองไม่ได้ ต้องให้นักวิชาการ ผู้รู้ ปลาเป็นแบบไหน ปะการังเป็นแบบไหน ถ้าปะการังมีความเครียดจะกลายเป็นสีขาว
o ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ตั้งสำรองในไตรมาส 3 ไปแล้ว ปีนี้ที่จริงมีหลายเหตุการณ์ มีโรงแยก 5 ที่มีปัญหา หรือโรงโพลีเมอร์ทำให้หยุดการผลิตไปพักหนึ่ง ซึ่งตอนนี้กลับมาจะครบหมดแล้ว
• ตอบคำถามว่าบริษัทน่าสนใจหรือเปล่า
o เวลากองทุนต่างชาติดูธุรกิจ เขาดูกำไรขาดทุน ขนาดใหญ่โตพอไหม สร้างกำไรได้ดีหรือเปล่า
o pttgc เป็นอันดับ 18 ของโลกในเรื่องเคมี ขึ้นจากอันดับ 24 ในปีก่อน
o เราได้รับรางวัลอยู่ใน DJSI เป็น 10 บริษัทแรกของโลก ในเมืองไทยมีแค่ 3 บริษัท ptt scc ซึ่งในกลุ่มเคมีเราเป็นคนเดียวใน list และเป็นบริษัทเดียวในเอเชีย
o บริษัทไหนจะอยู่ได้ยั่งยืนดู 3 ตัว เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
o ก่อนหน้าจะได้รางวัลเรามีหลายโครงการมาก ตัวอยางหนึ่ง เช่น ฟื้นป่า รักษ์น้ำ เขาห้วยมะหาด ต้องไปดูระบบ biodiversity ต้องมีฝายชะลอน้ำ ทำแนวรั้งกันไฟ ร่วมมือกับชาวบ้าน หน่วยงานราชการ จนได้รับรางวัลระดับโลก ซึ่ง DJSI พิจารณาให้รางวัลเราหลังจากที่ทำน้ำมันรั่วไปแล้วด้วย
• อ.ไพบูลย์ เสริม คุณบวร ได้รับเลือกเป็นวิศวะจุฬาดีเด่น ประจำปี 2556
• คุณดนัย ฝากท้ายเราพบกับภาวะวิกฤติหลายรูปแบบ ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยมนุษย์ องค์กรส่วนใหญ่ต้องระวัง ต้องมีแผนรับมือในภาวะวิกฤติ ต้องดูว่าบริษัทมีการเตรียมพร้อมเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า จะทำให้ดีได้ต้องมีความสัมพันธ์กับชุมชนที่ดี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน มีประโยชน์มาก องค์กรต้องไม่ละเลยเรื่องเหล่านี้


ช่วงที่ 2 “สอนลูกให้รวยหุ้นอย่างมีคุณค่า”
คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ นักลงทุนเน้นคุณค่า (มีลูกสาว 1 คน อายุ 9 ปี)
คุณวราพรรณ วงศ์สารคาม คุณ Theenut แห่ง Thaivi (มีลูกชาย 1 คน อายุ 13 ปี)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน (มีลูกสาว 1 คน)
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล (มีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 2 คน)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ (มีลูกสาว 1 คน) อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ (มีลูกสาวฝาแฝด 2 คน)

Intro
• อ.เสน่ห์ อ่านกลอนที่แต่งให้กับดร.นิเวศน์สำหรับงานมุทิตาจิต
วิศวกรเครื่องกลคนจุฬา MBA นิด้าพาสดใส
ปริญญาเอกการเงินเกินกว่าใคร จากแดนไกลสหรัฐอเมริกา
ประสบการณ์ทำงานผ่านมามาก เริ่มต้นจากโรงน้ำตาลทำงานเก่ง
บริหาร ifct มีเปลี่ยนแปลง.. รั้งตำแหน่ง นวกิจ ดีแทค เวิล์ดโฟน [จดไม่ทันครับใครทราบรบกวนแก้ให้หน่อยครับ]
เขียนตำราจุดประกายให้รวยต่อ จากตีแตกหนังสือดังไม่รั้งรอ
ทั้งพศ.รวยด้วยหุ้น หนุนลงทุน
ออกรายการทีวี money talk คอยแนะบอกจิตวิทยาภาษาหุ้น
มีแฟนคลับมากมายคล้ายทำบุญ ช่วยการุณนำวิถีหุ้น vi
มิมีหวงความรู้คู่ความคิด ผลสัมฤทธิ์พิสูจน์เห็นเป็นจริงได้
เปลี่ยนแมงเม่าเข้าผิดติดกองไฟ ตั้งตัวใหม่ได้แนวทางสร้างความรวย
เป็นต้นแบบพอเพียงเลี่ยงหรูหรา รู้คุณค่าเงินทองของชำร่วย
เน้นเรียบง่ายไว้เสมอ ไม่เผลอซวย
ประกอบด้วยกัลยาณมิตร คิดพาดี
คือ ดร นิเวศน์ พิเศษล้ำ เป็นผู้นำความสำเร็จเป็นเศรษฐี
เป็นผู้ใหญ่แถวหน้าบารมี เป็นตัวพี่ vi ใจมั่นคง
เหล่า vi พร้อมหน้ามาวันนี้ ร่วมยินดีมุทิตาจิตคิดประสงค์
60 ปีมีความหมายให้ดำรงค์ ดร.นิเวศน์ ยืนยง เป็นหลักชัย
ขออำนาจคุณพระศรีมีกุศล โปรดคุ้มครองบันดาลดลล้นสมัย
ประสบสุขสมหวังดังตั้งใจ พลานามัยสมบูรณ์พูนพลัง
ให้ห่างไกลโลกภัยและไข้เจ็บ เป็นเซเลบตลาดทุนหุ้นสุดขลัง
กระชุ่มกระชวยรวยเป๊ะ เตะปี๊บดัง กินนอนนั่งเพลิดเพลินเกินร้อยปี


