เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 434
ผู้ติดตาม: 3

เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 1

โพสต์

1.ซื้อทั้ง 2 ตัว
2.ขายทิ้งทั้ง 2 ตัว
3.ซื้อ CPALL ขาย MAKRO
4.ซื้อ MAKRO ขาย CPALL
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 7

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถ้าmakroมีdiscountสัก3-5%จากราคาtender offer ผมซื้อนะ
กู้มาซื้อด้วย(ขึ้นกับระยะเวลาที่รับเงินกับดอกเบี้ยจ่าย) เอามาทำarbitrage
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 1

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขายทิ้งทั้งคู่

makro ถ้าดีลล้ม ราคาตกฮวบ ขายตอนนี้ ถูกกว่าราคาเทนเดอร์ 3-4 % แต่ได้เงินชัวร์ครับ

cpall คงอ่วมครับงานนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 7

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 4

โพสต์

http://manager.co.th/iBizchannel/viewNe ... 0000049439
หากผถห.cpallอนุมัติแล้ว ดีลนี้น่าทำarbitrage
ตามข่าวบอก4เดือนเสร็จ
หากหลังอนุมัติราคาไม่เพิ่ม ราคาตอนนี้ยังdiscount 4%
คิดเป็น12%ต่อปี โดยไม่มีความเสี่ยง
ถ้ากู้มาทำก็เพิ่มไปอีก
แต่ใครคิดจะทำarbitrage
ให้ไปอ่านWarren Buffet and the art of stock arbitrageก่อน
จะได้เข้าใจแนวคิด วิธีการ การจำกัดความเสี่ยง
stock_arbitrage.jpg
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 434
ผู้ติดตาม: 3

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ไม่มีอะไรที่ไม่เสี่ยง อนาคตแม้แต่วันเดียวก็เสี่ยง
การทำอาบิเทจโดยมีเวลา สองเดือนคิดให้ดีก่อนทำ
เดิมหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ ผมไม่สนใจเลย
แต่เหตุการณ์แบบนี้ นานๆจะเกิดที
มีผลกระทบอย่างแรงต่อธุรกิจแน่นอน
ผมว่า น่าสนใจที่จะคิดหนักๆ และหาข้อมูลมากๆ
เกี่ยวกับหุ้นคู่นี้ อาจจะพ่วง SCB CPF ไปด้วยก็ได้
การคิดอย่างรอบครอบ และหาข้อมูล อย่างมีจินตนาการ
เราอาจจะ กำไร(ขาดทุน) จากการตัดสินใจที่ถูกต้อง(ตัดสินใจผิด)
คืนนี้ทั้งคืน ผมจะรวบรวมข้อมูลและสรุปว่า พรุ่งนี้ ผมจะทำอย่างไร
ผมหวังว่า ผมคงคิดถูก (ตัดสินใจตามที่คิด)
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 434
ผู้ติดตาม: 3

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คำตอบมี 4 ข้อ แต่ถ้าใครเลือก ข้อ X
แสดงว่าคนนั้น Logic ไม่ดี
ข้อนั้นคือ อืม ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 1

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 7

โพสต์

cpf เพิ่งขาย big lot cpall เมื่อไม่นานมานี้ 2 lot ใหญ่ คงอยากให้คนอื่นได้เป็นเจ้าของกันมากๆๆ ถ้าอนาคตดีจริง ก็ไม่น่าขายออกมานะ แหม ขายเสร็จ ชวนผถห รายใหม่ร่วมกันซื้อ makro เลย ใจถึงจริงๆๆๆ

พวกรายย่อยก็คิดดีๆๆนะครับ ต้องอยู่กันยาวๆๆๆมากครับ ผมพูดจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนะครับ ส่วนตัวไม่มีทั้ง 2 ตัวนี้นะครับ

ข้อควรระวังคือหลังเทนเดอร์ ไม่มีการ เอา makro ออกจากตลาด แล้วก็จะมีปัญหาสภาพคล่อง ราคาmakro จะร่วง แบบ intuch ในสมัยก่อน ทำให้ cpall อาจต้องบันทึกการด้อยค่าหรือป่าว ทำให้กำไรโดยภาพรวมดูแย่ลงไปอีก แล้วยังต้องกระจายหุ้นออกมาอีก ให้มี free float ไม่ต่ำกว่า 15 % คาดว่ากว่าจะระบายได้คงหลายปี เพราะซื้อแพงเหลือเกิน ไม่รู็กองทุนหรือใครจะกล้ามารับซื้อแพงๆๆแบบ cpall คงมีเรื่องให้กังวลอีกเยอะครับ
Monet
Verified User
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 0

