อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
netirut
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คุณคิดว่าอะไรจะขายดีเป็นพิเศษหลังน้ำลดครับ น่าจะมีหลายอย่าง แต่ที่เป็นพิเศษจริงๆ คิดว่าจะมีอะไรบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
getkung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 286
ผู้ติดตาม: 4

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ประกันอุทกภัย ตรงไปป่าวอ่า :B
ซักวันหนึ่ง port จะโต๊ port จะโต
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

- วัสดุก่อสร้างต่างๆ เช่น ปูน , ทราย , อิฐ , ยางมะตอย , แผ่นพื้น , ฝ้า ฯลฯ

- อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน เช่น ถังน้ำ , กะละมัง , น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ฯลฯ

- ช่างซ่อมบ้านฯ และบริษัทรับเหมาก่อสร้างต่างๆ เช่น ช่างซ่อมบ้าน , บริษัทฯซ่อมโรงงาน , บริษัทฯทำโครงการใหญ่ๆ ฯลฯ

- น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ เช่น น้ำมัน , LPG , NGV ฯลฯ

- คอนโดฯที่มีระบบป้องกันน้ำท่วมดีๆ เช่น มีห้อง Control Room อยู่ในที่สูง

- บ้านเดี่ยวที่อยู่ในพื้นที่ "น้ำไม่ท่วม"

- ราคาที่ดิน ที่บริเวณที่น้ำไม่ท่วม เช่น บางจังหวัดในภาคกลาง , ภาคเหนือ และอิสาน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

- บริษัทฯกำจัดขยะต่างๆ

- อู่ซ่อมรถยนต์ และศูนย์บริการต่างๆ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
IWILLBEVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 1

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 5

โพสต์

นวตกรรมใหม่... ที่วางของแบบปรับความสูงได้ ... :D
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 6

โพสต์

- ยาแก้น้ำกัดเท้า ,ยาฆ่าเชื้อรา ฯลฯ

- โรงพยาบาล , คลินิค และจิตแพทย์

- เรทติ้งที่ดีขึ้นของทีวีบางช่อง เช่น TPBS เนื่องจากนำเสนอข่าวน้ำท่วมอย่างน่าสนใจ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 7

โพสต์


^
^
อันนี้ ถ้ามีขายและไม่แพงมาก คงจะขายดีแน่ๆ
เอ่อ.....ผมจองคันนึงนะ ^ ^
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
kkwon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อานิสงส์หลังน้ำท่วมลด 5 ธุรกิจรวยอู้ฟู่




โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 3 พฤศจิกายน 2554 10:32 น. Share











* คนไทยเตรียมก่อหนี้ใหม่หลังน้ำลด
* เพื่อซ่อม-สร้าง-ซื้อสินค้าที่เสียหายอุทกภัย
* 5 ธุรกิจเด่น - สร้าง SMEs รายใหม่
* แบงก์ใหม่-เล็ก งัดกลยุทธ์ชิงลูกค้า

จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายกินพื้นที่หลายจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครในพื้นที่อยู่อาศัย ย่านธุรกิจร้านค้า และธุรกิจ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมของภาคอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบอย่างหนักกันอย่างถ้วนหน้า

ท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ กลับเป็นโอกาสทองของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับที่อยู่และของใช้ดำรงชีวิตประจำวันประจำในบ้าน จากการรวบรวมของผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ พบว่า ที่โดดเด่น มี 5 ธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ผลิตและจำหน่าย รวมทั้งธุรกิจบริการซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้องกับบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที เป็นต้น

1.วัสดุก่อสร้างรวยเละ
ความต้องการพุ่งปรี๊ด

จัดเป็นธุรกิจแรกที่น่าจะได้รับอานิสงส์ หลังจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว โดย ณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร ผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากประชาชนจะต้องซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ทำให้ความต้องการวัดสุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะปรกติ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง ที่น้ำท่วมขังจะทำให้กระเบื้องปูพื้น หรือปาร์เกต์ร่อน รวมถึงสี สายไฟ เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความเสียหาย จึงต้องซ่อมแซมใหม่ ส่วนสาขาที่คาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น ได้แก่ สาขาลพบุรี และสาขาพระนครศรีอยุธยา เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานาน 2-3 เดือน

“เมื่อปีก่อนที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยอดขายในช่วงนั้นลดลงมาก แต่หลังจากที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติ ประชาชนกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมบ้านจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% และคาดว่าเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เริ่มคลี่คลายลง ยอดขายวัสดุอุปกรณ์ จะเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา คือประชาชนจะกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้โฮมโปรมียอดขายเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าที่หายไปในช่วงก่อนน้ำท่วม” ณัฏฐ์กล่าว

ขณะที่ โฮมเวิร์ค ซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท บุญถาวร และสุขภัณฑ์ รวมถึงอีเกีย ผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านวัสดุก่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งครบวงจรที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงนี้ก็จะได้รับผลดีหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เพราะเป็นผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเช่นเดียวกับโฮมโปร

สำหรับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน ทั้งผู้รับเหมารายใหญ่ และรายย่อย โดยผู้รับเหมารายใหญ่จะมีงานก่อสร้างและซ่อมแซมถนน คู คลอง ส่วนผู้รับเหมารายย่อย รวมถึงช่างปูน ช่างไม้ ช่างสี ช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์ จะมีงานซ่อมแซมมากขึ้น เพราะได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจัดสวน ธุรกิจขายต้นไม้ งานตกแต่ง แลนด์สเคป ภูมิสถาปัตย์ วิศกรจะมีงานเข้ามามากมาย เพราะน้ำท่วมทำให้สวนเสียหายด้วยเช่นกัน

ส่วนภาคธุรกิจบริการอย่างบริษัทรักษาความสะอาดจะได้รับผลดีด้วย เพราะจะมีการจ้างพนักงานทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านเรือน รวมถึงออฟฟิศด้วย

2.เครื่องใช้ไฟฟ้า
ซื้อใหม่-บริการซ่อม

สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสินค้าปัจจัยที่ 5 จำเป็นแก่การใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติดังกล่าว คาดว่าหลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า วิทยุ เป็นต้น ผู้บริโภคที่ประสบอุทกภัยหลายรายที่ไม่สามารถขนย้ายสินค้าดังกล่าวได้ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดที่มีน้ำท่วม โดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดปัจจุบันมีผู้ผลิตและจำหน่ายจากค่ายเกาหลี และญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์เกาหลี อย่างซัมซุง และแอลจี เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

นอกจากนี้ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นธุรกิจที่มีความต้องการไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างนัก ธุรกิจบริการซ่อมตรวจเช็คและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น

โดยผู้บริหารของค่ายซิงเกอร์ จำกัด (มหาชน) บุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ ให้ความเห็นว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วและมาแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งซิงเกอร์ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งในแง่ของกำลังซื้อจากลูกค้าและพนักงานขายในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ บริษัทจึงได้แก้วิกฤตโดยการตั้งทีมซ่อมตรวจเช็กและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการรับสมัครและเพิ่มทีมช่างกว่า 300 นาย สำหรับรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ทุกประเภทสินค้า

เนื่องจากซิงเกอร์มีความแข็งแกร่งและได้รับการยอมรับในเรื่องของบริการหลังการขายในกลุ่มสินค้าซิงเกอร์อยู่แล้วและการขยายธุรกิจรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่ายดังกล่าวจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและรับรู้ในกว้างขึ้น สอดคล้องกับสภาพตลาดหลังน้ำลด ซึ่งจะมีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการตรวจสภาพและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น้ำท่วม

