300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 31

โพสต์

การ์เมนต์ในมหาสารคามระส่ำ! ปิดแล้ว 1 ตกงานร่วม 2,000 คน จ่อปิดอีก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2556 09:54 น.

มหาสารคาม - ประธานหอฯ มหาสารคามเผยปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทำภาคอุตสาหกรรมผวาต้นทุนเพิ่มเกินแบกรับ ล่าสุดโรงงานตัดเย็บชุดกีฬาใน อ.โกสุมพิสัย ปิดกิจการลอยแพแรงงานร่วม 2,000 คน และจ่อเจ๊งอีกแห่งในเร็ววันนี้

นายณรงค์ เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดมหาสารคาม เริ่มได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงพร้อมกันทั่วประเทศ 300 บาทแล้ว ซึ่งจากเดิมแรงงานของจังหวัดมหาสารคามได้ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 167 บาท เมื่อปรับเป็น 300 บาท เท่ากับมีการปรับขึ้นราว 80% ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

ผู้ประกอบการบางส่วนได้ลดจำนวนแรงงานลงเพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงขึ้น และบางแห่งไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นได้ทำให้ต้องปิดกิจการ

ล่าสุด มีโรงงานที่จำเป็นต้องปิดกิจการไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2555 คือ โรงงานตัดเย็บชุดกีฬา ที่ อ.โกสุมพิสัย มีพนักงานกว่า 2,000 คน และอีกโรงงานหนึ่งใน อ.นาเชือก ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสิ่งทอเช่นเดียวกันได้ทยอยลดพนักงานจาก 1,000 คน เหลือเพียงไม่ถึง 300 คนเท่านั้น คาดว่าโรงงานดังกล่าวจะไม่สามารถปรับตัวรับค่าแรง 300 บาท และต้องปิดตัวลงไปในที่สุดในเร็ววันนี้

http://manager.co.th/Local/ViewNews.asp ... 0000002905
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
sorawitch
Verified User
โพสต์: 152
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 32

โพสต์

สังเกตเห็นอย่างนึงว่าข่าวที่ท่าน syj post มาจาก ASSTV ทั้งนั้นเลยครับ :oops: :oops:

บ้านใครมีกิจการ ก็ลองมาแชร์ให้ฟังหน่อยนะครับ
อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเจ้าของกิจการลำบากตรงไหนอะไรยังไงบ้าง
ผมเชื่อว่าสมาชิกไทยวีไอหลายท่านเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ก็ที่บ้านพ่อแม่มีกิจการ

เิริ่มจากผมก่อนละกัน
พี่สาวคับไม่ใช่ผม :oops: ขายส่งตุ๊กตาที่สำเพ็ง ร้านไม่ใหญ่
ลูกจ้าง 4-5 คน
ค่าแรงเกินสามร้อยมานานแล้ว โดยให้รายวันสองร้อยกว่าบาท
แล้วพอปีใหม่ให้โบนัส ซึ่งเมื่อรวมๆแล้วก็เกินสามร้อย จ่ายแบบนี้มานานแล้ว

ลูกจ้างที่ว่านี่คนไทยคนเีดียว นอกนั้นพม่า :shock:
งานที่ทำคือขนตุ๊กตาจากชั้นสองหรือสามลงมาชั้นหนึ่ง (ร้านเป็นตึกแคบๆสามชั้น)
ยัดตุ๊กตาลงถุงให้ลูกค้า รับ order ลุกค้า
ปักหรือตกแต่งตุ๊กตาด้วย item แปลกเป็นครั้งๆ
งานหนักมากสุดๆช่วงปีใหม่ วาเลนไทน์ (ต้นปี)
คือเปิดตั้งแต่เที่ยงคืนตีหนึ่ง เลิกร้านตอนเย็น :cry:
ถ้าหัวใจไม่แข็งแรงทำงานนี้ไม่ได้ ขนาดเจ้านายเก็บเงิน ช่วยยัดของด้วยแต่ไม่มากเท่าลูกน้องยังเปื่อย :cry:

เลยช่วงนี้ของปีแล้วชิวๆ เปิดร้านประมาณตีสอง เลิกประมาณบ่ายสอง

งานใช้แรงกับใช้ความจำว่าตุ๊กตาแบบนี้ขายส่งเท่าไหร่ ขายปลีกเท่าไหร่

คิดเงินเก็บเงินไม่ต้องยุ่ง เถ้าแก่คิดเอง :ep:

ลูกจ้างไทยไม่ทำ เพราะเหนื่อยมาก แถมต้องเจอลูกค้าติ ต่อ(ราคา) กวนทีน

ถามว่ากำไรสุทธิที่ได้เยอะมั้ย น้อยมากกกกถ้ามองที่ margin
อาศัยว่าขายจำนวนชิ้นมากเลยได้จำนวนเงินออกมามาก

แล้วมองไปที่คุณภาพชีวิตลูกจ้างเทียบกับนายจ้างเป็นยังไง

:mrgreen: :mrgreen:

ลูกจ้างพม่าเท่าที่สังเกต ประหยัดมาก กินข้าววันละมื้อ :shock:
พิมพ์ไม่ผิดครับ กินมื้อเดียว เพราะต้องเก็บตังค์ส่งให้ที่บ้าน
ส่วนลูกจ้างไทยไม่ถึงขนาดนี้ แต่ก็ฟุ่มเฟือยไม่ได้

ลูกจ้างพม่าอยู่ห้องเช่าที่ออกค่าเช่าเอง :cry:
ห้องนึงอยู่หลายคนกับเพื่อนๆพม่า

ข้าวห้างไม่เคยกิน
หนังโรงไม่เคยดู
เที่ยวต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง

ส่วนนายจ้าง วันหยุดหนังโรงดูได้ ข้าวนอกบ้านกินได้สบาย รองเท้าคู่ละห้าพันไม่สะท้าน

และอื่นๆที่ผมไม่อยากเล่าเพราะส่วนตัวไปหน่อย
แต่เอาเป็นว่า power of money สูงกว่าลูกจ้างมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ใครมีเรื่องเล่าที่นายจ้างลำบากมาเล่าให้ผมฟังหน่อย อยากฟัง
เราจะรวยแร้วววววววววว
dojii
Verified User
โพสต์: 339
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 33

โพสต์

ของผม อืม พูดของผมไม่ได้ครับ ต้องบอกว่าสวนยางพาราของพ่อ
มีลูกจ้างกรีดยาง การกรีดยางที่สวนไม่ได้จ้างเป็นค่าแรงรายวันนะครับ
แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากการขายยาง
ขายได้ราคาเท่าไรแบ่งกัน เจ้าของสวนได้ 55% คนกรีดได้ 45%
จะกรีดกี่คนก็ตามแต่คนกรีดยางต้องจัดการเอาเอง
ค่าปุ๋ยเป็นของเจ้าของสวน ส่วนการถางหญ้าหรือใส่ปุ๋ยต้นยาง (งานแรงงาน) เป็นหน้าที่ของคนกรีด
เรียกว่าแบ่งงานกันทำครับ
ที่ราคายางประมาณ 75-85 บาท/กก.
เมื่อแบ่งแล้วคนกรีดได้มากกว่า 300 บาท/คน/วัน ครับ
ส่วนใหญ่จะได้อยู่เฉลี่ยประมาณเดือนละ 15,000 บาท ถึง 20,000 บาท ต่อคนครับ
ที่สวนยาง มีทั้งคนไทย และคนพม่า ครับ อัตราค่าจ้างเดียวกัน
แต่ที่พบคือ คนพม่า ขยันกว่าเลยได้ผลผลิตมากกว่าครับ

อีกกรณีนึง
ที่บ้านผมจ้างคนทำความสะอาดครับ
อันนี้ให้เป็นรายวัน ผมจ่ายให้วันละ 300 บาท บวกค่าข้าวอีก 40 บาท
เป็นวันละ 340 บาท มาเกือบจะสองปีแล้วครับ
ถ้าน้อยกว่านี้เค้าไม่พอใช้ครับ

ปล. ผมอยู่ต่างจังหวัดนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 34

โพสต์

chatchai เขียน:ความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่าง คือ ภาพลักษณ์ในสังคม

