ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4482
ผู้ติดตาม: 88

ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ดูคร่าวๆจาก bottom line แบงค์ไตรมาส 2 กำไรโตเกือบทุกราย
ภาพประจำตัวสมาชิก
[v]
Verified User
โพสต์: 1402
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

จากนโยบายเน้นการบริโภคภายในประเทศครับ
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 1

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รวมบัตรเครดิตด้วย พ่วงกันไป อิอิอิ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
kosch
Verified User
โพสต์: 43
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เฉพาะภาระภาษีที่ลดจาก ๓๐ เป็น ๒๓ % ก็เยอะแล้วครับ แล้วปีหน้าจะเหลือเพียง ๒๐ ครับ
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สินเชื่อขยายตัว
ได้แหล่งเงินกู้ราคาถูกจากน้ำท่วม
ลิสซิ่งทำงานไม่ทันเพราะมาตราการรถคันแรก

แต่อยากลืมว่าอ่านบทวิเคราะห์เรื่องบาเซิล3ด้วยว่า
ธนาคารควรเพิ่มทุนหรือควบรวมอีกหรือไม่

ถ้าใม่ทำก็อาจจะเกิดเหมือนบทเรียนต้มยำกุ้ง
เพราะธนาคารมีโอกาสเพิ่มทุนแต่ไม่ยอมเพิ่มในห่วงเวลาที่ดีที่สุด ขยายสินเชื่อมาก
:)
:)
koon007
Verified User
โพสต์: 84
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

กำไรดีตลอด จนเมื่อมีปัญหาแค่10%ของสินทรัพย์ก็ล้มได้ง่ายง่ายเลย สัดส่วนผู้ถือหุ้นเทียบกับหนี้สินส่วนใหญ่ หนึ่งในสิบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
waririn
Verified User
โพสต์: 80
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมกำไรกลุ่มแบงค์โตเอาๆครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

มีอธิบายประเด็นนี้พอดีค่ะ
เบื้องหลังแบงก์กำไรเละ : ทวี มีเงิน
updated: 30 ก.ค. 2555 เวลา 15:50:04 น.

เมื่อเร็วๆ นี้ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งโชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกปรากฏว่ามีกำไรรวมกันสูงถึง 8.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 16% คงไม่มีธุรกิจไหนกำไรดีเท่านี้อีก โดยมีแบงก์กสิกรไทยและกรุงไทยนำโด่ง โตกว่า 30% ผลกำไรที่โชว์ออกมาเล่นเอาธุรกิจต่างๆ ที่กำลังกระเสือกกระสนให้พ้นวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปต่างอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน

คุณสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ′ส่วนใหญ่เกิดจากทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย′ ซึ่งรายได้อันหลังคือรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยน่าสนใจ เพราะกำลังจะเป็นรายได้หลักของธุรกิจธนาคาร

เบื้องหลังการถ่ายทำเป็นเพราะทางการมี ′ปรัชญาแบงก์ล้มไม่ได้′ ธนาคารจึงเป็นธุรกิจเดียวที่ทางการไม่ปล่อยให้ล้ม ปรัชญานี้มีมาหลังวิกฤตปี 2540 หรือ ′วิกฤตต้มยำกุ้ง′ สถาบันการเงินได้รับผลกระทบ ธนาคารไทยประสบปัญหา ′หนี้เสีย′ มหาศาล จนสถานะสั่นคลอน ต้องปล่อยให้ธนาคารต่างประเทศเข้ามาเทกโอเวอร์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

เมื่อสถาบันการเงินสั่นคลอนย่อมส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะสถาบันการเงินคือ ′ท่อขนาดใหญ่′ ที่ไปสูบฉีดระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้า ประสบการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นที่มาหลักปรัชญาว่า ′แบงก์ล้มไม่ได้′

นั่นแปลว่า นโยบายได้เปิดกว้างให้ธนาคารสามารถหารายได้ครอบจักรวาลไม่จำกัดเฉพาะการ ′ปล่อยกู้′ เหมือนแต่ก่อน แต่ปล่อยให้ทำธุรกรรม ตั้งแต่ขายประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตจนถึงประกันภัยรูปแบบต่างๆ ที่แต่เดิมจำกัดเฉพาะธุรกิจประกัน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมการบริการต่างๆ

ยังไม่รวมถึงรายได้หลักจาก ′ส่วนต่างดอกเบี้ย′ ระหว่างเงินฝากกับเงินกู้ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันว่าแบงก์หาประโยชน์จากเงินกู้มากเกินไป ขณะเดียวกันก็กดดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้แบงก์มีกำไรจาก ′ส่วนต่าง′ อย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่รายได้เหมือนเป็น ′โบนัส′ ก้อนใหญ่เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายลดภาษี ′นิติบุคคล′ แต่เดิมเคยเสีย 30% เหลือเพียง 23% เท่ากับแบงก์มีกำไรทันที 7% และในปีหน้ารัฐบาลจะลดเหลือ 17% นั่นเท่ากับว่าปีหน้าแบงก์จะมีกำไรเพิ่มจากเดิมอีก 5% รองพื้นทันที

นี่คือตัวช่วยที่ทำให้แบงก์ปีนี้กำไรชนิดพุงปลิ้นเลยทีเดียว ก็คงต้องฝากแบงก์ชาติถึงเวลาที่จะหาทางช่วยชาวบ้านให้ ′ส่วนต่าง′ เงินกู้กับเงินฝาก มันเหลือแคบลงได้หรือไม่

ทุกวันนี้คนฝากเงินแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย

ที่มา : นสพ.ข่าวสด
โพสต์โพสต์