ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้ามือใหม่ยังไม่รู้ว่าจะหาหุ้นจากไหน ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เซียนซื้อ หรือ มีข่าวออกมา (คล้ายๆเชียร์หุ้น) แบบนี้เสี่ยงไหมคะ คิดว่า ถ้ามีข่าว หรือ ซื้อตามเซียน แสดงว่า ต้องมีอะไรดีๆรออยู่ ถึงได้มีคนสนใจในหุ้นตัวนั้นๆ
(เช่น เจมาร์ท กับ เกียรติ)

เพราะ มือใหม่อย่างหนู บางทีจะเลือกหุ้นสักตัวก็ดูไม่แน่ใจเท่าไร ว่า ดีจริงไหม จะโดนหลอกรึป่าว

อีกข้อคะ การเป็นเหาฉลามเหมาะสำหรับใครรึคะ
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
o-bo-ja-ma
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

Re: ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

m_mummie เขียน:ถ้ามือใหม่ยังไม่รู้ว่าจะหาหุ้นจากไหน ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เซียนซื้อ หรือ มีข่าวออกมา (คล้ายๆเชียร์หุ้น) แบบนี้เสี่ยงไหมคะ คิดว่า ถ้ามีข่าว หรือ ซื้อตามเซียน แสดงว่า ต้องมีอะไรดีๆรออยู่ ถึงได้มีคนสนใจในหุ้นตัวนั้นๆ
(เช่น เจมาร์ท กับ เกียรติ)

เพราะ มือใหม่อย่างหนู บางทีจะเลือกหุ้นสักตัวก็ดูไม่แน่ใจเท่าไร ว่า ดีจริงไหม จะโดนหลอกรึป่าว

อีกข้อคะ การเป็นเหาฉลามเหมาะสำหรับใครรึคะ


ข้อแรกการเลือกหุ้นแบบนี้ หมายถึงถ้าซื้อนะครับ เสี่ยงครับ บอกเลยว่าเสี่ยง แต่ถ้าเราได้หุ้น แล้วเราก็ศึกษาเพิ่มเติมตัดสินใจด้วยตัวเอง แบบนี้ไม่เสี่ยงครับ เพราะตัดสินใจด้วยตัวเอง ซื้อเพราะอะไร ก็ขายด้วยเหตุผลนั้น จบครับ

ข้อสอง เมื่อก่อนผมเคย Post ว่าให้นักลงทุนหน้าใหม่ ๆ ระวังสิ่งที่เซียน Post เพราะเราไม่รู้ว่า เขาซื้อไปหรือยัง โดยปกติเขาจะซื้อไปแล้ว (ซึ่งหน้านั้นถูก mod ลบไปโดยปริยายครับ ผมก็ถูกยำเละเหมือนกัน แต่ผมก็หวังดีครับ ลองเข้าไปดูกระทู้เก่า ๆ คุณจะเห็นว่าเมื่อเขาขายเขาก็ไม่เข้ามาเชียร์แล้ว ผมไม่ได้บอกว่าเขาปั่นนะครับ เพียงแต่เขาสนใจเขาก้ Post ข่าว Post โน่น Post นี่ไปเรื่อย แต่พี่ที่ Post แต่ข่าวก็มีนะครับ) แต่ตอนนี้ผมก็รู้สึกเป็นเรื่องปกติ เพราะเราลองนึกดูว่าเวลาเราสนใจอะไร เราก็มุ่งไปที่หลักทรัพย์ตัวนั้น ๆ พอหมดความสนใจก็ไม่ได้ Post หรือแค่อ่าน เฉย ๆ ตรงจุดนี้อยากให้คุณ m มองว่าเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่ทำได้คือควบคุมจิตใจ และความรู้ของเราครับ เขาเรียก circle of competence เขียนถูกรึเปล่าไม่รู้นะครับ

