ยอดใช้แอลพีจีครัวเรือน9เดือนลด19%

[วรันศ์ บัฟเฟต]

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... �͹Ŵ19.html

พลังงานเผยยอดการใช้แอลพีจีภาคครัวเรือน รอบ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ลดฮวบ 19% ผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีราคาเดิม แค่ 51,000 ราย

นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง ในรอบ 9เดือน ตั้งแต่มกราคมถึงกันยายน 2556 ว่า ตัวเลขการใช้แอลพีจี ในช่วง9เดือนแรก ในกลุ่มภาคครัวเรือน มีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงเดียวกันของปี2555 จาก 8.2 พันตันต่อวันมาอยู่ที่ 6.6 พันตันต่อวัน หรือ 19% ในขณะที่การใช้ภาคขนส่ง มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 65% จาก 2.9พันตันต่อวันมาอยู่ที่ 4.8 พันตันต่อวัน โดยมีปัจจัยสำคัญจากการ กรมธุรกิจพลังงาน ได้คุมเข้าการลักลอบนำแอลพีจีไปจำหน่ายข้ามสาขา ที่มีส่วนต่างของราคาสูงกว่า รวมทั้งการจำกัดโควตาของโรงบรรจุ ให้ให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ส่วนการใช้ในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่1.7พันตันต่อวัน และการใช้ในภาคปิโตรเคมี เฉลี่ยอยู่ที่ 7.1 พันตันต่อวัน

สำหรับการนำเข้าแอลพีจี ในช่วงเดือนแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 157พันตันต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้รัฐต้องมีภาระในการจ่ายเงินชดเชย สะสม ประมาณ24,353ล้านบาท โดยการนำเข้าเริ่มมีปริมาณสูงขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซหน่วยที่3 และการเกิดอุบัติเหตุฟ้าผ่าอุปกรณ์ ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตของโรงแยกก๊าซหน่วยที่5

ในขณะที่โครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1กันยายน2556 จนถึงวันที่12 ตุลาคม 2556 พบว่า ยังมีการเข้ามาใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิมจำนวนน้อย โดยในกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า90หน่วยต่อเดือนและหาบเร่แผงลอย ซึ่งมีอยู่ ประมาณ7.7ล้านราย นั้น มีลงทะเบียนเพียง51,086ครั้ง มาใช้สิทธิ์ 45,683ครั้ง คิดเป็นปริมาณแอลพีจี 749,654กิโลกรัม และเป็นเงินช่วยเหลือ 523,347บาท เท่านั้น ซึ่งปัญหาที่พบมีทั้งความเข้าใจเรื่องการลงเทียนและการใช้สิทธิ์ การปรับราคาแอลพีจีที่ยังขึ้นไปเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม และกรณีของร้านค้าก๊าซที่มีความกังวลเรื่องการตรวจสอบภาษี จึงไม่ให้ความร่วมมือ การปฎิเสธการจำหน่าย ซึ่งกรมจะเร่งทำความเข้าใจร้านค้าก๊าซและผู้ค้ามาตรา 7เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการมาใช้สิทธิ์มากขึ้น

[py106]

ส่วนตัวผมคิดว่า อะไรที่ highly incentivised โดยภาครัฐมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดเหตุการลักลอบขึ้นแบบนี้ครับ และคิดว่าคงมีอีกมากที่เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน

กำหนดนโยบายช่วยเหลือ ก็จะมีการโกงกันเป็นขบวนการ
ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด... ก็อย่างที่เห็น ปิดถนนสิครับ...

ไม่ว่าทางไหนก็ล้วนมีแต่ความวุ่นวาย ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็คงยากที่จะแก้ไข

สงสารประเทศจริงๆครับ