“กลุ่มลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเรียกซ่อมได้ที่ไหน หรือการรอทีมช่างของแต่ละค่ายสินค้าอาจมีความล่าช้าและรอนาน การบริการหลังการขายและซ่อมสินค้าเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเรา บวกกับทีมช่างที่เชี่ยวชาญ เรามั่นใจว่าไม่มีแบรนด์ไหนครบและพร้อมเท่าเรา ซึ่งการตั้งเป็นทีมที่ชัดเจนและมีทีมช่างจำนวนมาก ตรงนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” บุญยงกล่าว

ทั้งนี้ ซิงเกอร์ได้นำร่องนำทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วขึ้นมา 10 ทีม เพื่อเตรียมไปตรวจสอบและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงเข้ามาเสริมและทดแทนกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าร้านค้าโชห่วยเนื่องจากการลงพื้นที่และใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของชุมชนตามหมู่บ้านที่มีร้านค้าโชห่วยมากขึ้น ซึ่งแต่ละร้านอยากจะตกแต่งและวางสินค้าให้ทันสมัยเหมือนร้านคอนวีเนียนสโตร์ในเมือง

อย่างไรก็ตาม คีย์แมนซิงเกอร์ยอมรับว่ากังวลเรื่องน้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบในกลุ่มลูกค้า ซึ่งล่าสุดมีประมาณ 5,000 บัญชี ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.4 แสนบัญชีควบคู่กับการปรับแผนเรียกเก็บค่างวดสินค้าเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 500 บาทต่อเดือน ในบัญชีลูกค้าที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ชดเชยกับที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่างวดสินค้าได้ในขณะนี้

3.ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า
จัดหนักลดแลกแจกแถม

อีกธุรกิจหนึ่งที่คงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อในยามที่วิกฤติน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว นั่นคือ ธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเพาเวอร์บายในเครือเซ็นทรัล และเพาเวอร์มอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ ที่ออกโรงย้ำชัด หลังน้ำลดเตรียมออกแคมเปญลดแลกแจกแถม เพื่อเร่งขายสินค้าในช่วงปลายปี พร้อมช่วยผู้บริโภคซื้อสินค้าในราคาประหยัด หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยบรรเทาทุกข์

สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เชื่อว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายได้เร็ว และธุรกิจยังคงมีความหวังในยอดขายปลายเดือนธันวาคม คาบเกี่ยวถึงมกราคมที่เป็นหน้าขายสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากซื้อเป็นของขวัญให้กันและกันแล้วในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ยังมั่นใจว่าหลังสถานการณ์น้ำลดจะส่งผลดีต่อไตรมาส 1 ปีหน้าเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าจำเป็นในบ้าน

“เราได้เตรียมความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้หลายทาง ทางตรงคือการลงพื้นที่ช่วยเหลือ ขณะนี้ได้พูดคุยกับทางซัปพลายเออร์แบรนด์สินค้าและสถาบันการเงินเพื่อหาแคมเปญพิเศษออกมา จะเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายบริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้า ทั้งในส่วนของดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และสินค้าใหม่ที่เราเตรียมไว้เพื่อเข้ามาช่วยเร่งยอดขาย อาทิเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น”

ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่ม ฯลฯ เฉพาะกระแสความตื่นตระหนกคนกรุงเทพฯก็ทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 ของค่ายต่างๆ พุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% บรรดาผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ก็เตรียมรับมือ ทั้งเพิ่มกำลังการผลิตและสต๊อกสินค้าไว้หลังจากน้ำลด

นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังได้ลดยกแผนกทั้งเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และแกดเจ็ตสุดล้ำ พิเศษช็อปผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ รับบัตรกำนัลส่วนลดเพิ่ม เงินคืนสูงสุด 25%และผ่อน 0% นาน 20 เดือน พร้อมรับคืนสูงสุด 10% กับ Citi M Visa และCitibank พิเศษสุดเฉพาะสมาชิก M Card รับสิทธิพิเศษสูงสุด 12% ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์

4.จำหน่ายอุปกรณ์ไอที

แน่นอนว่าอีกหนึ่งตลาดที่จะมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างมากในช่วงหลังน้ำลด คือ ตลาดสินค้าไอที เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันอุปกรณ์ไอทีเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป โน้ตบุ๊ก และแท็บเลต

การซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเดิมที่ชำรุด น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยผู้ประกอบการค่ายต่างๆ คงจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการตัดสินใจรวดเร็วขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีการจัดบริการพิเศษซ่อมและลดค่าใช้จ่ายอะไหล่ก็ตาม

ทางด้าน เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด โดย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับกำลังซื้อของตลาดไอทีหลังน้ำลดว่า เอเซอร์มองปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ตลาด ได้แก่ หนึ่ง-คอนซูเมอร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไอทีใช้ภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์พีซี เป็นต้น โดยด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเข้ามาใหม่อาจจะต้องรอถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเป็นลำดับแรก และสอง-กลุ่มองค์กร ตลาดกลุ่มนี้คาดว่าอาจจะเริ่มกลับมาทันที เพราะความต้องการเครื่องทดแทนมีมาก โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบที่มีเป็นจำนวนมาก

“ยังไม่มีการประเมินตัวเลขว่าตลาดคอนซูเมอร์จะหดตัวลงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปกติไตรมาส 4 กำลังซื้อหดยู่แล้วประมาณ 5-10% ดังนั้น จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น จึงน่าจะส่งผลให้ตลาดหดตัวลงมากกว่า 10%”

นิธิพัทธ์บอกว่า แผนการรับมือกำลังซื้อตลาดองค์กร หลังน้ำลดของเอเซอร์ เบื้องต้นได้วางไว้ 2 แนวทาง สำหรับแนวทางแรกได้มีการจัดตั้งรถเคลื่อนที่เข้าไปดูแลซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมทำการซ่อมเครื่องให้เสร็จภายใน 1 วัน ส่วนแนวทางสอง หากเครื่องไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะเป็นการให้ลิสซิ่งในการซื้อเครื่องใหม่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ ค่ายโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด นั้น ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศ ส่วนธุรกิจไอที เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ยอดขายของโตชิบาลดลง20-30% เพราะวิกฤติน้ำท่วมสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในพื้นที่หลายจังหวัด เนื่องจากรถส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ได้ ทำให้ยอดขายสินค้าในช่วงนี้ลดลงไป อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 บริษัทยังคาดหวังยอดขายในงานคอมมาร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะพยายามจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย

สำหรับแผนรองรับหลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ทางโตชิบาจะขยายเครดิตในการชำระเงินของดิสทริบิวเตอร์ให้มีเวลานานขึ้น และเตรียมสต็อกสินค้าให้กับร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีสินค้าขายต่อไป อีกทั้งในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจะพยายามกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายด้วยการนำเสนอโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม

“แม้จะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แต่บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งยอดขายทั้งปียังวางไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีจะเห็นชัดเจนในช่วงเดือนธันวาคม 2554-มกราคม 2555 ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าไอทีเติบโตเพิ่มขึ้น 10%” ถกล กล่าวปิดท้าย

ขณะที่ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต โดยกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ปฐม อินทโรดม มองว่า หลังน้ำลดจะมีกำลังซื้อก้อนหนึ่งที่อั้นไว้ตั้งแต่ไตรมาส 3 กลับมา แต่อาจไม่ถึง 100%

“ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้เป็นวงกว้าง จึงไม่แน่ใจจะฟื้นเร็ว เพราะกลุ่มอุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ จะเป็นตลาดแรกที่ฟื้นฟูกลับเต็มร้อย จากนั้นจึงเป็นสินค้ากลุ่มไอที โดยคาดว่าอย่างเร็วสุดตลาดรวมไอทีน่าจะฟื้นในไตรมาส 4 อย่างช้าก็ไตรมาส 1 ปีหน้า” ปฐมกล่าว และหวังว่ากำลังซื้อระยะสั้นที่อั้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 จะกลับมาหลังน้ำลด ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรวมไอที โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้นเพื่อสร้างมั่นใจลูกค้า รวมถึงย้ายวันจัดงานคอมมาร์ตจากปลายเดือนตุลาคม มาเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่มดังกล่าว

