ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คือ ผมพยายามที่จะ Forcast งบกระแสเงินสดเพื่อจะหา FCFF ครับ

ผมเริ่มจากการคาดการณ์ Income Statement ครับ
พบว่าตัวเลขบางตัวคาดการณ์ยากมากๆครับ
เช่น ดอกเบี้ยรับ ดอกเบี้ยจ่าย กำไรขายทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน(เป็นธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งจะมีกำไรขากทุนนี้ทุกปี)
นอกจากนี้ก็ยังมี กำไรขาดทุนจากการจำหน่ายพวกสินทรัพย์ถาวร(ซึ่งบริษัทมีกำไรขากทุนส่วนนี้ทุกปีเหมือนกัน)

หลังจากนั้นเมื่อผมได้กำไรแบบค่อยข้างมั่วแล้ว ผมก็ไปทำ งบแสดงส่วนเปลี่ยนแปลงของเจ้าของ
ซึ่งอันนี้ไม่ยากมาก แต่ดูว่าที่ผ่านมาปันผลเฉลี่ยกี่%ของกำไร

ต่อจากนั้นมาที่ Balance Sheet ผมพยายามคาดการณ์ตัวเองต่างๆออกมา
โดยข้าม Cash ไป เนื่องจากคิดว่า Cash จะเป็นเท่าไหร่นั้นต้องไปทำงบกระแสเงินสด

และเมื่อมาสู่งบกระแสเงินสด
พบว่าตัวเลขต่างๆคาดการณ์ยากมากกว่างบอื่นๆ เช่น บริษัทจะลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเท่าไหร่
และจะขายเท่าไหร่(ฺBV) ราคาไหน กำไรเท่าไหร่ และในการลงทุนนั้นจะใช้เงินสดเท่าไหร่
เจ้าหนี้เท่าไหร่ เมื่อผมมั้วๆในส่วนนี้้เสร็จ ผมจึงกลับไปที่ ฺBalance Sheet

พบว่างบมันไม่ดุลกัน ซึ่งจากหนังสือ Finance บอกว่าต้องไปปรับที่การกู้ยืมเงิน
แต่ถ้าผมไปปรับที่ตัวเลขนี้ตัวเดียวพบว่า ตัวเลข Debt กระโดดขึ้นอย่างมาก จนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
ผมจึงปรับ Debt เพิ่มให้พอมีเหตุผม แล้วไปเกลี่ยตัวเลขอื่นๆ ให้งบมัน Balance กัน

และเนื่องจากการคาดการณ์ตัวเลขบางตัวของผมดูไม่ค่อยมีเหตุผลผมจึงไม่มั่นใจใน FCFF ที่ได้นัก

โดยสรุปแล้ว ผมพยายามจะคาดการณ์ตัวเลขทุกตัว ซึ่งตัวเลขบางตัวมีความผันผวนสูงมาก
จนไม่รู้ว่าจะคากการณ์อย่างไรให้ดูมีเหตุผล

คำถามที่ผมสงสัยคือ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนครับที่จะต้องพยายามคาดการณ์
ทุกๆตัวอย่างละเอียด และบางตัวที่ดูยากที่จะคาดการณ์ได้อย่างมีเหตุผลผมควรทำยังไงกับมันครับ

หรือผมควรจะเลี่ยงมาใช้ PE , Dividend Discount Model หรือ Residual Income ในการหา Valuation
แทน FCFF ดีครับ (โดยส่วนตัวแล้วผมชอบวิธี PE กับ Residual Income มากกว่า เนื่องจากใช้แค่
Income Statement ซึ่งผมคิดว่าสามารถคากการณ์ได้น่าเชื่อถือกว่า Cash Flow)

สุดท้ายมีหนังสือดีเกี่ยวกับการคาดการณ์งบการเงินแนะนำบ้างมั้ยครับ :roll:
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