ถ้าคุณบอกแก่คนอื่นว่าทำธุรกิจส่วนตัว ภาพลักษณ์ของคุณจะดูดี มีฐานะมั่นคง มีลูกน้องมากมาย

แต่ถ้าคุณบอกว่ามีอาชีพนักลงทุนในตลาดหุ้น ภาพลักษณ์จะเป็นนักพนัน รายได้ไม่มั่นคง ชีวิตเงียบเหงา
เด๋วนี้ ภาพลักษณ์นักลงทุนเปลี่ยนไปมากแล้วครับพี่ฉัตร ตั้งแต่หุ้นเฟ้อ

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว แม้แต่สามล้อ ก้ยังหวังจะเข้าตลาด

เปิดสัมนากี่ทีก้เต็ม เปิดสอนกราฟเสียเงินหมื่นก้มีคนไปเรียน เขียนหนังสือขายก้ยังมีคนซื้อ

ไปอ่าน ทอรค์โชวหุ้นก้มีแต่คนสนใจ รายการหุ้นก้ผุดขึ้นมามากกว่าเห็ด

เซียนเต็มตลาดหุ้น เลยครับตอนนี้ จะให้ดี เหล่าทวยเทพทั้งหลายก้ขอให้สถิตกันนานๆ

ยามตลาดหมี มาเยือน เมื่อไหร่ พอเราหลบพายุ พอออกไป ก้พบศพเหล่าทวยเทพทุกรอบ

รูปนี้เป็นจริง

ขาขึ้นมีแต่ทวยเทพ ขาลงคนที่เมพ (ขิงๆ)จึงจะรอด
แนบไฟล์
556885_330098107094749_1600384500_n.jpg

ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 35

โพสต์

รายเล็ก เจ๊งก้เจ๊งไป ยังไงเค้กก้อนนี้ ก้ต้องถูกรวบกินเข้าสักวัน

ในสงครามการค้า ไม่มีการปรานี

ยิ่งรายใหญ่ได้ลดภาษีนิติบุคคล รายเล็กที่ไม่จดทะเบียนหรือทำนอกระบบ

จะเอาที่ไหนไปแข่ง ค่าจ้างก้เท่ากัน รายเล็กก้อาจจะแข่งสงครามราคาไม่ได้

ปิดประตูตี (แมว)

ไม่แปลกที่ อุตสาหกรรมดาวร่วง ในผลวิจัยของหอการค้าไทยจะมี โชวห่วย ค้าปลีกย่อย


หน้าที่ของเราคือ มองบริษัทที่เก่งที่สุด เป็นอันดับ1 หรือ 2

และรอเค้า แกรนเซลล์ แบบไร้เหตุผล

ที่1 ที่2ไม่รอด ก้คงเจ๊ง กันหมดทั้งอุตสาหกรรม
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 36

โพสต์

การเงิน - การลงทุน
วันที่ 9 มกราคม 2556 20:12
'ชาตรี'ชี้ค่าแรง300ธุรกิจใช้เวลา6เดือนปรับตัว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพฯ คาดขึ้นค่าแรง 300 บาท ใช้เวลาปรับตัว 6 เดือน ย้ำผลกระทบไม่รุนแรง

นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เป็นนโยบายที่จำเป็นในการยกระดับมาตรฐานของประเทศไทย แต่ในระยะแรกอาจมีผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมอยู่บ้าง ทำให้ราคาสินค้าทยอยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยในระยะแรก

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่เริ่มมีการขาดทุนแล้ว ซึ่งโรงงานบางแห่งที่ปิดตัวไปเพราะไม่มีความสามารถทำกำไรอยู่แล้ว แต่คาดจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะขึ้นกับว่าลูกค้าจะผลิตขายราคาใหม่ได้แค่ไหน เพราะภาพรวมกำลังซื้อยังไม่ปรับลดลง

"คงจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย ผลกระทบไม่น่าจะรุนแรง บางโรงงานก็ปิดไปเพราะทำต่อไปก็ขนาดทุน ต้องปิดเพื่อปรับตัว ลูกค้าแบงก์กรุงเทพก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก แต่เชื่อว่าไม่น่ามีผลต่อเอ็นพีแอลมากนัก แม้จะมีการชำระล่าช้าบ้าง แต่ไม่ถึงกับล้มละลาย เพราะจะให้ใช้แรงงานพม่ามาแทนก็ไม่ได้ทั้งหมด เพราะทักษะของคนไทยดีกว่าเยอะ"นายชาตรี ระบุ

http://bit.ly/WMITwP
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 37

โพสต์

หากไม่มีกรณี 300บาท ก็มีธุรกิจที่ปิดกิจการเกิดขึ้นอยู่แล้ว.
กรณี 300บาท ครั้งนี้. มันแค่เป็นตัวเร่งให้เร็วขึ้น. ไม่ว่าทั้งด้านดีและด้านเสีย

กรณีเจ๊ง(ข้างบน ที่ถูกน่าจะเรียกว่า เลิกกิจการก่อนจะเจ๊งจริงๆ จาก 300บาทนี้) ก็คงเป็นมุมหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจริง
ในบางธุรกิจ หรือกรณีที่หาวิธีปรับตัวให้สู้กับการแข่งขันไม่ได้ (แล้วปล่อยให้คนที่สามารถทำได้ดีกว่า ทำต่อไป)

และการเลิกก่อนแบบนี้ จะทำให้บอบช้ำไม่มาก น่าจะมีโอกาสไปเริ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น ในสถานที่อื่น หรือในธุรกิจอื่น
ผมว่าน่าจะถูกต้องตามหลักการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งการเลิกอย่างหนึ่ง แต่อาจไปทำอีกอย่างก็ได้

และน่าจะยังมี มุมอื่นๆอีก เช่นกัน
จึงยังมีข่าว ขยายงาน แรงงานขาดแคลน และอื่นๆ ด้วย
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 38

โพสต์

syj เขียน:ผมว่า หลายๆ คน หรือ ส่วนใหญ่
นักลงทุนใน thaivi ไม่เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก/กลาง
หรือเป็นผู้บริหารกิจการขนาดเล็ก/กลางในระดับที่ต้องดูแลทุกๆ เรื่อง
ไม่เข้าใจหรอกครับ

แต่ผมในฐานะที่ผ่านตรงนั้นมาแล้ว และออกมาได้ มาเป็น
นักลงทุนเต็มตัวถึงแม้ไม่เก่งและพอร์ตจะเล็กๆ แค่เลี้ยงตัวได้
(thanks god...)

ผมบอกเลยว่า
1) แรงงานขาดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับทัึกษะขนาดไหนก็ตาม
2) บอกว่าให้ไปทำอย่างอื่น เทรนใหม่ ทราบหรือไม่ว่า
เทรนคน ยากขนาดไหน และผมบอกเลยว่า ระยะเวลา 20 ปีที่่ผ่านมา
พื้นฐานความรู้ความสามารถของคนงานไทย ตกต่ำลงอย่างมากๆๆๆๆ
คือจบมาไม่แทบไม่รู้เรื่องอะไรเลยในสายงานที่จบมา นอกเหนือจากนี้
ความอดทนก็ต่ำลงเรื่อยๆ
3) ธุรกิจหลายๆ อย่าง อาศัยทรัพยากรท้องถิ่นที่มีอยู่เป็นวัตถุดิบ แล้ว
จะให้ไปทำอะไรแข่งขันกับคนอื่นๆ ครับ
4) บอกให้ปรับเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยี่ บางกิจการเขาไม่ได้มีกำไรมหาศาล
แค่เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงคนงานได้ มีกำไรบ้าง บางทีขาดทุนบ้าง แต่พออยู่ได้
จะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนครับ อย่าบอกให้เป็นหนี้นะครับ เพราะแต่เดิมมาก็
พออยู่ได้เท่านั้นเอง
4) มีประเทศไหนในโลกที่ปรับค่าแรงแบบฉับพลันอุกอาจขนาดนี้