ข้อสาม การที่เราบอกว่ามีอะไรดีอยู่ในหุ้นแล้วมีเซียนซื้อ ก็ผิดนะครับ เซียนก็เป็นคน เพียงแต่เขาอาจมีเงินเยอะกว่าเรา ขาดทุนไป 1-2 ล้าน หรือ 10-20 ล้านเขาไม่เป็นไร แต่เรา 1 หมื่น หรือแสนก็เจ็บแล้วนะครับ ตัวที่เขาลงพลาดก็มีเยอะ เช่นพี่นริศ ลง TFD พลาด ดร. CMO หรือ SVOA หมอ ลง เกษตรพลาด คือทุกท่านพลาดได้หมด แต่เราจะมองสิ่งที่เขามองพลาดเป็นเรื่องที่ถูกหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้คนที่ซวยที่สุดคือเรานะครับ แต่ถ้าเขาไม่มองหุ้นนั้น ๆ เลย แต่เรามองถูกแล้วเขามาเห็นทีหลัง แบบนี้ก็สุดยอดละครับ

ข้อสี่ การเป็นเหาฉลามเหมาะกับใคร ผมว่าเหมาะกับทุกคนที่เข้าหุ้นที่หลังคนอื่นๆ เขา เพราะว่าไม่ต้องหาหุ้นให้เมื่อยตุ้ม แต่มีข้อแม้ว่าต้องศึกษาเพิ่มเติม ดู MOS ดูทุกอย่าง แล้วคิดซื้อหรือขายเองเท่านั้นครับ

แนะนำได้ครับ  :lol:
เด็กเลี้ยงไม้
Verified User
โพสต์: 999
ผู้ติดตาม: 4

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เสี่ยงครับ
แต่การที่เรานำมาวิเคราะห์ต่อ ก็จะช่วยลดความเสียงนั้นไป รู้ว่าจะขายเมื่อไหร่เพราะอะไร เพราะตอนขาย เซียนเค้าไม่บอกเรานะครับต้องรู้เอง
แล้วก็ต้องดูว่าราคาไปแล้วรัยัง ถ้ายังเหลือ upside มากกว่า30 ก็น่าสนครับ
ทั้งนี้ upsid ต้อง conser ด้วยนะครับ ไม่งั้นจักเจ็บตัว

บางคนเรียกตัวเป็นเหา แต่เก่งมากก็เยอะ ประมาณว่าไม่ได้หาหุ้นเอง
แต่มีความสามารถในการวิเคราะห์สูง ประมาณว่าเป้นเหา ก็เหาเทพ ทำนองนั้น

ตอนแรกๆขนาดดูแล้วดูอีก ซื้อแล้วผมก็ยังไม่มั่นใจ
แต่เราจะมั่นใจได้แน่ๆคือ เราซื้อแล้วราคาขึ้นไป แสดงว่าเราเริ่มมาถูกทางแล้วหละครับ  
แต่ถ้าซื้อแล้วราคาตก ก็ต้องดุว่าเราดูผิดตรงไหนรึป่าว  ถ้าไม่นั่นถือโอกาสหละครับ
ส่วนที่เหลือก็ต้องตามๆกันต่อไป

ส่วนเหมาะกับใครนั้นผมก็ไม่รู้สิครับ
:lol:  :lol:
Anti-Aircraft
Verified User
โพสต์: 807
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมกดสุ่มดูงบหน้าแรกใน www.set.or.th เอาครับ ตัวไหนงบหน้าแรกพอใช้ได้ก็อ่าน 56-1 กับงบการเงินฉบับเต็มต่อครับ

บางคนก็จะใช้วิธีดู PE น้อยๆ ก่อน (อาจดูจาหนังสือพิมพ์หรือบางเว็บที่เขาเรียง PE ให้ผมจำไม่ได้เหมือนกัน) แล้วค่อยไล่ดูงบหน้าแรกว่าตัวไหนหน้าสนใจครับ

ตัวอย่างเกณฑ์ในการกรองงบหน้าแรก ก็เช่น
กำไรโต >10 % ทบต้น 5 ปี
ยอดขายโต >10 % ทบต้น 5 ปี
หนี้ต่อทุน < 0.5  สม่ำเสมอ
ROA > 10% สม่ำเสมอ
ROE > 15%  สม่ำเสมอ
มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอทุกปี

ประมาณนี้ครับ ตัวไหนน่าสนใจค่อยไปวิเคราะห์ละเอียดอีกทีครับ
อย่ายอมแพ้
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="Anti-Aircraft"]ผมกดสุ่มดูงบหน้าแรกใน www.set.or.th เอาครับ ตัวไหนงบหน้าแรกพอใช้ได้ก็อ่าน 56-1 กับงบการเงินฉบับเต็มต่อครับ

บางคนก็จะใช้วิธีดู PE น้อยๆ ก่อน (อาจดูจาหนังสือพิมพ์หรือบางเว็บที่เขาเรียง PE ให้ผมจำไม่ได้เหมือนกัน) แล้วค่อยไล่ดูงบหน้าแรกว่าตัวไหนหน้าสนใจครับ

ตัวอย่างเกณฑ์ในการกรองงบหน้าแรก ก็เช่น
กำไรโต >10 % ทบต้น 5 ปี
ยอดขายโต >10 % ทบต้น 5 ปี
หนี้ต่อทุน < 0.5
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
Anti-Aircraft
Verified User
โพสต์: 807
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

อ่า ปกติมากๆครับ

เพิ่มอีกเรื่องคือ ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องยึดกฏเป๊ะๆ หรอกครับ เพราะหน้าแรกมีข้อมูลให้เราแค่ไม่เกิน 5 ปี ที่จริงเราควรดูย้อนหลังซัก 10 ปีครับ หลายบริษัทช่วง supprime มีงบที่ไม่ค่อยสวย แต่หากดูเฉลี่ยย้อนหลังนานๆ จะพบว่าที่จิงมันก็ ok

ดูคร่าวๆ แค่ว่าการเงินไม่น่าเกลียดนัก แล้วไปเน้นประเมินคุณภาพเอาดีกว่าครับ
อย่ายอมแพ้
o-bo-ja-ma
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ธนาคารนี้อัตราส่วน หนี้ต่อทุน มากกว่า 1 ตลอดเลยนี่ปกติหรือเปล่าครับ[/quote]

ลองคิดว่าธนาคารหาเงินมาได้ยังงัยครับ ในการปล่อยกู้ ถ้าผมตอบ ผมก็จะบอกว่า ปกติครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
manza125
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

พี่ๆแต่ละคนนี้สุดยอดเลยแหะ
ผมก็พยายามซื้อหุ้นเหมือนคุณ Anti-Aircraft เลย
( แต่พอซื้อทีไร เศรษฐกิจพาหุ้นตกตลอด )


ไหนๆก็มีคนตอบเยอะแล้ว

ขอถามมั่งครับ สี่ข้อ

หนึ่ง : แล้วถ้ามีข่าวออกว่าหุ้นตัวนี้กำลังดี
คาดว่ามีกำไร QoQ ดี YoY ดี ใน 10 - 20 % ทำนองนี้

เราจะเชื่อได้ไหมว่าบริษัทสามารถทำตามเป้าได้จริงๆหรือไม่

หรือต้องใช้เซ็นต์ในการวิเคราะห์เอา ว่ามีโอกาศทำได้หรือไม่

หรือต้องดูข่าวย้อนหลังว่าเคยออกข่าวแบบนี้มาก่อนแล้วทำได้ตามเป้าจริง ตามที่พูด ? (<<< ถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมย้อนดูหลายบริษัทนะครับที่ทำตามเป้าไม่ค่อยได้ซะส่วนใหญ่ และ โบรคฯวิเคราะห์ว่าหุ้นจะวิ่งขึ้นไปจุดโน้น จุดนี้ มันก็มีน้อยที่จะตรงเป้าแหะ)



สอง : กำไร 10 % ทบต้น 5 ปี นี้หมายความว่ายังไงหรอครับ
ใช่ กำไรเพิ่มขึ้นทุกๆปี ในอัตราเฉลี่ย 10% รึป่าว


สาม : ไอ้ upside และ growth จะหาจากไหน เราจะรู้ได้ยังไง (ใช่ผลการคาดเดาของกำไรป่าว?)

