รวมข้อมูล การค้าเสรีอาเซียน!!!! และผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มต่างๆ

[picklife]

สวัสดีครับ เนื่องจากใกล้เข้าช่วงการค้าเสารีอาเซียนเข้ามาแล้ว
เลยอยากจะให้เพื่อนๆTVIช่วยกันรวมข้อมูล และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ว่าธุกิจไหนจะน่าสนใจมากๆ หรือกลุ่มไหนจะต้องระวังตัวพิเศษมากๆ

ขอบคุณครับ

[Green]

ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันปาล์ม เราน่าจะสู้พวก อินโด มาเล ยากหรือป่าวครับ

[Green]

การเมือง : ทัศนะวิจารณ์
วันที่ 6 มกราคม 2553 15:00ดร.อาภรณ์ ชีวะเกรียงไกร
คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "ส่องกล้องเศรษฐกิจ"
จำนวนคนอ่าน 4767 คน.อาฟตา : เขตการค้าเสรีอาเซียน
โดย : ดร.อาภรณ์ ชีวะเกรียงไกร

เขตการค้าเสรีอาเซียนไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นสิ่งที่ได้ริเริ่มกันมายาวนาน และมีการทยอยลดภาษีอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามความพร้อมของประเทศสมาชิกและตามประเภทของสินค้า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมกันจัดตั้งเขตการค้าเสรี (AFTA) มาตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกและระหว่างอาเซียนกับตลาดอื่นๆ ของโลก ด้วยการสร้างความสามารถในการแข่งขันของสมาชิกอาเซียน กระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน


อาเซียนที่มีสมาชิกอยู่ 10 ประเทศ แยกเป็นสมาชิกเดิม 6 ประเทศ และประเทศสมาชิกใหม่อีก 4 ประเทศมีจำนวนประชากรรวมกันประมาณเกือบ 600 ล้านคน จึงทำให้เป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเศรษฐกิจอื่นๆ การรวมตัวทางเศรษฐกิจนี้ จึงช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองให้แก่อาเซียนมากเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าในการประชุมอาเซียนจะมีประเทศพันธมิตรคู่ค้าที่เข้าร่วมที่สำคัญอีก 3 ประเทศ (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ที่มีประชากรประมาณเกือบหนึ่งในสามของโลก ที่เรียกว่าอาเซียนบวกสามแล้วก็จะทำให้อาเซียนเป็นที่สนใจ และจับตามองของกลุ่มเศรษฐกิจอื่นๆ


หลักการของเขตการค้าเสรีของอาเซียน คือ ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันจัดทำความตกลงว่าด้วยอัตราภาษีพิเศษที่เท่ากันสำหรับเขตการค้าเสรีอาเซียน โดยมีหลักการสำคัญ คือ 1. ประเทศสมาชิกจะได้รับประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรี ของประเทศสมาชิกอื่นสำหรับสินค้าหนึ่ง ก็ต่อเมื่อได้นำสินค้านั้นมาลดภาษีลงเหลือร้อยละ 20 หรือต่ำกว่า และเป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีลดภาษีของประเทศสมาชิกทั้งสอง 2. ประเทศสมาชิกต้องยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าทันทีที่ลดภาษีลงเหลือร้อยละ 20 หรือได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีรายได้เขตการค้าเสรีอาเซียนจากประเทศสมาชิกอื่น และจะต้องยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ที่เหลือภายใน 5 ปีหลังจากนั้น และ 3. สินค้าที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน จะต้องมีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในอาเซียนมากกว่าร้อยละ 40 ของมูลค่าสินค้า หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของแหล่งกำเนิดสินค้าตามวิธีการแปรสภาพอย่างเพียงพอ


หากจะมองผลกระทบของการลดอัตราภาษีของอาเซียนต่อการค้าของไทยน่าจะมีผลน้อยมาก เนื่องจากมีการทยอยลดอย่างต่อเนื่อง โดยอาเซียนเดิม 6 ประเทศ (ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และบรูไน) จะเป็นผู้นำในการลดภาษีให้หมดไปก่อน โดยอาเซียนเดิมจะลดภาษีร้อยละ 80 ของรายการสินค้าทั้งหมดให้เป็นศูนย์ในปี 2550 ซึ่งขณะนี้ ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่อีก 4 ประเทศได้รับการอนุโลมให้ลดภาษีอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยจะต้องลดภาษีรายการสินค้าทั้งหมดให้เหลือศูนย์ในปี 2558 แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าอ่อนไหวและสินค้าอ่อนไหวสูงที่ไม่จำเป็นต้องลดภาษีเหลือร้อยละ 0 อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้สินค้าเกษตรบางรายการของไทยก็ยังคงสงวนอยู่ในรายการสินค้าที่มีความอ่อนไหว


