รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
WHYDOWEFALL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 90
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สมมติผมถือหุ้นบริษัทน้ำมันตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ราคาทุน 320 ถือมาแล้วหลายปี PE ประมาณ 9 เท่า ปันผลประมาณ 4% ซึ่งปัจจุบันราคายังไม่ไปไหน ปันผลก็เดิมๆ กำไรก็ไม่ค่อย growth เท่าไหร่ แต่เนื่องจากตัวนี้ PE 9 เท่า ผมจะพอพูดได้ไหมว่าได้กำไรปีละ 11% ทั้งๆที่ราคาไม่ไปไหน ปันผลก็แทบไม่เพิ่ม ก็แค่ราว 4%

ปล. บางทีทางบ้านถามหน่ะครับ กำลังทำอะไรอยู่ ผมก็ตอบไปว่า ลงทุนหุ้นอยู่ T o T คือถ้า success เนี่ย คำตอบนี้อย่างเท่อ้ะคับ แต่มันไม่ใช่งัย
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1224
ผู้ติดตาม: 5

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถ้าคิดว่าซื้อหุ้นคือซื้อธุรกิจและตั้งใจถือลงทุนมาได้หลายปี
ถ้ามีคนถามว่าทำอะไรอยู่ คำตอบคือ ลงทุนในหุ้น
ผมว่าคำตอบก็เหมาะสมแล้วครับ

ส่วนได้กำไรเท่าไหร่ ถ้าราคาวันนี้ไม่ต่างจากวันที่เราซื้อ
คำตอบของผมคงเป็น กำไร4เปอร์เซ็นต์/ปี เฉพาะปันผลครับ

ผมก็ยังมือใหม่แต่ถ้าหุ้นตัวไหนแม้วันนี้จะถูก แต่ผมไม่รู้ว่าอนาคตกำไรและมูลค่าคร่าวๆเป็นเท่าไหร่
ผมมักจะเลี่ยงหุ้นแบบนั้นครับ
เป็นกำลังใจให้น๊ะครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
tum_H
Verified User
โพสต์: 1857
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หากใช้เงินฝาก มาเป็นตัวเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับคือ 4%
และยังไม่รวมส่วนต่างมูลค่าหุ้นที่อาจเพิ่มขึ้น ก็น่าจะมากกว่า 4% ต่อปี

หากการลงทุนของเราได้มากกว่าการฝากเงิน สำหรับผมถือว่าน่าพอใจนะครับ
เพราะส่วนใหญ่ที่เรามาลงทุนในหุ้น ก็เพราะต้องการได้รับผลตอบแทนมากกว่า
ฝากธนาคาร

เพียงแต่ว่า เราเองต้องตั้งเป้าหมายให้แน่ชัดว่า ความคาดหวังของผลตอบแทนต่อปี
ที่เราต้องการคือเท่าไหร่ และใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนครับ

หากหุ้นที่เราถือให้ผลตอบแทนต่ำกว่าคาด ก็ต้องนำกลับมาวิเคาระห์หรือหาหุ้นตัวใหม่
ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 5

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

การลงทุนในหุ้น นั้นเป็นความเข้าใจของ ตัวเราเองนะครับ

ต่อให้คุณพูดว่า ลงทุนในหุ้น คนฟังส่วนใหญ่ ก็ยังเข้าใจว่า คุณเล่นหุ้นอยู่ดี

ดังนั้น คนอื่นจะเข้าใจอย่างไร ไม่สำคัญ ว่า ตัวเรา เข้าใจอย่างไร

และที่สำคัญ เราจะรู้ได้ อย่างไร ว่าความเข้าใจของเรามันถูกต้อง

อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ กว่าเยอะครับ

******

เริ่มต้นเราก็ลงทุน ตามความรู้ที่เรามี ตามหนังสือที่อ่าน หรือ .... แล้วทำความเข้าใจ

ถ้าลงทุนโดย ความรู้ ความเข้าใจน้อย (จากการอ่านหนังสือน้อย หรืออ่านมากแต่เข้าใจน้อย หรือ ...)

เราก็จะมีความเสี่ยงเพราะ เราไม่เข้าใจ ใน สิ่งที่เราทำดีนัก

ผลตอบแทน ก็ไม่น่าจะดี หรือ ดี ก็แบบไม่แน่นอน

และ เราก็ไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำ เพราะเราไม่รู้ ในสิ่งที่ทำ

ดังนั้นสื่งที่สำคัญ ของการลงทุน คือ การหาความรู้ ที่ถูกต้อง ในการลงทุน

การหาความรู้ ก็คือ การอ่านหนังสือ การฟังผู้มีความรู้ การทำความเข้าใจ การ Post บ่อย ๆ

ทำสิ่งที่ถูกต้อง บ่อย ๆ ก็จะมี ความเชี่ยวชาญเอง



ยกตัวอย่างการทำสิ่งที่ถูกต้องบ่อย ๆ เช่น

ถ้าอยากมีความรู้การลงทุนทาง VI ก็ ควรอ่าน หนังสือ อาจารย์ นิเวศน์ Warren Lynch มาก ๆ

