ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2229
ผู้ติดตาม: 18

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ในตอนก่อนหน้านี้ ได้แนะนำไปแล้วว่า เราจำเป็นต้องเริ่มออมเสียแต่วันนี้ เพื่อให้เกษียณอย่างสบาย และได้แนะนำให้ปรับแนวคิดในการออมเสียใหม่ ให้ ออมก่อนใช้ ไม่ใช่ ใช้แล้วเหลือจึงออม เพราะโดยธรรมชาติของคนเรานั้นมักจะขาดวินัยในการออม แม้ตั้งใจจะใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อจะออมให้ได้ ก็มักทำไม่สำเร็จ หลักการก็คือว่า สร้างระบบการออมที่หักเงินไปออมทันที่เงินเดือนออก ในตอนนี้ผมขอขยายความการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ เพื่อให้เราสามารถออมก่อนใช้ ได้สำเร็จ

เพื่อให้เข้าใจง่าย สมมติว่าท่านมีเงินเดือน 20,000 บาท และตั้งใจจะออมให้ได้เดือนละ 5,000 บาท เรามาดูกันว่าจะมีช่องทางสร้างระบบการออมอัตโนมัติได้อย่างไรบ้าง

1. ระบบออมภาคบังคับ ได้เล่าไปในตอนก่อนแล้วว่า การออมภาคบังคับเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดีที่สุด เพราะเรากำลังถูกบังคับให้ออมเงินด้วยการหักจากเงินเดือนโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ระบบการออมภาคบังคับจึงจัดเป็น การออมอัตโนมัติ ที่มีอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ขอให้ออมผ่านระบบนี้อย่างเต็มที่

ระบบการออมภาคบังคับที่สำคัญของไทยคือ กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพ ซึ่งท่านที่ทำงานในภาคเอกชนและเป็นผู้ประกันตนซึ่งมีจำนวนกว่า 9.2 ล้านคนทั่วประเทศในขณะนี้ ได้ออมอยู่แล้วทุกเดือนในอัตราร้อยละ 3 ของรายได้ นายจ้างช่วยสมทบอีกร้อยละ 3 ของรายได้ มีเพดานรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท เงินที่ท่านออมเหล่านี้จะได้รับกลับคืนไปในรูปของ บำเหน็จ หรือบำนาญเมื่อเกษียณ ท่านจึงได้ออมเงินกับกองทุนประกันสังคมอยู่แล้วทุกเดือน

เนื่องจากเราสมมติว่าท่านมีเงินเดือน 20,000 บาท แต่กองทุนจัดเก็บเงินสมทบโดยมีเพดานรายได้ 15,000 บาท ท่านจึงออมกับกองทุนประกันสังคมในอัตราร้อยละ 3 ของเพดานรายได้ 15,000 บาท คิดเป็นเงินออมเดือนละ 450 บาท นายจ้างสมทบอีก 450 บาท รวมเป็นเงินออมเดือนละ 900 บาท

จะเห็นได้ว่า ในแต่ละเดือน ท่านออมกับกองทุนประกันสังคมเป็นจำนวนไม่มากนัก เช่น ท่านที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ท่านออมเพียง 450 บาท การออมกับกองทุนประกันสังคมจึงไม่ได้สร้างภาระทางการเงินแต่ประการใด แต่เป็นระบบการออมแบบอัตโนมัติให้กับตัวท่านเอง เพื่อให้มีบำเหน็จหรือบำนาญใช้หลังเกษียณ
นอกจากกองทุนประกันสังคมแล้ว ท่านที่เป็นข้าราชการและเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็จัดว่าอยู่ในระบบการออมภาคบังคับ โดยมีอัตราการออมเงิน 3% + 3% ของรายได้เช่นเดียวกัน ท่านจึงมีระบบการออมอัตโนมัติผ่าน กบข. เป็นประจำทุกเดือน
ในส่วนของ กบข. ไม่มีเพดานรายได้ ดังนั้นท่านที่เป็นสมาชิก กบข. และมีเงินเดือน 20,000 บาท จึงได้ออมกับ กบข. เดือนละ 600 บาท รัฐบาล (ในฐานะนายจ้างของข้าราชการ) สมทบให้อีก 600 บาท รวมเป็นเงินออมเดือนละ 1,200 บาท

ในปัจจุบัน กบข. ได้เปิดโครงการออมเพิ่มเพื่อให้สมาชิกสามารถสะสมเงินเข้ากองทุนได้สูงสุดถึงร้อยละ 15 ของเงินเดือน นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ออมเพิ่ม

ทั้งนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า การออมภาคบังคับกับกองทุนประกันสังคมและกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการมีข้อดีอย่างน้อย 2 ประการ คือ (1) เงินทุกบาทที่ท่านออมมีนายจ้างสมทบด้วยอีกหนึ่งเท่า (2) เงินทุกบาทที่ท่านออมสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย

2. ระบบการออมภาคสมัครใจ มีไว้เพื่อรองรับผู้ที่ยังไม่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณภาคบังคับ แรงงานนอกระบบ (Informal Sector) หรือมีสวัสดิการดังกล่าว แต่ต้องการออมเพิ่มเติม

ระบบการออมภาคสมัครใจที่สำคัญ คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งครอบคลุมสมาชิกที่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจและลูกจ้างในภาคเอกชนจำนวนประมาณ 2 ล้านคน ปัจจุบันมีเงินสะสมประมาณ 514,500 ล้านบาท โดยลูกจ้างสมัครใจให้หัก"เงินสะสม" และนายจ้างจ่ายเงินเข้าอีกส่วนหนึ่งเรียกว่า"เงินสมทบ" เมื่อเกษียณจะได้รับ บำเหน็จ เป็นเงินก้อน เท่ากับเงินสะสมและเงินสมทบข้างต้น บวกดอกผลจากการลงทุน

ดังนั้น หากหน่วยงานหรือบริษัทของท่านมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขอแนะนำให้ออมอย่างเต็มที่ เพราะการหักเงินเดือนของท่านสะสมเข้ากองทุนทุกเดือน เป็นการสร้างระบบการออมอัตโนมัติให้กับตัวท่านเอง

สมมติว่าท่านมีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงานบริษัทเอกชนที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งมีอัตราเงินสะสมของลูกจ้างร้อยละ 10 และมีอัตราเงินสมทบ ของนายจ้างอีกร้อยละ 10 ท่านจึงได้ออมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดือนละ 2,000 บาท นายจ้างสมทบให้อีก 2,000 บาท รวมเป็นเงินออมเดือนละ 4,000 บาท เมื่อรวมกับเงินสมทบกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพเดือนละ 900 บาท ท่านมีเงินออมรวม 4,000 + 900 = 4,900 บาทต่อเดือน

