เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
kin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 1

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมสงสัยว่าถ้าเราสุ่มเลือกหุ้นมา 1 ตัว แล้วถือไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ความน่าจะเป็นที่จะชนะตลาดจะเป็นเท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าจะเป็น 50:50 แน่ๆ คงมีหุ้นเพียงแค่กลุ่มเดียว ที่ทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในแต่ละปีน่ะครับ

อยากตั้งข้อสังเกตขึ้นมา ว่าคนที่ถือหุ้นแบบสุ่ม โอกาสชนะตลาดมีกี่ % และถ้าเพิ่มความสามารถตัวเองอีกเล็กน้อย กรองหุ้นเน่าที่คิดว่าแพ้ตลาดชัวร์ๆ ออกไป จาก 500 ตัว อาจตัดได้ส่วนนึง ความน่าจะเป็นจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่

คิดเล่นๆ ไว้ให้รู้ว่า จริงๆ แล้ว มันไม่ง่าย ที่จะชนะตลาด แม้จะถือระยะยาวก็ตาม   :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 22

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น่าจะเป็นร้อยตัว

แต่...

ในตลาดมีหุ้น 500 กว่าตัว  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
MYBIZ
Verified User
โพสต์: 888
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 3

โพสต์

สุ่มเลือกผมว่าเป็นไปได้ทั้งตีแตกและหัวแตก แต่ถ้าเลือกมามีสิทธิ์ชนะแน่นอน อิอิๆๆ
จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถ้าสุ่มเอา Expect return ก็ควรจะเท่ากับตลาดครับ

เพราะ หุ้นที่คุณสุ่ม มีโอกาสที่จะเป็นหุ้นกลาง ๆ ที่ให้ผลตอบแทนพอ ๆ กับตลาด
หรือ เป็นหุ้นส่วนน้อยที่ชนะตลาดได้มาก ๆ
หรือ เป็นหุ้นส่วนหนึ่งที่แพ้ตลาดได้เหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ดังนั้น ถ้าเราทำ DCA กับ SET50
ผลตอบแทนคาดหวัง จะเยอะกว่าตลาด เพราะ เป็นหุ้นที่ถูกคัดกรองมาแล้วขั้นหนึ่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
kin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 1

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าถ้าสุ่มเอา expect return ไม่น่าเท่ากับตลาดนะครับ กลุ่มที่ไปตามดัชนีจะว่าไปเป็นหุ้นแค่กลุ่มเดียว (พวก SET50) ถ้าสุ่มเอาจิงๆ น่าจะแพ้ตลาด เพราะน่าจะมีหุ้นไม่ถึงครึ่งที่เหนือกว่าตลาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ถ้าคุณถือหุ้นทุกตัวในตลาดในหน่วยที่เท่ากัน ผลตอบแทนก็จะเท่ากับตลาดพอดี(ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)

ถ้าคุณถือมันน้อยตัวลงแบบสุ่ม(ปราศจากการคัดกรอง ปราศจาก bias) Expect Return มันจะต่ำกว่าเดิมไม่ได้ สิ่งที่ได้มาคือ Error rate หรือความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น
ในทางกลับกันถ้าคุณเลือกมันแบบสุ่มโดยปราศจากการคัดกรอง ปราศจาก bias  Expect Return ก็เท่าเดิมอยู่ดีครับ เพียงแต่ถือน้อยมี Error rate พ่วงมาสูง อาจฟรุ๊กดีกว่าตลาดได้ อาจบังเอิญแย่กว่าตลาดได้ แต่ถ้าเท่าตลาดก็ไม่แปลกอยู่ดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
kin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 1

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมงงๆ คุณ peacedev อะครับ

คือผมตั้งกระทู้สมมติฐานไว้ว่าถ้าซื้อหุ้น 1 ตัวแล้วถือเป็นเวลา 1 ปี แบบสุ่มเอา จะมีโอกาสชนะตลาดแค่ไหน

ถ้าสมมติว่ามี 200 ตัวที่ชนะตลาด แล้วเราหยิบมั่วๆ มา 1 ตัว ความน่าจะเป็นที่เราจะชนะตลาดคือ 200/500 = 0.4 ประมาณเนี้ยอ่ะคับ เพียงแต่ผมไม่ทราบว่าเฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นกี่ตัวที่ชนะตลาด เข้าใจว่าไม่ใช่ 250 จาก 500 ตัวน่ะครับ

