เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และคุณคร

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ สนุกดีนะครับ ข้อคิดของพี่ yakjabon ให้อะไรผมได้เยอะเลย ผมอาจจะไม่ได้โชคดีที่สุดที่ไม่ได้ทำตามฝันของตัวเอง แต่อย่างน้อยผมไม่ใช่คนที่แย่ที่สุดแน่ๆ เพราะทุกวันนี้ถึงจะเป็นฝันของพ่อ แต่มันก็คงจะดีกว่าทำตามฝันให้เจ้านายหรือผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเราน่ะนะ ^^

ผมเคยแอบอ่าน warren buffet and the interpretation of financial statements แล้วน่ะครับ ก็เข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่นะครับ แต่ผมมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าวอเรนตัวจริงคงไม่ได้อ่านงบแค่นี้เลยยังไงไม่รู้น่ะครับ (ไม่รู้ผมบ้าหรือคิดไปเองรึเปล่า 555) เดี๋ยวผมจะลองปัดฝุ่นกลับมาทบทวนอีกเที่ยวหนึ่ง ว่าแต่พี่ yakjabon มีอะไรจะแนะนำมั้ยครับ

NIDA ฟังดูรายชื่ออ.แล้วน่าสนใจมากๆๆๆๆๆครับ ไม่ทราบว่าบรมครูเหล่านั้นยังสอนอยู่รึเปล่าครับ แล้วค่าเทอมนี่มหาโหดมั้ยครับ เห็นชื่อคนสอนแล้วตาละห้อยทีเดียว

ปล.2 นอกจากกระทู้ตะแกรงร่อน ผมเพิ่งค้นพบกระทู้ หัดรู้เรื่องงบการเงินของคุณ sattaya ครับ กะว่าจะตามอ่านไปพร้อมๆกับตะแกรงร่อน ผมเป็นคนอ่านหนังสือได้ไม่ยาวน่ะครับ เป็นเด็กรุ่นใหม่สมาธิสั้น ถ้านั่งหน้าจอคอมจะนั่งได้นานกว่า เลยรู้สึกว่าอ่านอะไรจากเวปบอร์ดน่าจะซึมซับได้เยอะกว่าหนังสือ แต่หนังสือไม่ทิ้งแน่ครับ มีเวลายาวๆ ที่อยู่ในโลกส่วนตัวเป็นได้เปิดทุกครั้ง แต่ทุกวันนี้อยู่ออฟฟิศวันละ 12 ชม. จะอ่านหนังสือก็กลัวพนักงานเห็น แอบหาความรู้ผ่านหน้าจอสบายใจกว่า ฮ่าๆๆๆ
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 32

โพสต์

โชคดีที่ไม่มีใครแก่เกินที่จะลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ :mrgreen:
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง

http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html



http://goo.gl/VjQ4cG
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 33

โพสต์

yakjabon เขียน:ส่วนเรื่องชีวิตผมว่าสู้ๆครับ :B .. "เพราะคนที่ไม่เคยล้มเหลว คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย" .. ผมก็เกิดมาในครอบครัวที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย นอกจากส่งผมเรียน (ครอบครัวข้าราชการ) ความสัมพันธ์ทางบ้านก็ไม่ค่อยดี กิจการทางบ้านก็ไม่มี ตอนเด็กๆ จะไปเที่ยวไกลๆ ดูหนังโรง เล่นเครื่องเล่น ซื้ออุปกรณ์บันเทิงไม่มีหรอกครับ เป๊ปซี่ยังไม่ค่อยซื้อกินเลย มันแพงกว่าน้ำเปล่าแถมไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (value investing 55 :B ) .. รู้อย่างเดียว คือ เรียนจบแล้วถ้าไม่ทำงานก็อดตายครับ ระหว่างเรียนก็ลองหมดครับที่จะหาเงินได้ ไปเก็บจาน รับจ้างเป็น organizer รายวัน ไปขายตรง เปิดบริษัท รับทำ website ฯลฯ .. พอจบมาก็ทำงานบริษัท .. จะบอกว่าการทำงานบริษัท ชีวิตก็ไม่ได้สวยหรูนะครับ ผมคงไม่เข้าใจคนที่ทำกิจการที่บ้านอย่างลึกซึ้งหรอกนะ แต่ผม (คิดเอาเอง) ว่าอย่างน้อยที่สุดกิจการที่บ้านโดนอาเตี่ยด่าบ้าง ดูถูกบ้าง .. เขาคงไม่เอาเราตายครับ สุดท้ายก็สายเลือด เขาก็รักแล้วก็พร้อมจะอยู่ข้างหลังเราอยู่ดี (แม้บางครั้งอาจไม่ได้ออกมาทางคำพูด) ... แต่เป็นลูกจ้างคนอื่น เขาด่าจริง เจ็บจริง เอาเราตายจริง ไล่ออกจริง ไม่มีตังค์จะกินวันต่อไปจริงๆครับ .. ตอนนี้ก็เหนื่อยมาก แต่พอเห็นแม่ เห็นแฟน แล้วก็ท้อไม่ได้ครับ ถ้าเราไม่ทำ แล้วเขาจะอยู่อย่างไร ใครจะผ่อนบ้านต่อ แล้ววันพรุ่งนี้จะไปนอนที่ไหน (ผมบอกเลยนะครับ ใครที่พ่อแม่แค่มีบ้านให้อยู่อาศัย กลับไปกราบท่านหลายๆทีนะครับ .. สำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย แล้วต้องหาเงินเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยทั้งกับตัวเอง พ่อแม่ แฟนและคนที่บ้านแล้ว ... ... "เหนื่อยมว๊ากกก" เฮ้ย เฮ้ย)