สอนลูกคืออะไร?
• อ.เสน่ห์ การถ่ายทอด สอนลูก สอนลูกคนอื่น สอนเมีย สอนลูกเป็นปรัชญาที่ต้องพูดถึงกัน สมัยนี้ให้เงินลูก ลูกอยากได้ความอบอุ่นก็ซื้อผ้าห่มให้
• ประเด็นคือเราไม่ให้เวลากับลูก พ่อแม่บางทีอยู่ใกล้ชิดกับลูกแต่ไม่ค่อยได้สอนลูก

สอนลูกให้รวยด้วยหุ้น?
• อ.เสน่ห์ สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องสอนให้รู้จักว่าเราสามารถสร้างความมั่งคั่งจากหุ้นได้ สอนอย่างมีคุณค่าคือไม่ให้เป็นแมงเม่า ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

ถามเรื่องการสอนลูกแต่ละท่าน
• ดร.นิเวศน์
o ไม่เคยสอนเป็นทางการ คงไม่ฟัง สอนตามสถานการณ์ สอดแทรกไปตามที่เจอ
• ดร.สมจินต์
o จะมีโอกาสสอนพอสมควร เวลานั่งรถไปด้วยกันตอนเช้า เรื่องเงินๆทองๆจะอ่านหนังสือกับเขา
o ตั้งแต่สมัยเด็กคือเอาลูกมานั่งตักแล้วอ่านหนังสือกับเขา จะหาหนังสือภาพที่มีตัวอักษรดีๆ แล้วอ่านให้เขาฟัง ออกเสียง ท่าทาง ให้เขาทำตาม
o การทำแบบนี้ช่วยให้เขารู้จักการอ่าน รู้จักเสียง ชอบหนังสือจะทำให้โตขึ้นรักการอ่าน
o หนังสือที่ชอบ
 “หนูเก็บเงินได้ 10 ล้านวอน” เป็นหนังสือแปลเกาหลี เป็นการเล่าอย่างชาญฉลาดว่าเด็กคนหนึ่งเก็บหมีจากถังขยะ แล้วพอกลับมาที่บ้านได้แล้วมันพูดได้ แล้วมาสอนเรื่องเงินๆทองๆ
 หมาน้อยสอนรวย หนังสือเยอรมัน
o ตอนแรกอ่านให้เขาฟัง ต่อมาให้เวียนกันอ่าน
o เวลาอ่านพยายามอ่านให้เหมือนเป็นนิยาย ออกเสียงให้รู้สึกสนุกสนาน
o สิ่งที่ได้นอกจากทำให้เด็กรู้จักขยัน ประหยัด อดออม แล้วยังได้ทักษะการสื่อสาร การใช้ภาษา
o ความที่เป็นคริสเตียน เช้าๆจะใช้วิธีอธิษฐาน แต่ละคนจะบอกวันนี้จะไปทำอะไร ไปสอบ ไปแข่งกีฬา แล้วเราก็จะอธิษฐานของเรา ว่าวันนี้พ่อจะไปประชุม ไปบรรยายรวมถึงของลูกๆด้วย พยายาให้เขาเกิดความคิดบวกกับสิ่งที่เขาจะไปทำว่าจะทำได้ดี และจะได้เรียนรู้ด้วยว่าพ่อทำอะไร ต้องเจออะไร เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สอนลูก
o อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ เรียนรู้จากมหาเศรษฐีใหญ่ๆทั้งหลาย อย่าง วอรเรน บัฟเฟตต์ สอนลูกหลาน ในวันคริสมาสต์ เด็กๆจะรอว่าเมื่อไรจะได้ของขวัญจากคุณปู่ ซึ่งจะให้ของขวัญเป็นหุ้น
• อ.เสน่ห์
o จะสอนลูกเวลาขับรถไปส่งลูกก็คุยไปเรื่อย สมมติฟังข่าวก็จะบอกว่าอันไหนมันไม่ดี เป็นสิ่งที่ต้องรู้ว่าอะไรผิดชอบชั่วดี บางเรื่องทำกันไปจนคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปหมดแล้ว
• คุณทิวา
o จะคุยตอนไปรับส่งลูก จะเล่าให้ฟังว่าเจอบริษัทไหน เป็นอย่างไร ตอนนั้นอินกับเรื่องการลงทุน ก็มักจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเยอะหน่อย แล้วดูพฤติกรรมเขา
o แรกๆก็โน้มน้าวง่าย ต่อมาพอเขา 8-9 ขวบก็หาวิธีใหม่ ให้อ่านบทความดร.นิเวศน์ทุกวันอาทิตย์ เขาจะชอบอยู่หลายบทความ พออ่านเสร็จต้องให้ 200 บาท ปกติจะมีงบที่ให้เขาซื้อขนมซื้อของเล่นอยู่แล้ว จะมีการจัดสรร ไม่ได้ให้เปล่าๆ
o บางบทความเขาก็จะมีงงเหมือนกัน เราก็ต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เช่น การรบก็ต้องมีการวางกลยุทธ์เหมือนการค้า
• คุณนุช
o สอนเวลาไปส่งโรงเรียน สอนให้รักการอ่านก่อน เขาจะได้จับใจความได้ดี เวลาไปข้างนอกรับสื่ออะไรมาจะได้คิดวิเคราะห์เองได้ ส่วนตัวไม่ห่วงลูก ถ้าสอนดี โอกาสน้อยที่จะเขว
o เรื่องใหญ่ๆที่สอนไว้ 3 เรื่อง คือ ยาเสพติด การพนัน คอร์รัพชั่น ห้ามเด็ดขาด จะชี้ตัวอย่างต่างๆให้ดู ปัญหาในสังคมที่เกิดเพราะบางคนไม่ทำตามสิ่งที่ควรจะเป็น
o การสมทบเงินจะทำคล้ายๆคุณทิวา เวลาอ่านหนังสือจะให้เงินสมทบเหมือนกัน ในเรื่องที่เราอยากให้เขาอ่านเพิ่ม อย่างหนังสือธรรมะ เช่น หนังสือท่าน ว.วชิรเมธี อ่านจบแล้วก็ต้องสรุปให้ฟังว่าได้อะไร
o เงินรางวัลก็แล้วแต่บางเล่มให้ 1,000 บาท
o ดร.สมจินต์ เสริมว่าทำคล้ายๆกัน ให้เงินราวๆ 1-3 พันบาท แต่ต้องทำ presentation ด้วย
o ตอนเด็กให้ทำ mind map บางทีก็ power point แล้วก็ให้นำเสนอทั้งครอบครัว ถ้าอาม่าอยู่ บางทีก็จะได้เงินแถมจากอาม่าด้วย ซึ่งตรงนี้ช่วยทำให้เขาสื่อสารได้ดีด้วย
o อ.เสน่ห์ บอกเราต้องส่งเสริมภาษาไทย ลูกต้องนำมาเสนอในรูปแบบจุดอิทธิฤทธิ์ ให้ทำข้อมูลในตารางมหัศจรรย์ ต้องดูองคาพยพ ว่ามีพลวัต ไหม ดูบริบท ว่าจะบูรณาการ พิจารณาในเชิงปัจเจคบุคคล *o*