ผมเข้าใจผิดถูกอย่างไร ชี้แนะด้วยครับ  :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 9

โพสต์

อย่าเรียกว่าชี้แนะเลยครับ เรียกว่าแลกเปลี่ยนกันดีกว่า
ตรงนี้ผมคิดว่าโมเดลของคุณ kin ผิดพลาดที่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักของ 200 ตัวที่ over perform ตลาดน่ะครับ
อีก 300 ตัวมันอาจจะแพ้ตลาด แต่แพ้ไม่มากก็ได้ ส่วนตัวที่ชนะ อาจจะชนะมาก ๆ ก็ได้
ถ้าให้ถูกต้องประเมิน upside/downside เทียบกับตลาดด้วยน่ะครับ :)

เหมือนที่มีคนบอกว่า Gorge Soros ทายผิดบ่อยกว่าทายถูก
แต่ถูกทีนี่เขาได้เยอะมาก ผิดแต่ละครั้งก็เสียไม่มาก

มีคนงงผม จนผมชินละครับ ;)
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 10

โพสต์

kin เขียน:ผมว่าถ้าสุ่มเอา expect return ไม่น่าเท่ากับตลาดนะครับ กลุ่มที่ไปตามดัชนีจะว่าไปเป็นหุ้นแค่กลุ่มเดียว (พวก SET50) ถ้าสุ่มเอาจิงๆ น่าจะแพ้ตลาด เพราะน่าจะมีหุ้นไม่ถึงครึ่งที่เหนือกว่าตลาด

SET           923.89
SET50       635.47
SET100  1,395.00

ดัชนีชุดนี้บอกอะไรเรา
1.SET50 โตต่ำกว่าดัชนีรวม
2.SETในช่วง50-100 โตมากกว่าดัชนีรวม
3.SET>100 โตต่ำกว่าดัชนีรวม

ดังนั้นถ้ามองให้ดีขนาดของบริษัทจะเป็นไปตามS-Curve
ช่วงตั้งฐาน SET>100
ช่วงเติบโต SET 50-100
ช่วงอิ่มตัว SET 50
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ลองตอบคำถามที่ถามว่ามีหุ้นกี่ตัวที่ชนะSET

SET50 แพ้SET ให้เป็นชนะSETประมาณ0ตัว

SET50-100 ชนะSET ให้เป็นชนะSETประมาณ50ตัว

SET100-500 พอๆกับSET ให้ชนะSET50% ประมาณ400*.50=200ตัว

รวมเป็น 250ตัว ครึ่งหนึ่งของหุ้นในตลาดพอดี :?  
แสดงว่าค่าที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือประมาณครึ่งหนึ่งหรือ250ตัวครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
VI Wannabe
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1015
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เอ่อ Indexes ทั้งสามตัวนี่ launch คนละปีกันเลยนะครับ ต่างกันเป็น 10 ปีได้  :wink:
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"

"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Murphy.Bkk
Verified User
โพสต์: 37
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ถ้าคิดแบบตรงไปตรงมา (ซึ่งไม่ถูก) ก็จะได้ว่า ครึ่งหนึ่ง มากกว่าค่าเฉลี่ย (set index)

แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะว่า set index เป็นการคำนวณที่มีน้ำหนักมูลค่าตลาดของหุ้นถ่วงด้วย เช่น PTT ขึ้นลงแต่ละจุดมีผลต่อ set index มากกว่าหุ้นตัวเล็กๆขึ้น 1 จุด

ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่ว่าในปีนั้นๆ หุ้นที่ขึ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นตัวใหญ่หรือเปล่า ถ้าหุ้นตัวใหญ่เช่นใน set50 ขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ปีนั้น ก็มีหุ้นที่ชนะตลาด จำนวนน้อย เช่น 100, 200 ตัว

แต่ถ้าปีไหน หุ้นส่วนใหญ่ที่ขึ้นเป็นหุ้นเล็ก ปีนั้นก็มีหุ้นชนะตลาด จำนวนมาก

นี่คิดคร่าวๆนะครับ ถ้าจะหาจริงๆ คงต้องไปดูข้อมูลจริงเป็นปีๆไป
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="VI Wannabe"]เอ่อ Indexes ทั้งสามตัวนี่ launch คนละปีกันเลยนะครับ ต่างกันเป็น 10 ปีได้
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
leechong
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

