บริษัทประกันภัย โดนภัยปีที่แล้ว เห็นอาการหนักหลายบริษัท..

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 1

บริษัทประกันภัย โดนภัยปีที่แล้ว เห็นอาการหนักหลายบริษัท..

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เป็นข้อเตือนใจว่า "ความเสี่ยง" ย่อมมีมูลค่าของมันเสมอ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป

-จีรนุช เปรมชัยพร
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 19

Re: บริษัทประกันภัย โดนภัยปีที่แล้ว เห็นอาการหนักหลายบริษัท.

โพสต์ที่ 2

โพสต์

This too shall pass ครับ :P :P

เอาบทความมาฝาก

‘คิดไปเอง’ ว่า ‘เอาอยู่’

โค้ด: เลือกทั้งหมด

มีคำสองคำที่เป็นที่นิยมพูดกันมากในปัจจุบันสมัย คำแรกคือคำว่า “เอาอยู่” คำนี้เริ่มต้นในช่วงที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ คือภัยจากภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่หลายจังหวัดและต่อเนื่องยาวนาน ผู้ที่สร้างความนิยมในคำนี้ ก็คือผู้บริหารประเทศตั้งแต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายท่าน ที่ให้สัมภาษณ์ออกข่าวว่า ได้เตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว ที่นั่นที่นี่ รับรองว่าน้ำไม่ท่วมแน่นอน “เอาอยู่” และต่อมา ณ ที่นั่นที่นี่ น้ำก็เข้ามาอยู่ดังคำ “เอาอยู่” นั่นเอง ก็เลยมีหลายท่านรวมทั้งในการโฆษณาสินค้าหรือโฆษณาต่างๆ ก็นำคำ “เอาอยู่” นี้มาใช้ประกอบ เป็นที่ติดปากของคนไทยที่แซวกันในยุคปัจจุบัน

อีกคำหนึ่งคือ “คิดไปเอง” หรือจินตนาการไปเอง คำนี้เกิดจากข้าวของแพงทั้งแผ่นดินในประเทศไทยไทย ก็อีกแหละที่ผู้บริหารประเทศนำคำนี้มาใช้ เพื่อแสดงว่าข้าวของแพงนั้นไม่ได้แพงจริง แต่เกิดจากการที่คนไทยคิดหรือจินตนาการ ไปเอง แท้ที่จริงแล้วข้าวของไม่แพงจริง ยังเป็นปกติอยู่ เหมือนกับบอกเป็นนัยๆ ว่าข้าวของแพงหรือไม่แพงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่ราคา แต่ตามความจริงที่เราหนีไม่พ้นและต้องยอมรับว่า ราคาต่างๆ มีการขึ้นราคาจริง จะเป็นการขึ้นราคาตาม

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงขึ้น หรือเกิดจากนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลประกาศ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขึ้นค่าแรงตามประกาศ หรือขึ้นแล้วแต่ยังไม่ทั่วถึง แต่ราคาสินค้าก็ขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับค่าแรงใหม่แล้ว เท่ากับราคาสินค้าวิ่งไปต้อนรับค่าแรงในอนาคตไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่ทันสมัย ที่ค่าแรงยังไม่ขึ้นอย่างทั่วหน้าเพราะองค์กรเอกชนสู้ค่าแรงไม่ไหว การสนับสนุนการผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศสู้องค์กรประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ จึงชะลอตัว ต้นทุนสูงค่าแรงสูง สินค้าราคาต้องแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ถ้าเอาสองคำนี้มาใช้ในทางที่เป็นคุณกับเราก็น่าจะทำได้ คำแรก “เอาอยู่” ถ้าคนทำงานขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายประกันชีวิต ถ้าเอางานประกันชีวิตให้อยู่ คือเอาจริงๆ จังๆ ไม่ยอมปล่อยทิ้งงาน หัวใจไม่ยอมแพ้ “Mind never give up” คิดว่านี่แหละ เอาอยู่จริงแท้ ผมพบกับว่าที่ตัวแทนใหม่หลายคน แม้กระทั่งจะเริ่มต้นเพื่อสอบรับใบอนุญาตตัวแทน อบรมสองวัน แต่มาอบรมครึ่งวันหรือวันเดียวก็ล่องหนหายตัวไปแล้ว ไม่มาอบรม ไม่มาเข้าสอบตามที่กำหนดไว้ เพราะไม่ยอมเอาอยู่ บางคนวิวาทะกับวิทยากรแทบเป็นแทบตาย เรื่องเวลาอบรม อ้างว่ามีนัดกับงานอื่นก่อนหน้าที่จะเข้ารับการอบรมแล้ว จำเป็นต้องไปตามนัด ยอมทิ้งสิทธิ์และค่าสมัครสอบใบอนุญาตเสียดื้อๆ อย่างนั้น เช่นนี้ก็ “เอาไม่อยู่”

