ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน" ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน" ?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เชิญถกกันได้เต็มที่ เพื่อนๆจะได้ความรู้กันด้วย
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันนะครับ
พวกเราอยู่บ้านเดียวกันจะได้ไม่ต้องโกรธเคืองกัน
ขอบคุณมากครับ :cool:
ลงทุนเพื่อชีวิต
prichar s.
Verified User
โพสต์: 1426
ผู้ติดตาม: 0

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เพราะคนส่วนใหญ่มองเห็นหุ้นเป็นเพียงตัวเลข วิ่งขึ้น-วิ่งลง
เพราะคนส่วนใหญ่ซื้อ(ตัวเลข)หุ้น แล้วขาย
ขายเมื่อส่วนต่างมีกำไร ขายเมื่อส่วนต่างมีขาดทุน
แล้วก็หาตัวใหม่เพื่อซื้ออีกครั้ง แล้วก็ขายอีก
ขายเมื่อกำไรหรือเมื่อขาดทุน
วนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา
ผลของการทำซ้ำ ๆ ตามทฤษฏี
ค่าเฉลี่ยคือ จะทำกำไรใกล้เคียงกับทำขาดทุน
แต่คนส่วนใหญ่ทำได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
.........จึงขาดทุน
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2913
ผู้ติดตาม: 10

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รู้ได้ยังไงครับว่าคนส่วนใหญ่ขาดทุน
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณ จขกท. คุณ thaloengsak ครับ

ผมเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นพฤติกรรม บางครั้งสิ่งที่ นลท. ทำมันกลายเป็นการขโมยความมั่งคั่งของตนเอง

1 ไล่หุ้นร้อน
2 หุ้นที่เลือกมาอย่างดี ไม่ขึ้นแถมลง หัวเสีย ก็เลยคัท (คัทแล้วขึ้นซะงั้น)
3 หุ้นที่ถือขึ้นมาเยอะแล้วขายออกก่อน
4 Short Against Port
5 ดัชนีขึ้นมาสูงแล้วหุ้นคงไม่ไปต่อ
6 ฝรั่งขายก็เลยขายตามฝรั่ง
7 ฝรั่งซื้อก็เลยซื้อตามเค้า
8 ไม่รู้เป็นอะไร หุ้นที่ถือมักจะแดงเวลาเราดู
9 ไม่รู้เป็นอะไร หุ้นที่เราไม่ได้ถือมักจะเขียวเวลาเราดู
10 ซื้อตามเซียน ตามเวปบอร์ด ตามแรงเชียร์ ตามเสี่ย ตามโพย ตาม Goooooooooood ตามน้องมหาลัย น้องมอหก พี่คร้าป ขอกราฟหน่อย วันนี้เข้าตัวไหนดีพี่ ฯลฯ
11 สลับกลุ่ม (กลุ้ม) สื่อสาร ดี จัดเข้า ขึ้น ออก เข้า พลังงาน น้ำมันตก รบกัน ออก เข้า ค้าปลีก สูงแล้ว ออก เข้า ออก เข้า ออก เข้า
12 คันไม้คันมือ (อีกแล้ว) จัดไป
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1977
ผู้ติดตาม: 109

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขอบคุณ จขกท. คุณ thaloengsak ครับ

10 ซื้อตามเซียน ตามเวปบอร์ด ตามแรงเชียร์ ตามเสี่ย ตามโพย ตาม Goooooooooood ตามน้องมหาลัย น้องมอหก พี่คร้าป ขอกราฟหน่อย วันนี้เข้าตัวไหนดีพี่ ฯลฯ
:rofl: :rofl: :rofl:

เป็นเล่นไปนะ ที่เขาบอกมา เฉลี่ยแล้วราคาก็วิ่งขึ้นเกือบทุกตัวนะฮาฟฟฟ

ตอบ จขกท. ครับ...เพราะอารมณ์ซะส่วนใหญ่ครับ
อย่าเชื่ออะไรผมนักเลย ผมโชว์โง่บ่อยมาก -..-

"ซื้อที่high ขายที่low Showแต่ดอย ทะยอยcut"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4484
ผู้ติดตาม: 88

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ในเว็บนี้ ผมแทบไม่เคยเห็นใครโพสต์ว่าขาดทุนเลยนะ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 7

