มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
tidy
Verified User
โพสต์: 40
ผู้ติดตาม: 0

มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จะประเมินหุ้นทุกตัวคงไม่ไหวแน่ :cry: :cry:

มีหลักอะไรให้เราสามารถโฟกัสความสนใจลงมาได้บ้างครับ

ขอบคุณครับ

ปล. มีอีกคำถามครับ ในสถานการณ์ตลาดล่ม แล้วหุ้นที่พื้นฐานดีมากๆ เช่น ปตท. CPF ราคาร่วงลงมามากๆ VI ก็เข้าซื้อใ่ช่มั้ยครับ หรือว่าต้องแสวงหาหุ้นที่ตลาดยังไม่ค้นพบเท่านั้น
“Heads I win. Tales I don’t lose much.”

- The Dhandho Investor
plasmid
Verified User
โพสต์: 94
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มือใหม่เช่นกันครับ

ผมเริ่มไล่อ่านจากอะไรที่ผมคิดว่าพอรู้ หรือถ้าไม่รู้การทำความเข้าใจเพิ่มเติมหรือหาข้อมูลเพิ่มก็ไม่อยากนัก (อะไรที่ผมคิดว่าพอจะอยู่ใน circle of competance ของผม) เช่น เกษตร อาหาร บรรจุภัณฑ์(บางตัว) ค้าปลีก เป็นต้น พวกที่ยากๆหรือมีวัฎจักรแบบ โรงกลั่น เหล็ก เดินเรือ ผมก็เอาไว้ค่อยศึกษาทีหลัง แต่ระหว่างนี้ก็ควรศึกษาตลอดเวลา

หรือจะลองจับ megatrend แล้วค่อยเจาะเข้าไปก็ได้ครับ เช่น aging socity กลุ่มโรงพยาบาลก็อาจน่าได้ประโยชน์ แล้วค่อยๆเจาะดูครับ
aonzzung
Verified User
โพสต์: 611
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมมีวิธีกว้างๆ 2 วิธีคือ
1. Top to Bottom view -> มองจากบนลงล่าง ก็คือ มองที่กลุ่มอุตสาหกรรม ที่เราสนใจก่อน เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มยานยนต์ ฯลฯ แล้วค่อยมองลงไปถึงแต่ละตัวในกลุ่ม คัดออกมา หาตัวที่แกร่งที่สุด ศึกษาให้รู้ว่าตัวไหนคือ เบอร์1 2 หรือ 3 ของกลุ่ม

2. Bottom to Top view -> มองที่ตัวหุ้นที่สนใจก่อน แล้วกลับไปมองกลุ่มที่หุ้นเราอยู่ ดูว่าของเราเป็นเบอร์ไหนในกลุ่ม คู่แข่งเป็นไง แข็งกว่า หรือ อ่อนกว่าเรา

พอเราได้หุ้นมากลุ่มหนึ่งแล้วให้เอามาคลุกๆรวมกันแล้วจัดใหม่ตามกลุ่มแบบ Peter Lynch แบ่งไว้
1. โตเร็ว
2. แ็ข็งแกร่ง
3. โตช้า
4. วัฏจักร
5. ฟื้นตัว
6. ทรัพย์สินเยอะ
(รายละเอียดไปอ่าน One up on the wall street เองเน้ิอ)

แต่จะจัดกลุ่มนี้ยากหน่อย เพราะต้องศึกษาจนเข้าใจจิงๆว่า character ของหุ้นแต่ละตัว มันเป็นยังไง ตอนนี้แหละที่จะวิเคราะห์ผิด จับใส่กลุ่มผิด
เช่น เราคิดว่ามันเป็นหุ้นโตเร็ว แต่จิงๆมันเป็นวัฏจักร พอมันหมดรอบของมัน มันก็ร่วงตามวัฏจักร เราอาจจะงงเป็นไก่ตาแตกได้

คร่าวๆประมาณนี้ครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์

ปล ช่วงนี้หาหุ้นไม่ได้เลยให้ตายเหอะ แพ๊งแพง
aonzzung
Verified User
โพสต์: 611
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ตอบอีกคำถาม

ถ้าถล่ม ควรรอให้มันสะเด็ดน้ำด้วย รอให้มีดตกพื้นก่อน ค่อยไปรับ เด๊วมือขาด
ตอนนั้นค่อยเข้า บริษัทที่ดีมีกำไร ยิ่งราคาถู๊กถูก VI ช๊อบชอบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 2

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มือใหม่ก็ดู P/E กับ BV ก่อนอื่น แล้วก็ค่อยๆ คัดๆ
อยู่นานๆ ไปจะเหลือหุ้นให้เลือกน้อยลงเรื่่อยๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ก่อนหาหุ้น หาวิธีการลงทุนก่อน แล้ววิธีหาหุ้นก็ต้องต้องสอดคล้องกับนโยบายลงทุนของเรา