สี่ : อยากรู้ว่าการขึ้นลงของหุ้นนอกจากปัจจัยซื้อ/ขายแล้ว อะไรที่ทำให้หุ้นขึ้นลงทุกวัน (ถ้าเป็นกำไรที่รับรู้ ตลาดหลักทรัพย์จะรู้ทุกวันเลยรึ? หรือเค้าส่งบัญชีกันทุกวัน  :roll:  )

และในส่วนที่เป็นกำไรเนี้ย เมื่อรับรู้กำไร(ประกาศตามไตรมาส) หุ้นจะขึ้นรับ ราคา เลยรึป่าว


คำถามเยอะหน่อยครับ แต่ถ้าผมรู้หมดนี้ก็จะบรรลุขั้นbasic แล้วแหละ :arrow:
ไม่กล้าไปตั้งกระทู้ถามอะครับ อาย  :oops:
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 1

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมกรองหุ้นหลักอย่างนี้ครับ
NPM>15%
ROE>20%
ROA>15%
แล้วก็มาเจาะทีละตัวๆครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
เด็กเลี้ยงไม้
Verified User
โพสต์: 999
ผู้ติดตาม: 4

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="manza125"]พี่ๆแต่ละคนนี้สุดยอดเลยแหะ
ผมก็พยายามซื้อหุ้นเหมือนคุณ Anti-Aircraft เลย
( แต่พอซื้อทีไร เศรษฐกิจพาหุ้นตกตลอด )


ไหนๆก็มีคนตอบเยอะแล้ว

ขอถามมั่งครับ สี่ข้อ

หนึ่ง : แล้วถ้ามีข่าวออกว่าหุ้นตัวนี้กำลังดี
คาดว่ามีกำไร QoQ ดี YoY ดี ใน 10 - 20 % ทำนองนี้

เราจะเชื่อได้ไหมว่าบริษัทสามารถทำตามเป้าได้จริงๆหรือไม่

หรือต้องใช้เซ็นต์ในการวิเคราะห์เอา ว่ามีโอกาศทำได้หรือไม่

หรือต้องดูข่าวย้อนหลังว่าเคยออกข่าวแบบนี้มาก่อนแล้วทำได้ตามเป้าจริง ตามที่พูด ? (<<< ถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมย้อนดูหลายบริษัทนะครับที่ทำตามเป้าไม่ค่อยได้ซะส่วนใหญ่ และ โบรคฯวิเคราะห์ว่าหุ้นจะวิ่งขึ้นไปจุดโน้น จุดนี้ มันก็มีน้อยที่จะตรงเป้าแหะ)



สอง : กำไร 10 % ทบต้น 5 ปี นี้หมายความว่ายังไงหรอครับ
ใช่ กำไรเพิ่มขึ้นทุกๆปี ในอัตราเฉลี่ย 10% รึป่าว


สาม : ไอ้ upside และ growth จะหาจากไหน เราจะรู้ได้ยังไง (ใช่ผลการคาดเดาของกำไรป่าว?)

สี่ : อยากรู้ว่าการขึ้นลงของหุ้นนอกจากปัจจัยซื้อ/ขายแล้ว อะไรที่ทำให้หุ้นขึ้นลงทุกวัน (ถ้าเป็นกำไรที่รับรู้ ตลาดหลักทรัพย์จะรู้ทุกวันเลยรึ? หรือเค้าส่งบัญชีกันทุกวัน
maiaowna
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมดูแนวโน้มก่อนครับว่าอะไรกำลังมา แล้วกำลังจะไปทางไหน

ค่าพวกนี้บอกความสามารถในการทำกำไรในอดีต แต่เราซื้ออนาคต

เราจึงควรใช้ค่าของอนาคตในการซื้อแทน  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เหมือนกับว่า เราต้องให้น้ำหนักของธุรกิจที่สนใจทั้งด้านคุณภาพและผลการดำเนินงานใช่ไหมคะ แต่จากที่อ่านๆมา พี่ๆจะให้เน้นคุณภาพของธุรกิจ แสดงว่า ถ้าธุรกิจมีคุณภาพ โอกาสที่จะเจริญเติบโตในอนาคตก็จะมีมากขึ้นด้วยใช่ไหมคะ  พร้อมดูผลการดำเนินงานในอดีตประกอบกัน เพื่อเป็นการตัดสินใจว่าธุรกิจเป็นไปทิศทางเดียวกับคุณภาพหรือไม่
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