โพสต์

newbie_12 เขียน:รู้ได้ยังไงครับว่าคนส่วนใหญ่ขาดทุน
จากน้ำท่วมมา คนส่วนใหญ่ น่าจะได้กำไร สองแบบ

1.กำไรจริง เงินในกระเป๋า

2.กำไรจริง คือพอร์ทโตขึ้นมาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 8

โพสต์

romee เขียน: เป็นเล่นไปนะ ที่เขาบอกมา เฉลี่ยแล้วราคาก็วิ่งขึ้นเกือบทุกตัวนะฮาฟฟฟ
Pump and Dump ครับ พี่ Romee

http://en.wikipedia.org/wiki/Pump_and_dump

ที่พูดนี่ข้าน้อยมิได้ลบหลู่เซียนแต่ประการใดน้า ก็ว่ากันไป
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ดำ เขียน:ในเว็บนี้ ผมแทบไม่เคยเห็นใครโพสต์ว่าขาดทุนเลยนะ
คนที่ยึดหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในเว็บนี้
เป็นคนส่วนน้อยของระบบครับ
อีกอย่าง
ช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นน่ะครับ...ขอลองดูตอนตลาดหมีบ้างล่ะกัน
ลงทุนเพื่อชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 10

โพสต์

newbie_12 เขียน:รู้ได้ยังไงครับว่าคนส่วนใหญ่ขาดทุน
ผมอาศัยข้อมูลที่คุยกับเพื่อนๆที่ทำงานโบรกเกอร์น่ะครับ
ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากทำโพลแบบนั้นที่เว็บไซด์สาธารณะ
ในแต่ละช่วงของตลาดครับ เพื่อใช้อ้างอิงครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mr.KANAT
Thai VI Partner
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 1

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมคิดว่าส่วนใหญ่เป็นลักษณะของ active portfolio มากไป บางทีไปยึดติดกับความผันผวนของราคามากไป และไม่รู้ว่าราคาควรเป็นเท่าไหร่ เหมือนที่ออกเดินทางโดยไม่มีแผนที่ ก็เดินวนไปวนมาไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ที่ใด
Time is the friend of the wonderful company, the enemy of the mediocre.
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 433
ผู้ติดตาม: 3

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คุณ พิชัย จาวารา ได้สร้างทฤษฏี เศรษฐศาสตร์แห่งความเป็นจริง
อธิบายว่าคนส่วนมากขาดทุน คนส่วนน้อยกำไร ดังนั้นคนเล่นหุ้นส่วนมากจะขาดทุน
แล้วจะทำอย่างไรจึงจะเป็นคนส่วนน้อย ถ้ามีข่าวที่ตามเหตุผลแล้วหุ้นจะขึ้นให้ขายซะ
ถ้ามีข่าวที่เรามั่นใจว่าหุ้นจะลงให้ซื้อซะ ทำแบบนี้ เราก็จะทำเหมือนคนส่วนน้อย
เราก็จะได้กำไร ตามทฤษฎีของแก
แกออกตัวอีกนิดถ้าเล่นแบบบัฟเฟ็ตถือยาวก็จะไม่ขาดทุน
ผมฟังทฤษฎีแกแล้วผมอึ้ง และผมอึ้งหนักกว่านั้นที่มีคนเชื่อแกมากพอสมควร
สำหรับผม ผมเชื่อว่ามีคนกลุ่มหนึ่งควบคุมหุ้นทุกตัวได้โดยอาศัย soft ware
คนกลุ่มนี้เล่นหุ้นโดยใช้ soft ware ทั้งลากและทุบ
การจะลากหรือทุบขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ ณ.เวลานั้นๆ
คนที่ควบคุมนั้นจะกำไรเสมอ เพราะซื้อขายโดย soft ware ซึ่ง
ได้เปรียบมนุษย์มาก เพราะ soft ware มีข้อมูลทุกอย่างๆ เพื่อที่จะได้กำไรเสมอ
เมื่อตลาดเริ่มมีอาการณ์ soft ware เห็น และเริ่มเปิดฉากการขาย (ใครขายไม้แรกๆได้เปรียบ)
ด้วยความฉลาดของ soft ware ไม่ว่าจะทุบหรือลาก คนควบคุมได้กำไรเสมอ
บางครั้งก็ทุบลึกมาก บางครั้งก็ทุบลงไม่กี่ช่อง จะเห็นว่าคนทั่วไปจะไม่รู้เลยว่า
ตอนหุ้นลงจะลงสุดเมื่อไหร บางทีอยู่ดีๆก็ขึ้นมาเฉยๆ
เมื่อคนคุบคุมได้กำไรโดยเฉลี่ย คนที่เล่นเกมนี้ กับ Soft ware ก็ต้องขาดทุนโดยเฉลี่ยเหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 13

