“เบอร์นันเก้ ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายผ่อนคลายการเงิน

[บูรพาไม่แพ้]

“เบอร์นันเก้ ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายผ่อนคลายการเงิน ชี้ว่างงานยังสูงข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 08:24:23 น.
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าววานนี้ว่า ขณะที่อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดจำเป็นต้องดำเนินมาตรการหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

นายเบอร์นันเก้กล่าวในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของเฟดต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวในอัตราปานกลาง และสถานการณ์ในตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้นทีละน้อย

ประธานเฟดกล่าวว่า ผู้ว่างงานราว 4.7 ล้านคนไม่มีงานทำมาเป็นเวลา 6 เดือนหรือมากกว่านั้น และอีกหลายล้านคนต้องการทำงานแบบเต็มเวลา แต่สามารถหาได้เพียงงานพาร์ท-ไทม์เท่านั้น

“อัตราว่างงานสูงได้สร้างความเสียหายอย่างมาก ซึ่งมีเพียงแต่ทำให้ผู้ว่างงานและครอบครัวของพวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อศักยภาพและแนวโน้มการผลิตของเศรษฐกิจของเราโดยรวมอีกด้วย"

“ขณะที่อัตราว่างงานสูงกว่าระดับปกติอยู่มากและเงินเฟ้อบรรเทาลงนั้น ความคืบหน้าสู่เป้าหมายว่าด้วยการจ้างงานสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคาของเฟดนั้น ต้องอาศัยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมาก" นายเบอร์นันเก้กล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐ

ประธานเฟดกล่าวว่า ในบรรยากาศทางเศรษฐกิจปัจจุบัน ประโยชน์ของแผนการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ของเฟดกำลังช่วยหนุนการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันต่อไป

เฟดได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวและกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการเงิน เฟดได้ดำเนินเสร็จสินการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณไปแล้ว 2 รอบ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ QE1 และ QE2 โดยได้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ, ตราสาร MBS และสินทรัพย์อื่นๆกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่แผนการดังกล่าวได้ส่งผลให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงทั้งจากในและต่างประเทศ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--

[บูรพาไม่แพ้]

เบอร์นันเก้หนุนญี่ปุ่นใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน เชื่อไม่มีเจตนาฉุดเงินเยนอ่อนข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 10:46:28 น.
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงการสนับสนุนนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบเชิงรุกของญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดการกับภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังในประเทศ โดยนายเบอร์นันเก้ไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านโยบายผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่นมีเจตนาที่จะทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง

เมื่อพูดถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่นมองว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ยังดำเนินการไม่มากพอในการจัดการกับเงินฝืดนั้น นายเบอร์นันเก้ ซึ่งแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า "ผมคิดว่าญี่ปุ่นควรพยายามขจัดภาวะเงินฝืด และผมสนับสนุนความพยายามนี้"

ทั้งนี้ การที่ประธานเฟดจะออกมาสนับสนุนนโยบายการเงินของประเทศอื่นถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้มีขึ้นก่อนที่จะมีการแต่งตั้งผู้ว่าการคนใหม่ของบีโอเจในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่รู้สึกไม่สบายใจกับอัตราดอกเบี้ยต่ำในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสกุลเงินของกลุ่มตลาดเกิดใหม่แข็งค่าขึ้น และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ

"ประเทศตลาดเกิดใหม่มีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วโดยทั่วไป แต่ผมไม่คิดว่าญี่ปุ่นจะเดือดร้อนในเรื่องนี้ ขณะที่เรายังไม่เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งผู้ว่าบีโอเจอย่างเป็นทางการ แต่เราเชื่อว่า สิ่งที่ญี่ปุ่นจะทำคือการใช้นโยบายการเงินที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ไม่ใช่หวังผลทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน" นายเบอร์นันเก้กล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--

[CARPENTER]

เพิ่มเงินมาเยอะๆ ไม่เป็นไร BOT ยินดีรับฝาก และให้ดอกสูงๆด้วย
BOT ยินดี ทำเพื่อผลประโยชน์ของคนทั้งโลก
แม้คนไทยทั้งประเทศต้องแบกภาระนี้จนหลังหัก
BOT ขวัญใจของประเทศร่ำรวย และธนาคารพาณิชย์

[บูรพาไม่แพ้]

รมว.คลังญี่ปุ่นลั่นรัฐบาลจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อขจัดเงินฝืด-กระตุ้นศก.ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 12:40:16 น.
นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า นโยบายเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอที่จะยุติภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 10 ปีได้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาโสะกล่าวกับรัฐสภาว่า ภาวะเงินฝืดเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกและยังบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการลงทุน


นายอาโสะกล่าวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการ 3 มาตรการเพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด ได้แก่ การใช้จ่ายด้านการคลังอย่างยืดหยุ่น การผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุก และยุทธศาสตร์การขยายตัว

รมว.คลังกล่าวต่อไปว่า นโยบายเศรษฐกิจของญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อาเบะโนมิคส์" ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้ราคาปรับตัวลงนั้น ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เมื่อพิจารณาจากการที่ญี่ปุ่นได้เผชิญกับภาวะเงินฝืดที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกที่ 2