3. ระบบการออมอัตโนมัติที่สร้างขึ้นเอง ในกรณีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการออมภาคบังคับ หรือไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือมีระบบการออมข้างต้นแล้วแต่ต้องการออมเพิ่ม เราก็สามารถสร้างระบบการออมภาคบังคับได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีทางเลือกหลากหลาย เช่น

3.1 ฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ หากที่ทำงานของท่านมีสหกรณ์ออมทรัพย์ การหักเงินเดือนเพื่อฝากเงินกับสหกรณ์เป็นประจำทุกเดือนก็เป็นการสร้างระบบการออมแบบอัตโนมัติที่ดีอย่างหนึ่ง โดยทั่วไป การฝากกับสหกรณ์ออมทรัพย์มักจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากธนาคาร และให้สิทธิกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารด้วย

3.2 กู้เงินซื้อบ้าน เมื่อท่านเริ่มมีฐานะการเงินที่มั่นคงและมีกำลังพอที่จะผ่อนไหว การกู้ซื้อบ้านนับเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ เพราะการชำระค่างวดเป็นประจำทุกเดือนเป็นการออมเงินเพื่อไปสู่เป้าหมายคือการมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ใช้ประโยชน์ได้และเป็นทรัพย์สินที่มูลค่ามักจะปรับเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา โปรดสังเกตนะครับว่าไม่ได้สนับสนุนให้กู้เงินซื้อรถ เพราะเป็นทรัพย์สินที่มูลค่าปรับลดลงตามกาลเวลา และไม่ได้สนับสนุนให้กู้เงินจากบัตรเครดิตหรือเงินกู้ส่วนบุคคล เพราะการกู้อย่างหลังนี้ถือเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบัน ขัดกับหลักการออมอย่างสิ้นเชิงครับ

3.3เปิดบัญชีเงินฝากปลอดภาษี ปกติเวลาเอาเงินไปฝากธนาคาร เราจะรู้จักแต่ เงินฝากออมทรัพย์ และ เงินฝากประจำ แต่เดี๋ยวนี้มีบัญชีเงินฝากแบบพิเศษที่ส่งเสริมให้เกิดการออมเงิน ซึ่งบังคับให้ฝากเป็นประจำทุกเดือน ขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 25,000 บาท ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 24 เดือน เมื่อครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำ และไม่ต้องเสียภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับด้วย

ทั้งนี้ เข้าใจว่าธนาคารแทบทุกแห่งมีบัญชีแบบนี้ไว้บริการ แต่อาจจะเรียกชื่อต่างกัน เช่น ธ. กรุงเทพ เรียกว่า เงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี ธ. กสิกรไทย เรียกว่า เงินฝากทวีทรัพย์ เป็นต้น ส่วน ธ. อาคารสงเคราะห์ มีเงินฝากที่เรียกว่า สินเคหะ ซึ่งเมื่อครบกำหนดนอกจากจะได้ดอกเบี้ยสูงและไม่ต้องเสียภาษีแล้ว ยังได้สิทธิกู้เงินซื้อบ้านด้วยดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราปกติด้วย

3.4 เปิดบัญชีซื้อกองทุนแบบอัตโนมัติ ในปัจจุบันนี้บริษัทจัดการกองทุนส่วนใหญ่มีบริหารสำหรับลูกค้าที่ต้องการออมเป็นประจำทุกเดือน ด้วยการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อหักเงินจากบัญชีเงินฝากของเราไปซื้อหน่วยลงทุน หลายแห่งเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น ปัจจุบันมีกองทุนให้เลือกลงทุนหลากหลาย ตั้งแต่เสี่ยงน้อยไปถึงเสี่ยงมาก อาทิเช่น

กองทุนตราสารภาครัฐระยะสั้น (Money Market Fund) กองทุนประเภทนี้รวบรวมเงินออมของท่านและผู้ลงทุนคนอื่นๆ ไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารเหล่านี้ออกโดยรัฐบาลจึงมีความเสี่ยงต่ำมาก แต่เนื่องเป็นตราสารที่เน้นขายเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ประชาชนจึงสามารถลงทุนได้ทางอ้อมผ่านกองทุนรวม การลงทุนในกองทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงต่ำมาก และมีสภาพคล่องสูงเกือบเท่าเงินฝากออมทรัพย์ (เมื่อขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับเงินคืนในวันทำการถัดไป) แต่โดยส่วนใหญ่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์

กองทุน LTF และ RMF สำหรับท่านที่มีภาระภาษี ขอแนะนำให้พิจารณาลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund หรือ LTF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) โดยใช้วิธีหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อซื้อหน่วยลงทุนเป็นประจำทุกเดือน วิธีนี้จะเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดีมาก ทำให้ท่านทยอยซื้อกองทุนตลอดทั้งปี ช่วยเฉลี่ยต้นทุนแบบ Dollar Cost Averaging เพราะหากไปรอซื้อตอนปลายปีอาจจะได้ซื้อที่ราคาแพง

3.5 ซื้อประกันชีวิตแบบทยอยชำระเบี้ย การซื้อประกันชีวิตจัดเป็นส่วนผสมระหว่างการออมภาคสมัครใจและการคุ้มครองกรณีเสียชีวิต โดยผู้ซื้อประกันออมเงินด้วยการชำระเบี้ยประกัน และจะได้รับเงินคืนตามสัญญาหากเสียชีวิตหรือเมื่อสัญญาครบกำหนด เท่าที่เคยคำนวณคร่าวๆ การซื้อประกันชีวิตจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2 4% ต่อปี ทั้งนี้ แทนที่จะชำระเบี้ยเป็นเงินก้อนใหญ่ปีละครั้ง บริษัทประกันชีวิตหลายแห่งมีทางเลือกให้ลูกค้าทยอยชำระเบี้ยเป็นราย 3 เดือนหรือรายเดือน นับเป็นการสร้างระบบการออมอัตโนมัติอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ดี การทยอยชำระเบี้ยอาจทำให้ท่านจ่ายเบี้ยมากกว่าการชำระเพียงครั้งเดียว ขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ

นอกจากนี้แล้ว ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากตัวเลขที่เรากำหนดเป้าหมายออมเงินแบบอัตโนมัติเดือนละ 5,000 บาท สมมติว่าเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี ทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนจนอายุครบ 60 ปี โดยเงินที่ออมนำไปลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 5.00 ต่อปี เมื่ออายุครบ 60 ปี ท่านจะมีเงินออมสะสมประมาณ 4,000,000 บาท
หากเอาเงินก้อนจำนวน 4,000,000 บาทเป็นตัวตั้ง สมมติว่าท่านจะอายุยืนไปถึง 80 ปี นำเงินก้อนนี้ไปลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 5.00 ต่อปี แล้วทยอยถอน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ออกมาใช้เป็นประจำทุกเดือน ท่านจะมีเงินใช้หลังเกษียณประมาณเดือนละ 26,000 บาทครับ

