DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สำหรับ VI น่าเล่นไม๊
ผมเห็นมันขึ้นแล้ว อึ้งไปเลย
ขอดีข้อเสียหลักการณ์ในการเล่นน่าจะมีหลักอะไรบ้าง
Blueplanet
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 3

Re: DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

blueplanet เขียน:สำหรับ VI น่าเล่นไม๊
ผมเห็นมันขึ้นแล้ว อึ้งไปเลย
ขอดีข้อเสียหลักการณ์ในการเล่นน่าจะมีหลักอะไรบ้าง
กำลังค้นข้อมูลอยู่พอดี ทำไมมันขึ้นที 50% โหดจริงๆ
send
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 3

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

สำหรับผมแล้วคิดว่าไม่น่าเล่นครับเพราะ
สิ่งที่ผมมั่นใจคือ ราคาจะวิ่งเข้าพื้นฐานบริษัทเสมอ
แต่สิ่งที่ผมไท่รู้คือ มันจะวิ่งเข้าเมื่อไหร่
และเวลาของ DW ก็สั้นเกินไป
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
wattana2010
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 10
ผู้ติดตาม: 0

เขื่อน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ไม่มีพื้นฐาน เก็งกำไรอย่างเดียว
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มองเป็นเครื่องมือ มันก็ดีครับ
แต่ถ้ามองเป็นการเก็งกำไร ... เท่าที่เห็นก็ถูก
ผมว่าอยู่ที่เจตนามากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
reiter
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2308
ผู้ติดตาม: 7

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

send เขียน:สำหรับผมแล้วคิดว่าไม่น่าเล่นครับเพราะ
สิ่งที่ผมมั่นใจคือ ราคาจะวิ่งเข้าพื้นฐานบริษัทเสมอ
แต่สิ่งที่ผมไท่รู้คือ มันจะวิ่งเข้าเมื่อไหร่
และเวลาของ DW ก็สั้นเกินไป
เห็นด้วยครับ ราคาในระยะสั้นไร้เหตุผลได้โดยสิ้นเชิง ระยะเวลาของ DW สั้นจนอะไรก็เกิดขึ้นได้
Our favorite holding period is forever.

Blog การลงทุนของผม

http://reitertvi.wordpress.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
murder_doll
Verified User
โพสต์: 1644
ผู้ติดตาม: 2

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมไม่เคยเล่นนะครับ แต่เคยถือหุ้นเเม่ที่มีหุ้นลูกครับ บางทีเห็นเราสามารถทำ อาบิราจ จากการแปลงวอร์แรนได้นะครับ แต่ถ้าเราถือจนลืมแปลง WD ก็หลายเป็นแค่กระดาษเปล่าไป
อันนี้ไม่เคยเล่นนะครับ แต่เห็นในห้องพูดถึงกันเยอะครับ เสริมได้นะครับ
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Murphy.Bkk
Verified User
โพสต์: 37
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขึ้นกับวิธีการใช้ประโยชน์จากมันนะครับ
เช่น หุ้น XX ราคา 24.9
หุ้น XXYYCA (DW) ราคา 3.4
กำหนดการใช้สิทธิ์ 2 หุ้น DW ต่อ 1 หุ้นแม่ + เพิ่มเงิน 18.8 บาท

การที่เราซื้อ 2 หุ้น DW แทนการซื้อ 1 หุ้นแม่ ก็จะทำให้
-- ประหยัดเงิน แทนที่ต้องลงเงิน 24.9 บาท ก็ลงแค่ 3.4*2 = 6.8 บาท (ถ้าซื้อ 100,000 หุ้นแม่ ก็ประหยัดได้เยอะ) เอาเงินที่ประหยัดได้ไปทำอย่างอื่นก่อน ถึงเวลาค่อยแปลงเป็นหุ้นแม่
-- สมมติเราคำนวณว่าก่อนหมดอายุ บริษัทก็จะแสดงผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป ทำให้มูลค่าหุ้นอย่างน้อยต้องเป็น 27 บาท (หุ้นแม่) ก็จะทำให้เราได้อัตราผลตอบแทนทวีคูณ (ด้วยการซื้อหุ้น DW แทนการซื้อหุ้นแม่) ในกรณีนี้
หุ้นแม่เดิม 24.9 เป็น 27 เพิ่ม 2.1 บาท --> หุ้น DW จะเพิ่ม 1.05 บาท (เพราะ 2 ตัวแลกได้ 1 หุ้นแม่)
หุ้น DW เดิม 3.4 จะเป็น 4.45 เพิ่ม 1.05 บาท
ผลตอบแทนการลงทุน หุ้นแม่ = (27-24.9)/24.9 = 8%
ผลตอบแทนการลงทุน หุ้น DW= (4.45-3.4)/3.4 = 31%