นอกจากกนี้หากบริษัทใช้ FIFO ผมจำเป็นต้อง Adjust เป็น LIFO เพื่มปรับ COGS รึป่าวครับ
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หรือผมควรเน้นประเด็นไปที่ ความได้เปรียบเชิงแข่งขัน
ตัวเลขคาดการณ์ต่างๆแค่ประเมินหยาบๆก็พอ :D
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถ้าเราจะลงทุนแบบfocus แล้วคิดว่าศึกษาบริษัทได้ลึกมากๆ หาข้อมูลได้มากพอที่จะทำ
อยากจะforcastให้ละเอียดๆ ก็ดีนะ

แต่ถ้าเป็นการคิดคร่าวๆเพื่อตัดสินใจ อาจจะเป็นการเสียเวลามากไปนิด
ไม่คุ้มเท่าทำหยาบๆหลายๆบริษัทก่อน หรือเอาเวลาหาข้อมูลเชิงคุณภาพ
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอชมว่าขยันวิเคราะห์มากๆครับ

โดยส่วนตัว ผมไม่เคยคำนวณละเอียดลึกแบบนี้เลย นี่ขนาดเช็คในงบดุลกลับมาด้วย

ปกติผมจะเช็คแบบหยาบๆพอ ทำลงใน excle แล้วลองเปลี่ยนค่าดูหลายๆกรณี แค่นั้นเองครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
<< New >>
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 16

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ลองถาม IR ของแต่ละบ.นั้นดู อาจจะได้ตัวเลขบางตัวแม่นกว่าที่คาดเดาเองครับ
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณทุกคนครับ
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

densin เขียน:ถ้าเราจะลงทุนแบบfocus แล้วคิดว่าศึกษาบริษัทได้ลึกมากๆ หาข้อมูลได้มากพอที่จะทำ
อยากจะforcastให้ละเอียดๆ ก็ดีนะ

แต่ถ้าเป็นการคิดคร่าวๆเพื่อตัดสินใจ อาจจะเป็นการเสียเวลามากไปนิด
ไม่คุ้มเท่าทำหยาบๆหลายๆบริษัทก่อน หรือเอาเวลาหาข้อมูลเชิงคุณภาพ
คือปกติผมจะถือหุ้นประมาณ 2-3 ตัว เนื่องจากพอร์ตเล็กมากๆ
และปกติผมจะคาดการณ์แค่แบบหยาบๆ โดยดูที่ growth คุณภาพของกำไร
ลักษณะอุตสาหกรรม เช่น 5 Force แล้วก็ความได้เปรียบทางการแข่งขัน
หากบริษัทยังรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ ผมก็จะให้ Growth ใกล้เคียงเดิม
จากนั้นก็ใช้ PE หา Value หามี Magin of safety ซัก 20-30% ก็เข้าไปซื้อ
โดยบริษัทส่วนใหญ่จะเน้นที่ความผันผวนของกำไรต่ำๆ เช่น TTW KCAR GL
(เป็นหุ้นที่ซื้อไว้นานแล้วนะครับ และบางตัวก็ขายไปแล้ว)

แต่ปัจจุบันผมได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงาน(ปัจจุบันผมเรียน ป.โท อยู่)
ที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง จึงพบว่านักวิเคราะห์ เค้าวิเคราะห์ตัวเลขกัน
แบบละเอียดมากๆ และเมื่อผมพยายามที่จะวิเคราะห์แบบละเอียดบ้าง
ก็พบปัญหาแบบข้างต้นของกระทู้ครับ
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

send เขียน:
แต่ปัจจุบันผมได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงาน(ปัจจุบันผมเรียน ป.โท อยู่)
ที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง จึงพบว่านักวิเคราะห์ เค้าวิเคราะห์ตัวเลขกัน
แบบละเอียดมากๆ และเมื่อผมพยายามที่จะวิเคราะห์แบบละเอียดบ้าง
ก็พบปัญหาแบบข้างต้นของกระทู้ครับ
แบบละเอียดๆอาจจะต้องพึ่งพาข้อมูลจากบริษัทค่อนข้างงลึก
บางอย่างอาจจะหาไม่ได้ เพราะบริษัทไม่ให้ข้อมูล หรือมันไม่แน่ไม่นอน
ลองทำแบบนี้ดู คือทำประมาณการในรูปแบบต่างๆ กรณีธรรมดา กรณีเลวร้ายที่สุด กรณีดีที่สุด
ค่าของมันน่าจะออกมาเป็น rangeกว้างๆ เป็นกรอบในการประเมินมูลค่า
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมมาจากคนที่ลงมือทำงานแบบนักวิทยา่ศาสตร์ประยุกต์ไม่ใช่นักวิทยา่ศาสตร์ห้อง Lab ถ้าเปรียบวงการพระสงฆ์ ท่องหนังสือไม่เก่ง แต่สมาธิเข้าฌาณได้ คือสายปฏิบัติมากกว่าปริยัติ


