หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอให้ VI ช่วยเลือกหุ้นที่ดีที่สุดในมุมมองของ VI แต่ละท่าน ว่าท่านชอบหุ้นอะไรมากที่สุด 5 หุ้นแรก พร้อมแสดงเหตุผลด้วย กระทุ้นี้จะเป็นแนวทางให้ผู้ลงทุนนำไปศึกษาต่อ


Guest
ที่มา : http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=11432
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sorgios
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มีเงื่อนไขไหมครับ เช่น
ตลาดไหน?
ราคาปัจจุบัน?
CHIN UP, Do not give up !!!
wanidaja
Verified User
โพสต์: 48
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หุ้นส่วนชีวิต
ไปให้สุดใจฝัน
thammachat
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

svh ครับ ไม่มีหนี้ ไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีกนาน พื้นที่ว่างที่รองรับการขยายตัวที่มาก (ศรีนครินทร์ 400 เตียง ตอนนี้เปิดได้ 100 กว่าเตียง แต่เปิดเพิ่มเตียงขึ้นทุกปี) ชื่อเสียงรพ. ที่ดินว่างเหลืออีกมาก เงินสดเหลือเยอะ ถ้าอีกซัก 5-6 ปีต้องลงทุนเพิ่มก็ไม่กระทบกับปันผล อัตราการเติบโตมากกว่า 20%ต่อปี ไปอย่างน้อย 5 ปี ชื่อเสียงแข็งแกร่ง คู่แข่งแย่งลูกค้าได้ยาก เมืองไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย (คนแก่อายุยืนมากขึ้น) รวมถึงภาวะโลกร้อนทำให้เกิดโรคใหม่ๆมากขึ้นมาก และรูปแบบการรักษาเป็นการป้องกันมีมากขึ้นมิใช่ป่วยแล้วค่อยไป 3ข้อนี้ทำให้มีฐานลูกค้ามากขึ้นทุกปีในวัฐจักรธุรกิจขาขึ้นอย่างน้อย 20 ปี และอีก 3 ปี เปิด aec การรักษาพยาบาลของไทยถูกและดีกว่าเพื่อนบ้านมากจะทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกมาก และที่สำคัญการเติบโตทั้งหมดเกิดขึ้นจากภายในบ. มิใช่เกิดจากการควบรวม (งบบ.เดี๋ยวๆเติบโตสูงสุดอันดับแรกๆต่อเนื่องกันหลายปีทั้งในอดีตและอนาคต และยังเติบโตมากกว่ารพ.กรุงเทพ บำรุงราษฏร์ รามคำแหง) เหตุผลทั้งหมดจึงทำให้สามารถถือหุ้นเก็บไว้ได้อย่างน้อย 10-20 ปีเป็นอย่างตํ่าโดยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ (ผมซื้อไว้นานแล้วนะครับ ใครสนใจต้องวิเคราะห์ความคุ้มค่าเอาเองครับ โชคดีครับ)
thammachat
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 5

