ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบาทผัน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
T_0007
Verified User
โพสต์: 1573
ผู้ติดตาม: 30

ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบาทผัน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอความรู้หน่อยครับ

ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ และถ้าค่าเงินบาทผันผวนหล่ะต้องระวังกลุ่มไหนบ้าง
คำถามตรงตัวเลยครับ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คุณที ดูตามตารางเลยครับ มีคนได้เสียแน่นอนครับ

เงินบาทถึง 29 ต้องระวังครับ

เพราะประเทศไทยโครงสร้างเน้น ส่งออก และท่องเที่ยว ครับ

300 /15000 ยังไม่พอที่จะเน้นการกินใช้ มากระตุ้น GDP ได้ เพราะ ไทยมีแค่ 70 ล้านคน

ถ้าไทยมีคนมากเท่าจีน ส่งออกไม่ไหวไม่เป็นไร

ยังพอเน้นในประเทศได้

เวลางานเลี้ยงเลิก ใครลุกทีหลัง จ่ายตังส์ครับ
แนบไฟล์
again2.jpg

PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ของกระทบในวันนี้ จะดี ในวันหน้าครับ

หน้าที่ของ VI คือ หาหุ้นดีราคาถูก คุณภาพเยี่ยม ในราคา ย่อมเยาว์(ถูก)

อันไหนกระทบ ราคาลงมามากๆ ถ้า พื้นฐานไม่เปลี่ยน รายได้ไม่กระทบมาก


เก็บเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระต่อลูกหลาน :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ส่วนตัวไหนได้ประโยชน์จากแข็งค่าเงินบาท

let profit run ครับ

จนกว่า งานเลี้ยงจะสิ้นสุดลง เราคงได้ลุกก่อน(ที่จะจ่าย)

:mrgreen: :mrgreen:
Pun08
Verified User
โพสต์: 114
ผู้ติดตาม: 0

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำเข้าวัตถุดิบจากตปท.เช่น TVO, BJC, HMPRO, THAI, AAV, กลุ่มเหล็ก (BSBM, TSTH, SSI), กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, DTAC, TRUE, AIT, JAS, SAMTEL)

เป็นลบต่อผู้ที่มีรายได้เป็นดอลลาร์ เช่น กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ทั้งหมด, กลุ่มอาหารส่งออก (TUF, CPF, GFPT, CFRESH, TIPCO), KSL, STA, SITHAI, กลุ่มโรงแรม, กลุ่มโรงพยาบาล (BGH, BH), THCOM

และเป็นกลางกับกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเพราะแม้มีรายได้เป็นดอลลาร์แต่ก็มีหนี้เงินกู้เป็นดอลลาร์ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ขณะที่กลุ่มที่ไม่ถูกกระทบคือกลุ่มบ้าน นิคมฯ และรับเหมา

Note: จาก Kaohoon
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1225
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เปิดโผหุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง สูงสุดในรอบ 16 เดือน อาทิ SAMTEL, JTS, GLOW, AGE, VNT, UKEM, LOXLEY, JUBILE, CTW, CWT
โบรกฯแนะเทรดดิ้งช่วงสั้น หลังมีแนวโน้มจะแข็งค่าไปอีก 2-4 สัปดาห์ ประเมินสถิติเก่าค่าบาทแข็งหุ้นขึ้นทุกรอบ

ข่าวหุ้น
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
T_0007
Verified User
โพสต์: 1573
ผู้ติดตาม: 30

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 21

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เปิด 10 อุตสาหกรรมอ่วมบาทแข็ง "ข้าว-ยางพารา" แจ็กพอต
updated: 27 ม.ค. 2556 เวลา 11:21:46 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=1900

"ยิ่งลักษณ์" ระดมทีมแก้บาทแข็งด่วนสัปดาห์นี้ ส่งออก-ภาคอุตสาหกรรม 10 กลุ่มอ่วมพิษค่าบาทแข็ง สินค้าเกษตร ทั้งข้าว ยางพาราแจ็กพอต พาณิชย์นัดผู้ส่งออกถกหาทางรับมือ ด้าน ส.อ.ท.กระทุ้งแบงก์ชาติเข็น 7 มาตรการรับมือ โฟกัสเก็งกำไร ดอกเบี้ย-ค่าเงิน ชี้เครื่องสำอาง รองเท้า สิ่งทอ อัญมณี เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ น้ำตาล กระทบหนักบาทปีนี้เฉลี่ย 30.70 บาท/ดอลล์