แต่ถ้าไปอ่านหนังสือ แนวกราฟ ก็น่าจะเป็นคนละแนวทาง ทำให้ล่าช้าได้


ไม่มีใคร ที่ประสบความสำเร็จ โดยอ่านหนังสือน้อย (เท่าที่ผมรู้นะครับ :D )
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
KriangL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1489
ผู้ติดตาม: 4

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

วิธีคิดผลตอบแทนที่ใช้กับเป็นมาตรฐาน คือ capital gain + dividend yield ซึ่งถ้าราคายังเหมือนเดิม ไม่มี capital gain ผลตอบแทนก็คือ 4% ครับ

ส่วนที่บริษัทมี P/E 9 เท่า หรือคิดกำไร 11% ก็ให้มองว่าบริษัทมีเงินเก็บ 11-4 = 7% เอาไปขยายกิจการ สุดท้ายแล้วขยายกิจการได้ EPS โตขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่าคงต้องขึ้นที่ตัวบริษัทแล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 327

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ลักษณะนี้ต้องไปดูที่ cash flow ครับถ้าให้เดา กิจการนี้ไม่สามานถปันผลที่เต็มที่ ถ้าไม่มาจากการที่ต้องเอาเงินไปลง maintenance capex ก็น่าจะมาจากเจ้าของเก็บเงินเอาไว้ใช้เองในกิจการ

หากไม่มีการเติบโต รายได้สม่ำเสมอ กำไรเท่าๆ เดิม ปันผลเท่าๆ เดิมตลอด คิด return จากปันผลเลยก็ได้ครับ อย่าไปหวังอะไรกับเงินที่เจ้าของเก็บไว้กับตัวเลยครับ เรามักไม่ค่อยได้อะไร
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

กำไร 11% ถ้าจะตีความว่าได้กำไร เราควรตีจากกำไร(เงิน)ที่เราได้รับจริงๆครับ
ไม่ควรตีจากกำไรที่มาจากการประเมิน

แล้วในมุมของผม PE = 9 คือลงทุน 9 ปี ได้เงินลงทุนคืนมาทั้งหมดที่เหลือ
คือ กำไรจากส่วนต่างราคา+เงินปันผลในปีต่อๆไป
ก็ต้องย้อนกลับมาดูว่า แผนการลงทุนของคุณในหุ้นตัวนี้คืออะไร แล้วมันยัง
ตอบโจทย์ของคุณอยู่หรือเปล่าครับ

....^^)
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

WHYDOWEFALL เขียน:สมมติผมถือหุ้นบริษัทน้ำมันตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ราคาทุน 320 ถือมาแล้วหลายปี PE ประมาณ 9 เท่า ปันผลประมาณ 4% ซึ่งปัจจุบันราคายังไม่ไปไหน ปันผลก็เดิมๆ กำไรก็ไม่ค่อย growth เท่าไหร่ แต่เนื่องจากตัวนี้ PE 9 เท่า ผมจะพอพูดได้ไหมว่าได้กำไรปีละ 11% ทั้งๆที่ราคาไม่ไปไหน ปันผลก็แทบไม่เพิ่ม ก็แค่ราว 4%

ปล. บางทีทางบ้านถามหน่ะครับ กำลังทำอะไรอยู่ ผมก็ตอบไปว่า ลงทุนหุ้นอยู่ T o T คือถ้า success เนี่ย คำตอบนี้อย่างเท่อ้ะคับ แต่มันไม่ใช่งัย
บริษัทที่มีลักษณะดังที่กล่าวมาสามารถประเมินมูลค่าโดยใช้วิธี dividend discount model ครับ
Dividend = 320 x 4% = 12.8 บาท
Growth = 0%
Cost of Equity = 10%
Intrinsic value = 12.8 / 10% = 128 บาทครับ

ราคา 320 บาทถือว่า overvalue ครับ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
SawScofield
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 238
ผู้ติดตาม: 7

Re: รบกวนปรึกษาการลงทุนคับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะได้รึปล่าวครับ

ตัวเลข 11% นั้นหรือจะย้อนมาถึง PE เองก็ตาม เป็นเพียง "ป้ายบอกทาง" นะครับผมว่า
ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ได้ เพราะแม้ E จะดำเนินไปอย่างแม่นยำซักเพียงใด
แต่ P นี่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไปไม่ถึงปลายทางได้ตลอดเวลา

4% ที่เข้ากระเป๋ามาแล้วคือของจริงมิใช่ภาพลวงตา แต่อีก 7% นั้นหนาไม่ได้สัญญาว่าจะให้นะครับ

ก็ต้องย้อนกลับมาดูประเภทบริษัทแล้วครับว่าเราเลือกสรรมันได้เหมาะกับตัวเราเพียงใด แม้จะมั่นคงแต่ขนาดบริษัทอาจจะอุ้ยอ้ายเกินกว่าจะให้ capital gain เราต่อเนื่องยาวนานหรือไม่ คนส่วนใหญ่ในตลาดอาจไม่ได้ให้คุณค่าที่คุณค่าเพราะราคามันเห็นชัดกว่าเป็นไหนๆครับ ^^
Respect, Persistence then Deserve
โพสต์โพสต์