ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตามนี้เลยครับ

BEC 30.23 (25% of port)
CPF 22.79 (45% of port)

PATO 11.01
PM 2.45 (3 ตัวหลังรวมกัน 10% ของพอร์ตครับ)
SYNEX 3.56

เงินสด 25%

ปล. คำวิจารณ์ของพวกพี่ๆไม่มีผลก้อการตัดสินใจซื้อเพิ่มหรือขายหุ้นของผมนะครับ ฉะนั้นตามสบายเลย แค่อยากฟังว่าคนอื่นคิดเห็นเหมือนหรือต่างกันกับผมแค่ไหน

อ่อ PM ผมกำลังจะขายทิ้งครับ พอดีตอนซื้อคิดน้อยไปหน่อย
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ลองวิจารณ์พอร์ตตัวเองก่อนสิครับ ว่าซื้อที่ราคาเท่านั้นเท่านี้หวังอะไร

ถ้าพอร์ตไม่ได้ใหญ่มาก สองตัวสุดท้ายรวมกันแค่ 10% มันฟังดูน้อยมากๆเหมือนจะเสียเวลาตามหุ้นเปล่าๆครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

3 ตัวสุดท้ายเป็น 3 ตัวแรกที่ผมลองซื้อครับโดยการดูแค่ตัวเลขอย่างเดียว โดยไม่ได้ดูคุณภาพและโอกาสเติบโตในอนาคตประกอบครับ(โดยเฉพาะPM) แต่หลังจากนั้นก้อเริ่มวิเคราะห์ลึกมากขึ้น พูดง่ายๆว่าคิดมากขึ้นแหล่ะครับ ซึ่งหลังจากที่ทบทวนดูแล้วคิดว่าคงขายPMทิ้งไป ส่วนอีก4ตัวผมกำลังรอจังหวะซื้อเพิ่มอยู่ครับ
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

1. TV ดาวเทียมขยายตัวมาก ระยะยาวน่าจะผลกระทบต่อ BEC อย่างร้ายแรง
2. สารพิษ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า คนจะกลัวมากขึ้น น่าจะกระทบกับ PATO
แม้ บริษัท ทั้ง 2 จะเป็นบริษัทที่เก่ง มีผลงานดีเนื่องมาตลอด
แต่ สภาพแวดล้อมในอนาคต ค่อนข้างน่ากลัว ต่อบริษัททั้ง 2
Blueplanet
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul Octopus
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 804
ผู้ติดตาม: 2

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="blueplanet"]1. TV ดาวเทียมขยายตัวมาก ระยะยาวน่าจะผลกระทบต่อ BEC อย่างร้ายแรง
2. สารพิษ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า คนจะกลัวมากขึ้น น่าจะกระทบกับ PATO
แม้ บริษัท ทั้ง 2 จะเป็นบริษัทที่เก่ง มีผลงานดีเนื่องมาตลอด
แต่ สภาพแวดล้อมในอนาคต ค่อนข้างน่ากลัว ต่อบริษัททั้ง 2[/quote]

เห็นด้วยครับคุณ Blueplanet เพียงแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นน่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร ซี่งถ้าไม่ทิ้งตลาดไปซะก่อนหมั่นทำการบ้าน น่าจะปรับตัวได้ ส่วน CPF นั้นผมเห็นด้วยว่าดี เพียงแต่ระดับราคาที่ถืออยู่ ผมไม่มั่นใจว่ามันเป็นราคา "อนาคต" มากเกินไปหรือเปล่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
KGYF
Verified User
โพสต์: 399
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

PATO ผมว่าน่าถือต่อนะครับ

กินปันผลไปเรื่อย ๆ

ธุรกิจฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง น่าจะอยู่กับ เกษตรกร ไทยไปอีกนานครับ

แค่หนึ่งความเห็นครับ :bow: :bow:
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "

" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ต้องดูว่า คำว่า ตามหุ้นของแต่ละคนเป็นเช่นไรครับ

