ถามเรื่องธุรกิจครับ???

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมมีข้อสงสัยเรื่องธุรกิจมาถามครับ
คือไม่ทราบว่าท่านเคยสังเกตุหรือไม่ พวกของใช้เช่น
สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ฯลฯ มันจะมีเขียนฉลากอยู่ข้างหลัง
ขวดบางทีก็เขียนว่า "ผลิตโดย..." "จัดจำหน่ายโดย...."

ผมสงสัยว่าทำไมต้องแยกบริษัทผลิต กับบริษัทจัดจำหน่าย
ด้วยหละครับ ผมไม่เข้าใจ..-_-??)

รบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจของผมด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ....^^)
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 4

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เพราะบางครั้งผู้ผลิตอาจมีแบรนด์ที่ไม่แข็งแกร่งครับ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค จึงต้องพึ่งพาผู้ขายซึ่งมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่าหรือมีช่องทางจำหน่ายอยู่แล้ว

ในทางกลับกันผู้ขายที่ได้สร้างแบรนด์ขึ้นมาให้แข็งแกร่งและมีช่องทางการจำหน่ายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปลงทุนในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิต สามารถจ้างผู้ผลิตให้มาผลิตให้ตัวเองได้โดยมีตัวเลือกมากมาย

พึ่งพากันและกันครับ นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงแยกกันอย่างว่าครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1496
ผู้ติดตาม: 40

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 3

โพสต์

มันเป็นเรื่องของกฏหมายครับ

สินค้าที่ว่า ถ้าผลิตในประเทศ ตามกฏหมายบังคับว่า ต้องแสดงชื่อและทีอยู่ผู้ผลิต
อันนี้ไม่ label ถือว่าผิด

บางครั้งหากเจ้าของสินค้าไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง แต่เป็นผู้จัดจำหน่าย
ก็อยากแสดงชื่อตัวเอง เป็นผู้จัดจำหน่ายด้วยบนฉลาก

บางทีก็จะเห็นว่า ผลิตภายใต้การควบคุมของ................

http://e-cosmetic.fda.moph.go.th/data_c ... 220951.pdf
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณ คุณ"Kabu" และคุณ "Kotaro" มากๆครับที่มาตอบ
ข้อสงสัยผมครับ ทีนี้ผมก็สงสัยต่อไปอีกว่า
อย่างบริษัทที่ทำการผลิตสินค้าแล้วพึ่งบริษัทจัดจำหน่าย
กับบริษัทที่จ้างผู้อื่นผลิตให้แล้วตนเองขายเองนี่ผมพอจะเข้าใจ
แต่ผมเคยเจอบางบริษัทมีทั้งบริษัทผลิตสินค้า และมีอีกบริษัท
เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าของเป็นเจ้าเดียวกัน แล้วผมสงสัยว่า
ทำไมเขาไม่ทำบริษัททั้งผลิตและจัดจำหน่ายไปเลยหละครับ ทำไม
เขาต้องแยกบริษัทด้วย หรือมันมีผลในด้านอื่นๆเช่นบริษัทจัดจำหน่าย
จริงๆก็ไม่ได้ขายเองแต่เอาไปฝากห้างสรพสินค้าต่างๆขายอยู่ดี...-_-??)
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คนที่ผลิตต้องมีดีเรื่องการผลิต คือ ต้นทุนที่ถูก,สามารถผลิตได้สินค้าตามคุณภาพของลูกค้าที่กำหนด,จัดส่งได้ตรงตามเวลา
ส่วนผู้จัดจำหน่าย เป็นเจ้าของแบรนด์ดังกล่าว
ส่วนผู้ขนส่งเป็นผู้ที่ชำนาญด้านการส่งโดยเฉพาะ หรือ ทางด้านการกระจายสินค้าไปยังที่ต่างๆ

:)
:)
TORNN
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 103
ผู้ติดตาม: 0

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าน่าจะแยกเป็นหลายประเด็นได้ครับ

1. ผู้จัดจำหน่ายเป็นบริษัทที่รับขายทำการตลาด สร้างแบรนด์ กระจายสินค้า มีเครืิอข่ายกระจายสินค้าชัดเจน
มีบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมค้าเป็นโรงงานผลิตสินค้าแยกออกไปเพื่อความสะดวกในการบริหารงาน กรณีนี้แบรนด์
เป็นของบริษัทแม่

2. ผู้จัดจำหน่ายรับทำการตลาดกระจายสินค้าให้กับอีกบริษัทหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง
แต่ไม่มีส่วนทำการตลาดและกระจายสินค้าเอง ช่วยเรื่องประหยัดต้นทุนทางการตลาดการขายและกระจายสินค้า
โดยผู้จัดจำหน่ายก็หักเปอร์เซนต์จากยอดขายไป

3. ผู้จัดจำหน่ายมีแบรนด์เอง(อาจไปซื้อแบรนด์มา)ไม่มีโรงงาน จึงไปจ้างเขาผลิต (oem)
If you don't know what you are doing. It's a jungle out there.
aui_wm
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 7