หากเกรงว่าการออมเดือนละ 5,000 บาทจะเกินกำลัง ท่านสามารถกำหนดเป้าหมายที่ต่ำกว่าได้ เช่น หากกำหนดเป้าหมายออมเดือนละ 2,000 บาท เริ่มต้นออมเมื่ออายุ 30 ปีเหมือนกันและใช้สมมติฐานเดียวกัน เมื่อเกษียณ ท่านจะมีเงินออมประมาณ 1,600,000 บาท และมีเงินใช้หลังเกษียณประมาณเดือนละ 10,000 บาทครับ
ซึ่งหวังว่าแนวทางการออมต่างๆ ข้างต้นจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่าน และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ท่านเลือกแนวทางการสร้างระบบการออมให้กับตนเอง ขอย้ำอีกครั้งว่า การสร้างระบบการออมเพื่อเกษียณเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวท่านเองและครอบครัวในระยะยาวครับ

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หากท่านมี ข้อสงสัยเกี่ยวกับการออมเงินกับกองทุนประกันสังคมเพื่อให้ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพหลังเกษียณ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ติดต่อระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00 19.00 น.

ข้อมูล : วิน พรหมแพทย์ สำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคม

from h[url]ttp://piggyman007.blogspot.com/2010/04/blog-post_21.html[/url]
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

รอให้น้องบิ๊กมาแชร์วิธีการออมครับ คนนี้เป็นเทพเรื่องการออมตัวจริงครับ อิอิ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอนำ financial diary ส่วนตัวมาโพสนะครับ
เรื่อง ทำงานมา 10 ปี ยังไม่มีเงินออม

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ได้มีโอกาสนัดเจอกับเพื่อนเก่าที่เรียนจบมารุ่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เรียนจบและทำงานกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว กินข้าวและนั่งคุยเรื่องต่างๆ นาๆ หลายคนก็ทำงานบริษัท บางคนก็ฟรีแลนซ์ ที่ทำกิจการส่วนตัวก็มีบ้าง ทุกคนบอกว่าตอนนี้ก็โอเค งานก็ดีอย่างโน้นอย่างนี้  แต่พอแซวว่า งานดีเงินดี ตอนนี้รวยแล้วล่ะสิ หลายคนกลับบอกว่า มีเงินพอใช้เดือนแค่ชนเดือน ก็เลยถามกลับไปว่า ตอนนี้มีเงินฝากธนาคารอยู่เท่าไร คำตอบที่ได้คือ เงินฝากเหรอ อืมม์ ก็กำลังคิดจะฝากอยู่ แต่ปกติใช้เดือนชนเดือนก็แทบจะไม่พอใช้แล้ว เคยเก็บไว้ได้ก้อนหนึ่งเหมือนกันแต่พอดีว่ามีธุระจำเป็นเลยต้องเอามาใช้ ฯลฯ

ผมลองมองย้อนดูตัวเองรู้สึกโชคดีที่พอมีเงินออมอยู่บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืมจากใคร
โดยส่วนตัวผมเมื่อตอนเริ่มทำงานครั้งแรกเงินเดือนเด็กจบใหม่ก็ไม่มากมาย แต่มีความคิดว่าผมอยากเก็บเงินก้อนหนึ่ง แต่ก็กลัวว่าจะถอนออกมาใช้จะทำอย่างไรดี จึงคิดว่าเอาไปฝากประจำดีกว่า ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าฝากประจำคืออะไร คิดว่า ต้องฝากทุกเดือนเป็นประจำ พอเดินไปที่ธนาคารบอกอยากฝากประจำเดือนละ 3,000 บาท และจะเอาเงินมาฝากให้เป็นประจำทุกเดือน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารก็อธิบายให้ฟังว่าฝากประจำคือนำเงินเข้ามาฝากไว้ตามกำหนดเวลาแล้วแต่จะเลือก เช่น 3 เดือน 12 เดือน หรือ 24 เดือน โดยฝากขั้นต่ำแต่ละครั้ง 10,000 บาท โดยไม่จำเป็นต้องมาฝากเป็นประจำทุกๆเดือน ผมก็เลยเซ็งและคิดว่า เฮ้ยอะไรเนี่ยะ จะสร้างวินัยการฝากเงินก็ทำไม่ได้ แต่พอลองดูเงินฝากประเภทอื่น ก็พบว่ามีบัญชีเงินฝากที่น่าสนใจ บัญชีที่ว่าก็คือ

เงินฝากทวีทรัพย์ 24 เดือน วงเงินฝาก 1,000 - 25,000 บาท
โดยต้องฝากเท่ากันทุกเดือน หากฝากครบได้ดอกเบี้ยสูง ไม่เสียภาษี
ดอกเบี้ยที่ว่านี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินฝากประเภทอื่นๆ นะครับ
(อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันของ KBank)
ออมทรัพย์ 0.50%
ประจำ 3 เดือน 0.65%
ประจำ 12 เดือน 0.65%
ประจำ 24 เดือน 1.50%
ทวีทรัพย์ 24 เดือน 2.00% ไม่เสียภาษี

ผมจึงตัดสินใจออมเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน เมื่อครบก็ได้เงินก้อน 72,000 บาท บวกกับดอกเบี้ย 1,816.77 บาท ซึ่งผมก็ออมได้ครบสองปี สิ่งที่มีค่าที่ผมได้จากการออมในครั้งนั้น คงไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยหรือแม้แต่เงินก้อนจำนวน 73,816.77 บาท(มากกว่าโบนัสที่ได้จากบริษัทอีก) เพื่อนำไปลงทุนต่อ แต่สิ่งที่ได้คือวินัยในการออมที่เป็นพื้นฐานที่จะสร้่างความมั่งคั่งให้แก่อนาคตทางการเงินต่อไป :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท

คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ  หลายครั้งคิดว่าสิ่งที่ทำมันมากไปหรือน้อยเกินไป สุดท้ายก็เลิกทำดีกว่า เหมือนกับว่ามันจะต้องมีอะไรสักอย่าง มากำหนดหรือบังคับถึงจะทำได้ ส่วนตัวผมเอง สมัยตอนเด็กๆ พี่สาวชวนไปเปิดบัญชีเพื่อฝากเงินที่ธนาคารออมสิน สมัยนั้นพนักงานยังพิมพ์ดีด สมุดบัญชีต้องเวียนไปให้แต่ละโต๊ะเซนต์ พอเสร็จแล้วก็จะเรียกชื่อให้ไปรับสมุดคืน ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นดอกเบี้ยเงินฝากประเภทเผื่อเรียก (งงล่ะสิ ก็ออมทรัพย์น่ะแหละ) อยู่ที่ 13% ฝากอยู่สัก 3 ปีมั้ง พอเริ่มโตเริ่มใช้เงินเก่ง ก็ถอนเงินออกมาหมดปิดบัญชี และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ฝากเงินเพื่อออมเงินอีกเลย มีเพียงเปิดบัญชีเพื่อรับเงินจากทางบ้านเท่านั้น จนกระทั่งทำงานหาเงินได้เองก็เริ่มคิดถึงเรื่องการออมเงิน เพราะบางเดือน ก็มีเงินเหลือเล็กน้อย คราวนี้พอจะเริ่มฝากก็ลังเลว่าจะฝากเท่าไรดี เงินฝากทวีทรัพย์ฝากเดือนละ 3,000 บาท ก็มีอยู่แล้ว (ลองอ่านตอนก่อนหน้านี้) ทำไปทำมาเงินที่เหลือๆ ก็ใช้จ่ายหมดไป จนกระทั่งวันหนึ่งก็เห็นภรรยาผมมีแบงค์ห้าสิบอยู่สี่ห้าใบ ผมก็ถามว่าทำไมมีแบงค์ห้าสิบหลายใบจัง เธอก็บอกว่า แบงค์ห้าสิบเก็บไว้จะเอาไปฝากเข้าบัญชี ผมก็เลยพิจารณาดูว่า แบงค์ห้าสิบเป็นแบงค์ที่เจอในแต่ละวันน้อยกว่าแบงค์อื่น ๆ (ไม่เชื่อลองเปิดกระเป๋าเงินดูสิ) ปกติแบงค์ที่ได้รับบ่อยจะเป็นแบงค์ 20 บาท หรือ แบงค์ 100 บาท (แบงค์ 500 บาทและ1,000บาท มีมูลค่าสูงเกินไปไม่เหมาะแก่การออมของผม) ผมก็เลยคิดว่า ในเมื่อเราอยากจะออมเงินเพิ่มแต่ไม่รู้ว่าจะออมเท่าไรดี ลองเอาแบบนี้แล้วกันว่า เก็บแบงค์ห้าสิบไว้ไม่ใช้แล้วพอสิ้นเดือนก็เอาไปเข้าบัญชีเป็นเงินออม จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ผมกล้ายืนยันว่าไม่มีใครเคยได้รับแบงค์ห้าสิบบาทจากผมอย่างแน่นอน ยกเว้นพนักงานธนาคารที่หน้าเคาท์เตอร์ครับ
:D
o-bo-ja-ma
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับ ที่ share IDEA
ภาพประจำตัวสมาชิก
Green_nightmare
Verified User
โพสต์: 171
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมอายุ 25 ปี ออมในหุ้น ตอนนี้อยู่กับหุ้น 100%
ในบัญชีออมทรัพย์เหลืออยู่ 40 บาท  เงินเดือนที่เข้ามาผมหัก 1/3 เข้าไปในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทันทีครับ
temet nosce
thine own self thou must know
Hypersonix
Verified User
โพสต์: 157
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

[quote="Green_nightmare"]ผมอายุ 25 ปี ออมในหุ้น ตอนนี้อยู่กับหุ้น 100%
ในบัญชีออมทรัพย์เหลืออยู่ 40 บาท
Always Look On The Bright Side Of Life.
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2229
ผู้ติดตาม: 18

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมก็ออมทุกเดือนครับ หวังว่าสักวันจะได้เป็นเศรษฐีกับเขา
arica
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1125
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ส่วนผม ปัจจุบัน 37
ใช้วิธีฝาก BBL แบบ 24 เดือนตามข้างบนนี้แหละครับ
แต่ผมใช้แรงจูงใจว่า
2 ปีแรก ฝากเดือนละ 1,000 บาท พอครบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 2,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 3,000 บาท พอครบรอบ ก็
2ปีต่อมา ฝากเดือนละ 4,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีนี้ผมฝากเดือนละ 5,000 บาท มา ได้ 7 เดือน แล้วครับ
โดยที่ระหว่างยอด 2 ปีที่ครบกำหนด ผมก้ได้เงินก้อน เอามาหาซื้อหุ้นพื้นฐานดีๆ มีปันผล 6-7 % สบาย ๆ ไม่เครียด
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2229
ผู้ติดตาม: 18

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ส่วนผม ปัจจุบัน 37
ใช้วิธีฝาก BBL แบบ 24 เดือนตามข้างบนนี้แหละครับ
แต่ผมใช้แรงจูงใจว่า
2 ปีแรก ฝากเดือนละ 1,000 บาท พอครบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 2,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 3,000 บาท พอครบรอบ ก็
2ปีต่อมา ฝากเดือนละ 4,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีนี้ผมฝากเดือนละ 5,000 บาท มา ได้ 7 เดือน แล้วครับ
โดยที่ระหว่างยอด 2 ปีที่ครบกำหนด ผมก้ได้เงินก้อน เอามาหาซื้อหุ้นพื้นฐานดีๆ มีปันผล 6-7 % สบาย ๆ ไม่เครียด
แล้วปัจจุบันพอร์ตมีมูลค่าเท่าไรเหรอครับ ไม่ทราบถามได้ไหมครับ
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผมเริ่มตั้งใจออมเงินหยอดกระปุก คือคุณแม่ปฏิเสธไม่ยอมซื้อ LEGO ชุดตะลุยอวกาศ และ ชุดกองเรือโจรสลัด ให้ (ตอนนั้นกล่องละ 4,000 บาท)  ประมาณ ป.3-4 ได้มั้ง  ในขณะที่คุณพ่อก็ให้เงินแค่
ค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 15-20 บาทเอง  เราก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เห็นเพื่อนๆ
ที่โรงเรียนได้กันวันละ 40-50 บาท เอา GAME BOY มาเล่นโชว์ให้เราตาร้อนเล่น   ครั้นจะไปขอให้ที่บ้านซื้ออีก  ก็ไม่กล้าขอแล้ว  เพราะมักจะถูกตอบกลับมาสั้นๆว่า  "อยากได้ก็เก็บเงินซื้อเองสิ"   ที่สำคัญคือที่บ้านผม เขาไม่มี merits system แบบว่า  ถ้าเราออมได้เท่าไหร่   พ่อ/แม่ จะใส่สมทบเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นก็มีบางครอบครัวเอาไปใช้แล้ว