ในส่วนของราคาสินค้า เชื่อว่าจะมีการคงราคาหรือปรับลงอย่างมาก รวมถึงอาจจะมีแคมเปญทางการตลาดเพื่อดึงดีมานด์ในช่วงเดือนสุดท้ายอย่างหนัก

การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ละรายต้องพยายามที่จะสร้างยอดขายปิดปลายปีให้เข้าเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี จึงน่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจในการเลือกซื้อสินค้าจากแคมเปญโปรโมชั่นที่จะถูกจัดเต็มและจัดหนักจากผู้ประกอบการทุกค่าย

5.จำหน่ายรถยนต์รับอานิสงส์
รถใหญ่ขายดี-บริการซ่อม

ไม่เพียงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้สำนักงานที่คาดว่าผู้ซื้อจะมีความต้องการอย่างมากหลังวิกฤติน้ำผ่านพ้นไป อีกโปรดักส์หนึ่งสำคัญ นั่นคือ รถยนตร์ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ เพราะรถยนต์หลายคันทั้งเก่าและใหม่ได้รับความเสียหายจมน้ำเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะต้องซื้อหารถยนต์ใหม่ และบางรายที่ใช้รถคันเก่าก็ได้โอกาสเปลี่ยนเป็นคันใหม่

บุรินทร์ โอภาสเศรษฐกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วอลโว่ ทรัคส์ แอนด์ บัส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกวอลโว่ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหลังจากน้ำลด ตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากมีความต้องการรถบรรทุก สำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งการขนส่งสินค้าสาธารณูปโภค อุปกรณ์ก่อสร้างหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ที่เสียหายไป

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถบรรทุกก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วม เติบโตขึ้นจากปี 2553 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ 16 ตันขึ้นไป ซึ่งคาดว่าปี 2554 จะมียอดขายรวม 1 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 15-20% โดยในส่วนของวอลโว่ ช่วง 8 เดือนแรก มียอดขายที่เติบโต 87% และคาดว่าปีนี้จะทำได้ 500 คัน ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 200 คัน

“การขยายตัวของตลาดมาจากลูกค้าขยายงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี งานเหมือง และขนส่งสินค้าทั่วไป รวมไปถึงการขยายงานไปต่างประเทศอย่างลาว ที่มีทั้งงานเหมือง และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่นอกพื้นที่น้ำท่วม การเติบโตอย่างรวดเร็วของวอลโว่ เนื่องจากมีการวางแผนธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะการเน้นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การเปิดโปรแกรม เซอร์วิส คอนแทร็กต์ ที่ช่วยลูกค้าคิดค่าใช้จ่ายเป็นกิโลเมตร การเป็นค่ายแรกๆ ที่จัดกิจกรรมฝึกทักษะขับขี่ให้แก่พนักงานขับรถของลูกค้า การมีแอ็กชัน เซอร์วิส ที่จะช่วยให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้น” บุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากธุรกิจจำหน่ายรถยนตร์ทั้งขนาดเล็กและรถใหญ่เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้าหรือผู้ประสบภัยที่มีหลายจังหวัดในประเทศไทย อีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่นิยม ได้แก่ ธุรกิจบริการซ่อมบำรุงรถยนตร์ ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนตร์จากญี่ปุ่นและยุโรปแบรนด์ดังๆ ในธุรกิจ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า เบนซ์ ล้วนมีบริการซ่อมบำรุงให้กับลูกค้ารวมทั้งธุรกิจคาร์ แคร์ ที่คงได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ประสบภัยอย่างแน่นอน

คู่มือซ่อมบ้าน-ซ่อมรถ
แนะเคล็ดลับกู้วิกฤต

ภัยน้ำท่วมสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินทั้งบ้านและรถ แต่สิ่งที่สำคัญหลังจากนั้น คือ การซ่อมบำรุงรักษาสำหรับทรัพยสินที่ถึงแม้ว่าจะจมน้ำ แช่น้ำ และโดนน้ำท่วม หากไม่หนักหนาสาหัสก็จำเป็นต้องตรวจเช็ก งานนี้จึงต้องพึ่งที่ปรึกษา และกูรูทั้งหลายทั้งด้านบ้านและรถยนต์ แนะเคล็ดลับกู้ทรัพย์สินหลังน้ำลดทั้งด้วยตัวเองและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ

ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิกที่มีชื่อเสียง “ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์” เจ้าของผลงานเขียนร้อยพันปัญหาในการก่อสร้าง และพิธีกรปกิณกะทางโทรทัศน์ รายการ “หมอบ้าน” และรายการวิทยุ “คุยกับหมอบ้าน” แนะนำเคล็ดลับการฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วมว่า สำหรับการซ่อมแซมพื้นบ้านหลังน้ำท่วม กรณีถ้าพื้นไม่เสียหาย ก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็สามารถใช้ได้ แต่ถ้าเสียหาย มีวิธีแก้ไข คือ กรณีพื้นไม้ปาร์เกต์ จะหลุดล่อนง่ายเมื่อโดนน้ำท่วม เพราะติดกับพื้นคอนกรีตด้วยกาว

วิธีแก้ก็คือ ถ้าแผ่นปาร์เกต์ไม่เสียหายมากก็ผึ่งลมให้แห้งก่อน รวมถึงพื้นคอนกรีตด้วย แล้วจึงทาด้วยกาวลาเท็กซ์ หนา 1-2 มิลลิเมตร ค่อยๆ กดลงไปที่เดิมให้แน่น ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วันจึงใช้งานได้ ถ้าเสียหายมากจะเปลี่ยนใหม่ต้องใช้ไม้ชนิดเดียวกับของเดิม สำหรับพื้นพรมต้องลอกออก แล้วนำไปซักและตากแดดให้แห้งสนิท แล้วจึงนำกลับมาปูใหม่ โดยพื้นคอนกรีตต้องแห้งก่อนเช่นเดียวกัน

สำหรับผนังบ้าน วัสดุต่างๆ ที่ใช้ทำผนังบ้าน เมื่อเวลาถูกน้ำท่วมนานๆ ก็จะเกิดความเสียหายแน่นอน มี วิธีแก้ไข คือ วิธีแรก ถ้าเป็นผนังไม้ เช็ดทำความสะอาด เพื่อให้ผิวสามารถระเหยความชื้นได้ง่าย เมื่อแห้ง ดีแล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชะโลมที่ผิว หรือทาสีต่อไป วิธีที่ดีควรทาสีด้านในบ้านก่อน ทิ้งไว้ 5-6 เดือน จึงทาสีด้านนอก

วิธีที่ 2 ถ้าเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน ก็ใช้วิธีเดียวกับผนังไม้ แต่ต้องทิ้งให้ระเหยความชื้นนานกว่า ผนังไม้ เพราะมีความหนามากกว่า และวิธีที่ 3 ถ้าเป็นผนังยิบซั่มบอร์ด ก็เลาะเอาแผ่นที่เสียออก ถ้าโครงเคร่าเป็นโลหะก็สามารถติดแผ่นใหม่ได้เลย แต่ถ้าโครงเคร่าเป็นไม้ ต้องทิ้งไว้ให้ความชื้นในไม้ระเหยหมดก่อน จึงจะติดแผ่น ใหม่ได้

การซ่อมวอลเปเปอร์หลังน้ำท่วม กรณีฝ้าเพดาน จะมีลักษณะคล้ายๆ การซ่อมผนังและพื้นปนกัน มีวิธีการแก้ไขคือ ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ด หรือกระดาษอัด ถ้าเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำ ก็ควรเลาะ ออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย ทิ้งไว้ให้ทั้งหมดแห้งสนิทจริงๆ แล้วจึงทาสีทับ หากเป็นฝ้าโลหะ ให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อย แล้วจึงทาสีทับเข้าไปใหม่และ ระบบสายไฟส่วนใหญ่ จะเดินในฝ้าเวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูว่าความเรียบร้อยว่า มีส่วนใดชำรุดหรือเปล่าด้วยและถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้ เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับก่อน

การติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่ สำหรับประตู เมื่อถูกน้ำแช่อยู่นานๆ ก็จะบวมขึ้น หรือไม่ก็จะเกิดเป็นสนิม มีวิธีแก้ไขคือ กรณีแรก ประตูไม้ เมื่อโดนแช่น้ำก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้ก็โดยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมาก ก็ควรจะเปลี่ยนเลย และ กรณีที่ 2 ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยอย่าลืมทาสีกันสนิมก่อน แต่อย่าลืมดูรอยต่อต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็กว่า มีน้ำหลงเหลืออยู่เหลือเปล่า ต้องให้แห้งจริงๆ ก่อนจึงจะทาสีได้การซ่อมแซม บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจหลังน้ำท่วม

อุปกรณ์ต่างๆ เช่น บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ ทำด้วยโลหะ เมื่อโดนน้ำท่วมย่อมมี ปัญหาตามมา มีวิธีแก้ไข คือ เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำยาหล่อลื่นชโลมตามจุดรอยต่อและรูต่างๆ ให้ทั่ว และอย่าใช้จาระบี หรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้ จะทำให้ฝังอยู่ข้างใน และจะเป็นปัญหาในภายหลัง หากถ้ายังใช้การไม่ได้ ก็ลองทำตามวิธีที่ว่านี้หลายๆ ครั้ง ถ้ายังมีปัญหาก็ควรจะต้องถอดออก แล้วซื้อมาเปลี่ยนใหม่

สำหรับการทาสีบ้านหลังน้ำท่วม การทาสีบ้านหลังน้ำท่วม ควรจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย ควรที่จะซ่อมแซมส่วนอื่นๆ เสียก่อน ปล่อยให้แห้งสนิทก่อน แล้วจึงทำการแก้ไข เพราะสีทุกชนิดที่ใช้ทาบ้าน เมื่อโดนน้ำท่วมนานๆ ก็จะเกิดการลอกและล่อนออกมาได้ เนื่องจากความชื้นของน้ำ วิธีแก้ไขคือ ต้องขูดสีเดิมที่ลอกและล่อนออก ทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อย ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท ถ้าทำได้ควรจะเป็น 3-6 เดือนเลยยิ่งดี เมื่อแห้งแล้วจึงทาสีรองพื้นชนิดกันเชื้อรา แล้วจึงทาทับด้วยสีจริงอีกอย่างน้อย 2 ครั้งการตรวจสอบระบบประปาหลังน้ำท่วม

คู่มือซ่อมรถหลังน้ำลด

สำหรับรถยนต์ การดูแลรถหลังน้ำท่วม จากข้อมูล auto.sanook.com แนะนำเทคนิคซ่อมรถยนต์น้ำท่วมนั้นนับว่าเป็นเรื่องของอาชีพช่างยนต์กันเสียส่วนใหญ่ ที่งานเข้าหลังจากภัยพิบัติครั้งนี้ แต่เพื่อความสบายใจเราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักว่าอะไรบ้างที่ต้องซ่อมและดูแล หลังเหตุการณ์น้ำท่วมและอะไรบ้างที่สำคัญ

1.ตรวจความเสียหาย ข้อแรกที่สำคัญและต้องทำหลังน้ำลดลงไปจนกลับสู่สภาวะปกตินั้นคือการตรวจสอบความเสียหายของรถ ดูให้หมดทั้งภายในภายนอก เปิดฝากระโปรงเช็คเครื่องให้ครบครัน และถ้ารถคุณมีประกันภัยชั้น 1 ก็อย่าลืมแจ้งประกันด้วย จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อม

2.อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เรามักย้ำเป็นประจำในข้อนี้เกี่ยวกับการดูแลรถหลังน้ำท่วม เนื่องจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แบบสุ่มสี่สุ่มห้านั้นอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะเศษผงต่างที่มากับน้ำสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ได้ อีกประการคือรถที่แช่น้ำนานๆจะมีความชื้นจะสามารถสร้างความเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน

3.ส่งสู่มือช่าง เมื่อตรวจสอบเรียบแล้วก็ได้เวลาที่เราต้องส่งสู่มือช่างผู้ชำนาญการให้ดำเนินการ โดยในการส่งรถที่รักไปซ่อมแซมความเสียหายนั้น ควรรายงานระดับน้ำที่รถคุณไปว่ายน้ำมา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบทางด้านต่างๆของช่าง ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น

4.อะไรบ้างที่จะเสีย แน่นอนเราไม่แนะนำให้คุณซ่อมรถน้ำท่วมเอง เพราะคุณจะปวดหัวกับมันอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยก็ควรต้องรู้บ้างว่าอะไรที่จะเสียหายบ้าง เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย กรณี ด้านเครื่องยนต์ ตามปกติแล้วความเสียหายของเครื่องยนต์นั้น จะเกิดขึ้นในระบบ Intake หรือระบบดูดอากาศ ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือ “กรองอากาศ” เพราะขี้ผงจากน้ำนั้นจะเข้าไปติดอยู่ในส่วนนี้เสียมาก ช่างจะต้องถอดหม้อกรองออกมาล้างทำความสะอาดอย่างแน่นอน ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ แต่ถ้าแจ็คพอทก็เจอ น้ำเข้าเครื่อง ก็ต้องมีการถอดประกอบเครื่องยนต์ เพื่อความสะอาด ซึ่ง อาจจะรวมถึงชุด "หัวเทียน" ที่จะเสื่อมสภาพจากสภาวะความชื้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวกเซ็นเซอร์นั้นก็ต้องเช็คตามปกติ

ที่สำคัญต้องได้มีถ่ายของเหลวทุกชนิด ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย อาจจะรวมถึงน้ำยาหม้อน้ำด้วย เพื่อความไม่ประมาท เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าไปทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดความเสียหายได้

กรณีช่วงล่าง น้ำท่วมนั้นสามารถสร้างความเสียหายกับระบบช่วงล่างได้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกลูกยางต่างๆ ที่ฝืดจากการโดนความชื้นในการแช่น้ำเป็นระยะเวลานานๆ ตามปกติแล้ว รถที่โดนน้ำท่วมเป็นเวลานานๆนั้น จำเป็นต้องอัดจาระบีใหม่ เนื่องจากน้ำทำให้จาระบีเก่าเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะการอัดจาระบีเพลาขับ และลูกปืนล้อทั้ง 4 ล้อ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่มีจารบีหล่อยู่อาจจะทำให้ลูกปืนแตก หรือ เพลาขับมีเสียดัง ทำให้เกืดความร้อนสะสม จนนำไปสู่เพลาขับรูด หรือลูกปืนเพลาขับแตก อันตรายมาก โดยเฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า

นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบและทำความสะอาดระบบเบรค โดยเฉพาะรถที่ใช้ระบบดิสเบรก อาจจะมีเศษผงเข้าไปติด ทำให้เบรคมีประสิทธิภาพลดลงและอาจจะกินจานเบรคได้ในระยะยาว ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการเปลี่ยนน้ำมันเบรคที่อาจจะมีการเสื่อมประสิทธิภาพด้วย

กรณีระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่แล้วความเสียหายจากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ระบบไฟฟ้าเสียมากกว่า ซึ่งประเด็นสำคัญก็ไม่พ้นการไล่ความชื้นในระบบ ที่จำเป็นต้องให้เป็นหน้าที่ของช่าง แต่ถ้าคุณโชคร้าย ก็อาจจะพบว่า ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ECU ลากลับบ้านเก่า นี่ยังไม่นับกล่องเกียร์ที่มักติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำเช่นกัน

