$$ รวมหุ้น Turnaround $$

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 151

โพสต์

ไม่ใช่แค่ "หุ้น" หรือ "บริษัทฯ" ที่จะสามารถ Turnaround ได้นะครับ

"น้องม่ะหมา" เอง...ก็สามารถ Turnaround ได้เช่นกัน!!!

ถ้าไม่เชื่อลองกดเข้าไปดูครับ ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 69628.html
แนบไฟล์
I10569628-6-700.jpg

"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
wweerac
Verified User
โพสต์: 54
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 152

โพสต์

ผมขอเสนอ CGS เป็น turn around ได้หรือไม่ครับ

จากวอรุ่ม ตลาดที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมาปีนี้ และอนาคตจะมีการขยายเวลาในการเทรดให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ CGS มียอดเทรดที่เพิ่มขึ้น บวกกับมีการเทรดหุ้นต่างประเทศเพิ่มเข้ามาอีก ผมจึงคิดว่า CGS อาจจะเป็นหุ้น turn around ที่สามารถทำกำไร ในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

แต่บริษัทก็มีความเสี่ยงของ การเปิดเสรี ค่าคอม ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทมีรายได้ที่น้อยลงแต่ก็อาจจะทดแทนกันระหว่างระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น

เพื่อนๆ คิดว่าไงครับ
ไม่ใช่เซียน ไม่เก่ง แต่เป็นคนชอบอ่านชอบศึกษางบการเงิน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 153

โพสต์

ไตรมาสนี้ BAT-3K Turnaround หุ้นปันผลขวัญใจใครหลายคน ปีแล้วไม่ได้ถึงกับขาดทุนแต่ตกต่ำลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีแล้วที่ติดลบ ตอนนี้กลับมาบวกเลยได้ใจตลาดไปเลย สวนตลาดแดงๆ

TFI มาอีหรอบเดียวกับ AJ, PTL คือเศรษฐศาสตร์ Demand Supply แต่มีคนบอกไม่น่าไว้ใจนามสกุลผถหญ. เคยเจ็บมาแล้ว ตั้งแต่หุ้นสเตนเลส

ส่วนที่น่าสนใจคือ TCJ กับ SAM ที่ยังต่ำกว่า book และตลาดยังไม่มีคนตอบรับ ผมเห็นคุณ Pak เป็นคนเปิดหน้า TCJ แต่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรดี ลูกค้าอยู่ที่ไหน

แต่ทั้งนี้ แค่รายงานสั้นๆ คงบอกอะไรไม่ได้ทั้งหมด
หลังจากไตรมาสแรกถัดไปแล้ว จะยั่งยืนหรือไม่ ต้องคอยจับตา



Millions Baht
ผลประกอบการรายไตรมาส 2554 2553 Change ++
SAM ----------------- 40.22 (5.73) 802% Turnaround???
BAT-3K ----------------- 89.37 (18.47) 584% Turnaround???
RASA ----------------- 38.20 (9.22) 514% Turnaround???
TCJ ----------------- 5.25 (1.33) 495% Turnaround???
SSEC ----------------- 17,127.00 (5,089.00) 437% Turnaround???
PICO ----------------- 12.64 (4.20) 401% Turnaround???
Q-CON ----------------- 43.79 (18.90) 332% Turnaround???
BSEC ----------------- 5,608.00 (3,119.00) 280% Turnaround???
TFI ----------------- 67.46 (39.97) 269% Turnaround???
kong_kang69
Verified User
โพสต์: 196
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 154

โพสต์

...........................
........................
.....................
..................
...............
............
.........
......
TIC หรือ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
......................................................................................................................
รูปภาพ

ผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ
1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 3,526,567 18.56
2. นายไพสิฐ ตู้จินดา 1,866,766 9.83
3. นางไพเราะ ตู้จินดา 800,000 4.21
4. นายฐิติกร เศรษฐลิขิต 780,000 4.11
5. นายวชิระ ทยานาราพร 500,000 2.63
6. สำนักงานพระคลังข้างที่ บ/ช วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 456,168 2.40

งบกำไรปีล่าสุดครับ
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. (F45-1)
บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2554 2553
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 13,684 8,303
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.72 0.44


ิมูลค่าหุ้นทางบัญชี 25 บาทครับ

......................ลอกการบ้านครับ.....................................................................
chatchaivi
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 155

โพสต์

ยามเมื่อลมพัดหวน แม้แต่ไก่งวงยังบินได้ :roll: :roll: :roll:
ronsettrade
Verified User
โพสต์: 455
ผู้ติดตาม: 1

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 156

โพสต์

ผมดูง่ายๆเลยจากกำไรและผลประกอบการในไตรมาสหนึ่งที่โตขึ้นมากๆ และแนวโน้มน่าจะดีทัี้งปีน่ะคับ

SUPER

ASIMAR

TGCI

กลุ่มอสังหาน่าจะ BOTTOM OUT แล้วด้วย จากแนวโน้มดอกเบี้ย RP ที่จะคงตัวในครึ่งปีหลัง
kong_kang69
Verified User
โพสต์: 196
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 157

โพสต์

....ชอบจังเลยหุ้น SIZE จิ๋ว..........

YCI & BNC ครับสำหรับคนใจเย็นเป็นน้ำแข็ง

และมีความอดทนกับหุ้นขาดสภาพคล่องอย่างสูง

.............ลอกการบ้านครับ..................................................
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 158

โพสต์

เรียนพี่ pak ผมได้ไปฟังพี่ในงานเฮฮาแล้วได้ความรู้เยอะมาก

อยากจะขอรบกวนพี่ช่วยตอบคำถามผมเล็กน้อยเป็นวิทยาทานได้ไหมครับ

1.พี่ pak บอกว่าหุ้น turn นั้นดูจากเชิงปริมาณแทบไม่ได้เนื่องจากว่ามันยังขาดทุนอยู่เลยควรดูที่ปัจจัยเชิงคุณภาพแทนถูกไหมครับ ผมอยากถามพี่ประมาณนี้ครับ

1.1การที่ราคาหุ้นขาดทุนนั้นหุ้นย่อมเทรดต่ำกว่า pbv เป็นส่วนใหญ่ถูกไหมครับ หุ้น turnaround ส่วนใหญ่จะให้ risk reward ที่สูงมากๆ (upside สูงมากเมื่อเทียบกับ downside)
ผมมีความเห็นว่าบริษัทที่เคยขาดทุนและเริ่มกลับมาดีขึ้น เมื่อเริ่มดีขึ้นราคาไม่ควรจะต่ำกว่า bv ไม่ทราบว่าพี่มีความเห็นอย่างไรครับ ถ้าหุ้นที่พี่ซื้ออยู่ต่ำ bv มากๆและเริ่มขึ้นมาถึง bv จะเป็นสัญญาณที่น่าลดหุ้น น่าขายออก ได้ไหมครับ เนื่องจากบริษัทที่กำไรไม่ดีเท่าไหร่ กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง โอกาศที่ราคาจะสูงกว่า bv มากๆน่าจะน้อย


1.2 บางครั้งการที่เราให้ค่า pe สูงจะเป็นเพราะว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินที่ดีสม่ำเสมอด้วย
เช่น บริษัทที่มี roe สูงกว่า 20% ต่อเนื่องหรือบริษัทที่ แทบไม่มีหนี้ธนาคารและมีเงินสดอยู่เยอะจะทำให้ค่า pe ของหุ้นตัวนั้นค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับหุ้นตัวเดียวกันในกลุ่ม

ประเด็นคือหุ้น turn around นั้นไม่ได้อัตราส่วนทางการเงินที่สวยๆ ถ้าหุ้นมันกลับมามีกำไรหลังจากเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรจะให้ค่า pe ของมันเทียบกับบริษัทคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือไม่ครับ?