แหล่ง ข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้อาจจะดูแข็งค่าขึ้นเร็ว โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) วิเคราะห์ว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.80 บาท/ดอลลาร์นั้น ได้ปรับแข็งค่าขึ้น 2.5% ซึ่งเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ปีนี้ สศค.คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยจะอยู่ที 30.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 29.7-31.7%)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า นายกฯได้สั่งการให้กระทรวงการคลังให้เร่งหามาตรการในการเข้าไปรองรับ และบรรเทาผลกระทบจากค่าบาทที่มีความผันผวน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภาคส่งออก หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากค่าแรง 300 บาท

"มาตรการที่คลังเร่งทำ อยู่ และถือว่าสอดคล้องกันกับการบริหารงานของ ธปท.เพื่อผลักดันให้เกิดการออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น จะเป็นแพ็กเกจด้านภาษีต่าง ๆ เช่น เว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกรณีนำผลกำไรกลับมาไทย และจะเสนอ รมว.คลังภายในไตรมาส 2 นี้" นายสมชัยกล่าว

ปัจจุบันนิติบุคคลที่ออก ไปลงทุนต่างประเทศ แล้วส่งผลกำไรกลับเข้ามาในรูปเงินปันผลจะต้องนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อเสีย ภาษีนิติบุคคลซึ่งเก็บอัตราที่ 20% ที่ผ่านมา สศค.เคยเสนอให้มีการยกเว้น แต่นายกิตติรัตน์ไม่เห็นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือน ม.ค.นี้ มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาสูงมากกว่าปีที่แล้วเกือบ 1 เท่าตัว หรือ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วง 11 เดือน

ปี 2555 มีเงินทุนไหลเข้าไทย 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉลี่ยเดือนละ 1,090 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีเงินต่างชาติไหลเข้ามาถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าเป็นปัญหาที่ท้าทายและจะหนักขึ้นตลอดปีนี้ และไม่ได้มีเพียงดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังมีเงินเยนของญี่ปุ่นอีก ดังนั้นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลก็ต้องบริหารจัดการให้ดี ซึ่งตนไม่เห็นด้วยหากจะสกัดเงินไหลเข้าด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบาย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กังวลเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก นอกจากได้หารือกับทีมงานส่วนตัวในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ยังได้เรียกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเข้าหารือ พร้อมกำชับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ให้สั่งการ 3 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เช่น เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้จับตามอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชน"

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานทั้ง 3 และทีมที่ปรึกษานายกฯต่างเตรียมการจัดทำข้อมูล ตัวเลขที่เกี่ยวข้อง และเป็นปัจจัยต่อค่าเงิน เช่น การลงทุนซื้อเครื่องจักร ตัวเลขหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ และภาวะการ

ส่งออกของธุรกิจ เรียลเซ็กเตอร์ทั้งหมด และนำเสนอมาตรการต่อนายกฯสัปดาห์หน้า แต่ฝ่ายการเมืองจะไม่พูดหรือสั่งการเป็นนโยบายต่อสาธารณะ เพราะเป็นประเด็นอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ

10 กลุ่มอุตฯอ่วมพิษค่าบาทแข็ง


นาย เจน นำชัยศิริ รองประธาน ส.อ.ท. เปิดเผยว่า จากผลการสัมภาษณ์ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า 25 อุตฯ พบว่า
1) มี 10 อุตฯได้รับผลกระทบรุนแรง (40%) ได้แก่ กลุ่มอุตฯเครื่องสำอาง เซรามิก รองเท้า โรงเลื่อยและโรงอบไม้ หนังและผลิตภัณฑ์หนัง อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม ยานยนต์ น้ำตาล ที่ส่งออกเป็นหลัก