สรุปคือถ้ารู้จักใช้ให้ถูกวิธีและเราประเมินมูลค่าบริษัทให้อีกหลายเดือนข้างหน้าก่อน DW หมดอายุ ได้ไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ก็จะทำให้
1. ประหยัดต้นทุน
2. เพิ่มอัตราผลตอบแทนครับ

แต่หากประเมินผิด อันนี้จะทำให้ผลเป็นตรงกันข้าม อัตราขาดทุนจะเพิ่มขึ้นมากมาย โปรดระวัง!!
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
romulus
Verified User
โพสต์: 99
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ก่อนซื้อ DW เราต้องถามตัวเองก่อนครับ ว่า "เรากำลังจะซืออะไรกันแน่"
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 10

โพสต์

DW สำหรับผมแล้วคือการพนันครับ เป็นการพนันกับบริษัทที่ออก DW นั่นเองครับ ผมยกตัวอย่าง BANP13CB ซึ่งเป็น call warrant ออกโดย KGI (โบรคหมายเลข 13) มีราคาเสนอขายเริ่มต้นต่อหน่วยที่ 2 บาท สัดส่วนการใช้สิทธิคือ 50DW : 1 common share และราคาใช้สิทธิที่ 610 บาท หมดอายุสิ้นปี 2010 (ระยะเวลาประมาณ 5 เดือน)

นั่นหมายความว่าถ้าซื้อ BANP13CB ณ ราคา IPO เราพนันกับ KGI ว่า บ้านปูจะมีราคาสูงกว่า 710 บาท ภายในสิ้นปีก่อนที่ DW จะหมดอายุ เราถึงจะมีกำไร (ไม่นับ cap gain) วันนี้บ้านปูปิด 702 แต่ DW ปิด 3.42 เท่ากับว่าคนที่ซื้อ DW ที่ราคานี้คิดว่าบ้านปูจะมีระดับราคาสูงกว่า 781 บาท

เพราะโดยธรรมชาติของ derivative ซึ่งมีอัตรา gearing สูง ทำให้ผลตอบแทน (ผลขาดทุน) สูงตามไปด้วย

DW ไม่เหมือน warrant ที่บริษัทเป็นผู้ออก เพราะเมื่อหมดอายุ ราคาก็เป็นศูนย์ ไม่สามารถไปแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ (ดังนั้นจะเรียก DW ว่าหุ้นลูกจึงไม่ถูกซะทีเดียว เพราะไม่มีความเกี่ยวพันกัน ยกเว้นราคาหุ้นเท่านั้นเอง)
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Murphy.Bkk
Verified User
โพสต์: 37
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 11

โพสต์

DW สามารถไปเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้จากบริษัทผู้ออก DW ครับ มันต่างจาก Warrant ทั่วไป ที่บริษัทที่สามเป็นผู้ออก ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหุ้นเป็นคนออก แต่สามารถไปแลกเป็นหุ้นแม่ได้เช่นกัน
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
offshore-engineer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 8

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สำหรับ BANP13CB ไม่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ครับ ตามข้อมูลสารสนเทศดังปรากฎใน http://www.set.or.th/dat/security/00013375.thi ครับ ซึ่งการส่งมอบเมื่อใช้สิทธิเป็นการชำระเงินส่วนต่างของราคาอ้างอิงกับราคาการใช้สิทธิเท่านั้นครับ

คุณ Murphy.bkk พอจะมีตัวอย่าง DW ที่สามารถนำไปแปลงเป็นหุ้นสามัญได้รึเปล่าครับ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
S&K Fund
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ยกตัวอย่าง เมื่อมองที่  SCC13CA นะครับ วันนี้ ราคาปิดอยู่ที่  4.40
เมื่อปรับไปหาตัวแม่ SCC ควรจะเป็นราคา 358 บาท