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 7

โพสต์

แต่ผมเคยเจอบางบริษัทมีทั้งบริษัทผลิตสินค้า และมีอีกบริษัท
เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าของเป็นเจ้าเดียวกัน แล้วผมสงสัยว่า
ทำไมเขาไม่ทำบริษัททั้งผลิตและจัดจำหน่ายไปเลยหละครับ ทำไม
เขาต้องแยกบริษัทด้วย หรือมันมีผลในด้านอื่นๆเช่นบริษัทจัดจำหน่าย
ผมว่าขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจครับที่นึกออกมีสัก 2 แบบ
แบบที่ 1. นิยมใช้ในองค์กรณ์ที่มีการผลิตสินค้าที่หลากหลายมากๆ ทำเพื่อแยกรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัทเป็นส่วนๆ ทำให้รู้ว่าในองค์การณ์ฝ่ายไหน "ใช้เงิน" ฝ่ายไหน "หาเงิน" ในmodelนี้ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
-บริษัทผลิต ทำหน้าที่ผลิตสินค้าและขายให้บริษัทจัดจำหนาย
-บริษัทจัดจำหน่าย จะรับซื้อสินค้าจากผู้ผลิตมาทำการตลาดและการขาย
-บริษัทขนส่ง ถือเป็นผู้รับจ้างจากบริษัทจัดจำหน่ายอีกทีหนึ่งเพื่อกระจายสินค้า
บริษัทที่ใช้การขนส่งแนวนี้เช่น ธุรกิจผลิตวัสดุก่อสร้างของปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บริษัททั้ง 3 อยู่ภายใต้เครือครับ

แบบที่ 2 ทำเพื่อวัตถุประสงค์การกระจายสินค้า แบบนี้มักใช้กับบริษัทที่ผลิตสินค้าน้อยรายการ แต่ต้องการกระจายสินค้าไปหลายแห่ง หากทำเองต้นทุนค่าขนส่งจะมหาศาล รูปแบบคือ บริษัททำการ ผลิต และส่งสินค้่าไปที่ Distribution Center ของลูกค้า ลูกค้าก็จะนำไปกระจายเข้าตามร้านของตัวเองอีกที วิธีนี้ส่วนมากผู้ผลิตจะเป็นคนทำการตลาดเองครับส่วนด้านขายยกอาศัยChannel ของลูกค้า

ตัวอย่างก็เช่น สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ที่ขายผ่าน 7-11 / BIGC / LOTUS


นึกออกเท่านี้ครับ มี Model อื่นช่วยแชร์ด้วยครับ
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ถามเรื่องธุรกิจครับ???

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณ คุณ "miracle", คุณ "TORNN" , คุณ "aui_wm"
มากๆครับได้แง่คิดเพิ่มเติมมาอีกมากเลย
aui_wm เขียน:นึกออกเท่านี้ครับ มี Model อื่นช่วยแชร์ด้วยครับ
จริงๆแล้วที่ผมสงสัย และตั้งคำถามนี้ เพราะบริษัทของผมเป็นบริษัท
รับจ้างผลิตครับ แล้วอยากจะพัฒนาออกสินค้าจำหน่ายเอง ผมจึง
มาศึกษาดูแล้วเกิดข้องสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมีบริษัทผลิต และบริษัท
จัดจำหน่ายแยกจากกันด้วย พอมาศึกษาธุรกิจต่างๆในตลาดหุ้นก็เริ่ม
มองเห็นภาพมากขึ้น อย่างที่หลายๆท่านได้แนะนำครับ มีทั้งบริษัทที่
จัดจำหน่ายแล้วไปจ้างเขาผลิตจ้างขนส่ง บางบริษัทก็ผลิตแล้วจ้าง
เขาจัดจำหน่าย แต่สิ่งที่ผมสนใจคือบางบริษัทมีทั้งผลิต ขนส่ง จัดจำหน่าย
เป็นของตัวเอง แต่แยกบริษัทเป็นย่อยๆออกมาทำในแต่ละด้านเหมือนดั่งที่
คุณ "aui_wm" ได้ยกตัวอย่างไว้ครับ

ผมขอแชร์สิ่งผมสึกษาและวิเคราะห์เองนะครับ(ไม่รู้ว่าจริงอย่างที่ผมคิดหรือเปล่า)
ผมลองไปสอบถามทางห้างๆหนึ่งมาว่าลงสินค้าต้องทำยังไง เขาก็บอกว่าต้อง
เอาสินค้าตัวอย่างมาดูที่ศูนย์ใหญ่ของเขาก่อน แล้วถึงจะกระจายลงสาขาได้
โดยหักค่าใช้จ่ายคิดเป็นGP%จากราคาขายสินค้า และจุดนี้ที่ผมเห็นว่าสำคัญ
ทางห้างเขาบอกว่าให้ผมเปิดบิลVATขายออกมาพร้อมกับส่งของมาให้ที่ห้าง
ส่วนขายได้ไม่ได้จะไปตัดยอดที่สิ้นเดือนอีกที ซึ่งทำให้ผมมองว่าถ้าเปิดบิล
ขายไปก่อนเราก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม(7%)ก่อนนะสิครับ แล้วห้างก็เอาไป
เครมภาษีซื้อได้ ส่วนเงินสดจริงกว่าจะได้ก็ต้องรอให้ห้างขายของได้แล้วก็เช็ค
ยอดอีก กว่าจะได้เงินเรารอเหงือกแห้งแน่ๆ ผมเลยคิดว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง
ที่เขาแยกบริษัทผลิต กับจัดจำหน่ายออกจากกัน...^^)

ปล. ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือเปล่า ผู้รู้ช่วยชี้แจงให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ...^^)
โพสต์โพสต์