2) ผลกระทบปานกลาง 7 กลุ่ม (28%) กลุ่มอุตฯการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ น้ำมันปาล์ม ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ เยื่อและกระดาษ เครื่องจักรกลการเกษตร ชิ้นส่วนรถยนต์ สมาคมเอสเอ็มอี 3.ไม่กระทบ 8 กลุ่ม (ร้อยละ 32) ได้แก่ กลุ่มอุตฯก๊าซ เครื่องจักรกลและโลหการ ซอฟต์แวร์ ต่อเรือและซ่อมเรือ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยา พลังงานทดแทน พลาสติก

ชง 7 มาตรการให้แบงก์ชาติอุ้ม


ทั้ง นี้ สำนักวิชาการ ส.อ.ท.ได้รวบรวมข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยระหว่าง 21 ธ.ค. 2555-17 ม.ค. 2556 พบว่าเงินบาทของไทยแข็งค่ามากที่สุด 3.13% รองลงมาคือ อินเดีย 2.40% เกาหลีใต้ 2.35% มาเลเซีย 2.20% ฟิลิปปินส์ 1.62% เวียดนาม 0.66% ไต้หวัน 0.45% จีน 0.40% และอินโดนีเซีย 0.05% ส.อ.ท.จะเสนอมาตรการแก้ไข 7 ข้อ ในการหารือ ผู้ว่าการ ธปท.สัปดาห์หน้า
1) ให้ ธปท.ช่วยดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนเกินไป
2) ดูแลไม่ให้ค่าบาทแข็งค่ากว่าคู่แข่ง อย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียเกินไป
3) ปลดล็อกถือครองค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้นานขึ้น
4) ลดค่าธรรมเนียมทำประกันความเสี่ยงการส่งออกให้เอสเอ็มอี
5) ให้ ธปท.แยกบัญชีเงินตราต่างประเทศ ที่เข้ามาเก็งกำไร กำหนดแยกรายการบัญชีที่เข้ามาลงทุน มีวัตถุประสงค์จะลงทุนรายการใดให้ชัดเจน เงินทุนที่เข้ามาเพื่อจะเก็งกำไรค่าบาท ให้กำหนดมาตรการควบคุม เช่น มาตรการตั้งสำรอง 30% ช่วง 6 เดือน-1 ปี หรือเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้น เป็นต้น
6) เร่งส่งเสริมการลงทุน (BOI) นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ และ
7) ให้รัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วงที่เงินบาทแข็งค่า

ด้านนาย วัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า จะหารือถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยกับผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ที่ 2.75% สูงมากเทียบกับดอกเบี้ยในภูมิภาคอื่น เงินทุนไหลเข้าไทยในขณะนี้ เป็น 3 สกุล คือเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโร และเงินเยน

ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หารือผู้ส่งออกถึงผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมสรุปมาตรการเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

บาทแข็งดันสินค้าไอทีกำไรพุ่ง


นาย นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่าค่าเงินบาทแข็งขึ้นในช่วงนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อกำไรมากนัก เพราะการตั้งราคาสินค้าจะคาดการณ์ล่วงหน้า 3-6 เดือน จึงมีโอกาสที่บริษัทจะมีทั้งกำไรและขาดทุนสลับกันไป

ทั้งนี้ ค่าเงินแข็งมีประโยชน์ต่อวงการไอทีค่อนข้างมาก เพราะเป็นสินค้านำเข้า แต่คงไม่มีใครที่เอากำไรส่วนนี้มาทำส่วนลด เพราะเจ็บตัวมาเยอะจากค่าบาทอ่อน

ท่องเที่ยวกับค่าเงินบาท

นาย ชิดชัย สาครบดี อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า กล่าวว่า ระยะสั้นบาทแข็งจะไม่กระทบธุรกิจทัวร์ที่รับนักท่องเที่ยวขาเข้า (อินบาวนด์) เพราะไม่ได้สะวิงจนน่ากลัว และคงเกิดระยะสั้น ๆ ประกอบกับนักท่องเที่ยวจากตลาดอเมริกาและยุโรปได้ชำระค่าทัวร์ล่วงหน้า หากกระทบคงเป็นการใช้จ่ายส่วนตัวของนักท่องเที่ยว เพราะแลกเงินไทยได้น้อยลง

