ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 31

โพสต์

วันนี้หุ้นขึ้นแรงแต่พอร์ตผมบวกน้อยกว่ามาก
ผมล่ะอยากให้ราคาหุ้นตกลงไปเยอะๆจัง จะได้เก็บเพิ่มได้ (ทั้งๆที่ตอนนี้ถือเกือบ 100% อยู่แล้ว) พอดีโบนัสกำลังจะออกจะได้เอามาซื้อหุ้นดีๆ ราคาถูก ไม่รู้ว่าก่อนวันพิพากษายึดทรัพย์จะมี panic sell หรือไม่ ถ้ามีผมจะได้เก็บของถูก เพราะดูแล้วธุรกิจเรามีแต่ยอดขายโต กำไรเพิ่ม ปัญหาการเมืองตอนนี้ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับหุ้นเราเลยสักนิด
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 1

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 32

โพสต์

เคยคิดจะล้างหลายครั้งแต่ล้างไม่ลงสักครั้งเดียว

แต่คิดแล้วว่าคงมีสักเหตุการณ์ที่อาจจะล้างพอร์ตแต่ยังไม่เกิดขึ้น

ผมว่า ถ้าเราดูลมเป็นและแม่นยำ ซึ่งเป็นความสามารถส่วนตัว ผมคงล้างหรือลดพอร์ต

เพียงแต่ว่ายังไม่เคยเห็นคนที่แม่นลม แม่นฟ้า ทำถูกเกิน 70 % เลยครับ
ถ้าถูกเกิน 70 %

ผมว่าน่าสนใจ  :D
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ยองจรา
Verified User
โพสต์: 10
ผู้ติดตาม: 0

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 33

โพสต์

วันนี้เริ่มคิดถึงการลดพอร์ตบ้างแล้ว
เพราะหากเป็นภาวะปกติ หุ้นขึ้นๆลงๆ ก็ไม่เป็นไร VI ทนได้

แต่หากไม่มั่นใจ สงสัยว่าอาจเป็นขาลงรอบใหญ่ ก็จะตัดสินใจ
ทยอยลดพอร์ตวันละ 10%

ผมว่ารอบนี้ หากเป็นแบบรอบน้องๆซับไพร์ม
จะตั้งเป้าลดอย่างน้อยครึ่งนึงของพอร์ต

:lol:
haruti
Verified User
โพสต์: 769
ผู้ติดตาม: 0

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 34

โพสต์

:lol: เห็น 1 ตัวdtac กำไรแล้วคงหายกลุ้ม ร่าเริงร่าเริง อิอิอิ :wink:
nemsdaddy
Verified User
โพสต์: 108
ผู้ติดตาม: 0

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ผมเห็นด้วยกับหลายท่านในที่นี้ว่า การลดพอร์ตควรทำตอนที่หุ้นพุ่งขึ้นไปมาก ๆ และนักวิเคราะห์หลายค่ายออกมาคาดการณ์ว่าดัชนีจะขึ้นไปถึงระดับนั้น ระดับโน้น ใคร ๆ ก็อยากซื้อหุ้นเพิ่ม เมื่อนั้นแหละเป็นจังหวะล้างพอร์ตใช้หนี้มาร์จิ้นและถือเงินสดไว้กินดอกเบี้ยถูก ๆ ไปก่อนเพื่อรอโอกาสอย่างสบายใจ จังหวะแบบนี้ขายออกไปจะมีคนรับซื้อไว้ตลอด เราขายแล้วใครซื้อน่ะหรือครับ ก็มวลชนคนที่จะติดดอยในอีกไม่ช้าไม่นานนั่นไงครับ ผมจำได้แม่นเลยครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งหลังปฏิวัติ 19 กันยา 49 ดร.ศุภวุฒิสายเชื้อออกมาพูดว่าหุ้นจะไป 800-900 จุด บรรยากาศน่าลงทุนไปหมด ไม่นานหุ้นก็เริ่มตกลงและมาตกมาก ๆ ตอนหม่อมอุ๋ยเข็นมาตราการสกัดกั้นทุนนอกไม่ให้บาทแข็งเกินไปออกมาใช้