เช่น
ลงทุนกับหุ้นแข็งแกร่ง/เติบโต ก็ต้องวิเคราะห์หาผู้นำ ผู้ชนะ ดูเจ้าตลาดsectorนั้นๆ
ลงทุนหุ้นปันผล ก็หาจากประวัติการปันผล
ลงทุนหุ้นถูกๆ ก้หาจาก financial ratio PB PEไป
ลงทุนหุ้นstory ก็ตามหาว่าหุ้นอะไรมีข่าว

แต่ทุกวธีมีจุดอ่อนจุดแข็ง หาให้เจอว่าอะไรที่ตัวเองถนัด
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
sarawut_p
Verified User
โพสต์: 304
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมเริ่มจากบริษัทที่เีราเข้าใจการทำธุรกิจเค้า และเป็นลูกค้าหรือมีความคุ้นเคยกับเค้าอยู่ครับ เช่นร้านหนังสือที่เข้าประจำ หรือ เครือข่ายมือถือที่ใช้อยู่ หลังจากนั้นก็ดูพวกงบการเงิน รายงานประจำปี หลังจากนั้นก็เข้าไปเดินเล่นในห้องร้อยคนร้อยหุ้นบ่อย ๆ สลับกับการดูงบการเงินครับ
Go within, be at peace.
krisloveset
Verified User
โพสต์: 16
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เริ่มจากการตัดสินใจซื้อสักตัว แล้ว ก็ดูราคามันเพิ่มขึ้นไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน กำไรได้ 10 - 20% ก็คิดว่าตนเองเก่งเซียนแล้วเริ่มเป็นผู้รู้ เริ่มแตกฉานในความดักดาน ตัวที่ขายราคาก็ปรับขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่อยากซื้อเพราะคิดว่าตัวเองเป็น วีไอ ต้องซื้อตำ่กว่าราคาที่ตัวเองเคยซื้อ ไม่นานมากนักมือเริ่มคันเพราะว่าเงินมันเหลือให้ถอนใจออก จากตลาดทำไม่ได้ เลยพยายามหาตัวอื่นที่ราคาถูกหรือปรับลดลงอย่างรุนแรง นี่หรือคือ วีไอ ดูแต่ราคา ไม่นานมากนัก มีคนแนะนำว่าต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคเข้าช่วย ลากกราฟ ขีดกราฟ ดูทิศทาง ดูเส้นเฉลี่ย ดูจังหวะ เล่นได้กำไร 5 - 10% ก็เป็นเรื่องที่ได้ง่ายๆ เที่ยวไปบอกคนอื่นว่าเรามีเครื่องมือที่วิเศษสามารถหาเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักฝรั่งเริ่ม ออกบรรยากาศเริ่มไม่ดี เทคนิคที่เคยใช้เริ่มไม่ได้ผลไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงไว้แต่อย่างใด ในพอทร์ ก็เริ่มแดงๆ จนหน้าซีด มีคนมาบอกว่าให้เพิ่มเงินเข้าไปเพื่อให้ต้นทุนตำ่ลง ก็เพิ่มเข้าไปอย่างเต็มที่ราคายิ่งลง ก็ยิ่งซื้อ แล้วมันก็ลงต่อ จนทนไม่ไหว เมื่อไรจะหยุดลงซะที ทนไม่ไหวแล้ว มือคันเหมือนเดิม ขณะที่หุ้นขึ้นทุกคนดีใจหมด แต่เราทำไมกลับโดดเดี่ยวหลงคิดว่าตนเองเป็นวีไอ หลงคิดว่าจะลงทุนแบบไม่ขายคิดไปเอง เห็นราคาวิ่งไม่ได้ จำเป็นต้องขายออกมาเพื่อให้เกิดความสุขบนความโลภ