• ดร.นิเวศน์
o ไม่เคยให้ลูกอ่านแล้วแจกเงิน แต่ส่งเสริมให้อ่านหนังสือ เรื่องทั่วไปก็สอนเหมือนกันตอนเด็กๆ ตั้งแต่ไม่กี่เดือน เอาไก่ เอาหนู ตัดเป็นแผ่นการ์ด ให้ดูไปเรื่อย เขาก็ชอบนะ ลูกจะไม่มีการฉีกหนังสือ เขารู้สึกว่ามีคุณค่า
o เขาก็เป็นคนรักการอ่าน เราก็บอกว่าถ้าซื้อหนังสืองบไม่อั้น เวลาซื้อหนังสือเขาก็จะมาเบิกเงินเรา
o ในรถก็มีการสอนลูกตอนช่วงมหาวิทยาลัยขับไปส่ง ก็จะคุยเรื่องหุ้นบ้าง แต่ไม่ได้พูดตรงๆ ส่วนใหญ่จะบอกว่าบริษัทไหนเป็นยังไง อันนี้บริษัทเราเอง
o ตอนนี้ลูกโตแล้วก็สอนเราแทน ในเกือบทุกเรื่องที่เราเคยสอนเขา เขาก็มี view ในทุกเรื่องแต่จะแตกต่างกับเราเพราะคนละรุ่น พวก hitech การใช้ชีวิตต่างๆ การแต่งตัว การแต่งบ้าน แต่ลูกไม่ได้สอนเราเรื่องหุ้น เขาไม่ชำนาญ
o ที่บ้านประชาธิปไตย ใช้เสียงส่วนใหญ่ ของเขาเสียงหนึ่งเท่ากับสองเสียง เกือบทุกเรื่องต้องคุยกัน 3 คน ส่วนใหญ่เราจะแพ้เขา เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ยีนเขาอาจจะเอาของแม่ไปมากกว่า