แต่ ถ้ายังแข็งค่าต่อเนื่อง ไปอยู่ที่ต่ำกว่า 28 บาท/ดอลลาร์ หรือ 37 บาท/ยูโร จะกระทบการซื้อขายทัวร์ในไตรมาส 2 ทำให้ทัวร์อินบาวนด์ขาดทุนได้ ผู้ประกอบการต้องปรับตัว โควตราคามาเป็นเงินบาทแทน

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่า ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจโรงแรมของ

เซ็นทารา เพราะอัตราค่าห้องพักเป็นเงินสกุลบาทมา 3-4 ปีแล้ว แต่ถ้าแข็งค่ามากกว่านี้ อาจมีบางรายเข้ามาพูดคุย อย่างไรก็ตาม บริษัทนำเที่ยวที่ดีลกับคู่ค้าต่างประเทศจะเชี่ยวชาญเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน จะชิงจังหวะทำธุรกรรมช่วงที่บาทอ่อนค่า หรือทำสวอปเงินตราต่างประเทศรับมือ

อิงค่าบาทซื้อสินค้าจาก รง.ผลิต


สำหรับ ความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บจ.มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา กล่าวว่า ค่าเงินบาทตอนนี้ไม่เป็นผลดีต่อตลาดส่งออก โรงงานจึงต้องบริหารจัดการต้นทุนควบคู่กับหาตลาดส่งออกหลายรูปแบบมาเสริม แต่ดีต่อสินค้านำเข้ามาขาย เพราะต้นทุนลดลง ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ มีทั้งสินค้าที่ผลิตเองในประเทศและที่นำเข้ามาขาย นอกจากนี้ปัจจัยหนุนให้สามารถทำราคาในตลาดได้ดี คือ ซื้อสินค้าจากโรงงานมิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯที่ผลิตในประเทศด้วยเงินบาท

ข้าว-ส่งทอ-อัญมณี เสี่ยงสูง

ศูนย์ วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์แนวโน้มการส่งออกปี 2556 ว่า หากเศรษฐกิจโลกไม่ย่ำแย่ลง และเศรษฐกิจจีนและเอเชียยังเติบโต การส่งออกของไทยน่าจะขยายตัวได้ 10.0-15.0% ส่วนผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะกระทบการส่งออกสินค้าแต่ละชนิดแตก ต่างกัน

ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่ต้องเร่งปรับตัวเนื่องจากมีความ เสี่ยงสูง มีข้าว, อาหารสัตว์, ผ้าผืน สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, อัญมณีและเครื่องประดับ, ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และเฟอร์นิเจอร์

-จบ-
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 9

โพสต์

การกู้เงิน 2 ลล ในรูปเงินบาทไม่ทราบว่า

จะแตกต่างจากการ self qe ยังไงครับถามผู้รู้ครับ

เหมือนจะอัดเงินบาทลงในระบบ ถูกต้องไหมครับ
navapon
Verified User
โพสต์: 760
ผู้ติดตาม: 0

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 10

โพสต์

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=40586

หุ้นที่ได้รับผลกระทบ จาก "ค่าเงินบาทแข็ง"

การแข็งค่าของเงินบาทมีผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนการนำเข้า และสัดส่วนการส่งออก โดยธุรกิจที่เน้นนำเข้าวัตถุดิบนั้นเมื่อเงินบาทแข็งค่าก็จะมีค่าใช้จ่ายถูกลงเมื่อคิดเป็นเงินบาท ส่วนผู้ที่ทำธุรกิจส่งออกเมื่อเงินบาทแข็งค่าจะทำให้รายได้ลดลงเมื่อนำรายได้ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯมาแลกเป็นเงินบาท

ขณะที่บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปัจจุบัน ซึ่งมีกว่า 500 บริษัทก็มีการทำธุรกิจที่หลากหลาย "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ถึงผลกระทบเชิงบวกและผลกระทบด้านลบ ที่บจ.ได้รับจากเงินบาทที่แข็งค่า

โดยบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(บมจ.) ระบุว่า ในขณะนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองต่อกลยุทธ์การลงทุนต่อหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็ง ซึ่งปัจจุบันให้น้ำหนักการลงทุนน้อยเพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลกกดดัน เช่น ในกลุ่มผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ส่งออกอาหารสัตว์บก-ทะล ส่งออกยาง เพราะผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่มักจะมีการตกลงราคาขายล่วงหน้าไว้จำนวนหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ตาม บล.ฟิลลิปฯ มองว่าหากเงินบาทยังคงแข็งค่ายาวนานกว่านี้ก็จะทำให้สูญเสียความได้เปรียบการแข่งขันและอาจจะตกลงทำสัญญาราคาล่วงหน้ายากขึ้น

ด้านน.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิปฯ กล่าวในงานเสวนา "หุ้นโดนใจ ปี 2556 จิ๋วราคาต่ำสิบ และแจ๋วปันผลดี" เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเชื่อว่าจะเป็นแค่ระยะสั้น

สำหรับผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นในส่วนของผลตอบแทนสำหรับผู้ที่ลงทุนในหุ้นที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการส่งออก และหากมีปัญหากระทบอย่างรุนแรง อาจจะทำให้เงินปันผลที่ได้ในส่วนนี้ปรับลดลงกว่า 8% แต่หากปัญหาไม่รุนแรงมากนัก เชื่อว่าจะทำให้เงินปันผลหายไปเพียง 1-2% เท่านั้น

บทวิเคราะห์บล.กรุงศรีฯ ระบุว่า กรณีที่บาทแข็งค่าในระยะนี้อาจมีผลในแง่จิตวิทยาการลงทุนกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนผลประกอบการจริงเชื่อว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกเท่าปัจจัยหลักทางธุรกิจ อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยังน่าจะได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้านกลุ่มอาหารก็ยังน่าจะสามารถเติบโตได้ในปีนี้ เพราะประชากรทั่วโลกยังคงต้องมีการบริโภคมากขึ้น

บทวิเคราะห์บล.ฟินันเซียไซรัสฯ ระบุว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เช่น บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC), บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO), บมจ.การบินไทย (THAI ), บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) หรือไทยแอร์เอเชีย ,

ส่วนกลุ่มเหล็กที่ได้รับผลบวก เช่น บมจ.บางสะพานบาร์มิล(BSBM),บมจ.ทาทาสตีล(TSTH) และบมจ.สหวิริยาสตีลฯ( SSI), กลุ่มสื่อสาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC),บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC),บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE),บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี ( AIT), บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และบมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL)

ขณะที่เงินบาทแข็งค่าจะเป็นลบต่อผู้ที่มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด, กลุ่มอาหารส่งออก (บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF), บมจ.จีเอฟพีที(GFPT), บมจ.ซีเฟรชอินดัสตรี(CFRESH) และบมจ.ทิปโก้ฟูดส์(TIPCO), บมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL), บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี(STA), บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์(SITHAI), กลุ่มโรงแรม, กลุ่มโรงพยาบาล (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือBGH,บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือBCH), บมจ.ไทยคม(THCOM )

ส่วนกลุ่มที่เป็นกลางจากผลกระทบเงินบาทแข็งค่าครั้งนี้บล.ฟินันเซียไซรัสฯ มองว่าคือ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เพราะแม้มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯแต่ก็มีหนี้เงินกู้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ขณะที่กลุ่มที่ไม่ถูกกระทบ คือ กลุ่มบ้าน นิคมอุตสาหกรรมและรับเหมาก่อสร้าง

ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัสฯ แนะนำหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินและราคายังมีส่วนเพิ่ม(อัพไซด์)พร้อมจ่ายเงินปันผลสูง ได้แก่ บมจ.สหมิตรเครื่องกล (SMIT) โดยให้ราคาเหมาะสม 5.42 บาทต่อหุ้น