ผมมีความเห็นว่า การรู้แหล่งที่มาของรายได้ และรายจ่าย เจาะลึกถึงอุตสาหกรรมนั้นๆ เลย สำคัญกว่า
และถัดมาก็ต้องพยากรณ์ธุรกิจนั้นๆ ทั้งตัวธุรกิจเอง และแนวโน้มในการแข่งขันในตลาด


ตัวอย่างเช่น ยกตัวอย่างเรื่อง hot จะพยากรณ์รายได้ DTAC หรือ TRUE หรือ ADVANC หรือ JAS

กลายเป็นว่านอกจากเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งที่กระทบกับรายได้แล้ว เหมือนธุรกิจทั่วไปแล้ว
ทางธุรกิจวงการบริการ ICT ที่สำคัญคือการแข่งขันในธุรกิจ ต้องรู้ว่ารายได้แต่หน่วยเป็นเท่าไหร่ (ARPU: Average Revenue Per Unit)
แล้วถัดมา ก็ต้องดูว่ามีในมหาสมุทร มีปลาเท่าไหร่ คนจับปลาไปแล้วเท่าไหร่ (Penetration Rate) ยังเหลือปลาให้เราจับเท่าไหร่ เราเข้าถึงกลุ่มประชากรที่มุ่งหวังได้เท่าไหร่ เราจะแย่ง Market Share ได้เท่าไหร่


แต่ข้างบน กลับเป็นแค่เรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะ hot issue เองมี 2 เรื่อง
1. แนวโน้มทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมกระทบยิ่งกว่า 3G 4G ไงครับ
2. แล้วตลาดของวงการนี้ เรื่องการแข่งขัน ของนโยบายและกฏระเบียบ (Regulations) กระทบหนักเข้มข้นกว่าอีก

มหาสมุทรที่เคยจับปลากันได้เยอะเหลือเฟือ เหลือกำลังลากพื้นที่สุดลูกหูลูกตา ตอนนี้เป็น Red Ocean ไปแล้วรึยัง ต้องแย่งน่านน้ำจับปลา ทำสงครามชิงอ่าว ชิงอาณาบริเวณกันหรือไม่???? ตอบได้จากสงครามล่าสุด


อย่างถ้าสมมติ TRUE ถูกสั่งคุ้มครองฉุกเฉินที่ DATC ฟ้อง CAT อาทิตย์ที่แล้ว การพยากรณ์รายได้ คนละเรื่องเลย
หรือ JAS อยู่ๆ ถ้ามีใครมาทำ Broadband แข่งอีกหลายราย มีแนวโน้มว่าจะแย่งลูกค้าปัจจุบันได้หรือไม่ ต้องหาข่าวมาประกอบ
ถ้า JAS สัมปทานเคเบิ้ลใต้นำ้ทางใต้หมดไปแล้วไม่ต่อ รายได้หายไปเท่าไหร่ กระทบหรือไม่
แล้วที่ทำ Wi-Fi กับ AIS รายได้เพิ่มมาเท่าไหร่ จะยั่งยืนนานขนาดไหน
แผลเก่า TT&T, TOT จะเป็นเรื่องกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้-รายจ่ายอย่างไร