พอทร์ก็เริ่มแดงมากขึ้นแม้ในช่วงที่ตลาดวิ่งเป็นกระทิง ยังไม่สามารถทำเงินได้เหมือนเข้ามาเล่นในช่วง สามเดือนแรกเลย
ไม่เคยคิดเองลอกการบ้านเขาตลอด จึงไม่เคยมีความเชื่อมั่นและคิดจะถือยาวจริงในหุ้นที่ดีอยู่ ไม่นานนักทนไม่ไหวก็ขายออกมาอีก เพราะรับไม่ได้กับผลขาดทุน คราวนี้ขาดทุนจริง โง่จริง ขาดทุนกว่า 70% จากเงินลงทุนเริ่มแรก คิดเป็นเงินก็เป็นหลักแสนบาท อายุเท่านี้เก็บเงินกว่าจะได้เป็นหลักแสนและขาดทุนในระยะเวลาไม่เกิน สามเดือน เครียดมากๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป นอนไม่หลับ เพราะเสียดายกับเงินที่หายไปเป็นหลักแสนบาท พอขายออกไม่นานนักหุ้นที่เคยขายขาดทุนก็เริ่มกลับขึ้นไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับต้นทุน
ข้อผิดพลาดคือผมทุ่มไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว
ข้อผิดพลาดที่สอง ผมไม่เคยทำการบ้านเอง
ข้อผิดพลาดข้อที่สาม ผมหลอกตัวเอง
ข้อผิดพลาดข้อที่สี่ ผมไม่มีความอดทน
ข้อผิดพลาดข้อที่ห้า ผมโลภ
ข้อผิดพลาดข้อที่หก ผมให้ความสนใจแต่หุ้นร้อน
ข้อผิดพลาดข้อที่เจ็ด ผมให้ความสนใจในหุ้น Turn around ที่ไม่มีวันกลับมา
ไม่นานหลังจากนั้นผมเหลือบไปเห็น Password ของกระดานหุ้นในพอทร์จำลองที่ เริ่มเล่นก่อนเข้ามาเทรด
จริงๆ พอเปิดพอทร์ไปพบว่า กำไรทั้งหมดของพอทร์คิดเป็น 115 %
หุ้นในพอทร์ประกอบไปด้วย Cpf ทุน 17 บาท หุ้น Cpall ทุน 28 บาท หุ้น Bla ทุน 25 บาท
หุ้น bts ทุน 0.67 บาท หุ้น Dtac ทุน 38.75 บาท Bcp ทุน 13.50
พอทร์นี้ผมทำ Password หายไปก่อนที่จะตัดสินใจมาเล่นหุ้นจริงๆ ไม่อยากเล่นของจำลองแล้ว
ข้อผิดพลาดข้อสุดท้าย ผมไม่ยอมที่จะตัดสินใจและไว้ใจให้เงินทำงานแทนเราจริงๆ
แต่กลับเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของเงินตราเฝ้าสมบัติไม่ยอมออกไปไหน จนในที่สุดแล้ว
ต้องขาดทุนจนเกือบหมดตัวแม้ภาวะหุ้นปัจจุบันจะขึ้นเป็นกระทิงก็ตาม
ถ้าผมทำ Password หุ้นของจริงหายเหมือน Password ของหุ้นจำลอง
ตอนนี้ผม อาจเป็น Vi ที่มีความภาคภูมิใจเอา Port ไปอวดใครต่อใครได้อย่างภาคภูมิใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
wit163
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ต้องคัดกรองตมความชอบของแต่ละคนละ มือใหม่หันเรียนรู้กันอีกนาน
ช่วงนี้เพลาๆ ดูเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างก่อน
17544 หมีซักผ้า: มืดมนไม่มีวันจบ (ระยะเพาะปลูก : โรยถั่ว)
บุณยา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