โพสต์

mti รายได้ทุกหมวดประกันโตขึ้นอย่างมากเฉลี่ยมากกว่า 20 %(กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ ทิพย รายได้เติบโตน้อยกว่ามาก) ไม่ต้องสำรองเพิ่มอีก และปีหน้าคงจะกับมาปันผลได้ 3-4บาท/หุ้น (จากการสอบถามฝ่ายบัญชี ได้สำรองหมดแล้ว ต่อไปก็คงเป็นปัญหาของ thre บ.เดียวเป็นส่วนใหญ่) บ.ไม่ต้องขายสินทรัพย์ออกเพื่อทำให้งบดูดีในระยะสั้นเหมือนกรุงเทพประกันภัยและไม่ต้องเพิ่มทุนทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มเหมือน scsmg(ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย) และไม่ใช่พึ่งระบบราชการเหมือนทิพยประกันภัย ประโยชน์จากการควบรวมภัทรกับเมืองไทยยังสะท้อนออกมาไม่หมดเพราะคงกำลังเซ็ทอัพให้เข้าที่อยู่ และคงจะได้ประโยชน์จากการที่จะเข้นไปซื้อบ.ประกันเล็กๆในราคาที่ถูกตามวัฐจักรการควบรวมของกลุ่มอุตสาหกรรม โดยบ.ต้นๆของอุตสาหกรรมคงเป็นแกนนำในการควบรวม เหมือนรพ.กรุงเทพและบำรุงราษฏร์ ส่วนปีหน้าคงกลับมาทำกำไรได้อย่างโดดเด่นอย่างมากจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและเบี้ยที่สูงขึ้น และเป็นวัฐจักรขาขึ้นของกลุ่มอีกอย่างน้อย 10 ปี เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามากขึ้นจากการหวาดกลัวของภัยที่เกิดบ่อยขึ้นมาก รวมถึงมูลค่าประกันมีมากขึ้นตลอดจากเครื่องจักรใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น สิ่งปลูกสร้างมีมูลค่าสูงขึ้น ทำให้เบี้ยปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะเหมือนกับมาม่าขึ้นจาก 5 บาทเป็น 6 บาท ไม่ใช่กำไรเพิ่มขึ้น 1 บาทแต่กำไรเพิ่มขึ้น 1 เท่า (สามารถดูย้อนหลังได้ tf ขึ้นจาก 500 เป็น 1200 ภายในหนึ่งปี พร้อมกำไรเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว) ช่องว่างของความต้องการมีอีกมากเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วอัตราการทำประกัน/คนสูงกว่าเราหลายเท่าตัว การเปิด aec จะทำให้รอบหมุนของการทำธุรกิจในประเทศสูงขึ้นมากในอนาคต (ซึ่งการทำธุรกิจส่วนใหญ่ข้องเกี่ยวกับประกันทั้งสิ้น) สินค้าและกลุ่มลูกค้าใหม่คงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นในอดีต (ประกันพืชผลเป็นต้น) ลงทุนสร้างแบรนด์โดยการโฆษณาและพัฒนาบุคคลากรและระบบไปมากกว่าบ.อีกในธุรกิจเดี๋ยวกันทำให้งบพัฒนาในอดีตมีมากกว่าบ.อื่นๆดูได้จากอัตรากำไรสุทธิที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (แบรนเป็นที่ติดปากของคนในวงกว้างมาก) ในอนาคตคงสามารถแย่งเป็นผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมได้โดยน่าจะอยู่ 1 ใน 3 อันดับแรก (เหมือน bbl ใน 5 ปีก่อนใหญ่กว่า kbank มากแต่ตอนนี้...) อัตราเสี่ยงคือถ้าอนาคตบ.รับประกันภัยต่อในต่างประเทศไม่รับประกันต่อหรือไม่ยอมลดเบี้ยซึ่งก็คงเกิดขึ้นยาก และอีกอย่างคือถ้าเกิดภัยครั้งใหญ่เช่นแผ่นดินไหวแล้วประเทศไทยถล่มไปครึ่งประเทศ แต่จากที่วิเคราะห์ดูถ้าเกิดเหตุการ์ณดังกล่าวผู้นำประเทศก็คงเข้ามาช่วยเหลือเพราะระบบประกันล้มไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในการลงทุน จะทำธุรกิจต้องกู้เงิน จะกู้เงินต้องทำประกันไม่ทำประกันไม่ให้กู้ ถ้าไม่มีธุรกิจประกันก็ทำธุรกิจไม่ได้ ส่วนผมซื้อเต็มพอร์ตแล้วนะครับ คงเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี up ถ้าองค์ประกอบที่เราวิเคราะห์ไม่เปลี่ยนคงไม่ขาย เพื่อนๆลองพิจารณาดูก็เองนะครับ ผมอาจจะวิเคราะห์ผิดก็ได้นะครับ โชคดีครับ (จงเชื่อมั่นในตนเองมิใช่ตามกันไปโดยไม่วิเคราะห์ให้ดีเสียก่อน ขอบคุณครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 6