แล้วตอนไหนที่จะซื้อล่ะครับ ก็ตอนหุ้นตกมาก ๆ อย่างตอนนี้ไงครับ ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ เพราะยังไงก็จะมีคนทนไม่ไหวที่หุ้นตกแล้วไม่ไปไหนเสียทีทยอยล้างพอร์ตออกมาให้เราดักซื้อถูก ๆ ได้เรื่อย ๆ ตอนนี้ใช้เงินสดที่รออยู่นั่นแหละครับเอาออกมาซื้อ จนกระทั่งสัญญาณด้านบวกเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ คนจะขายน้อยลง ตอนนี้หุ้นจะเริ่มไต่ขึ้น ขณะไต่ไปนี้เราก็ทยอยเก็บต่อด้วยเงินกู้มาร์จิ้นครับ เงินกู้มามีดอก ดังนั้นต้องเอามาใช้เฉพาะตอนห้นวิ่งขึ้นไปครับ ไม่งั้นดอกกินหมด พอเราซื้อมาแล้วหุ้นวิ่งขึ้น เงินที่สามารถกู้ได้ก็จะเพิ่มเป็นเงาตามตัว ทำไปเรื่อย ๆ จนข่าวดีล้นตลาด มีคนมาบอกอีกว่าหุ้นจะขึ้นไปถึงตรงโน้น ตรงนั้นอีก เราก็ทยอยขายใช้หนี้มาร์จิ้น ทำแบบนี้เป็นรอบ ๆไปครับ

สำหรับคำถามที่ว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าหุ้นตกลงมามากแล้วหรือยัง คำตอบคือดูที่หลักฐานการ over sold ในกราฟทางเทคนิค แบบว่าพวก RSI , SKD ตกลงมาแกร่วอยู่ด้านล่าง สลับขึ้นบนเป็นระยะแต่จะย้ำบริเวณด้านล่างถี่ ๆ นั่นแหละคือย่ำอยู่ในกรอบ over sold ถ้ามองดูกราฟในช่วงนี้จะพบว่า ดัชนีอยู่ต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันค่อนข้างมาก ตราบใดที่ดัชนียังอยู่ใต้เส้น 200 dy MA มาก ๆ ถึงจะดีดขึ้นก็จะไม่มีแรงพอที่จะเลยขึ้นไปได้ จนกว่าดัชนีจะเคลื่อนไปใกล้เส้น 200 day MA แล้วเท่านั้นจึงจะมีแรงพอกระโดดพ้นขึ้นไปได้ครับ

ดังนั้นการเป็น VI แบบไม่ดูจังหวะเลยจะพบด้วยตัวเองว่าตอนหุ้นตกมาก ๆ ราคาต่ำกว่ามูลค่ามาก ๆ เราจะไม่มีเงินสดไว้ซื้อหุ้นเพิ่มเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมักเตา
Verified User
โพสต์: 232
ผู้ติดตาม: 0

ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้

โพสต์ที่ 36

โพสต์

nemsdaddy เขียน:...

สำหรับคำถามที่ว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าหุ้นตกลงมามากแล้วหรือยัง คำตอบคือดูที่หลักฐานการ over sold ในกราฟทางเทคนิค แบบว่าพวก RSI , SKD ตกลงมาแกร่วอยู่ด้านล่าง สลับขึ้นบนเป็นระยะแต่จะย้ำบริเวณด้านล่างถี่ ๆ นั่นแหละคือย่ำอยู่ในกรอบ over sold ถ้ามองดูกราฟในช่วงนี้จะพบว่า ดัชนีอยู่ต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันค่อนข้างมาก ตราบใดที่ดัชนียังอยู่ใต้เส้น 200 dy MA มาก ๆ ถึงจะดีดขึ้นก็จะไม่มีแรงพอที่จะเลยขึ้นไปได้ จนกว่าดัชนีจะเคลื่อนไปใกล้เส้น 200 day MA แล้วเท่านั้นจึงจะมีแรงพอกระโดดพ้นขึ้นไปได้ครับ

ดังนั้นการเป็น VI แบบไม่ดูจังหวะเลยจะพบด้วยตัวเองว่าตอนหุ้นตกมาก ๆ ราคาต่ำกว่ามูลค่ามาก ๆ เราจะไม่มีเงินสดไว้ซื้อหุ้นเพิ่มเลยครับ
ขอบคุณสำหรับวิทยาทานครับ ผมเองเคยพยายามลองศึกษาด้านเทคนิค แต่พบว่ายากเกินความรู้ความเข้าใจของตัว จริตคงไม่ค่อยตรงกับด้านนี้สักเท่าไร

ตอนนี้ยังรู้สึกว่าด้านวิเคราะห์พื้นฐานก็ยังไม่แน่นพอ เดี๋ยวรอไว้วันหน้าถ้าพื้นฐานแน่นปึ้กอาจจะไปขอลองอีกสักทีครับ ระหว่างนี้คงได้แค่เดาโมเดลธุรกิจและเดางบไปพลางๆ ก่อน