ความใกล้ชิดกับลูกสำคัญแค่ไหน?
• คุณนุช สำคัญมาก ความผูกพันทำให้เด็กดี บางคนคิดว่าให้ความรู้ที่ดีที่สุดจะเป็นเด็กดี ลองนึกถึงตัวเราเองก็ได้ จะทำดีไม่ดี คิดถึงใคร พอเรานึกถึงเสียงพ่อแม่บอก เราก็อยากทำต่อ ความผูกพันจะช่วยให้เขาทำต่อไปได้
กอดลูกให้ความอบอุ่นควรทำไหม?
• คุณนุช
o ควรทำ ปกติจก็จะทำ แต่ในบางสถานการณ์ก็ต้องฝึกให้เขาเดินเองอย่างในตลาดไม่สะดวกก็ให้เขามาเดินข้างหน้าแทน ฝึกให้เดินโดยไม่จูง เป็นทักษะที่ควรต้องฝึก ทุกก้าวเล็กๆที่เขาประสบความสำเร็จเป็นความภาคภูมิใจของเขา เมื่อไปถึงเป้าหมายก็กอดและให้คำชมเขา
• ดร.นิเวศน์
o เคยกอดลูกตอนเด็กๆ โตแล้วไม่ค่อยได้กอด ถ้าเวลาห่างไป ไปเรียนตปท.กลับมาก็กอด
• ดร.สมจินต์
o กอดประจำ โดยทั่วไปกอดตามสถานการณ์ ทั้งภรรยาทั้งลูก ถ้ามีโอกาสก็กอดแม่ด้วย
o ภาษารักที่สำคัญคือภาษาสัมผัส ดร.ริชาร์ด เล่าเรื่องเด็กผู้ชายอกหักมาวิ่งน้ำตาไหลขึ้นห้อง คุณพ่อเห็นก็ตามขึ้นไปที่ห้องแล้วกอดลูกชายสะอื้นไปด้วยกัน วันรุ่งขึ้นลูกชายแต่งตัวไปโรงเรียนตามปกติ ทั้งที่เดิมจะหยุดเรียน เขารู้แล้วว่าเขามีพ่อที่รักอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาจากคนอื่น
• คุณทิวา
o กอดลูก แต่กราบภรรยา มีบางช่วงเวลาถ้าลงทุนผิดพลาด จะโดนว่าให้ขายทำไมไม่ขาย
• ดร.สมจินต์
o นึกถึงคำโฆษณาของผงซักฟอกเปาปุ้นจิ้น ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นของนอกกาย ลูกแก้วเมียขวัญ เป็นความสุขอันแท้จริงของชีวิต
o เวลาสอนให้เขารวยด้วยหุ้นอย่างมีคุณค่า
 ยกตัวอย่าง จอห์น ร็อกกี้เฟลเลอร์ เขาจะกลัวว่าความร่ำรวยจะทำให้ลูกเสียคน ซึ่งเขาสอนโดยตอนเด็กให้เงิน 30 เซ็นต์ ให้แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ใช้จ่าย ส่วนหนึ่งออม และอีกส่วนหนึ่ง ทำบุญ แล้วเสาร์ตอนเช้าจะเรียกเด็กมารวมที่ห้อง ให้เอาบัญชีมาลงให้พ่อทราบ ใครทำไม่ถูกจะตำหนิ ใครทำถูกให้รางวัล
 เขาสอนหลายๆเรื่อง เรื่องอดออมสำคัญ ส่วนหนึ่งคือไม่อยากให้เงินลูกเยอะเกินไปแล้วจะไม่รู้จักคุณค่าของมัน ถ้าใครอยากได้เยอะกว่านี้ต้องทำงานแลก เช่นไปถางหญ้า จึงจะได้เงินมากขึ้น
 สอดคล้องกับหนังสือปีเตอร์ ลินซ์ learn to earn ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่มหาเศรษฐีหลายคนสอน คือสอนให้รู้จักหา และสอนให้รู้จักให้ แบ่งปันด้วย
o การรู้จักพอเพียงในสิ่งที่ไม่เยอะเกินไป และรู้จักหาเพิ่มเติม
o ถ้าสอนให้รู้จักหาแต่ไม่พอเพียงก็มีโอกาสที่จะเกิดคนขี้โกงด้วย
o ต้องสอนให้รู้จักแบ่งปัน ให้รู้ว่าความสุขจากการให้ยิ่งใหญ่กว่าความสุขจากการรับ
o เกตต์, เฟลเลอร์ ชื่อเหล่านี้มีมูลนิธิใหญ่ๆในการแบ่งปัน เป็นตัวอย่างการรวยอย่างมีคุณค่า เป็นสิ่งสำคัญและควรถ่ายทอดให้ลูก