เป็๋นนักลงทุันง่ายกว่าครับ แค่เปลี่ยนบริษัทที่ลงทุนจาก A ไป B ก็เรียบร้อย
อาจทำได้ภายในแค่ 1 นาทีเท่านั้น แต่โรงงานหรือกิจการ มันทำแบบนั้นไม่ได้
ครับ
นี่สิคอมเม้นท์ของคนรู้จริง ไม่ใช่ไม่เคยเป็นผู้ประกอบการ หรือ ทำโรงงานแล้วมาคอมเม้นท์โดยใช้จินตนาการอย่างเดียว
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ธนิต ชี้ปรับค่าแรง 1 เม.ย.55 จุดเริ่มต้นความอ่อนแอ เอสเอ็มอี ระบุภาระต้นทุนแรงงานที่เพิ่มคิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะข่าวเช้านี้ ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวานนี้ว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำส่งผลให้โรงงานหลายร้อยแห่งปิดตัว โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งหากคำนวณค่าเฉลี่ยของการปรับค่าแรงทั้งหมด เช่น โรงงานที่มีแรงงาน 200 คน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 4.5 ล้านบาท/ปี เท่ากับ 10% ของรายได้ที่เฉลี่ย 39-40 ล้านบาท/ปี

"ขณะที่กำไร เอสเอ็มอี ถ้าทำได้ 5% ก็เก่งแล้ว แต่ต้นทุนเพิ่ม 10% ทำให้อยู่ได้ยาก"


ส่วนการที่มีผู้วิจารณ์ว่า โรงงานที่ปิดตัวไม่ได้เป็นผลมาจากค่าแรงโดยตรง แต่เป็นเพราะผลประกอบการไม่ดีมาก่อนเห็นว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ถูกทั้งหมด เพราะจะต้องย้อนไปดูถึงต้นเหตุที่ทำให้โรงงานอ่อนแอ ส่วนปัจจัยที่มีผู้กล่าวอ้าง เช่น คำสั่งซื้อลูกค้าลดลง รูปแบบสินค้าสู้ไม่ได้ ไม่มีการพัฒนาสินค้า ก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เช่น ประเด็นรูปแบบสินค้าต้องทำความเข้าใจว่า เอสเอ็มอี ส่วนใหญ่รับจ้างผลิตจากแบบที่ผู้จ้างส่งมา

ขณะที่คำสั่งซื้อที่ลดลง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจของคู่ค้าไม่ดีเท่านั้น แต่เป็นเพราะต้นทุนสูงขึ้น ทำให้ลูกค้าหันไปซื้อหรือผลิตในประเทศอื่นแทน เช่น ลาว กัมพูชา

"ต้องย้อนไปดูว่า ทำไมต้นทุนเพิ่มขึ้น ช่วงที่ผ่านมาวัตถุดิบต่างๆ ไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก ราคาน้ำมันก็ไม่ได้ปรับขึ้น ก็เหลือที่ค่าแรง"


นายธนิตกล่าวว่าค่าแรงไม่ได้เพิ่งปรับขึ้น แต่ปรับมาแล้วครั้งหนึ่งในบางพื้นที่เมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความอ่อนแอของเอสเอ็มอีและสะสมมาถึงปัจจุบัน

ส่วนการที่ภาครัฐกำหนดมาตรการช่วยเหลือออกมาในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นมาตรการด้านภาษี เห็นว่าไม่มีประโยชน์ เพราะที่จะได้ประโยชน์คือผู้ประกอบการที่สามารถทำกำไรได้ แต่สถานการณ์เอสเอ็มอีในปีนี้เห็นว่าหากดำเนินธุรกิจโดยไม่ขาดทุนก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจแล้ว ดังนั้นมาตรการต่างๆ เช่น หักค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรจากเดิม 10 ปี เหลือปีเดียว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดกำไรจะได้ลดภาษี ก็ไร้ประโยชน์ในเมื่อโรงงานไม่สามารถทำกำไรได้

นายธนิตกล่าวว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการใน สอท. มองเห็นปัญหานี้มายาวนาน และได้ร่วมทำงานมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่ก่อนปรับค่าแรงครั้งแรก แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากประธาน สอท. ตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงปัจจุบันเพราะยังไม่สามารถเข้าไปใน สอท.ได้ เนื่องจากยังมีกำลังตำรวจตรึงพื้นที่ตั้งแต่ พ.ย.2555 ถึงขณะนี้

การทำงานของ สอท. รวมถึงประธาน เป็นต้นเหตุของปัญหาในขณะนี้ เพราะเห็นว่าหากสอท.เคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นปี 2555 ก่อนปรับค่าแรงครั้งแรก รัฐบาลอาจจะได้ข้อมูลมากขึ้น และหาทางป้องกัน แต่ทางประธานสอท. ไม่เห็นด้วย

"ถ้าช่วงนั้นเราให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟัง แต่ สอท.ไม่ทำอะไร ส่วนคนที่เข้าไปให้ข้อมูลบางคนก็ไม่รู้เรื่องเป็นแค่พนักงานหรือไม่ก็มาจากบริษัทใหญ่ ซึ่งไม่มีความเข้าใจเอสเอ็มอีเลย"

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... ่อนแอ.html
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 40

โพสต์

รง.รองเท้าเดี้ยงค่าแรง300พ่นพิษ ปิดตัวย้ายฐานแนะดันกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นกระตุ้น

updated: 13 ม.ค. 2556 เวลา 12:35:22 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

สมาคมรองเท้าไทยเผยค่าแรง 300 พ่นพิษ ทำผู้ประกอบการขนาดกลาง-ขนาดเล็กล่มสลาย ไม่มีปัญญาจ่ายค่าจ้าง ที่เหลือทำได้แค่พยุงธุรกิจ ส่วนโรงงานใหญ่เตรียมย้ายฐานผลิตไปพม่า ขณะที่ ส.อ.ท.เองขาดเอกภาพ ไม่รู้จะไปหวังพึ่งใคร แนะภาครัฐใช้โปรเจ็กต์กรุงเทพฯเมืองแฟชั่นกระตุ้นตลาดให้คึกคัก

นายชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การปรับขึ้นค่าแรง 300 ส่งผลให้ต้นทุนของผู้ผลิตเพิ่มขึ้นมาก หลายโรงงานรองเท้าขนาดกลางและขนาดเล็กต้องใช้แรงงาน 20-60 คน ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลส่งสัญญาณว่าอาจจะต้องปิดกิจการลง เนื่องจากไม่มีศักยภาพพอที่จะจ้างแรงงาน รวมถึงแรงงานที่มีฝีมือได้เรียกร้องให้มีการปรับค่าแรงเพิ่มเป็น 450-500 บาท

หากว่าภาครัฐไม่มีมาตรการเยียวยาผลกระทบผู้ประกอบการในช่วงครึ่งปีนี้ จะต้องมีโรงงานทยอยปิดกิจการเรื่อย ๆ และที่คาดว่าจะเห็นภาพชัดที่สุดคือโรงงานในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพระราม 2 แต่สำหรับโรงงานรูปแบบธุรกิจในครอบครัวที่ใช้แรงงานน้อยยังคงมีโอกาสอยู่รอดในธุรกิจ

เมื่อเทียบกับโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีหลายโรงงานที่ทยอยปลดพนักงงานออกจำนวนหนึ่ง และเพิ่มการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทน เพื่อพยุงธุรกิจไว้ แต่ยังไม่ถึงกับทำกำไรได้ในช่วงนี้

"ก่อนหน้านี้เราได้เปรียบเรื่องฝีมือแรงงาน การรักษาค่าจ้างแรงงานที่ไม่สูงเกินไปจึงเป็นจุดแข็งของเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นจุดอ่อนแล้ว" นายชนินทร์กล่าว

นายชนินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการทยอยปิดกิจการของโรงงานรองเท้าในปีนี้จะทำให้สินค้าระดับบนหายไปจากตลาดจำนวนมาก ในขณะที่โรงงานรองเท้าขนาดใหญ่หันมาเล่นตลาดระดับล่าง ด้วยการผลิตสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น และใช้วัตถุดิบสังเคราะห์เพิ่มขึ้น เพื่อบริหารต้นทุน แต่ผู้ประกอบการธุรกิจรองเท้าของไทยยังมีปัญหาไม่สามารถแข่งขันกับประเทศผู้ผลิตที่มีต้นทุนค่อนข้างต่ำอย่างประเทศเวียดนามและจีนได้ จึงมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศพม่า เวียดนาม และลาวแทน เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอาเซียน

ขณะนี้มีนักลงทุนไทย 20-30 รายที่ออกไปสำรวจตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพม่า หากในอนาคตการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ พร้อมรองรับการลงทุน รวมถึงมาตรการ

ส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น นักลงทุนไทยจะให้ความสนใจไปลงทุนเพิ่มขึ้น

นายชนินทร์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ถือว่าภาพรวมอุตสาหกรรมแฟชั่นค่อนข้างถดถอย การผลักดันโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นของภาครัฐ อาจจะช่วยสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมได้ แม้ว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะนำโครงการนี้กลับมาพัฒนาอีกครั้ง แต่กลับไม่ได้เชิญภาคเอกชนให้เข้าร่วมระดมความคิดเห็นเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางสมาคมต้องการให้ภาครัฐสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่ครบวงจร และควรสร้างตัวแทน (Brand Ambassador) เพื่อโปรโมตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แทนวิธีการที่จะเน้นไปกับการจัดแฟชั่นโชว์

อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้าได้ยื่นหนังสือต่อสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องปัญหาค่าแรง 300 บาท แต่ว่าปัญหาความขัดแย้งของ ส.อ.ท.ทำให้ไม่มีความเป็นเอกภาพในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ

ด้านนายสมศักดิ์ ลิขิตพิทยตระกูล หัวหน้าบัญชีการเงิน บริษัท อะมิตี้แอดวานซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อะมิตี้แอดวานซ์ฯ ปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทให้กับพนักงานมาเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 แต่ไม่สามารถผลักภาระให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดต่างประเทศได้ เพราะต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจกำลังตกต่ำเช่นกัน จึงต้องแบกรับต้นทุนไว้ประมาณร้อยละ 3-4 เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ โดยปี 2555 ที่ผ่านมา คำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงร้อยละ 20

ขณะที่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใน 7 จังหวัด ก่อนหน้านี้ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เกือบ 10 รายต้องหยุดผลิตสินค้า และเปลี่ยนเป็นนำเข้าสินค้ามาขายแทน ส่วนโรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งยกเลิกการทำงานล่วงเวลา เพื่อนำค่าแรงล่วงเวลามาเป็นกำไรพยุงให้ธุรกิจอยู่รอด ขณะที่บริษัท อะมิตี้แอดวานซ์ฯเองต้องปรับตัวด้วยการผลิตสินค้าคุณภาพสูง เพื่อทำตลาดระดับบน

นางสาววันวิสาข์ โกมารกุล ณ นคร เจ้าของร้านวันวิสาข์แอนด์มัม ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าและกระเป๋า เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้จ่ายค่าแรงมากกว่า 300 บาทอยู่แล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทโดยตรง แต่ทำให้เงินสำรองของธุรกิจน้อยลง แต่ในส่วนบริษัทอื่น ๆ พบว่ามี 2-3 รายที่แบกรับค่าแรงไม่ไหวจนต้องปลดพนักงานออกครึ่งหนึ่ง

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=1901
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
Joi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3024
ผู้ติดตาม: 36

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 41

โพสต์

เท่าที่ตามข่าวโรงงานที่ปิดส่วนใหญ่จะเป็นพวกแฟชั่นและสิ่งทอ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พอเจอค่าแรงขึ้นซึ่งเป็นต้นทุน
หลักของธุรกิจเข้าไปก็เป็นตัวเร่งให้เจ๊งเร็วขึ้น.....แต่นโยบายมันออกมาแล้ว(ซึ่งก็ประกาศก่อนหน้ามานานพอควร) ดังนั้นในโลก
ของการทำธุรกิจต้องมีการปรับตัวตลอดเวลาเพื่อความอยู่รอด ใครปรับตัวได้ก็รอด ใครปรับไม่ได้ก็ไป เป็นเรื่องของความโหดร้าย
ในการทำธุรกิจการค้าเป็นปกติอยู่แล้ว ......... ช่วงนี้คงมี after shock อย่างที่เห็นอยู่ แต่สักพักก็จะมีการปรับตัวให้เห็น ใครสู้ต่อก็
จะมีการปรับตัวให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงงานไปที่ๆมีค่าแรงถูกหรือเปลี่ยนธุรกิจไปเลย แต่ใครไม่ปรับก็ตายไปตามวัฎจักร

ทั้งหมดทั้งปวงนี้คือโลกของการทำธุรกิจไม่รวยก็เจ๊ง หรือรอกำลังจะรวยหรือรอกำลังจะเจ๊ง มีอยู่แค่นี้จริงๆ....... :mrgreen:
"การหลอกคนร้อยคนให้เชื่อ นั้นง่ายกว่าการสอนคนหนึ่งคน ให้เข้าใจ"
namelessky
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 427
ผู้ติดตาม: 23

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 42

โพสต์

อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่
:wall:
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 43

โพสต์

namelessky เขียน:อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่

:o :o :o
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 44

โพสต์

namelessky เขียน:อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่
ขอบอกว่าไม่จริงครับ ผู้ที่ทำธุรกิจสิ่งทอที่จะอยู่ได้จากนี้ไปคือที่ผลิตขายในประเทศเป็นหลัก กับแบรนด์คนไทยเอง พวกoemส่งออกย้ายแน่นอนครับหรือไม่ก็เลิกไปทำอย่างอื่น ผมกล้าพูดเพราะที่บ้านผมเป็นoemส่งออกชุดกีฬาให้แบรนด์ดังยี่ห้อนึง
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 45

โพสต์

harikung เขียน:
namelessky เขียน:อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่
ขอบอกว่าไม่จริงครับ ผู้ที่ทำธุรกิจสิ่งทอที่จะอยู่ได้จากนี้ไปคือที่ผลิตขายในประเทศเป็นหลัก กับแบรนด์คนไทยเอง พวกoemส่งออกย้ายแน่นอนครับหรือไม่ก็เลิกไปทำอย่างอื่น ผมกล้าพูดเพราะที่บ้านผมเป็นoemส่งออกชุดกีฬาให้แบรนด์ดังยี่ห้อนึง
การเป็น "เจ้าของ" กิจการ โดย การซื้อหุ้นในตลาดฯ ความผูกพันมันไม่มี ความรู้สึกมันไม่มีครับ
แต่ถ้ากิจการที่เราสร้างมันมากับมือ แล้วมาโดนแบบนี้ โดยที่เราไม่ได้เป็นต้นเหตุหลัก แห่งการปิดกิจการ
แต่มาจาก การหาเสียง (ซึ่งผมว่ามันแตกต่างจากการแจกของ ยังไงครับ ยกเว้นว่าเงินที่จ่าย
เป็นเงินของผู้ประกอบการณ์ ไม่ใช่กระเป๋านักการเมือง. อีกอย่างเรื่องค่าแรง ก็มีคณะกรรมการค่าจ้างจาก
สามฝ่าย มาดูแลอยู่แล้ว และเป็นแบบนี้มากว่าสิบปีแล้ว ทุกคนอยู่ได้)
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 46

โพสต์

harikung เขียน:
namelessky เขียน:อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่
ขอบอกว่าไม่จริงครับ ผู้ที่ทำธุรกิจสิ่งทอที่จะอยู่ได้จากนี้ไปคือที่ผลิตขายในประเทศเป็นหลัก กับแบรนด์คนไทยเอง พวกoemส่งออกย้ายแน่นอนครับหรือไม่ก็เลิกไปทำอย่างอื่น ผมกล้าพูดเพราะที่บ้านผมเป็นoemส่งออกชุดกีฬาให้แบรนด์ดังยี่ห้อนึง
หลายๆเรื่องที่ ผมแสดงความเห็นในเกี่ยวกับกระทู้ 300 บาท และ 15,000 บาท
ผมมาทบทวนแล้ว อาจดูเหมือน ผมไร้น้ำใจ
ที่ยอมรับและเห็นว่า จะมีกิจการที่ต้องปิดตัว หรือต้องเหนื่อยอย่างมาก
แต่ผมก็เขียนจากมุมมองและประสบการณ์ ของผมที่ผ่านมา
และคิดว่า พอจะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แม้ไม่เคยทำกิจการตนเองใหญ่เท่าคุณharikung