ชีวิตเหมือนทุบหม้อข้าวครับ (ไม่มีทางเลือก) หันหลังกลับไม่ได้ ไม่มีแผนสำรอง ต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว .. สำหรับหุ้นแล้ว มันเหมือนแสงสว่างของมนุษย์เงินเดือนครับ สำหรับคนที่ครอบครัวไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจ เคยลองพยายามทำธุรกิจเองก็ล้มเหลวเพราะเราไม่ใช่มืออาชีพ .. พอมีโอกาสได้ร่ำเรียนวิชาจากครูอาจารย์ที่ถูกต้อง (ผมจบป.โทจาก NIDA ก็ได้ร่ำเรียนมาจากอ.นิเวศน์ อ.ไพบูลย์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆก็เก่งมากนะครับ) จึงพบว่ามันมีทางออกที่สมเหตุสมผล และเราสามารถลงทุนได้ แม้ทำงานไปด้วยและมีเงินไม่มาก ต้องยอมรับว่าที่อดทนทำงานจนวิญญาณจะหลุดจากร่างทุกวันนี้ สิ่งที่เป็นความหวังก็ คือ การลงทุนในหุ้นที่สักวันเราจะมีอิสรภาพทางการเงินได้และคงได้หายใจเต็มปอดได้ในทุกๆวันกับเขาบ้าง .. ถ้าไม่มีตรงนี้และลำพังเป็นลูกจ้าง บอกเลยว่าผมไม่กล้าฝันหรอกครับถึงอิสรภาพทางการเงิน ลองเอาสูตรทางการเงินแบบไหนๆมาคำนวณแล้วก็จะพบว่าลำพังเงินเดือนอย่างเดียวมันเป็นไปได้ยากมากครับ .. อันจะไต่ไปเป็นผู้บริหารระดับสูงกับเขามันก็ไม่ใช่ง่าย เบื้องหลังเบื้องลึกมันมีอะไรมากกว่าแค่ขยัน เก่ง และตั้งใจทำงานนะครับ (ไม่พูดต่อละ จบแค่นี้ :B )

สรุป ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้กำเนิด ขอบคุณความยากจนในอดีตที่ทำให้รู้ว่าเงินแต่ละบาทมันมีค่ามากแค่ไหน ขอบคุณแฟนที่เป็นกำลังใจในวันท้อๆ ขอบคุณบริษัทที่ให้โอกาสมีงาน มีเงินกิน มีเงินทุนที่จะเป็นบันไดในการสานฝันต่อไปได้ และขอบคุณตลาดหุ้นที่เปิดโอกาสให้คนเดินดินธรรมดาสามารถกลายเป็นมหาเศรษฐีนะ หวังว่า (และก็ทำให้เศรษฐีกลายเป็นคนธรรมดาได้เช่นกัน จึงต้องคอยเตือนสติตัวเองว่า อย่าเหลิง) ... ขอโทษเพื่อนๆที่บ่นไปเรื่อยครับ :bow:
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมาจากความเชื่อครับ(ความคิด) เชื่อว่าเราจะทำแบบนั้นได้ เชื่อว่าเราจะเป็นแบบนั้นได้
เมื่อเชื่อแล้ว ก็ออกตามหา หรือสร้างสิ่งที่จะทำให้ความเชื่อนั้นเป็นความจริงครับ(การกระทำ) ผมเชื่อว่า
คนทุกคนมีเส้นทางเดินไปสู่ความสำเร็จเป็นของตนเองทุกๆคนครับ ไม่มีใครcopyใครได้ครับ มีแต่เราต้อง
ขุด หา และสร้างเส้นทางเดินนั้นของตนเองขึ้นมาครับ ผมเชื่อแบบนั้นครับ...^^)