โดยนอกจากSMIT เป็นผู้นำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเหล็กพิเศษสำหรับทำแม่พิมพ์มาขายในประเทศ ต้นทุน 50% เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ อีก 50% เป็นยูโร ขณะที่รายได้เป็นเงินบาททั้งหมด อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(พีอี เรโช) ต่ำแค่ 8 เท่า และมีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันอีกกว่า 10% และคาดหวังจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2555 สูงถึงประมาณ 3.1%

นอกจากนี้มีหุ้นบมจ.น้ำมันพืชไทย ให้ราคาเหมาะสม 32.32 บาทต่อหุ้น มีอัพไซด์สูงถึง 31.4% และเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง คาดหวังจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังไว้ที่ 4% โดยได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท เนื่องจากมีสัดส่วนต้นทุนหลัก คือ เมล็ดถั่วเหลือง ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ 90% ที่เหลือ 10% ซื้อในประเทศขณะที่ขายกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศเป็นหลัก

เช่นเดียวกับบทวิเคราะห์บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ที่ระบุว่าTVO รายได้ของบริษัทดังกล่าวอยู่ในประเทศ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1-2 ของปีนี้ดีขึ้น นอกเหนือจากผลดำเนินงานปกติที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปี 2556 ที่อยู่ในเกณฑ์สูง แนะนำ"ซื้อ"หุ้นTVO ให้ราคาพื้นฐาน 31.80 บาท
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อาหารสัตว์ก้ไม่กระทบครับ ซื้อกากถั่วได้ถูกลง

แต่เวลาขายขายเป็นเงินบาท

แต่ของที่กระทบ แน่ใจหรือว่า จะกระทบนาน ตอนนี้ทุกคนรู้บาทแข็งก้แห่กรูกันเข้าไปในพวก

ที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง แต่ราคาที่กรูเข้าไป มี MOS ไหม

ตอนมันถูกๆ ไม่เห็นมีใครมาพูด พอบาทแข็งยกมาทั้งกลุ่มเหล็ก ทั้งที่จริง เหล็กมันขึ้นกับ

demand/supply เพราะเป็นคอมโมดิตี้

รู้ก่อนเดินก่อน ถือก่อนขายเมื่อ ทุกคนรู้ น่าจะดีกว่า รู้ทีหลัง บ้าตามข่าว ซื้อไม่ดู

กองทุน2 ลล เงินบาทถมเงินบาท ไม่่อ่อนไหวหรือ ???

แล้วแน่ใจหรือ ตอนนี้บาทแข็ง ดูกันเอาเองเถอะ
แนบไฟล์
baht.JPG

PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1527
ผู้ติดตาม: 5

Re: ค่าเงินบาทแข็งจะมีผลกับ หุ้นกลุ่มไหนบ้างครับ ละค่าเงินบา

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ตัวไหนกระทบ เลือกๆคัดๆเอาแต่หัวกระทิ เบอร์1 เบอร์2 ในราคาที่(ต่อกันสุดๆ)

เบอร์1 เบอร์2 ถ้ามันล้ม แปลว่า ไอ้พวกเบอร์รองกว่านี้ ก้ไม่รอด

กิจการไม่ได้สร้างแค่วันเดียว ไม่มีแค่ราคาขึ้นลง ไม่ใช่แค่เศษกระดาษที่ขึ้นลง

มันมีทั้ง แบรนด์ คนงาน ที่ดิน ผู้ประกอบการ ความสามารถในการแข่งขัน

ซื้อกิจการที่ดีเยี่ยม ในราคาที่(ถูก)ที่สุด

แล้วถือ มันไว้ จนกว่า มันจะลงจากแท่นและแข่งขันกับชาวบ้านไม่ได้

มองภาพใหญ่ๆ ว่าใครผู้นำ ผู้ตาม ใครเก่ง ใครมีป้อมค่ายแข็งแรง

ธุรกิจไหน ตกดิน อันไหนถูก หรือ แพง


เหมือนสงคราม ถ้าเราถือหาง คนแพ้ เราจะเขียนหน้าประวัติศาสตร์ร่วมกับคนชนะได้ไง
โพสต์โพสต์