มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
visitboon
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุ
โอกาส
1. มีอัตราส่วนของผู้สูงอายุมากขึ้น
2. มีโอกาสใช้บริการรพ.มากขึ้น

ความเสี่ยง
1. ผู้ที่มีความสามารถชำระค่าบริการที่สูงมีไม่มาก
2. รัฐและบริษัทประกันอาจจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รัฐอาจเข้ามาเป็นคู่แข่ง ถ้าคนไทยส่วนใหญ่มีประกัน บริษัทประกันจะเข้าควบคุมค่าใช้จ่ายเหมือนต่างประเทศ

ความเห็น
-ในระยะสั้น ยังดีอยู่ แต่จะโตเหมือน 10 ปีที่ผ่านมาคงไม่ได้
การสร้างรพ.ใหม่ มีค่าเสื่อมสูง รวมทั้งในระยะแรกจะขาดทุนก่อนเป็นเวลาหลายปี
การซื้อรพ.เก่าก็ไม่สามารถซื้อได้ถูกเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเป็นธุรกิจที่ดี จะขายก็ต่อเมื่อได้ราคาดี
-ในระยะยาว รพ.ที่จับลูกค้าระดับ ล่าง-กลาง น่าจะมีโอกาศเติบโตได้มากกว่า รพ.ที่จับลูกค้าระดับสูง เนื่องจาก
1. คนมีรายได้สูงมักมีลูกน้อย
2. แม้จะรุกตลาดเพื่อนบ้าน แต่คนรวยในประเทศเหล่านี้มีน้อย
3. ตลาดเดิม (ต่างชาติ) ค่อนข้างอิ่มตัว ยอดคนไข้เพิ่มน้อยกว่ารายได้ เกิดจากเพิ่มค่ารักษา
4. ต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยเนื่องจากค่าแรง ทำให้ความแตกต่างของค่ารักษาเมื่อเทียบกับคู่แข่งในต่างประเทศลดลง
คนที่ได้ประโยชน์มากน่าจะเป็นบริษัทขายยา อุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า

อยากฟังความเห็นคนอื่นบ้างครับ
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 1

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

visitboon เขียน:มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุ
โอกาส
1. มีอัตราส่วนของผู้สูงอายุมากขึ้น
2. มีโอกาสใช้บริการรพ.มากขึ้น

ความเสี่ยง
1. ผู้ที่มีความสามารถชำระค่าบริการที่สูงมีไม่มาก
2. รัฐและบริษัทประกันอาจจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รัฐอาจเข้ามาเป็นคู่แข่ง ถ้าคนไทยส่วนใหญ่มีประกัน บริษัทประกันจะเข้าควบคุมค่าใช้จ่ายเหมือนต่างประเทศ

ความเห็น
-ในระยะสั้น ยังดีอยู่ แต่จะโตเหมือน 10 ปีที่ผ่านมาคงไม่ได้
การสร้างรพ.ใหม่ มีค่าเสื่อมสูง รวมทั้งในระยะแรกจะขาดทุนก่อนเป็นเวลาหลายปี
การซื้อรพ.เก่าก็ไม่สามารถซื้อได้ถูกเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเป็นธุรกิจที่ดี จะขายก็ต่อเมื่อได้ราคาดี
-ในระยะยาว รพ.ที่จับลูกค้าระดับ ล่าง-กลาง น่าจะมีโอกาศเติบโตได้มากกว่า รพ.ที่จับลูกค้าระดับสูง เนื่องจาก
1. คนมีรายได้สูงมักมีลูกน้อย
2. แม้จะรุกตลาดเพื่อนบ้าน แต่คนรวยในประเทศเหล่านี้มีน้อย
3. ตลาดเดิม (ต่างชาติ) ค่อนข้างอิ่มตัว ยอดคนไข้เพิ่มน้อยกว่ารายได้ เกิดจากเพิ่มค่ารักษา
4. ต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยเนื่องจากค่าแรง ทำให้ความแตกต่างของค่ารักษาเมื่อเทียบกับคู่แข่งในต่างประเทศลดลง
คนที่ได้ประโยชน์มากน่าจะเป็นบริษัทขายยา อุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า

อยากฟังความเห็นคนอื่นบ้างครับ
1) สัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะไม่มีประโยชน์มากนัก ถ้าสัดส่วนที่สูงขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์เบิกข้าราชการ บัตรทอง เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะเข้ารพ.เอกชนเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