5.ทำความสะอาดภายในได้เวลาลุย เมื่อรถคุณพ้นจากมือช่างเครื่องยนต์มาได้ขับได้เป็นติดสุขแล้ว ก็ให้มาจัดการในเรื่องภายในห้องโดยสารก่อน อย่างที่ได้บอกไปแล้วแต่เริ่มต้นว่าน้ำที่ท่วมนั้น เป็นน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด และยิ่งคุณทิ้งไว้นานก็ยิ่งจะทำให้มีกลิ่นอับ ดังนั้นขั้นแรก คุณต้องอาศัยคาร์แคร์ต่างๆ ในการถอดพรม-ซักเบาะ และทุกอย่างให้เอี่ยมอ่อง

หลังจากนั้นก็ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกลิ่นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ถือโอกาสล้างตู้แอร์ก็จะเป็นการดีใช่น้อย โดยเฉพาะถือโอกาสนี้เปลี่ยนน้ำยาแอร์เผื่อน้ำอาจจะซึมเข้าระบบ และที่สำคัญรถบางคันนั้นมีกรองแอร์อันนี้ต้องเปลี่ยนสถานเดียว เพราะส่วนใหญ่ เมื่อโดนน้ำแล้วกลิ่นจะติดครับ

6.สนิมภัยร้ายที่รอวันย่างกราย เราอาจจะเสร็จเรื่องเครื่องและภายในห้องโดยสารกันไปเรียบร้อย แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่องของตัวถังด้วย โดยเฉพาะรถใครที่มีบาดแผลจากการชนก่อนน้ำท่วม อันนี้พึงระวังให้ดี เพราะสนิมนั้นจะถามหาอย่างไม่ต้องสงสัย หลังน้ำท่วมทางที่ดี แวะไปทำสีในจุดที่เกิดการชนก็ดีใช่น้อย เพราะจุดนั้นอาจจะเป็นสนิม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการผุและเสียหายได้ในท้ายที่สุด

ทั้งนี้ ด้วยการดูแล 6 ขั้นตอนที่ควรทำจากเราก็น่าจะทำให้รถของเพื่อนๆ กลับมาเหมือนเดิมไม่มากก้น้อย แต่ข้อสำคัญนั้นคือเวลา และทุนรอน บางทีค่อยๆ ทำ ทำสิ่งที่สำคัญก่อนก็จะช่วยให้รถอยู่คู่คุณไปอีกนาน

แบงก์ฝ่าวิกฤติน้ำท่วม
หั่นดอกเบี้ย - ช่วยลูกบ้าน

ไม่เพียงแต่ 9 แบงก์รัฐนำทัพ โดยแบงก์ออมสิน-กรุงไทย-ธ.ก.ส. ที่แห่ระดมกันมาช่วยลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย แต่แบงก์พาณิชย์ทั้งใหญ่และเล็กทั้งแบงก์กรุงเทพ-ทหารไทย-ไทยพาณิชย์ ต่างพาเหรดคลอดแพกเกจกันอย่างคึกคัก ในรูปแบบทั้งพักหนี้-ลดดอกเบี้ย-อัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนอุ้มลูกหนี้ฝ่าวิกฤตน้ำท่วม

แม้วิกฤตน้ำท่วมยังไม่ทีทีว่าจะลดลงอย่างเร็ววันนี้ แต่หน่วยงานของรัฐกระทรวงการคลัง เดินหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 ซึ่งปัจจุบันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 กระทรวงการคลังได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ไม่ว่า จะเป็น มาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่

หนึ่ง - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำหนดเกณฑ์ กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ โดย ธ.ก.ส.รับภาระเอง อีกทั้งขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้เดิมเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และงดคิดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท และลดดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราปกติที่ ธ.ก.ส.เรียกเก็บจากลูกค้าลงร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยติดต่อสายด่วน 02 2800180 ต่อ 2352

สอง - ธนาคารออมสิน ในด้านสินเชื่อเคหะ แบบที่หนึ่ง-ให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย หรือพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 6 เดือน แบบที่สอง-ปรับลดเงินงวด และ/หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการให้สินเชื่อเคหะของธนาคาร (ไม่เกิน 30 ปี) โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1115

แบบที่สาม - ให้กู้เพิ่มเพื่อเป็นเงินกู้กรณีฉุกเฉินรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 ร้อยละ 3.25 ต่อปี ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี และแบบที่สี่- เงินกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิมรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์เดิม สำหรับประชาชนทั่วไปไม่เกินรายละ 300,000 บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับร้อยละ 3.25 ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี

ส่วนสินเชื่อธุรกิจและ SMEs ก็ยังมีให้ พักชำระหนี้เงินต้น โดยผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน รวมทั้ง ขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เดิมได้ไม่เกิน 1 ปีและ ให้กู้เพิ่มรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับร้อยละ MLR-1.50 ต่อปี ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี

สาม - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สายด่วน 02 6459000 กำหนดให้ วงเงินให้กู้สำหรับลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่เพื่อปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคารไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร/ค่าซ่อมแซมอาคาร ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยแบ่งเป็น

สี่ - ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กำหนดวงเงินกู้เพื่อปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 6 ปี และระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 2 ปีรวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ร้อยละ 8 ต่อปีตลอดอายุสัญญา โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ดังนั้นผู้ประกอบการจะจ่ายจริงที่ร้อยละ 6 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ที่สำคัญ ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1357

ห้า - ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีการโครงการยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพ ในรูปแบบแรก-ผ่อนปรนการชำระหนี้ ทั้งส่วนเงินต้นและกำไร เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเดือนที่ 4-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไร โดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิมร้อยละ 1 หลังจากนั้นคิดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม หรือชำระเฉพาะส่วนกำไรเป็นระยะเวลา 12 เดือน เดือนที่ 13-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไรตามสัญญาเดิม โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1302

ในรูปแบบ ให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติมที่อยู่อาศัย และ/หรือสถานประกอบธุรกิจ ที่ได้รับความเสียหายตามความจำเป็น ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม/หลักประกันอื่นเพิ่มเติม และให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับใช้หมุนเวียนในธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากการได้รับผลกระทบทางอ้อม ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม และมี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 7 ปีสำหรับสินเชื่ออเนกประสงค์ และไม่เกิน 30 ปีสำหรับสินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมที่อยู่อาศัย

หก - ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ได้มีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออก ในลักษณะขยายระยะเวลาการรับชำระหนี้ หรือการต่อตั๋วเกินเทอมและปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการนำเข้า ในรูปแบบ ขยายระยะเวลาการกู้ Trust Receipt และปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2271-2929

เจ็ด - บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก็ได้มีการกำหนดพักการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้า บสย. ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยปี 2554 และถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง 31 มีนาคม 2555 และให้ความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ในการผ่อนปรนเรื่องการพักชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2302-2741 ต่อ 157

แปด - บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) มีการกำหนดให้พักชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน แ ละ ปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปรวมไม่เกิน 30 ปี พร้อมทั้ง ในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะขอกู้เพิ่มเพื่อนำเงินไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย บตท. จะเป็นผู้ประสานกับสถาบันการเงินเพื่อให้กู้เพิ่มต่อไป โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2618-9933

เก้า - ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. กรุงไทย) ในรูปแบบ เงินกู้กรุงไทยสู้อุทกภัย ให้วงเงินกู้ประจำ (T/L) ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และ เงินทุนหมุนเวียนกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารจะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม รวมทั้งโครงการกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายแต่ไม่ประสงค์กู้เพิ่ม โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2
208-4171

นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทยสู้อุทกภัย ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดย ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทุกบัญชีแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554