การเปิดเสรีการค้านั้นย่อมจะมีทั้งอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์และอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่ไม่ได้การคุ้มกันด้วยกำแพงภาษี แต่สำหรับประชาชนประมาณ 600 ล้านคนของประเทศสมาชิกในฐานะของผู้บริโภค จะได้รับประโยชน์จากการได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง และมีความหลากหลายมากขึ้น สำหรับประโยชน์ของเขตการค้าเสรีอาเซียนมีประโยชน์ต่อการค้าของประเทศไทย ทำให้สินค้าของไทยจะได้เปรียบในด้านต้นทุน และการแข่งขันในตลาดอาเซียนและตลาดโลก การขยายตัวของการส่งออกของไทยไปยังอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อาเซียนเป็นผู้ค้าอันดับสองของไทยในปัจจุบัน ในปี 2551 ไทยมีการค้ากับอาเซียนประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นร้อยละ 20 ของการค้าทั้งหมด และได้เปรียบดุลการค้ากับอาเซียนประมาณปีละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์อย่างเด่นชัด ก็คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ และยางพาราแท่ง/ยางแผ่นรมควัน เป็นต้น และสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว และน้ำตาล


สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางด้านลบนั้น จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างการผลิตต่อไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งธุรกิจเองต้องมีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกขณะด้วย

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%99.html

[Ii'8N]

ความจริง AFTA มีมานานแล้ว อันนั้นแค่ส้่งเสริม ลดภาษีในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างแค่นั้น

แต่สิ่งที่กำลังเตรียมกัน ~ในปี 2015 หลังจากมีการลงนาม "พิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" AEC blueprint ออกมา (เอกสารภาษาไทยข้างล่าง บอก 2020 แต่ใน blue print เตรียมไว้ 2015)

ลองเอาเอกสารไปศึกษาก่อนนะครับ จึงจะเข้าใจว่าเราจะต้องรับมือกับอะไร
ผม download มา แต่ก็ยังอ่านไม่หมด...

AEC Blueprint 5187-10.rar

(1.27 MiB) ดาวน์โหลด 50 ครั้ง

ที่มา: http://www.aseansec.org/5187-10.pdf

ที่เห็นชัด คือการจัด tariff ใหม่ในที่นี้ คือพิกัดอัตราภาษีศุลกากรในการค้าในกลุ่ม AFTA (ก่อนหน้านี้มีการเซ็น CEPT =ข้อตกลงว่าด้วยอัตราศุลกากรพิเศษที่เท่ากัน (Common Effective Preferential Tariff - CEPT)
ที่ผ่านมา มันจะค่อยๆ ลด และจัดเป็นกลุ่มๆ ถ้า Fast track ก็ลดลงเร็วหน่อย ใครที่นำส่งออก-นำเข้า จะคุ้นกับ HS code เขาจะบอกว่า HS code ไหน สามารถลดได้เท่าไหร่

ตอนนี้ใน AEC blue print เขาใช้คำว่า 'eliminate' ซึ่งหมายถึงเป็น 0 ไม่ีใช่แค่ลด
ดังนั้น ใครเป็นผู้ผลิต และส่งออก จะได้ประโยชน์มากกว่าการเป็นผู้บริโภค รัฐบาลที่เคยได้ภาษีนำเข้า ก็จะรายได้ส่วนนี้ลดลงไป แต่จะได้ประโยชน์ ในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการส่งออก


ที่มากกว่านั้น และเห็นพูดถึงกันเยอะ คือการส่งเสริม "free flow" ให้เป็นตลาดเดียว Single Market and Production Base เช่น free flow of goods, free flow of services, free flow of investment, free flow of capital,
ที่คนสนใจมาก free flow skilled labor คือแรงงานมีฝีมือไปได้ตลอดในภูมิภาค

แต่ว่า อีกไม่กี่ปีแล้ว และในภูมิภาคยังมีความต่างกันมาก จะก้าวหน้า่สำเร็จแค่ไหน ต้องเ้อาใจช่วยกัน เพราะเป็นผลดีต่อทุกประเทศในภูมิภาคมากกว่าผลเสีย เพราะหมายถึงเขตการค้าจะใหญ่ขึ้น
ประเด็นคือ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ เงินจะมีมูลค่ามากขึ้น ถ้าหมุนจำนวนครั้งมาก
เงินจะหมุนเร็วขึ้น ถ้าเขตการค้าใหญ่ขึ้น โอกาสจะเกิดเศรษฐีใหม่ๆ มากขึ้นตาม




ASEAN Economic Community

The ASEAN Economic Community (AEC) shall be the goal of regional economic integration by 2015. AEC envisages the following key characteristics: (a) a single market and production base, (b) a highly competitive economic region, (c) a region of equitable economic development, and (d) a region fully integrated into the global economy.