• ดร.นิเวศน์
o บังเอิญเกิดความโชคดี ช่วงที่โตมาไม่ได้ให้เงินเขา และไม่ได้ให้รู้ด้วยว่าเรามีเงิน เขาไม่รู้ และเราไม่เคยบอก จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้วถึงรู้ เป็นอานิสงค์ยิ่งใหญ่ ทำให้เขาจึงใช้เงินแบบคนธรรมดา
o ตอนหลังเขามาพูดกับเรา เขาคิดว่าเป็นคนชั้นกลางธรรมดา ตอนนั้นก็ไม่ได้สร้างบ้านใหม่ รถก็เก่า บ้านที่สร้างมาก็เปลี่ยนไม่ได้ เป็นบ้านชั้นเดียว เล็กมาก สร้างด้วยเงิน 2 แสนกว่าบาทเอง เงินพ่อตา สภาพโดยทั่วไปเขาจะรู้สึกว่าจนสุดในคนที่เรียนมาด้วยกัน เพราะไปเที่ยวบ้านเพื่อน ดูรถ แล้วมาดูบ้านเรา
o ตรงนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จเพราะอยากพิสูจน์ว่าเขาก็มีดี ไม่มีเงินก็ต้องมีจุดเด่น ถ้าไม่มีอะไรก็ต้องเก่ง ต้องมีอะไรบางอย่าง
o ผมเชื่ออย่างหนึ่ง ถ้าลูกว่าคุยรู้ว่าคุณรวยมากจะสอนยาก เขารู้ตั้งแต่อายุน้อยมาก ว่านี่คือความร่ำรวย อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ status ทางสังคม เขาจะสังเกตตลอดเวลา อย่างเช่น โรงเรียน มาแตร์ เด็กบางคนจนแต่ได้เรียน เพราะตกไปอยู่ในสังคมแบบนั้น บ้านอื่นขับรถแพงๆ ลูกก็ไม่ต้องการให้พ่อแม่มา เด็กก็อาย จะรู้สึกด้อยแล้ว
o ดร.ไพบูลย์ เสริม เด็กมาแตร์ ส่วนใหญ่นั่งรถไฟฟ้า เพราะลงหน้าโรงเรียน ลูกผมย้ายจากสาธิตเกษตรปีละ 3 แสน มาแตร์ปีละ 3 หมื่น เรียนเตรียมอุดมเหลือ 3 พัน
 เข้าเรียนมาแตร์ได้อาศัยความตั้งใจไปหาอ.ใหญ่ 20 กว่าครั้ง จนกระทั่งเปิดเทอมก็ไม่มีที่ ปีนั้นรับ 4 คนก็เข้าไม่ได้ จนกระทั่งมีคนไม่มารายงานตัว เลยมีที่ว่าง
• ดร.สมจินต์
o โรงเรียนดีๆก็จะมีเพื่อนหลายแบบ อยู่ที่การชี้แนะลูก บางกลุ่มใช้แบรนด์เนม บางกลุ่มใช้ของดีราคาเหมาะสม รู้จักใช้เงิน บางตระกูลก็ทำได้ในการสอนลูก
o คำว่าคุณค่า ทางวิศวกรรม เป็นฟังก์ชั่น สิ่งที่เกินกว่านั้นเพื่อความสวยงาม ดูดี ถ้าเราเข้าใจของที่เกินคุณค่าก็จะตัดออกไปได้
o สิ่งที่หลีกเลี่ยงคือแพงเพราะความหรูหรา กับของที่ถูกแต่ใช้ไม่ทน
o เคยมีครั้งลูกซื้อของแบรนด์เนม แต่เป็นของปลอม ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ถ้าเราไม่มีปัญญาซื้อของแท้ก็อย่าไปใช้เลย ไม่ควรจะไปหลอกคนอื่น โดยที่หลอกตัวเอง
o หนังสือเรื่อง the millionaire next door ศึกษาคนในอเมริกาเป็นพันคน พบว่ามหาเศรษฐีทั้งหลายจะใช้จ่ายต่ำกว่าที่เขาจะใช้ได้ คนเรามีทางเลือก 2 ทาง คือ แสดงให้คนอื่นเห็นว่าเรารวย กับ สร้างฐานะให้รวย ถ้าเรารีบร้อนแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเรามั่งมีก็จะไม่มีเงินเก็บเงินออม
• อ.ไพบูลย์ เสริมว่าบางทีลูกจะควักน้ำที่เอามาจากบ้าน หรือน้ำกินไปแล้วเหลือน้อยก็เอากลับบ้าน อย่างภรรยาก็ทำเป็นตัวอย่างบางครั้งไปทานอาหารก็เอาข้าวมาเองเป็นข้างกล้อง หรือทานอาหารนอกบ้านเหลือก็เอากลับบ้าน ลูกก็จะทำตาม อย่างกระดูกก็เอามาให้หมาได้
• คุณนุช
o ขอพูดถึงหนังสือ อ่านหนังสือตรงกับอ.สมจินต์หลายเล่มมาก millionaire next door, หมาน้อย, วิชาเศรษฐี
o คล้ายๆกันน้ำดื่มเหลือก็ไม่ลังเลที่จะเอากลับด้วย เป็นเรื่องของการเห็นคุณค่าของนั้นด้วย ไม่ใช่มีเงินจ่ายได้ แล้วก็ทิ้ง ไม่ต้องไปซื้อขวดใหม่ที่เปลือง
o ที่พยายามฝึกลูกอีกอย่าง คือ ให้ฝึกงาน
 ให้ไปทำร้านเบเกอรี่ที่รู้จักกัน นวดแป้ง อบขนม เอางาโรยตามหน้าขนม แล้วมาเรียงขนมใส่ถุง แปะป้าย หลังๆเขาก็พัฒนา คนมาซื้อของเขาก็จะจำราคาเองได้แล้ว ทำตอน ป.3 ขึ้นไป.4
