ถ้าไทยโดนมูดี้ส์ลดอันดับเครดิตลง จะส่งผลกระทบต่ออะไรบ้างครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
firewalker
Verified User
โพสต์: 547
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าไทยโดนมูดี้ส์ลดอันดับเครดิตลง จะส่งผลกระทบต่ออะไรบ้างครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จากข่าวล่างนี้ ถ้าออกมาในช่วงหุ้นขาลง คิดว่าหุ้นคงร่วงกันกระจายแน่ครับ
แต่ที่อยากถามความคิดเห็น คือ ถ้าเราโดนมูดีส์ลดอันดับเครดิตลงจริงๆแล้ว มันจะส่งผลกระทบอะไรต่อเศรษฐกิจไทยทั้งในและต่างประเทศบ้างครับ

ผมอ่านมุมมองของโบรคแล้วดูไม่ค่อยน่าเชื่อถืออะครับ
ความเห็นของแบงค์ชาติก็เป็นมุมมองกับภาวะปัจจุบันมากกว่า ไม่ได้มองถึงอนาคตเท่าไหร่

 มูดี้ส์จ้องถล่มแบงก์ไทย

         มูดี้ส์แจกข่าวร้าย ประกาศเล็งหั่นอันดับเครดิต 11 แบงก์ไทย หลังวิกฤตการเงินโลกอาจกระทบความช่วยเหลือภาคธนาคารจากรัฐบาล ขณะที่ ธปท. ออกโรงแจงยันฐานะการเงินแบงก์แกร่ง กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงพุ่งเกือบ 15% ส่วนนายแบงก์ฟุ้งไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไร้กังวล หลังสภาพคล่องทั้งระบบยังเหลือเฟือ ฟากราคาหุ้นแบงก์บนกระดานบวกสวนทางได้เกือบยกก๊วน กูรูชี้อย่าตื่นตูม ไม่มีผลต่อการลงทุน ยังแนะนำ NEUTRAL


         ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่คึกคักของตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 พ.ค.52) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ กลับประกาศเตรียมทบทวนความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 11 แห่งของไทย โดยให้เหตุผลหลักว่าความช่วยเหลือภาคธนาคารของรัฐบาลไทยกำลังลดลงจากการก่อหนี้สาธารณะเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบวิกฤตการเงินโลกและวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งมูดี้ส์ระบุว่า วิกฤตการเงินโลกที่ยังไม่สิ้นสุด ได้ทำให้ความสามารถของรัฐบาลและธนาคารกลางของไทยที่จะช่วยเหลือภาคการเงินลดลง ขณะที่ภาระหนี้สินของรัฐบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
         ทั้งนี้ มูดี้ส์ประเมินว่า ภาคการเงินของไทยได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างสูง ดังจะเห็นได้จากอดีตที่ผ่านมา แม้ภาระหนี้รัฐบาลไทยจะมีสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าจีดีพี แต่มูลค่าสินทรัพย์ของภาคธนาคารของไทย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 90% ของจีดีพีทำให้รัฐบาลเผชิญความยากลำบากในกรณีที่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือภาคสถาบันการเงินประกอบกับภาคการเงินของไทยพึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศในสัดส่วนที่ต่ำ
         โดยธนาคารทั้ง 11 แห่งดังกล่าว ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIMT, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ GHB, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, ธนาคารสแตนดาร์ชาร์เตอร์ด(ไทย) หรือ SCBT, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB, และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT
         ทั้งนี้ การเตรียมปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ย่อตัวลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายภาคบ่ายก่อนปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ SET Index กลับยืนในแดนบวกได้อย่างแข็งแกร่งจนปิดตลาดฯ
         ปิดการซื้อขายวานนี้ ราคาหุ้น BBLอยู่ที่ 89.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.29% มูลค่าการซื้อขาย 431.11 ล้านบาท, ราคาหุ้น BAY อยู่ที่11.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.71% มูลค่าการซื้อขาย 304.53 ล้านบาท, ราคาหุ้น KBANK อยู่ที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.89% มูลค่าการซื้อขาย 430.67 ล้านบาท, ราคาหุ้น KTB อยู่ที่ 7.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.71% มูลค่าการซื้อขาย 323.96 ล้านบาท, ราคาหุ้น SCIB อยู่ที่ 13.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 82.01 ล้านบาท, ราคาหุ้น SCB อยู่ที่ 67.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.37% มูลค่าการซื้อขาย 558.29 ล้านบาท และราคาหุ้น TMB อยู่ที่ 0.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 1.37% มูลค่าการซื้อขาย 357.16 ล้านบาท