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ออกมาทำมาหากินเอง ก่อนวิกฤตปี 40 สัก 2-3 ปี แล้วในช่วงวิกฤตนั้น ก็ถูกจัดให้ครบไม่ต้องร้องขอ ดอกเบี้ยผ่อนบ้านเกือบ 20%ต่อปีด้วย กว่าจะรอดมาได้ ผมติดหล่มอยู่หลายๆปีมากๆ ผมต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงมาพอสมควร รวมทั้งการกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนรอบสอง ก่อนออกมาทำมาหากินเองเล็กๆน้อยๆอีกครั้ง

หากในวันนั้น ผมมีมุุมมองและทัศนะที่ถูกที่ควร ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มองออกแบบวันนี้
ผมอาจจะมองหาโอกาสในวิกฤตนั้นด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ปัญหาและการแก้เท่านั้น โดยลืมว่ามันมีสิ่งที่มาคู่กัน

ประเทศคงต้องเติบโตและมีปัญหาได้บางช่วงก็เหมือนคนเรา ความต้องการของคนในประเทศก็ปรับเปลี่ยนไปตามการเติบโตหรือปัญหานั้น และเราคงสั่งชะลอหรือหยุดมันได้ยากยิ่ง

ผมจึงเห็นความสำคัญ เรื่องความสามารถในการปรับตัว ว่า มันจำเป็น และเป็นของจริง ที่บ่งบอกถึงอนาคตและเป้าหมายที่มี

ขอเป็นกำลังใจ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้
และไม่ว่าเลือกดำเนินเส้นทางไหน
ก็ขอให้คุณharikungและครอบครัว ประสพความสำเร็จๆ ครับ
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 47

โพสต์

วันที่/เวลา 15 ม.ค. 2556 17:25:54
หัวข้อข่าว เลิกจ้างพนักงานตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2556
หลักทรัพย์ BNC
แหล่งข่าว BNC
รายละเอียดแบบเต็ม คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม



วันที่ 15 มกราคม 2556
เรื่อง เลิกจ้างพนักงาน ตั้งแต่ วันที่ 31 มกราคม 2556
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บางกอกไนล่อน จำกัด(มหาชน) ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 25
ธันวาคม 2555 อนุมัติให้บริษัทหยุดการผลิตชั่วคราว ตั้งแต่ วันที่ 31 มกราคม 2556 เป็นต้นไปนั้น
ในขณะนี้ บริษัทได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ในวันที่ 31มกราคม 2556
และมีแผนรับผิดชอบต่อลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ด้วยความนับถือ
พูลวิทย์ ธนทรัพย์สมบุญ
(นายพูลวิทย์ ธนทรัพย์สมบุญ)
กรรมการผู้จัดการ
______________________________________

ไม่แน่ใจว่า ด้วยสาเหตุใด อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับ ค่าแรง 300.- ก็ได้ครับ
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 48

โพสต์

syj เขียน:วันที่/เวลา 15 ม.ค. 2556 17:25:54
หัวข้อข่าว เลิกจ้างพนักงานตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2556
หลักทรัพย์ BNC
แหล่งข่าว BNC
รายละเอียดแบบเต็ม คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม



วันที่ 15 มกราคม 2556
เรื่อง เลิกจ้างพนักงาน ตั้งแต่ วันที่ 31 มกราคม 2556
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บางกอกไนล่อน จำกัด(มหาชน) ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 25
ธันวาคม 2555 อนุมัติให้บริษัทหยุดการผลิตชั่วคราว ตั้งแต่ วันที่ 31 มกราคม 2556 เป็นต้นไปนั้น
ในขณะนี้ บริษัทได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ในวันที่ 31มกราคม 2556
และมีแผนรับผิดชอบต่อลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ด้วยความนับถือ
พูลวิทย์ ธนทรัพย์สมบุญ
(นายพูลวิทย์ ธนทรัพย์สมบุญ)
กรรมการผู้จัดการ
______________________________________

ไม่แน่ใจว่า ด้วยสาเหตุใด อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับ ค่าแรง 300.- ก็ได้ครับ


งานเข้าคับ แบบนี้ กระทบแน่นอน แบบนี้กลุ่มเก่าจะอยู่ต่อไหมครับ

1. บริษัท บางกอกโตเกียว ซ็อคส์ จำกัด 2,909,000 22.09

2. นายสุพจน์ ศรีโรจนันท์ 1,575,499 11.96

3. บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 1,462,500 11.10

4. นายสำเริง มนูญผล 993,733 7.55

5. INTER SYSTEM CO.,LTD. 800,000 6.07

6. บริษัท โชควัฒนา จำกัด 492,226 3.74

7. นายรัตนพงศ์ ศรีโรจนันท์ 374,773 2.85

8. บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด 366,049 2.78

9. นายเฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ 311,079 2.36

10. บริษัท ส่งเสริมผลิตผลไทย จำกัด 231,000 1.75

11. บริษัท โตโยเท็กซ์ไทล์ไทย จำกัด 200,000 1.52

12. นางสุภาภรณ์ ศรีโรจนันท์ 189,566 1.44

13. นายเอกพงศ์ ศรีโรจนันท์ 174,933 1.33

14. บริษัท วัตสดรมัย จำกัด 159,999 1.21

15. นายพิพัฒน์ ศิริเกียรติสูง 153,739 1.17

16. บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 150,000 1.14

17. บริษัท สัมพันธมิตร จำกัด 122,493 0.93

18. นายพูลวิทย์ ธนทรัพย์สมบุญ 102,000 0.77

19. MR.MOICHIRO YAMAUCHI 100,000 0.76

20. OKAMOTO CORPORATION 100,000 0.76

21. นายเศรษฐ์ เศรษฐวีรวัฒน์ 97,900 0.74

22. นายชวลิต ลิ่มอติบูลย์ 92,400 0.70

23. น.ส.สุกันยา บริบูรณ์ประเสริฐ 86,000 0.65

24. นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา 82,740 0.63

25. นางมาลี ศิริเกียรติสูง 76,500 0.58

26. นายสุชาติ มนูญผล 76,000 0.58

27. นางกิริยา ก้องวัฒนา 69,333 0.53

28. น.ส.เพ็ญวัน จันทร์วิมลกุล 66,000 0.50


กระทบเป็น วง (กว้างมาก)
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 49

โพสต์

อนุมัติให้บริษัทหยุดการผลิตชั่วคราว ตั้งแต่ วันที่ 31 มกราคม 2556 เป็นต้นไปนั้น
ในขณะนี้ บริษัทได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ในวันที่ 31มกราคม 2556
และมีแผนรับผิดชอบต่อลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว

หยุดผลิตรายได้ก้ไม่มี พื้นฐานเปลี่ยนถาวรสิครับแบบนี้


BNC RIP
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 50

โพสต์

แรงงานกรุงเทพฯคืนถิ่นเมืองใหญ่ โคราชอ้าแขนรับ5พันคนแข่งจ่ายสวัสดิการ-โบนัส

updated: 22 ม.ค. 2556 เวลา 12:28:52 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร (นครราชสีมา) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555 เป็นต้นมาทำให้เกิดปัญหาแรงงานบางส่วนตกงานและบริษัทปิดตัวลงรายวันนั้น ในส่วนของพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาพบว่าหลายโรงงานยังมีการขึ้นป้ายประกาศรับสมัครพนักงานจำนวนมาก ซึ่งเสนอค่าแรงขั้นต่ำเกินกว่า 300 บาท โดยเฉพาะโรงงานภายในเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร นครราชสีมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ยังคงมีความต้องการพนักงานฝ่ายผลิตมากกว่า 5,000 คน

"การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานและสถานประกอบการภายในนวนครโคราช เนื่องจากโรงงานทั้ง 10 แห่งมีการปรับแผนรองรับและปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับพนักงานตั้งแต่ช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมาแล้ว โรงงานสามารถขยับค่าแรงได้โดยไม่มีผลกระทบ และยังคงมีการจ้างงานพนักงานกว่า 10,000 คนต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา"

นอกจากนี้โรงงานภายในนวนครโคราชอีกหลายแห่งก็ยังคงมีความต้องการแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก หรืออีกประมาณ 5,000 อัตรา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานฝ่ายผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งขณะนี้ยังมีโรงงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอีก 8 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปีนี้ ซึ่งมีความต้องการแรงงานอีกกว่า 10,000 อัตรา พร้อมกันนี้ยังมีโรงงานที่เซ็นสัญญาเข้ามาลงทุนในนวนครเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง คาดว่าจะเดินหน้าก่อสร้างได้ในเร็ว ๆ นี้

นายสุรสีห์เปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีแรงงานเข้ามาสมัครงานในนวนครโคราชมากผิดปกติ ส่วนใหญ่เป็นแรงงานคืนถิ่น มีภูมิลำเนาอยู่ในโคราชและจังหวัดใกล้เคียง โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าต่อไปไม่ต้องเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลแล้ว เพราะได้รับค่าจ้างเท่ากัน แต่ค่าครองชีพที่กรุงเทพฯสูงกว่า

ดังนั้นการขึ้นค่าแรง 300 บาทจึงไม่เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการโรงงานขนาดใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา แต่กลับเป็นผลดีที่มีแรงงานมากขึ้น ซึ่งเดิมปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นปัญหาหนักที่แก้ไขกันมานาน บางแห่งต้องใช้แรงงานต่างด้าวแทน ซึ่งนวนครโคราชไม่มีนโยบายให้ใช้แรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้โรงงานต่าง ๆ ในนวนครโคราชได้นำร่องและเตรียมตัวรับการปรับขึ้นค่าแรงไว้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ โบนัส แรงงานมีรายได้เฉลี่ยวันละ 450-550 บาท ทุกคนได้รับค่าจ้างมากกว่า 300 บาทแน่นอน ซึ่งแต่ละโรงงานมีการแข่งขันเรื่องสวัสดิการ เบี้ยขยัน ค่ารถ และรายได้อื่น ๆ รวมทั้งโบนัสที่แต่ละโรงงานให้ 4-5 เท่า ขณะนี้ทุกโรงงานจ่ายค่าแรงใกล้เคียงกันหมด เพื่อดึงพนักงานไว้

สอดคล้องกับนายวิทยา โยธารินทร์ รองประธานชมรมบริหารแรงงานและพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาท ทำให้มีแรงงานจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลเริ่มย้ายกลับเข้ามาสมัครงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามากขึ้นพอสมควร เพราะได้รับค่าแรงไม่ต่างจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจะเกิดการขาดแคลนแรงงานในส่วนกลาง เพราะแรงงานไหลออกต่างจังหวัด โรงงานส่วนกลางต้องเพิ่มสวัสดิการและจ่ายโบนัสให้พนักงาน 4-5 เดือน เพื่อดึงดูดพนักงานไว้

"สินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนเริ่มตีตลาดโลก ทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางแห่งปิดกิจการไป เนื่องจากไม่มีการสั่งซื้อ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในโคราช คำสั่งซื้อหายไปแล้วประมาณ 50% เพราะคนหันมาใช้สมาร์ทโฟน หรือไอโฟน ไอแพด มากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ"

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการปลดพนักงานในกลุ่มโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในจังหวัดนครราชสีมาก็ยังขาดแคลนแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ แปรรูปเกษตรอีกมากกว่า 5,000 อัตรา

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=1901
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 52

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 51

โพสต์

syj เขียน:
harikung เขียน:
namelessky เขียน:อุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วงนี้น่าสนใจมากครับ ถ้าเกิดมีการปิดโรงงานกันจริงๆ ไม่ได้ขู่กันเฉยๆ

น่าจะมีผลดีให้กับรายใหญ่ เพราะแม้ว่า กำไรจะลด แต่ก็มีส่วนลดหย่อนภาษีเข้ามาช่วย (แตกต่างกับบริษัทเล็กๆ ซึ่งมักทำให้งบกำไร ขาดทุน ของตัวเองเป็นลบเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี)

คราวนี้ เมื่อผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ น่าจะทำให้เกิดอำนาจต่อรองขึ้นมาได้ อันนี้ต้องไปพิจารณาในบริษัทอีกที่
ขอบอกว่าไม่จริงครับ ผู้ที่ทำธุรกิจสิ่งทอที่จะอยู่ได้จากนี้ไปคือที่ผลิตขายในประเทศเป็นหลัก กับแบรนด์คนไทยเอง พวกoemส่งออกย้ายแน่นอนครับหรือไม่ก็เลิกไปทำอย่างอื่น ผมกล้าพูดเพราะที่บ้านผมเป็นoemส่งออกชุดกีฬาให้แบรนด์ดังยี่ห้อนึง
การเป็น "เจ้าของ" กิจการ โดย การซื้อหุ้นในตลาดฯ ความผูกพันมันไม่มี ความรู้สึกมันไม่มีครับ
แต่ถ้ากิจการที่เราสร้างมันมากับมือ แล้วมาโดนแบบนี้ โดยที่เราไม่ได้เป็นต้นเหตุหลัก แห่งการปิดกิจการ
แต่มาจาก การหาเสียง (ซึ่งผมว่ามันแตกต่างจากการแจกของ ยังไงครับ ยกเว้นว่าเงินที่จ่าย
เป็นเงินของผู้ประกอบการณ์ ไม่ใช่กระเป๋านักการเมือง. อีกอย่างเรื่องค่าแรง ก็มีคณะกรรมการค่าจ้างจาก
สามฝ่าย มาดูแลอยู่แล้ว และเป็นแบบนี้มากว่าสิบปีแล้ว ทุกคนอยู่ได้)
เห็นด้วยส่วนนึงครับ แต่ก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน เรื่องความผูกพันจากการเป็นเจ้าของกิจการนั้นเห็นด้วย แต่ช่วงที่ผ่านมาหลายๆปี ต้องพัฒนาบริษัทด้วย ถึงจะสร้างความสามารถทางการแข่งขันได้ ยกตัวอย่างในจีน ค่าแรงก็ขึ้นต่อปี 30% มาก็หลายปีแล้วนะครับ ทำไมเขายังต้นทุนต่ำอยู่ได้ ทั้งๆที่หลายๆโรงงานเขาก็ค่าแรงแพงกว่าไทยแล้วด้วยซ้ำ ถ้าเราอยู่อย่างสบายตลอดก็ไม่ต้องพัฒนาอะไรสิครับ สักวันนึงก็ต้องเจ๊งอยู่ดี

โลกทุนนิยมต้องมีการพัฒนาตลอดครับ ไปก้าวขึ้นไปข้างบนสักวันก็ต้องล้มอยู่ดี
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 52

โพสต์

แล้วมันก็ผ่านไป


:D :D :D :D :D
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 53

โพสต์

แชร์ตามความรู้อันน้อยนิดที่มี และฐานะที่เป็นคนในครอบครัวของเจ้าของธุรกิจขนาดกลางนะครับ

ผมว่านโยบาย 300 กำลังฆ่าธุรกิจรายเล็กๆ แบบค่อนข้างชัดเจนเลยครับ เป็นนโยบายที่ให้ประโยชน์กับชนชั้นแรงงานและธุรกิจรายใหญ่โดยแท้ ส่วนคห.ที่หลายๆท่านเห็นว่า เป็นนโยบายที่มองถึงอนาคตของประเทศ อยากจะรีดศักยภาพให้เหล่า SME พัฒนาตัวเองเพื่ออยู่รอด ผมมีความเห็นแย้งครับ ขอแบ่งเป็นประเด็นดังนี้ครับ