 ถัดมาเปลี่ยนมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ให้เสริฟ์น้ำเสริฟ์น้ำแข็ง
 ถัดมาไปฝึกร้านไก่ย่าง ร้านส้มตำ ฝึกจดบิล แยกบิลกลุ่มส้มตำ น้ำตก
 ที่ภูมิใจมากคือครั้งหนึ่งคุณย่าดุเด็กเสิร์ฟจำผิด เขาก็ห้ามคุณย่าว่าอย่าไปดุเขาเลย ตัวเองก็เคยลืมเหมือนและก็รู้สึกเสียใจที่โดนว่า ทำให้รู้จักเห็นใจผู้อื่น เวลาไปนั่งทานร้านอาหารร้อนๆเขาก็ทานได้ เขาไปทำงานนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวร้อนกว่านี้อีก
• คุณทิวา
o ถ้าให้ทำงานไม่ค่อยให้ทำ แต่ปกติวันพระ หมูยอจะขายดี จะใช้เวลาขายไม่ยาว 2-3 ชั่วโมง วัดลาดพร้าวใกล้บ้าน จะไปขายกับลูก อยากให้เขาเรียนรู้ ระหว่างขายก็พูดเรื่องลงทุน ให้รู้ว่าคนอื่นขายเขาได้ 3 บาท เราได้แต่ละชุดเท่าไร ที่ให้ขายวันพระเพราะขายดี จะได้สร้างความรู้สึกทางบวกกับการทำธุรกิจ
• ดร.ไพบูลย์ มีลูกคนหนึ่งเก่งมาก อยากให้สอบตกบ้าง คิดว่าถูกไหม?
• คุณทิวา
o เราไม่ต้องสร้างความผิดหวังก็ต้องเจอความล้มเหลวอยู่แล้ว ประเด็นคือทัศนคติจะออกมายังไง
o อย่างลูกผม ได้ 4 มาตลอด เทอมที่ผ่านมาได้ 3.5 มองแววตาเขารู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ เราก็บอกธรรมดา มองที่กระบวนการ ถ้าตั้งใจเรียน ทำถูกต้องมาตลอด แต่ผลลัพธ์มันผิดเป็นเรื่องระยะสั้น มันก็ผิดพลาดได้ระหว่างทาง
• คุณนุช
o แฟนก็ช่วย เขาจะดีตรงที่ทำอะไรก็ทำตามกัน เราสอนแบบไหน เขาก็จะพูดเหมือนกัน
• ดร.สมจินต์
o สมัยเด็กๆเราเห็นพ่อขายของที่หน้าร้อน แม่ตื่นเช้า พ่อหิ้วของไปต่างจังหวัด สมัยนี้โอกาสลูกเห็นจะมีน้อย เวลาไปบรรยายพยายามชวนเขามา โตขึ้นก็ชวนยากหน่อย เขามีนัดหมายของเขาเอง
o เรื่องการได้เห็นได้คิดเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่ทำสำเร็จใน 2 ปีที่ผ่านมาให้เขาได้เริ่มลงทุน ตอนนี้ลูกอายุ 20,18,15 ปี เราก็ให้น้องที่บริษัท(คุณศักดา) เล่าให้ฟังว่ามีทางเลือกลงทุนอะไรบ้าง แล้วก็ให้เขาเลือกลงทุนเอง คอยเอา statement ให้ดู ตอนนี้ก็ได้พอสมควร สำคัญคือความมีวินัย ต่อเนื่อง มีโอกาสตัดสินใจว่าค่าขนมที่มีจะใช้หรือจะเก็บ
o ในเรื่องการสอนหุ้น เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจชอบเร็ว บางคนอาจชอบช้า สิ่งสำคัญกว่าคือเรื่องการทำงาน ค้นพบตัวเอง ทำสิ่งที่มีคุณค่า รายได้จากสิ่งที่ทำงาน สำคัญกว่า หลังจากนั้นแล้วค่อยเก็บออม ลงทุนเป็นลำดับถัดไป ถ้าเขาไม่สนใจลงทุน อย่างน้อยก็ให้ลงทุนผ่านกองทุนรวม
• ดร.นิเวศน์
o ลูกสาวไม่ได้ลงทุนหุ้น โดย background เขาเหมือนแม่เป็นแนวศิลปิน อยากถือหุ้น อยากเป็นแมงเม่านิดหน่อย จะได้เอาเงินไปใช้ เล่นเร็วๆได้เงินเร็วๆ ก็เลยยังไม่ให้
o ลูกสาวรายได้ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยพอ ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้ เป็นอาจารย์เราอยากให้เป็นเลยจ่ายเพิ่มให้
o เรื่องลงทุนถ้าเขาไม่ได้ชอบจริงๆก็จะเลื่อนไปเรื่อย ไม่ใช่คนที่อยากจะมาลงทุนเป็นเรื่องเป็นราว
o แต่ถ้าผมชอบลงทุนแต่เล็ก เพาะลูกน้ำขาย เลี้ยงกุ้ง เพาะเห็ด
o ลูกวอร์เรน บัฟเฟตต์ 3 คนก็ไม่มีใครลงทุนเลย และ ตอนเด็กๆลูกก็ไม่รู้ว่าพ่อรวย เห็นวันๆพ่อไม่ได้ทำอะไร มีคนถามก็คิดว่าน่าจะทำรักษาความปลอดภัย เพราะทำเกี่ยวกับ security
o วอร์เรนก็ไม่เคยแสดงอาการรวยให้ลูกเห็น รถก็เก่า ไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กลับบ้านกินข้าวโพดคั่ว ดูอเมริกันฟุตบอล ลูกก็ไม่มีใครสปอย คิดว่าก็เป็นสิ่งที่ดี