แต่ราคาปิดของ SCC อยู่ที่ 335 แสดงว่า DW มีราคาสูงเกินไป
เนื่องจากความคาดหวังว่าหุ้นแม่จะขึ้นไปได้

หรื่อเราจะสามารถคำนวณจาก ตัวแม่ไปได้นะครับว่า ตัว DW ควรมีราคาเท่าไร
SCC ปิดที่ 335  แสดงว่า DW ควรปิด ที่ 3.25 บาทครับ

นั่นหมายถึงว่า ถ้าคิดจะซื้อ DW ที่ราคา SCC ปัจจุบัน ควรจะซื้อที่่ราคา 3.25 บาท

หลักการคำนวณนะครับ  
หลักทรัพย์อ้างอิง SCC
ราคาใช้สิทธิ 270.00 บาท
อัตราใช้สิทธิ (หลักทรัพย์:หลักทรัพย์อ้างอิง) 20:01
ราคาเสนอขายต่อหน่วย 1.42 บาท

เงินสดส่วนต่างสุทธิ     =        เงินสดส่วนต่าง - ค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิที่เรียกเก็บโดยผู้ออก

โดย เงินสดส่วนต่าง   =        (ราคาอ้างอิง - ราคาการใช้สิทธิ) x อัตราการใช้สิทธิ
       ราคาการใช้สิทธิ  =        270 บาท
       อัตราการใช้สิทธิ  =        0.05 (ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) 20 หน่วย ต่อหุ้นสามัญของ SCC 1 หุ้น)
       ค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิที่เรียกเก็บโดยผู้ออก  =  0 (ไม่มี)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Murphy.Bkk
Verified User
โพสต์: 37
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ต้องขออภัยด้วยครับ การใช้สิทธิของ DW ที่ออกในปัจจุบันเป็นแบบที่ท่าน offshore-engineer อธิบายไว้ คือเป็นการชำระเงินส่วนต่างของราคาอ้างอิงกับราคาการใช้สิทธิเท่านั้นครับ ทางบริษัทผู้ออก DW ไม่ส่งมอบหุ้นแม่ให้จริงๆ

อย่างไรก็ดีในแง่ของการวิธีการใช้ DW ให้เกิดประโยชน์กับผู้ลงทุน ผมคิดว่ายังคงเหมือนเดิมกับที่ได้พูดไป คือหากเราประเมินมูลค่าหุ้นได้ไม่คลาดเคลื่อนมาก เราก็สามารถนำส่วนต่างที่ได้รับ (ถ้าประเมินถูกต้อง ราคาอ้างอิงมากกว่าราคาใช้สิทธิ และได้กำไรส่วนต่าง) + ราคาใช้สิทธิ นำไปซื้อหุ้นแม่จากกระดานได้ โดยณ.วันที่เราซื้อหุ้นก็เหมือนกับล็อกราคาซื้อไว้โดยชำระเงินแค่ราคา DW (โดยซื้อในจำนวนที่ระบุไว้ในการใช้สิทธินั้นๆ) เท่านั้น

ผมคิดว่าแล้วแต่วัตถุประสงค์การใช้ครับ บางคนอาจใช้ในแง่การพนันอย่างเดียว หรืออาจใช้ตามที่ผมได้กล่าวข้างต้นก็ได้เช่นกัน
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
BIGLOVE
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เอ่อ... มันยังไงกันแน่ครับ แปลงเป็นหุ้นสามัญได้หรือเปล่าครับ?
ถ้าแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ ผมว่ามันก็เป็นการเก็งกำไรราคาหุ้นธรรมดาๆนะครับ
แต่ถ้าแปลงเป็นหุ้นสามัญไม่ได้ ผมว่ามันคือการพนันชัดๆเลยครับ และควรจะผิดกฏหมายด้วยนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yaajaar
Verified User
โพสต์: 35
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 16

โพสต์

Derivative Warrants คือสิทธิในการซื้อหรือขายหุ้นอ้างอิง ในราคา จำนวน และเวลาที่ผู้ออกกำหนด โดยในระยะเริ่มแรก DW ที่กำลังจะออกซื้อขายนั้น เป็นประเภท Call Warrant เป็นสิทธิในการซื้อหุ้นอ้างอิงที่สามารถนำมาซื้อขายในตลาดรองได้ ดังนั้น DW ในประเภทนี้จะมีลักษณะคล้ายกับ Warrant แต่สิ่งที่มีความแตกต่างคือ ผู้ออก DW คือบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นอ้างอิงและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหุ้นอ้างอิงที่ผู้ออก DW จะสามารถออกได้จะจำกัดอยู่ในกลุ่มดัชนี SET 50 เท่านั้น