เหมือนที่คุณ densin บอก
ที่เห็นจากประสบการณ์การทำ Feasibility Study แม้ไม่มีใครพยากรณ์ได้ถูกต้อง 100% เขาจึงแบ่งเหตุการณ์จำลองสมมติออกมา โดยให้เป็น 3 Scenario
คือ 1. Best Case 2. Base Case หรือ Normal Case 3. Worst Case
ทดลองจำลองทางการเงิน ว่ามีอะไรมากระทบรายได้หนักๆ (รายได้หดสัก xx% ด้วยสาเหตุ 1,2,3,...) และมีทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มหนักๆ (ค่าใช้จ่ายเพิ่มสัก xx% ด้วยสาเหตุ 1,2,3,...) แล้วกำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิจะหดไปเท่าไร


แต่ละอุตสาหกรรม และแต่ละธุรกิจ จุดอ่อนไหวก็จะต่างกัน ธุรกิจเดียวกัน ตั้งอยู่คนละประเทศ ก็ต่างกันได้
เช่น ถ้าทำธุรกิจ Logistics มี Fleet (กลุ่มรถบรรทุก) เป็นของตัวเอง ก็ต้องพยากรณ์ค่าน้ำมันที่จะเกิดทำให้ Profit Margin ลดลง
ธุรกิจ Logistics A ตั้งอยู่ในประเทศแถบแอฟริกา ก็ย่อมต่างจากธุรกิจ Logistics B ที่อยู่ในยุโรป เพราะสภาพการขนส่งต่างกัน

แล้วดูลงลึกอีกหน่อย ถ้าไปตั้งอยู่ในประเทศแอฟริกาประเืทศ X ที่กำลังสร้างถนนเป็นการใหญ่ ก็จะมีแนวโน้มดีกว่าในประเทศ Y ที่เผด็จการหัวไดโนเสาร์ไม่ยอมพัฒนาประเทศเลย
ก็จะเป็น factor บวกทางตรงด้าน Revenue และ OPEX รายได้เพิ่มง่ายได้เที่ยวบรรทุกเยอะกว่า่ ค่าใช้จ่ายลดเพราะถนนเรียบประหยัดน้ำมันมากขึ้นรถวิ่งได้เหมือน Runway จากเคยบุกตะลุยจมโคลติดหล่ม และได้ผลบวกทางอ้อมเรื่อง CAPEX เพราะซื้อรถบรรทุกใหม่ไม่ต้องบ่อยเหมือนตอนถนนวิบาก อายุยืนกว่า

เป็นต้น




บางเรื่องเป็นคุณละเอียดเกินไปก็เสียเวลาและไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
ประสบการณ์จะสอนเองว่าละเอียดขนาดไหนจะเหมาะสม เรียนรู้จุดเป็นจุดตายของธุรกิจ แล้ว focus พยากรณ์ตรงจุดนั้น สำคัญกว่าการลงลึกทุกอย่าง
เหมือนอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่จะใช้วิธีท่องศัพท์ทุกตัวใน Dictionary ทุกหน้า ท่องแกรมม่าทุกหลักการ จนเพื่อนๆ จบ Doctor ไปแล้ว เรายังท่อง Dictionary ได้ไม่กี่หน้า จำ Grammar ไม่กี่บท คนที่เรีัยนรู้เฉพาะจุดที่จำเป็น ใช้ลองผิดลองถูก แล้วมุ่งเรียนรู้ focus เฉพาะที่ต้องใช้จริงจะก้าวหน้าไปได้ดีกว่า่
ประเมินตัวเลข บางตัวแค่หยาบๆพอ เพราะไม่มีใครพยากรณ์ได้แม่นยำจริง อาจใช้ตัวเลขปีที่ผ่านมาเป็นฐาน แล้วลองจำลองสถานการณ์จุดเป็นจุดตายที่เป็นผลกระทบของธุรกิจจริงอย่างมีนัียสำคัญ จะได้สมเหตุสมผลกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อ้อ...แล้วอย่าลืม นโยบายการแบ่งปันกำไรสะสมและการปันผลด้วยครับ