  แน่นอนครับ...ความรู้สึกอยากได้ของเล่นยังวนเวียนอยุ่ในใจตลอดเวลา
จนทำให้ ผมช่วงนั้นพยายามอดอาหารว่าง เพื่อที่จะให้มีเงินเหลือ 10 บาท
ต่อวันเป็นอย่างน้อย  จากเดิมที่จะชอบซื้อปีกไก่ทอด 2 ห่อ กลายเป็นซื้อ
เพียงห่อเดียว  สำหรับเด็กอ้วนน้ำหนักเกินเกณฑ์อย่างผมในเวลานั้น เป็น
อะไรที่ทรมาณมากๆ   แผนการออมเงินเพื่อซื้อของเล่นทำไปได้ 5 วัน ก็
แพ้ใจตัวเองกลับมาซื้อ 2 ห่อในสัปดาห์ต่อมา    แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังพยายามหาทางที่จะกลับมาออมให้ได้ 10 บาทบ้าง  โดยกำหนดกติกาให้ตัวเองว่า
ถ้าวันไหนซื้อกิน 2 ห่อ วันต่อไปคือต้องอด  (วันที่ซื้อ 2 ห่อ จะเหลือเงินหยอดกระปุก 5 บาท, วันที่อดจะมีเงินในมือ 15 บาท)  ซึ่งจะทำให้ผมยังคงมีเงินหยอดกระปุกเฉลี่ยวันละ 10 บาทเช่นกัน........ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกลายเป็นความเคยชิน  ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า มันคือ โปรแกรมการอดออมก่อนใช้จ่าย ที่เขียนกันเกร่อในหนังสือวางแผนการเงินส่วนบุคคลในทุกวันนี้

ซึ่งแน่นอนครับว่า  พฤติกรรมนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงหูคุณย่า  ท่านก็รู้สึกเป็นห่วงผมไม่น้อยเลย  จนถึงทุกวันนี้  ท่านยังถามผมเสมอว่า  กินข้าวอะไร....อาหารดีหรือเปล่า......อย่าอดๆอยากๆนะ  :cry:   สำหรับคุณแม่นั้น ท่านได้แต่บอกว่า
อย่างก (ยิว) เงินนัก  บ้านเราไม่ได้อดอยากอะไร   :lol:


ก็ถือเป็นก้าวแรกของการออมเงินของผมในวัยเด็กหัวเกรียนๆๆครับ
ยังเขียนได้เรื่อยๆ....


โปรดติดตามตอนต่อไป  :arrow:
yy
Verified User
โพสต์: 6427
ผู้ติดตาม: 2

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมว่า ต้องตอบคำถามนี้ (หรือทำนองนี้) ก่อนว่า กิน (ใช้จ่าย) เพื่ออยู่ หรืออยู่เพื่อกิน (ใช้จ่าย)
ถ้าเป็นกรณีแรก ผมเชื่อว่าด้วยระบบค่าตอบแทนที่ได้รับ (ไม่ว่าจะของราชการที่เงินเดือนต่ำในระยะแรกๆ แต่เงินเดือนและสวัสดิการระยะยาวดีกว่า กับระบบเอกชนที่เริ่มต้นด้วยเงินเดือนที่สูงกว่ามากๆในตอนเริ่มต้น (แต่อาจจะไม่ยั่งยืนหรือยาวนาน)) เราสามารถมีเงินเหลือจากความจำเป็นในการอยู่ได้แน่นอน แต่ด้วยโครงสร้างของสังคมในปัจจุบัน มันคงยากมากๆที่ใครสักคนจะฝืนกระแสบริโภคนิยมได้ ถ้ายังคงอยู่ในสังคมเมืองอยู่ (หรือแม้แต่อยู่ในสังคมบ้านนอก ยังต้องเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์อยู่เลย เพราะชาวบ้าน จบแค่ ป.4 ยังมี รถยนต์ขับ มีทีวีสีจอแบนรุ่นล่าสุด ฯลฯ แล้วครูหรือข้าราชการตามอำเภอ อุตส่าห์ร่ำเรียนจนจบปริญญา จะไม่มีได้อย่างไร ขายหน้าเลยจริงๆ)
ดังนั้น
ผมเชืออย่างยิ่งว่า วินัยเท่านั้น ซึ่งคือการให้ความเชื่อมั่นในตัวเองว่า จำนวนเท่าไหร่ที่เราต้องการในการอยู่ (survive + ดำรงฐานะในสังคมในระดับหนึ่ง) กันออกมาก่อน แล้วที่เหลือ คือ เงินลงทุนขั้นต่ำ
แต่คนส่วนมาก มักจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือ ใช้จ่ายเต็มความสามารถ เหลือเท่าไหร่แล้วค่อยว่ากัน (ยังดีที่เหลือ)
ที่ผมโพสต์อย่างนีได้ เพราะผมผ่านมาทุกอารมณ์ที่กล่าวถึงมาหมดแล้ว
(เคยทำงานบริษัทเอกชนในกทม. ประมาณ 3 ปี แล้วจึงไปเป็นข้าราชการในต่างจังหวัด อายุงานประมาณ 25 ปี) ตอนนี้ผมกำหนดเป้าหมายได้ล่วงหน้าแล้วว่า เงินเดือนออกจะซื้อหุ้นที่เลือกแล้ว ในราคาที่อยากได้ จำนวนกี่หุ้น
ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนครับ
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

[quote="Voldtrest"]
ก็ถือเป็นก้าวแรกของการออมเงินของผมในวัยเด็กหัวเกรียนๆๆครับ
ยังเขียนได้เรื่อยๆ....

โปรดติดตามตอนต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ออมก่อนใช้ สำหรับคนที่ยังมองคชจ.ส่วนที่จำเป็นและไม่จำเป็น ฟุ่มเฟือยและไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ออกครับ ก็เลยต้องกั๊กเงินออมไว้ก่อน แล้วที่เหลือก็บีบไข่พยายามบริหารส่วนทีเหลือให้ได้....เสมือนคนที่กินเหล้าครับวันนี้เลิกเหล้านะหักดิบเลย ก็ไม่ต่างกับเงินเดือนมาตัดออกเลย30-40%แล้วที่เหลือบริหารเอา

แต่สำหรับคนที่โตเพียงพอ มีเหตุผลพอ รู้จักประเมินValueที่ได้รับกับเงินที่จ่ายไปเสมอๆก็ไม่จำเป็นต้องไปซีเรียสครับ เงินออกมาใช้ส่วนที่จำเป็นที่เหลือทั้งหมดเก็บ เท่านี้ครับไม่ได้ยึดหลักการอะไรมากมายครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ยกตัวอย่าง
1.โทรศัพท์มีเพื่อโทร เครื่องหลักหมื่นกับหลักพันโทรต่างกันไหม?
2.ข้าวมีไว้กินประทังชีวิต มื้อละหลักสิบกับมื้อละหลักร้อยต่างกันไหม?
3.เดินทางเพื่อไปจุดหมาย นังรถเมย์ขับรถไปเองถึงที่หมายเหมือนกันไหม?
4.รองเท้าเพื่อไม่ให้เท้าสกปรกกับเป็นแผล คู่ละร้อยกับพันต่างกันไหม?
5.เสื้อ กางเกง และอื่นๆ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 1

