$$... Fiscal Cliff คืออะไร ทำไมพูดถึงกันบ่อยจัง ...$$

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Guiman
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

$$... Fiscal Cliff คืออะไร ทำไมพูดถึงกันบ่อยจัง ...$$

โพสต์ที่ 1

โพสต์

$$... Fiscal Cliff คืออะไร ทำไมพูดถึงกันบ่อยจัง ...$$ vote [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน

นอกจากปัญหาหนี้ในยุโรป ที่ดูท่าจะจบไม่สวย หรืออัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกาที่ยังสูง กดดันให้เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวในอัตราเร่งที่ตลาดคาดการณ์ ลุกลามมาจนถึงพระเอกขี่ม้าขาวที่เคยช่วยโลกให้รอดพ้นจาก Recession (ภาวะเศรษฐกิจถดถอย) ได้อย่างรวดเร็วในปี 2008 อย่างจีน ก็เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจชัดเจน สาเหตุก็เพราะตลาดส่งออกหลักๆอย่างยุโรปกับอเมริกาเขามีปัญหา ก็ต้องส่ง Order สั่งซื้อจำนวนลดลงเป็นธรรมดา อันนี้เป็นเรื่องช่วยไม่ได้

แถมช่วงเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ยังต้องเจอกับความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจจะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไป หลังการเลือกตั้งประธานาธิปดีคนใหม่ของอเมริกา ระหว่าง Barack Obama และ Mitt Romney
เอาให้สั้นกว่านั้นอีก ปลายเดือน ส.ค. นี้ กรีซมีหนี้จะครบกำหนดวงเงิน 3,800 ล้านยูโร ซึ่งตอนนี้ เจ้าหนี้ TROIKA ก็ชักเริ่มไม่อยากให้เงินเพิ่มแล้ว เพราะแนวโน้ม กรีซอาจทำตามแผนลดการขาดดุลระยะยาวไม่ไหว ตัวกรีซเองก็บอกชัดว่า ถ้าไม่ได้เงินช่วยเหลือต่อ ก็ผิดนัดชำระหนี้กับภาครัฐบาลของต่างประเทศแน่นอน (กรีซเคย Hair Cut กับเจ้าหนี้ภาคเอกชนมาแล้ว 1 ครั้ง)

จะเห็นว่า ความเสี่ยง และความผันผวนที่ลองเดาๆเอาในอนาคต น่าจะมีมากขึ้นกว่าที่เราเจอ ณ ตอนนี้ค่อนข้างแน่นอน

แต่นั้น ไม่ใช่ทุกปัญหาที่โลกเรากำลังเผชิญครับ

เราได้ยินคำว่า “Fiscal Cliff” มาซักระยะ มันคืออะไร เป็นความเสี่ยงต่อตลาดโลกตัวต่อไปใช่หรือไม่ วันนี้มาอ่านกันให้เข้าใจเถอะ

Q : Fiscal Cliff แปลว่าอะไร?
A : เอาศัพท์ตรงตัวนะ ก็แปลว่าหน้าผาทางการคลัง

Q : แล้วหน้าผาการคลังมันคืออะไร(ฟร่ะ?)
A : คำว่าหน้าผา บอกก็รู้ว่า ถ้ายังเดินหน้าโดยไม่รู้จักดูทางให้ดี ตกเหวไป ก็จบกัน นั้นก็เปรียบเหมือนกับเศรษฐกิจของอเมริกา ในช่วงที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า เพราะว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจจะดิ่งลงจากหน้าผาลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ หากไม่มีการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมมารองรับ

Q : เฮ้ยยย!! ฟังดูน่ากลัวไปป่าวเนี่ย ตกหน้าผากันเลยเรอะ >.<”
A : ถั่วต้ม! ช่วงเวลาหัวเลี้ยงหัวต่อตรงนั้น ก็คือรอยต่อระหว่างปี 2555 และปี 2556 นั้นเอง
ช่วงนั้นมีอะไร คำตอบก็คือ ช่วงนั้น มาตรการลดภาษี ตั้งแต่สมัยเฮียบุช กำลังจะหมด แถมช่วงนั้นรัฐบาลอาจต้องโดนตัดงบประมาณรายจ่ายอีก กลายเป็น คูณ 2 ซุปเปอร์แก๊งค์เลย (มุขเก่าไปป่าวหว่า รู้อายุเลย เหอะๆ)

Q : ขยาวความมาตรการลดภาษี กับ ตัดงบประมาณให้ฟังหน่อยค้าบบบบ
A : ตั้งใจฟังนะเด็กๆ มาตรการลดหย่อนภาษี เป็นมาตรการที่ประธานาธิบดีคนเก่าคือ จอร์จ ดับเบิลยู บุช นำมาใช้ตั้งแต่สมัยการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2544 และปี 2546 นโยบายลดภาษีของบุชในตอนนั้น ประกอบไปด้วยนโญบาย 3 อย่างหลักๆก็คือ
1. การเก็บภาษีเงินได้ทั่วไปสำหรับคู่สมรสน้อยลง
2. ยกเลิกภาษีมรดก
3. และลดอัตราภาษีหน่วยสุดท้าย
ซึ่งการลดอัตราภาษีตามนโยบายดังกล่าวกำหนดให้มีอันสิ้นสุดภายหลังบังคับใช้เป็นเวลา 10 ปี นั้นก็คือ ปี 2556 นั้นเอง