Re: เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 15

โพสต์

[quote="kin"]ผมสงสัยว่าถ้าเราสุ่มเลือกหุ้นมา 1 ตัว แล้วถือไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ความน่าจะเป็นที่จะชนะตลาดจะเป็นเท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าจะเป็น 50:50 แน่ๆ คงมีหุ้นเพียงแค่กลุ่มเดียว ที่ทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในแต่ละปีน่ะครับ

อยากตั้งข้อสังเกตขึ้นมา ว่าคนที่ถือหุ้นแบบสุ่ม โอกาสชนะตลาดมีกี่ % และถ้าเพิ่มความสามารถตัวเองอีกเล็กน้อย กรองหุ้นเน่าที่คิดว่าแพ้ตลาดชัวร์ๆ ออกไป จาก 500 ตัว อาจตัดได้ส่วนนึง ความน่าจะเป็นจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่

คิดเล่นๆ ไว้ให้รู้ว่า จริงๆ แล้ว มันไม่ง่าย ที่จะชนะตลาด แม้จะถือระยะยาวก็ตาม
leechong
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

Re: เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 16

โพสต์

leechong เขียน:ขอเวลาผมทำการบ้านก่อนนะครับ เพราะฐานข้อมูลผมมีแค่3-5ปีย้อนหลัง ผมจะไปดูข้อมูลมากก่อนค่อยสรุป (ผิด/ถูก บอกผมด้วย ไม่ยากลำบากจะรีบแก้ไข)
    วันนี้ผมเอาการบ้านตอนที่ 1 มาส่งครับ ผิดพลาดประการใด เรียนผู้รู้แนะข้อผิดพลาดเพื่อทำความเข้าใจเสียใหม่และแก้ไขให้ถุกต้องครับ
คำเตือน! 1. ฐานข้อมูลที่ผมมีอยู่อาจจะไม่ครบถ้วนทุกทุกหลักทรัพย์
             2. ผลได้ตัดข้อมูลในส่วนที่เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ออกไป
             3. วิชาความรู้ประกอบการพิจารณาเป็นวิชาที่มีอยู่จริง ได้แก่ วิชาความน่าจะเป็น คณิตศาสตร์ ม.ปลาย, วิชาการจัดหมู่ คณิตศาสตร์ ม.ปลาย, วิชาสถิติพื้นฐาน มหาวิทยาลัย กรุงเทพ เป็นต้น ประกอบการพิจารณา
             4. ปีที่ผมใช้ในการทดสอบคือ ปี 2550-2551และ ปี 2551-2552
             5. สิ่งที่ได้เป็นข้อเท็จจริงในแง่มุมหนึ่ง ใช้ตอบสมมุติฐานเท่านั้น
ข้อมูลปี 2550 โดยสรุป
    กำหนดให้ T แทนข้อความที่เป็นจริง  
    กำหนดให้ F แทนข้อความที่เป็นเท็จ  
    กำหนดให้ N แทนจำนวนหลักทรัพย์ทั้งตลาดมี
    กำหนดให้ r  แทนจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกสุ่มเลือก
    กำหนกให้ EPS แทนกำไรต่อหุ้น
    กำหนดให้ PE   แทนตัวชีวัดราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด)
    กำหนดให้ P     แทนการเป็นแปลงของราคาปลายปีหารด้วยราคาต้นปี ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด)
จากหลักทรัพย์ทั้งหมด N= 426 หลักทรัพย์,
    เป็นหลักทรัพย์ P(T) = 249 หลักทรัพย์,
    เป็นหลักทรัพย์ P(F) = 177 หลักทรัพย,