คำถามพวกนี้อยากทราบเนื่องจาก น่าจะทำให้เข้าใจในจุดขายของหุ้นฟื้นตัวมากยิ่งขึ้นครับ


คำถามข้อ สองนะครับ

2.1 หุ้นที่ฟื้นตัวในช่วงปี 2009-2010 ที่พี่ pak เล่นนั้น อาจจะเจอเยอะเนื่องจากเป็นการฟืั้นตัวจากวิกฤติเลยอาจทำให้มีหุ้นที่แย่แล้วกลับมาดีได้ แต่หลังจากนี้เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวมาได้เยอะแล้ว ในมุมมองของพี่ หลังจากนี้เราน่าจะหาหุ้น turnaround เล่นได้ยากขึ้นไหมครับ หรือว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะว่าหุ้นที่พี่เล่นส่วนใหญ่ดูจาก business model ที่เปลี่ยนไป มากกว่า

2.2เรื่องหุ้น bata (คงถามได้เนื่องจากหุ้นไม่มีในตลาดแล้วคงไม่เข้าข่ายชี้นำใดๆ) กำไรในปี 2552 กำไรต่อหุ้น 1.67 และมีการทำ tender ไปที่ 17.50 อยากถามว่าถ้าไม่มีการทำ tender แล้วราคาขึ้นไปถึง 17.50 แล้วยังไม่เจอหุ้นตัวใหม่ๆเลย (สมมุติ) ที่ราคา 17.5 จะถือต่อไหมครับ เนื่องจากว่า ก็เป็น pe 10 เท่าแล้ว ซึ่ง pe ระดับนี้ก็น่าจะใกล้ fair value สำหรับหุ้นฟื้นตัว และ pe ระดับนี้หุ้นก็ไม่น่าจะให้ yield สูงเท่าไหร่นัก


ในเบื้องต้นขอถามเท่านี้ก่อนนะครับ

ขอบคุณมากครับ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 159

โพสต์

pak เขียน:บทความ เรื่อง "ความรู้สึกของผมก่อนงบออก และมุมมองต่อการเคลื่อนไหวของราคา"
By pak , 12 พ.ค. 54


หลายคนมักจะพูดกันว่า "เราควรปล่อยให้เงินทำงาน!!!"
ซึ่งอาจจะเป็นความจริงครับ
แต่ผมมองว่า...
ประโยคดังกล่าว มันละเลย "การให้เกียรติซึ่งกันและกัน" ไปซักหน่อยอ่ะนะขอรับ

แท้จริงแล้ว "เงิน" หรือ "บริษัท" ต่างก็เป็นสิ่งไม่มีชีวิต
และไม่สามารถที่จะทำงานด้วยตัวเองได้
ทุกๆ Activity หรือทุกๆกิจกรรมที่เกิดขึ้น ล้วนมาจาก "คน" ทั้งสิ้น!!!

"Human Resource" หรือ "บุคคลากร" คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ความรู้ และประสบการณ์ของ CEO , ผู้บริหาร และพนักงานทุกๆท่าน ถูกหล่อหลอมกันขึ้นมา จนเป็นบริษัทฯ
เราในฐานะของนักลงทุน ผมเองมักจะเปรียบเทียบการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ไว้ว่า...

"นักลงทุน" ก็เปรียบเสมือนคนตาบอด และ "CEO หรือผู้บริหาร" ก็เปรียบเสมือน คนที่ลากจูงพาเราเดิน
ดังนั้น ในการลงทุนในบริษัทฯใดบริษัทฯหนึ่ง คุณต้องถามตัวเองให้ชัดๆก่อนว่า...
คุณมั่นใจใน "คนที่จะมาลากจูงและพาคุณเดินไปข้างหน้า" แล้วหรือยัง?


มาถึงเรื่อง "ราคา" และ "ลักษณะการซื้อขาย(แบบรายวัน)"
บอร์ด THAIVI แห่งนี้ เราถือว่าเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง!!!
แต่ก็เป็นเรื่องไม่ผิดครับ ถ้าเราจะหยิบยกกันขึ้นมาคุยกันบ้างพอเป็นกระสาย

สำหรับหุ้นจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หลายๆส่วนอยู่ร่วมกันมา และก็จะอยู่ร่วมกันไปอย่างนี้ตลอดไป
ทั้งผู้บริหาร, พนักงาน, นักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนรายใหญ่(หรือใครจะเรียกว่า "เจ้าฮ่ะ" ก็ตามแต่)
นี่เป็นที่สาธารณะ จึงเป็นสิทธิเสรีในการซื้อขาย และหวังกำไรจากที่แห่งนี้

สำหรับผมแล้ว "การเคลืื่อนไหวของราคาหุ้น" ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก "การตัดค่าเสื่อม"
เพราะรายใหญ่...ย่อมมี "เป้าหมายราคา" ในใจ
การตัดค่าเสื่อมเอง ก็มีด้วยกันหลายวิธี เช่น แบบเส้นตรง (Straight Line Method) หรือแบบอัตราเร่ง (Accelerated Method)
การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ก็เช่นกัน
มันไม่มี Pattern ที่แน่นอนและตายตัว เราไม่สามารถรู้หรอกครับว่า เค้าจะใช้วิธีใด?
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ "เป้าหมายราคาในใจของเราเอง" ต่างหาก!!!

ไม่ว่าผลประกอบการของ "หุ้น Turnaround" หลายๆตัวที่ผมลงทุนอยู่ จะออกมาเป็นเช่นไร
ผมพร้อมแล้วครับที่จะรับฟังไม่ว่าจะเป็น "ข่าวดี" หรือ "ข่าวร้าย"
เพราะผู้บริหารเหล่านี้ คือ "คนที่ผมเลือกที่จะเชื่อ, เลือกที่จะไว้ใจ และเลือกที่จะให้จูงพาผมเดินไปข้างหน้า"
ในห้วงเวลานี้ คงมีแต่ "กำลังใจ" และ "คำขอบคุณ" ที่ควรจะมอบให้แก่กัน

บทความนี้จะไม่สมบูรณ์ถ้าขาดซึ่ง มุมมองและถ้อยคำดีๆและมีค่าของคนสองคน คือ คุณ chukieat30 และ คุณ thairdwave
นั่นก็คือ...
chukieat30 เขียน:ของที่หมดคุณค่า กับของที่ยังไม่แสดงคุณค่า

คุณจะเลือกของชิ้นไหน สำหรับผมถ้ากิจการใดๆ ที่มันแสดงคุณค่าออกมาถึงที่สุดแล้ว

ผม ขาย เพราะสำหรับผม มันจะไร้คุณค่าในอนาคต


อยากให้หลายๆท่านมองที่เนื้อแท้ของกิจการหลัก อย่ามองว่ามีเจ้ามือ เจ้าที่อย่างเดียว