2) สืบเนื่องจากข้อแรก ถ้ารพ.ของรัฐ ลงมาแข่งขันเสียเองเต็มรูปแบบ ในลักษณะของการรักษาที่เบิกค่ารักษาได้บวกกับเสียค่ารักษาเพียงบางส่วน ผู้ป่วยกลุ่มข้าราชการรวมถึงสิทธิ์ของรัฐ เช่น บัตรทอง ประกันสังคม มีแนวโน้มจะไหลมาทางรพ.ของรัฐ เนื่องจากความรู้สึกที่ว่า เบิกได้และค่ารักษาน่าจะถูกกว่ารพ.เอกชนถึงแม้จะต้องจ่ายเงินเองบ้าง ซึ่งมีความเป็นไปได้เนื่องจากแนวโน้มของการออกนอกระบบของรพ.รัฐ ดังจะเห็นได้ว่ารพ.รัฐบางแห่งมีการแตกหน่วยที่มีการบริหารงานแบบรพ.เอกชน ซึ่งถึงแม้จะเพิ่งดำเนินการแต่ก็สามารถเรียกผู้ป่วยได้ไม่ยากนักเนื่องจากได้รับความเชื่อถือจากชื่อเสียงของรพ.รัฐที่แตกออกมา

2) ประเด็นของบ.ประกันเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาส เพราะคนไข้รพ.เอกชนทุกวันนี้ส่วนหนึ่งใช้สิทธิ์ประกัน นั่นแปลว่าคนไข้กลุ่มนี้มีสวัสดิการของรัฐ เช่น บัตรทอง ประกันสังคมอยู่แล้ว แต่ที่มีสิทธิ์ประกันเป็นเพราะ ทำประกันเองหรือได้รับสิทธิ์ประกันกลุ่มจากที่ทำงาน ในแง่ความเสี่ยงถ้าบ.ประกันควบคุมค่าใช้จ่ายในการรักษารพ.ย่อมมีรายได้ลดลง แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสเช่นกัน ถ้าแนวโน้มในอนาคต รัฐบาลแบกรับค่ารักษาพยาบาลของประชาชนไม่ไหว อาจจะโยนภาระนี้ไปให้กับประชาชนโดยการบังคับให้ทำประกันชีวิต ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จะสร้างรายได้ให้แก่รพ.เอกชนเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นไปได้คงไม่ง่ายนักเนื่องจาก การจะทำแบบนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการสูญเสียคะแนนเสียงของโครงการประชานิยม

4) การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากค่านิยมของคนเปลี่ยนไป คนนิยมเรียนแพทย์และพยาบาล รวมถึงบุคลากรสายสุขภาพน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องจากงานหนักและเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง การขยายตัวของรพ.เอกชนทำให้เกิดการแย่งตัวบุคลากร รวมถึงยอมนำบุคลากรที่จบใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์มาทำงาน นำมาซึ่งปัญหาข้อที่ 5

5) ความเสี่ยงของการฟ้องร้อง ถ้าเชื่อว่าประเทศไทยจะเดินตามประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกา สุดท้ายแล้วคดีฟ้องร้องจะรุนแรงขึ้น การเรียกร้องค่าเสียหายจะมากขึ้น รพ.แบกรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น การเก็บค่ารักษาพยาบาลก็จะมากขึ้นเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงตรงนี้ สุดท้ายจะมาซึ่งวงจรกลับไปข้อที่ 4 แบบที่อเมริกาเจอนั่นก็คือ คนอเมริกาทำงานในสายวิชาชีพทางการแพทย์ โดยเฉพาะสาขาที่่ความเสี่ยงสูงน้อยลง สุดท้ายเมื่อปัญหารุนแรงก็จะต้องจบที่การนำเข้าบุคลากรจากประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าจ้างต่ำกว่า แต่ก็อาจจะพ่วงด้วยปัญหาด้านคุณภาพว่าจะได้ตามที่ต้องการหรือไม่
"Become a risk taker, not a risk maker"
jokerz
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1739
ผู้ติดตาม: 21