โพสต์

CSR

ครับ บ.มีมูลค่าเกินกว่าราคาในกระดานมากๆ

ถ้าตีสินทรัพย์แบบตรงไปตรงมา

หุ้นตัวนี้ จะกลายเป็นขุมทองดีๆครับ

แต่การลงทุนในหุ้นที่เป็น asset play ก้ค่อนข้างยาก

เพราะต้องรอ จน วันที่คนเห็นค่าจะมา

ด้วยจำนวนหุ้นที่มีน้อยแค่ 20 ล้านหุ้น และ มูลค่าที่ดินที่ราคาต่ำกว่าราคาหุ้น 4 เท่า

จึงจัดว่าปลอดภัย เพราะถ้าลงมาสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะมีกลุ่มนายทุนพัฒนาอสังหาย่าน

รามคำแหงซื้อไว้ได้ครับ

ประเด็นคือ ถ้าเจ้าของเปลี่ยนมือ เขื่อนแตกแน่ครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
pullmeunder
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 7

โพสต์

BLA ครับ ด้วยช่องทางจำหน่ายทางธ.กรุงเทพ ทำให้มีโอกาสขายมากขึ้นจริงๆ

บวกด้วยคนไทยเริ่มตระหนักถึงธุรกิจประชีวิตมากขึ้น เริ่มรู้จักวางแผนชีวิตมากขึ้น

โฆษณาส่งเสริมการขายไม่เยอะแต่ยอดขายเพิ่มได้เรื่อยๆ


DCC มีความได้เปรียบเรื่องเข้าถึงประชาชนรายได้ต่ำ-กลาง เช่น ชาวไร่ ชาวนา พนักงานบริษัท ชาวต่างจังหวัด

บวกด้วยช่องทางจำหน่ายทั้งตัวแทนจำหน่าย โมเดิร์นเทรด พวก global ไทวัสดุ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tibular
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 532
ผู้ติดตาม: 4

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 8

โพสต์

1. CPALL เจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อ (อิ่มสะดวก และอื่นๆสะดวก)
เป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันผู้บริโภคทุกวัยไปแล้ว อยู่กันไปอีกนานกับ CPALL
มีของกิน เครื่องดื่ม เครื่องใช้ประจำวัน หาสะดวก ใกล้บ้าน สบายๆ

2. HMPRO เจ้าตลาดสินค้า DIY เกี่ยวกับบ้าน ที่อยู่อาศัย
ประเทศเราอสังหายังขยายตัวได้อีกมากมาย ผู้คนยังต้องการมีที่อยู่อาศัย
ซ่อมแซม และตบแต่งมากขึ้น คนไทยชอบซื้อมาให้ช่างติดตั้ง มากกว่าจะทำเอง
ไม่เหมือนทางเมกา ซึ่งพ่อบ้านมักจะทำทุกอย่างเองในบ้านเลย แต่ต่อไปไม่แน่
พ่อบ้านไทยอาจจะอยากโชว์แมนบ้างนะ

3. BIGC เจ้าตลาด Discount Store เทียบเคียงโลตัส (เสียดายโลตัสไม่เข้าตลาด แต่มีกองทุนอสังหาให้ )
เป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอีกเหมือนกัน ของอุปโภค บริโภคต่างๆ มีให้บริการธนาคาร
QSR ต่างๆ ขนมนมเนย ร้านอาหารจานด่วน จับตลาดคนชั้นกลางทั่วไป
เสียดายจัดพื้นที่แคบไปนิด เดินแล้วอึดอัด ไม่เหมือนโลตัส โล่ง สบายกว่า ให้โลตัสดีกว่าขั้นนึง