ราคาไปไหนไม่ได้ ถ้าเราไม่ไปไล่ซื้อมัน


ถ้าเราเป็นนักลงทุนคุณค่า เราต้องมองออกว่า กิจการที่ซื้อไว้ ถูกหรือแพง ในอนาคต
chukieat30 เขียน:ยามคนอื่นเห็นว่าดี ให้ถือ ยามคนอื่นเห็นว่าดีมาก ให้ขาย
และคงไม่มีคำสรุปจบบทความที่ดีไปกว่าคำพูดของคุณ thirdwave ที่กล่าวไว้อย่างน่าฟังมากๆว่า...
thirdwave เขียน:รถไฟทุกขบวนก็ต่างวิ่งบนรางของมัน ผู้คนก็ขึ้นลงชานชลาที่เป็นเป้าหมายของตน มันเป็นอย่างนี้มานานแล้วครับ และจะยังคงเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่ารถไฟขบวนนี้จะมีคุณ หรือไม่ก็ตาม...
"ตลาดเพิ่งจะตีห้า หรือตลาดกำลังจะวาย"
คุณเท่านั้น!!!...ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ


pak, 12 พ.ค. 54

คุณ Pak ชมเกินไปครับ ผมแค่คนมั่วๆๆเหวงๆๆคนนึงครับ

คุณ Pak อธิบายเรื่อง Turn around ดีมากๆๆครับ

ได้ความรู้เพิ่ม จากการดูขอบคุณมากนะครับ

อีกคนนึงที่ อ่านแล้ว ได้ความรู้มากขึ้น คือ ฮง

แนวคิดสุดยอดจริงๆ ผมว่าฮงเป็นนักลงทุนแนว IQ ครับ เก่งและมองขาดจิงๆๆ

อายุน้อย แต่ความรู้ไม่น้อย นับถือ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re:

โพสต์ที่ 160

โพสต์

MO101 เขียน:ปัญหาของหุ้น turnaround คือเวลาที่จะซื้อมันมักจะมี PE สูงมาก
อย่างเช่น AH ถ้าดูงบไตรมาสแรกเห็นสัญญาณ ที่ดีคือเริ่มพลิกมามีกำไร
พอไปดู PE ปาเข้าไปเกือบ 100  และวันก่อนงบไตรมาสสองออก PE ไปที่ 200
ถ้าจะเล่นพวกนี้ต้องใจกล้า ดูราคา book แล้วลุย
ผมกลับมองว่า หุ้น Turn around หลายๆตัว PE ต่ำครับ

คำว่า Turn around คือ การวกกลับของรอบ ซึ่งก้เหมือนที่คุณ Pakว่าไว้เรื่อง

กราฟพาราโบลิค

หลายๆคนมักจะมอง เกมขาด ว่า หุ้นตัวนี้ราคาที่ตกลงก้เพราะวิกฤติ แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง

ก้มักจะรอจน ราคาของหุ้นถูกกว่าพื้นฐานมากๆๆ ซึ่ง ณ จุดนั้น PE ต่ำเตี้ย และไม่ค่อย

ที่จะมีใครกล้าซื้อนัก แต่คนเล่นหุ้นเทินอะราวจะชอบตรงนี้

แบบที่พี่หมอสามัญชนบอก จุดนี้จะเรียกว่า จุดที่เลือดสาดมากที่สุด และสุดท้ายเมื่อคน

หมดความกลัว ราคาก้จะเริ่ม เทินอะราวขึ้นได้


หลักของเทินอะราวก้คือ การเอา หลักของ VI มาแปลงประยุกต์ จะต่างก้ตรง

เทินอะราว เนี่ย ความเสี่ยงมาก โอกาศกำไรเป็น 10เด้ง 20เด้งก้มีมาก

High risk High return ครับ

ซึ่งหลักๆๆ เราจะคาดการณ์ไม่ได้ว่า จะเป็นแบบไหน

V U หรือ L

หุ้นเทินอะราวคุณภาพต่ำ มักเป็นตัว L

หุ้นเทินอะราวคุณภาพสูง มักเป็นตัว V แต่กำไร จากตัว V จะน้อยกว่าตัว U

เพราะ ตัววี รอบการขึ้นของราคาเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนตัว ยู รอบการขึ้นจะค่อยเป็นค่อยไป ราคาจะค่อยๆๆวิ่ง แต่มักวิ่งไปไกล
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
i_team_na
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 23
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 161

โพสต์

ขอถามด้วยครับ

(ถ้าผมฟังผิดก็ขออภัย พอดีช่วงนั้นฟังไม่ค่อยทัน)

ที่พี่ Pak บอกว่า Bata tender ออกไปในราคาไม่ค่อยยุติธรรม

ทำไมจึงคิดเช่นนั้นครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: Re:

โพสต์ที่ 162

โพสต์

chukieat30 เขียน:
MO101 เขียน:ปัญหาของหุ้น turnaround คือเวลาที่จะซื้อมันมักจะมี PE สูงมาก
อย่างเช่น AH ถ้าดูงบไตรมาสแรกเห็นสัญญาณ ที่ดีคือเริ่มพลิกมามีกำไร
พอไปดู PE ปาเข้าไปเกือบ 100  และวันก่อนงบไตรมาสสองออก PE ไปที่ 200
ถ้าจะเล่นพวกนี้ต้องใจกล้า ดูราคา book แล้วลุย
ผมกลับมองว่า หุ้น Turn around หลายๆตัว PE ต่ำครับ

คำว่า Turn around คือ การวกกลับของรอบ ซึ่งก้เหมือนที่คุณ Pakว่าไว้เรื่อง

กราฟพาราโบลิค

หลายๆคนมักจะมอง เกมขาด ว่า หุ้นตัวนี้ราคาที่ตกลงก้เพราะวิกฤติ แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง

ก้มักจะรอจน ราคาของหุ้นถูกกว่าพื้นฐานมากๆๆ ซึ่ง ณ จุดนั้น PE ต่ำเตี้ย และไม่ค่อย

ที่จะมีใครกล้าซื้อนัก แต่คนเล่นหุ้นเทินอะราวจะชอบตรงนี้

แบบที่พี่หมอสามัญชนบอก จุดนี้จะเรียกว่า จุดที่เลือดสาดมากที่สุด และสุดท้ายเมื่อคน

หมดความกลัว ราคาก้จะเริ่ม เทินอะราวขึ้นได้


หลักของเทินอะราวก้คือ การเอา หลักของ VI มาแปลงประยุกต์ จะต่างก้ตรง

เทินอะราว เนี่ย ความเสี่ยงมาก โอกาศกำไรเป็น 10เด้ง 20เด้งก้มีมาก

High risk High return ครับ

ซึ่งหลักๆๆ เราจะคาดการณ์ไม่ได้ว่า จะเป็นแบบไหน

V U หรือ L

หุ้นเทินอะราวคุณภาพต่ำ มักเป็นตัว L

หุ้นเทินอะราวคุณภาพสูง มักเป็นตัว V แต่กำไร จากตัว V จะน้อยกว่าตัว U

เพราะ ตัววี รอบการขึ้นของราคาเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนตัว ยู รอบการขึ้นจะค่อยเป็นค่อยไป ราคาจะค่อยๆๆวิ่ง แต่มักวิ่งไปไกล