[quote="maiaowna"]ผมดูแนวโน้มก่อนครับว่าอะไรกำลังมา แล้วกำลังจะไปทางไหน

ค่าพวกนี้บอกความสามารถในการทำกำไรในอดีต แต่เราซื้ออนาคต

เราจึงควรใช้ค่าของอนาคตในการซื้อแทน
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

chowbe76 เขียน:ผมกรองหุ้นหลักอย่างนี้ครับ
NPM>15%
ROE>20%
ROA>15%
แล้วก็มาเจาะทีละตัวๆครับ
ถ้าค่าบางค่าไม่ถึงที่ตั้งไว้ เช่น npm อาจน้อยกว่า 15 แต่ค่าอื่นๆมากกว่าที่ตั้งไว้ ยังนี้จะน่าสนใจเข้าไปวิเคราะห์ไหมคะ แล้วเราควรจะให้น้ำหนักกับค่าไหนมากที่สุดคะ
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
เด็กเลี้ยงไม้
Verified User
โพสต์: 999
ผู้ติดตาม: 4

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 15

โพสต์

m_mummie เขียน: ถ้าค่าบางค่าไม่ถึงที่ตั้งไว้ เช่น npm อาจน้อยกว่า 15 แต่ค่าอื่นๆมากกว่าที่ตั้งไว้ ยังนี้จะน่าสนใจเข้าไปวิเคราะห์ไหมคะ แล้วเราควรจะให้น้ำหนักกับค่าไหนมากที่สุดคะ

กรณี NPM ในอุสาหกรรมที่เป็น mass product แข่งขันสูงก็จะทำให้มี NPM น้อยๆได้ครับ
เราต้องดูส่วนอื่นกระกอบด้วย เช่นเป็นเจ้าตลาดรึป่าว market share เป็นเท่าไร

ลองสังเกตุพวก modern trade นะครับ npm ประมาณ4-5 % เท่านั้นเอง
แต่โต 10 % ทุกปี แต่ pe สูง ไม่ผันผวนมากนัก

แต่หลักการของคุณ chowbe76 แรกๆผมก็ใช้ครับดีทีเดียวหละ

ส่วนถามว่าควรให้ นน. อันไหนมากกว่ากัน
ค่าพวกนี้ไว้ใช้แค่กรองหุ้นเท่านั้นเอง เลือกมาเถอะครับ
แล้วมาดูที่ บริษัทกันอีกที  กำไรในอนาคต สำคัญว่าค่าพวกนี้ในอดีตแน่ๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
manza125
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 16

โพสต์

โอ้ว คุณเด็กเลี้ยงไม้มาตอบให้เลย  :lol:

ผมแอบปลื้มตั้งแต่เข้าเว็บมาแรกๆแล้วว่า คนนี้ความรู้เยอะจัง เก่งจัง  :D

ขอบคุณมากครับ
(ส่วนเรื่องการสอนผมความรู้ยังน้อยนิด อาศัยความเข้าใจหุ้นในบริษัท ในแต่ละตัวในการทำเงินครับ)

-----

งั้นขอตอบคุณ  m_mummie บ้างนะครับ

ในความคิดผม ต้องมองหลายๆปัจจัย ตัวเลขพวกนี้เอามาเพื่อจะเลือกหุ้นอย่างพี่เด็กเลี้ยงไม้ว่า
การจะเลือกหุ้นต้องดูบริษัทด้วยว่าเค้าทำอะไร ไม่ใช่ดูแต่ค่าตัวเลขทางสถิติต่างๆ เช่น หุ้นเรือ(หุ้นวัถจักร) ทำกำไรมาตลอด 4 - 5 ปี ค่าสถิติสวย roe roa 20 - 30 ขึ้น แต่พอมาปีล่าสุดเป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทำเอาหุ้นตัวนั้นขาดทุนได้โดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน
หรืออาจไปเจอหุ้นตัวอื่นที่ไม่ใช่หุ้นเรือ แต่ทำกำไรได้ดีมาตลอด อยู่ดีๆก็ขายของไม่ได้ ทำกำไรไม่ได้ก็เจ๊งเหมือนกัน