นักวิชาการคาดกันว่า ด้วยนโยบายตัวนี้ ทำให้มีเงินอยู่ในมือของประชาชน และหมุนในระบบเศรษฐกิจรวมกันถึง 1.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าไม่ต่ออายุมาตรการนี้ในปี 2556 ที่จะถึง ก็หมายความว่า เงินในกระเป๋าประชาชนจะลดลงทันที เพราะต้องกลับมาเสียภาษีตามปกตินั้นเอง

Q : อ๋อ อย่างงี้นี่เอง แล้วการตัดงบประมาณล่ะ
A : การลดรายจ่ายของรัฐบาล กระบวนการปรับลดงบประมาณที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า “Sequestration” อ๊ะ!! คุ้นกันชิมิ?
ถูกต้อง ผมเคยเขียนแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ใครจำไม่ได้ กลับไปอ่านตามลิงค์จ๊ะ
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 61046.html

มาตรการ Sequestration กำลังจะเริ่มมีผลในวันที่ 2 มกราคม 2556 หลังจากที่ในปีที่แล้ว คณะกรรมาธิการที่เค้าเรียกกันว่า “super committee" ของสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงรายจ่ายกันได้ โดยการปรับลดงบประมาณนี้จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายลง 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2556 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลดงบประมาณที่รัฐสภาอนุมัติเป็นรายปี และราวครึ่งหนึ่ง ก็อย่างที่เขียนในกระทู้ครั้งนั้นครับ คือ จะเป็นตัดลดงบประมาณในด้านกลาโหมนั้นเอง


Q : ตัดงบประมาณ แล้วเกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจหรอ
A : งบกลาโหม เอาไปจ้างทหาร ออกไปเฝ้าระวังเป็นยามของโลก ผลิตอาวุธต่างๆนานา สร้างเครื่องบิน รถถัง และ บลาๆๆ สิ่งเหล่านี้ ทำให้ GDP ของอเมริกาโตขึ้นนะครับ ถ้าไปตัดมันออกเสีย ก็แปลว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะต้องลดลงทันที แล้วตอนนี้ GDP ของอเมริกามันโตแบบมโหฬารซะที่ไหนกัน ยังไม่พ้น 2% เลยด้วยซ้ำ นั้นจึงเป็นที่มาของคำถามที่ หมดมาตรการลดภาษี และถูกตัดงบประมาณ พร้อมๆกัน จะทำให้เศรษฐกิจไปต่อได้อย่างไร


Q : เออแหะ แล้วไปต่อยังไงล่ะ ขอความเห็นหน่อย
A : ถ้ารู้ ผมก็เขียน e-mail ไปหา Obama แล้ว ฮาๆ จริงๆ 2 ปัญหาการคลังที่บอกเนี่ย เป็นปัญหาหลัก แต่จริงๆแล้ว Fiscal Cliff ไม่ใช่แค่ 2 ปัญหานี้เท่านั้นครับ เพราะยังมีมาตรการย่อยอื่นๆที่จะสิ้นอายุลงในปลายปีนี้เหมือนกัน ยกตัวอย่างนะ การจัดสรรเงินสวัสดิการสำหรับผู้ว่างงาน แต่ถ้ามองในแง่ดีนะครับ ถ้ามาตรการให้เงินสวัสดิการไม่ต่ออายุ (ซึ่งไม่น่าจะต่อแน่ๆเกือบ 100%) รัฐบาลสหรัฐฯจะสามารถลดรายจ่ายได้ร่วมๆ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2556 นี้ทีเดียวแต่รัฐบาลก็ต้องเตรียมรับมือกับความไม่พอใจของคนตกงานซึ่งมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน พวกนี้ฐานคะแนนเสียงของ Obama ทั้งนั้น หึหึ
แต่ข่าวว่า Obama อาจต่อการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์ ให้ทันนะ แต่ใครรายได้เกินจากนั้น ท่าทางจะต้องโดนแน่นอนแล้ว

Q : แต่เอาจริงๆแล้ว มาตรการที่คุณบอกผมมา อย่างไม่ต่ออายุลดหย่อนภาษี กับลดวงเงินสวัสดิการคนว่างงาน เนี่ย ก็ทำให้รายได้ของรัฐเพิ่มขึ้นนะ เดี๋ยวรัฐก็เอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจอีกต่อหนึ่งนั้นหล่ะ
A : เก่งแหะ เข้าใจสังเกตุดี แต่ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าช่วง Fiscal Cliff อาจทำให้รายได้ของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็ยังกังวลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอาจฟื้น หรือปรับตัวไม่ทัน เพราะถึงมีเงินอยู่ในมือ ก็ใช่ว่าจะใช้ได้ทันที ต้องผ่านสภา ต้องอนุมัติโน้นนี่ กว่าจะกระเด็นมาเป็นโครงการอัดฉีดเงิน เราก็คงเห็นเศรษฐกิจของพี่เบิ้มทรุดลงเสียก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ลำบากเฮีย Bernanke แน่ๆ เพราะตลาดก็จะกลับไปกดดันให้เฮียแกออก QE3 มาช่วยชีวิตชาวโลกที