โพสต์

CARPENTER เขียน:คุณ พิชัย จาวารา ได้สร้างทฤษฏี เศรษฐศาสตร์แห่งความเป็นจริง
อธิบายว่าคนส่วนมากขาดทุน คนส่วนน้อยกำไร ดังนั้นคนเล่นหุ้นส่วนมากจะขาดทุน
แล้วจะทำอย่างไรจึงจะเป็นคนส่วนน้อย ถ้ามีข่าวที่ตามเหตุผลแล้วหุ้นจะขึ้นให้ขายซะ
ถ้ามีข่าวที่เรามั่นใจว่าหุ้นจะลงให้ซื้อซะ ทำแบบนี้ เราก็จะทำเหมือนคนส่วนน้อย
เราก็จะได้กำไร ตามทฤษฎีของแก
แกออกตัวอีกนิดถ้าเล่นแบบบัฟเฟ็ตถือยาวก็จะไม่ขาดทุน
ผมฟังทฤษฎีแกแล้วผมอึ้ง และผมอึ้งหนักกว่านั้นที่มีคนเชื่อแกมากพอสมควร
สำหรับผม ผมเชื่อว่ามีคนกลุ่มหนึ่งควบคุมหุ้นทุกตัวได้โดยอาศัย soft ware
คนกลุ่มนี้เล่นหุ้นโดยใช้ soft ware ทั้งลากและทุบ
การจะลากหรือทุบขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ ณ.เวลานั้นๆ
คนที่ควบคุมนั้นจะกำไรเสมอ เพราะซื้อขายโดย soft ware ซึ่ง
ได้เปรียบมนุษย์มาก เพราะ soft ware มีข้อมูลทุกอย่างๆ เพื่อที่จะได้กำไรเสมอ
เมื่อตลาดเริ่มมีอาการณ์ soft ware เห็น และเริ่มเปิดฉากการขาย (ใครขายไม้แรกๆได้เปรียบ)
ด้วยความฉลาดของ soft ware ไม่ว่าจะทุบหรือลาก คนควบคุมได้กำไรเสมอ
บางครั้งก็ทุบลึกมาก บางครั้งก็ทุบลงไม่กี่ช่อง จะเห็นว่าคนทั่วไปจะไม่รู้เลยว่า
ตอนหุ้นลงจะลงสุดเมื่อไหร บางทีอยู่ดีๆก็ขึ้นมาเฉยๆ
เมื่อคนคุบคุมได้กำไรโดยเฉลี่ย คนที่เล่นเกมนี้ กับ Soft ware ก็ต้องขาดทุนโดยเฉลี่ยเหมือนกัน
สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง software คือ Algorithm ซึ่งโดยปกติแล้วจะแยกออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ เช่น Monte Carlo Simulation, Finite difference methods, semi-analytic methods

ขอพูดถึงกรณี Monte-Carlo Simulation นั้น เป็นสิ่งที่ใช้ simulate เหตุการณ์ โดยเฉพาะ Discrete Events หลายครั้งจะมองเป็น Discrete Events Simulation โดยในแต่ละ Events จะมี agent ซึ่งจะมี การกระจายแตกต่างกันเพื่อหาการกระจายตัวของผลลัพธ์ แต่ถ้าเป็น Continuous แล้วบางครั้งใช้ Discrete Events ไปจับก็มีความแปรปรวน เช่นเดียวกัน