ถ้าหากเรา “คิดไปเอง” หรือจินตนาการไปเอง “แต่เป็นการไม่หลอกลวงตนเองหรือลอกลวงคนอื่น” เป็นการจินตนาการที่ดี ให้คุณทางด้านจิตใจ ก็จะเกิด ประโยชน์กับเรามากกว่า กลับไปหลอกตนเอง เช่น ของแพงก็แพงจริง ไม่หลอกตนเองว่าไม่แพง แต่ว่าแพงเท่านี้เราเอาอยู่ เราสู้ได้ โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้มากขึ้น เมื่อค่าใช้จ่ายในชีวิตสูงขึ้น เราก็ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือฟุ่มเฟือยลง เราก็พอจะใช้จะอยู่ ไม่ใช่ ถ้าเงิน ไม่พอใช้ ก็ยืมหรือกู้มาใช้ อย่างนี้ยิ่งนับวันก็จะยิ่งไม่พอใช้

ในการทำงานการขาย หากเราจินตนาการในทางที่เป็นคุณ เช่น ถ้าเราจะไปขายใคร สร้างจินตนาการความสำเร็จในการขายรายนั้น เราจะมีโอกาสขายได้มากกว่า คิดตามหลักตรรกะเอาว่า ถ้าเราจะไปพบลูกค้ารายหนึ่ง หากเราไม่รู้จักมาก่อน ผลสำเร็จย่อมน้อยกว่า เพราะการขายประกันชีวิตของคนไทยยังอยู่ที่ความเชื่อถือในตัวบุคคลมากกว่า การเลือกสินค้า หรือองค์กร เมื่อเราคิดเช่นนี้ เราควรจะปูทางของการเป็นมิตรเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้อง สร้างความสัมพันธ์ก่อนการเสนอ สินค้า ความสำเร็จจะเกิดผลมากกว่า

หากเราจินตนาการว่า การสอบใบอนุญาตนั้นยาก มันก็ยากอย่างที่เราคิด หากเราจินตนาการว่า สอบใบอนุญาตเป็นตัวแทนไม่ยากหรอกถ้าเราเตรียมตัวมาดี เช่นเดียวกัน กำลังใจก็มีมากขึ้น ผลการสอบก็เป็นไปอย่างที่เราคิดแต่แรก

ถ้าขายประกันชีวิต แล้วนึกเอาเองว่า ขายประกันชีวิตนั้นยากเหลือกำลัง ใจเราคิด ใจเราก็สร้างกำแพงกั้นขวางความสำเร็จ แต่ถ้าใจเราบอกว่าไม่ยากหรอก การขายประกันชีวิตเป็นเรื่องของธรรมชาติ คนเรามีความต้องการประกันชีวิตอยู่แล้ว ไม่เร็วก็ช้าทุกคนต้องซื้อประกันชีวิต เพียงแต่กำลังหาคนขายที่ถูกใจเท่านั้น ถ้าคิดอย่างนี้กำลังขับในการทำงานขายก็จะมีมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และที่สุดผลออกมาก็คือ ความสำเร็จ

ขอเพียงในการทำงานอย่าเพียงแค่ “คิดเอาเอง” ว่า “เอาอยู่” แล้วไม่ได้ทำอะไรเลย ในที่สุดก็เป็นแค่ความคิด จำเป็นว่าหลังจากคิดเชิงบวกแล้ว ต้องมีการเตรียมการการวางแผน การศึกษาและวิเคราะห์ จึงจะ “เอาอยู่” ได้จริงๆ
ที่มา : http://www.siamturakij.com/home/news/di ... =413363611
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: บริษัทประกันภัย โดนภัยปีที่แล้ว เห็นอาการหนักหลายบริษัท.

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จากปี 2538 ที่น้ำท่วมหนักในปีนั้น
ต่อมาปี 2539 กลับเกิดฝนตกที่กรุงเทพมหานคร (ทางตอนล่าง) ปีนั้นมีโฆษณาเพื่อลดการใ้ช้น้ำด้วย
ถ่ายก๊อกน้ำ แล้วมีน้ำไหลเป็นหยด มาให้ดูทางโทรทัศน์ละครับ

ปีนี้คงหวังว่า แล้งมากกว่า ท่วม

ตอนนี้ คือ ทางอีสาน ปลูกข้าวในที่ดอน ขาดแคลนน้ำ ผลผลิตไม่สู้เก็บเกี่ยวได้ดี
แต่ภาคกลางและภาคเหนือ กลัวน้ำท่วม

:)
:)
โพสต์โพสต์