Q : มี QE3 ก็ดีสิ หุ้นวิ่งอีกรอบ
A : ถูกต้องครับ ถ้ามี หุ้นน่าจะวิ่งอีกรอบ แต่ระยะเวลาการวิ่ง และแรงวิ่งอาจสั้นลงเมื่อเทียบกับ 2 รอบก่อนหน้า แถมอีกอย่างก็คือ นักวิเคราะห์ต่างๆ รวมถึงผมซึ่งไม่ใช่นักวิเคราะห์ด้วยก็เหอะ เชื่อว่า เฮียเบน จะไม่ออกมาตรการอะไรแน่ๆ หากตลาดหุ้นยังทรงๆหรือยังพอวิ่งไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ ดิ่งลงแรงๆ S&P500 ดิ่งลงซัก 400-500 จุด แบบนั้นไม่แน่ครับ อาจจะออก QE3 สรุปคือ ถ้าอยากเห็น QE3 ต้องโดยเทขายแบบรุนแรงก่อน Policy Maker ถึงจะยอมทำอะไรบางอย่าง ไม่งั้นดูไปเรื่อยๆก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบ


Q : ง่ะ ไม่เอาหุ้นลงได้ม่ะ ติดดอยหุ้นก้ามปูอยู่ ถ้าหุ้นมันลงไปอีกคงรับไม่ไหวแล้ว T___T
A : อันนี้ เป็นปัจจัยที่ได้แต่คาดเดากันไปครับ เรายังไม่รู้ว่าจะเกิดไม่เกิด แต่ขอย้ำอีกทีว่า Fiscal Cliff เป็นเรื่องที่ใครๆก็กังวลนะ ลองดูตัวอย่าง

Bernanke ประธานเฟด ให้ความเห็นในการประชุมหลังๆตลอดว่า ที่ตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นของ นลท. ดูเหมือนจะลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอภิปรายที่ยืดเยื้อประเด็นการปรับเพิ่มเพดานหนี้ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายการเมืองขาดเสถียรภาพ และถ้ารัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายปัจจุบัน (มาตรการลดหย่อนภาษีและอื่นๆ ในปลายปีอย่างที่บอก) ขณะที่เพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐจะต้องมีการปรับเพิ่มอีกครั้งในปลายปี 2555 หรือต้นปี 2556 Bernanke เองก็พูดเลยว่า เขากังวลว่า fiscal cliff อาจจะบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว ณ ขณะนี้

UBS มองว่า อาจมีโอกาสไม่ถึง 5% ที่จะเกิดภาวะ fiscal cliff ขึ้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง GDP ของสหรัฐจะหดตัวลงราว 4.7% นั้นจะทำให้ GDP Growth ของอเมริกาติดลบ หรือเข้าสู่ภาวะถดถอยทันที

Bank of America เชื่อว่า เม็ดเงินที่ระบบเศรษฐกิจต้องเสียไปจาก Fiscal Cliff อาจมีมูลค่าราวๆ 7.20 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.5% ของ GDP (ตัวเลขใกล้เคียงกับ UBS)

คนสุดท้าย ผู้ทำนายวิกฤต Subprime และเจ้าของรางวัลโนเบล Roubini มองว่า ปี 2013 ขอเรียกว่าเป็น “Perfect Storm” หนักกว่าวิกฤตปี 2008 ซึ่งหน่งในปัจจัยนั้นก็คือ Fiscal Cliff
http://www.businessweek.com/videos/2012 ... 008-crisis

สรุป รู้กันแล้วนะครับ ว่า Fiscal Cliff คืออะไร มีความหมายว่ายังไง กระทบกับใครบ้าง และนักวิเคราะห์เขามองเรื่องนี้กันอย่างไร
สำหรับในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ผมมองว่า ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ พอร์ตการลงทุนของเราไม่ควรจพเสี่ยงมากเกินไป แต่ก็ไม่ควรกลัวเกินกว่าเหตุเอาไปฝั่งตุ่มซะหมด เพราะปัญหายังพอหาทางออกได้ และหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวตลาดโลกมากนักยังพอมีให้เห็น ที่ทำได้ในตอนนี้คือ ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด วิเคราะห์ข่าวอย่างเป็นกลาง และปล่อยวางให้ได้ถ้ามันมีเหตุไม่คาดฝัน

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 78660.html

จาก mr messenger เจ้าเก่าแห่งห้องสินธรครับ
อาาา ผมก็พึ่งรู้ โอบามาจะทำไงต่อไป น่าติดตามเสียจริง :mrgreen:
http://guimanstock.blogspot.com/
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: $$... Fiscal Cliff คืออะไร ทำไมพูดถึงกันบ่อยจัง ...$$

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบใจมาก :)
ลงทุนเพื่อชีวิต
โพสต์โพสต์