ตอนรวยนิสัยและวินัยการใช้เงินของแต่ละที่ต่างกัน สำหรับบริษัีทอู้ฟู่...เอากลับไปลงทุน? เอามาแบ่งกันระหว่างผู้ถือหุ้น? เอาไปซื้อหุ้นคืน?
เงินสดทั้งนั้น
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับ
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
chiraponge
Verified User
โพสต์: 803
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

send เขียน: สุดท้ายมีหนังสือดีเกี่ยวกับการคาดการณ์งบการเงินแนะนำบ้างมั้ยครับ :roll:
คาดการณงบคงจะยากครับ
ผมว่าลองเอายอดขาย มาหา seasonal ดูก้ได้ครับ
แต่ทุกอย่างก้เปงเพียงการคาดเดาครับ

ผมเหงด้วยกับการทำ FCFF นะครับ
แต่ถ้าทำ FCFF~ แล้ว ทำ FCFE เพิ่มเข้าไปด้วยครับ
จะได้เพิ่มมุมมอง

FCFF เรา discount ด้วย WACC ซึ่งเปมมุมมองของกิจการ ของเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ คิดเพียงว่าเราจะมีเงินจ่ายพอจ่ายหนี้ให้เค้ารึเปล่า
ส่วน FCFE เรา discount จาก Ke (require return) เป็นมุมมองของเจ้าของ ครับ

ซึ่งผลที่ได้จะทำให้มูลค่าหุ้นที่คำนวรได้จาก FCFF ลดลง
จากนั้น ก้ใช้ MOS กับ มูลค่าที่ได้ ตามการคาดเดาว่า i/s และ menerial balanced sheet (แปลงมาจาก B/S) ว่าเราคิดว่ามีความเสี่ยงในการผิดพลาดขนาดไหน

ราคาหลังจากใช้ MOS แล้ว หากต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบัน
ก็ต้องมาดุอีกว่า upside ที่เหลืออยู่มีเท่าไหร่
หากเยอะเพียงพอ ผมว่าน่าจะสบายใจในการซื้อนะครับ
เพราะ safety เยอะจัด บางทีทำแล้วไม่เหลือหุ้นที่พอจะวื้อได้เลย 555

ส่วนวิธีที่ผมเอามาคิดเพิ่มอีก คือ residual income ผมแปลแบบมั่วๆ ว่า เป็นวิธีคิดส่วนที่หลงเหลืออยู่ให้กับผู้ถือหุ้นครับ คิดง่ายกว่า FCFE และ FCFF
ภาพประจำตัวสมาชิก
^^
Verified User
โพสต์: 519
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

Ii'8N เขียน: บางเรื่องเป็นคุณละเอียดเกินไปก็เสียเวลาและไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
ประสบการณ์จะสอนเองว่าละเอียดขนาดไหนจะเหมาะสม เรียนรู้จุดเป็นจุดตายของธุรกิจ แล้ว focus พยากรณ์ตรงจุดนั้น สำคัญกว่าการลงลึกทุกอย่าง
เหมือนอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่จะใช้วิธีท่องศัพท์ทุกตัวใน Dictionary ทุกหน้า ท่องแกรมม่าทุกหลักการ จนเพื่อนๆ จบ Doctor ไปแล้ว เรายังท่อง Dictionary ได้ไม่กี่หน้า จำ Grammar ไม่กี่บท คนที่เรีัยนรู้เฉพาะจุดที่จำเป็น ใช้ลองผิดลองถูก แล้วมุ่งเรียนรู้ focus เฉพาะที่ต้องใช้จริงจะก้าวหน้าไปได้ดีกว่า่
ประเมินตัวเลข บางตัวแค่หยาบๆพอ เพราะไม่มีใครพยากรณ์ได้แม่นยำจริง อาจใช้ตัวเลขปีที่ผ่านมาเป็นฐาน แล้วลองจำลองสถานการณ์จุดเป็นจุดตายที่เป็นผลกระทบของธุรกิจจริงอย่างมีนัียสำคัญ จะได้สมเหตุสมผลกว่า

โหยยยยยยยยยยยย จี๊ดดดดดด แทงใจดำผมเลย เหมือนมีคนเคยบอกว่า รู้วิธีเดียวก็เพียงพอ แล้วฝึกให้คล่อง พยายามอยู่แต่ทำไม่ได้สักที
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เท่าที่อ่านดู ผมว่าทำประมาณการงบการเงินผิดแน่ๆ