ปล. ขอเป็นกำลังใจให้คุณ "yakjabon" เดินตามความเชื่อของตนเองต่อไปครับ...^^)
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 34

โพสต์

เล่นบอร์ดอ่านกระทู้ที่นี่มากๆแล้ว อยากเห็นหน้าพวกพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ตัวเป็นๆ จริงๆ อยากจะขอบคุณ อยากจะเรียนรู้ และถ่ายทอดให้มากเท่าที่จะมากได้ ผมรู้สึกได้ว่าพวกพี่ๆที่สิงกันอยู่ในบอร์ดนี้มีความพิเศษอะไรบางอย่าง เหมือนกับเป็น "นักลงทุน" ตัวจริงเสียงจริง ไม่เหมือนคนเล่นหุ้นเอาซะเลย เพียงแค่ใช้ตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือหาโอกาสซื้อธุรกิจดีๆ ราคาเหมาะสมแค่นั้น

แต่ก่อนผมคิดว่าชีวิตมีหลายทางเลือก "ทางลัด" คือทางที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด (เชื่อว่าเด็ก Gen ใหม่ก็จะอุตริคิดแบบเดียวกันกับผมไม่น้อย) ตอนนี้ประสบการณ์ได้ทำให้ผมรู้แล้วว่าทางลัดนั้น อาจจะทำให้ประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่ทางที่ยั่งยืนที่สุด การ"อดทน"เดินในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งที่เหมาะกับเราต่างหาก ที่จะทำให้คนเรามีจุดหมายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นๆ มันจะไม่เร็วเหมือนทางลัด เพราะจุดหมายนั้นมันจะทอดยาวไม่มีวันสิ้นสุด

ต้องขอขอบคุณเวปบอร์ดแห่งนี้ และสมาคมฯ จริงๆครับ ผมตั้งใจว่าจะสมัครสมาชิกสมาคมอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมครับ ผมกลัวตัวเองว่าถ้าสมัครไปแล้วจะมัวแต่เข้าไปนั่งร่อนอยู่ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น แทนที่จะเป็นห้องคลังกระทู้คุณค่า เพราะฉะนั้นผมจะอดใจรอที่จะเป็นสมาชิกเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเสียก่อน สักวันหนึ่งผมอยากจะได้เจอเจอกับเพื่อนๆ พี่ๆที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันครับ ผมเคยคิดว่าการเก็บค่าสมาชิกอาจจะทำให้สังคมที่นี่เปลี่ยนไป แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่านี่เป็นสังคมที่น่าอยู่จริงๆ ขอบคุณจากใจครับ
yakjabon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 314
ผู้ติดตาม: 2

