" กีดกันการค้า " หลากรูปแบบกระหึ่มโลก !!!!!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 1

" กีดกันการค้า " หลากรูปแบบกระหึ่มโลก !!!!!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"กีดกันการค้า" หลากรูปแบบกระหึ่มโลก ตอบโต้ "Buy American" โอบามา


การ ผลักดันให้เงื่อนไขต้องซื้อวัตถุดิบ โดยเฉพาะเหล็กและเหล็กกล้าที่ใช้ในโครงการภาครัฐต้องผลิตในสหรัฐเท่านั้น หรือที่เรียกกันว่า เงื่อนไข Buy American กำลังส่งผลกระทบบานปลาย โดยนอกเหนือจากจะเผชิญกระแสคัดค้านจากกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้ว ยังจุดความไม่พอใจขึ้นในหลายประเทศ และก่อพฤติกรรมตอบโต้ในลักษณะกีดกันการค้าและชาตินิยมจากบางประเทศในยุโรป แล้ว

ในอังกฤษกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรี กลับเผชิญกับการหยุดงานประท้วงของคนงานในโรงงานพลังงานและโรงกลั่น ต่อต้านการใช้แรงงานต่างประเทศเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากบริษัทโทเทล โรงกลั่นน้ำมันของฝรั่งเศสตกลงให้สัญญาโครงการก่อสร้าง 200 ล้านปอนด์แก่บริษัทอิตาลีรายหนึ่ง ซึ่งมีแผนจะใช้แรงงานจากต่างประเทศ

ขณะ ที่รัฐบาลสเปนได้ตัดสินใจจ่ายเงินในรูปของผลประโยชน์ ผู้ว่างงานทุกอย่างที่มีแบบเหมาจ่ายให้แรงงานต่างชาติกลับประเทศ หากพวกเขาตอบตกลงที่จะไม่เดินทางกลับมาสเปนในระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

เช่นเดียว กับฝรั่งเศส หลังจากรัฐสภาอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.6 หมื่นล้านยูโร มีข้อสังเกตถึงเป้าหมายของการใช้จ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจว่าลงไปที่โครงการ สาธารณูปโภค อาทิ ระบบรถไฟความเร็วสูง ซึ่งถือเป็นธุรกิจผูกขาดของกลุ่มทุนฝรั่งเศสอย่างอัลตอง และโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ที่กลุ่มอาเรอลาผูกขาดอยู่

ในอิตาลีรัฐบาล ได้จัดทำแผนช่วยเหลือทางการเงินแก่อุตสาห กรรมรถยนต์ 1.7 พันล้านดอลลาร์ แต่ได้ร้องขอให้ค่ายรถยนต์คงการผลิตในอิตาลี และจ่ายเงินให้กับซัพพลายเออร์ในประเทศ

แนวโน้มการกีดกันทางการค้ากำลังกลับมาอย่างรวดเร็วไม่จำกัดวงเฉพาะการตอบโต้นโยบายสหรัฐ แต่ยังสะท้อนความพยายามปกป้องธุรกิจภายใน

ดัง การเคลื่อนไหวของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู)ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสูงสุด 25% เพื่อต่อต้านการทุ่มตลาดของเหล็กลวดจากจีนเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งขยับภาษีนำเข้าเหล็กเส้นซึ่งใช้ในการก่อสร้างจากมอลโดวาขึ้นอีก 4%

ไม่เพียงเท่านี้อียูยังนำมาตรการอุดหนุนการส่งออกสินค้าหลายชนิด อาทิ เนย และนมผง มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

ปรากฏการณ์กีดกันทางการค้าด้วยมาตรการภาษี ยังพบเห็นในอาร์เจนตินา เอกวาดอร์ อินเดีย อินโดนีเซีย และรัสเซีย

รัฐบาล อาร์เจนตินาออกมาตรการที่กำหนดให้สินค้าหลายชนิดต้องได้รับการอนุญาตนำเข้า ก่อน อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ สิ่งทอ ทีวี ของเล่นเด็ก รองเท้า และเครื่องหนัง ขณะที่เอกวาดอร์ปรับภาษี นำเข้าเพิ่มในสินค้า 940 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่เนย ไก่งวง ขนมปังกรอบ โทรศัพท์มือถือ แว่นตา วัสดุก่อสร้าง จนถึงอุปกรณ์เพื่อการขนส่ง

ในเอเชีย อินเดียได้ขยับภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กบางรายการแล้ว ขณะที่อินโดนีเซียกลับเลือกจำกัดจำนวนท่าเรือและสนามบินที่ให้บริการในฐานะ จุดนำเข้าสินค้าบางรายการ โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ รองเท้า รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งยังมีนโยบายให้ข้าราชการเกือบ 4 ล้านคนของประเทศใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ ตั้งแต่รองเท้าจนถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฝ่าวิกฤตไปได้

สำหรับรัสเซียเลือกแนวทางขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์มือสองเพื่อพยุงอุตสาหกรรมในประเทศ

ยิ่ง กว่านั้นเสียงสะท้อนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้าบ่อยครั้งขึ้น และในหลายๆ เวที นับจากการประชุมระดับรัฐมนตรีคลัง อาเซียน+3 วาระพิเศษ ยังเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เนื่องจาก ในข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีได้พุ่งเป้าไปที่มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงกรณีการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงิน) เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ประเทศตัวเองฝ่ายเดียวด้วย