ทางด้านแบงก์เอกชนขนาดใหญ่หลายแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มมาตรการผ่อนชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยลูกค้าบัตรเครดิตจะผ่อนผันลดยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือเพียง 0-10% และผ่อนผันชำระดอกเบี้ย โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50% จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2555 หากถึงกำหนดเวลาดังกล่าวลูกค้ายังคงประสบปัญหา ธนาคารจะพิจารณาขยายระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษนี้ออกไปอีก 6 เดือน (สิ้นเดือน ธ.ค. 2555)

ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อบ้านบัวหลวง จะผ่อนผันให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือปรับลดยอดการผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศให้สินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษในปีแรก 5% และเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ในปีถัดไป สามารถผ่อนชำระสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้สูงสุด 5 ปี

ทางด้าน ธนาคารทหารไทย ได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จะพิจารณาเป็น ราย ๆ ทั้งสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับซ่อมแซมอาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ซึ่งจะเป็นสินเชื่อระยะยาวประมาณ 5 ปี และมีระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความเสียหายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฟื้นฟู นอกจากนี้จะขยายระยะเวลาผ่อนชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนอีกสูงสุดเป็นเวลา 6 เดือน

สำหรับลูกค้าบุคคลจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบุคคลเป็นกรณีพิเศษ และผ่อนผันเกณฑ์ชำระเงินสำหรับลูกค้า ที่ค้างชำระหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบีแคชทูโกจะพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อเท่ากับวงเงินสินเชื่อเดิมที่มีอยู่กับธนาคาร และเพิ่มโบนัสพิเศษให้อีก 10% ของวงเงินสินเชื่อ ในวงเงินกู้ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท สูงสุด 5 เท่าของรายได้ โดยธนาคารจะดำเนินการหักกลบลบหนี้สินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโกที่มีอยู่เดิม และจะโอนเงินส่วนที่คงเหลือให้ลูกค้าต่อไป โดยลูกค้ายังไม่ต้องชำระค่างวดในช่วง 3 เดือนแรกนับจากวันอนุมัติ แต่จะเริ่มผ่อนชำระค่างวดตั้งแต่เดือนที่ 4 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดให้อีก 3 เดือน

นอกจากนี้ธนาคารยังขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้เพิ่มอีก 3 เดือน ลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีค่างวดค้างชำระตั้งแต่ 1-30 วัน หากเป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสามารถขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นโดยยังไม่ต้องชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระจากปัจจุบันออกไปอีก 6 เดือน

สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ มาตรการช่วยเหลือทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรทุกขนาด ประกอบด้วย ลูกค้าขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ราย จากเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ปทุมธานี และสมุทรปราการ ช่วยเหลือบริษัทไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าของทางธนาคารเท่านั้น โดยธนาคารเตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบความช่วยเหลือมีทั้งการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มวงเงินพิเศษ

สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน

ขณะเดียวกัน ในด้านร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธนาคารเปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชีเดินสะพัด ชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 สาขารัชโยธิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต สามารถบริจาคผ่านสาขากว่า 1,062 สาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารที่มีกว่า 8,363 เครื่องทั่วประเทศ รวมถึงผ่านบริการ SCB Easy Net
untrataro25
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1053
ผู้ติดตาม: 39

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 9

โพสต์

IKEA เฟอร์นิเจอร์แบบ Knockdown
เปิดเมื่อไหร่ ขายถล่มทลาย :mrgreen:
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
magicmoon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 94
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เปิดแล้วนะคับ ใครไปมาแล้วบ้าง วันแรกๆคนน่าจะเยอะอยู่
ความสุขที่แท้จริง อยู่ที่ใจเรานั่นเอง
เกล้า
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1190
ผู้ติดตาม: 1

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมว่าสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต
ที่ชะงักงันไปตอนน้ำท่วม..แต่หลังจากน้ำลดและทุกอย่าง
เข้าสู่ภาวะปกติ..จะมีแรงซื้อโหมเข้ามามากกว่าปกติ
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เกือบทุกอย่าง :B
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 13

โพสต์

หลังน้ำลด...คงต้องว่ากันอีกที
แต่ระหว่างน้ำท่วมนี้ สิ่งที่น่าจะขายดีมากๆคือ BB ครับ








BB = บิ๊กแบ็ก (Big Bag) อ่ะนะขอรับ
วางเรียงกันหลาย กม. ใครขายหว่า???

http://www.globalfloodsolutions.com/pro ... ag-system/
แนบไฟล์
imagesCA5G4Q1Q.jpg
imagesCAIU3U1R.jpg

"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
tanatat
Verified User
โพสต์: 348
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 14

โพสต์

หลังน้ำลดในกรุงเทพ ก็ต้อง ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ถังน้ำ ที่ตักขยะ ถุงไส่ขยะ แล้วค่อยตามมาด้วย ไดร์เป่าผมเป่าให้พื้นผนังบ้านแห้ง เป่าพรมในรถให้แห้ง อ๋ออีกอย่างโซเน็กซ (ที่ใช้ฉีดกันสนิมและไล่ความชื้น) เผลอๆอาจเห็นไม้กวาดขึ้นราคาหลายเท่าตัว เหมือน ราคารองเท้าบู๊ต ราคาน้ำดื่ม ราคาเรือไฟเบอร์ฯ เรือยาง ตอนน้ำท่วมก็ได้นะครับ อ๋ออีกอย่างครับ ถุงยังชีพของรัฐบาลต้วยครับ ราคาขึ้นมาหลายเท่าเทียบกับของที่อยู่ในถุง
996gt3
Verified User
โพสต์: 61
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 15

โพสต์

อาหารครับ
เพราะคนที่ทานแต่มาม่ากับอาหารกระป๋องคงคิดถึง ข้าวสวยร้อนๆ ก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ส้มตำแซ่บๆ จั๊งค์ฟูดส์เพื่อสุขภาพ(เสีย) ฯลฯ

เรื่องทำบ้านยังไงก็คงต้องทำครับ แต่ไปหาอะไรกินให้หายอดอยากก่อน :D
guaycheng
Verified User
โพสต์: 40
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 16

โพสต์

หุ้นบริษัทที่ขายของที่ทุกท่านตอบไว้ด้านบนครับ 55 นึกไม่ออกแล้ว
OnlyRead
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 140
ผู้ติดตาม: 1

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 17

โพสต์

รถโฟวิวยกสูงน่าจะขายได้ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ รถเก๋ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ยาทัมใจ

:mrgreen: :mrgreen:
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 19

โพสต์

pm คนกินทาโร่ บิ๊กกุมากขึ้น
tnh คนไปรพรักษาโรคหวัด ฉี่หนู มากขึ้น
thani คนซื้อกะบะมากขึ้น
ktc คนใช้บัตรเครดิตมากขึ้น
kcar คนเช่ารถมากขึ้น

สนุกๆนะครับ555
wyn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 1

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ครีมโทนาฟครับ
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 21

โพสต์

แล้วพวกสิ่งทำความสะอาดบ้าน
อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน สีทาบ้าน พวกนี้ก็ต้องร้านที่ขายอุปกรณ์สร้างบ้าน
ก็มีอยู่ไม่กี่ค่ายที่จดทะเบียน มี SCC (ร้านวัสดุก่อสร้างตราช้าง) Hmpro Global เป็นต้น

ส่วนเรื่องที่ซ่อมแซมถนนหนทางก็ต้องให้พวก ITD CK พวกนี้ละ
แต่พวกที่รับงานก่อสร้างงานรถไฟฟ้าก็รับบทหนักด้านต้นทุนการก่อสร้างหน่อย
และเวลาการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ส่วนที่ดินตอนนี้เริ่มมีราคาขยับจากกรมธนารักษณ์ที่จัดทำราคากลางที่ดิน (ยังไม่เอาผลกระทบจากน้ำท่วมมาคิดในราคาที่ดินที่ประกาศปี 2555) แนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากที่สุด