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ผม25
เงินในบัญชีซื้อขาย15ส่วน
เงินออมในK-money10ส่วน
เงินในกองทุนK-china3ส่วน
เงินเผื่อฉุกเฉิน3ส่วนครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

[quote="Voldtrest"] กระเป๋าเงินหลายใบทะยอยร่วงจากท้องฟ้า ลงมา
กระเป๋าบางใบเปิดออก
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

คุณ Voldtrest นี่เริ่มเก็บเงินตั้งแต่เด็กๆเลย
แล้วที่สำคัญไม่เอาเงินออกมาใช้ซะด้วยสิ นี่สิเจ๋งจริง

(พอพูดแล้วคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่ผมเคยเก็บเพื่อซื้อเครื่องเกมส์ Family
ราคา 1500 บาทโดยแอบแบกถุงกอล์ฟสมัยผมอยู่ ม.1 ขึ้นมาทันที)

ว่าแต่คุณ Voldtrest เข้ามาเล่าต่อสิกำลังติดตามฟัง :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3779
ผู้ติดตาม: 75

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

arica เขียน:ส่วนผม ปัจจุบัน 37
ใช้วิธีฝาก BBL แบบ 24 เดือนตามข้างบนนี้แหละครับ
แต่ผมใช้แรงจูงใจว่า
2 ปีแรก ฝากเดือนละ 1,000 บาท พอครบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 2,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีต่อมา ฝากเดือนละ 3,000 บาท พอครบรอบ ก็
2ปีต่อมา ฝากเดือนละ 4,000 บาท พอครบรอบ ก็
2 ปีนี้ผมฝากเดือนละ 5,000 บาท มา ได้ 7 เดือน แล้วครับ
โดยที่ระหว่างยอด 2 ปีที่ครบกำหนด ผมก้ได้เงินก้อน เอามาหาซื้อหุ้นพื้นฐานดีๆ มีปันผล 6-7 % สบาย ๆ ไม่เครียด
แทนที่จะเอาเงินไปฝากประจำ ทำไมไม่เอาเงินไปซื้อหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนปีละ 6-7% เลยล่ะครับ :)
arica
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1125
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ส.สลึง เขียน: แทนที่จะเอาเงินไปฝากประจำ ทำไมไม่เอาเงินไปซื้อหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนปีละ 6-7% เลยล่ะครับ :)
เนื่องจากเงินที่เก็บในแต่ละเดือนเป็นเงินจำนวนไม่มากหนะครับพี่ และที่สำคัญที่สุดคือวินัยในการเก็บเงินครับ ให้มันเก็บและทบไปเรื่อย ๆ และท้ายที่สำคัญที่สุดเป็นเงินเก็บเพื่ออนาคตของลูกครับ ต้องพยายามไม่ขาดทุนและวันข้างหน้าจะได้บอกกับเค้าได้ว่าเงินที่พ่อให้มาจากไหน (เหมือนกับแม่ของผมที่เก็บเงินให้ผมตั้งแต่ยังเล็ก โดยฝากเงินกับ ธ.ออมสิน เดือนละ 100 บาท เมื่อ 30 ปีก่อน)
ตัวเงินไม่มากหรอกครับ แต่ วินัยในการเก็บออม สำคัญมากสำหรับผม :D
arica
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1125
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

piggyman007 เขียน: แล้วปัจจุบันพอร์ตมีมูลค่าเท่าไรเหรอครับ ไม่ทราบถามได้ไหมครับ
ไม่เยอะหรอกครับ เพราะว่าในระหว่างทางมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นมาก ๆ มาเคาะประตูบ้านเสมอๆ  :D
ลองดูจะครับ แล้วแต่ละท่าน ปรับให้เข้ากับแต่ละท่านดูตามความเหมาะสม สำหรับผมสไตล์นี้เหมาะกับผมดีครับบ้านผมยื่นกู้ 10 ปี แต่ปลอดหนี้ภายในปีที่ 4 ครับ แฮ่ๆ  bank ไม่แอปปี้เลยครับ :)
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

Voldtrest เขียน:
ชีวิตวัยเรียนสำหรับการออมเงินจาก 2 แหล่งนี้ก็เป็นไปอย่างต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี ในระหว่างที่อยู่ชั้นปี 3-4 มีโอกาสได้เป็น TA ช่วยอาจารย์ตรวจการบ้าน/ข้อสอบ/ทำแลป ก็มีช่องทางเก็บเงินแหล่งที่ 3 มาด้วย จริงๆอยากทำตั้งแต่อยู่ปี 2 เทอม2 แต่เขาไม่ให้เป็น (ลืมเรื่องการทำมาค้าขายไปเสียหมดสิ้น...ไฟฝันของการเป็นพ่อค้าก็หมดด้วย :oops:) ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าอยากขายอะไร ในเมื่อตอนนี้ความสนใจหลักอยู่ที่การลงทุนในหุ้นซะแล้ว :lol:
หลายท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวมาถึงตอนนี้  อาจคิดว่าผมมีการเก็บออมที่
เป็นระบบ มีการบันทึกรับจ่ายเป็นประจำ  แต่จริงๆแล้วต้องบอกว่า ผมมาเริ่มทำบันทึกรับจ่ายก็ตอนเรียน ปี4 อ่ะครับ  :oops:   เพราะความขี้เกียจนั่นเอง
ครับที่ทำให้ตอบได้ลำบากว่าช่วงวัยเด็กหัวเกรียนไปจนวัยรุ่นหัวรองทรงต่ำ/สกินเฮด (:twisted: ท้าทายครู รร. และครูฝึก รด.) เก็บออมเงินกี่ % ของค่าขนมกันแน่  แต่ถ้าให้ประเมินจากเงินเก็บที่เพิ่มขึ้นมาใน 1 ปี แล้วเฉลี่ยออกเป็นรายสัปดาห์ (คุณพ่อผมไม่เคยให้ค่าขนมผมเป็นรายเดือน ให้แต่เป็นรายวันช่วงประถม และให้เป็นรายสัปดาห์ช่วงมัธยมจนจบมหาวิทยาลัย) น่าจะอยู่ระหว่าง 48-69 % ของค่าขนมรายสัปดาห์ที่คุณพ่อให้มา  อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะมีความสุขจากการเก็บออม โดยที่ไม่รู้สึกอัดอั้นจากการไม่ใช้เงินซื้อสุขขาจร (มีกิจกรรมหลายอย่างที่ไม่ต้องใช้เงิน ประหนึ่งคนติดคุกที่ขอแค่ได้เขียนไดอารี่/แต่งเพลงในยามเช้า และ
เฝ้าดูดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน  มากกว่า แค่เฝ้ารอผู้คุมมาเปิดประตูกรงขังพาออกไปทำกิจกรรมตามกำหนดเวลา)   ผมก็เคยทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัยในช่วงเรียนปี 1-2 ที่ผมกลับเอาเงินออมยัดเน่าคาลิ้นชักเป็นเวลา 1 ปีกว่าๆแทนที่จะเอาไปฝากธนาคารหรือซื้อพันธบัตร/กองทุนตราสารหนี้ (ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักอีกต่างหาก) เพียงเพราะไม่พอใจอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารให้  กอปรกับยังจมปลักผิดหวังกับผลสอบ Ent ในอดีต ปล่อยให้วันๆผ่านไปอย่างไร้จุดหมาย  ในแง่การจัดเก็บเงินเสี่ยงต่อการสูญหายมาก และเงินไม่ได้ทำงานอีกด้วย :evil:   แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ได้ประชดชีวิตด้วยการผลาญเงิน (ยังออมเป็นความเคยชิน)  และ ไม่คิดปลิดชีพตัวเอง (ยังเชื่อว่า ต้องมีสักวัน
ที่เป็นของเรา ในมหาลัยอีกตั้ง 3 ปี)  :lol:  