นอกเหนือจากตัวเลขสถิติต่างๆ มองเศรษฐกิจ มองธุรกิจเข้าไปลึกๆแล้ว ยังจะต้องมองผู้บริหารด้วยว่ามีความเป็นธรรมดีมากน้อยแค่ไหน มีความสามารถมากน้อยแค่ไหน

สรุปคือ ไม่ว่าค่าสถิติอันไหนๆก็มาเทียบไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่า แต่ควรที่จะมองโดยรวม(ทั้งปัจจัยภายนอกและใน)

เช่นสเต็บของผมดู
เศรษฐกิจแบบนี้ควรเล่นหุ้นอะไร(ข้อนี้แนะนำให้หาดูในหนังสือคัมภีหุ้นหน้าหลังๆจำไม่ได้ หรือ ตีแตก) > ดู roe 15% ขึ้น > และก็ต้องไปมอง roa ว่าดีด้วยรึป่าว อีกทั้งดู > p/e > p/vb > เข้าไปดูเว็บบริษัทว่าขายอะไร ใครเป็นลูกค้าบริษัท โครงการในอนาคตมีอะไร(56-1) > สุดท้ายก็ไปดูงบการเงิน แล้วจึงตัดสินใจซื้อ

(ส่วนตัวไม่ค่อยคาดเดากำไรหรือnpmในอนาคตนั้นซะเท่าไหร่ มันไม่ตายตัว บางทีก็ถึงเป้า บางทีก็ไม่ถึง บางทีก็เลยเป้า)
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
เด็กเลี้ยงไม้
Verified User
โพสต์: 999
ผู้ติดตาม: 4

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 17

โพสต์

จ๊าก.....ผมไม่เก่งเลยครับ ความรู้เท่าหางอึ่งเอง มือใหม่ด้วย
อ่านอะไรก็จำไม่ค่อยจะได้ ต้องอ่านหลายๆรอบ
ส่วนเรื่องให้สอนผมแซวเล่นครับ คุยแลกเปลี่ยนกันดีกว่า :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ว้าวๆ พี่ๆมาตอบให้มากมายหลายหลาก ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกแล้วเรา  :D  :Dยังเหลืออ่านงบที่ยังไม่เอาไหนเลยคะ มองไปก็ตาลาย รู้แต่คร่าวๆว่ากำไรสุทธิเป็นบวก ส/ท ต้องมากกว่า หนี้ , roa roe เพิ่มขึ้น กระแสเงินสดเป็นบวก อะไรทำนองนี้ แต่ยังไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไป เลยประมาณการกำไรอนาคตของบริษัทไม่ได้สักที จริงๆ เคยอ่านหมายเหตุประกอบงบแล้วนะคะแต่ไม่เข้าใจ ก็คงค่อยๆเรียนรู้ไป สักวันคงเข้าใจ  :wink:
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 19

โพสต์

อ่านกระทู้นี้แล้วเหมือนมีเพื่อนร่วมเดินทางเลย
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 1

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 20

โพสต์

เด็กเลี้ยงไม้ เขียน:

กรณี NPM ในอุสาหกรรมที่เป็น mass product แข่งขันสูงก็จะทำให้มี NPM น้อยๆได้ครับ
เราต้องดูส่วนอื่นกระกอบด้วย เช่นเป็นเจ้าตลาดรึป่าว market share เป็นเท่าไร

ลองสังเกตุพวก modern trade นะครับ npm ประมาณ4-5 % เท่านั้นเอง
แต่โต 10 % ทุกปี แต่ pe สูง ไม่ผันผวนมากนัก

แต่หลักการของคุณ chowbe76 แรกๆผมก็ใช้ครับดีทีเดียวหละ

ส่วนถามว่าควรให้ นน. อันไหนมากกว่ากัน
ค่าพวกนี้ไว้ใช้แค่กรองหุ้นเท่านั้นเอง เลือกมาเถอะครับ
แล้วมาดูที่ บริษัทกันอีกที
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
KGYF
Verified User
โพสต์: 399
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ค่าบางค่า วัดเป็นตัวเลข ไม่ได้  ก็ใช้ กึ๋น แหละครับ เหมือนที่ ดร. เคยว่าไว้ เพราะ ไม่มีใคร ประมาณการอนาคต ได้แม่นยำ  แน่นอน
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "

" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
Anti-Aircraft
Verified User
โพสต์: 807
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 22

โพสต์

manza125 เขียน:พี่ๆแต่ละคนนี้สุดยอดเลยแหะ
ผมก็พยายามซื้อหุ้นเหมือนคุณ Anti-Aircraft เลย
( แต่พอซื้อทีไร เศรษฐกิจพาหุ้นตกตลอด )


ไหนๆก็มีคนตอบเยอะแล้ว

ขอถามมั่งครับ สี่ข้อ

หนึ่ง : แล้วถ้ามีข่าวออกว่าหุ้นตัวนี้กำลังดี
คาดว่ามีกำไร QoQ ดี YoY ดี ใน 10 - 20 % ทำนองนี้

เราจะเชื่อได้ไหมว่าบริษัทสามารถทำตามเป้าได้จริงๆหรือไม่

หรือต้องใช้เซ็นต์ในการวิเคราะห์เอา ว่ามีโอกาศทำได้หรือไม่

หรือต้องดูข่าวย้อนหลังว่าเคยออกข่าวแบบนี้มาก่อนแล้วทำได้ตามเป้าจริง ตามที่พูด ? (<<< ถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมย้อนดูหลายบริษัทนะครับที่ทำตามเป้าไม่ค่อยได้ซะส่วนใหญ่ และ โบรคฯวิเคราะห์ว่าหุ้นจะวิ่งขึ้นไปจุดโน้น จุดนี้ มันก็มีน้อยที่จะตรงเป้าแหะ)
ถามได้ตรงจุดมากครับ

ข่าวและการคาดการณ์อนาคตเนี่ยเป็นเรื่องใหญ่มาก ทางที่ดีที่สุดควรฟังจากผู้บริหารโดยตรง ไม่ใช่โบรกเกอร์ หรือบทวิเคราะห์ หากจะใช้โบรกเกอร์หรือบทวิเคราะห์ ควรเปรียบเทียบหลายๆ บทวิเคราะห์เข้าด้วยกัน ตัวเลขที่ควรสนใจคือ ประมาณการยอดขาย ประมาณราคาขาย ประมาณกำไรขั้นต้น ประมาณการเติบโต หรือตัวเลขอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ราคาหุ้นนี่ไม่ต้องไปดูเลยครับมั่วสุดๆ (ผมจำมาจากหลักของพี่โยนะครับ ซึ่งจากการทดลองพบว่าใช้ได้ดีพอสมควร)

ตัวอย่างการวิเคราะห์ข่าว
(ข่าวนี้ท่านที่ถือหุ้นอยู่คงจะพอเดาได้ ผมได้ทำการดัดแปลงตัวเลข และข้อความบางส่วนเพื่อความเหมาะสมนะครับ)
ในปี 52 ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนได้ให้ข่าวว่า ปี 53 จะมีการเติบโตของยอดขายราวๆ 20 % เนื่องมาจากในปี 52 บริษัทมีผลกำไรลดลงเนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้ลูกค้า เลื่อนการส่งมอบงานจำนวนมากออกไปก่อน แต่ลูกค้ามิได้มีการ ยกเลิกสัญญาการซื้อขายในปริมาณมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่างานเลื่อนส่งมอบดังกล่าวจะมีการรับรู้ใน Q1 - Q2 ในปีหน้าอย่างแน่นอน
SOLVE
เราลองดูงบย้อนหลัง 10 ปีพบว่า :
• บริษัทมียอดขายก่อนปี 52 ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ แม้จะมีการเติบโตไม่มากนัก
• ในปี 52บริษัทมียอดขายลดลง 18 % จากปี 51
• บริษัทมียอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเสมอในปีที่เศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากไม่ใช่สินค้าจำเป็น ลูกค้าจึงสามารถเลื่อนการซื้อออกไปได้ หากภาวะเศรษฐกิจไม่อำนวย
• บริษัทเป็นจ้าวตลาด แม้จะไม่ใช่สินค้าจำเป็น แต่สินค้ามีความแตกต่าง ไม่มีสินค้าทดแทน และมีอำนาจต่อรองลูกค้าค่อนข้างสูง
ANS
เราจึงสรุปได้ว่าข่าวดังกล่าวมีโอกาสที่จะเป็นจริงสูง ทำให้เราได้ตัวเลขประมาณการเติบโตและยอดขายของปี 53 มาโดยปริยาย เป็นต้น