จากที่คุณ chukieat30 บอก

ความเห็นของผมนะครับ ว่า Turnaround จึงน่าจะแยกได้ เป็นสองประเภทใหญ่ๆ

1.
มีหุ้นกลุ่มแรกฟุบได้ โดยวิกฤตอาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้
เป็นเพราะความผิดพลาด ไม่ว่าจะจากความห่วยในการบริหาร หรือผลิตภัณฑ์ สินค้า/บริการมีปัญหาจากการแข่งขันในตลาดก็แล้วแต่
ผู้บริการแก้ไขสถานการณ์ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือเปลี่ยน Business Model กลับมาก็เทอร์นอราวด์
หรือเจอวิกฤติจริง เพราะกำลังซื้อของลูกค้า อ่อนไหวเป๋ไปตามวิกฤตอย่างหนักหนาสาหัส จนร่อแร่ก็แล้วแต่


PE มันสูง เพราะ E มันในอดีตจนมาถึง Q ที่ผ่านมาหมาดๆ ต่ำ ถึงขั้นเคยติดลบก็มี
ตอน E เริ่มเป็นศูนย์จนไปถึงติดลบ PE จะเป็น N A
แล้วพอ E ตัวหาร เพิ่งวกกลับมาบวกด้วยตัวเลขอันน้อยนิด ด้วยค่า P เท่าไหร่ก็แล้วแต่ ก็จะทำให้ PE สูงมาก

อย่างพวก STPI ที่เคยเป็น, JAS ที่เป็นอยู่, หรือถ้า TRUE แก้ไขหนี้ทั้งหลาย ทำให้มากำไรอีกครั้งได้ ก็จะเป็นเช่นนั้น PE จะค่อยต่ำลงในไตรมาสถัดไปที่ทำกำไรเพิ่ม
อันนี้เข้าข่าย ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (ดังนั้น จึงต้องอย่ามองแค่ "ตาเปล่า") =
และผลก็คือ high risk+high return อย่างที่รู้กัน





2.
ในขณะเดียวกัน ตรงกันข้าม หุ้นหลายตัวที่เห็น ไม่ได้ฟุบจริง ผลประกอบการยังพอไปได้ แต่เจอสิ่งแวดล้อมชวนเสียขวัญ ของประเทศ หรือของโลกก็ตามแต่

เลยราคาหุ้น P ตก
--->>> ตกสนั่นหวั่นไหว เพราะคนตื่นประการหนึ่ง อีกประการการลงทุนในหุ้น ล้วนเป็นการลงทน "อนาคต" แต่ตอนวิกฤติ คนจำนวนมากกลัวอนาคต ไม่เอาเงินมาเล่น ถอนออกไปพักไว้หรือไม่ก็หมดเงิน รวมถึง fundflow ก็ไม่มี
แต่ผลประกอบ E ที่เป็นตัวหารตกไม่มาก
ตกพอเป็นพิธี เพราะเศรษฐกิจมหัพภาคพาไป หรือบางตัวไม่ตกเลย อย่างที่อาจารย์นิเวศน์บอก วิกตฤิเศรษฐกิจ 1997 ค่าเงินตก แต่หุ้นส่งออกได้กำไรสวนทางเพราะขายของ ราคา US เท่าเดิม แต่ได้เงินไทยแลกกลับเข้ากระเป๋าเยอะขึ้น
หรือที่คลาสสิก ก็บอกหุ้นมาม่า

ตกหนักแค่ราคา ผลประกอบการตกไม่หนัก
พีอีเลยเตี้ยลงๆๆๆ
อันนี้เข้าข่ายของดีราคาถูก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 163

โพสต์

มานั่งคิดดูใหม่ เจ้าประเภทที่สองนี่มันจัดเป็นเทอร์นอราวด์รึเปล่าหว่า เพราะมันไม่เคยตกต่ำจริง แค่ราคาตกแบบหลอกๆ (อาจตกไปเล็กน้อย ด้วยกำลังซื้อของลูกค้า และ Marco-econ อย่างว่า)
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 164

โพสต์

ยินดีสำหรับ การร่วมแชร์มุมมองเกี่ยวกับการเลือกลงทุนในบริษัทฯกันนะครับ
พี่ก็ขอตอบตามที่พี่คิดและเข้าใจนะครับ
ดังนั้นจึงเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของพี่ ซึ่งอาจจะผิดหรือถูกก็ได้นะขอรับ...
hongvalue เขียน:1.พี่ pak บอกว่าหุ้น turn นั้นดูจากเชิงปริมาณแทบไม่ได้เนื่องจากว่ามันยังขาดทุนอยู่เลยควรดูที่ปัจจัยเชิงคุณภาพแทนถูกไหมครับ
ก็ไม่เชิงนะครับ...
เพราะก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนในบริษัทฯใดบริษัทหนึ่ง
การวิเคราะห์เชิงปริมาณเอง ก็มีส่วนสำคัญอย่างมากเช่นกันในการตัดสินใจลงทุน
เช่น...
- ผลประกอบการควรจะมี "แนวโน้ม(Trend)" ที่ดีขึ้น
- ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ ควรจะต้องดีขึ้น
- บริษัทฯควรจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆได้ดีพอสมควร
- ตัวเลขต่างๆ ควรจะสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับกับ กลยุทธ์ของบริษัทฯเลือกใช้
ฯลฯ

สรุป
พี่มองว่าต้องใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันนะครับ ทั้งการวิเคราะห์ในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ ผสมผสานกันไป

hongvalue เขียน:1.1การที่ราคาหุ้นขาดทุนนั้นหุ้นย่อมเทรดต่ำกว่า pbv เป็นส่วนใหญ่ถูกไหมครับ หุ้น turnaround ส่วนใหญ่จะให้ risk reward ที่สูงมากๆ (upside สูงมากเมื่อเทียบกับ downside)

ผมมีความเห็นว่าบริษัทที่เคยขาดทุนและเริ่มกลับมาดีขึ้น เมื่อเริ่มดีขึ้นราคาไม่ควรจะต่ำกว่า bv ไม่ทราบว่าพี่มีความเห็นอย่างไรครับ ถ้าหุ้นที่พี่ซื้ออยู่ต่ำ bv มากๆและเริ่มขึ้นมาถึง bv จะเป็นสัญญาณที่น่าลดหุ้น น่าขายออก ได้ไหมครับ เนื่องจากบริษัทที่กำไรไม่ดีเท่าไหร่ กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง โอกาศที่ราคาจะสูงกว่า bv มากๆน่าจะน้อย
พี่มองว่า...
หุ้นที่มีโอกาส Turnaround สูงและมีโอกาสเติบโตนั้น
ถ้าบริษัทฯนั้นเริ่มฟื้นตัวได้จริง และมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน และมีผลประกอบการมาเป็นตัว Confirm บ้างแล้ว ราคาซื้อขายไม่ควรจะต่ำกว่า Book Value นะครับ