1. นโยบายเพิ่มค่าแรงเป็นนโยบายประชานิยมที่ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างครับ คือเพิ่มรายได้ให้แบบจับยัดจริง แต่ไม่ได้มีนโยบายในด้านการพัฒนะทั้งทักษะและทัศนคติทั้งในเรื่องหน้าที่ และการเก็บออมมากเพียงพอครับ ทุกวันนี้ถึงค่าแรงจะขึ้นมากขนาดนี้ แต่ผมยังเห็นแรงงานไทย ขาดงาน หนีงาน กู้หนี้ยืมสิน ฯลฯ อยู่ทุกวี่วัน ในขณะที่แรงงานต่างด้าว แทบจะไม่มีป่วย ลา มาสายให้เห็น แถมยังเก็บเงิน(ฝากผม)โอนไปให้ครอบครัวได้เป็นหมื่นๆ

2. รัฐไม่มีนโยบายอุ้ม SME ที่มากเพียงพอจะชดเชยกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นครับ สังเกตได้ชัดๆ คือบริษัทใหญ่มีปรับลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งอย่างที่หลายๆท่านบอกว่า SME ไม่ทำขาดทุนก็ใช้วิธีการเลี่ยงภาษี (ถ้าไม่ทำก็จะแข่งขันกับ SME ระดับเดียวกันไม่ไหว เพราะรายเล็กเลี่ยงกันแทบจะทั้งระบบ) แต่ SME มีนโยบายบ้าง แต่ไม่มาก และไม่แรงครับ เห็นชัดๆเลยคือธุรกิจขนาดเล็ก-กลางที่พฐ.ไม่ดีทยอยปิดตัวไปแล้ว

3. รู้แต่แรกว่าค่าแรงจะปรับ ทำไมไม่ปรับตัว?? ผมว่าถ้าเหล่าเจ้าของ SME เอาตำรามาท่องกันถกกันถึง DCA SWOT ขององค์กร ก็น่าจะช่วยให้ผ่านวิกฤติตรงนี้ไปได้นะครับ แต่เอ๊ะ!? ถ้าเหล่าเจ้าของคนที่ว่ามีความสามารถกันมากขนาดนั้น ผมว่าเผลอๆ หลุดตัวเองไปจาก SME ไปยอมจ่ายภาษีนานแล้วครับ ภาพที่ผมเห็นคือผู้ประกอบการในต่างจังหวัดส่วนมากไม่ได้มากับทฤษฎีเลยครับ มาจากภาคปฏิบัติล้วนๆ ผู้ประกอบการประเภทนี้ใช้"ความรู้สึก"หรือ"เซ้นส์"ในการดำเนินธุรกิจครับ น้อยมากที่จะมานั่งกางตัวเลข แล้ววัดผลการดำเนินงานเหมือนนักลงทุน อย่าว่าแต่ Different ตัวเองเลยครับ แค่แยกบัญชีบริษัทกับกระเป๋าตัวเองออกจากกันได้ก็ดีมากแล้ว

เสริมข้อ 3. อีกนิด คือ ผมค่อนข้างจะเข้าใจและยอมรับในโลกแห่งการแข่งขัน และเข้าใจว่าสู้ไม่ได้ก็ต้องตายไปเอง เหมือนกับโชว์ห่วยที่ถูก Super/convenient Store ฆ่าทิ้งไปไม่รู้เท่าไหร่ แต่ประเด็นที่คุณ syj เจ้าของกระทู้ต้องการจะนำเสนอคือ "มันสมควรแล้วหรือ กับการที่โชว์ห่วยจะตายเพราะแข่งขันไม่ได้ มาเป็นตายเพราะนโยบายประชานิยมแบบอาหารจานด่านของภาครัฐ???"

4. ข้อนี้อิงการเมืองนิดหน่อยนะครับ (เกริ่นก่อนกลัวจะหาว่าผมเลือกข้างเลือกสี) คือผมว่าชนชั้นกลางมีผลต่อรัฐค่อนข้างน้อยทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้วน่ะครับ รัฐจะได้ประโยชน์จากชนชั้นล่าง เพราะสามารถชักจูงง่าย ใช้งบไม่มากก็สามารถสร้าง Loyalty ให้กับพรรคได้ ในขณะที่ชนชั้นบนระดับสูงมากๆๆๆ ก็เป็นเสมือนแหล่งทุนของพรรคการเมืองอยู่แล้ว ทั้งล่างและบนเลยเป็น Stake holder ที่สำคัญของรัฐ ในขณะที่ชนชั้นกลางน่ะเหรอ? จะซื้อเสียงก็ยาก+แพง เงินจะอุดหนุนรัฐก็คงมีแค่กระจ้อยร่อย จะสนใจไปทำไม????

ทั้งหมดนี้คือภาพที่ผมเห็นนะครับ โรงงานของบ้านผมจ้างแพงกว่า 300 ครับ จ่ายภาษีเกือบทั้งระบบ (อ่านแล้วเงียบไว้ อย่าเอ็ดไปนะครับ) แต่ลูกค้าโรงงานผมเป็นรายเล็กครับ ผมขายของส่วนใหญ่จะขอให้เปิดบิลขาวแทบทั้งนั้น ทุกวันนี้ลูกค้าต่างจังหวัดรายเล็กๆ เริ่มเขียนเช็คยาวขึ้น โอนเงินช้าลง ทุกวันๆ จนผมเริ่มกลัวแล้วครับ นี่ก็ปรึกษากันว่าจะเปิด Vat หมดแล้วแบกภาระไว้เองแล้ว (ยอมเสียภาษียังดีกว่าถูกเบี้ยวหนี้ครับ) ผมรู้สึกว่าหลายๆ นโบายของรัฐเป็นนโยบายประชานิยมจนเกินไปนะครับ คือซื้อแต่ใจแต่ไม่ได้พัฒนาคุณภาพชีวิตจริงๆจังๆเลย ผมกำลังรู้สึกว่าประเทศเราจะมีชนชั้นกลางน้อยลงครับ แต่คนรวยจะรวยขึ้นมาก คนจนยังคงจนต่อไป การกระจายรายได้จะมี Gap ที่มากขึ้นครับ

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแค่ "ความรู้สึก" นะครับ คือผมไม่มี Fact ว่าการกระจายรายได้ในปัจจุบันเทียบกับอดีตเป็นยังไง อาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ ถ้ามีผู้รู้ท่านใดแลกเปลี่ยน ก็ดียินดีมากๆครับผม ขอบคุณมากครับ
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 54

โพสต์

Mars เขียน:แต่ประเด็นที่คุณ syj เจ้าของกระทู้ต้องการจะนำเสนอคือ "มันสมควรแล้วหรือ กับการที่โชว์ห่วยจะตายเพราะแข่งขันไม่ได้ มาเป็นตายเพราะนโยบายประชานิยมแบบอาหารจานด่านของภาครัฐ???"
มือไวใจเร็วไปหน่อยครับ ยังไม่ชินกับบอร์ดที่นี่เลยเผลอ submit หลังเขียนเสร็จทุกทีเลย ขอแก้ไขเป็น


แต่"ผมเข้าใจว่า"ประเด็นที่คุณ syj เจ้าของกระทู้ต้องการจะนำเสนอคือ "มันสมควรแล้วหรือ กับการที่โชว์ห่วยจะตายเพราะแข่งขันไม่ได้ มาเป็นตายเพราะนโยบายประชานิยมแบบอาหารจานด่านของภาครัฐ???" มากกว่ารึเปล่าน่ะครับ คือ SME ที่ไม่มี DCA อาจจะตายเข้าสักวันนึงก็จริง แต่ถ้าให้เวลาเขาได้ปรับโครงสร้างพฐขององค์กรให้มากกว่านี้ก่อนจะระเบิดค่าแรงขึ้นมาหลาย 10% เขาเหล่านี้อาจจะรอดก็ได้

คือผมเข้าใจเอาเองน่ะครับ ผิดถูกประการใดต้องขอโทษด้วยครับ
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4256
ผู้ติดตาม: 6

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 55

โพสต์

การวิเคราะห์และความเห็นของ คุณ Mars
เข้าใจ ความเห็นของผม เพราะคงมีประสบการณ์
คล้ายๆ กันครับ