นายอาโสะ กล่าวว่า ในฐานะผู้บุกเบิก ญี่ปุ่นควรจะประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาภาวะถดถอยที่เป็นผลมาจากเงินฝืด และนำเสนอแนวทางแก้ไขแก่ประเทศต่างๆทั่วโลก สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น มีสัญญาณที่เป็นบวกของการฟื้นตัว เมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้ นายอาโสะยังได้เรียกร้องให้มีการผ่านงบประมาณวงเงินถึง 92.61 ล้านล้านเยนประจำปี 2556 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--

[บูรพาไม่แพ้]

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งปิดพุ่ง 443.26 จุด ขานรับปธ.เฟดปกป้อง QEข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 15:39:37 น.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันนี้ หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงปกป้องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐเป็นวันที่ 2

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งทะยานขึ้น 443.26 จุด หรือ 1.96% ปิดที่ 23,020.27 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 22,734.84-23,031.69 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 6.886 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

นายเบอร์นันเก้กล่าวต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 ว่า มาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดถือเป็นสิ่งจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ และจะช่วยสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังสำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรฮ่องกงเปิดเผยว่า เศรษฐกิจฮ่องกงขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสถิติ 1.4% ในไตรมาส 3

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของฮ่องกงในไตรมาสที่แล้วนั้นขยายตัวเร็วขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวในจีนและไต้หวัน ในขณะที่เอเชียเป็นภูมิภาคที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--

[บูรพาไม่แพ้]

เงินท่วมโลกครับ...ไม่มีที่ไปก็ลงมาทางเอเซีย

[บูรพาไม่แพ้]

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวกหลังอีซีบี,เฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2556 07:36:47 น.
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6360.81 จุด บวก 34.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีซึ่งส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินในเร็วๆนี้ เนื่องจากคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2% ในปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังขานรับนายเบอร์นันเก้ ประธานเฟดซึ่งกล่าวต่อสภาคองเกรสว่า ขณะที่อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดจำเป็นต้องดำเนินมาตรการหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--

[romee]

“โอบามา” ลงนามคำสั่งตัดงบอัตโนมัติ $85,000 ล้าน หลังเจรจาคองเกรสล้มเหลว

http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000026172

แล้วข่าวนี้ละครับ มันจะเป็นไงบ้าง

[บูรพาไม่แพ้]

รองประธานเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าใช้ QE ต่อไปจนกว่าศก.สหรัฐฟื้นตัวยั่งยืนข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 5 เมษายน 2556 16:00:00 น.
นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

นางเยลเลนกล่าวในที่ประชุมครบรอบ 50 ปีของสมาคมนักเขียนและบรรณาธิการข่าวสารทางธุรกิจแห่งอเมริกา ว่า เนื่องจากอัตราว่างงานของสหรัฐอยู่ในระดับสูงถึง 7.7% เฟดจึงจำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างมาก โดยเฟดได้เข้าซื้อสินทรัพย์นับตั้งแต่ปลายปี 2551 ซึ่งรวมถึงพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งทำให้งบดุลของเฟดเพิ่มขึ้นราว 2.5 ล้านล้านดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้เสร็จสิ้นการใช้มาตรการ QE1 และ QE2 แล้ว ปัจจุบันเฟดกำลังเข้าซื้อหลักทรัพย์ MBS ด้วยวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรือที่เรียกว่า QE3 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

[TissueThiti]

งี้น่าจะเป็นผลร้ายสำหรับคนอย่างผมที่กำลังจะเข้าตลาดนะเนี้ย
เพราะผมมองหุ้นปัจจุบันหาหุ้นถูกค่อนข้างยาก และยิ่งเจออย่างนี้ราคาคงยิ่งทะยานไปเรื่อยๆ
และกำไรในอนาคตก็เริ่มไม่แน่นอน เพราะผมคิดว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

บางทีผมลองนั่งนึกดูเฉยๆ ถึงกับหัวแทบแตก
เรามีทรัพยากรจำนวนหนึ่งๆ เงินจำนวนหนึ่งๆเพื่อแทนค่าของทรัพยากรเหล่านั้น
แต่ทุกวันนี้หลายประเทศมหาอำนาจพิมพ์เงินออกมาอย่างมหาศาล
ขณะที่ทรัพยากรขณะนี้ผมเชื่อว่ามีน้อยลงเรื่อยๆ มันย่อมส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาล

พอเงินเฟ้อ เศรษฐกิจอาจจะคล่องตัวขึ้นเพราะมีเงินในระบบมากขึ้น
แต่ผมคิดว่าชีวิตคนน่าจะยิ่งลำบาก เพราะเงินจะหมุนเข้าสู่กลุ่มคนเพียงบางส่วนที่มีศักยภาพมากกว่า
ขณะคนที่ตกงานหรือทำงานอยู่แล้ว จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น100%
-O- แต่พอคิดว่าเงินออกมา เงินไปไหน ทำไมซื้อพันธบัตร พูดตรงๆผมก็งงแบบสุดๆไปเลย
#พอๆกับเรื่องการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ผมลองอ่านมาบ้างสุดท้าย งงครับ555