ชีวิต 3 ปีที่เหลือในมหาลัยตอนนั้น มีสถานที่ที่ผมไปอยู่ 2 แห่งเป็นประจำคือ
ห้องอ่านหนังสือ และสนามบาส  ในช่วงเวลานั้น ความสุขหลักๆในชีวิตผม
ขึ้นกับการเรียนให้ได้ตามเป้าหมาย การยอมรับจากเพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์   การ
ฟื้นฟูคุณค่าและความเชื่อมั่นในตัวเองให้กลับคืนมาดังเดิม   ส่วนเรื่องเงินทองนั้นผมลืมไปเกือบสนิทเลย ได้ทุนการศึกษาเกือบทุกปี  จนรู้สึกเฉยๆ
ไม่ได้ปลาบปลื้มอะไรมากเหมือนปีแรกๆ ก็เลยเหมือนเป็นผลพอลยได้จาก
การเรียนให้ได้ตามเป้า + การออมจนเป็นความเคยชิน  :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
DeepTVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 442
ผู้ติดตาม: 1

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

[quote="pornchai_w"]เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท

คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

[quote="DeepDown"][quote="pornchai_w"]เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท

คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

[quote="DeepDown"][quote="pornchai_w"]เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท

คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ฉะนั้นแล้วการออมจากค่าขนมในช่วงมหาลัย จึงย่อหย่อนลง เป็นออมเงินหลัง
ใช้จ่ายเป็นเสียส่วนใหญ่ ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน + ตำราเรียน + กิจกรรมในภาควิชา :lol:  ทำให้อัตราการออมช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 40 %
จากที่เล่าให้ฟังว่า เวลาส่วนใหญ่ที่นอกเหนือจากห้องเรียน จะอยู่ที่ห้องสมุดกับสนามบาส ในขณะที่เพื่อนๆจะนัดกันไปดื่มดิ้นกินเที่ยวช่วงค่ำ หรือไม่ก็ไป
เดินห้างกัน (ซึ่งผมเองก็ไม่รู้จะไปเอาอะไรจากที่แห่งนั้น ไม่ได้อยากซื้ออะไร ไปแล้วไม่รู้จะคุยอะไรกัน คงได้แต่นั่งฟังเรื่องโจ๊กที่แต่งแต้มขึ้นจากจินตนาการหลังเมาได้ที่)  ผมจึงมี บาสเกตบอลเป็นเพื่อน หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งมานานจากการนั่งทบทวนบทเรียน ทำโจทย์แบบฝึกหัดเป็นเวลานานๆ  

การเล่นบาสเกตบอลส่วนใหญ่ผมจะเล่นในช่วงพักกลางวัน หรือไม่ก็ช่วงคาบว่าง  หากไม่เจอใคร ก็จะชู้ตเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งรู้สึกว่า ร่างกาย
เริ่มปรับตัวได้  จึงเริ่มตั้งเป้าหมายเรื่อง จำนวนลูกที่ต้องชู้ตลงในแต่ละตำแหน่งยืน ตั้งแต่ตำแหน่ง หัวกระโหลก ไปจน ตำแหน่งที่ต้องชู้ตข้ามหลังแป้นไปลงห่วงอีกที  แต่ตำแหน่งที่ผมจะเน้นเป็นพิเศษคือ 3 แต้ม ที่จะคาดหวังอย่างต่ำ 6 ใน 10 ลูก หรือไม่ก็ 4 ลูกติดกัน   หากยังทำไม่ได้ก็จะชู้ตไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ตามเป้าหรือไม่ก็ถึงเวลาเรียน และหมดแรงกันไปข้างนึง  :lol:  ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็คาดหวังกับหลายๆเรื่องแบบนี้ รวมถึงการออมในช่วงที่เรียนจบใหม่ๆที่ตั้งเป้าเป็นจำนวนเงินออมที่ชัดเจน  สำหรับผมแล้วมันให้ความสุขในรูปของ ความมันส์สะใจที่ผมหาทดแทนจากอย่างอื่นไม่ได้...เช่นเดียวกับการชู้ตบาสแล้ว เราได้ score มากขึ้นเรื่อยๆๆ...เกรดเทอมนี้ทำให้เกรดเฉลี่ยรวมกระฉูดขึ้นกี่ % (โตเร็วทำลายสถิติรุ่นพี่ตัวเต็งปีก่อนๆ กี่ %)...การกล้าแสดงความคิด/เหตุผลที่เห็นแตกต่างจากอาจารย์ในชั้นเรียนเพื่อหวังต่อยอดความรู้ คนรอบข้างยอมรับ/มองเป็นตัวประหลาดมากเพียงใด  :rofl:   สำหรับผมในตอนนั้นยอมรับว่า ถึงจะได้ความมันส์สะใจสมความตั้งใจ แต่ก็จะโกรธทุกครั้งที่ถูกมองเป็นตัวประหลาด เพราะคาดหวังการยอมรับมากเกินไป   มาถึงวันนี้ผมพร้อมที่จะรับผลสองด้านของทุกๆเรื่อง...และหันมายินดีกับตัวเองเป็นหลักที่ feedback มาแล้วโว้ยยย.....กูจะได้รู้ซะทีว่าที่ทำมีอะไรต้องปรับให้มันดีขึ้นบ้าง  มีโอกาสที่จะสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงมากแค่ไหนในเวลาที่เหลืออยู่   :D
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