นับถึงต้นเดือน กุมภาพันธ์ พบว่าค่าเงินอย่างน้อย 4 สกุลในเอเชียมีการลดค่าลงอย่างมาก ได้แก่ เงินวอนของเกาหลีใต้ที่ลดค่าลง 11.75% ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 7.58% ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลง 5.56% และค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันที่อ่อนลง 4.26%

อีกทั้งนายกฯอภิสิทธิ์ยังได้พาดพิงถึง "การเรียกเงินทุนกลับของบางประเทศ" ซึ่งสอดคล้องกับกระแสวิตกของนักเศรษฐศาสตร์ บางราย ซึ่งรวมถึงเจอราร์ด มินแนค ของมอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งได้ ตั้งข้อสังเกตถึงแนวโน้มของสิ่งที่เรียกว่า การกีดกันทาง การเงิน (financial protectionism)

กระแสการกีดกันรูปแบบใหม่เกิดขึ้นใน 2 ลักษณะ ได้แก่ การสั่งการให้ธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศ ที่เข้าโครงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจะต้องเน้นการปล่อยกู้ในประเทศ และการกีดกันอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเกิดขึ้นในรูปของการส่งเงินทุนที่กระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งในรูปของเงินกู้และการลงทุนกลับประเทศ การลดลงของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีน ถึง 33% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างอันเด่นชัดของ แนวโน้มดังกล่าว

ทั้ง นี้ วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 244 ต่อ 188 ผ่านร่างกฎหมายการลงทุนใหม่ และการฟื้นฟูอเมริกา (American Recovery and Reinvestment Act) ของประธานาธิบดีโอบามาแล้ว

ในวัน เดียวกันนั้น สภาผู้แทนราษฎรยังได้อนุมัติข้อกำหนด อันเป็นเงื่อนไขประกอบแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในส่วนของการลงทุน ในโครงการภาครัฐว่า จะต้องจัดซื้อเหล็กและเหล็กกล้าที่ผลิต ในสหรัฐเท่านั้น

แนว คิด "ซื้อของอเมริกัน" (Buy American) ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในโครงการภาครัฐด้านสาธารณูปโภค แต่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยังอนุมัติให้มีการแก้ไขข้อกำหนดเพิ่มเติมให้สำนัก ความปลอดภัยด้านการคมนาคมขนส่ง จัดซื้อชุดเครื่องแบบที่ผลิตโดยสหรัฐในลักษณะเดียวกับข้อกำหนดของกระทรวง กลาโหม

การตัดสินใจเพิ่มเติมข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ซื้อของอเมริกัน" มีขึ้นท่ามกลางกระแสการคัดค้านจากหอการค้าอเมริกัน และจากกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ซึ่งแสดงความวิตกว่า การกระทำดังกล่าวอาจเป็นตัวอย่างไม่ดีให้ประเทศอื่นๆ พิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะนี้ออกมาเช่นกัน

http://www.matichon.co.th/prachachat/pr ... ionid=0212
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 1

" กีดกันการค้า " หลากรูปแบบกระหึ่มโลก !!!!!

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หุ้นส่งออกผลประกอบการจะสาหัสกว่าเดิมหรือเปล่าหนอ ...............

หุ้นขนส่ง พวกเรือ  เครื่องบิน  สนามบินจะโดนหนักขึ้นแค่ไหนหนอ ...............
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1496
ผู้ติดตาม: 40

" กีดกันการค้า " หลากรูปแบบกระหึ่มโลก !!!!!

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อินโดนีเซีย ก็มี

อินโดนีเซียสั่ง ขรก.ซื้อสินค้าที่ผลิตขึ้นในประเทศเพื่อกระตุ้น ศก.อินโดนีเซีย 1 มี.ค. - รัฐบาลอินโดนีเซียมีคำสั่งให้ข้าราชการซื้อสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากวิกฤติการเงิน

ด้วยจำนวนข้าราชพลเรือนของอินโดนีเซียที่มีมากเกือบ 4 ล้านคน ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนจะสั่งการให้ข้าราชการเหล่านี้ใช้สินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศตั้งแต่รองเท้าไปจนถึงเครื่องจักรกลขนาดใหญ่  ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการผลิตและเศรษฐกิจในประเทศ  โดยประธานาธิบดีเตรียมการจะลงนามในคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในเร็ววันนี้ โดยจะมุ่งเน้นไปที่สินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม รองเท้า เครื่องประดับ รวมทั้งเพลง และภาพยนตร์ ซึ่งปรากฎว่า แผนการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาข้าราชการที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศ. -สำนักข่าวไทย

http://news.mcot.net/international/insi ... BlPWNsaXA=
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1496
ผู้ติดตาม: 40

" กีดกันการค้า " หลากรูปแบบกระหึ่มโลก !!!!!

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ช่วงนี้กลับคิดว่า พวกส่งออกน่าจะยิ้มได้นะครับ

:lol:

http://ichart.finance.yahoo.com/1y?usdthb=x
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
โพสต์โพสต์