สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตฯพ.ค.เพิ่ม15.9%

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนอุดร
Verified User
โพสต์: 3386
ผู้ติดตาม: 4

สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตฯพ.ค.เพิ่ม15.9%

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สศอ.เผยดัชนีผลผลิต อุตสาหกรรมพ.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 อยู่ที่ระดับ 184.94
นายสมชาย หาญหิรัญ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)  เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิต(มูลค่าเพิ่ม) เดือนพ.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 184.94 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 159.57

ส่วนดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 186.29 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 จากระดับ 157.39 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 189.17 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.4 จากระดับ 179.54 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 117.30 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 จากระดับ 108.32 ดัชนีผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 139.53 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากระดับ 135.65

โดยอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ร้อยละ 64.0  สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลต่อการขยายตัวที่สำคัญ ประกอบด้วย การผลิตน้ำดื่ม ยานยนต์ Hard disk drive การแปรรูปสัตว์น้ำ การผลิตเหล็ก

ทั้งนี้ การผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2 และร้อยละ 10.2 ตามลำดับ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวผู้บริโภคมีกำลังจับจ่ายสินค้ามากขึ้น และเดือนพฤษภาคมยังอยู่ในช่วงฤดูร้อน จึงมีความต้องการบริโภคน้ำดื่มในปริมาณสูงส่งผลต่อการขยายตัวทั้งการผลิตและ จำหน่ายดังกล่าว

ส่วนการผลิตยานยนต์ ขยายตัวถึงร้อยละ 90.6 และร้อยละ 78.9 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายตัวของทุกรถยนต์ทุกประเภท เนื่องจากผู้ผลิตเร่งผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศ และส่งออก โดยในเดือนพฤษภาคมการส่งออกรถยนต์สูงขึ้นกว่าร้อยละ 135.25 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าทั้งปีปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ จาก 1.4 ล้านคัน เป็น 1.5-1.6 ล้านคัน โดยจำหน่ายในประเทศประมาณ 700,000 คัน และส่งออกประมาณ 900,000 คัน

การผลิต Hard disk drive การผลิตและจำหน่าย เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 14.5  และร้อยละ 6.4 ตามลำดับ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวและการปรับตัวของผู้ผลิตที่สามารถผลิต สินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดต่างประเทศที่สำคัญ คือ จีน และสหรัฐ โดยตลอดปี 2553 มีทิศทางการขยายตัวที่ดี เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อการส่งออกที่แข็งแกร่งสามารถรับคำสั่งซื้อได้จำนวนมากและส่งมอบสินค้า ทันตามกำหนด ผู้นำเข้าทั่วโลกจึงให้ความไว้วางใจส่งผลต่อการขยายตัว ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ประมาณร้อยละ 10

การผลิตอาหารแปรรูปจากสัตว์น้ำ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 และร้อยละ 14.7 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวอย่างดี โดยเฉพาะสินค้าหลัก เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง ปลาซาร์ดีนกระป๋อง กุ้งแช่แข็ง และเนื้อปลาแช่แข็ง ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก และช่วงเดือนพฤษภาคมนี้มีปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ทำให้สหรัฐสั่งนำเข้ากุ้งจากไทยมากขึ้น

ส่วนการผลิตเหล็ก การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.0 และร้อยละ 27.6 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นไปตามทิศทางการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง และโครงการใหญ่ของรัฐบาลในด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในด้านต่าง ๆ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และราคาเหล็กในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีการปรับตัวให้สูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบ แร่เหล็กมากนัก

http://bit.ly/d1hC3E
"มันไม่ใช่หุ้นหรอกที่จะทำให้เรารวย แต่สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับหุ้นต่างหากที่จะทำให้เราร่ำรวยได้"
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนอุดร
Verified User
โพสต์: 3386
ผู้ติดตาม: 4

สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตฯพ.ค.เพิ่ม15.9%

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอให้ยานยนต์ กับ Hard disk drive ขยายตัวขึ้นไปอีกเรื่อยๆ (แอบเชียร์เพราะมีหุ้น) อิอิ +++  :lol:
"มันไม่ใช่หุ้นหรอกที่จะทำให้เรารวย แต่สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับหุ้นต่างหากที่จะทำให้เราร่ำรวยได้"
โพสต์โพสต์