การเกาะติดราคาหุ้น กับการค่อยๆดูราคาหุ้นนั้นต่างกัน
พอๆกับการติดตามกิจการ หลายครั้งต้องใช้เวลานานมากกว่า 1 เดือน ถึงจะเห็นว่าสิ่งที่บริษัทเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงไปมีผลแค่ไหนต่อบริษัท

ผมมีหุ้นมากกว่าที่ vi เค้าแนะนำกันครับ
ตามคร่าวๆแบบเขลาๆของผม

เพียงแต่พอเข้าใจในกิจการที่ลงทุน มากน้อยตอนสัดส่วนที่ให้น้ำหนักการลงทุนครับ

ดูที่เป้าหมายการลงทุน และหุ้นที่เราลงทุนว่า เราชอบ และเหมาะกับหุ้นอะไรครับ

มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณสำหรับ comment ของพี่ๆทุกคนนะครับ สำหรับ BEC นั้นตอนแรกก่อนซื้อผมก้อมองเห็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากทีวีดาวเทียมครับ(ตอนแรกกะว่าจะซื้อRSด้วยซ้ำไป) แต่ผมมานั่งคิดอีกรอบนึงว่าถ้าผมเป็นเจ้าของสินค้าอุปโภค บริโภค ผมจะเลือกลงโฆษณา(ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจนี้)ทางฟรีทีวีหรือทีวีดาวเทียมดี ซึ่งผมมองว่าผมเองนั้นคงจะเลือกลงกับฟรีทีวีก่อนอันดับแรกแม้ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าเยอะมากก้อตาม แต่มันmassกว่าเยอะ เข้าถึงกลุ่มคนได้มากกว่าทีวีดาวเทียมหรือcable TVอย่างTrue vision ผมจึงคิดว่า BEC รวมทั้งบริษัทสื่อฟรีทีวีทั้งหลายน่าจะยังหากินได้อีกนานผมจึงตัดสินใจซื้อครับ

ส่วนราคาที่ผมซื้อนั้น ทั้ง BEC และ CPF ผมยอมรับครับว่าซื้อไม่ถูก แต่ผมคิดว่าเป็น Fair Price ไม่ได้แพงจนน่าเกลียดเกินไปนัก เพราะผมเองคิดว่าจากนี้ไปจะให้ราคาหุ้นถูกได้อย่างสองปีที่ผ่านมานั้นคงยากถึงยากมากที่จะเกิดวิกฤษระดับนั้นได้อีก ซึ่งผมและทุกคนคงไม่มีใครคาดเดาได้ ซึ่งผมเองไม่อยากพลาดโอกาสในการลงทุน และก้อได้แต่ ท่องไว้ในใจเสมอว่าต้องระมัดระวังและรอบคอบเสมอในการลงทุน
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
Elessar
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 177
ผู้ติดตาม: 1

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ระวังราคาอาหารสัตว์ให้ดี
ชีซี
Verified User
โพสต์: 144
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Elessar เขียน:ระวังราคาอาหารสัตว์ให้ดี
เห็นด้วยครับกับปัจจัยด้านราคาอาหารสัตว์ และก็มีปัจจัยราคาเนื้อสัตว์ที่ขายด้วย

2 ปีที่ผ่านมาผมคิดว่าทุกอย่างเหมาะเจาะดีหมด คือส่งผลดีต่อบริษัททั้งสองอย่าง และเน้นขายสินค้า cp freshmart มากขึ้น รวมทั้งมูลค่าเพิ่มของ cpall
panwasit
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอเสริมนิดนะครับ เรื่อง CPF น่ะครับ

เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ กำไรมาจากการขายอาหารสัตว์ การเกษตร ใช่ไมครับ