**** ธปท.ยัน ฐานะแบงก์ไทยยังแข็งแกร่ง หลังมูดี้ส์จ่อปรับลดเครดิต
         นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส เตรียมทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารในประเทศไทย 11 แห่งว่า ฐานะของธนาคารในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งมาก โดยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐาน BIS ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบอยู่ในระดับสูงถึง 14.5% จึงมองไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดปัญหาได้ ขณะเดียวกันควาามสามารถในการให้ความช่วยเหลือของทางการไทยก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี


****ส.ธนาคารไทย ยันหากมูดี้ส์หั่นอันดับเครดิต 11 แบงก์ไทยจริง ไม่กระทบเสถียรภาพสถาบันการเงินไทย
         นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงกรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ เตรียมทบทวนความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 11 แห่งของไทย ว่าการทบทวนของมูดี้ส์จะไม่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพของสถาบันการเงินไทย ประกอบกับไม่ได้มีการระดมทุนจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร


****สภาอุตสาหกรรมไทย แนะอย่าตื่นตูมมูดี้ส์หั่นเครดิตแบงก์ไทย เหตุแค่เตรียมทบทวน
         นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มูดี้ส์เตรียมทบทวนอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ต้องการให้มองในแง่ร้าย เนื่องจากยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่หากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงจริง ก็ย่อมมีผลกระทบต่อการกู้เงิน โดยอาจทำเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยากขึ้น


****SCIB ไม่ห่วงหากมูดี้ส์หั่นอันดับความน่าเชื่อถือแบงก์ มั่นใจสภาพคล่องแบงก์ยังดี
         นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงกรณีมูดี้ส์เตรียมทบทวนความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 11 แห่งของไทย ซึ่งรวมถึง SCIB ว่าไม่มีความวิตกกับประเด็นดังกล่าวมากนัก เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการทบทวน ซึ่งผลสรุปอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่คาดกาณ์ว่าจะปรับลดความน่าเชื่อถือดังกล่าว
         ทั้งนี้ หากมีการพิจารณาปรับลดความน่าเชื่อถือจริง อาจจะส่งผลกระทบต่อการออกตราสารหนี้ของธนาคาร เนื่องจากอาจส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของนักลงทุนลดลง
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธนาคารไทยในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หากไม่มีประเด็นทางการเมืองส่งผลกระทบต่อสถานภาพเศรษฐกิจของประเทศ โดยทั่วไปความน่าสนใจในการลงทุนในประเทศยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งธนาคารยังไม่จำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากยังมีสภาพคล่องอีกจำนวนมาก


****KBANK ฟุ้ง BIS ทั้งระบบพุ่งเกือบ 15% ไม่กระเทือนแม้มูดี้ส์หั่นเครดิต
         นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าธนาคารไม่มีความวิตกในปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือใดๆ เนื่องจากขณะนี้ธนาคารยังมีสภาพคล่องจำนวนมาก โดยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐาน BIS ของธนาคารทั้งระบบอยู่ในระดับสูงถึง 14.9% จึงไม่มีความจำเป็นในการระดมทุนที่จะก่อให้เกิดปัญหาได้
         สำหรับแนวโน้มภาพรวมธนาคารไทยทั้งระบบในครึ่งปีหลังคงต้องจับตา โดยประเมินว่าอัตราการเติบโตอาจลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อที่คาดว่าจะโตได้ไม่เกิน 4-6% ซึ่งการปล่อยสินเชื่อของ KBANK ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่อนข้างทรุดตัวลง 1-2 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/51 ขณะที่ไตรมาส 2/2252 คาดว่าจะยังอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง รวมทั้งจากประเด็นปัญหาทางการเมือง
         อย่างไรก็ตาม หากมูดี้ส์มีการปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารจริงจะกระทบกับการออกตราสารหนี้ของธนาคาร รวมทั้งการออกหุ้นกู้ และเงินกู้ยืมระหว่างธนาคาร ซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่องของความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น