รวมทั้งพี่มองว่า ถ้าหุ้นของบริษัทฯใดที่ราคาต่ำกว่า Book Value เราควรต้อง Pending และเข้าไปค้นหาว่า...
"ทำไมตลาดจึงให้ราคากับบริษัทฯนั้นเพียงเท่านั้น?" หรือ "บริษัทฯนี้มีข้อเสียหรือข้อด้อยอย่างไร?"
เช่น...
- บริษัทมีโอกาสในการเติบโตน้อย
- บริษัทฯไม่มีความสามารถในการทำกำไร
- ผลประกอบการไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวกำไรเดี๋ยวขาดทุน
- ผู้บริหารไม่โปร่งใส
- บริษัทฯบริหารงานแบบครอบครัว หรืออาจจะจ่ายเงินปันผลน้อย
ทั้งนี้เพราะตลาดหุ้น มักจะสะท้อนอนาคตเสมอ ไม่ว่าจะเป็น P/E หรือ P/BV
รวมทั้งหุ้น Turnaround ก็เช่นเดียวกัน

hongvalue เขียน:1.2 บางครั้งการที่เราให้ค่า pe สูงจะเป็นเพราะว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินที่ดีสม่ำเสมอด้วย
เช่น บริษัทที่มี roe สูงกว่า 20% ต่อเนื่องหรือบริษัทที่ แทบไม่มีหนี้ธนาคารและมีเงินสดอยู่เยอะจะทำให้ค่า pe ของหุ้นตัวนั้นค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับหุ้นตัวเดียวกันในกลุ่ม

ประเด็นคือหุ้น turn around นั้นไม่ได้อัตราส่วนทางการเงินที่สวยๆ ถ้าหุ้นมันกลับมามีกำไรหลังจากเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรจะให้ค่า pe ของมันเทียบกับบริษัทคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือไม่ครับ?
ธรรมชาติของหุ้นฟื้นตัว หรือ หุ้น Turnaround มักจะมีเฟสในการฟื้นตัว
ส่วนมากในช่วงแรก การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า อาจจะเป็นเนื่องจาก ภาระหนี้สิน ,การสำรองหนี้สูญต่างๆ รวมถึงภาระต้นทุนทางการเงิน
จากนั้นจึงจะเข้าสู่เฟสที่ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น เราน่าจะมองค่าตัวเลขต่างๆในลักษณะล่วงหน้า หรือ Foward เมื่อหุ้นเข้าสู่ State ที่ฟื้นตัวเต็มที่แล้วอ่ะนะขอรับ
ส่วนตัวมองว่า ถ้าบริษัทฯฟื้นตัวได้เต็มที่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ตลาดจะให้ค่า pe ต่ำกว่าบริษัทฯอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันนะครับ
สรุปว่า คงต้องดูตามเหตุปัจจัย ณ เวลานั้นๆอ่ะนะขอรับ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 165

โพสต์

hongvalue เขียน:2.1 หุ้นที่ฟื้นตัวในช่วงปี 2009-2010 ที่พี่ pak เล่นนั้น อาจจะเจอเยอะเนื่องจากเป็นการฟืั้นตัวจากวิกฤติเลยอาจทำให้มีหุ้นที่แย่แล้วกลับมาดีได้ แต่หลังจากนี้เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวมาได้เยอะแล้ว ในมุมมองของพี่ หลังจากนี้เราน่าจะหาหุ้น turnaround เล่นได้ยากขึ้นไหมครับ หรือว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะว่าหุ้นที่พี่เล่นส่วนใหญ่ดูจาก business model ที่เปลี่ยนไป มากกว่า
ต้องยอมรับว่า หายากขึ้นจริงๆครับ!!!
แม้หุ้นจะไม่มีลมหายใจ แต่บ่อยครั้ง...พี่มักจะชอบมองบริษัทฯเป็นเสมือนสิ่งมีชีวิตนะครับ
บริษัทฯที่ล้ม!!!
ถ้าบริษัทฯเค้าไม่ยอมแพ้ เค้าจะค่อยๆเริ่มคลาน ค่อยๆเริ่มพยายามลุก ต่อยๆเริ่มพยายามยืน ค่อยๆเริ่มพยายามเดิน และค่อยๆพยายามเริ่มออกวิ่งในที่สุด
ดังนั้น State ของการฟื้นตัว มักจะใช้เวลาที่ยาวนานมากครับ
ถ้าเราเจอบริษัทฯที่สามารถ Turnaround ได้จริง
เราจะสามารถถือหุ้นของบริษัทฯนั้นได้ยาวนานพอสมควรทีเดียวครับ
ไม่ต้องหาหลายตัวหรอกครับ เอาเจ๋งๆสัก 2 - 3 ตัวก็อิ่มยาวแล้วขอรับ

hongvalue เขียน:2.2เรื่องหุ้น bata (คงถามได้เนื่องจากหุ้นไม่มีในตลาดแล้วคงไม่เข้าข่ายชี้นำใดๆ) กำไรในปี 2552 กำไรต่อหุ้น 1.67 และมีการทำ tender ไปที่ 17.50 อยากถามว่าถ้าไม่มีการทำ tender แล้วราคาขึ้นไปถึง 17.50 แล้วยังไม่เจอหุ้นตัวใหม่ๆเลย (สมมุติ) ที่ราคา 17.5 จะถือต่อไหมครับ เนื่องจากว่า ก็เป็น pe 10 เท่าแล้ว ซึ่ง pe ระดับนี้ก็น่าจะใกล้ fair value สำหรับหุ้นฟื้นตัว และ pe ระดับนี้หุ้นก็ไม่น่าจะให้ yield สูงเท่าไหร่นัก
บริษัทฯส่วนใหญ่ที่พี่เลือกลงทุนนั้น
ส่วนมากพี่มักจะรู้สึกรัก ผูกพัน กับบริษัท รวมทั้งพี่มักจะเชื่อมือและเชื่อใจผู้บริหารเอาเสียมากๆ
ดังนั้นถ้าราคาไม่เว่อร์จริงๆ หรือไม่เจอบริษัทฯอื่นที่เข้าตาจริงๆ พี่มักจะไม่ค่อยขายนะครับ
รอให้หุ้น Turnaround มันค่อยๆกลายเป็นหุ้นปันผล
และถ้ามันทำได้ดีมากพอ มันอาจจะกลายเป็นหุ้น Growth ที่ดีในอนาคตก็ได้นะครับ

การที่บริษัทฯจะ Turnaround ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย!!!
มันต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ทั้งกำลังกาย กำลังใจ หรืออาจจะต้องใช้แม้แต่ กำลังภายใน
เพราะวัฒนธรรมคนไทย มันไม่ใช่ว่า เราจะเปลี่ยนแปลง หรือเลิกจ้างกันได้ง่าย!!!
ดังนั้น ต้นไม้ที่เราเฝ้านั่งมอง วันข้ามวัน เดือนข้ามเดือน ปีข้ามปี
และเห็นมันเติบโตขึ้นทีละเล็กละน้อย จะให้ขายมันทิ้งง่ายๆ มันก็กระไรอยู่นะครับ
โดยเฉพาะ ความเชื่อใจที่ผู้บริหารสามารถทำได้ตามคำมั่นสัญญานั้น มันมีค่าในตัวเองอ่ะนะขอรับ
มันเหมือนกลายเป็น "คนคุ้นเคย" หรือ "คนสนิทที่ผูกพันและเชื่อใจกัน" ไปซะแล้วซินะครับ

แต่บางทีก็มีนะ ที่พี่จะ Swith บริษัทฯบ้าง แต่นั้นแปลว่า เราเจอแม่ทัพคนใหม่ที่น่าสนใจเข้าเสียแล้วอ่ะนะขอรับ
แต่ที่แน่ CEO หรือแม่ทัพที่พี่เลือกนั้น ต้องเก่งกว่าเราเสมอ
และเราต้องรู้สึกชื่นชม และศรัทธาเค้าอ่ะนะขอรับ
พี่คิดประมาณนี้นะ...(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 166