แต่ตอนนี้ กำไรมาจากอาหารสำเร็จรูป (ที่วางขายใน 7-11 cpfreatmart ) ไม่ใช่หรอครับ
ปล ความเห็นส่วนตัว
rakoilnaka
Verified User
โพสต์: 227
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ถ้าถามผม BEC นี่ผมก็ชอบคับ แต่เรื่องราคาผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนทีวีดาวเทียม ณ ตอนนี้ผมว่ามีแต่ช่องที่ไม่ค่อยดึงดูดคนเท่าไหร่ ยิ่งละครช่วงค่ำผมว่าช่อง 3 ทำได้ดีกว่าเพื่อนเสมอเลย มักจะเป็น talk of the town ยิ่งพี่เคนธีรเดชนี่.... :shock: ทีวีที่บ้านดูได้เป็นร้อยช่องก็จริง แต่สุดท้ายคนเราก็ดูได้แค่ทีละช่องเท่านั้นเอง (ที่จริงช่องขยะก็เยอะ ไม่รู้ว่าจะให้มาทำไมเสียเวลากดรีโมท) ซึ่งถ้าต้องเลือก ช่อง 3,5,7,9 เป็นตัวเลือกแรกเสมอ
Shiogari
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีคนหันมาเล่นหุ้นกันเยอะมาก รวมไปถึงคนที่ผมรู้จักด้วย
ให้แนะนำหรือว่าการเทรด บลาๆๆๆ
แต่ว่าผมว่าก่อนจะเริ่มลงทุนกับหุ้น น่าจะมีข้อมูลไว้เยอะๆ
เพราะว่าสถานการณ์หลายๆอย่างในตอนนี้
ทำให้ตลาดมีความผันผวนพอสมควรเลย
ส่วนเรื่อง โบรกเกอร์ตอนนี้ใช้ ktzmico ครับ
ขั้นต่ำ 50 บาท + vat7%
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

simplelife เขียน:ลองวิจารณ์พอร์ตตัวเองก่อนสิครับ ว่าซื้อที่ราคาเท่านั้นเท่านี้หวังอะไร

ถ้าพอร์ตไม่ได้ใหญ่มาก สองตัวสุดท้ายรวมกันแค่ 10% มันฟังดูน้อยมากๆเหมือนจะเสียเวลาตามหุ้นเปล่าๆครับ
คุณเป็นคนพูดตรง และให้คำแนะนำชัดเจนมีประโยชน์ดีครับ
แต่ผมเกรงว่าบางทีการพูดตรงๆไป
คนอื่นเขาจะน้อยใจหรือไม่เข้าใจเจตนาของคุณได้นะครับ
ด้วยความหวังดีครับ :)
ลงทุนเพื่อชีวิต
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมไม่ได้น้อยใจหรอกครับ ผมว่าพี่เค้าไม่เข้าใจผมมากกว่า ที่อยากให้วิจารณ์แค่อยากรู้ทัศนะจากพี่ๆในบอร์ด ส่วนเหตุผลที่ผมซื้อหรือความคาดหวังอะไร มันต้องอยู่ในหัวผมอยู่แล้วก่อนกดซื้อครับ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ซีเรียส
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
KB
Verified User
โพสต์: 1558
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ดูจากหุ้นแล้วน่าจะลงทุนสไตล์อนุรักษ์นิยม ไม่เน้นเสี่ยงมาก แต่ต้องระวังเรื่องส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยหน่อย และดูอนาคตของธุรกิจให้ดีถ้าจะลงทุนยาว ดูจากราคาแล้วแต่ละตัวเหมือนพึ่งซือ้ได้ไม่นาน ยังไงก็ประสบการณ์จะเป็นครูเองครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

thaloengsak เขียน:
simplelife เขียน:ลองวิจารณ์พอร์ตตัวเองก่อนสิครับ ว่าซื้อที่ราคาเท่านั้นเท่านี้หวังอะไร