4. MAKRO เจ้าตลาดค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค
ของครบ ถูก เร็ว สบาย เน้นอาหารมากขึ้น เป็นตัวกลางส่งสินค้าจากผู้ผลิตจำนวนมาก
ให้ร้านค้าปลีกย่อยต่างๆ ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ
มีการปรับตัวเร็วดี มีการเสนอขายอุปกรณ์ร้านค้าต่างๆ กาแฟ เบอเกอรี่ เฉพาะทางด้วย

5. BGH เจ้าตลาดเครือขายโรงพยาบาลขนาดใหญ่
มีโรงพยาบาลเครือข่ายครอบคลุม ไปทั่วประเทศไทย มีศักยภาพสามารถขยาย
ไปตามหัวเมืองใหญ่ๆได้อีก ประกอบกับมีโอกาสขยับขยายไปตามภูมิภาคอาเซียนของเราได้อีก
ในอนาคต

หุ้นเหล่านี้ ผมคิดว่าเราถือได้เป็นสิบๆปี โดยแทบไม่ต้องทำอะไร
เพียงแค่เฝ้าดูการบริหารงาน การขยายตัว และการลงทุนด้านต่างๆ

ใครมีอยู่ด้วยต้นทุนยุติธรรม หรือต่ำกว่ามูลค่า ไม่ควรขายเลยนะคับ เสียดาย
pot_c
Verified User
โพสต์: 766
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 9

โพสต์

HTECH ครับ
ทำ special cutting tools สำหรับอุตสาหกรรม. ลูกค้าใหญ่คือ hdd และกำลังจะขยายเข้่าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์
เหตุผลที่อยากเป็นเจ้าของเพราะคนยังไม่ค่อยเห็นคุณค่าของหุ้นตัวนี้ (ไม่นิยม) และยังไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจของบริษัทอย่างแท้จริง. ทำให้การไปเป็นเจ้าของใช้เงินลงทุนที่ถูกมาก(pe ต่ำ). ตัวอย่างที่นักลงทุนยังเข้าใจผิดกับธุรกิจ HTECH ก็มีมากเช่น
-HTECH เป็นหุ้นเทคโนโลยี. มีความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสูง --> จริงๆเค้าทำมีดตัดเฉือนในโรงงานอุตสาหกรรม. ใช้แล้วหมดไปต้องสั่งอีกเรื่อยๆ. ไม่ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนไปยังไงก็ต้องใช้ cutting tools
-HTECH ทำ harddisk คนกำลังจะเลิกใช้แล้ว --> จริงๆเค้าทำ cutting tools ลูกค้าใหญ่คือ เวสเทิน ซีเกท ที่ supply hdd ทั่วโลก. อีกอย่าง ผมก็ยังไม่เห็นใครเลิกใช้ hdd เก็บข้อมูลเลย

เหตุผลอื่นคือ กำไรครับ. ถ้าดูงบกำไรไม่เคยตก มีแต่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ pe อยู่ที่ประมาณ 10 ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นที่ได้รับความนิยมตัวอื่นๆ. สรุปคือผมชอบเป็นเจ้าของกิจการที่กำไรดีที่เราซื้อหุ้นกิจการตัวนั้นในราคาไม่แพงครับ. ผู้บริหารมีความซื่อสัตย์และกระตือรือร้นในการทำให้กิจการเติบโต. และคนอื่นยังไม่เห็นคุณค่าครับ หุ้นแบบนี้ซื้อไว้โดยไม่ต้องขาย. ผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเองครับ :D
wanna
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 10

โพสต์

โตมากับธุรกิจค้าปลีก ชอบหุ้นค้าปลีกค่ะ

ไม่ได้ถือไว้ซักตัว :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
preecha_w
Verified User
โพสต์: 94
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 11

โพสต์

S&P ครับ
ถ้าห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า discount store ยังโตต่อได้
ผมว่า S&P ก็โตต่อได้ครับ เบเกอรี่ และขนมเค็กของเขาอยู่ใน
ใจของใครหลายคน ภาพลักษณ์ที่ดูสะอาด อร่อย คุณภาพดี
ทๆให้มีลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์นี้มาก ซื้อไปฝากใคร
ก็การันตีความพึงพอใจได้แน่นอน ราคาเดินดงตรงแหน่วมาจาก
ยี่สิบกว่าบาทมาทะลุร้อยได้ในระยะเพียงสองสามปีเท่านั้น