อายุการใช้สิทธิของ DW กำหนดให้มีอายุตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 2 ปี ซึ่งการใช้สิทธิจะสามารถใช้สิทธิได้ครั้งเดียว ณ วันที่ครบกำหนดการใช้สิทธิ์ เมื่อถึงวันที่ครบกำหนดการใช้สิทธิ หาก DW อยู่ในสถานนะ In the Money หรือมีกำไรจากเงินสดส่วนต่างที่ราคาตลาดของหุ้นอ้างอิงสูงกว่าราคาใช้สิทธิ ผู้ถือ DW จะได้รับการชำระราคาหรือส่งมอบเป็นเงินสดจากผู้ออก DW ซึ่งจะไม่มีการส่งมอบหุ้นอ้างอิงแต่อย่างใด หรือเรียกได้อีกอย่างว่าใช้วิธี Cash Settlement ณ ที่นี้ผู้เขียนจะขออนุญาตยกตัวอย่างประกอบดังนี้

สมมติว่านายสดใส ซื้อ DW ที่มีหุ้นอ้างอิงคือหุ้นปูแดง จากบริษัทหลักทรัพย์ ABC จำนวน 1,000 หน่วย มูลค่า 1,000 บาท โดยราคาใช้สิทธิเท่ากับ 100 บาท ผู้ออก DW กำหนดให้มีอายุ 6 เดือน เมื่อถึงกำหนดเวลาใช้สิทธิปรากฏว่านายสดใสอยู่ในสถานะ In The Money โดยที่ราคาตลาดของหุ้นปูแดงราคา 120 บาท แต่นายสดใสถือ DW ที่เป็นสิทธิในการซื้อหุ้นปูแดงในราคาเพียง 100 บาท นายสดใสจะได้รับการใช้สิทธิอัตโนมัติ ซึ่งจะได้กำไรจากการใช้สิทธิจากบริษัทหลักทรัพย์ ABC ที่เป็นผู้ออก DW เท่ากับ 2 หมื่นบาท [ (120-100) * 1,000 หน่วย ] ทั้งนี้นายสดใสจะได้รับมอบเป็นเงินสด แทนการส่งมอบหุ้นจริง

สิ่งที่ผู้ลงทุนควรจะทราบก็คือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่ดูแลในเรื่องการใช้สิทธิหรือการผิดชำระเงินสดของผู้ออก DW รวมทั้งการประกันว่าผู้ออกจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของ DW หรือไม่ ดังนั้นผู้ลงทุนใน DW จะต้องศึกษาเลือกลงทุนกับ DW ที่ผู้ออกมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี และมีความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับที่สูง

ฝ่ายการตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
..................................................

ผมคิดว่าเหมาะมากสำหรับนักเก็งกำไร
แต่ วีไอ คงไม่มอง
อายุสั้นเหมือนยุง
Varies Investor.
ข้าน้อยยังด้อยนัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
OutOfMyMind
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1244
ผู้ติดตาม: 30

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ระยะเวลามันสั้นเกินไปครับ
บทความดีดีสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ถ้าผมเป็นคนออก DW
ภาวะตอนนี้ ตลาดเป็นขาขึ้น
โดยเฉพาะ พลังงาน
BANPU PTT PTTEP
ผมสาระตะดูแล้ว ซื้อ DW คืน
มาก่อนดีกว่า
ปล่อยให้พวกซื้อมือแรกกำไรบ้าง
ดันราคาไปเรื่อยๆ ยิ่งราคาสูงมากเท่าไร (กรณี DW ประเภท CALL)
ก็จะทำให้ราคาอ้างอิงหุ้นแม่สูงขึ้นไปอีก
เช่น BANP13CA ราคา 5.55 บาท
(อาจจะดันต่อ ไป ถึง 6-7 บาทอย่างง่ายๆ)
= 5.55x25+632.10= 770.85 ขณะที่ BANPU=702
ราคาต่างกันเกือบ 10%
ผมเดาว่า ตอนนี้ DW ส่วนมากอยู่ในมือผู้ออก
แล้วรอคอยจังหวะ ถ้ามั่นใจว่า ช่วงเวลาที่เหลือ
ไม่มีอะไรที่เกินคลาดแล้ว
พวกนี้ ก็จะประเมินราคา BANPU
สมมติว่า ประเมินได้ = 710 บาท คิดกลับไป BANP13CA=3.12 บาท
ทั้งที่ BANPU ขึ้นจาก 702 wx 710 แต่ BANP13CA อาจจะลงไปที่ 3บาทต้นๆ คนถือก้หนาวแล้ว
เป็นเกมที่ ลูกมือเสียเปรียบมาก
เจ้ามือโฆตรได้เปรียบเลย
ยังไม่นับ การออกข่าวทุบหุ้นอีก
ผมเดาว่า DW จะเป็นเกมยอดฮิต ต่อไป หุ้นไม่ต้องซื้อแล้ว
ซื้อแต่ DW อย่างเดียว
Blueplanet
ภาพประจำตัวสมาชิก
nasesus
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1280
ผู้ติดตาม: 4