ถ้าพอร์ตไม่ได้ใหญ่มาก สองตัวสุดท้ายรวมกันแค่ 10% มันฟังดูน้อยมากๆเหมือนจะเสียเวลาตามหุ้นเปล่าๆครับ
คุณเป็นคนพูดตรง และให้คำแนะนำชัดเจนมีประโยชน์ดีครับ
แต่ผมเกรงว่าบางทีการพูดตรงๆไป
คนอื่นเขาจะน้อยใจหรือไม่เข้าใจเจตนาของคุณได้นะครับ
ด้วยความหวังดีครับ :)
:) ขออภัยครับ กลับมาอ่านบรรทัดสุดท้ายดูอีกที (เข้าใจว่าหมายถึงตรงนี้ ใช่ไหมครับ) ก็รู้สึกเหมือนกันครับว่าพูดฟังดูงงๆไปหน่อย บังเอิญบอร์ดนี้มัน edit แก้คำพูดไม่ได้ เลยปล่อยเลยตามเลย ช่วงหลายๆวันมานี้ไม่ได้เข้ามาดูบอร์ดเยอะ เพราะมีเวลานั่งหน้าคอมพ์แป๊บๆ ว่าจะมาเม้นท์เพิ่ม แต่ไม่ได้กลับมาดูเลย

ตรงนั้นผมอยากบอกว่า การที่จะเก็บหุ้นเล็กๆน้อยๆเป็นเบี้ยหัวแตก มันเสียเวลาเราเปล่าๆครับ อย่างเช่น ถ้าพอร์ต 4 แสนบาท 3 ตัวสุดท้าย รวมกันได้ 10% เท่ากับว่าซื้อหุ้นละ 1 หมื่นกว่าบาท ขณะที่สองตัวแรก อาจจะตัวละแสนสองแสน ถึงหนึ่งในสามตัวนี้มัน perform ดีมากแค่ไหน ได้มาเกือบเด้งนึงเลย กำไรหนึ่งหมื่นบาท มันก็ได้แค่อีก 1 หมื่นบาทหรือแค่ 3% ของพอร์ตเองครับ ถ้าคิดจะตามจริงๆ ใช้วิธีมาร์คแบบอื่น(เช่น bookmark หน้าร้อยคนร้อยหุ้น) น่าจะดีกว่าการตามโดยการซื้อมาเก็บไว้ในพอร์ตครับ เพราะการตามแบบนี้เราตามราคาของมันมากกว่าตามมูลค่าของมันครับ

ถ้าหมายถึงตรงประโยคแรก ผมหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ ว่าการลงทุนจะซื้อหุ้นตัวไหน ขายตัวไหน มันไม่ควรจะขึ้นกับความคิดของคนอื่นเลยครับ มันต้องขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามีสมมติฐานแบบไหน อย่าไปตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ (intuition) มากเกินไป "ว่าบริษัทดูดี กำไรน่าจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นราคาต้องขึ้นไปแน่ๆเลย" ลองหาเหตุผลมารองรับก่อนว่า ทำไมเราอยากลงทุนในธุรกิจนั้นธุรกิจนี้ มองอะไรอย่างที่เป็นปริมาณที่วัดได้ก่อน เอาอย่างง่ายๆเช่น บริษัทนี้มีนโยบายปันผลได้ 60% ของรายได้ ปีนี้กำไรเท่านี้ คิดแล้ว dividend yield เท่านั้น ปีหน้าธุรกิจก็น่าจะ stable อาจจะมี growth 10% ปันผลของปีหน้าก็ได้ yield เท่านี้เท่านั้น เป็นต้นครับ หรืออย่างเป็นบริษัทอสังหา,รับเหมา บริษัทออกข่าวว่ามี backlog เท่านี้เท่านั้น ทำกำไรได้ดีขึ้น x% เตรียมขยายงาน บอกว่ายอดรายได้จะเท่านั้นเท่านี้

แล้วเราค่อยเอาข้อมูลพวกนี้กลับมาคิด valuation ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ว่าซื้อที่เท่าไรถึงจะเหมาะสมครับ ทำแบบนี้เวลางบออกหรือมีข่าวอะไรออก แล้วขัดกับสมมติฐานตั้งต้นของเรา เราจะได้คิดใหม่ได้ ตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือจะทำยังไงต่อไป เพราะในทางกลับกันถ้าซื้อเพียงเพราะว่าคนในบอร์ดบอกว่าดี หรือทนถือต่อไปเพราะในบอร์ดเห็นว่าน่าจะโตไปได้ แล้วจะมีความสุขหรือครับ