****BAY  ยืนยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง ระบุเงินกองทุนฯสูงถึง 15.5% หลังมูดี้ส์จ่อปรับลดเครดิต
         ดร.เยาวลักษณ์  พูลทอง  ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด มหาชน (BAY) เปิดเผยกับ eFinanceThai.comถึงกรณีที่ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ ประกาศจะทบทวนอันดับเครดิตธนาคาร 11 แห่งในประเทศไทยภายใน 2-3 สัปดาห์ ว่า การทบทวนอันดับเครดิตครั้งนี้อยู่บนมุมมองที่ว่ารัฐบาลอาจจะเข้ามาช่วยเหลือสถาบันการเงินได้น้อยลง (ถ้าสถาบันการเงินมีความจำเป็นต้องการความช่วยเหลือ) โดยพิจารณาจากระดับหนี้ของภาครัฐ ไม่ได้เป็นเพราะมูดี้ส์เห็นว่าธนาคารของไทยอ่อนแอลงแต่อย่างใด  ซึ่งขณะนี้ อันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับลงทุน (Investment Grade) ถ้ามีการปรับลดอันดับเครดิตของบางแห่งลง 1 ขั้น ส่วนใหญ่ยังคงมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับลงทุนอยู่ ซึ่งก็คงจะทราบผลการทบทวนของมูดี้ส์ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
         ทั้งนี้ อันดับเครดิตเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนดู และยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่บอกได้ถึงความเข้มแข็งขององค์กร เช่น ระดับเงินกองทุน ซึ่งโดยรวมแล้วในวันนี้ ธนาคารพาณิชย์ของไทยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนในระดับสูง ส่งผลให้โดยรวมมีความมั่นคงทางการเงิน ในส่วนของ BAY ปัจจุบันมีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับ 15.5% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระดับ 8.5% เกือบเท่าตัว และในอัตราส่วน 15.5% ดังกล่าวเป็นส่วนของเงินกองทุนขั้นที่ 1 ถึง 13% ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกว่า ธนาคารมีความมั่นคงทางการเงินในระดับสูง


****นครหลวงไทย ชี้ไม่มีอะไรตื่นเต้นหากมูดี้ส์หั่นอันดับแบงก์ไทย เหตุเป็นไปตามวิกฤตการเงินหลายประเทศ
         บทวิเคราะห์สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ระบุว่า มูดี้ส์จะพิจารณาสถานะทางด้านหนี้สิน และ เงินฝาก (debt and deposit ratings) ของธนาคารพาณิชย์ จากความสนับสนุนของรัฐบาลเมื่อเทียบกับฐานะทางการเงินของรัฐบาลที่มีภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก เนื่องจากมูดี้ส์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระบบธนาคารพาณิชย์ หากต้องดูแลสถานะทางการเงินจากภาระหนี้ของประเทศที่เพิ่มมากขึ้น
         ทั้งนี้ มูดี้ส์จะพิจารณาอันดับปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ในประเทศต่างๆที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอันดับต่ำกว่าระดับ Aaa ไม่ใช่ไทยประเทศเดียว โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารของเกาหลี ถูกปรับลดอันดับเครดิตลง โดยประเมินว่าการปรับลดอันดับเครดิตหนี้สินและเงินฝาก จะไม่มากกว่า 1 ระดับ (a one-notch) และคาดว่าผลการปรับอันดับจะแล้วเสร็จใน 2 – 3 สัปดาห์
         อย่างไรก็ดี ในปี 2552 มูดี้ส์ยังไม่เคยปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไทยลง โดยการปรับอันดับเครดิตล่าสุดของมูดี้ส์เกิดขึ้นในปี 2550 - 2551 โดยประเมินผลกระทบของการประเมินของมูดี้ส์ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับฐานะทางการเงินของประเทศ และ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับธนาคารพาณิชย์      
         บทวิเคราะห์ ระบุว่าด้วยว่า ฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สภาพคล่องทางการเงินยังอยู่ในระดับที่สูง อย่างไรก็ดี ข่าวการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของมูดี้ส์อาจสร้างความกังวลต่อนักลงทุนได้และอาจจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นในช่วงนี้จนกว่าจะมีรายงานอย่างเป็นทางการจากมูดี้ส์
         ทั้งนี้ ประเมินว่าผลกระทบจากการที่มูดี้ส์ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเจาะจงกับไทยเพียงประเทศไทยเดียวแต่เกิดขึ้นกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นจึงถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติ และ ไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักการลงทุนที่ยังคงที่ระดับ NEUTRAL