o โชคดีที่เราเป็นนักลงทุนเพราะเราเลี่ยงได้ แต่ถ้าทำธุรกิจจะเลี่ยงยาก บริษัทใหญ่โต รถหรูหรา ผมเคยรู้จักคนร่ำรวยมหาศาล กับลูกมีปัญหาตลอด ไม่เอางาน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่ทำอะไร
o สิ่งที่ทำมันบังเอิญ เราไม่ได้คิด โดยธรรมชาติเราก็เป็นแบบนี้ บังเอิญภรรยาก็คล้ายๆกันไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
o ถ้ามีลูกแล้วและเขารับรู้ว่าร่ำรวยต้องระวังมาก ต้องสอน หรือควบคุม ไม่ให้ใช้จ่ายจะเอาอะไรก็ได้ จะควบคุมไม่อยู่
สอนลูกเรื่องการลงทุนตั้งแต่อายุเท่าไร?
• คุณทิวา
o ตั้งแต่ 4-5 ขวบ พออ่านอะไรมาแล้วดี เราก็ทำ powerpoint
o ทีแรกเราก็คิดแบบคนทั่วไป อยากมอบมรดกให้ลูกเยอะๆ แต่มันมีมรดกที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งก็อยากมอบให้เขา อย่างเรื่องการทบต้น มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
o เขาพอรู้ว่าเรามีเงิน แต่เราก็ไม่ได้ใช้เยอะมาก ก็จะพอรู้ว่าเรามีเท่านี้ มีใช้เงินบ้างไปผ่อน bmw ให้คุณตาก็ต้องอธิบายเขา ว่าทำไมทำแบบนั้น เราใช้รถญี่ปุ่นก็จะอธิบายเขาว่าทำไมถึงซื้อ
o สำคัญสุดคือพฤติกรรมเราก็จะเป็นต้นแบบ ศาสนาคริสต์จะบอกการกระทำเสียงดังกว่าคำพูด ภรรยาเป็นคริสเตียนก็จะสอนเหมือนกัน
• คุณนุช
o ลูกก็มีลงทุน เขาจะได้เงินตอนทำงาน และเราสมทบให้
o เวลาไปโรงเรียนมีเงินเหลือจะสมทบให้เสมอ และโอกาสพิเศษ อยากได้ของบางอย่างก็จะดูแล้วดูอีก ก็ยังไม่ให้เขาซื้อ ผ่านไป 1-2 เดือนเขาก็จะไม่อยากได้แล้วก็สมทบให้
o เรารู้จักการลงทุนช้า ก็เลยสอนเขา ให้เขาเลือกลงทุน เขาก็จะเลือกสิ่งที่เขาเห็นขับรถผ่านไปผ่านมาแล้วเห็น พอมี % เพิ่มขึ้นก็เปิดให้ดู และอธิบาย เขาต้องอดทนจะได้ % สูง
o ทุกวันนี้ถ้าเขามีเงินเป็นก้อน ก็จะให้ใส่บัญชีไว้ก่อน บอกเขาว่ายังไม่พอค่าธรรมเนียม กับ หุ้นไม่ได้ซื้อได้ทุกช่วง
o แฟนไม่ค่อยได้ช่วยด้านนี้ ถนัดหาเงินมากกว่า ถ้าหุ้นตกแล้วหวั่นไหวก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะ
• คุณทิวา
o กลับกันกับคุณนุช ภรรยาจะหวั่นไหวตลอดเวลา ถ้าหุ้นขึ้นก็ไม่มีอะไร พอหุ้นตกก็จะเริ่มโทรมา ผ่านไป 2 วันตกอีกก็จะโทรมาอีก
• คุณนุช
o แฟนจะไม่โทรมาถาม จะเอาบทวิเคราะห์มาให้อ่าน ส่งราคาเป้าหมายนักวิเคราะห์มาให้ดู แล้วบอกว่าลองพิจารณาดู เราก็นิ่งเขาก็จะมาถาม
• ดร.สมจินต์
o ภรรยามีส่วนในการสอนเยอะ สิ่งสำคัญคือการเป็นแบบอย่าง ภรรยาเป็นแบบอย่างที่ดีมากในการเห็นคุณค่าของเงิน
o มีเรื่องเล่าที่ภาคภูมิใจ สมัยไปทำงานที่ญี่ปุ่น เรายังไม่ค่อยมีเงินเก็บ ทำงานไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกไปทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น ล้างผักอยู่ที่ก้นครัว ขณะนั้นภาษายังไม่ดี ต่อมาจึงค่อยได้ไปทำงานสถานฑูต สะท้อนให้เห็นความไม่เกี่ยงงานสู้งาน เห็นคุณค่าของงาน
o ทุกวันนี้ภรรยาก็ช่วยดูแลเงินเป็นอย่างดี ได้เงินมาก็ส่งให้เขาจัดการดูแลต่อ ซึ่งเขาทำได้ดีมาก
o อีกประการหนึ่ง คือ ในครอบครัวถ้าอยากให้ลูกเชื่อฟังพ่อแม่ ภรรยาควรฟังสามี ผมชอบหนังสือ love & respect ซึ่งเป็นคำที่ลงท้ายจดหมายสมัยก่อน เขาบอกว่าในชีวิตคู่ครอง ฝ่ายภรรยาจงเชื่อฟังและให้เกียรติสามี สามีจงรักภรรยาเหมือนรักตัวเอง ซึ่งสองอย่างนี้จะเกื้อกูลกันเป็นวงจรแห่งความรัก พอลูกเห็นก้จะเรียนรู้ว่าเราต้องรู้จักรักและเคารพพ่อแม่ สำหรับผู้ชายเราอาจติดเรื่องการรับเกียรติมากหน่อย ของผู้หญิงอาจติดเรื่องความรักมากหน่อย