ขอบคุณจขกทอีกครับที่ไม่ได้ถือคนพิมพ์ไวกว่าคิด และเข้าใจในเจตนาครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 16

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ไม่เปนไรครับพี่simplelife ยังไงก้อแล้วแต่ก้อขอบคุณพี่ที่ช่วยชี้แนะผมนะครับ : )
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

... ขอวิจารณ์หุ้น ตามความคิดของคนที่ไม่ได้ติดตามหุ้นที่คุณถืออย่างละเอียดนะครับ
ในพอร์ตคุณผมชอบ PM มากที่สุด
ชอบ BEC น้อยที่สุด
เหตุผลง่ายๆ ชอบตามMOSที่คาดการณ์ไว้หยาบ(มากๆ)
และ ขอบคุณ คุณSimplelife สำหรับคำแนะนำดีๆครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
newbievi
Verified User
โพสต์: 16
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

thaloengsak เขียน:... ขอวิจารณ์หุ้น ตามความคิดของคนที่ไม่ได้ติดตามหุ้นที่คุณถืออย่างละเอียดนะครับ
ในพอร์ตคุณผมชอบ PM มากที่สุด
ชอบ BEC น้อยที่สุด
เหตุผลง่ายๆ ชอบตามMOSที่คาดการณ์ไว้หยาบ(มากๆ)
และ ขอบคุณ คุณSimplelife สำหรับคำแนะนำดีๆครับ
PM ผมกลัวว่าจะเป็นหุ้นที่ถูกตลอดกาลน่ะสิครับ มองไม่เห็น Upside เท่าไรนัก ล่าสุดพยายามของproductใหม่มา เป็นสาหร่ายมาชนกับพวกเถ้าแก่น้อยก้อไม่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

newbievi เขียน:
thaloengsak เขียน:... ขอวิจารณ์หุ้น ตามความคิดของคนที่ไม่ได้ติดตามหุ้นที่คุณถืออย่างละเอียดนะครับ
ในพอร์ตคุณผมชอบ PM มากที่สุด
ชอบ BEC น้อยที่สุด
เหตุผลง่ายๆ ชอบตามMOSที่คาดการณ์ไว้หยาบ(มากๆ)
และ ขอบคุณ คุณSimplelife สำหรับคำแนะนำดีๆครับ
PM ผมกลัวว่าจะเป็นหุ้นที่ถูกตลอดกาลน่ะสิครับ มองไม่เห็น Upside เท่าไรนัก ล่าสุดพยายามของproductใหม่มา เป็นสาหร่ายมาชนกับพวกเถ้าแก่น้อยก้อไม่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
Upside มันแล้วแต่มุมมอง และการเข้าใจ-การประเมิณมูลค่าธุรกิจ
ของแต่ละคน ซึ่งแตกต่างกันไป :)
ลงทุนเพื่อชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

harikung เขียน:ตามนี้เลยครับ

BEC 30.23 (25% of port)
CPF 22.79 (45% of port)

PATO 11.01
PM 2.45 (3 ตัวหลังรวมกัน 10% ของพอร์ตครับ)
SYNEX 3.56

เงินสด 25%

ปล. คำวิจารณ์ของพวกพี่ๆไม่มีผลก้อการตัดสินใจซื้อเพิ่มหรือขายหุ้นของผมนะครับ ฉะนั้นตามสบายเลย แค่อยากฟังว่าคนอื่นคิดเห็นเหมือนหรือต่างกันกับผมแค่ไหน

อ่อ PM ผมกำลังจะขายทิ้งครับ พอดีตอนซื้อคิดน้อยไปหน่อย
เรื่องบางเรื่องพูดง่าย แต่ทำยาก เซียนหลายท่านก็บอกเทคนิคกันไปแล้วว่าอย่าติดกับทุน สุดท้ายก็ยังติดกับทุนอยู่? ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร? ผมก็ไม่ได้หมายถึงให้เชื่อเซียนนะครับ แต่ถ้าลองคิดๆดู
ศึกษาจิตวิทยาการลงทุนให้มากๆ ก็น่าจะเข้าใจว่าการติดกับทุนจะทำให้เราไม่ได้ซื้อขายหุ้นด้วยเหตุผลแต่จะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าไม่น่าจะโอเค...