โพสต์

i_team_na เขียน:ขอถามด้วยครับ

(ถ้าผมฟังผิดก็ขออภัย พอดีช่วงนั้นฟังไม่ค่อยทัน)

ที่พี่ Pak บอกว่า Bata tender ออกไปในราคาไม่ค่อยยุติธรรม

ทำไมจึงคิดเช่นนั้นครับ
ประโยคนี้พี่อาจจะพูดไม่ค่อยถูกนัก
ที่ถูกต้องพูดว่า...
น่าเสียดายมากๆ ที่บริษัทฯกำลังจะเริ่มฟื้นตัว และมีโอกาสเติบโตได้สูงมากๆ
แต่กลับมาทำเรื่องขอออกจากตลาดหลักทรัพย์ไป
และเมื่อไม่มีตลาดรอง จึงทำให้นักลงทุนต้องขายออกไป ทั้งๆที่บางท่านไม่เต็มใจจะขายมากนัก
มันน่าเสียดายจริงๆ เพราะเรายังไม่มีโอกาสได้เงินปันผลเลยอ่ะนะครับ ทั้งๆที่บริษัทฯมีกำไรที่น่าตื่นเต้นแล้ว
พูดแบบนี้ จึงจะถูกต้องมากกว่าขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: Re:

โพสต์ที่ 167

โพสต์

Ii'8N เขียน:2.
ในขณะเดียวกัน ตรงกันข้าม หุ้นหลายตัวที่เห็น ไม่ได้ฟุบจริง ผลประกอบการยังพอไปได้ แต่เจอสิ่งแวดล้อมชวนเสียขวัญ ของประเทศ หรือของโลกก็ตามแต่

เลยราคาหุ้น P ตก
--->>> ตกสนั่นหวั่นไหว เพราะคนตื่นประการหนึ่ง อีกประการการลงทุนในหุ้น ล้วนเป็นการลงทน "อนาคต" แต่ตอนวิกฤติ คนจำนวนมากกลัวอนาคต ไม่เอาเงินมาเล่น ถอนออกไปพักไว้หรือไม่ก็หมดเงิน รวมถึง fundflow ก็ไม่มี
ขอบคุณ คุณ Ii'8N สำหรับการร่วมแชร์มุมมองนะครับ
ช่วงนี้ผมมักนึกถึงศัพท์คำว่า "Inertia" หรือ "ความเฉื่อย" อยู่บ่อยๆอ่ะนะขอรับ
ซึ่งน่าจะหมายถึง...
หุ้นที่ขึ้น ก็มักจะขึ้นไปตามปัจจัยพื้นฐานของมัน
แต่เมื่อถึงราคาเป้าหมายแล้ว มันจะยังไม่หยุดเคลื่อนไหวในทันที
แต่มันจะยังคงเคลื่อนที่ขึ้นต่อไป ด้วยความเฉื่อย หรือ Inertia ของการเคลื่อนที่นั้น
และนั้นคือสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนต้อง "ติดดอย" กันไป
เพราะความเฉื่อยนั้นนั่นเอง ที่ทำให้หุ้นสามารถขึ้นได้เกินความเป็นจริง

และสำหรับหุ้นขาลง มันก็มักจะลงเกินจริงเช่นกัน
และทำให้นักลงทุนบางส่วนต้อง "ขายหมู" หรือขายหุ้นที่ถูกกว่าความเป็นจริงออกไป

และที่สำคัญ...ตลาดหุ้นไม่ใช่ตลาดปัจเจกชน ที่เป็นเอกเทศต่อกัน(ประโยคนี้เขียนแบบมั่วๆ ตามความรู้สึกอ่ะนะครับ)
แต่แท้จริงแล้ว มันมีความเชื่อมโยงกันหมด
การตัดสินใจของเรา ย่อมส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของคนอื่นๆในตลาด
การตัดสินใจของรายใหญ่ ย่อมกระเทือนความรู้สึกของนักลงทุนรายย่อยอย่างมาก
บวกกับเรื่อง Inertia หรือ ความเฉื่อย เข้าไปด้วยอีก
ตลาดจึงมักจะใช้ "อารมณ์" มากกว่า "เหตุผล" อยู่เสมอๆอ่ะนะขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 168

โพสต์

chukieat30 เขียน:คุณ Pak ชมเกินไปครับ ผมแค่คนมั่วๆๆเหวงๆๆคนนึงครับ

คุณ Pak อธิบายเรื่อง Turn around ดีมากๆๆครับ

ได้ความรู้เพิ่ม จากการดูขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณมากขอรับสำหรับคำชมครับ
แต่ประโยคนั้นของคุณ chukieat30 มันโดนใจผมจริงๆอ่ะนะครับ

ปล.
ในรายการทีวี พูดอะไรมากไม่ได้ครับ
แต่เมื่อวานในงานเฮฮา เลยปล่อยมุข และพูดได้อย่างเต็มที่อ่ะนะขอรับ
40%เป็นวิชาการ แต่อีก 60% เป็นมุมมองส่วนตัว และมุขตลกๆ แบบ "ฟังเพลิน" ขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 169

โพสต์

บางท่านอาจสงสัยว่า...
"ทำไมผมถึงให้ความสำคัญกับ CEO มากมายนัก?"
คำตอบร้อยพัน...คงอธิบายได้ไม่เท่ากับความประทับใจจากเพลงๆนี้อ่ะนะขอรับ


(Credit : คุณศิษย์ซุนวู พันทิพครับ)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 170

โพสต์

pak เขียน:

บริษัทฯส่วนใหญ่ที่พี่เลือกลงทุนนั้น
ส่วนมากพี่มักจะรู้สึกรัก ผูกพัน กับบริษัท รวมทั้งพี่มักจะเชื่อมือและเชื่อใจผู้บริหารเอาเสียมากๆ
ดังนั้นถ้าราคาไม่เว่อร์จริงๆ หรือไม่เจอบริษัทฯอื่นที่เข้าตาจริงๆ พี่มักจะไม่ค่อยขายนะครับ
รอให้หุ้น Turnaround มันค่อยๆกลายเป็นหุ้นปันผล
และถ้ามันทำได้ดีมากพอ มันอาจจะกลายเป็นหุ้น Growth ที่ดีในอนาคตก็ได้นะครับ

ส่วนตัวผมมองต่างมุมในเรื่องนี้นะครับ

ผมคิดว่าบริษัทที่ขาดทุนนั้นสะท้อนว่ามันเคยเป็นบริษัทที่ไม่ดี
เพราะช่วงวิกฤติบริษัทดีๆหลายบริษัทก็ยังไม่ขาดทุนเลย
แต่การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น ถึงจะเป็นบริษัทแย่ๆแต่ถ้ากลับมาดีได้
หุ้นก็ขึ้นได้ แต่ผมจะไม่ฝากความเชื่อไว้กับบริษัทที่เคยแย่มากๆ
ผมคิดว่าบริษัทที่เคยแย่ถ้ากลับมาได้แล้วโอกาศที่จะกลายเป็นบริษัทดีมากๆ
เป็นไปได้น้อย ดังนั้นถ้าเป็นผมจะไม่หวังว่าราคาจะเวอร์เลยกลับหุ้น turnaround
เนื่องจากบริษัทที่เคยแย่แล้วกลับมาดี ถ้าเทียบกับบริษัทที่ดีและดียิ่งกว่าเดิม
ผมคิดว่าหุ้นที่ฟื้นตัวไม่น่าจะได้รับ premium จากตลาดให้เทรดใน pe ที่สูง
และผมคิดว่าเมื่อหุ้นได้ฟื้นตัวมาแล้ว risk/reward ของการลงทุนต่อจากนั้นจะน้อยลงมากๆเมื่อเทียบกับตอนเพิ่งเริ่มฟื้นตัว