ตกลงแล้วทั้งสามีภรรยาต้องช่วยกันสอน หรืออย่างไรดี?
• ดร.นิเวศน์
o อยู่กันไปจะรู้ว่าบทบาทใครเป็นอย่างไร หน้าที่ตรงนี้ใครทำ โดยธรรมชาติจะปรับไปเรื่อยๆ ใหม่ๆก็มีฝ่ายหนึ่งพยายามบอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ สักพักจะรู้ว่าให้เขาทำดีกว่า มันดีกว่า

อ.เสน่ห์ปิดท้าย สอนอะไรก็แล้วแต่ให้ลูกรวย 1) ขอให้รวยอย่างยั่งยืน 2) รวยแล้วขอให้มีความสุข 3) รวยแล้วช่วยเหลือดูแลสังคมด้วย ต้องรู้จักให้ เสียสละ และรวยแล้วไม่โกง สำคัญที่สุด แล้วจะส่งต่อความร่ำรวยให้อย่างภาคภูมิใจ

ดร.สมจินต์ เสริมเรื่องการออมและการลงทุนอยากให้เกิดเป็นวัฒนธรรม นึกถึง 3 คำ ในงบกำไรขาดทุน รายได้-รายจ่าย = กำไร มี 3 งานด้วยกัน อยากสอนลูกให้เป็นวัฒนธรรมคือ “พากเพียรในการทำงาน พอเพียงในการจับจ่าย เพลิดเพลินในการลงทุน”
Go against and stay alive.
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 24

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ
Vi IMrovised
ภาพประจำตัวสมาชิก
ronnachai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 167
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ
ความรู้สำคัญ แต่ความเข้าใจสำคัญกว่า :8)
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1736
ผู้ติดตาม: 38

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากค่ะน้องบิ๊ก :wink:
Reflog
Verified User
โพสต์: 4
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณมากๆ เลยครับ

ผมอ่านข้อความของคุณ i-salmon จบแล้วนะครับ... ผมช่วยให้ค่าเฉลี่ยการอ่านของคนไทยเพิ่มขึ้นแล้วครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
lekkung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 121
ผู้ติดตาม: 7

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 6

โพสต์

จดได้ครบถ้วนมากๆเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณวิทยากรทุกท่านครับ

พ่อแม่ "ทำ" ให้ลูกเห็น ผมว่าเด็กเค้าได้เรียนนะ

อันนี้ผมก็เดา ๆ เอานะครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
earthcu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 360
ผู้ติดตาม: 99

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่นำมาฝากเพื่อนๆ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
เทียน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 426
ผู้ติดตาม: 2

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 9

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขอบคุณวิทยากรทุกท่านครับ

พ่อแม่ "ทำ" ให้ลูกเห็น ผมว่าเด็กเค้าได้เรียนนะ

อันนี้ผมก็เดา ๆ เอานะครับ
ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันครับ
หวานกับแวว
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณค่ะ
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
untrataro25
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1053
ผู้ติดตาม: 39

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณครับ :P
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
ลูกหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 1

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
Daraja
Verified User
โพสต์: 12
ผู้ติดตาม: 0

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2502
ผู้ติดตาม: 9

Re: Money talk@SET3Nov13 ชีวิต,ธุรกิจ,สังคม และสอนลูก

โพสต์ที่ 14

โพสต์

คลิปย้อนหลังครับ :D

[youtube]hT1rv3BUBNY[/youtube]
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
โพสต์โพสต์