อนาคตไม่มีใครเดาได้นะครับ ดูอัตราส่วนทางการเงินเอาเองนะครับ
แล้วติดสินใจเอง รับผิดชอบเอง จะว่าขึ้นมาเยอะแล้วก็ว่าได้
จะว่ามีอนาคตไกลหรือเปล่า ก็ต้องศึกษาครับ แต่ตัวธุรกิจ ผมว่าดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด

โพสต์ที่ 12

โพสต์

thammachat เขียน:svh ครับ ไม่มีหนี้ ไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีกนาน พื้นที่ว่างที่รองรับการขยายตัวที่มาก (ศรีนครินทร์ 400 เตียง ตอนนี้เปิดได้ 100 กว่าเตียง แต่เปิดเพิ่มเตียงขึ้นทุกปี) ชื่อเสียงรพ. ที่ดินว่างเหลืออีกมาก เงินสดเหลือเยอะ ถ้าอีกซัก 5-6 ปีต้องลงทุนเพิ่มก็ไม่กระทบกับปันผล อัตราการเติบโตมากกว่า 20%ต่อปี ไปอย่างน้อย 5 ปี ชื่อเสียงแข็งแกร่ง คู่แข่งแย่งลูกค้าได้ยาก เมืองไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย (คนแก่อายุยืนมากขึ้น) รวมถึงภาวะโลกร้อนทำให้เกิดโรคใหม่ๆมากขึ้นมาก และรูปแบบการรักษาเป็นการป้องกันมีมากขึ้นมิใช่ป่วยแล้วค่อยไป 3ข้อนี้ทำให้มีฐานลูกค้ามากขึ้นทุกปีในวัฐจักรธุรกิจขาขึ้นอย่างน้อย 20 ปี และอีก 3 ปี เปิด aec การรักษาพยาบาลของไทยถูกและดีกว่าเพื่อนบ้านมากจะทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกมาก และที่สำคัญการเติบโตทั้งหมดเกิดขึ้นจากภายในบ. มิใช่เกิดจากการควบรวม (งบบ.เดี๋ยวๆเติบโตสูงสุดอันดับแรกๆต่อเนื่องกันหลายปีทั้งในอดีตและอนาคต และยังเติบโตมากกว่ารพ.กรุงเทพ บำรุงราษฏร์ รามคำแหง) เหตุผลทั้งหมดจึงทำให้สามารถถือหุ้นเก็บไว้ได้อย่างน้อย 10-20 ปีเป็นอย่างตํ่าโดยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ (ผมซื้อไว้นานแล้วนะครับ ใครสนใจต้องวิเคราะห์ความคุ้มค่าเอาเองครับ โชคดีครับ)
อยากได้ SVH มานาน แต่ BGH กอดรัดไว้ไม่ปล่อยมาให้เชยชม
ยังสงสัยว่าทำแบบนี้แล้ว ทำไมยังเอาไว้ในตลาด เหมือนเก็บเล่นๆ โชว์ว่ามีของดี ทั้งที่ถูกเตือนติด list Low Free Float มานาน
คิดเล่นๆ ว่าจะโชว์ว่ามีของดีบ้าง จะซื้อไว้ขำๆ ซัก 100 หุ้น เพื่อใส่ port ไว้เป็นหุ้นตัวอย่างดีไม๊
สุดท้าย ก็เลยไปซื้อแม่ คือ BGH อาศัยช่วงคนชุลมุนกลัว SiPH มาแย่งตลาดและไม่รู้ตกใจเรื่องอื่นอีกปล่าว แต่ก็ตัดสินใจถูก เพราะตกใจชั่วคราว ... แต่ว่าเสียดายตอนนั้นเงินสดเหลือน้อย
โพสต์โพสต์