ดังนั้นเราขอถามว่า ในอดีตมีหุ้นบริษัทไหนที่ขาดทุนเยอะๆแล้วนอกจากจะ turn around กลับมาทำกำไรได้แล้วยังไม่พอยังกลายเป็นหุ้น growth ที่ปันผลเยอะๆได้บ้างไหมครับ

เท่าที่ผมศึกษาหุ้น turnaround มาบ้างไอ้ที่ขาดทุนหนักๆแล้วกลับมาทำกำไรได้หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวก็น่าจะมี thai kce vng ซึ่งผมก็ดูแล้วหุ้นพวกนี้ก็ไม่ได้เทรด pe หรือ pbv ที่มี premium เท่าไหร่ ช่วงเวลาที่ลงทุนแล้วดีที่สุดคือช่วงขาดทุนน้อยลงหรือเริ่มกลับมามีกำไรไตรมาสแรก แต่หลังจากโชว์กำไรได้ดีแล้ว การลงทุนต่อจากนั้นไม่ค่อยให้ return ที่ดีเท่าไหร่
ก็เปรียบเหมือนที่ผมบอกว่า หุ้นที่เคยแย่แค่กลับมาได้ระดับปกติก็ถือว่าดีแล้วการจะให้มัน growth มากๆต่อจากนั้นอาจจะยากสำหรับบริษัทที่เคยแย่

ประเด็นนี้เรามาถกกันต่อดีกว่าครับ :D
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 4

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 171

โพสต์

hongvalue เขียน:
pak เขียน:





ดังนั้นเราขอถามว่า ในอดีตมีหุ้นบริษัทไหนที่ขาดทุนเยอะๆแล้วนอกจากจะ turn around กลับมาทำกำไรได้แล้วยังไม่พอยังกลายเป็นหุ้น growth ที่ปันผลเยอะๆได้บ้างไหมครับ



ประเด็นนี้เรามาถกกันต่อดีกว่าครับ :D
คุณฮง คิดว่า ในอนาคตอีก 5 ปี jas
มีโอกาสเป็นไปได้ไหมคับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะยาวไปสำหรับนักลงทุน หรือเปล่านะ
แค่ถามความเห็นคับ
show me money.
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 172

โพสต์

nut776 เขียน: คุณฮง คิดว่า ในอนาคตอีก 5 ปี jas
มีโอกาสเป็นไปได้ไหมคับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะยาวไปสำหรับนักลงทุน หรือเปล่านะ
แค่ถามความเห็นคับ
ผมแถบไม่ได้ตาม jas แบบละเอียดเลยครับ

ผมเอาเวลาไปขุดหุ้น commodity อย่างเดียว
ผมตกรถ jas ด้วยนะครับ :oops:
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 173

โพสต์

pak เขียน: ส่วนตัวมองว่า ถ้าบริษัทฯฟื้นตัวได้เต็มที่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ตลาดจะให้ค่า pe ต่ำกว่าบริษัทฯอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันนะครับ
สรุปว่า คงต้องดูตามเหตุปัจจัย ณ เวลานั้นๆอ่ะนะขอรับ
ก่อนโพสบอกก่อนว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ผมเห็นด้วยแต่ตรงไหนที่ผมคิดอีกอย่าง ผมก็โพสนะครับ
เดี่ยวกลัวบางคนจะบอกว่าฮงนี้แย้งจังเลย


ส่วนตัวผมมองเรื่องนี้อีกมุมนะครับ

ยกตัวอย่างหุ้น electronic ถ้าเราไปดูหุ้น hana delta ปี 2008 ไม่ขาดทุน แต่ kce ขาดทุนเละเทะถ้า kce กลับมาทำกำไรได้ผมมองว่านักลงทุนส่วนใหญ่ไม่น่าให้ pe kce สูงเท่า
hana delta เพราะอะไร ถ้าเปรียบเทียบแล้วเหมือนมีบริษัมสองพวก

พวกแรกแม้วิกฤติก็ยังกำไรและทำ roe ได้ในระดับที่ดีและหลังวิกฤติก็ดีต่อเนื่อง
พวกที่สองคือพอวิกฤติเน่าเลยแล้วก็กลับมาได้

ถ้าหุ้นสองกลับนี้ pe เท่ากันและแนวโน้ม growth เท่ากันผมก็เลือกหุ้นกลุ่มแรกเพราะมันสะท้อนว่าในภาวะวิกฤติมันทำได้ดีกว่า แต่หุ้นกลุ่มที่สองถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่ดีมันอาจจะกลับไปขาดทุนใหม่หรือเปล่า อย่างน้อยนักลงทุนก็เคยเห็นภาพความเลยร้ายของหุ้นตอนขาดทุนหนักๆ

ผมยกตัวอย่างเพิ่ม ถ้าเปรียบเทียบกับการที่ผู้บริหารตัดสินถูกต้องบ่อยมากๆในการลงทุนอะไรใหม่ๆกลับอีกบริษัทนึงตัดสินใจพลาดมาเยอะแล้วช่วงหลังๆค่อยตัดสินใจดีขึ้น
ถ้าเรามองย้อนหลังเราก็บอกว่าคนที่ตัดสินใจถูกมายาวนานน่าจะปลอดภัยกว่าอะไรแบบนี้
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 174

โพสต์

hongvalue เขียน:
nut776 เขียน: คุณฮง คิดว่า ในอนาคตอีก 5 ปี jas
มีโอกาสเป็นไปได้ไหมคับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะยาวไปสำหรับนักลงทุน หรือเปล่านะ
แค่ถามความเห็นคับ
ผมแถบไม่ได้ตาม jas แบบละเอียดเลยครับ

ผมเอาเวลาไปขุดหุ้น commodity อย่างเดียว
ผมตกรถ jas ด้วยนะครับ :oops:

ฮงตกรถแจ๊ส แต่รอขึ้นรถเบนซ์ แทน

:ep: :ep: :ep:
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 175

โพสต์

เคยได้ยินมาว่า bh ก็เคยเข้าหมวดฟื้นฟูก่อนจะมาเป็นสุดยอดโรงพยาบาลทุกวันนี้
ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกว่าเน่าสนิทแล้วกลับมาเป็นพญาอินทรีย์ได้ไหม ?
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 265

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 176

โพสต์

chukieat30 เขียน:
ฮงตกรถแจ๊ส แต่รอขึ้นรถเบนซ์ แทน

:ep: :ep: :ep:
ตลาดแย่ๆแบบนี้ ไม่มีปัญญานั่งเบนซ์นะครับ
555
ขึ้นรถเมล์แทน :D
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 4