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 19

โพสต์

DW = delight word ถ้าตลาดขาขึ้น

DW = devil word ถ้าตลาดปรับตัวลงแรง
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
villa
Verified User
โพสต์: 404
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 20

โพสต์

มันก็คือฟิวเจอร์ชนิดหนึ่ง  :?:
marble
Verified User
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เล่นมาพักนึงครับ เพราะเขาเล่นกัน ระยะนี้จะเห็น ca cb cc วิ่งกันสลอน

ไม่มีเวลามานั่งเฝ้า เพราะต้องทำงาน เลยเลิกเล่นไป

มีการทำนายกันว่าดัชนี น่าจะถึง พันจุด ในไม่ช้านี้ สงสัยจังครับ ว่าถ้าถึงจริง

แล้วจะเป็นยังไงต่อ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 22

โพสต์

จริงๆแล้ว DW มันก็คือ Stock Options ครับ (ต่อไปนี้ผมจะใช้ DW หรือ option ก็คือสิ่งเดียวกันนะครับ) คือสิทธิ์ในการซื้อ (call)หรือขาย (put)หุ้นในราคาที่กำหนด ใครที่เรียน finance มาก็คงรู้จักมันเป็นอย่างดี ในตลาดเมืองนอก มันมีมานานแล้วครับ ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่ง จุดประสงค์หลักเอาไว้ใช้บริหารความเสี่ยงครับ แต่ก็นำมาเก็งกำไรได้เช่นกัน (ซึ่งถือเป็นการใช้ในทางที่ผิดครับ)

ถามว่ามันทำหน้าที่บริหารความเสี่ยงอย่างไร มาดูกราฟ payoff-profit ของ Option กัน

รูปภาพ

จากภาพให้ดูทางซีกซ้่ายครับ นั่งคือ position ของฝั่งนลท. ปกติแล้วนลท.สามารถจะผสมผสาน option หลายๆชนิด เพื่อ lock หรือ กำหนดผลตอบแทนให้ตัวเองได้ครับ ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าเราซื้อ PTT เอาไว้ แล้วคิดว่ากลัวว่าหุ้นจะลง แต่ก็ไม่อยากขายเพราะมันอาจจะขึ้นก็ได้ นลท.สามารถใช้ DW หรือ option มาเป็นประโยชน์ได้ครับโดยstrategy ที่เรียกว่า "Protected Put" โดยการซื้อ Put DW ของ PTT ให้มีสัดส่วนเท่ากับ "Hedge Ratio" ในราคาที่เหมาะสม โดยผลที่ได้คือ ถ้า PTT ลงจริงๆ เราจะได้เราจะได้กำไรจาก DW มาชดเชยกับ Loss ของ หุ้นที่เราถือ ในขณะที่ถ้าหุ้นขึ้น เราก็จะได้กำไรจากหุ้นที่ถือเหมือนเคย

ฟังดู too good to be true ใช่มั้ยครับ :?:  ใช่ครับการจะได้กำไรจาก strategy นี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด อย่าเคสที่ว่ามา ในกรณี PTT ขึ้น มันต้องขึ้นให้มากกว่าถ้าเทียบกับเราถือหุ้นอย่างเดียวเพื่อชดเชยค่าสัญญาของ Option ถ้าให้ดูกราฟก็ประมาณนี้ครับ
รูปภาพ