    เพราะฉะนั้น ในการเลือกสุ่มหลักทรัพย์ใดๆ จำนวน r หลักทรัพย์ จากหลักทรัพย์ทั้งหมดของตลาด โอกาสที่หลักทรัพย์ที่ถูกสุ่มเลือกทั้งหมดจะสามารถชนะตลาดโดยรวมได้เป็นดังนี้
 N   P(T)  P(F)   r   Pr(P(T))
426  249  177   1   58.5%  
426  249  177   2   34.1%      
426  249  177   3   19.9%      
426  249  177   4   11.6%      
426  249  177   5     6.7%    
426  249  177   6     3.9%      
426  249  177   7     2.2%  
426  249  177   8     1.3%  
426  249  177   9     0.7%    
426  249  177  10    0.4%        
    เช่น หรือ สุ่มหลักทรัพย์ 4 หลักทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาดทุกหลักทรัพย์ 11.6% เป็นต้น
    (เป็นสมมุติฐานที่1) ถ้าเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีกำไร EPS โอกาสที่จะชนะตลาดได้น่าจะเพิ่มขึ้น ดังนี้
EPS(T) P(T)  P(F)  r Pr(P(T))
  339   202  137  1 59.6%    
  339   202  137  2 35.4%    
  339   202  137  3 21.0%    
  339   202  137  4 12.5%    
  339   202  137  5   7.4%    
  339   202  137  6   4.3%    
  339   202  137  7   2.6%    
  339   202  137  8   1.5%    
  339   202  137  9   0.9%    
  339   202  137 10  0.5%    
    เช่น เดิมเรา สุ่มหลักทรัพย์ 1 ทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาด 58.5% แต่ตอนนี้เราเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีกำไรโอกาศจึงเพิ่มขึ้นมากกว่า เป็น 59.6% ดังนั้นสมมุติฐานที่1เป็นจริง
(เป็นสมมุติฐานที่2) ถ้าเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด) โอกาสที่จะชนะตลาดได้น่าจะเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนี้
PE(T) P(T)  P(F)  r Pr(P(T))
 339   115   62   1  65.0%    
 339   115   62   2  42.1%    
 339   115   62   3  27.2%    
 339   115   62   4  17.5%    
 339   115   62   5  11.2%    
 339   115   62   6    7.2%    
 339   115   62   7    4.6%    
 339   115   62   8    2.9%    
 339   115   62   9    1.8%    
  339   202  137 10  1.2%  
    เช่น เดิมเรา สุ่มหลักทรัพย์ 1 ทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาด 58.5% และต่อมาเราเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีกำไร ทำให้โอกาศชนะตลาดจึงเพิ่มขึ้นมากกว่า เป็น 59.6% แต่พอเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด) เพิ่มเงื่อนไขอีก ผลทำให้โอกาสชนะตลาดเพิ่มขึ้นอีกเป็น 65.0% ปรากฎว่าดังนั้นสมมุติฐานที่2เป็นจริง
    ส่งการบ้านตอนที่ 1
leechong
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