[BIG87]

พอมาซื้อพันธบัตร
คนที่ถืออยู่ ก็จะได้เงินค่าขายทันที ไม่ต้องรอดอกเบี้ย อีกหลายๆปี
แล้วพอทุ่มซื้อปุ๊บ %ดอกเบี้ยระยะยาวก็จะลดลง เพราะ มีคนอยากซื้อมากกว่าคนขาย
ส่งผลให้ ดอกเบี้ยระยะสั้นลดตาม
พอดอกเบี้ยลด คนก็น่าจะเอาเงินไปลงทุนมากขึ้น

เงินในระบบก็จะมากขึ้น เพราะเค้ามาซื้อเอง ไม่ใช่ผู้เล่นในระบบ

สรุปก็คือ ดอกเบี้ยจะลด เงินในระบบจะเพิ่ม การลงทุนก็จะสูงขึ้น

แต่ถ้าถามว่า คนที่ถือพันธบัตรอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่คือใคร คนถืออยู่ได้ประโยชน์สุดๆเลยมั้ย
เพราะ Fed ซื้อ 8.5หมื่นล้าน ไม่เกี่ยงราคานิ
แล้วถ้าเฟดมาซื้อแล้วเค้าไม่เอาเงินเข้ามาในระบบ หรือเอาไปลงทุนต่างชาติ มันจะได้ผลมั้ย?

อันนี้ผมก็ งงๆครับ รอท่านต่อไปมาตอบละกัน

----------------------------------------------------------------
ส่วนผมมีคำถามเพิ่มเติมว่า ถ้าเฟดมาซื้อได้ไม่จำกัด
เงินเฟ้อก็พุ่ง ตอนท้ายที่ us ต้องจ่าย fed เมื่อพันธบัตรถึงกำหนดชำระ
ตอนนั้นก็คงด้อยค่าไปมากแล้วจากเงินเฟ้อ US ก็เหมือนจ่ายหนี้น้อยลง
อีกทั้งทั่วโลกก็ซื้อพันธบัตรเค้าไว้ตั้งเยอะ
แบบนี้ US ไม่โคตรโกงเลยเหรอครับ เหมือนเปิด Action replay เลย
มีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ครับ ?

[pakhakorn]

ส่วนผมมีคำถามเพิ่มเติมว่า ถ้าเฟดมาซื้อได้ไม่จำกัด
เงินเฟ้อก็พุ่ง ตอนท้ายที่ us ต้องจ่าย fed เมื่อพันธบัตรถึงกำหนดชำระ
ตอนนั้นก็คงด้อยค่าไปมากแล้วจากเงินเฟ้อ US ก็เหมือนจ่ายหนี้น้อยลง
อีกทั้งทั่วโลกก็ซื้อพันธบัตรเค้าไว้ตั้งเยอะ
แบบนี้ US ไม่โคตรโกงเลยเหรอครับ เหมือนเปิด Action replay เลย
มีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ครับ ?

อาจจะแบบเนื้อเพลง... รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก (ถึงไม่เต็มใจ ก็ต้านไม่ไหว)
หรืออาจจะแบบ... กว่าจะรู้ตัว ก็สายไปเสียแล้ว
หรืออาจจะแบบ... ข้ากำหนดกติกาเองได้ ข้าก็เปลี่ยนกติกาไปเรื่อยๆ เพื่อประโยชน์ของข้า ตลอดไป

ขออภัย ไม่ได้ตอบคำถาม
ขอแซวเล่นๆ ครับ 555.



บางส่วนจากบทความ
" สภาพคล่องที่ล้นโลก/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ "
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=55147

...... นายเบอร์นันเก้ตอบว่าเขาพิมพ์เงินอเมริกันออกมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน (ไม่ได้ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลอื่น) ที่ผ่านมาต่างชาติมารุมซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้น ผลกระทบข้างเคียงนั้นเป็นภาระที่เกิดขึ้นกับต่างชาติที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ฟังดูแล้วก็รู้สึกขำที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ (รวมทั้งไทย) ที่รุมกันซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สร้างปัญหา ดังนั้นจึงอย่ามากล่าวโทษธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งไม่เห็นจะได้ทำอะไรผิดเลย.......

[บูรพาไม่แพ้]

บีโอเจมีมติคงดอกเบี้ย 0-0.1% ตามคาด ยืนยันเดินหน้านโยบายเพิ่มฐานเงินข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 เมษายน 2556 12:10:30 น.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมกับยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อเพิ่มปริมาณเงินที่บีโอเจจะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะเวลา 2 ปี

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การที่บีโอเจตัดสินใจคงนโยยผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันนั้น ก็เพื่อประเมินผลกระทบของการใช้นโยบายครั้งใหม่ที่ได้ประกาศใช้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดการกับภาวะเงินฝืด

http://www.ryt9.com/s/iq03/1637866