ผมเข้าใจว่าพอร์ทที่น่าจะวิจารณ์กันอย่างสนุกและมีสาระคือพอร์ทรูปแบบนี้

1.AAA ราคาล่าสุด10บาทUpside30% 20%ของพอร์ท
2.BBB ราคาล่าสุด15บาทUpside50% 30%ของพอร์ท
3.CCC ราคาล่าสุด20บาทUpside40% 50%ของพอร์ท

ผมว่าแบบนี้ประเมินกันมันส์แน่ๆ ได้ความรู้มากด้วยเช่น
ทำไมมองAAA BBB CCC Upsideเท่านั้น?
ทำไมถือCCCมากกว่าBBBทั้งๆที่Upsideน้อยกว่า?
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
bluemoon vi
Verified User
โพสต์: 5
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยวิจารณ์พอร์ตของผมหน่อยครับ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เสี่ยยักษ์ยกตัวอย่างหุ้น CPF ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นบทเรียนที่ล้ำค่ามากในรอบนี้ ผมไม่เล่นหุ้น "กลุ่มซีพี" เพราะมีความเชื่อมาตลอดว่าไอคิวเราสู้เจ้าสัวไม่ได้ ตรงนี้วิธีคิดมันเปลี่ยนอีกแล้วสมัยก่อนเจ้าสัวแก "ค้ากำไร" แต่สมัยนี้แกเปลี่ยนมา "ค้าหุ้น" พอกลุ่มซีพีเขาเปลี่ยนวิธีคิด ปีนี้ (2553) ฟอร์บส์จัดอันดับเจ้าสัวธนินท์รวยที่สุดในประเทศไทยเลยเห็นมั้ย (มูลค่าทรัพย์สิน 2.17 แสนล้านบาท) ตรงนี้ถือเป็นบทเรียนสอนตัวเองว่า "อย่ายึดติดไอเดียเดิมๆ"

"เจ้าสัวแกฉลาดรู้ว่าตลาดกำลังฮิตหุ้นโมเดิร์นเทรดก็หันมาทำตรงนี้ (CPF, CPALL) ปกติหุ้นซื้อขายพี/อี 8 เท่า พอเปลี่ยนมาเป็นหุ้นโมเดิร์นเทรดไปซื้อขายกันที่พี/อี 15-20 เท่า นี่เพราะว่าเขาเปลี่ยนวิธีคิด หุ้น CPF ขึ้นมา 5 เท่าตัว ผมไม่ได้เข้าตั้งแต่แรกจะให้มาซื้อตอนนี้ก็ไม่กล้าซื้อ จุดตรงนี้ที่ผมนำมาใช้เป็นอุทาหรณ์ ที่ไม่ซื้อเพราะความคิดของเรามันไม่เชื่อ ก็เสียโอกาส"

ที่จริงตอนหุ้น CPF อยู่แถวๆ 6-7 บาท ผู้บริหารซีพีเอฟไปนั่งบรีฟข้อมูลให้นักลงทุนรายใหญ่ฟังบางคนรวยเละแต่เสี่ยยักษ์ไม่ซื้อตาม "ใจผมมันไม่เชื่อ" อีกอย่างเที่ยวนี้เราเข้าทีหลัง (ต้นทุนสูง) เลยต้อง "ออกก่อน" ที่จริงมองตลาดผิดตั้งแต่ 600 กว่าจุดคิดว่ามันจะลง พอจะกลับมาซื้อหุ้นขึ้นไปเยอะแล้วก็ไม่กล้าบุก "สไตล์ผมถ้าเข้าทีหลังต้องรีบออกก่อนเพราะต้นทุนเราเสียเปรียบ" รอบนี้ถึงได้กำไรไม่เยอะ
โพสต์โพสต์