รบกวนปรึกษาครับ คือแบบว่า จะซื้อ-ไม่ซื้อดี

[pippoman]

ผมเปิดบัญชีแล้วครับ

จะเริ่มต้นด้วยเงินออมของผมเอง 100k 1/3ของเงินออมทั้งหมด

แต่ผมยึกยักๆ จะซื้อก็ไม่กล้า-ไม่ซื้อก็กลัวเสียโอกาส EGCO, SGP, PM, WG, PTL, DEMCO

ไม่รู้จะทำไงดีครับ มีคำแนะนำไหมครับ

อีกคำถามครับ ถ้าผมมีเงินออมเดือนล่ะ 5,000.-

ผมนำมาซื้อหุ้นที่ผมอยากได้เก็บไว้ทุกเดือนเลยดีไหมครับ

[boyktb]

เข้าใจธุรกิจไหนบ้างครับ
egco น่าจะเหมาะกับมือใหม่
ที่ต้องการเวลาทำความเข้าใจหุ้น

ส่วนตัวแนะนำหุ้นพื้นฐานดีๆ อย่าง
Ratch TPC  TTW จริงๆมีอีกมาก
ถามได้จะเเวะมาตอบให้
แต่ห้ามเป็นหุ้นเก็งกำไร ผมจะไม่ตอบ

[pippoman]

ผมพอเข้าใจธุรกิจแบบงูๆปลาๆ ตามความเข้าใจผมนะครับ

SGP Lpg มีแนวโน้มเติบโตได้อีกครับ Mkshare รอง PTT - PE/PB ต่ำอยู่ครับ
PM ปลาสวรรค์ทาโร่ คนเริ่มสนใจสุขภาพ แต่เลี่ยงของขบเคี้ยวยังไม่ได้ ทาโร่ตัวเลือกอันดับ1ในตลาด PE/PB ต่ำครับ
WG เคมีภัณฑ์เฉพาะอย่างจำเป็นในธุระกิจต่างๆ กำไรเติบโตช้าปันผลสม่ำเสมอ ดูงบแล้วเป็นตัวเลือกที่ผมสนใจมากๆครับ
PTL พลาสติกส่งขายทั่วโลก มีความจำเป็นต้องใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
DEMCO ระบบไฟฟ้า-โทรคมนาคม-เคเบิ้ลใยแก้ว เฉพาะทางที่มีแนวโน้มหลายธุรกิจต้องนำไปใช้ครับ

ผมไม่กล้าซื้อจนราคามันขึ้นกันไปเรื่อยแล้ว ลังเลมากๆครับ จะเข้าซื้อก็กลัวมันลง
ก่อนเปิดบัญชีศึกษาจาก Thaivi + หนังสือมาอ่าน กะว่าซื้อตัวนี้ไว้รุ่งแน่
พอถึงเวลาจริงๆก็ไม่กล้าซื้อ คงต้องโทษตัวเองต่อไป
ผมกะว่า2-3วันนี้จะลองเข้าซื้อ 10-20% ดูก่อนครับ (ทำใจมานานเกินไป)

[Diablo]

ขอตอบคำถามล่างที่ว่าออมเงินลงทุนเพิ่ม
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
น้อยๆ เก็บๆไปก็เป็นก้อนได้ครับ
ผมเองเพิ่มทุกเดือน แต่ละเดือนได้น้อยกว่า 5000 บาทอีกครับ
แต่จะไม่หยุดแน่นอน  :D

[chavanakorn]

ก่อนอื่นต้องถามก่อนครับว่า คุณอยากเป็นนักลงทุน VI แบบไหน ซึ่งก็มีลักษณะใหญ่ๆอยู่ 2 แบบครับ คือ
1. แบบซื้อหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน
2. แบบซื้ออัตราการเติบโตในอนาคต