การใช้ software trade นั้นมีมานานแล้วโดยเฉพาะพวก เฮดจ์ฟันด์ โดยจะทำเป็นพวก Math Program เข้ามาช่วยด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ผมจะคุ้นเคยกับเรื่องของ Simulation Model แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะนำพวกนี้มาใช้ ยอมรับว่าในอดีตเคยทำ แต่มันทำให้ตัวตนของผมเป็นเทรดเดอร์ และห่างจากการเป็นนักลงทุนออกไปทุกที
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ตอนนี้กำลังมีการจัดงาน

http://www.set.or.th/th/news/algorithmi ... go_p1.html

หากคุณ Carpentor สนใจครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 433
ผู้ติดตาม: 3

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 15

โพสต์

สิ่งที่ คุณNevercry.boy พูดถึงผมไม่เคยรู้มาก่อน
ถ้ามี soft ware ประเภทนี้ ผมว่าพวกโบร๊คใช้อยู่แล้ว
รวมกับการออกข่าวเชียร์ และทุบ การออกบทวิเคราะห์
โดยความร่วมมือ ของ นสพ (ที่โกหกเป็นอาชีพ)
ดังนั้น ใครจะเก็งกำไรกับ soft ware พวกนี้ต้องคิดให้ดี
โอกาสเจ้งมากกว่าเจ๊า ไม่มีโอกาสเจี๊ยะ
ไม่น่าทุกครั้งที่ผมมั่นใจว่าหุ้นจะขึ้นมันกับลง
พอผมหมดความมั่นใจมันก็ขึ้น
อย่างกรณีสื่อสาร 2-3 วันนี้
CARPENTER
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 433
ผู้ติดตาม: 3

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณมากครับ คุณNevercry.boy
ผมสนใจมากแต่ยังหาเวลาว่างอยู่
ปกติก็ไม่ค่อยได้เข้าเมืองเลย
สูญญตา
Verified User
โพสต์: 63
ผู้ติดตาม: 0

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 17

โพสต์

คนส่วนใหญ่ชอบเล่นการพนันครับ
รู้จักสมมุติ. ใช้ประโยชน์จากสมมุติ. ได้ประโยชน์จากสมมุติ

สุดท้ายไม่ยึดติดในสมมุติ
Brydo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 660
ผู้ติดตาม: 31

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 18

โพสต์

อ่านที่คุณ Nb อธิบายเรื่อง software แล้วอึ้งครับ ไม่เคยรู้ว่าในโลกการลงทุนมันมีแบบนี้ด้วย :( ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 19

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ในระยะยาว ดัชนีขึ้นตาม...
1.ผลประกอบการที่ดึขึ้น
2.มีบริษัทเพิ่ม (IPO, spin-off)

คนที่ได้กำไร
1. เจ้าของบริษัท (ที่กำไร)
2. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
3. นักลงทุน แนวอะไรก็ว่าไป แต่ต้องมีฝีมือหน่อย

คนขาดทุน
4. เม่า

ผมว่า ข้อ 1-3 จำนวนคนต้องน้อยกว่า ข้อ 4 (เม่า) แน่ๆ
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า คนส่วนใหญ่ขาดทุน แต่จำนวนเงินที่ขาดทุน คงน้อยกว่า จำนวนเงินที่กำไร ดัชนีถึงขึ้นได้

ปล.
เม่า ขาดทุน เพราะ ความโลภ ความกลัว ความไม่รู้
ผมก็ แอบเป็นเม่าบางครั้ง
พยายามเลิกเป็นอยู่ ครับ :P
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 4

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 20

โพสต์

CAGR เฉลี่ย ของset หรือของหุ้นดีๆสักตัว คือ ?????????


แต่ความโลภ ในใจเรา อยากรวยเร็ว หรือแม้แต่ bias ว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย
ทั้งๆที่ ความสามารถ เต็มที่ เราอาจจะมีได้แค่ค่าเฉลี่ย
หรืออาจจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยด้วยซ้ำ
พอ greed รวมพลัง กะ bias ก็ผลักดันให้วิธีการเราหลุดไปจาก
ค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็น
whater อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้เราเป็นอีกทิศทางนึง
คนก็เปลี่ยน ฉายา ให้ว่า "เซียน" แทน "เม่า"