โดยส่วนตัว กระโดดออกมาจากตรงนั้นได้ แบบ
เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาก็ตาม
แต่ก็ยังเห็นใจคน SME ที่ทำงานหนักอยู่แล้ว
ที่จะเอาธุรกิจให้รอดไปปีๆ หรือเดือนๆ
แต่มาโดนกระแทกแบบนี้ แบบที่ทำอะไรไม่ได้

....
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 56

โพสต์

syj เขียน:การวิเคราะห์และความเห็นของ คุณ Mars
เข้าใจ ความเห็นของผม เพราะคงมีประสบการณ์
คล้ายๆ กันครับ

โดยส่วนตัว กระโดดออกมาจากตรงนั้นได้ แบบ
เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาก็ตาม
แต่ก็ยังเห็นใจคน SME ที่ทำงานหนักอยู่แล้ว
ที่จะเอาธุรกิจให้รอดไปปีๆ หรือเดือนๆ
แต่มาโดนกระแทกแบบนี้ แบบที่ทำอะไรไม่ได้

....
ครอบครัวผมเองก็กำลังจะโดดออกจากตรงนั้นเหมือนกันครับ ตอนนี้เลิกรับออเดอร์ส่งออกให้แบรนด์ดังตปท.แล้ว(รง.ผมเป็นsupplierเจ้าแรกของโลกที่ทำแบรนด์นี้เลยมั้งที่กล้าขอแยกทาง 555) ส่วนตอนนี้โชคดีครับที่ที่บ้านผมได้ออเดอร์กระเป๋าแบรนด์ดังของคนไทยซึ่งเค้าก็มีรง.เองด้วยแต่ทำไม่ทัน ราคาเลยได้โอเค(เจ้าของเค้าคงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่าแรงบ้านเรา) ก็พอเลี้ยงคนงานได้เรื่อยๆ ไม่ซีเรียสอะไร
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 57

โพสต์

harikung เขียน:
syj เขียน:การวิเคราะห์และความเห็นของ คุณ Mars
เข้าใจ ความเห็นของผม เพราะคงมีประสบการณ์
คล้ายๆ กันครับ

โดยส่วนตัว กระโดดออกมาจากตรงนั้นได้ แบบ
เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาก็ตาม
แต่ก็ยังเห็นใจคน SME ที่ทำงานหนักอยู่แล้ว
ที่จะเอาธุรกิจให้รอดไปปีๆ หรือเดือนๆ
แต่มาโดนกระแทกแบบนี้ แบบที่ทำอะไรไม่ได้

....
ครอบครัวผมเองก็กำลังจะโดดออกจากตรงนั้นเหมือนกันครับ ตอนนี้เลิกรับออเดอร์ส่งออกให้แบรนด์ดังตปท.แล้ว(รง.ผมเป็นsupplierเจ้าแรกของโลกที่ทำแบรนด์นี้เลยมั้งที่กล้าขอแยกทาง 555) ส่วนตอนนี้โชคดีครับที่ที่บ้านผมได้ออเดอร์กระเป๋าแบรนด์ดังของคนไทยซึ่งเค้าก็มีรง.เองด้วยแต่ทำไม่ทัน ราคาเลยได้โอเค(เจ้าของเค้าคงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่าแรงบ้านเรา) ก็พอเลี้ยงคนงานได้เรื่อยๆ ไม่ซีเรียสอะไร
ยินดี ด้วย ครับ
เยี่ยมมากๆ ทำได้เร็วมากๆ เริ่มในขณะที่ทรัพยกรและความพร้อมยังอยู่ครบ
ย่อมมีอำนาจต่อรองเจรจา และเลือกทางเดินได้เต็มที
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 58

โพสต์

pakhakorn เขียน:
harikung เขียน:
syj เขียน:การวิเคราะห์และความเห็นของ คุณ Mars
เข้าใจ ความเห็นของผม เพราะคงมีประสบการณ์
คล้ายๆ กันครับ

โดยส่วนตัว กระโดดออกมาจากตรงนั้นได้ แบบ
เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาก็ตาม
แต่ก็ยังเห็นใจคน SME ที่ทำงานหนักอยู่แล้ว
ที่จะเอาธุรกิจให้รอดไปปีๆ หรือเดือนๆ
แต่มาโดนกระแทกแบบนี้ แบบที่ทำอะไรไม่ได้

....
ครอบครัวผมเองก็กำลังจะโดดออกจากตรงนั้นเหมือนกันครับ ตอนนี้เลิกรับออเดอร์ส่งออกให้แบรนด์ดังตปท.แล้ว(รง.ผมเป็นsupplierเจ้าแรกของโลกที่ทำแบรนด์นี้เลยมั้งที่กล้าขอแยกทาง 555) ส่วนตอนนี้โชคดีครับที่ที่บ้านผมได้ออเดอร์กระเป๋าแบรนด์ดังของคนไทยซึ่งเค้าก็มีรง.เองด้วยแต่ทำไม่ทัน ราคาเลยได้โอเค(เจ้าของเค้าคงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่าแรงบ้านเรา) ก็พอเลี้ยงคนงานได้เรื่อยๆ ไม่ซีเรียสอะไร
ยินดี ด้วย ครับ
เยี่ยมมากๆ ทำได้เร็วมากๆ เริ่มในขณะที่ทรัพยกรและความพร้อมยังอยู่ครบ
ย่อมมีอำนาจต่อรองเจรจา และเลือกทางเดินได้เต็มที
ต้องเรียกว่าโคตรโชคดีครับ เพราะถ้าไม่ได้ทำกระเป๋าแบรนด์คนไทยเจ้านี้ กับ ชุดกีฬาแบรนด์ของไทยอีกนิดหน่อย ตอนนี้คงคิดหนักครับ ได้ออเดอร์มาถูกจังหวะพอดี (แต่โรงงานอื่นๆคงไม่ได้โชคดีแบบผมเสมอไป)
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 59

โพสต์

เราลองย้อนเวลากลับไปช่วงวิกฤตค่าเงินบาท ธนาคารล้มละลาย ช่วงปี 40

หลายกิจการกู้ยืมเงินสกุลต่างประเทศมาลงทุนที่อัตราแลกเปลี่ยน 25 บาทต่อเหรียญ เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่าลงถึง 56 บาทต่อเหรียญ บริษัทเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ล้มก็เกือบล้ม เพราะดอกเบี้ยจ่าย และภาระหนี้สินเพิ่มเป็นสองเท่า

เมื่อหลายบริษัทไม่ชำระดอกเบี้ย สถาบันการเงินก็มีปัญหาหนี้เสีย หลายแห่งต้องปิดกิจการ

บริษัทที่เคยมีเงินทุนหมุนเวียนกับสถาบันการเงินเหล่านั้นก็ขาดสภาพคล่องทันที

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีวงเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก็ขาดเงินทุนมาพัฒนาต่อ โครงการก็ถูกปล่อยให้สร้างครึ่งๆกลางๆ

ประชาชนที่จองโครงการไว้ก็เสียเงินดาวน์

ประชนที่ฝากเงินกับสถาบันการเงินที่ถูกปิด ก็ถูกแช่เข็งเงินฝากเป็นเวลานาน

พนักงานหลายๆคนต้องตกงาน

ไม่มีใครผิดด้วยตัวเองเลยครับ แต่หลายคนต้องรับเคราะห์กรรม
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
Mars
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: 300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800

โพสต์ที่ 60

โพสต์

จริงอย่างพี่ฉัตรชัยว่าครับ ผมรู้สึกเหมือนพี่กำลังจะมองนโยบายรัฐเป็น Mr.market รึเปล่าครับ คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันก็เป็นตัวแปรที่เราควบคุมไม่ได้ ในฐานะประชาชนเราอาจวิพากวิจารณ์ได้ แต่ในฐานะนักลงทุน ไม่มีประโยชน์ที่เราจะก่นด่า Mr.market เราเพียงแค่ควรจะทำตัวให้พร้อมในยามที่ Mr.market หยิบยื่นโอกาสให้เราต่างหาก.... รึเปล่าเอ่ย