Re: เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 17

โพสต์

กระทู้บน การบ้านมีข้อผิดพลาด ช่วยลบด้วยครับ
กระทู้นี้   การบ้านแก้ไขจุดผิดพลาดแล้วครับ ขออภัยอย่างแรง (คอทองแดง)
leechong เขียน:ขอเวลาผมทำการบ้านก่อนนะครับ เพราะฐานข้อมูลผมมีแค่3-5ปีย้อนหลัง ผมจะไปดูข้อมูลมากก่อนค่อยสรุป (ผิด/ถูก บอกผมด้วย ไม่ยากลำบากจะรีบแก้ไข)
    วันนี้ผมเอาการบ้านตอนที่ 1 มาส่งครับ ผิดพลาดประการใด เรียนผู้รู้แนะข้อผิดพลาดเพื่อทำความเข้าใจเสียใหม่และแก้ไขให้ถุกต้องครับ
คำเตือน! 1. ฐานข้อมูลที่ผมมีอยู่อาจจะไม่ครบถ้วนทุกทุกหลักทรัพย์
             2. ผลได้ตัดข้อมูลในส่วนที่เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ออกไป
             3. วิชาความรู้ประกอบการพิจารณาเป็นวิชาที่มีอยู่จริง ได้แก่ วิชาความน่าจะเป็น คณิตศาสตร์ ม.ปลาย, วิชาการจัดหมู่ คณิตศาสตร์ ม.ปลาย, วิชาสถิติพื้นฐาน มหาวิทยาลัย กรุงเทพ เป็นต้น ประกอบการพิจารณา
             4. ปีที่ผมใช้ในการทดสอบคือ ปี 2550-2551และ ปี 2551-2552
             5. สิ่งที่ได้เป็นข้อเท็จจริงในแง่มุมหนึ่ง ใช้ตอบสมมุติฐานเท่านั้น
ข้อมูลปี 2550 โดยสรุป
    กำหนดให้ T แทนข้อความที่เป็นจริง  
    กำหนดให้ F แทนข้อความที่เป็นเท็จ  
    กำหนดให้ N แทนจำนวนหลักทรัพย์ทั้งตลาดมี
    กำหนดให้ r  แทนจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกสุ่มเลือก
    กำหนกให้ EPS แทนกำไรต่อหุ้น
    กำหนดให้ PE   แทนตัวชีวัดราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด)
    กำหนดให้ P     แทนการเป็นแปลงของราคาปลายปีหารด้วยราคาต้นปี ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด)
จากหลักทรัพย์ทั้งหมด N= 426 หลักทรัพย์,
    เป็นหลักทรัพย์ P(T) = 249 หลักทรัพย์,
    เป็นหลักทรัพย์ P(F) = 177 หลักทรัพย,
    เพราะฉะนั้น ในการเลือกสุ่มหลักทรัพย์ใดๆ จำนวน r หลักทรัพย์ จากหลักทรัพย์ทั้งหมดของตลาด โอกาสที่หลักทรัพย์ที่ถูกสุ่มเลือกทั้งหมดจะสามารถชนะตลาดโดยรวมได้เป็นดังนี้
 N   P(T)  P(F)   r   Pr(P(T))
426  249  177   1   58.5%  
426  249  177   2   34.1%      
426  249  177   3   19.9%      
426  249  177   4   11.6%      
426  249  177   5     6.7%    
426  249  177   6     3.9%      
426  249  177   7     2.2%  
426  249  177   8     1.3%  
426  249  177   9     0.7%    
426  249  177  10    0.4%        
    เช่น ถ้าเราสุ่มหลักทรัพย์ 1 ทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาด 58.5%หรือ สุ่มหลักทรัพย์ 4 หลักทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาดทุกหลักทรัพย์ 11.6% เป็นต้น
    (เป็นสมมุติฐานที่1) ถ้าเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีกำไร EPS โอกาสที่จะชนะตลาดได้น่าจะเพิ่มขึ้น ดังนี้
EPS(T) P(T)  P(F)  r Pr(P(T))
  339   202  137  1 59.6%    
  339   202  137  2 35.4%    
  339   202  137  3 21.0%    
  339   202  137  4 12.5%    
  339   202  137  5   7.4%    
  339   202  137  6   4.3%    
  339   202  137  7   2.6%    
  339   202  137  8   1.5%    
  339   202  137  9   0.9%    
  339   202  137 10  0.5%    
    เช่น เดิมเรา สุ่มหลักทรัพย์ 1 ทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาด 58.5% แต่ตอนนี้เราเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีกำไรโอกาศจึงเพิ่มขึ้นมากกว่า เป็น 59.6% ดังนั้นสมมุติฐานที่1เป็นจริง
(เป็นสมมุติฐานที่2) ถ้าเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด) โอกาสที่จะชนะตลาดได้น่าจะเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนี้
PE(T) P(T)  P(F)  r Pr(P(T))
 339   115   62   1  65.0%    
 339   115   62   2  42.1%    
 339   115   62   3  27.2%    
 339   115   62   4  17.5%    
 339   115   62   5  11.2%    
 339   115   62   6    7.2%    
 339   115   62   7    4.6%    
 339   115   62   8    2.9%    
 339   115   62   9    1.8%    
 339   115   62  10   1.2%  
    เช่น เดิมเรา สุ่มหลักทรัพย์ 1 ทรัพย์ตอนต้นปี พอสิ้นปีมีโอกาสชนะตลาด 58.5% และต่อมาเราเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีกำไร ทำให้โอกาศชนะตลาดจึงเพิ่มขึ้นมากกว่า เป็น 59.6% แต่พอเราเลือกลงทุนแบบสุ่มเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร (ของหลักทรัพย์ชนะของตลาด) เพิ่มเงื่อนไขอีก ผลทำให้โอกาสชนะตลาดเพิ่มขึ้นอีกเป็น 65.0% ปรากฎว่าดังนั้นสมมุติฐานที่2เป็นจริง
    ส่งการบ้านตอนที่ 1
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ข้อมูลน่าสนใจมากครับ

แต่อ่านแล้วยัง งง ๆ อยู่บ้าง
หลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร นี่หมายถึงอะไรครับ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 แตกต่างกันอย่างไรครับ
leechong
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 19

โพสต์

peacedev เขียน:ข้อมูลน่าสนใจมากครับ

แต่อ่านแล้วยัง งง ๆ อยู่บ้าง
หลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร นี่หมายถึงอะไรครับ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 แตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอโทษครับที่สื่่อภาษาไม่ชัดเจนครับ

หลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร นี่หมายถึงอะไรครับ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

ผมหมายถึงค่า PE ครับ
เพราะตอนผมจะเอามากคำนวนในเอ็กเซลล์ ผลติดปัญหาที่ค่า PE เป็นลบครับ  ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลในส่วนที่เป็นลบได้ (และในวิชาวิชาคณิตศาสตร์ผลที่ได้มีค่าเป็นลบก็ยังนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ได้) แต่หลักคิดของค่า PE มันหมายถึงผลกำไรจะคืนทุนในกี่ปีในสายตาของผม ดังนั้นค่า PE ยิ่งน้อยกว่าตลาด ยิ่งคืนทุนเร็ว ยิ่งดีครับ
ต่อมาผมได้แก้ไขปัญหานี้ออกโดยการคำนวนเป็น % จากการเอาค่า E คูณ 100 หาร P เพราะฉะนั้นผลกำไรยิ่งมากเมื่อเทียบกับราคา ยิ่งดีครับ ยิ่งชนะตลาดยิ่งแจ๋ว

ส่วนท้ายนี้ผมขอเสนอแผนผังกิ่งไม้ประกอบเพิ่มเติมครับ
ในปี 2550-2551 (จากฐานข้อมุลของผม + ปรับปรุง) เป็นดังนี้

หุ้นที่มีกำไร E/P%ชนะตลาด ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด = จำนวนหลักทรัพย์
T   T   T   =   115          
T   T   F   =     62                    
T   F   T   =     87        
T   F   F   =     75        
F   T   T   =       0          
F   T   F   =       0          
F   F   T   =     47          
F   F   F   =     40          
รวม         =   426

                                               จริง           เท็จ
หุ้นทีมีกำไร                                339            87
E/P%ชนะตลาด                         177          249
ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด        249          177

ในปี 2551-2552 (จากฐานข้อมุลของผม + ปรับปรุง) เป็นดังนี้

หุ้นที่มีกำไร E/P%ชนะตลาด ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด = จำนวนหลักทรัพย์
T   T   T   =   142          
T   T   F   =       9                    
T   F   T   =   135        
T   F   F   =     40        
F   T   T   =       0          
F   T   F   =       0          
F   F   T   =     87          
F   F   F   =      31          
รวม         =   444

                                               จริง           เท็จ
หุ้นทีมีกำไร                                339            87
E/P%ชนะตลาด                         177          249
ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด        249          177

เข้าของกระทู้นี้เป็นเหตุให้ผมขุดวิชาเก่ามาใช้ ผมก็เห็นว่าฐานข้อมูลของผมก็อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ จึงลองทำดู คำตอบที่ได้เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละปี ต้องลองทำอย่างนี้กับข้อมูลหลายๆปีดูก่อน จึงจะฟันธงได้ว่าข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือในมุมลึกและมุมกว้างแค่ไหน และมันเป็นสิ่งที่เราคำนวนได้จริง เมื่อเอามาเทียบกับการคาดการณ์ของแต่ละท่าน มันจะฟ้องได้ชัดเจนว่าสิ่งที่เราคิดวิเคราะห์อย่างกว้างๆมันตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน

ส่วนการวิเคราะห์ในแง่ลึกนั้นผมขอไปตกผลึกข้อมูลกับความคิดก่อน เพราะข้อมูลแบบเป็นร้อยนี้คงต้องใช้วิชาสถิติประกอบการแบ่งกลุ่มแจกแจงความถี่ แบ่งเป็นช่วงความถี่สัก 10 ชั้น เพื่อง่ายในการศึกษาและติดตามผล และการคำนวนหาค่าของโอกาสที่เกิดขึ้นคงต้องใช้วิชาการจัดหมวดหมู่มาประกอบการคำนวน (Ncr=N! หาร [(N-r)! คูณ r!] ประมาณนี้)
ขอโทษที่ ถ้าสิ่งที่ผมทำมันน่าเบื่อ และไร้สาระ แต่ผมว่านี้ก็อาจเป็นแนวทางในการสังเกตุตะแกรงกรองหุ้นในเชิงปฎิบัติได้ครับ ถามทุกเส้นทางมันถึงเป้าหมายที่เดียวกัน ขอคุณครับ
leechong
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอโทษอีกครั้งครับ กระทูบนมีจุดผิดพลาด ตอนนี้แก้ไขเสร็จแล้ว
peacedev เขียน:ข้อมูลน่าสนใจมากครับ