     ถ้าคุณตอบแบบแรกคุณก็ต้องประมาณ PE เหมาะสมในปัจจุบัน และ ประมาณมูลค่าพื้นฐานของกิจการก่อนครับ ถ้าต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานโดยมีอัตราผลตอบแทนที่น่าพอใจก็จะสามารถเข้าซื้อลงทุนได้ครับ
     ถ้าคุณตอบแบบที่สองอันนี้มีหลายอย่างที่คุณจะต้องวิเคราะห์ต่อครับ ซึ่งอย่างหลักก็มีประมาณนี้ครับ
1. ปัจจัยที่จะทำให้บริษัทมีกำไรเงินสดที่เติบโตขึ้นในอนาคตมีอะไรบ้าง และ ปัจจัยดังกล่าวกำลังเกิดกับกิจการ หรือไม่?
2. ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กำไรเงินสดของกิจการลดลงในอนาคตมีอะไรบ้าง และความน่าจะเป็นที่มันจะเกิดขึ้นมีมากน้อยแค่ไหนในระยะเวลาที่เราประมาณการณ์ครับ?
เมื่อเราได้ปัจจัยต่างๆมาแล้ว คุณก็ทำการประมาณกำไรเงินสดในอนาคต ดูความเสี่ยงด้านการเงิน พวก หนี้สินต่อทุน กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เพียงพอต่อการขยายงานในอนาคต อัตราส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประเมินบริษัท (จุดนี้ก็สำคัญครับเพราะบางที่กิจการมีกำไรเติบโตตามที่เราประเมินแต่เค้าจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนทำให้กำไรเงินสดต่อหุ้นของเราลดลงครับ) และทำการประเมินราคาหุ้นในอนาคตครับ และทำการ Discount ตามอัตราผลตอบแทนที่เราต้องการ เพื่อหาราคาเหมาะสมที่เราจะซื้อครับ เมื่อเราทำตามแบบนี้แล้วเราถึงมาดูราคาหุ้นในตลาดครับ
     ลองทำดูก่อนนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าบริษัทที่คุณสนใจมีความน่าลงทุนแค่ไหนครับ โชคดีนะครับ

[Magneto]

...แต่ผมยึกยักๆ จะซื้อก็ไม่กล้า-ไม่ซื้อก็กลัวเสียโอกาส...

แบบนี้ถ้าไม่มั่นใจแล้วไปรีบซื้อจะเสียหายได้นะครับ
บางคนบอกว่าอย่ากลัวตกรถ หุ้นมันมีขึ้นก็มีลง (SET 800 จุดเหลือ 400 จุดก็เกิดขึ้นแล้ว)
หุ้นต่อให้วิเศษขนาดไหน แต่ถ้าซื้อแพงแล้วมันจะได้อะไรล่ะครับ ดังนั้นต้องซื้อหุ้นดีในราคาถูก
ถ้าถามว่าหุ้นดีๆ จะถูกได้ยังไง คนซื้อจนแพงหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ รอจังหวะดีๆ จะมีให้เราได้ซื้อบ้าง คนดังๆ ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าต้องซื้อๆ หุ้นกันเป็นประจำ บางคนปีนึงซื้อแค่ครั้งสองครั้งเอง
ที่ว่ารอจังหวะ เช่น หุ้นดีแต่ดันมีบางครั้งเป็น Low Season หรือเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คน Panic ซึ่ง VI คงจะต้องรีบประมวลผลทันทีในสมอง ว่านั่นเป็นเหตุการณ์ถาวรหรือเป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าชั่วคราวก็แสดงว่าเป็นโอกาสซื้อ ฯลฯ
ตั้งหลักดีๆ ครับ อย่ารีบจนหกล้ม

...อย่าเชื่อผมมาก บางทีผมก็เป็น VI กลายพันธุ์...  :D

[pippoman]

ผมอยากตอบคุณพี่ chavanakorn อยากเป็นทั้ง2อย่างครับ แต่อย่างล่ะครึ่งครับ
แต่พออ่านความเห็นทั้งหมด ก็คงต้องหาหนังสืออ่าเพิ่มเติม
ควรอ่านเล่นไหนดีครับ ?
เท่าที่อ่านตอนนี้ก็มี ตีแตก ยุืทธ์ศาสตร์หุ้นห่านทองคำ คัมภีร์หุ้น แล้วก็ thaivi.com

ขอบคุณ คุณ Magneto ที่ให้แง่คิดในการซื้อครับ
เราคงไม่จำเป็นต้องไล่ตามราคาทุกวัน หาโอกาสดีดีแล้วค่อยเข้า
แต่มือใหม่แบบผมยังดูโอกาสไม่ค่อยออกเท่านั้นเอง

เปิดบัญชีซื้อขายไว้ แล้วไม่ซื้อ-ขายนานๆ จะมีปัญหาอะไรไหมครับ

[Magneto]