ต่อมาการซ่อมแซมและซื้อใหม่ทดแทน อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องสำรวจตรวจสอบกันเอาเองล่ะรายการข้างต้น
แต่ที่เห็นๆ ต้องซ่อมได้กับการขนส่งเมืองไทย ที่ของไม่ขาดแต่ขนส่งไม่ได้เป็นปัญหามากกว่า
(อ่านไทยรัฐวันนี้หน้า 8 หน้าเศรษฐกิจ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์มี TF และ CPF บอกว่าของไม่ขาดแต่สิ่งที่ขาดคือเส้นทางต่างหาก สัญญาณแบบนี้มันหมายความว่า โลจิติกส์ของไทยห่วยแตกแค่ไหน)

ตามด้วยสิ่งที่ต่อมาคืองานคือเงิน เงินคืองาน บรรดาสุข ตัวเลขการว่างงานของไทย
ต้องจับตาดูหลังน้ำลดลงว่า ยังคงโอเคนะคะ ไหม

:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ตามด้วยสิ่งที่ต่อมาคืองานคือเงิน เงินคืองาน บรรดาสุข ตัวเลขการว่างงานของไทย
ต้องจับตาดูหลังน้ำลดลงว่า ยังคงโอเคนะคะ ไหม


ผมกด Like 1000 ครั้งเลยครับ ได้ข่าวมีแต่คนจ้องให้ไทยกู้ ดอกต่ำๆทั้งนั้น

เอาอยู่ค่ะ ดอกต่ำ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 23

โพสต์

คงต้องเอางบ ส่วนใหญ่มาทำถนน ทำเขื่อนกั้นน้ำท่วม ทำเมืองใหม่ ชดเชย ประชาชน

ส่วนแท๊ปเลตฟรีคงต้อง สมัยหน้านะ ถ้าเอาอยู่


คนไทยลืมง่าย แต่ญี่ปุ่นถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาจริงจัง ระวังเค้าจะย้ายฐานไปแล้วคนไทย

จะเศร้า ภาคแรงงาน คิดเป็นหลักหลายล้านอัตรา ลองเค้าทิ้งเราไป เราคงไม่ต่างจาก

ศพที่เดินได้ ผมว่านักลงทุนเองและคนที่คิดจะมาลงทุน รอดู การแก้ไขไม่ใช่แก้ตัว
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 24

โพสต์

เรื่องปัญหาคนว่างงานนะคงไม่มีปัญหา เพราะโรงงานอุตสาหกรรมคงไม่กล้าที่จะปลดคนงานแน่ๆ

ปัญหาครั้งนี้เป็นปัญหาระยะสั้น ไม่เกินสองเดือนโรงงานก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ ต่างจากปี 40 และวิกฤต Sub Prime ที่ปัญหายาวนานกว่ามาก และเป็นปัญหาเรื่องความต้องการสินค้าลดน้อยลง

อีกทั้งการรับพนักงานใหม่ต้องเสียเวลาและความใช้จ่ายสูง จากที่เราเห็นหลายโรงงานต้องประสบปัญหาขาดแคลนคนงาน หลังจากวิกฤต Sub Prime จบลง

แรงงานต่างด้าวเองก็กลับประเทศไปมาก ผมจะกลัวแต่จะขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรมที่พึงพาแรงงานต่างด้าวเป็นหลักซะมากกว่า
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 25

โพสต์

chatchai เขียน:เรื่องปัญหาคนว่างงานนะคงไม่มีปัญหา เพราะโรงงานอุตสาหกรรมคงไม่กล้าที่จะปลดคนงานแน่ๆ

ปัญหาครั้งนี้เป็นปัญหาระยะสั้น ไม่เกินสองเดือนโรงงานก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ ต่างจากปี 40 และวิกฤต Sub Prime ที่ปัญหายาวนานกว่ามาก และเป็นปัญหาเรื่องความต้องการสินค้าลดน้อยลง

อีกทั้งการรับพนักงานใหม่ต้องเสียเวลาและความใช้จ่ายสูง จากที่เราเห็นหลายโรงงานต้องประสบปัญหาขาดแคลนคนงาน หลังจากวิกฤต Sub Prime จบลง

แรงงานต่างด้าวเองก็กลับประเทศไปมาก ผมจะกลัวแต่จะขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรมที่พึงพาแรงงานต่างด้าวเป็นหลักซะมากกว่า
+1ครับ ถ้าพวกต่างด้าวจากไป พวกเรืออาหารทะเล หรือโรงงานทอผ้าหรือปลากระป๋อง

คงจะปวดหัวไม่น้อย

แรงงานต่างดาว ล้วนๆ


เรื่องปัญหาคนว่างงานนะคงไม่มีปัญหา เพราะโรงงานอุตสาหกรรมคงไม่กล้าที่จะปลดคนงานแน่ๆ
--แรงงานที่มีโนฮาว หาไม่ง่ายอย่างที่พี่ฉัตรว่า แต่พวก แรงงานจ้างรายวัน อาจจะกระทบหน่อย


ช่วงไม่มีงาน พวกซัพคอนแทค ก้ต้องหนีน้ำไปจังหวัด ที่ไม่ท่วม
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
Feudalz
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1125
ผู้ติดตาม: 304

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ไม่ว่าอะไรจะขายได้ ขายดี ยังไงคนก็ต้องใ้ช้เงินซื้อของครับ

ถ้าไม่มีเงินก็ต้องพึ่งสินเชื่อส่วนบุคคล จะบัตรกดเงินสดหรืออะไรก็แล้วแต่ รวมถึงบัตรเครดิตด้วยครับ

แนวโน้มว่าคนจะใช้บัตรจ่ายไปก่อนก็มีสูง เพราะนายจ้างส่วนใหญ่ก็ยืนยันว่าจะไปปลดคนงาน

แต่อาจจะจ่ายเงินเดือนไม่เต็มร้อย ดังนั้นเมื่อคนคิดว่าตนไม่ตกงานและมีเงินไม่พอจ่าย ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ จ่ายก่อนผ่อนทีหลัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
jo7393
Verified User
โพสต์: 2486
ผู้ติดตาม: 1

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 27

โพสต์

Feudalz เขียน:ไม่ว่าอะไรจะขายได้ ขายดี ยังไงคนก็ต้องใ้ช้เงินซื้อของครับ

ถ้าไม่มีเงินก็ต้องพึ่งสินเชื่อส่วนบุคคล จะบัตรกดเงินสดหรืออะไรก็แล้วแต่ รวมถึงบัตรเครดิตด้วยครับ

แนวโน้มว่าคนจะใช้บัตรจ่ายไปก่อนก็มีสูง เพราะนายจ้างส่วนใหญ่ก็ยืนยันว่าจะไปปลดคนงาน

แต่อาจจะจ่ายเงินเดือนไม่เต็มร้อย ดังนั้นเมื่อคนคิดว่าตนไม่ตกงานและมีเงินไม่พอจ่าย ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ จ่ายก่อนผ่อนทีหลัง
กลัว NPL จะเพิ่มขึ้นมาด้วยสิครับ :D
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร  ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม  และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่

อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: อะไรจะขายดีเป็นพิเศษ หลังน้ำลด

โพสต์ที่ 28

โพสต์

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... &subcatid=


รูปภาพ
รูปภาพ


วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 12:40:19 น.
เปิดคู่มือคำนวณ "ค่าใช้จ่าย" วัสดุ-ค่าแรงฟื้นฟูบ้านจากน้ำท่วม



เป็นความเสียหายครั้งใหญ่จากมหาอุทกภัยที่ว่ากันว่าหนักที่สุดในรอบ 50 ปี เชื่อว่าภาพที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากต้องอยู่ในสภาพ จมบาดาล จะยังคงเป็นภาพติดตาคนไทยไปอีกพักใหญ่