แต่อ่านแล้วยัง งง ๆ อยู่บ้าง
หลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร นี่หมายถึงอะไรครับ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 แตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอโทษครับที่สื่่อภาษาไม่ชัดเจนครับ

หลักทรัพย์ที่มีราคาต่อกำไร นี่หมายถึงอะไรครับ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

ผมหมายถึงค่า PE ครับ
เพราะตอนผมจะเอามากคำนวนในเอ็กเซลล์ ผลติดปัญหาที่ค่า PE เป็นลบครับ  ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลในส่วนที่เป็นลบได้ (และในวิชาวิชาคณิตศาสตร์ผลที่ได้มีค่าเป็นลบก็ยังนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ได้) แต่หลักคิดของค่า PE มันหมายถึงผลกำไรจะคืนทุนในกี่ปีในสายตาของผม ดังนั้นค่า PE ยิ่งน้อยกว่าตลาด ยิ่งคืนทุนเร็ว ยิ่งดีครับ
ต่อมาผมได้แก้ไขปัญหานี้ออกโดยการคำนวนเป็น % จากการเอาค่า E คูณ 100 หาร P เพราะฉะนั้นผลกำไรยิ่งมากเมื่อเทียบกับราคา ยิ่งดีครับ ยิ่งชนะตลาดยิ่งแจ๋ว

ส่วนท้ายนี้ผมขอเสนอแผนผังกิ่งไม้ประกอบเพิ่มเติมครับ
ในปี 2550-2551 (จากฐานข้อมุลของผม + ปรับปรุง) เป็นดังนี้

หุ้นที่มีกำไร E/P%ชนะตลาด ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด = จำนวนหลักทรัพย์
T   T   T   =   115          
T   T   F   =     62                    
T   F   T   =     87        
T   F   F   =     75        
F   T   T   =       0          
F   T   F   =       0          
F   F   T   =     47          
F   F   F   =     40          
รวม         =   426

                                               จริง           เท็จ
หุ้นทีมีกำไร                                339            87
E/P%ชนะตลาด                         177          249
ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด        249          177

ในปี 2551-2552 (จากฐานข้อมุลของผม + ปรับปรุง) เป็นดังนี้

หุ้นที่มีกำไร E/P%ชนะตลาด ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด = จำนวนหลักทรัพย์
T   T   T   =   142          
T   T   F   =       9                    
T   F   T   =   135        
T   F   F   =     40        
F   T   T   =       0          
F   T   F   =       0          
F   F   T   =     87          
F   F   F   =      31          
รวม         =   444

                                               จริง           เท็จ
หุ้นทีมีกำไร                                326          118
E/P%ชนะตลาด                         151          293
ราคาเปลี่ยนแปลงชนะตลาด        365            80

เข้าของกระทู้นี้เป็นเหตุให้ผมขุดวิชาเก่ามาใช้ ผมก็เห็นว่าฐานข้อมูลของผมก็อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ จึงลองทำดู คำตอบที่ได้เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละปี ต้องลองทำอย่างนี้กับข้อมูลหลายๆปีดูก่อน จึงจะฟันธงได้ว่าข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือในมุมลึกและมุมกว้างแค่ไหน และมันเป็นสิ่งที่เราคำนวนได้จริง เมื่อเอามาเทียบกับการคาดการณ์ของแต่ละท่าน มันจะฟ้องได้ชัดเจนว่าสิ่งที่เราคิดวิเคราะห์อย่างกว้างๆมันตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน

ส่วนการวิเคราะห์ในแง่ลึกนั้นผมขอไปตกผลึกข้อมูลกับความคิดก่อน เพราะข้อมูลแบบเป็นร้อยนี้คงต้องใช้วิชาสถิติประกอบการแบ่งกลุ่มแจกแจงความถี่ แบ่งเป็นช่วงความถี่สัก 10 ชั้น เพื่อง่ายในการศึกษาและติดตามผล และการคำนวนหาค่าของโอกาสที่เกิดขึ้นคงต้องใช้วิชาการจัดหมวดหมู่มาประกอบการคำนวน (Ncr=N! หาร [(N-r)! คูณ r!] ประมาณนี้)
ขอโทษที่ ถ้าสิ่งที่ผมทำมันน่าเบื่อ และไร้สาระ แต่ผมว่านี้ก็อาจเป็นแนวทางในการสังเกตุตะแกรงกรองหุ้นในเชิงปฎิบัติได้ครับ ถามทุกเส้นทางมันถึงเป้าหมายที่เดียวกัน ขอคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 226