และแล้วเรื่องของเงินทองก็กลับมาเป็นที่ 1 ในใจผมอีกครั้ง ตอนฝึกงานภาคฤดูร้อน ก่อนขึ้นปี 4 ซึ่งพบว่า ตัวเองไม่ได้มีความสนใจองค์ความรู้ที่ร่ำเรียนมาเลย การเรียนที่ผ่านมาเป็นไปเพื่อผลพลอยได้อย่างที่เล่าให้ฟัง
มาตั้งแต่เด็ก
ฉะนั้นความสนใจของผมตอนนั้นจึงเด่นชัดว่า คงเป็นเรื่องหาเงินมาและใช้เงินทำงานอย่างหนัก เรื่องอื่นๆผมไม่อยากทำจริงๆ  ซึ่งเป็น
ช่วงเวลาที่ผมได้เริ่มอ่านหนังสือตีแตก ของ ดร. นิเวศน์   และการออมเงิน
ในช่วงนี้เป็นไปแบบตึงสุดขีด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การออมของผมทุกสัปดาห์ขั้นต่ำต้อง 50 % ขึ้นไปเท่านั้น และเริ่มมีการย้ายเงินออมไปฝากประจำ ซื้อกองทุนรวม  จนกระทั่งวันที่ผมเรียนจบแล้ว แต่ยังว่างงาน อาจารย์ที่ภาคขอ
ร้องให้อยู่ช่วยสอนนักเรียนแลกเปลี่ยน, นักศึกษารุ่นน้องทำแลป  โดยให้เงินเดือน 7,630 บาทกับการมาทำงาน จ.-ศ. เวลาราชการเป๊ะ  ไม่มีสวัสดิการใดๆเพิ่มเติมให้ เพราะไม่ได้บรรจุเป็นลูกจ้างมหาลัย  ตอนนั้นยังขับรถเดินทางมาทำงานระยะทางค่อนข้างไกลจากบ้าน และรถติดเหลือทน  ทำให้เดือนแรก
ที่อยู่ช่วยยังปรับตัวไม่ได้  ออมได้เพียง 1,000 บาท  แต่พอ 2 เดือนสุดท้ายที่อยู่ช่วย ปรับตัวได้แล้ว ก็กลับมาออมได้ 50 % ขึ้นไปทั้ง 2 เดือน ทั้งที่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน/ค่าแก๊สรถแล้ว  ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่าเงินหายากที่สุดในชีวิตจริงๆ  :cry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

[quote="Voldtrest"]และแล้วเรื่องของเงินทองก็กลับมาเป็นที่ 1 ในใจผมอีกครั้ง ตอนฝึกงานภาคฤดูร้อน ก่อนขึ้นปี 4 ซึ่งพบว่า ตัวเองไม่ได้มีความสนใจองค์ความรู้ที่ร่ำเรียนมาเลย การเรียนที่ผ่านมาเป็นไปเพื่อผลพลอยได้อย่างที่เล่าให้ฟัง
มาตั้งแต่เด็ก
ฉะนั้นความสนใจของผมตอนนั้นจึงเด่นชัดว่า คงเป็นเรื่องหาเงินมาและใช้เงินทำงานอย่างหนัก เรื่องอื่นๆผมไม่อยากทำจริงๆ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
DeepTVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 442
ผู้ติดตาม: 1

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

picklife เขียน:ยกตัวอย่าง
1.โทรศัพท์มีเพื่อโทร เครื่องหลักหมื่นกับหลักพันโทรต่างกันไหม?
2.ข้าวมีไว้กินประทังชีวิต มื้อละหลักสิบกับมื้อละหลักร้อยต่างกันไหม?
3.เดินทางเพื่อไปจุดหมาย นังรถเมย์ขับรถไปเองถึงที่หมายเหมือนกันไหม?
4.รองเท้าเพื่อไม่ให้เท้าสกปรกกับเป็นแผล คู่ละร้อยกับพันต่างกันไหม?
5.เสื้อ กางเกง และอื่นๆ
1.โทรศัพท์มีเพื่อโทร เครื่องหลักหมื่นกับหลักพันโทรต่างกันไหม?
บางคนซื้อหลักพัน แต่ซื้อทุก 3เดือน 6เดือนก็มากเกินความจำเป็น

2.ข้าวมีไว้กินประทังชีวิต มื้อละหลักสิบกับมื้อละหลักร้อยต่างกันไหม?
นานๆที่กินมื้อละร้อย สองร้อยเพื่อให้รางวัลกับชีวิตก็ดีนะครับ

3.เดินทางเพื่อไปจุดหมาย นังรถเมย์ขับรถไปเองถึงที่หมายเหมือนกันไหม?
อาจเหมือนกันแต่ต่างที่เวลานะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

DeepDown เขียน: 1.โทรศัพท์มีเพื่อโทร เครื่องหลักหมื่นกับหลักพันโทรต่างกันไหม?
บางคนซื้อหลักพัน แต่ซื้อทุก 3เดือน 6เดือนก็มากเกินความจำเป็น
555+ฮา

2.ข้าวมีไว้กินประทังชีวิต มื้อละหลักสิบกับมื้อละหลักร้อยต่างกันไหม?
นานๆที่กินมื้อละร้อย สองร้อยเพื่อให้รางวัลกับชีวิตก็ดีนะครับ
โดยเฉพะเวลาไปกะสาวใช่ไหมครับ555+

3.เดินทางเพื่อไปจุดหมาย นังรถเมย์ขับรถไปเองถึงที่หมายเหมือนกันไหม?
อาจเหมือนกันแต่ต่างที่เวลานะครับ
ที่จริงสื่อถือรถตู้ด้วยครับนั่งสบายนั่งๆหลับๆได้เลย แล้วก้เสื้อถึงรถไฟฟ้า..แต่เอ...ช่วงนี้อาจมีโอกาศค้างเติ่งอยู๋ที่ใดที่หนึ่งได้นะครับ555+
ต่อให้ครับ อิอิ
4.รองเท้าเพื่อไม่ให้เท้าสกปรกกับเป็นแผล คู่ละร้อยกับพันต่างกันไหม?
ต่างครับ...Breaker สั่งได้ดั่งใจ
5.เสื้อ กางเกง และอื่นๆ
ช่วงนี้ยี่ห้อไม่เกี่ยงวัดกันที่สีครับ อิอิ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
โพสต์โพสต์