พูดง่ายๆในเคสนี้เราใช้ option ในการประกันการขาดทุน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่า"premium"ที่้ต้องจ่ายเพื่อซื้อประกันนั่นเองครับ ดังนั้นกำไรที่เราได้ก็จะน้อยลงไปเท่ากับราคาที่จ่ายไปเพื่อซื้อ DW

นี่เป็นหนึ่งใน Option strategy จากหลายๆรูปแบบนะครับ ที่โพสมาไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือเหมาะกับเราครับ แต่แค่จะบอกว่าตลท.เอา DW เข้ามาในตลาดโดยที่ไม่ให้ความรู้กับนลท.อย่างจริงจัง คนส่วนมากยังไม่รู้ด้วยซ้ำมันคืออะไรเอาไว้ทำอะไร ประโยชน์และโทษคืออะไร สิ่งที่ผมโพสไปเป็นแค่ประโยชน์เล็กๆของมันเท่านั้น ผมยังไม่พูดถึงโทษของมันด้วยซ้ำ...
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ขอถามนะครับ ถ้าหลักการเหมือน option

Set ขึ้นเราซื้อ call (หุ้นขึ้นเราซื้อ DW)

Set ลง เราซื้อ put (หุ้นลง เรา ซื้ออะไรครับ หรือ งั้นเรา Short DW โดยไม่มี DW ในมือได้มั๊ยครับ)

รบกวนผู้รู้ด้วยครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ประโยชน์อีกอย่างของ Option ที่ใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงคือการทำ "Long Straddle" ครับ ในกรณีนี้ใช้เมื่อเราคิดว่า ต่อไปราคาหุ้นที่เราถือจะผันผวนมากๆๆๆๆ คือรู้ว่าไม่ขึ้นมากๆๆๆก็ลงมากๆๆๆแน่นอน แบบนี้ "Long Straddle" สามารถ lock ผลขาดทุนให้จำกัดได้ ในขณะที่สามารถทำกำไรได้ unlimited ถ้าราคาหุ้นผันผวนจริง

เคสนี้ถ้าเราถือ PTT อยู่แล้ว แล้วคาดว่าราคาจะผันผวนมากๆ ในช่วงอายุของ DWนั้นๆ เราสามารถซื้อ DW Put และ Call มาทำ "Long Straddle" ได้ โดยจะให้ Payoff-Profit ดังนี้
รูปภาพ

จะเห็นว่าถ้าหุ้นลงมากๆๆๆๆ ก็กำไร ขึ้นมากๆๆๆก็กำไร แต่ถ้า side way ก็โดนกินเรียบครับจากต้นทุนของการซื้อ DW นั่นเอง

Strategy พวกนี้ ฟังดูง่าย แต่จริงๆยากมากครับ เพราะต้องคำนวนทั้ง "Hedge Ratio" หรือจำนวนสัญญา DW ที่เราต้องใช้เพื่อ Lock ผลตอบแทน ราคาของ DW ที่จะต้องเหมาะสม excersice price และอายุของ DW ก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน ซึ่งในทางปฏิบัติ DW มันอาจจะมีราคาไม่สมเหตุสมผล  อายุ และ excercise price ที่ไม่เข้ากับ Strategy ของเรา และปัจจัยอื่นๆอีกมากครับ

DW หรือ Option เป็น zero-sum game ครับ (เช่นเดียวกัน derivative หรือ อนุพันธ์ทุกชนิด) คนที่ write DW ออกมาอย่าง broker ทั้งหลาย ถ้าให้เทียบก็คือบริษัทประกันที่เขียนกรมธรรณ์ประกันชีวิตให้เรานั่นแหละครับ โดยประกันให้เรา ในขณะที่ได้ premium เป็นผลตอบแทน ประกันต่างกับDWตรงที่ประกันชีวิตไม่จำเปนต้องเป็น 0-sum เพราะมันยังมีผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งเราและบริษัทจากอายุสัญญาที่ยาว ในขณะที่ DW นั้นสัญญาสั้นมาก การจะwrite DW ออกมาทาง broker เค้าคำนวน price ที่รวมเอาปัจจัยทั้งหลายไว้แล้วครับ เมื่อไหร่ที่ DW ปล่อยออกสู่ตลาด ปั่นราคากันขึ้นไป คนหนึ่งกำไร คนหนึ่งก็ต้องขาดทุนครับ เพราะ at the end (excercise date) ราคาของมันก็จะกลายเป็น 0 ซึ่งถ้า ณ จุดนั้น DW "in the money" (ราคาใช้วสิทธิ์สูงกว่าราคาตลาดในกรณี put หรือ ต่ำกว่าตลาดในกรณี call) นลท.ที่ถือDWนั้น excercise ก็ได้กำไร ส่วนbroker ก็ขาดทุน ในขณะที่ถ้า DW "out of the money" นลท.ไม่ excercise broker ก็กำไร (จากการwrite DW ให้นลท.) นลท.ก็ขาดทุน(...มหาศาล...เพราะ DW =฿0)