****บล.ซิตี้ คอร์ปฯ เผยมูดี้ส์เล็งหั่นอันดับ 11 แบงก์ไทย ไม่กระเทือนลูกค้าต่างชาติตกใจขาย
         มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บล.ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่ามูดี้ส์เตรียมปรับลดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งในประเทศไทยกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถือว่าวานนี้ (27 พ.ค.52) บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างดี ประกอบกับตลาดหุ้นในต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
         ทั้งนี้ มูดี้ส์เป็นเพียงแค่การเตรียมที่ปรับเท่านั้น ซึ่งหากปรับลดลงจริงคงต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง โดยการปรับอันดับคงอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบ
         'ก็ทราบข่าวมาเหมือนกัน ผมก็รายงานให้กับลูกค้าต่างชาติ แต่ลูกค้าก็ไม่ได้ตกใจ หรือเทขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด แต่หลังจากประกาศก็มีอ่อนตัวลงมาบ้าง โดยมีหุ้นบางตัวปรับลดลงในช่วงซื้อขายหลังจากช่วงเช้าขึ้นไปแตะราคา High แต่ก็ไม่ได้กระทบมาก วานนี้บรรยากาศการลงทุนดูดี ตลาดหุ้นภูมิภาคก็สดใส แต่ที่ต้องระวังคือ SET Index ติดแนวต้านที่ 555 จุดอยู่ ก็พยายามทดสอบมาหลายวัน' มล.ทองมกุฎ กล่าว


****บล.โกลเบล็ก เชื่อผลงานธนาคารยังแกร่ง หลังเงินสำรองสูงไม่หวั่นมูดี้ส์หั่นเครดิต
         นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า มูดี้ส์เตรียมทบทวนความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 11 แห่งของไทยเป็นปัจจัยที่สร้างความกดดันเล็กน้อยต่อนักลงทุน ท่ามกลางกระแสการปรับตัวขึ้นของดัชนีฯ แต่ทั้งนี้ต้องรอผลสรุปอย่างเป็นทางการว่าจะปรับลดอันดับลงจริงหรือไม่
         อย่างไรก็ตาม ระบุว่าหากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงจริง อาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารได้ โดยที่ผ่านมาธนาคารมีอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับสูง รวมทั้งอัตราการปล่อยสินเชื่อยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าจะมีการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง
         สำหรับแนวโน้มการฟื้นตัวของธนาคารในครึ่งปีหลัง มองว่าธนาคารยังมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเชื่อว่าเงินสำรองยังมีอยู่ในระดับสูงพอสมควร อีกทั้งคาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจะสามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธนาคาร


****บล.ฟิลลิป เมินมูดี้ส์หั่นเครดิตแบงก์ไทย เชื่อพื้นฐานยังแกร่ง
       นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่มูดี้ส์เตรียมจะปรับอันดับเครดิตของธนาคาร 11 แห่งในประเทศไทยว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์มากนัก โดยพบว่าราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักการลงทุนไปยังประเด็นการเตรียมปรับลดอันดับเครดิตของ
มูดี้ส์
         ขณะเดียวกัน พบว่าการเตรียมปรับมูดี้ส์ครั้งนี้ อาจะมีผลมาจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก และมุมมองในมหภาคมากกว่าที่จะมาพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังมีแนวโน้มที่มูดี้ส์จะปรับเครดิตในแถบภูมิภาคลง อาทิ เวียดนาม
         อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพบว่าพื้นฐานของธนาคารพาณิชย์ยังปกติ และผลของการทดสอบความแข็งแกร่งทางการเงินหรือ stress test ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทดสอบกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศหลายแห่ง พบว่าไม่ได้ผิดปกติ โดยฐานการเงินยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่
         ทั้งนี้ การปรับอันดับความน่าเชื่อถือไม่ว่าจะเป็นของมูดี้ส์ หรือ S&P ก็จะมีผลต่อกระทบกับการออกตราสารหนี้ของธนาคาร และการออกหุ้นกู้ โดยอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อธนาคารมากนัก เพราะอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศก็ถือว่าต่ำ ซึ่งมองว่าแบงก์มีความสามารถที่จะกู้เงินในประเทศกันเองได้ ขณะเดียวกันพบว่าฐานการเงินในระบบถือว่าค่อนข้างมาก เพราะในช่วงที่ผ่านมาธนาคารไม่ค่อยที่จะปล่อยสินเชื่อ
         'เท่าที่เห็นรอบนี้ เค้าปรับลดลงกันเกือบทั่วภูมิภาค น่าจะมาจากความกังวลของเศรษฐกิจโลกมากกว่า ซึ่งตอนนี้มูดี้ส์ก็ยังไม่ได้ปรับลง และตามมูดี้ส์บอกก็คือ อาจจะปรับในช่วงอีกหลายสัปดาห์ ซึ่งฝ่ายวิจัยก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องไปปรับคำแนะนำแต่อย่างใด' นางสาวศศิกร กล่าว
[/quote]
โพสต์โพสต์