ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
net17
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้ครอบครัวเข้าใจแล้วครับ

ผมพยายาม อธิบายให้ พ่อ-แม่ผม เข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำเนี่ย ผมคิดแบบนักลงทุนนะ ไม่ใช่เก็งกำไร เค้าก็บอก มันเสี่ยงๆ เค้าอยากให้ผมทำงานประจำ ซึ้งอยู่ในความคิดผมในลำดับ สุดท้ายในหัวเลยครับ ตื่นแต่เช้า ไปทำงาน จนถึงเย็น

พอผมบอกว่า ผมจะซื้อ ที่ราคาต่ำ กว่ามูลค่าที่แท้จริง ที่ผมประเมิณได้ เค้าก็จะพูดแต่ว่า เป็นไปไม่ได้ๆ ผมรู้สึกเหมือนผมกับเค้าพูดกันคนละภาษา

ขอความคิดเห็นหน่อยเถอะครับ เป็น idea ไปอธิบาย ให้ ท่านฟัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Renne
Verified User
โพสต์: 322
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ส่วนหนึ่งคงต้องโฟกัสไปงานประจำแหละครับ อยู่ในวัยทำงานต้องทำงานให้หน้าที่การงานโตเร็วที่สุด เรื่องหุ้นเราก็เปรียบเทียบกับการฝากธนาคารได้ครับ บอกว่าที่ทำไปเหมอืนการออม เงินเหลือเก็บจากเงินเดือน10%แทนที่จะเอาไปฝากธนาคาร ได้ดอกเพียง1% เราสามารถทำให้ผลตอบแทน10%ต่อปีในระยะยาวได้

ผมเข้าใจความหวังดีของพ่อแม่นะ เข้าใจว่าต้องการให้เราให้ความสำคัญกับงานหลักก่อน ซึ่งมันก็ถูกต้องครับ ดร นิเวศน์เองก็แนะนำว่าให้ขยันในหน้าที่การงานหลักเป็นอันดับ1ก่อนครับ เรื่องการซื้อหุ้นให้เรามองเป็นการผ่อนส่งความรวย ทยอยสะสมไปเรื่อยๆครับ :) คงต้องใช้เวลาอธิบายกับหาข้อมูลมาให้ท่านดู เชื่อว่าถ้าเหตุผลดีแล้วเราตั้งหน้าตั้งตากับงานหลักจริงท่านจะเห็นด้วยครับ
กุหลาบงามหลังฝน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1600
ผู้ติดตาม: 2

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จงทำตัวเป็นแสงสว่าง แล้วความมืดจะจ่างหายไปเอง
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3778
ผู้ติดตาม: 75

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เงินลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
การลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
ชีวิตเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
แล้วก็งาน...
เป็นของคุณเองด้วยหรือเปล่า..?

ค่าของคนอยู่ที่การทำงานครับ และ...
วัดความสำเร็จจากงานของคุณ
ด้วยรอยยิ้มของคนรอบข้าง :D

ปล.
งานประจำมันไม่ได้แย่นักหรอกครับ
ประเด็น.. คือ คุณค่าของงานที่เราทำต่างหาก :wink: ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
songwit
Verified User
โพสต์: 279
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ทำงานไปด้วยลงทุนในหุ้นไปด้วยก็ได้นี่ครับ...
      เวลาเลิกงานคุณก็ประเมิณราคาหุ้น แล้วส่งคำสั่งซื้อ-ขายเวลาเช้า
เวลาเย็นเลิกงานก็กลับมาดู
     
     หรือว่าคุณเป็นแบบรายวัน
     หรือว่าคุณยืมเงินพ่อ-แม่มาเล่น

ผมทำงานไปด้วย-ลงทุนในหุ้นไปด้วย
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขออนุญาติยืมคำตอบของพี่วิบูลย์มาตอบนะครับ

พี่วิบูลย์ตอบไว้ว่า

สวัสดีครับ

ผมแนะนำว่าอย่าไปคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นเลย
เขาไม่มีทางเข้าใจด้วยคำอธิบายหรอกครับ
เมื่อไหร่ที่เราประสบความสำเร็จ คนอื่นจะเข้าใจเอง

ผมเลิกคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นมาหลายปีแล้ว
คนส่วนใหญ่มาถามแค่
-ซื้อตัวไหนดี
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ถามกันอยู่แค่นี้

คำตอบผมส่วนใหญ่คนถามจะไม่กลับมาถามอีก
-ซื้อตัวไหนดี
ตอบ ซื้อหุ้นที่เข้าใจธุรกิจที่ราคาไม่แพง

-ราคานี้ขายได้หรือยัง
ตอบ พอใจก็ขายได้

-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ตอบ ไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่ได้ดูตลาดมานานแล้ว

คุยกับคนที่เข้าใจเรื่องเดียวกันก็พอแล้วครับ
ส่วนคนอื่น ช่างมันเถอะ

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 1

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ตอบแบบ คนตอนนี้ลงทุนอย่างเดียว
ที่บ้านก็ยอมแล้ว  :lol:

แบไต๋ให้เค้าดูว่า พอร์ตเราเป็นอย่างไร ตอนเริ่มแล้วปลายปีเป็นไง
ผมใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกว่าทีบ้านจะยอมรับแบบไม่บ่นแล้ว
พวกนี้ต้องใช้เวลาครับ กว่าจะปรับความเข้าใจกับที่บ้านได้
กว่าจะผ่านมาได้ก็หนักครับ

ถ้าพอร์ตเราเติบโต ไม่ว่าจะกำไรจากหุ้น หรือปันผล หรือ ทำงานแล้วเอาเงินเก็บมาเพิ่ม

bottom line คือ เรามีเงินเก็บ
แต่การที่จะออกมาลงทุนอย่างเดียวได้ ผมว่าต้องมีอย่างน้อยปันผล พอค่าใช้จ่ายนะ

ที่สำคัญ เราต้องทำได้จริงๆ ลงทุนเป็นจริงๆ ในระยะยาว
เพื่อนผมเก็งกำไร กำไรประมาณ 3 เดือนผลตอบแทนเกือบๆ 50 %
ผมก็บอกดีแล้วเก่ง แต่ในใจก็คิดเพียงอวยชัยให้เค้ารอดในระยะยาว
ตอนนี้ไม่เหลือแล้วครับ เพราะคิดว่าตัวเองเก่งจริง ใช้มาร์จิ้นเพิ่ม
สุดท้ายหมด

ผมว่าถ้า เราผลตอบแทนมากว่า SET index ทุกปี 3 ปีติด เชื่อว่าน่าจะพอไหวครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
Hughes
Verified User
โพสต์: 1088
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อยากลงทุนอย่างเดียวเหมือนกันแต่อย่างผมคงทำไม่ได้ครับ เพราะ

1. เงินต้นยังน้อยไม่พอกินอยู่

2. ฝีมือยังอ่อน... กำไรได้แต่ผลตอบแทนไม่สม่ำเสมอยังไม่รู้จริง ต้องสะสมวิชาและประสบการณ์มากกว่านี้

เคยลองทำ projection ดูรู้สึกว่าพอเงินเยอะถึงระดับหนึ่่งเงินเดือนที่อัดเข้าไปจะเริ่มไม่มีผลมากกับ Portfolio แล้ว จะช่วยให้พอร์ทโตเร็วมากก็เฉพาะช่วงแรกๆ

ตอนนี้ผมว่าจะพยายามเพิ่ม Cashflow เข้ามาช่วยให้พอร์ทโตเร็วขึ้น
จะย้ายออกจากคอนโดไปอยู่บ้านน้าแทนแล้วปล่อยคอนโดเช่าเพราะเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวนี่เงินมันเพิ่มไม่ทันใจเลย

เดี๋ยวเร็วๆนี้อีกซัก 2-3 เดือนร้านอาหารที่ผมไปเข้าหุ้นด้วยจะเปิด
ไว้เปิดแล้วจะขอบัตรลดมาแจกเพื่อนๆให้ไปลองทานกันแล้วกันครับ หึๆ ถ้าขายดีคงจะช่วยได้มาก
net17
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมเล่นระยะกลางครับ ไม่ได้เล่นระยะสั้น เน้นที่การเติบโตของบริษัท สัก 5-10 ปี