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 177

โพสต์

hongvalue เขียน:
chukieat30 เขียน:
ฮงตกรถแจ๊ส แต่รอขึ้นรถเบนซ์ แทน

:ep: :ep: :ep:
ตลาดแย่ๆแบบนี้ ไม่มีปัญญานั่งเบนซ์นะครับ
555
ขึ้นรถเมล์แทน :D

ตลาดแย่ๆๆแบบนี้ รถเมลล์บางคัน คนก้ลง ก่อนถึงป้ายครับ

ว่าแต่

ฮงจะนั่งรถเมลล์เนี่ย รถคันที่นั่งยังไม่ออกรถใช่ไหม

พี่จะได้เตรียมเต้นท์ผ้าใบ ไปนั่งด้วย
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 178

โพสต์

บทความเรื่อง "Performance Divergence...สัญญาณเท็จในผลประกอบการที่เรารู้สึกได้"
By pak , 20 มิ.ย. 54
ตำเตือน :
บทความนี้ ผู้เขียนเขียนขึ้นจากเพียงความรู้สึกและเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ส่วนตัวเท่านั้น!!!
ไม่ได้มุ่งหมายเนื้อหาทางวิชาการแต่อย่างใด ดังนั้นผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการอ่านบทความดังกล่าวนี้ด้วยครับ


รูปภาพ

ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า...ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Divergence อยู่เลย!!!
ผมรู้เพียงผิวเผินเพียงว่า Divergence คือ "การขัดกัน ซึ่งหมายถึงแนวโน้มทิศทางของราคาขัดกันกับแนวโน้มของ indicator" เท่านั้น
แต่สำหรับผม ผมมักจะเข้าใจง่ายๆว่า มันคือ "สัญญาณเท็จ"

ส่วนมากคำว่า "Divergence" เรามักจะพบในการวิเคราะห์กราฟและ Indicator ต่างๆ
แต่ในบทความนี้ ผมเขียนขึ้นจากความรู้สึกของผมล้วนๆ
เพราะผมรู้สึกว่า ในผลประกอบการหรือข่าวสารที่ประกาศออกมา มันก็มี "สัญญาณเท็จที่ผมสามารถรู้สึกได้อยู่เช่นกัน"
ผมจึงตั้งชื่อเรียกเล่นๆของมันขึ้นมาเองว่า "Performance Divergence"

ตามที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า...
"งบกำไรขาดทุน" นั้น...มันสามารถตกแต่งกันได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่ "งบกระแสเงินสด" นั้น...ก็สามารถแต่งได้ แต่ทำได้ยากกว่า!!!

ดังนั้น บางครั้งเมื่อเรานั่งอ่านผลประกอบการ ,งบการเงินต่างๆ เราอาจจะเคยรู้สึก "ทะแม่งๆ"
หรือรู้สึกได้ถึง "สัญญาณเท็จ" บางอย่าง
โดยเฉพาะกับบริษัทฯที่มีความโปร่งใสไม่เต็มร้อย

อย่างที่ผมเคยได้เขียนไปแล้วถึงเทคนิค "Cookies Jar Reserve" และ "Big Bath" ไปแล้ว
สิ่งเหล่านี้แหล่ะครับ เป็นหนึ่งในที่มาของ สัญญาณเท็จในผลประกอบการ
ยกตัวอย่างให้ง่ายกว่านั้น...
คุณเคยรู้สึกถึงความขัดแย้งง่ายๆไหมครับ เช่น...
- ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่กำไรลดลง
- ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น แต่เก็บเงินสดได้ลดลง
- Backlog เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้กลับเตี้ยต่ำติดดิน
- จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ยอดขายลดลง

อะไรก็ตามแต่ ที่เรารู้สึกทะแม่งๆ ผมเรียกมันว่า "สัญญาณเท็จ"
ซึ่ง "Divergence" หรือ "สัญญาณเท็จ" เหล่านี้...ก็มีทั้งในด้าน Positive และ Negative เช่นกัน
คือมีทั้งที่ "ส่งผลดีต่อบริษัทฯในอนาคต" หรือไม่ก็อาจจะหมายถึง "หายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต" ก็ย่อมเป็นได้!!!

สำหรับ "หุ้นที่มีโอกาส Turnaround" บางตัวนั้น เราจะรู้สึกได้ถึง "สัญญาณเท็จ" เหล่านี้
แต่เราต้องมาลงรายละเอียดให้แน่ชัด ว่ามันจะส่งผลทางด้านดี หรือด้านไม่ดีต่อบริษัทฯกันแน่???

แล้วเพราะอะไร สัญญาณเท็จเหล่านี้จึงต้องเกิดขึ้น?
ส่วนตัวผมขอมองโลกในแง่ร้ายว่า...
"ผลประกอบการ"...สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับเพียงแค่กิจการ
แต่ "ราคาหุ้น" ต่างหาก...ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างง่ายดาย


สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อในบทความนี้ก็คือ...
ถ้าเราสามารถรู้สึกได้ถึงสัญญาณเท็จเหล่านี้ นั่นแปลว่า "เรากำลังมีการบ้านชิ้นใหญ่ต้องลงมือทำแล้วหล่ะครับ"

pak
(^_^)



ปล.
นำภาพและข้อมูลบางส่วนมาจาก http://patipatkan.blogspot.com/2011/05/divergence.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 179

โพสต์

มีหุ้น Turnaround อยู่หนึ่งตัว ที่วันนี้ เราน่าจะหยิบยกมาพูดถึงกัน...

หุ้นของบริษัทฯที่มี Brand ที่แข็งแกร่งมากๆ
ผลประกอบการเริ่มดูดีขึ้นมาสักระยะหนึ่ง
และมีการตลาดและช่องทางการจำหน่ายที่ดี ทั้ง Traditional Trade และ Modern Trade
เป็นบริษัทฯที่มี Market Share อยู่ใน TOP3 ของประเทศ

บริษัทฯนั้น ชื่อ "MALEE"


ผมเองที่เพิกเฉย และไม่ยอมทำการบ้าน - -"
งานนี้...ต้องโทษตัวเองครับผม!!!

(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
kong_kang69
Verified User
โพสต์: 196
ผู้ติดตาม: 0

Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$

โพสต์ที่ 180

โพสต์

MALEE VS TIPCO

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆครับ
- ทุกครั้งที่คิดจะซื้อน้ำผลไม้มาดื่ม เมื่อแวะเข้าไปร้าน 7-11 ผมเองก้อหยิบแต่ TIPCO ทุกครั้งไป
เพราะชอบในรสชาด ของ เขาว่ามันอร่อยดี และอาจเป็นเพราะเคยลิ้มลอง น้อง MALEE มาแล้วมันไม่อร่อยนัก
- โดยส่วนตัวไม่เห็นว่า MALEE ได้เปรียบ TIPCO ตรงไหน ทั้งยี่ห้อ คุณภาพ ราคา การทำตลาด ยอดขาย อัตราการทำ กำไร ต่างๆนานา

จนมาถึงวันนี้้ เลยทำให้อดสงสัยไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้อง MALEE คนนี้ คงต้องดูกันยาวๆสักนิดว่า
- งานนี้เป็นแค่เพียง money game ที่ล่อแมลงเม่าตัวน้อยให้บินเข้ากองไฟ
- หรือจะเป็นการกลับมา ทวงตำแหน่งเจ้าแห่งน้ำผลไม้อีกครั้ง

แต่ที่รู้แล้ววันนี้คือ MALEE กลับมาคราวนี้ พกตังค์มามากกกกกพอสมควร....
ขอแสดงความยินดีกับผู้กล้าทุกๆท่านในวันนี้ครับ

........................................ลอกการบ้านครับ.......................................................................