ว่าไปแบบ ปลงๆ
ผู้ชนะไม่ใช่ ผู้ที่มี resource มากสุด หรือดีที่สุด
แต่เป็นผู้ที่ มีกลยุทธดีที่สุด หรือจัดสรร resource ได้เหมาะสมสุด
เฮ้อออออออ อนาถในในตัวเอง
show me money.
เบี้ยว
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 403
ผู้ติดตาม: 2

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เขากำไรอยู่นะตัวเอ้งง 555 แซวเล่นนะครับ อย่าถือสา :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ในบทความนี้ผมขอพูดถึงตลาดหุ้นในมุมมองของความน่าจะเป็น แบบไม่อิงปัจจัยทั่วไปดูนะครับ

หากเรามองในมุมมองของนักพนันแล้ว ตลาดหุ้นซึ่งมีความน่าจะเป็นแค่เพียง 2 ชนิดคือ ขึ้น หรือ ลง จะมีความน่าจะเป็นคือ 50/50 หรือมีผลตอบแทนคาดหวังที่ 0%
อันที่จริงแล้วจากการสำรวจโดยทั่วไปพบว่าโดยเฉลี่ยตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ 10% ต่อปี
ดังนั้นผลตอบแทนคาดหวังไม่น่าจะเป็น 0% แต่ควรจะเป็นบวกเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ หาสุ่มซื้อหุ้นมาซักกลุ่มโดยที่ไม่มีความรู้เลยก็น่าจะมีกำไรในระยะยาวที่ 10% ต่อปี ได้ไม่ยากนัก
แต่ถ้าเช่นนั้น เหตุใดเราจึงมักได้ยินเรื่องราวของคนที่หมดตัวจากตลาดหุ้นบ่อย ๆ

คำตอบก็คือ “คอมมิชชั่น”
ใช่แล้วครับ ค่าคอมมิชชั่น 0.25 % นั่นแหละที่ทำให้คนหมดตัวกัน
ผลตอบแทนต่อปี 10% ถ้าหากคิดเป็นผลตอบแทนต่อวัน จะเท่ากับ 10/365 = 0.027 %
ดังนั้นผลตอบแทนคาดหวังในตลาดหุ้นแบบ day trade ที่ซื้อขายกันวันต่อวันจึงเป็น 0.027-(0.25*2) = -0.473 %

หากคุณใช้เงินต้นจำนวน1,000,000 บาททำการซื้อขายแบบเต็มจำนวนทุก ๆ วันด้วยอัตรากำไรคาดหวัง -0.473 % นี้เป็นเวลา 200 วัน มีโอกาสสูงมากที่เงินต้นของคุณจะเหลือเพียงประมาณ 387,420.59 บาท หรือประมาณ 38.74%


http://peacedev.wordpress.com/2009/08/1 ... %E0%B8%B8/
monsoon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 597
ผู้ติดตาม: 36

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เพราะคนส่วนใหญ่ทนรวยไม่เป็นครับ^^
เรียนรู้และเข้าใจ คุณค่าที่แท้จริงของสรรพสิ่ง...
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 24

โพสต์

สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะเข้าไปลงทุนผิดจังหวะคับเลยเป็นสาเหตุให้ต้องขายออกไปผิดจังหวะเช่นกันคับ เอาเวลาเฉพาะตลาดหุ้นหลังวิกฤตต้มยำกุ้งคับ :idea:
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง

http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html



http://goo.gl/VjQ4cG
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul Octopus
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 804
ผู้ติดตาม: 2

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 25

โพสต์

:bow: มุมมองคุณ peacedev น่าสนใจ เข้าใจได้ง่ายครับ

ผมจะเอาไปบอกพวกน้องๆที่วันๆซื้อๆขายๆ (บางคนซื้อขายหุ้นตัวเดียวกันมากกว่าหนี่งครั้งด้วยซ้ำ)
ขนาดผมบอกว่า Port ผมโตมากกว่า SET แต่ไม่มีใครสนใจเลย อยากรวยลัดกันทั้งนั้น :wall:
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
patongpa
Verified User
โพสต์: 1904
ผู้ติดตาม: 1

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 26

โพสต์

วีไอเพิ่งเกิดจริงจังหลังปี. 40 มานี่เอง. ถ้าเจอเหตุการแบบนั้นเข้าอีกคนขาดทุนคงเยอะกว่าเดิมหลายเท่า. บางคนคิดว่าไม่เกิด. แต่ผมว่าอีกไม่เกินสามปีมันมาแน่. ดูกรีชไว้เป็นตัวอย่าง
investor9000
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 314
ผู้ติดตาม: 19