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ข้อมูลน่าสนใจครับ

แต่การใช้ค่า E/P โดด ๆ ผมมองไม่ค่อยออก ว่าหาเพื่ออะไร

เพื่อจะหาว่า "การซื้อหุ้น PE ต่ำกว่าตลาดที่มีกำไร จะชนะตลาดได้หรือไม่"
คำถามนี้ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับการวิเคราะห์เท่าไหร่ ออกไปทางแนวซื้อหุ้นตามระบบ

หนังสือฝรั่งมีการพูดถึงตัวแปรนี้เหมือนกัน แต่เอามาประกอบกับ ROE ด้วย

หรืออาจจะเพิ่ม EPS Growth โตมากกว่าตลาดอีกช่อง อย่างนี้ดูจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์มากกว่าซะอีกครับ

การชนะ หรือแพ้ตลาดก็บอกอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ชนะ 100% หรือชนะ 1% ก็ได้ผลลัพท์ทางสถิติเดียวกัน แต่ผลต่อการลงทุนต่างกันมหาศาล

แค่อยากช่วยให้การทดลองดีขึ้นนะครับ  :D
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 2

เฉลี่ยแต่ละปี มีหุ้นที่ชนะตลาดกี่ตัว

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่ขอเข้ามาแจมอีกทีครับ
ผมคิดว่า Research ของคุณ  leechong เป็นการคิด-พิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ความพยายามในเชิงนี้ไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอนครับ
เพราะสมมุติฐานเราผิด เราก็จะเห็นจุดผิดพลาดของมันและแก้ไขมันได้
และถ้าหากสมมุติฐานของเราถูก เราก็มั่นใจได้ยิ่งขึ้น
แถมเวลาทดลองเราได้ตกผลึกความคิดอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งบางทีคนที่อ่าน Research ของเราไม่มีทางที่จะเข้าถึงมันได้

แต่ก็มีจุดที่พึงระรึกในการทดลองว่า ข้อมูลในอดีตไม่สามารถใช้ทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ ซึ่งถ้าเรามั่นใจใน model ของเรามากเกินไปก็อาจทำให้เราผิดพลาดเสียหายได้เหมือนกัน
มีอีกเรื่องที่คุณ Linzhi เข้ามาพูดไปแล้วคือ ชนะมากหรือชนะน้อย ก็ได้ผลลัพท์ทางสถิติเดียวกัน แต่ผลต่อการลงทุนต่างกันมหาศาล อันนี้ผมเห็นด้วยครับ
แต่ที่จริง ผมเชื่อว่ามันยังเป็น Research ขั้นพื้นฐานสามารถเอาไปประยุกต์อะไรได้มากกว่านี้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักกำไร หรือการใช้ค่าอื่น ๆ นอกจากกำไร หรือใช้หลาย ๆ ค่าร่วมกัน ;)
แต่สำหรับกองทุน หลาย ๆ กองทุน แค่ชนะตลาดให้ได้ตลอดเวลาก็เป็นเรื่องสุดยอดแล้วล่ะครับ

ที่จริงมีกองทุน(ต่างชาติ)หลาย ๆ แห่งใช้ระบบคัดกรองเชิงปริมาณแบบนี้อยู่ไม่น้อย เพราะจำนวนหุ้นมันเยอะมาก
บ้านเรา 500กว่า ๆ ถือว่าน้อยมากครับ
แต่สูตรที่ใช้กันได้ผลดีมาก ๆ ไม่มีใครเอามาเปิดเผยกันหรอกครับ
ส่วนสูตรรอง ๆ ลงมา เขาเอามาทำโปรแกรมสำเร็จรูปขายกันราคาแพง ๆ
สูตรที่เปิดเผยกันส่วนมากจะเป็นสูตรที่"เคยได้ผลมาก่อน" แบบนี้ก็มีครับ


พูดมากไปเดี๋ยวจะถูกว่าเอาว่าพานอกประเด็น Value
สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าคนที่คิดอย่างวิทยาศาสตร์ และมีความสามารถทางสถิติ พวกเขาไม่เชื่อกราฟอย่างแน่นอนครับ
โพสต์โพสต์