krisloveset เขียน:เริ่มจากการตัดสินใจซื้อสักตัว แล้ว ก็ดูราคามันเพิ่มขึ้นไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน กำไรได้ 10 - 20% ก็คิดว่าตนเองเก่งเซียนแล้วเริ่มเป็นผู้รู้ เริ่มแตกฉานในความดักดาน ตัวที่ขายราคาก็ปรับขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่อยากซื้อเพราะคิดว่าตัวเองเป็น วีไอ ต้องซื้อตำ่กว่าราคาที่ตัวเองเคยซื้อ ไม่นานมากนักมือเริ่มคันเพราะว่าเงินมันเหลือให้ถอนใจออก จากตลาดทำไม่ได้ เลยพยายามหาตัวอื่นที่ราคาถูกหรือปรับลดลงอย่างรุนแรง นี่หรือคือ วีไอ ดูแต่ราคา ไม่นานมากนัก มีคนแนะนำว่าต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคเข้าช่วย ลากกราฟ ขีดกราฟ ดูทิศทาง ดูเส้นเฉลี่ย ดูจังหวะ เล่นได้กำไร 5 - 10% ก็เป็นเรื่องที่ได้ง่ายๆ เที่ยวไปบอกคนอื่นว่าเรามีเครื่องมือที่วิเศษสามารถหาเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักฝรั่งเริ่ม ออกบรรยากาศเริ่มไม่ดี เทคนิคที่เคยใช้เริ่มไม่ได้ผลไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงไว้แต่อย่างใด ในพอทร์ ก็เริ่มแดงๆ จนหน้าซีด มีคนมาบอกว่าให้เพิ่มเงินเข้าไปเพื่อให้ต้นทุนตำ่ลง ก็เพิ่มเข้าไปอย่างเต็มที่ราคายิ่งลง ก็ยิ่งซื้อ แล้วมันก็ลงต่อ จนทนไม่ไหว เมื่อไรจะหยุดลงซะที ทนไม่ไหวแล้ว มือคันเหมือนเดิม ขณะที่หุ้นขึ้นทุกคนดีใจหมด แต่เราทำไมกลับโดดเดี่ยวหลงคิดว่าตนเองเป็นวีไอ หลงคิดว่าจะลงทุนแบบไม่ขายคิดไปเอง เห็นราคาวิ่งไม่ได้ จำเป็นต้องขายออกมาเพื่อให้เกิดความสุขบนความโลภ
พอทร์ก็เริ่มแดงมากขึ้นแม้ในช่วงที่ตลาดวิ่งเป็นกระทิง ยังไม่สามารถทำเงินได้เหมือนเข้ามาเล่นในช่วง สามเดือนแรกเลย
ไม่เคยคิดเองลอกการบ้านเขาตลอด จึงไม่เคยมีความเชื่อมั่นและคิดจะถือยาวจริงในหุ้นที่ดีอยู่ ไม่นานนักทนไม่ไหวก็ขายออกมาอีก เพราะรับไม่ได้กับผลขาดทุน คราวนี้ขาดทุนจริง โง่จริง ขาดทุนกว่า 70% จากเงินลงทุนเริ่มแรก คิดเป็นเงินก็เป็นหลักแสนบาท อายุเท่านี้เก็บเงินกว่าจะได้เป็นหลักแสนและขาดทุนในระยะเวลาไม่เกิน สามเดือน เครียดมากๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป นอนไม่หลับ เพราะเสียดายกับเงินที่หายไปเป็นหลักแสนบาท พอขายออกไม่นานนักหุ้นที่เคยขายขาดทุนก็เริ่มกลับขึ้นไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับต้นทุน
ข้อผิดพลาดคือผมทุ่มไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว
ข้อผิดพลาดที่สอง ผมไม่เคยทำการบ้านเอง
ข้อผิดพลาดข้อที่สาม ผมหลอกตัวเอง
ข้อผิดพลาดข้อที่สี่ ผมไม่มีความอดทน
ข้อผิดพลาดข้อที่ห้า ผมโลภ
ข้อผิดพลาดข้อที่หก ผมให้ความสนใจแต่หุ้นร้อน
ข้อผิดพลาดข้อที่เจ็ด ผมให้ความสนใจในหุ้น Turn around ที่ไม่มีวันกลับมา
ไม่นานหลังจากนั้นผมเหลือบไปเห็น Password ของกระดานหุ้นในพอทร์จำลองที่ เริ่มเล่นก่อนเข้ามาเทรด
จริงๆ พอเปิดพอทร์ไปพบว่า กำไรทั้งหมดของพอทร์คิดเป็น 115 %
หุ้นในพอทร์ประกอบไปด้วย Cpf ทุน 17 บาท หุ้น Cpall ทุน 28 บาท หุ้น Bla ทุน 25 บาท
หุ้น bts ทุน 0.67 บาท หุ้น Dtac ทุน 38.75 บาท Bcp ทุน 13.50
พอทร์นี้ผมทำ Password หายไปก่อนที่จะตัดสินใจมาเล่นหุ้นจริงๆ ไม่อยากเล่นของจำลองแล้ว
ข้อผิดพลาดข้อสุดท้าย ผมไม่ยอมที่จะตัดสินใจและไว้ใจให้เงินทำงานแทนเราจริงๆ
แต่กลับเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของเงินตราเฝ้าสมบัติไม่ยอมออกไปไหน จนในที่สุดแล้ว
ต้องขาดทุนจนเกือบหมดตัวแม้ภาวะหุ้นปัจจุบันจะขึ้นเป็นกระทิงก็ตาม
ถ้าผมทำ Password หุ้นของจริงหายเหมือน Password ของหุ้นจำลอง
ตอนนี้ผม อาจเป็น Vi ที่มีความภาคภูมิใจเอา Port ไปอวดใครต่อใครได้อย่างภาคภูมิใจ
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเลยครับ :wall: :wall: :wall:
Tn_apple
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีหุ้นตั้ง 5 - 600 ตัวในตลาด... VI เริ่มต้นยังไงครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

หลักการ ต้องค่อยๆ อ่านใน Web นี้ มีความรู้เ่ก่าๆ ที่บรรดาท่านๆ เคย Post
ไว้มากมาย ค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ ไม่ต้องใจร้อน ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ
เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง กับจังหวะ และเวลาจะทำให้เรากลาย เป็น VI
เต็มตัว เพราะการผ่านร้อน ผ่านหนาว กับราคาหุ้น ที่วิ่งขึ้น วิ่งลง ไม่ใช่จะทนกันง่ายๆ

แมงเม่า ต่างกับ VI อยู่ที่ใจ โดยไม่ใช้อารมณ์ของตลาด ซึ่งมันยากมากๆ

ก็กำลังเรียนรู้อยู่เหมือนกัน
โพสต์โพสต์