*จำเป็นต้องขายเพิ่ม เงินต้นครับเงินต้่นยังน้อย หลังจากนั้นถ้าเงินต้นผมมีมากพอที่จะจ่ายปันผลให้ผมพอ ใช้จ่าย จะเปลี่ยนไปเล่นระยะยาวครับ [ตลอดชีพ]

ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากนะครับ ตอนนี้ผมเลือกที่จะยังไม่พูดดีกว่าครับรออีกสักพักดีกว่า

หรือท่านไหนมีประสพการณ์ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ผมจะได้เอาไปพูดกับทางบ้านมั้ง  :oops:
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เป็นกำลังใจให้นะครับผม  :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
siebelize
Verified User
โพสต์: 451
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตอนนี้ถ้ามีคนถามว่าทำอะไรอยู่
ผมบอกว่า ผมลงทุนขายของทางอินเตอร์เน็ต ครับ  :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
konkaikong
Verified User
โพสต์: 82
ผู้ติดตาม: 3

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คุณ net17 สิ่งที่ผมจะโพสท์นี้อาจไม่ตรงคำถามของคุณซะทีเดียว

ยังไงก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็แล้วกันนะครับ

ผมเองลงทุนในตลาดมาหลายปีตั้งแต่ผมอายุยังน้อย เริ่มซื้อขายครั้งแรกประมาณอายุสิบหก สิบเจ็ด

มีหลายครั้งที่ผมเองก็อยากมาเป็นนักลงทุนแบบ FULL TIME ตอนนี้ก็ล่วงมายี่สิบปีแล้ว

เป็นธรรมดาครับที่คุณพ่อ คุณแม่คงต้องเป็นห่วงเรา เพราะท่านเห็นว่าตลาดหุ้นเอาแน่เอานอนไม่ได้

คนที่เรียนด้านการเงินมา ผู้จัดการกองทุนเอย นายแบงค์เอย ก็เคยขาดทุนจากตลาดกันถ้วนหน้า

ผมไม่แน่ใจว่าคุณ net17 แต่งงานหรือยัง ถ้ายัง ผมว่าคุณยังมีอีกหลายคนที่คุณต้องอธิบายให้เขาฟัง

ลองนึกดูซิครับ ถ้าคุณไปขอลูกสาวเขา แล้วบอกว่า ผมลงเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ว่าที่พ่อตาแม่ยายคุณคงมีคำถามตามมายาวแน่

ผมขอแนะนำด้วยใจจริงครับว่าถ้าเรายังมีประสพการณ์ในวงการธุรกิจไม่มาก ขอให้ลองทำงานดู

การเป็นพนักงานบริษัทก็สามารถช่วยเสริม การลงทุนของเราได้ เพราะคุณจะได้มีโอกาสเป็นคนของวงการ นั้นๆ ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกที่นักวิเคราะห์เข้าไม่ถึง

ทั้งยังได้เรียนรู้การบริหารงานทางธุรกิจ ได้เห็นของจริง ทำให้การลงทุนเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น

การลงทุนจริงๆ หากชำนาญแล้ว เจนสนามดีแล้ว ไม่ต้องใช้เวลามากหรอกครับ แต่อาจต้องอ่านมาก

ส่วนตัวแล้ว ผมอาศัยช่วงเลิกงาน และ วันหยุดในการหาข้อมูล

การเป็นพนักงาน ยังทำให้เราได้สังคม เจอคนหลากหลาย และด้วย Connection เหล่านั้นอีกแหละครับ

ที่ทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากที่เราทำอยู่ ได้ขยายCircle of Competence เหมือนที่ Warren Buffett ว่าไว้

ก็ขอฝากไว้เป็นแง่คิดหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ

ขออวยพรให้คุณ NET17 ประสพโชคดีในการลงทุน
วันนี้คุณมีรองเท้าแล้วหรือยัง
vision
Verified User
โพสต์: 305
ผู้ติดตาม: 0

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

สงสัยจะมีมรดกเยอะ ได้ผลตอบแทนพอสมควรก็ถือว่าทำงานแล้ว
โพสต์โพสต์