การขึ้นลงของราคาทองเป็นผลมาจากอะไรครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Pattanasakd
Verified User
โพสต์: 24
ผู้ติดตาม: 0

การขึ้นลงของราคาทองเป็นผลมาจากอะไรครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมไม่ความรู้เรื่องการลงทุนในทองเลยครับ แถมมุมมองเรื่องนี้ก็แคบมากๆ ด้วย เลยอยากจะขอความรู้จากพี่ๆ ครับ

สงสัยมาตั้งแต่ตอน crisis 2008 ทุกคนไปซื้อทองเพราะบอกว่ามันเป็น safe heaven ราคาก็ขึ้นเอาๆ อันนี้ยังพอจินตนาการตามได้บ้าง (ถึงจะขัดใจก็เถอะ)
เดือนที่แล้วเมื่อมีความขัดแย้งที่ตะวันออกกลาง ทองก็ขึ้นอีก?? อันนี้ไม่เข้าใจแล้วครับ (ถ้ามีสงครามต้องซื้อของที่ทำให้มีชีวิตรอดสิครับ)
แต่ล่าสุดวิกฤตนิวเคลียร์ ทองกลับลง (อ้างอิงข่าวด้านล่างนะครับ) อันนี้ยิ่งสับสนครับ

สรุปแล้วควรจะซื้อทองเมื่อไหร่กันแน่? แล้วคนที่ซื้อเขากำลังคิดอะไรกันอยู่ครับ ผมมองว่าทองไม่ได้ถูกเอาไปใช้ประโยชน์อะไรในอุตสาหกรรมการผลิต เลยยิ่งสงสัยว่าจะอ้างอิง Demand Supply จากไหน? ถ้านักลงทุนคิดแค่ว่ามันจะขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วมันจะต่างอะไรกับแชร์ลูกโซ่ระดับโลกละครับ?

สรุปคำถามสั้นๆ คือ "การขึ้นลงของราคาทองเป็นผลมาจากอะไรครับ"
ราคาทองคำเจอแรงขายหนักหลังตื่นวิกฤตินิวเคลียร์

Posted on Wednesday, March 16, 2011
สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทอง ประจำวันที่16 มีนาคม 2554 ลดลง 150 บาท ทำให้มีราคาเป็นดังนี้
- ทองคำแท่งรับซื้อคืนบาทละ 20,150 บาท ขายออก บาทละ 20,250 บาท
- ทองรูปพรรณ ซื้อคืนบาทละ 19,859 บาท ขายออกบาทละ 20,650 บาท

ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศร่วงลงหลังสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดลดลงถึง 32.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือลดลง 2.3% ปิดที่ 1,392.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น และระดับการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังเทขายทองคำ เพื่อระดมทุนมาใช้ในการอัดฉีดเงินสด เข้าสู่ระบบเป็นวงเงินสูงถึง 20 ล้านล้านเยน เพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน
ภาพประจำตัวสมาชิก
BIG87
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 371
ผู้ติดตาม: 3

Re: การขึ้นลงของราคาทองเป็นผลมาจากอะไรครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น่าสนใจตรงคำว่า แชร์ลูกโซ่ระดับโลก นี่แหล่ะครับ :lol:

ขอเพิ่มข้อมูลเพื่อประกอบคำถามของ จขกท. นะครับ
สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอพาไปทำความรู้จักกับสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนไม่ เสื่อมคลาย เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา นั่นก็คือทองคำนั่นเอง แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับผู้ซื้อและผู้ขายทองคำ ในฐานะที่เป็นตัวกลางสำคัญที่ทำให้ราคาทองวิ่งขึ้นสูง

