โกงหุ้น SCC พระเจ้า จอร์จ!!!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4914
ผู้ติดตาม: 244

โกงหุ้น SCC พระเจ้า จอร์จ!!!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

http://hilight.kapook.com/view/34100

เจอข่าวนี้ก็แปลกใจ มีแบบนี้ด้วย  เข้าใจว่าหุ้นทั้งหมดจะฝากที่Broke กับ TSD หลังจากซื้อทันทีเพราะนป็นระบบcomputerตั้งนานแล้ว

ลองดู ชื่อ นายประพันธ์ ชูเมืองสิ   ผู้ถือหุ้นใหญ่  George!!!

http://www.settrade.com/C04_05_stock_ma ... lectPage=5

หนุ่มแสบ เทขายหุ้นอีก15ล้าน อายัดทัน (ไทยรัฐ)

         จากกรณีมีการปลอมแปลงใบหุ้นของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC จำนวน 2 ใบ รวมหุ้นทั้งสิ้น 672,000 หุ้น มูลค่า 67 ล้านบาท หลังนายวรรโณทัย อมาตยกุล เศรษฐีตระกูลดังลงทุนซื้อหุ้นไปตั้งแต่ปี 2547 ก่อนเจ้าตัวจะเสียชีวิตเมื่อเดือน ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้จัดการมรดกได้นำใบหุ้นไปขึ้นทะเบียนกับศูนย์ รับฝากหลักทรัพย์เพื่อนำหุ้นจำนวนดังกล่าวจัดสรรให้ทายาทผู้เสียชีวิต เรื่องจึงแดงขึ้นมาว่าเป็นใบหุ้นปลอม และเมื่อบริษัทตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมยังพบแบบฟอร์มใบหุ้นสามัญหายไป 34 ใบ คือเลขที่ 0025001-0025034 พร้อมแจ้งความดำเนินคดีผู้อยู่เบื้องหลังเป็นพนักงานบริษัทที่ชิงลาออกไปก่อนหน้านี้

         ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นแล้ว ผู้เสียหาย คือทายาทนายวรรโณทัย อมาตยกุล นักธุรกิจที่ซื้อหุ้นบริษัทใหญ่ๆ เก็บไว้ เมื่อช่วงปี 2547-2548 หุ้นของเครือซิเมนต์ไทยอยู่ในช่วงพีค แต่ละหุ้นมีราคาในท้องตลาดถึงหุ้นละ 100 บาท นายวรรโณทัยเปิดเครดิตกับโบรกเกอร์เพื่อซื้อหุ้นจำนวนตามที่เป็นข่าวแล้วนำเอกสารซื้อหุ้นไปฝากนายประพันธิ์ ชูเมือง พนักงานประจำสำนักงานเลขานุการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยจำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความคุ้นเคยกัน เนื่องจากนายวรรโณทัยติดต่อทำธุรกรรมเกี่ยวกับหุ้นของบริษัทบ่อยครั้ง นายประพันธิ์จึงสบช่องทำใบทะเบียนผู้ถือหุ้นปลอมขึ้นมาก่อนที่จะนำไปคืนให้นายวรรโณทัยเก็บไว้ส่วนนายประพันธิ์นำใบหุ้นจริงไปขายต่อ

         พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า กระทั่งนายวรรโณทัยเสียชีวิต ทายาทของผู้ตายตั้งนายวรรณพงษ์ รุ่งโรจน์วุฒิกุล เป็นผู้จัดการมรดก เพื่อแบ่งมรดกให้ทายาททุกคน โดยหุ้นของเครือซิเมนต์ไทยจะตกเป็นของนายเกียรติพงษ์ อมาตยกุล ลูกชาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 6 นายวรรณพงษ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงติดต่อไปยังนายประพันธิ์เพื่อปรึกษา เนื่องจากเห็นว่าดูแลผลประโยชน์ด้านหุ้นให้แก่ผู้ตายมาตลอด

         นายประพันธิ์ยังรับปากว่า จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นจากนายวรรโณทัย เป็นชื่อของลูกชายนายวรรโณทัย ต่อมานายวรรณพงษ์นำหุ้นไปตรวจสอบกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ของตลาดหลักทรัพย์ถึงทราบข้อเท็จจริงว่า หุ้นดังกล่าวเปลี่ยนมือไปแล้ว คือมีการขายทอดตลาดไปตั้งแต่ปี 2547 นายวรรณพงษ์และทายาทจึงนำเรื่องไปปรึกษาบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ตั้งตัวแทนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน  สำหรับคดีนี้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติการเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน ได้ตั้งคณะทำงาน