เพราะถ้าทำถูก ตัวเลขต่างๆจะดุลกันเองครับ เพยงแต่ถ้าเงินสดไม่พอ ตัวเลขเงินสดในงบดุลก็จะคำนวณออกมาเป็นลบ ซึ่งเราก็ต้องไปปรับตัวเลขเบิกเงินกู้ยืมเพิ่ม

ซึ่งก็จะส่งผลกระทบไปที่ดอกเบี้ยจ่าย กำไรสุทธิ หนี้เงินกู้ ส่วนผู้ถือหุ้น
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

chatchai เขียน:เท่าที่อ่านดู ผมว่าทำประมาณการงบการเงินผิดแน่ๆ

เพราะถ้าทำถูก ตัวเลขต่างๆจะดุลกันเองครับ เพยงแต่ถ้าเงินสดไม่พอ ตัวเลขเงินสดในงบดุลก็จะคำนวณออกมาเป็นลบ ซึ่งเราก็ต้องไปปรับตัวเลขเบิกเงินกู้ยืมเพิ่ม

ซึ่งก็จะส่งผลกระทบไปที่ดอกเบี้ยจ่าย กำไรสุทธิ หนี้เงินกู้ ส่วนผู้ถือหุ้น
ผมก็คิดอย่งนั้นครับ ซึ่งจุดที่คาดว่าผิดคือ เกี่ยวกับพวกการคาดการณ์๋ค่าเสื่อม และการซื้อ PPE เพิ่มขึ้นครับ
ุจุดที่ทำให้มั่วคิดว่ามาจาก สิ่งที่ผมเห็นทุกปีคือบริษัทขาดทุนจากการขาย PPE (ไม่รู้ทำไมถึงขาด PPE ทุกปี)
ดังนั้นผมจึงคาดว่าการขาดทุนจะยังคงเกิดขึ้นอีก แต่ประเด็นคือ มั่วไปแบบไม่มีหลักการเลยว่า จะขาย PPE
ออกไปเท่าไหร่ ผมคิดว่าจุดนี้เป็นประเด็นครับ

คิดว่าคงต้องกับไปศึกษาพื้นฐานบัญชีและการเงินอีกที การนำทฤษฎีการประยุกต์ใช้
คงต้องใช้เวลาฝึกฝนระดับนึง ขอบคุณมากๆครับ
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
chiraponge
Verified User
โพสต์: 803
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ผมเน้น DCF

ส่วนบางท่่านอาจบอกว่า Price multiple : leading PE หรือ forward PE
เร็วกว่า ไม่ควรเสียเวลา

ที่ผมเลือก DCF
เพราะ ปกติเปนคนขี้เกียจอ่านงบ มองธุรกิจ แบบลึกๆๆ
แต่การทำ DCF เปนการทำให้เรามองทุกองคืประกอบมากขึ้น

ถึงแม้จะเผาเวลาก็ตาม
แต่ทำใส่ excel ไว้ มาแก้แค่แป๊บเดียวเอง
ส่วนใหญ่ที่เสียเวลา เพราะไม่เข้าใจธุรกิจมากกว่า
A68956

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ถ้าเคยทำงานในบริษัทโดยเฉพาะฝ่ายขาย คุณจะรู้ว่ามันยากมากที่จะ forecast แม้แต่เดือนหน้ายังตอบยากเลยว่าจะเป็นอย่างไร เราเป็นใครหรือครับที่สามารถคาดการณ์ได้ ผมว่าใช้ตัวเลขคร่าวๆน่าจะพอแล้วครับเช่นประมาณยอดขาย, PE
GENTECH
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1081
ผู้ติดตาม: 59

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

เห็นด้วยว่าการประมาณการยอดขายสำคัญมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3778
ผู้ติดตาม: 75

Re: ขอคำแนะนำเรื่องการ forcast งบการเงินครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

คนเก่งๆ คุยกัน
อ่านไม่รู้เรื่องเลย :mrgreen:

ส่วนตัวไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น
แต่พอได้ทำความรู้จักกับ margin of safety

เหมือนได้ติดปีก
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
โพสต์โพสต์