แต่วิกฤตก็ย่อมมีวันจบ หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย กรุงเทพฯ ปริมณฑล และอีกหลายจังหวัด จะต้องเข้าสู่โหมด "ซ่อมแซม" ขนานใหญ่ โดยก่อนหน้านี้ "อิสระ บุญยัง" นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรประเมินว่า น่าจะมีบ้านจัดสรรถูก น้ำท่วมกว่า 100,000 หลัง และถ้านับรวมถึงบ้านปลูกสร้างเอง (นอกหมู่บ้านจัดสรร) และตึกแถว น่าจะมีบ้านทั่วประเทศถูกน้ำท่วมสูงถึง 500,000 หลัง


"ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจราคาวัสดุหลัก-ค่าแรงที่จะต้องใช้ซ่อมแซมบ้าน หลังน้ำลด และนำมาประมาณการค่าใช้จ่ายซ่อมบ้าน โดยพบว่าในกรุงเทพฯ ปริมณฑลส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ "หน้าแข้ง" จนถึง "หน้าอก" หรือตั้งแต่ระดับกว่า 0.30-2.00 เมตร ซึ่งกรณีที่ท่วมขังตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์ขึ้นไปก็มักจะสร้างความเสียหายให้กับส่วนต่าง ๆ อาทิ พื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง สวิตช์ไฟ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งสนามหญ้าจึงควรสำรวจและเร่งซ่อมแซมทันที

"พื้นไม้-สี-วอลเปเปอร์" ไม่สู้น้ำ

"พื้น" ถือเป็นพื้นที่ส่วนแรกที่จะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ไม่ว่าน้ำจะท่วมแค่ไม่กี่เซนติเมตรก็ตาม วัสดุมักหนีไม่พ้น 1) กระเบื้อง 2) ไม้ลามิเนตหรือไม้ปาร์เกต์ และ 3) หินอ่อนหรือหินแกรนิต


ในจำนวนวัสดุ 3 ตัวนี้ "กระเบื้อง" สามารถทนการแช่น้ำได้นาน แต่อาจเกิดความเสียหายได้กรณีที่มีน้ำท่วมขังใต้พื้นดินเป็นจำนวนมาก และเกิดแรงดันตามร่องจนทำให้แผ่นกระเบื้องล่อนเสียหายก็จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่

"ไม้ลามิเนต-ไม้ปาร์เกต์" ไม่สามารถ ทนน้ำได้ หากถูกน้ำท่วมไม่กี่ชั่วโมงมีโอกาสหลุดล่อนหรือเกิดเชื้อราภายใน เนื้อไม้ได้ จึงควรรื้อออกและปูใหม่

ส่วน "หินอ่อน-หินแกรนิต" สามารถทนน้ำได้ แต่หากแช่น้ำเป็นเวลานาน จะเกิดรอยด่าง สามารถแก้ไขโดยใช้เครื่องขัดซึ่งมีค่าแรงค่อนข้างสูง เฉลี่ยตารางเมตรละ 400-500 บาท

ถัดมาคือ "ผนัง" วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่มี 2 แบบ 1) ทาสี และ 2) ติดวอลเปเปอร์

กรณีทาสีปัญหาที่ตามมาหลังน้ำท่วมประมาณ 2 สัปดาห์คือ คราบตะไคร่-เชื้อรา และสีหลุดล่อน การซ่อมแซมต้องใช้แปรงขัดตะไคร่และเชื้อราออก ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง 3-4 สัปดาห์จึงทาสีใหม่ และควรจะต้องทาสีผนังภายในและเพดานทุกด้านเพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างระหว่างสีเก่าและใหม่ ส่วนผนังภายนอกหากน้ำไม่ได้ท่วมสูงอาจขัดตะไคร่และเชื้อราออกก็เพียงพอ

ซึ่งกรณีที่จะซื้อสีมาทาเองในตลาดมีตั้งแต่ราคาถังละ 900-3,500 บาท (ขนาดถัง 5 แกลลอน) มีหลักการคำนวณคือ สีถังใหญ่ขนาด 5 แกลลอน จะทาได้พื้นที่ 30 ตารางเมตร และจะต้องทาทั้งหมด 2 ครั้ง ส่วนบ้านหลังไหนที่ติด "วอลเปเปอร์" ก็ต้องบอกว่า...งานเข้า เพราะนอกจากจะเป็นรอยด่างยังมีความเสี่ยงเกิดเชื้อราสูง จึงควรรื้อทิ้งทำความสะอาดทิ้งไว้ 3-4 สัปดาห์จึงค่อยทาน้ำยาฆ่าเชื้อราและปิดวอลเปเปอร์ใหม่



"ประตู-หน้าต่างไม้" เสี่ยงบวม

นอกจากพื้นแล้ว รายการต่อมาคือ "ประตูไม้" เป็นวัสดุอีกตัวที่มีโอกาส เสียหายจากการบวมทำให้เปิด-ปิดลำบาก ถึงแม้มีน้ำท่วมขังภายในบ้านเพียงเล็กน้อย นอกจากการเปลี่ยนบานประตูใหม่ซึ่งมีราคาหลากหลาย ตั้งแต่ประตูไม้อัดเริ่มต้นบานละ 1,000 บาท ประตูไม้เต็งราคาประมาณบานละ 4,000 บาท ไปจนถึงประตูไม้สักราคาบานละ 10,000-15,000 บาท หากไม่เน้นเรื่องความสวยงามมากนักอาจใช้วิธีไสหรือเลื่อยไม้ส่วนที่บวมออกก็ได้

ส่วนถ้าระดับท่วมสูงเกินกว่า 0.80 เมตร "หน้าต่างไม้" ก็มีโอกาสถูกน้ำและบวมได้ การซ่อมแซมคือเปลี่ยนหรือไส-เลื่อยส่วนที่บวมออกเช่นเดียวกัน

"สวิตช์ไฟ-สนามหญ้า" อย่าละเลย

จากพื้นและผนัง หากบ้านถูกน้ำท่วมตั้งแต่ 0.80-1.00 เมตร สวิตช์ไฟมักเป็นจุดที่เสียหายถูกน้ำเข้า การแก้ไขเบื้องต้นให้สับคัตเอาต์ เปิดฝาครอบสวิตช์ออก และทำความสะอาดแผงสวิตช์ให้แห้งและทิ้งไว้ 3-5 วัน

หากที่บ้านมีคัตเอาต์หรือเซฟ-ที-คัทให้ทดลองเปิด-ปิดสวิตช์ดู หากไม่สามารถใช้งานได้ก็ต้องเปลี่ยนแผงสวิตช์ใหม่ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ชุดละ 100-500 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ และค่าแรงอีกจุดละประมาณ 100 บาท

ส่วนถ้าเป็นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่สนามหญ้าในรั้วบ้าน หญ้าที่ถูกแช่น้ำนาน 2-4 สัปดาห์มีโอกาสจะตายได้ หากไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทันก็จำเป็นต้องปูหญ้ากันใหม่ โดยเฉลี่ยการปูหญ้าจะเป็นการเหมาพร้อมค่าแรงเริ่มต้นตารางเมตรละ 100 บาทขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังมีงาน "รั้วไม้" ที่อาจจะเกิดสีลอกล่อนหรือเป็นตะไคร่สามารถ ขัดออกและซื้อสีทาไม้มาทาเองได้ มีราคาเริ่มต้นกระป๋องละ 300-1,000 บาท

เบ็ดเสร็จหากน้ำท่วมบ้านในระดับ 0.30-0.50 เมตร ก็จะมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมเริ่มต้น 30,000-110,000 บาท (ขึ้นกับวัสดุที่เปลี่ยนใหม่) ส่วนถ้าท่วมระดับ 1.00-2.00 เมตร ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 65,000-145,000 บาท
โพสต์โพสต์