สรุปสั้นๆสำหรับชาว VI เรา อย่าไปแตะเป็นดีที่สุดครับ  :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 25

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขอถามนะครับ ถ้าหลักการเหมือน option

Set ขึ้นเราซื้อ call (หุ้นขึ้นเราซื้อ DW)

Set ลง เราซื้อ put (หุ้นลง เรา ซื้ออะไรครับ หรือ งั้นเรา Short DW โดยไม่มี DW ในมือได้มั๊ยครับ)

รบกวนผู้รู้ด้วยครับ
ไม่ค่อยเข้าใจคำถามครับ ตั้งใจจะหมายถึง...รึเปล่าครับ :?:

set ขึ้น เรา long future (หุ้นขึ้น ซื้อ Call DW)
Set ลง เรา short future (หุ้นลง เรา ซื้ออะไรครับ) คำตอบคือถ้าจะใช้ DW ก็คือ ซื้อ Put DW ครับ

ปล.นี่คือการเก็งกำไรล้วนๆเลยนะครับ ไม่ใช่การบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของการใช้ DW ที่ผมอธิบายมาด้านบน
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 23

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 26

โพสต์

อ้อ แสดงว่า

DW มีทั้ง call และ put

งั้นผมเข้าใจแล้วครับ

เล่นเหมือน option

คุณ Generation X ครับ รบกวนนิดครับ

รบกวนอีกนิดครับ ผม short

DW put หรือ DW call

ทำ Short straddle หรือ Short strangle ได้ด้วย ใช่มั๊ยครับ

อืมม์

สำหรับคำถามที่หลาย ๆ คนถาม ผมอยากตอบว่า เป็นการเก็งกำไร มากกว่าการลงทุน

แต่ถ้าให้ตอบอีกมุมหนึ่ง เป็นการล็อคความเสี่ยง ทั้งขาขึ้นและขาลง

คือล็อคทั้งขาดทุนและกำไร

หรือพูดกลับก็คือ ช่วยทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น และ ช่วยทำให้กำไรเพิ่มขึ้นครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ตอบคุณ Nevercry.boy

ออกตัวก่อนนะครับผมไม่มีปสก.ใดๆ ในตลาดอนุพันธ์เลยนะครับ ซื้อขายกันยังไงผมยังไม่แน่ใจเลยครับ รู้แต่ทฤษฏีล้วนๆ

ใช่ครับ DW คือ stock option เลยครับ ที่พี่พิมพ์มาจะเขียนแบบนี้ก็ได้ครับ ถ้าเอาเรื่อง option ล้วนๆ

set ขึ้น เรา long Call  (index option) ถ้า หุ้นขึ้น long Call DW
Set ลง เรา long Put (index option) หุ้นลง เรา long Put DW ครับ

ที่ผมเข้าใจการจะ Short DW หรือ Option ได้ คือการที่คุณต้อง write DW แล้วออกขายให้คนอื่นครับ ซึ่งคนที่ทำได้ก็มีแต่สถาบันเท่านั้นแหละครับ ผมไม่แน่ใจกฏหมายบ้านเราจะรองรับมั้ยถ้า รายย่อยจะเขียน DW ขึ้นเองแล้วขาย OTC

ดังนั้น ที่ผมเข้าใจคือ Short straddle น่าจะทำได้เฉพาะสถาบันก็คือ broker เท่านั้นครับ

ในความเข้าใจของผมคือ

สำหรับหุ้นทั่วไป
Long = ซื้อ
Short = ขาย หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ยืมหุ้นมาขาย (short sell)

สำหรับ future
Long คือ สัญญาว่าซื้อ
Short คือ สัญญาว่าจะขาย

สำหรับ DW หรือ option
Long คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะ... (buy the right to...)
Short คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะ...(write the right to...)