หากพูดถึงทองคำเชื่อว่าหลายต่อหลายคนคงนึกถึงเยาวราช ในฐานะย่านที่มีร้านทองมีชื่อเสียง ร้านขายทอง เป็นตัวกลางสำคัญคอยรับซื้อทองเก่าจากลูกค้า และนำมาแปรรูปเป็นทองรูปพรรณแบบต่างๆ ออกมาขายใหม่ ซึ่งทองคำที่หมุนเวียนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อกลไกราคาทองคำไม่ให้ผันผวนมาก นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ราคาทองคำในตลาดโลกสูง ทองคำเก่าหมุนเวียนมักจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนทยอยนำทองคำมาขายในช่วงราคาดี ทำให้ราคาทองในประเทศไม่พุ่งสูงจนน่าตกอกตกใจ โดยในปี 2550 ราคาทองคำได้ปรับสูงขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งปี ทำให้ปริมาณทองคำหมุนเวียนในตลาดโลกมีสูงถึง 1,100 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่ระดับแค่ 890 ตัน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณทองคำส่วนมากในตลาดไม่ได้มาจากทองคำเก่าหมุนเวียน แต่กว่า 60% จะเป็นทองคำขุดใหม่จากเหมืองที่ปัจจุบันมีกว่า 400 แห่งทั่วโลก โดยมีประเทศแอฟริกาเป็นแกนนำสำคัญในการผลิตทองส่งออก นอกจากนี้ ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่มาจากบรรดาธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่จะมีการขายทองคำออกมาเป็นครั้งคราว แต่ก็ถือเป็นสัดส่วนที่น้อย ไม่ถึง 10% ของปริมาณทองคำที่ขายในตลาดโลก

สำหรับฝั่งผู้ซื้อ ชาวบ้านทั่วไปอย่างพวกเราถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่นิยมชมชอบซื้อทองคำมาเก็บ เป็นเครื่องประดับ ด้วยคุณสมบัติที่คงทน สวยงาม แถมยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตัวเอง ซึ่งชาวตะวันออกกลางและชาวเอเชียเป็นกลุ่มที่นิยมสะสมเครื่องประดับทองคำมาก ที่สุด โดยเฉพาะชาวจีนที่ถือว่าทองคำเป็นสิ่งล้ำค่า นิยมซื้อเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ชาวอินเดียก็นิยมซื้อทองคำในเทศกาล Diwali ซึ่งเป็นเทศกาลสิ้นสุดเดือนถือศีลอดของชาวฮินดู และในช่วงที่มีการแต่งงาน

การซื้อทองคำเพื่อเป็นเครื่องประดับคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของความต้องการทองคำในตลาด แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการทองคำมากเช่นกัน ก็คือ กลุ่มอุตสาหกรรมและการแพทย์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 11% ของทองคำทั้งตลาด เพราะทองคำสามารถเป็นส่วนประกอบของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้ง เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด อย่างเช่น นาโนเทคโนโลยี ก็ยังใช้ทองคำเพื่อเร่งปฏิกิริยาในการควบคุมมลพิษ อุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าและกระบวนการทางเคมี ซึ่งทางคณะทำงานศึกษาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำวิจัยออกมาว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า ความต้องการทองคำเพื่อใช้ในภาคการผลิตน่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ซึ่งหากเป็นจริง ภาคการผลิตก็คงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกสูงขึ้นไป อีก

ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้มีความต้องการซื้อทองคำเพื่อลงทุน ทำกำไรจากส่วนต่างราคา ในบ้านเราวิธีที่นิยมทำกันก็คือซื้อทองคำจากร้านทองแล้วมาเก็บไว้ รอโอกาสทองคำราคาดีก็นำออกมาขายในตลาดทำกำไร แต่สำหรับผู้ลงทุนขนาดใหญ่อย่างบรรดา Hedge Fund ก็มักจะนิยมซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า หรือเลือกลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ ที่มีทองคำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งตลาดซื้อขายล่วงหน้าแห่งใหญ่ๆ ของโลกจะมีทั้งสิ้นประมาณ 6 แห่งด้วยกัน

ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นสูง เป็นไปตามกลไกอุปสงค์และอุปทานของตลาดโลก เมื่อผู้ซื้อมีความต้องการซื้อทองคำมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อเป็นเครื่องประดับ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม หรือเพื่อการลงทุนก็ตาม ราคาทองคำก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และวิกฤตการณ์การเมืองโลก ก็เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ราคาทองคำขึ้นสูง และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ใคร ใคร ก็ชอบทองคำ
ที่มา : http://activities.tfex.co.th/index.php? ... 25&catid=3

ก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จอย่างไร รอผู้รู้มาอธิบายครับ
โพสต์โพสต์