The AEC areas of cooperation include human resources development and capacity building; recognition of professional qualifications; closer consultation on macroeconomic and financial policies; trade financing measures; enhanced infrastructure and communications connectivity; development of electronic transactions through e-ASEAN; integrating industries across the region to promote regional sourcing; and enhancing private sector involvement for the building of the AEC. In short, the AEC will transform ASEAN into a region with free movement of goods, services, investment, skilled labour, and freer flow of capital.

ASEAN Economic Community (AEC) Blueprint

The ASEAN Leaders adopted the ASEAN Economic Blueprint at the 13th ASEAN Summit on 20 November 2007 in Singapore to serve as a coherent master plan guiding the establishment of the ASEAN Economic Community 2015.

[Ii'8N]

ผมสนใจเอกสารหน้านี้
ไม่รู้จะหมายถึงเชื่อมโยงฐานข้อมูลตลาดหุ้นเข้าหากัน แล้วเราสามารถ trade ได้ ครบทุกประเทศในนั้น ใช่รึเปล่า

ถ้าใช่ ต่อไปนี้ เราคงไม่ใช่แค่ศึกษาหุ้น มากว่าแค่ 4-500 บริษัทใน SET&mai เท่านั้นแล้ว

โอกาสของนักลงทุนแบบเราๆ ในตลาดทุน เปิดกว้าง กว่าเดิม อย่างเห็นๆ!

[Ii'8N]

http://board.thaivi.org/posting.php?mod ... 6&p=941632

ข่าว-เลื่อนเทรดหุ้นอาเซียนลิงก์ ส.ค.ปี 55

เลื่อนเทรดหุ้นอาเซียนลิงก์ ส.ค.ปี 55
http://astv.mobi/AzD5xcf

เลื่อนเทรดหุ้นอาเซียนลิงก์ ส.ค.ปี 55 เหตุไทยพัฒนาระบบไม่ทันเพื่อนบ้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ธันวาคม 2554 08:29 น.

ตลาดหลักทรัพย์ เผย ส.ค.ปีหน้าเปิดเทรดหุ้นอาเซียน กับตลาดหุ้นสิงคโปร์ มาเลเซีย หลัง 2 ประเทศเชื่อมโยงกันก่อน มิ.ย.เหตุ ไทยพัฒนาระบบไม่ทัน “จรัมพร” เชื่อ อาเซียนลิงก์หนุน บจ.มาร์เกตแคป เพิ่ม-ขยายฐานนักลงทุน คาด อีก 3-4 เดือน เผยแพร่ดัชนีอาเซียนสตาร์ หวังให้สถาบันนำไปอิงออกสินค้าใหม่

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท) จะมีการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน (อาเซียนลิงก์) ในเดือนสิงหาคม 55 กับตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ หลังจากที่ 2 ประเทศมีการเริ่มซื้อขายผ่านอาเซียนลิงก์ก่อนในเดือนมิถุนายน 55 ซึ่งสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยมีการเชื่อมต่อกับ 2 ประเทศไม่ทันเดือนมิถุนายนตามกำหนด เพราะอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพ

“ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และมาเลเซีย จะมีการซื้อขายระหว่างกันก่อน ในเดือนมิถุนายน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไทยจะเข้าไปเชื่อมต่อการซื้อขายกับ 2 ประเทศได้ในเดือนสิงหาคม ปีหน้า และสาเหตุที่ไทยเข้าไปเชื่อมต่อการซื้อขายไม่ได้ในเดือนมิถุนายน เพราะอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ” นางจรัมพร กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการของตลาดหุ้นอาเซียนลิงก์ อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้จัดทำดัชนีให้มาคำนวณดัชนีอาเซียนสตาร์ จะนำหุ้นขนาดใหญ่ 30 ตัวแรก ของตลาดหุ้นทั้ง 7 แห่ง รวม 180 บริษัท มาคำนวณเป็นดัชนี ซึ่งคาดว่าจะมีการเผยแพร่ดัชนีอาเซียนสตาร์ประมาณ 3-4 เดือนจากนี้ เพื่อให้นักลงทุนทั่วโลกสามารถใช้เป็นดัชนีอ้างอิงในการลงทุน และใช้เป็นเครื่องมืออ้างอิงสำหรับออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กองทุนอีทีเอฟ