สิ่งที่ใครก็ช่วยเราไม่ได้คือการประมาณค่า P/E หรือต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมของบริษัท (โบรกเกอร์มักจงใจประมาณตัวเลขให้ เมื่อคำนวณออกมาแล้วมีราคาเป้าหมายใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน อาจสูงหรือต่ำกว่าพอสมควรเป็น upside และ downside ให้เกิดการซื้อขายนั่นเอง)

การให้ข่าวส่วนใหญ่มักจะหาหลักฐานยืนยันค่อนข้างยากครับ ตัวไหนที่หาหลักฐานยืนยันไม่ได้ ก็อย่าไปสนใจเลยครับ ซึ่งหุ้นแต่ละตัวนั้น เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานธุรกิจมากพอ ก็จะเข้าใจได้เองครับว่าควรจะสืบตัวเลขจากอะไร ทั้งนี้ต้่องไม่ลืมว่า MOS นั้นช่วยบรรเทาความเสียหาย จากการประมาณการผิดพลาดได้เป็นอย่างดีครับ
manza125 เขียน:ไม่กล้าไปตั้งกระทู้ถามอะครับ อาย  :oops:
อายอะไร คนเยอะแยะ :D
อย่ายอมแพ้
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เสี่ยงมากๆครับ

ถ้าคิดแบบนี้ล่ะครับ

มีคนมาขอยืมเงินคุณ
คนๆนั้นเป็นใครไม่รู้
แต่มีคนบอกว่า เซียนเค้าแนะนำว่า คนๆนี้เจ๋งสุดๆ
ทั้งๆที่เซียนคนนั้น

....แท้จริงเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่่ง


แล้วคนๆนั้น เราดูอย่างไรก็ดูไม่ออก ว่าเค้าเป็นอย่างไร

เราจะให้เค้ายืมเงินไหมครับ


พี่มนเคยสอนแบบนี้ เวลาที่พี่เค้ายกหุ้นบางตัวมาให้วิเคราะห์
(ที่ vi know how)
ทั้งๆที่ตัวเลขดูดีพอควร

แต่ทำไม บริษัทนี้ มันต้องขอยืมเงิน (เพิ่มทุน)บ่อยๆ

ลงทุนอะไรก็เจ๊ง / ไม่ได้เท่าที่เค้าเคยกล่าวไว้

ฯลฯ

แต่คราวนี้เค้ามั่นใจ ว่าไม่พลาด


....

การลงทุนเป็นสิ่งสำคัญครับ
ถ้าเราไม่เข้าใจสิ่งที่เราจะลงทุน หรือไม่แน่ใจ
เราจะยินดีนำเงินที่เราหามาอย่างยากลำบากมาให้เค้าดำเนินกิจการ
ผมว่า ไม่ควรนะครับ

โอกาสลงทุนมีอยู่เสมอ
ขอเพียงเราเข้าใจในตัวเราเอง และเข้าใจในบริษัทที่เราลงทุนครับ


มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม  :D

ปล. ข้อความด้านบนไม่เกี่ยวกับบริษัทที่มีการพูดถึงทั้งสิ้นนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

ถามคะ ถ้าจะเลือกวิเคราะห์หุ้นที่เป็นที่สนใจในขณะนี้

โพสต์ที่ 24

โพสต์

โอกาสมาเรื่อยๆให้ลงทุน แต่ถ้าเงินไม่มี นี่ต้องทำยังไงคะ
:roll:  :roll:  ขำๆคะ พอมีใครให้ยืมได้ไหมคะ  :8)  :8)
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
โพสต์โพสต์