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 35

โพสต์

Mars เขียน:ผมเคยแอบอ่าน warren buffet and the interpretation of financial statements แล้วน่ะครับ ก็เข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่นะครับ แต่ผมมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าวอเรนตัวจริงคงไม่ได้อ่านงบแค่นี้เลยยังไงไม่รู้น่ะครับ (ไม่รู้ผมบ้าหรือคิดไปเองรึเปล่า 555) เดี๋ยวผมจะลองปัดฝุ่นกลับมาทบทวนอีกเที่ยวหนึ่ง ว่าแต่พี่ yakjabon มีอะไรจะแนะนำมั้ยครับ
ไม่รู้เป็นพี่หรือเปล่าหรืออาจจะรุ่นเดียวกัน :D .. ตอบคำถาม .. ผมคิดว่าวอร์เรนคงไม่อ่านและใช้เกณฑ์ % แค่ตามในหนังสือหรอกครับ (มันจะเป็นสูตรสำเร็จเกินไป งั้นใครๆก็ทำได้) .. ซึ่งในหนังสือแค่เหมือนยกตัวอย่างบริษัทในอุดมคติควรจะมีงบ 3 งบที่ดีหน้าตาประมาณไหนเท่านั้น .. แต่จริงๆคงต้องไปดูอัตราส่วนอีกหลายๆอย่างเช่น ROE, ROA, D/E, CL/CA, Inventory Turnover, ฯลฯ ซึ่งเป็นค่าที่ต้องเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม และเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละอุตฯที่เราเลือกวิเคราะห์ นอกนั้นเทคนิคที่ใช้บ่อยสำหรับวิเคราะห์งบ คือ การทำ Common-Size Analysis ครับ (คือการเอาตัวเลขมาหารเป็นเปอร์เซนต์ หรือ normalized ตัวเลขให้ดูง่ายขึ้น เช่น งบ P/L ก็เอาทุกตัวเลขเป็น % ของรายได้รวม) .. สุดท้ายแล้วการวิเคราะห์ด้านงบการเงิน (เชิงปริมาณ) เป็นเพียงตัวกรองสำหรับผมครับ เพราะมันคือการวิเคราะห์อดีต แต่ตัวที่ใช้ตัดสินใจ คือ การวิเคราะห์เชิงคุณภาพล้วนๆ (5-Force, 4P, Vision-Mission, SWOT, SPEELTD, Org Structure, Capital Structure, etc.) เพราะมันคือการวิเคราะห์สิ่งที่จะทำในอนาคต
Mars เขียน:NIDA ฟังดูรายชื่ออ.แล้วน่าสนใจมากๆๆๆๆๆครับ ไม่ทราบว่าบรมครูเหล่านั้นยังสอนอยู่รึเปล่าครับ แล้วค่าเทอมนี่มหาโหดมั้ยครับ เห็นชื่อคนสอนแล้วตาละห้อยทีเดียว
เห็นว่าอ.ไพบูลย์ใกล้เกษียณแล้วนะครับ แต่ก็นับว่าเป็นสถาบันที่มีอาจารย์อยู่ในวงการตลาดทุนมายาวนาน (ตั้งแต่สมัยดร.มารวย) ผมเรียนภาคเสาร์-อาทิตย์ทั้งคอร์ส 3 แสนบาทครับ (ตอนนี้มีทุนบริษัทช่วย ขอบคุณบริษัทครับ :cheers: ) แต่ก็มีอาจารย์เก่งๆอยู่หลายท่านรวมถึงท่านที่ไม่ได้มีชื่อเสียงทั่วไปสำหรับนักลงทุนครับ (ถือว่ามีพระคุณที่ได้ให้ความรู้มาใช้จริงจนถึงทุกวันนี้)
Invincible MOS is knowing what you're doing
yakjabon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 314
ผู้ติดตาม: 2

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 36

โพสต์

Plant เขียน:ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมาจากความเชื่อครับ(ความคิด) เชื่อว่าเราจะทำแบบนั้นได้ เชื่อว่าเราจะเป็นแบบนั้นได้
เมื่อเชื่อแล้ว ก็ออกตามหา หรือสร้างสิ่งที่จะทำให้ความเชื่อนั้นเป็นความจริงครับ(การกระทำ) ผมเชื่อว่า
คนทุกคนมีเส้นทางเดินไปสู่ความสำเร็จเป็นของตนเองทุกๆคนครับ ไม่มีใครcopyใครได้ครับ มีแต่เราต้อง
ขุด หา และสร้างเส้นทางเดินนั้นของตนเองขึ้นมาครับ ผมเชื่อแบบนั้นครับ...^^)

ปล. ขอเป็นกำลังใจให้คุณ "yakjabon" เดินตามความเชื่อของตนเองต่อไปครับ...^^)
"I always know I was going to be rich. I don't think I ever doubted it for a minute." ... Warren Buffett

หวังว่าครับ .. ตาม Signature เลย ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ :cheers:
Invincible MOS is knowing what you're doing
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ผม 24 ครับ ไม่รู้คุณ yakjabon เป็นพี่หรือน้อง แต่ตอนนี้ผมนับถือเป็นศิษย์พี่สำนัก TVI ครับ ฮ่าา
yakjabon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 314
ผู้ติดตาม: 2

Re: เด็กใหม่(ที่แก่แล้ว)อยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อนๆ และค

โพสต์ที่ 38

โพสต์

Mars เขียน:ผม 24 ครับ ไม่รู้คุณ yakjabon เป็นพี่หรือน้อง แต่ตอนนี้ผมนับถือเป็นศิษย์พี่สำนัก TVI ครับ ฮ่าา
ออ .. งั้นผมคงเป็นพี่ครับ ^^! .. สู้ๆ น้องได้แต้มต่อเรื่องเวลาไปหลายขุมละ ใช้หลักการให้ถูกต้องละ!
Invincible MOS is knowing what you're doing