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขออนุญาตินำบทความไปห้อง BGH นะครับ เผื่อพี่ๆเพื่อนๆบางคนอาจจะไม่เห็นกระทู้นี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Simply
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ในมุมมองของผมนั้นกลับกันกับเจ้าของกระทู้ เพราะยิ่งบริการในโรงพยาบาลรัฐมีโหลดงานมากเท่าไหร่ คนที่มีกำลังจ่ายจะหนีจากโรงพยาบาลรัฐมาเอกชน ผมอยู่ต่างจังหวัด คนไข้ไปรอตรวจเป็นไข้หวัดในโรงพยาบาลอำเภอกว่าจะตรวจเสร็จรับยาก็ค่อนวัน นั่นหมายถึงเสียเวลาทำงานไปค่อนวัน ผมเห็นคลีนิคหมอในตัวอำเภอคนแน่นทุกวัน อย่าลืมครับว่าเพราะเหตุอย่างนี้คนเลยเข้าโรงพยาบาลเอกชน เหตุผลที่สอง หมอโรงบาลรัฐมีน้อย ต้องรับตรวจคนไข้มาก การทำงานก็ต้องมีเวร พักผ่อนไม่พอ การทำงานยังไงโอกาสพลาดย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว คนไข้อยากได้เวลาจากหมอในการดูแลคนไข้ ถ้าพอจ่ายได้ยังไงก็ไปเอกชนดีกว่า เผลอๆได้เจอหมอเฉพาะทางและตัวเองเป็นคนเลือกหมอ ไม่ใช่ถูกเลือกให้ไปเจอหมอ
โรงพยาบาลเอกชนนั้นเกิดขึ้นมาเพราะมันมีอุปสงค์อยู่แล้ว อุปสงค์ที่ว่าโรงพยาบาลรัฐรับภาระไม่หมดหรอกครับ ไม่งั้นคลีนิคหรือโรงพยาบาลเอกชนอยู่ไม่ได้หรอกครับ เคยได้ยินมาว่า คลีนิคหมอกระดูกที่น่าน เคยตรวจถึงตีสองกว่าคนไข้จะหมดจากสี่โมงเย็น
ทุกวันนี้คนป่วยง่ายกันมากกว่าเมื่อก่อน การดูแลสุขภาพก็ไม่ได้มีเวลามากพอ ทำงานวันละเท่าไหร่ สังสรรค์Hang Outกันเท่าไหร่ ถ้าคนป่วยน้อยลงทุกวัน ก็คงไม่ต้องผลิตหมอ ผลิตพยาบาลเพิ่มขึ้นหรอกครับ เรื่องความเจ็บป่วยมันห้ามไม่ได้ ที่น่าจะตามดูคือพฤติกรรมของคนไข้คนป่วยเดี๋ยวนี้ไปทางไหนดีกว่า เพราะพฤติกรรมของคนจะกำหนดทิศทางสิ่งต่างๆ
สิ่งที่จะทำให้เกิดเหมือนอย่างอเมริกานั้น คงขึ้นกับนโยบายของรัฐเองครับ รัฐบาลไทยใจดีที่สุดแล้วครับ รับภาระดูแลคนส่วนใหญ่ ประเทศอื่นๆยังดูแลได้ไม่ดีเท่าบ้านเราเลยครับ
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมเห็นตรงข้ามเช่นกันครับ
ล่าสุดมีโอกาสเดินทางไปต่างแดน
ผมยิ่งมั่นใจเลย ทำไมเมืองไทย ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวเสมอ

ซึ่งมันก็จะล้อไปตาม ธุรกิจโรงพยาบาลนี่ละครับ

1.คนชราทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น และผมคิดว่าเป็นข้อดี ที่เพิ่มความต้องการการใช้บริการ
เนื่องจากปริมาณคนชราที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องมีผู้มีรายได้สูงรวมอยู่ด้วย และหลายๆครั้งผู้ออกค่าใช้จ่ายก็เป็นลูกหลาน

2.โดยเฉพาะรายได้ที่จะเกิดจาชาวต่างชาติ ทั่วโลก โดย เป็นข้อคิดเห็นล้วนๆครับ
-เมืองไทย อาหารการกิน ค่าใช้จ่ายในชีวิต ถูกมากกกกกกกกกก เมื่อเทียบกับเมือง อื่นๆ
-ใน ขณะที่ เรามีสาธารณูปโภค พร้อมพอตัว
-คนไทยพื้นฐาน เป็นคนอัธยาศัยดี เป็นมิตร พูดภาษาอังกฤษพอได้
-เมืองหลักๆในไทย ตื่นตลอดเวลา อาหารหารกิน บริการเอกชน หาได้ตลอด


ปัญหาสำหรับนักลงทุนตอนนี้คือ
เรื่องพวกนี้ ตลาด รู้นานนนนนนนน แล้วนั่นเอง :cry: :cry: :cry: :cry:
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 24

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เพื่อนคนมาเลย์ของผมเคยพูดให้ฟังครับ ว่าธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในมาเลย์นั้นบูมมากๆ ผู้คนเป็นมิตร พูดภาษาอังกฤษกันได้ อาหารอร่อย เป็นอาหารฮาลาลของแท้ทั้งนั้น สถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย สถานที่ช็อปปิ้งซื้อของแยะเยอะ ที่สำคัญคือมีราคาไม่แพงเลย

พอได้ยินแบบนี้แล้วทำให้ผมต้องกลับมามองอีกบ่อยๆ ว่าธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทยนั้นได้เปรียบต่างชาติอย่างยั่งยืนจริงหรือ?
Vi IMrovised
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 22

Re: มุมมอง เกี่ยวกับรพ.เอกชนและสังคมผู้สูงอายุของผม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

จริงๆแล้ว ปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนา ในมาเลย์ เป็นคลื่นใต้น้ำที่รุนแรงกว่าที่เราคิดนะครับ
เค้าอาจจะเด่นเรื่องการดึงลูกค้าอาหรับเพราะข้อได้เปรียบเรื่องศาสนา
แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ไทยเราน่าเหนือกว่า
โพสต์โพสต์