เท่าที่ฟังดู น่าจะต้องเสริมอย่างน้อย 3 อย่างนะครับ

1.ความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์กิจการ เพื่อประเมินมูลค่า ถ้าประเมินมูลค่าไม่ได้ ก็บอกไม่ได้ว่าหุ้นตอนนี้ถูกหรือแพง ควรซื้อหรือควรขาย อันนี้ต้องศึกษากันหลายอย่างครับ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่น การตลาด บัญชี การบริหาร การวิเคราะห์กลยุทธ์ ฯลฯ ศึกษาให้รู้รอบเพื่อเข้าใจโลกธุรกิจ แนะนำให้ไปอ่านหนังสือ "ร้านไหนกำไรมากกว่า" ของสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ด้วยนะครับ หาได้ที่ร้าน SE-ED มันจะทำให้เข้าใจบัญชีมากขึ้น และไม่ตกเป็นทาสของข้อมูลทางบัญชีในอดีต อ่านให้เหมือนจะเป็นผู้บริหารธุรกิจเอง อย่าอ่านเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนเท่านั้น

2.ความเข้าใจในทิศทางตลาด อันนี้ต้องดูตลาดบ่อยๆ ดูว่าเวลามีข่าวคราวอะไร ช่วงเวลาไหน (เช่น จะประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาส รายปี ฤดูร้อน ฤดูฝน ฯลฯ) ตลาดตอบสนองยังไง เพราะหุ้นอาจได้รับผลกระทบจากตลาดด้วย (แม้ว่ามากน้อยไม่เท่ากันก็ตาม)

3.ความเข้าใจนิสัยของหุ้นตัวที่สนใจ เช่น บางคนอาจจะชอบ EGCO แต่บางคนอาจจะบอกว่าหลังๆ ตลาดขึ้นเค้าไม่ขึ้น ตลาดลงเค้าลงด้วย บางคนก็บอกว่าน้ำมันยังขายไม่ออก พลังงานทดแทนจะเป็นยังไง บางคนก็ว่าต้องมองไกลๆ แต่จะไกลแค่ไหนล่ะ ซื้อแล้วรอ 3 ปีไหวไหม วันนี้ว่าไหว พอเห็นหุ้นตัวอื่นขึ้น เราไม่ขึ้น ความโลภมาเยือน เดี๋ยวก็ได้ขายถูกๆ เป็นต้น

ความรู้และประสบการณ์ต้องใช้เวลา แต่พอจะเร่งรัดกันได้บางส่วนก็ด้วยการหาข้อมูลย้อนหลัง เช่น อ่านบอร์ด VI และอื่นๆ ข่าวสาร ฯลฯ เพื่อให้รู้สิ่งที่เคยเกิดขึ้น (แต่อย่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนั้นเสมอไป)

วิธีการอาจไม่เหมือนกันทุกคนนะครับ ขอให้โชคดี  


สำหรับเรื่องไม่ได้ซื้อขายนานๆ จะเป็นไรไหม ถ้านานมากๆๆๆ เค้าขี้เกี่ยจจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์เราเค้าก็อาจจะขอให้เราปิด แต่ผมก็เคยไม่ซื้อขายนานๆ ก็ไม่เห็นปิด เค้าอยากให้เราซื้อๆ ขายๆ เพราะเค้าจะได้ค่านายหน้า แต่จริงๆ ก็แย่งลูกค้ากัน ไม่ปิดง่ายๆ หรอก เรื่องแบบนี้คุยกันได้น่ะครับ ถ้าปิดจริงเปิดใหม่ก็ได้ Broker เพียบ

[chavanakorn]

ถ้าพอมีเวลาผมอยากให้ลองศึกษา Marketing Management ของ kotler ครับจะได้มุมมองทางการตลาดที่กว้างมากขึ้นครับ ส่วนเรื่องวิธีการลงทุนแบบ VI ผมชอบหนังสือของ Peter lynch มากครับลองอ่านทั้งสองเล่มที่เค้าแปลไว้นะครับ และจะได้มุมมองทางการลงทุนเพิ่มมากเลยครับ ลองดูนะครับ ถ้าเราจะซื้อกิจการใดๆสักกิจการเราก็สมควรที่จะมั่นใจในอนาคตของเค้าอย่างน้อยก็ควรเกิน 70% และหาโอกาสซื้อในราคาที่เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อว่าโอกาสมีให้เราเสมอ ขอเพียงเรามีเงินทุนที่พร้อมจะฉกฉวยโอกาสนั้นครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