Long Call คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะซื้อ(buy the right to buy)
Long Put คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะขาย(buy the right to sell)

Short Call คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะซื้อ (write the right to buy)
Short Put คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะขาย (write the right to sell)

ใน future คู่สัญญาคือนักลงทุนด้วยกัน แต่ใน DW คู่สัญญาคือคนที่ออก DW มาตั้งแต่ต้นครับ ดังนั้นการที่เราlong call หรือput DW แล้ว ขายออกไป ไม่ใช่การ short DW นะครับ (ผมเข้าใจแบบนี้อ่ะครับ ถูกมั้ยเอ่ย  :lol: )

อย่างทีบอกครับรู้แต่ทฤษฏี ถ้าอธิบายส่วนไหนผิดไป ช่วยแย้งและชี้แนะให้ผมด้วยจะขอบคุณมากๆครับ  :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 28

โพสต์

สมมคิ ตลาดดีมาก หุ้น PTT BANPU IVL CPF KBANK TTA TCAP
ขึ้นไปแล้ว ทำให้ DW ขึ้น ไปสมมติว่า 500% ของราคาที่เปิดขายครั้งแรก
KGI ออก DW ประมาณ 10 ซีรี่ ซีรี่ ละ ประมาณ 70 ล้านบาท
รวมแล้ว 700 ล้าน ขาดทุน 400% ขาดทุน 2800 ล้าน
สมมติ KGI มีเงินไม่พอ แล้ว ใครจะรับผิดชอบ
ตลาดหลักทรัพย์จะทำอะไรบ้างในกรณีนี้
คงไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ละ
ช่วงนี้ KGI ก็ขยันออก DW เหลือเกิน
Blueplanet
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 29

โพสต์

blueplanet เขียน:สมมคิ ตลาดดีมาก หุ้น PTT BANPU IVL CPF KBANK TTA TCAP
ขึ้นไปแล้ว ทำให้ DW ขึ้น ไปสมมติว่า 500% ของราคาที่เปิดขายครั้งแรก
KGI ออก DW ประมาณ 10 ซีรี่ ซีรี่ ละ ประมาณ 70 ล้านบาท
รวมแล้ว 700 ล้าน ขาดทุน 400% ขาดทุน 2800 ล้าน
สมมติ KGI มีเงินไม่พอ แล้ว ใครจะรับผิดชอบ
ตลาดหลักทรัพย์จะทำอะไรบ้างในกรณีนี้
คงไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ละ
ช่วงนี้ KGI ก็ขยันออก DW เหลือเกิน
ราคา DW จะขึ้นไปกี่ล้าน% ไม่มีผลอะไรกับ writer อย่าง KGI เลยครับ payoff ของ KGI ขึ้นอยู่กับ ราคาหุ้นแม่ เทียบกับ excercise price เท่านั้น

ก่อนการออก DW จะต้องมีการสอบตรวจจากตลท.ก่อนครับ โดยบริษัทที่ออกได้ก็ต้องมีฐานะทางการเงินตามกฏเกณฑ์ของตลาดเช่นกัน และอย่าลืมว่า writer เองก็ใช้เครื่องมืออนุพันธ์อื่นๆป้องกันความเสี่ยงตัวเองได้เช่นกันครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร

โพสต์ที่ 30

โพสต์

สมมติ BANPU ณ. 3/12/2553 (วันสุดท้ายของสัญญา) ราคา 1400 บาท
BANP13CA จะมีราคา = (1400-632.10)/25 =30.71
ราคาขายครั้งแรก 3.67  KGI จะขาดทุนหุ้นละ 30.71-3.67= 27.04บาท
หุ้นละ 30.71 KGI ต้องเป็นคนจ่าย
ส่วนระหว่งทาง KGI จะผ่องถ่ายไปอย่างไร เพื่อให้ต้วเองเจ็บตัวน้อยลง
ก็เป็นภาระของ KGI
ผมเห็น DW หลายตัวพอหมดอายุ ราคาเป็น 0
KGI ก็ได้เนื้อๆ
ผมน่าจะเข้าใจถูก
Blueplanet
โพสต์โพสต์