สำหรับการเชื่อมโยงตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียจะทำให้ ตลท.สามารถขยายฐานนักลงทุนได้มากขึ้น เพราะภูมิภาคนี้มีจำนวนประชากรสูงถึง 528 ล้านคน ขณะที่นักลงทุนจะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ให้เลือกลงทุนมากขึ้น เพราะมีจำนวนหลักทรัพย์รวมกันทั้ง 7 ตลาด 6 ประเทศ ประมาณ 3,600 หลักทรัพย์ ส่วนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดได้ เพราะจะกลายเป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาค และมีสภาพคล่องเข้ามาซื้อขายมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถยกระดับตลาดทุนอาเซียนให้กลายเป็นตลาดทุนที่ได้รับการยอมรับใน ระดับโลก จากขนาดที่ใหญ่ขึ้นโดยมีมูลค่าตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ อนึ่ง ก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์คาดว่าจะมีการซื้อขายหุ้นอาเซียนไตรมาสแรกแรกปี 55

[Mactavish]

วันเสาร์ที่แล้ว ผมมีโอกาสไปฟัง อ.รุทธิ์ พนมยงค์ พูดเรื่อง Logistic ใน AEC
อาจารย์บอกว่า AEC เริ่มเดินเครื่องมาต้องนานแล้ว จากที่ฟังมาคิดว่าเกือบจะทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบหมด
จะมากน้อยแล้วแต่ศักยภาพของธุรกิจนั้นๆ หากมีความพร้อมก็จะเป็นผลดี หากยังไม่พร้อมก็จะทำให้เสียโอกาส

หากสนใจลองเข้าไปดูข้อมูลไปที่ www.eria.org

[ohiotour]

หากรวมกันแล้ว การใช้เงินจะเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอาเซียน ใช้รวมกันเป็นสกุลเงินเดียวเหมือน ยุโรป หรือป่าวครับ.
และถ้าใช้ ๆ เมื่อไรครับ

ผมว่าแต่ละประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีอาเซียนน่าจะไม่เท่ากัน โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายแรงงานเพราะถ้าแรงงานระดับล่างก็น่าจะมีปัญหาเรื่อง. ของภาษา และมาตรฐานของคุณภาพของแรงงาน ผมไม่ทราบว่าต่อไปเค้าจะมีมาตรฐานที่จะกำหนดคุณภาพของสินค้าและบริการให้มีมาตรฐานเดียวกันหรือป่าวครับ และการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของสินค้าและบริการต่าง ๆ จะใช้มาตรฐานเดียวกันได้เลยหรือป่าวครับ เพราะผมเห็นว่าการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของสินค้าและบริการต่าง ๆ มีส่วนสำคัญเหมือนกันแต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงโดยเฉพาะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง. สิินค้าชนิดเดียวกันแต่มาตรฐานการผลิต มาตรฐานการตรวจสอบ และมาตรฐานของการรับรองการตรวจสอบ ถ้าไม่มีมาตรฐานที่ดีและเชื่อถือได้ ผมว่าก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะครับ.

เดี่ยวนี้ผมเห็นมีโครงการที่อยู่อาศัย. บางโครงการที่เค้าจะทำเป็นกลุ่มบ้าน กลุ่มละ 6-7 หลังโดยใช้ประตูเดียวของแต่ละกลุ่ม แต่ แต่ละบ้านก็มีประตูบ้านของตัวเองอีกที่ แต่ประตูใหญ่ก็ใช้รีโมทรวมกัน. ดูแรกๆ รู้สึกว่าดี ดูอบอุ่น เด็กๆ เล่นกันหน้าบ้านได้ไม่ต้องกลัวอันตราย และก็ขโมยคงไม่ค่อยกล้ามั้ง. เพื่อนบ้านช่วยเหลือกันฝากบ้านกันได้. แต่พอคิดไปนาน ๆ หน่อย แต่ละบ้านมีสมาชิกในบ้านในวัยไม่เท่ากัน นิสัยที่ไม่เหมือนกัน วิถีการดำเนินชีวิต การศึกษา แตกต่างกัน หากสักวันมีบ้านใดบ้านหนึ่งเกิดขัดแย้งกัน บรรยากาศในกลุ่มบ้านนั้นคงน่าอึดอัดน่าดูเลยนะครับ. ผม ลองคิดเล่น ๆ ดูครับว่าจะรู้สึกอย่างไรบ้าง.