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ROGER เขียน:ข้อควรระวังคือหลังเทนเดอร์ ไม่มีการ เอา makro ออกจากตลาด แล้วก็จะมีปัญหาสภาพคล่อง ราคาmakro จะร่วง แบบ intuch ในสมัยก่อน ทำให้ cpall อาจต้องบันทึกการด้อยค่าหรือป่าว ทำให้กำไรโดยภาพรวมดูแย่ลงไปอีก แล้วยังต้องกระจายหุ้นออกมาอีก ให้มี free float ไม่ต่ำกว่า 15 % คาดว่ากว่าจะระบายได้คงหลายปี เพราะซื้อแพงเหลือเกิน ไม่รู็กองทุนหรือใครจะกล้ามารับซื้อแพงๆๆแบบ cpall คงมีเรื่องให้กังวลอีกเยอะครับ
สอบถามคุณ ROGER หน่อยครับ ว่าทำไมสภาพคล่องน้อยราคาน่าจะร่วง
ผู้ถือหุ้นรายย่อย MAKRO ที่ไม่ขายให้ CPALL ในตอนนี้ที่ราคาดีมาก ๆ ก็น่าจะถือต่อไปเรื่อย ๆ
ไม่น่าจะเปลี่ยนใจขายหลังเทนเดอร์ ซึ่งสภาพคล่องไม่มีแล้ว
เคส INTUCH สมัยก่อนเป็นอย่างไรหรือครับ ช่วยเล่าคร่าว ๆ เพิ่มเติมให้หน่อยสิครับ
(ผมไม่เคยติดตาม INTUCH น่ะครับ เลยไม่ทราบ)
ขอบคุณครับ
บทที่หนึ่ง "ทำงานหาเงิน"
panwasit
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 9

โพสต์

makro ขึ้นไปเพราะ cpall ซื้อ 787 เลยขึ้นเยอะ PE สูง ถ้าอยากทำ อบิทาน(เขียนไม่ถูก) 3% ใน3เดือน ก็น่าสนใจ (เห็นว่า CPALL จะ tender เดือน 7)

CPALL ลงมา ไม่รู้เพราะอะไร นายตลาดตกใจมั้ง กลัวหนี้เยอะ กลัว 7 ทั้งประเทศเจ้ง ลงมาจากยอดที่ 52 เหลือ 40 บาท ได้ลดราคาเกือบ 20% แต่ราคานี้ จะซื้อ ถือ ขาย ก็คิดเอง PE ต่ำกว่า makro (มั้ง)

ผมเองคงไม่กล้าพูดมาก ความรู้น้่อย เลยมึนได้เรื่อยๆครับ

แนะนำ ถือ ซื้อ ขาย ครับ
ปล ความเห็นส่วนตัว
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมไม่มีหุ้นทั้งสองตัวละ
ดีลนี้
Cpall กู้ scb จ่ายเงินผู้ถือหุ้นใหญ่ makro
Makro เองทำงานเป็นเครื่องจักรปั้มเงินให้แก่ cpall

Cpall จ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น (อาสจะเป็นหนี้สั้นก่อนแล้วค่อยแปลงเป็นหุ้นกู้ยาว สุดท้ายถ้าไม่ได้ก็เพิ่มทุน)

ปัญหาคือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ makro เอาเงินออกนอกประเทศ -> ค่าเงินบาทอ่อนแน่นอน แต่เป็นการทยอยออกไม่ออกก้อนเดียว

ปัญหาต่อมาดีลนี้ออกมา ตอนที่มีข่าวข้อเสนอต่อ bot ให้ลดดอกเบี้ยพอดีเลย บังเอิญมากๆๆ

ในอดีต เมื่อมีการซื้อกิจการ
กิจการที่ถูกซื้อจะปันผลอย่างหนักหน่วงอย่างมากๆ
เช่น nippon scblif intouch เป็นต้น

ลองพิจารณาดูละกันว่าเลือกตัวไหนละกัน
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 7

Re: เหตุการณ์แบบนี้ เราควรจะซื้อ CPALL หรือ MAKRO

โพสต์ที่ 11

โพสต์

miracle เขียน:ผมไม่มีหุ้นทั้งสองตัวละ
ดีลนี้
Cpall กู้ scb จ่ายเงินผู้ถือหุ้นใหญ่ makro
Makro เองทำงานเป็นเครื่องจักรปั้มเงินให้แก่ cpall

Cpall จ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น (อาสจะเป็นหนี้สั้นก่อนแล้วค่อยแปลงเป็นหุ้นกู้ยาว สุดท้ายถ้าไม่ได้ก็เพิ่มทุน)

ปัญหาคือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ makro เอาเงินออกนอกประเทศ -> ค่าเงินบาทอ่อนแน่นอน แต่เป็นการทยอยออกไม่ออกก้อนเดียว

ปัญหาต่อมาดีลนี้ออกมา ตอนที่มีข่าวข้อเสนอต่อ bot ให้ลดดอกเบี้ยพอดีเลย บังเอิญมากๆๆ

ในอดีต เมื่อมีการซื้อกิจการ
กิจการที่ถูกซื้อจะปันผลอย่างหนักหน่วงอย่างมากๆ
เช่น nippon scblif intouch เป็นต้น

ลองพิจารณาดูละกันว่าเลือกตัวไหนละกัน
:)
เห็นว่าจะกู้เป็นเงินตราต่างประเทศนี่ครับ SHVก็รับเป็น$ไปเลย
ไม่งั้นคงไม่ได้อัตราดอกเบี้ย3-4%หรอกครับ เพราะต้นทุนแบงค์ก็3-4%แล้วในรูปบาท
แต่ถ้าเป็น$ ก็1-2% เอามาบวกเพิ่ม2% จึงทำให้สามารถปล่อยกู้ได้ที่เรท3-4%
ไม่คิดว่าในระยะยาวเงินบาทจะอ่อนค่าจากดีลนี้ครับ แต่ในระยะสั้นก็ใช่
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
โพสต์โพสต์