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 27

โพสต์

คนส่วนใหญ่ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ

คนส่วนใหญ่ ทนต่อ ความกลัว และความโลภ ไม่ได้ และไม่รู้ตัว
ภาพประจำตัวสมาชิก
PrasertsakK
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 292
ผู้ติดตาม: 0

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 28

โพสต์

CARPENTER เขียน:คุณ พิชัย จาวารา ได้สร้างทฤษฏี เศรษฐศาสตร์แห่งความเป็นจริง
อธิบายว่าคนส่วนมากขาดทุน คนส่วนน้อยกำไร ดังนั้นคนเล่นหุ้นส่วนมากจะขาดทุน
แล้วจะทำอย่างไรจึงจะเป็นคนส่วนน้อย ถ้ามีข่าวที่ตามเหตุผลแล้วหุ้นจะขึ้นให้ขายซะ
ถ้ามีข่าวที่เรามั่นใจว่าหุ้นจะลงให้ซื้อซะ ทำแบบนี้ เราก็จะทำเหมือนคนส่วนน้อย
เราก็จะได้กำไร ตามทฤษฎีของแก
แกออกตัวอีกนิดถ้าเล่นแบบบัฟเฟ็ตถือยาวก็จะไม่ขาดทุน
ผมฟังทฤษฎีแกแล้วผมอึ้ง และผมอึ้งหนักกว่านั้นที่มีคนเชื่อแกมากพอสมควร
สำหรับผม ผมเชื่อว่ามีคนกลุ่มหนึ่งควบคุมหุ้นทุกตัวได้โดยอาศัย soft ware
คนกลุ่มนี้เล่นหุ้นโดยใช้ soft ware ทั้งลากและทุบ
การจะลากหรือทุบขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ ณ.เวลานั้นๆ
คนที่ควบคุมนั้นจะกำไรเสมอ เพราะซื้อขายโดย soft ware ซึ่ง
ได้เปรียบมนุษย์มาก เพราะ soft ware มีข้อมูลทุกอย่างๆ เพื่อที่จะได้กำไรเสมอ
เมื่อตลาดเริ่มมีอาการณ์ soft ware เห็น และเริ่มเปิดฉากการขาย (ใครขายไม้แรกๆได้เปรียบ)
ด้วยความฉลาดของ soft ware ไม่ว่าจะทุบหรือลาก คนควบคุมได้กำไรเสมอ
บางครั้งก็ทุบลึกมาก บางครั้งก็ทุบลงไม่กี่ช่อง จะเห็นว่าคนทั่วไปจะไม่รู้เลยว่า
ตอนหุ้นลงจะลงสุดเมื่อไหร บางทีอยู่ดีๆก็ขึ้นมาเฉยๆ
เมื่อคนคุบคุมได้กำไรโดยเฉลี่ย คนที่เล่นเกมนี้ กับ Soft ware ก็ต้องขาดทุนโดยเฉลี่ยเหมือนกัน
ผมขออนุญาติแนะนำให้ดูหนังเรื่อง Margin call ครับ อาจจะได้มุมดี ๆ ครับ
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
CHiNU_Vi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 631
ผู้ติดตาม: 1

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 29

โพสต์

"If you put $ 100,000 in stocks on July 1, 1994, and stayed fully invested for five years, your $ 100,000 grew into $ 341,722. But if you were out of stocks for just thirty days over that stretch-the thirty days when stocks had their biggest gains-your $ 100,000 turned into disappointing $ 153,792. By staying in the market, you more than double your reward."
Peter Lynch with John Rothchild (USA Stock Market)

+/- 340% Vs. +/- 50%
Always Smiling :)
yakjabon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 314
ผู้ติดตาม: 2

Re: ระยะยาวดัชนีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ถึง"ขาดทุน"

โพสต์ที่ 30

โพสต์

เพราะไม่มีหลักการ หรือมีแล้วสุดท้ายก็ทรยศตัวเองด้วยอารมณ์
Invincible MOS is knowing what you're doing
โพสต์โพสต์