         สอบสวนคดีที่เกิดขึ้น มี พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เตาปูน เป็นหัวหน้ารวบรวมข้อมูลด้านธุรกรรมระหว่างผู้เสียหายกับบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สมัยยังมีชีวิตอยู่ และข้อมูลนายประพันธิ์ ชูเมือง อายุ 37 ปี อดีตพนักงานประจำสำนักงานเลขานุการ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 9 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

         ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อปี 2546 นายวรรโณทัย อมาตยกุล ติดต่อขอซื้อหุ้นบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนหลายแสนหุ้น แต่ไม่ต้องการขายทำกำไร เพราะจะเก็บไว้เป็นทรัพย์สินให้แก่ลูกหลานจึงไปแจ้งกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ออกใบหุ้นให้นายวรรโณทัยถือไว้ 1 ฉบับ หลังจากนั้น นายวรรโณทัยนำใบหุ้นไปฝากนายประพันธิ์ ชูเมืองเพราะความไว้วางใจ กระทั่งปี 2547 นายประพันธิ์ออกอุบายว่า ทำใบหุ้นหายแล้วไปแจ้งความเพื่อขอใบหุ้นใหม่ให้นายวรรโณทัย แต่กลับปลอม ใบหุ้นมอบคืนให้นายวรรโณทัย ส่วนใบหุ้นตัวจริงนำไปทยอยเทขายในตลาดหุ้น จนเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อนาย วรรโณทัยเสียชีวิตแล้วทายาทนำใบหุ้นไปตรวจสอบ พนักงาน สอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายประพันธิ์ ชูเมือง ข้อหาปลอมและใช้ เอกสารใบหุ้นปลอม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

         พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา หัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า พบพิรุธมากมายเกี่ยวกับธุรกรรมด้านการเงินของนายประพันธิ์ เนื่องจากมีการโอนเงินเข้า-ออก บัญชีธนาคารหลายแห่งครั้งละเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพบว่าผู้ต้องหายังซื้อขายหุ้นดังๆ อีกหลายตัวในตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุดเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วมีการเทขายหุ้นตัวหนึ่งเป็นมูลค่า 15 ล้านบาท โดยโอนเงินผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่เช็กเจอจึงอายัดไว้ได้ก่อน ขณะ เดียวกันพนักงานสอบสวนยังได้ข้อมูลจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ว่า นายประพันธิ์ทุจริตด้วยการเพิ่มจำนวนหุ้นในเครือบริษัทให้มีจำนวนมากกว่าที่ระบุไว้ในใบซื้อขายแล้วนำเงินส่วนต่างไปโอนเข้าบัญชีเงินฝากของนางมยุรี สมบูรณ์ อายุ 36 ปี ภรรยาตัวเอง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนางมยุรีเพิ่มอีกคนในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้ใบหุ้นปลอม ก่อนนำตัวมารับทราบข้อกล่าวหา นางมยุรีให้การปฏิเสธอ้างไม่รู้เห็น เพราะเลิกรากับสามีไปนานแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

         ด้านนางมัทนา เหลืองนาคทองดี ที่ปรึกษาบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) อดีตผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ผู้บริหารบริษัทได้ขอร้องสื่อมวลชนระงับข่าวกรณีพนักงานบริษัทหลอกลวงและปลอมใบหุ้นของผู้ถือหุ้นเก่าแก่ของบริษัท และนำใบหุ้นจริงไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น เนื่องจากเกรงว่าครอบครัวของผู้เสียหายในตระกูลอมาตยกุล จะได้รับความเสียหายเพราะเป็นตระกูลใหญ่ และไม่ต้องการให้เรื่องนี้ไปกระทบถึงบุคคลในตระกูลที่มีเป็นจำนวนมาก ส่วนนายประพันธิ์ ชูเมือง พนักงานบริษัท ผู้ต้องหาในคดีนี้ ตอนแรกก็ดูหน้าตาไม่ออกเลยว่าจะเป็นคนหลอกลวงขี้โกง ใบหุ้นที่หายไปจำนวน 34 ใบนั้น ก็น่าเป็นการกระทำของนายประพันธิ์ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายประพันธิ์ยังมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) ถึง 168 ล้านหุ้น หรือ 1.64 เปอร์เซ็นต์
โพสต์โพสต์