มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
mario
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 720
ผู้ติดตาม: 12

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เอาบทสัมภาษณ์ Buffett มาฝากครับ มีหลายประเด็นที่ช่วยเตือนสติได้ดีในสถานการณ์เช่นนี้

ตัวอย่าง
GHARIB: This financial crisis has been extraordinary in so many ways. How has it changed your approach to investing?

BUFFETT: Doesnt change my approach at all. My approach to investing I learned in 1949 or 50 from a book by Ben Graham and its never changed.
GHARIB: So many people I have talked to this past year say this was unprecedented, the unthinkable happened. And that hasnt at all impacted your philosophy on this?

BUFFETT: No, and if I were buying a farm, I wouldnt change my ideas about how to buy a farm or an apartment house or a business, and thats all a stock is, its part of a business. So if I were going to buy stock in a private business here in Omaha, Id look at it just like I would have looked at it two years ago and Ill look at it the same way two years from now.  I look at how muchI am getting for my money, how good the management is, how the competitive position of that business compares to others, how durable it is and just fundamental questions. The stock market is, you can forget about that. Any stock I buy I will be happy owning it if they close the stock market for five years tomorrow. In other words I am buying a business. Im not buying a stock. Im buying a little piece of a business, just like I buy a farm. And that doesnt change. And all the newspaper headlines of the world dont change that. It doesnt mean you cant buy it cheaper tomorrow. It may turn out that way. But the real question is did I get my moneys worth when I bought it?
GHARIB: Can you describe what it is? I mean, what is your most important investment lesson?

BUFFETT: The most important investment lesson is to look at a stock as a piece of a business, not as some little thing that jiggles up and down, or that people recommend, or people talk about earnings being up next quarter, something like that. But to look at it as a business and evaluate it as a business. If you dont know enough to evaluate it as a business, you dont know enough to buy it. And if you do know enough to evaluate it as a business and it's selling cheap, you buy it and you dont worry about what it does next week, next month, or next year.
GHARIB: It seems that youre pretty optimistic about the long-term future of the American economy and stock market, but a little pessimistic about the short term. Is that a fair assessment of where your head is right now?

BUFFETT: I am unquestionably optimistic about the long-term. Im more than a little pessimistic about the short-term, but that doesnt mean I am pessimistic about the stock market. We bought stocks today. If you tell me the economy is going to be terrible for 12 months, pick a number, and then if I find something that is attractive today, I am going to buy it today. I am not going to wait and hope that it sells cheaper six months from now. Because who knows when stocks will hit a low or a high? Nobody knows that. All you know is whether youre getting enough for your money or not.
GHARIB: What about Berkshire Hathaway stock? Were you surprised that it took such a hit last year, given that Berkshire shareholders are such buy and hold investors?

BUFFETT: Well, most of them are. But in the end, our price is figured relative to everything else. So the whole stock market goes down 50 percent, we ought to go down a lot because you can buy other things cheaper. Ive had three times in my lifetime, since I took over Berkshire, when Berkshire stocks gone down 50 percent. In 1974, it went from $90 to $40. Did I feel badly? No, I loved it. I bought more stock. So, I dont judge how Berkshire is doing by its market price, I judge it by how our businesses are doing.
แบบเต็มๆ D/L ได้ที่
http://msnbcmedia.msn.com/i/CNBC/Sectio ... -01-22.pdf
The basic ideas of investing are to look at stocks as business,
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.

Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
ภาพประจำตัวสมาชิก
<< New >>
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 16

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4096
ผู้ติดตาม: 296

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 3

โพสต์

แหมอยากรบกวนพี่พี่ ขอเวอร์ชั่นภาษาไทยหน่อยได้ไหมครับ พอดีอ่อนแอมากเรื่องภาษาคับผม :lol:
Small Details Make a Big Difference
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ  :8)
nuaythebest
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 245
ผู้ติดตาม: 5

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 5

โพสต์

I am not going to wait and hope that it sells cheaper six months from now. Because who knows when stocks will hit a low or a high? Nobody knows that.
ผมประทับใจประโยคนี้มากเลยครับ สุดยอดจริงๆ เห็นแล้วรู้สึกดีที่เป็น VI
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2501
ผู้ติดตาม: 9

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 6

โพสต์

หลังจากซื้อขายหุ้นมา 3 ปีกว่า อ่านหนังสือเกี่ยวกับ Buffett มาก็ตั้งหลายเล่ม

ตอนนี้ ผมให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของบริษัทด้วย มากกว่าแค่หุ้นราคาถูก แต่ไม่เข้าใจว่าธุรกิจเค้าทำอะไร อย่างไร

ถ้าเราไม่เข้าใจธุรกิจ ดูแต่ P/E P/BV DIV Yield ROA ROE etc ในอดีต (ซึ่งผมเคยทำมาในปีแรกๆ)

เราก็ได้แค่สวดมนต์ภาวนา ว่าอนาคตบริษัทจะรักษาผลประกอบการดังเดิมได้ :cry:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ily
Verified User
โพสต์: 266
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ได้ภาคภาษาไทยมาให้อ่านแล้วจ้า :lol:

การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 00:01'วอร์เรน บัฟเฟตต์' สบายดีอยู่หรือ!โดย : วิบูลย์ พึงประเสริฐ


วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับมุมมองของเขาต่อสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ลองมาดูว่าเขามีความเห็นอย่า

ถาม: วิกฤติทางการเงินที่เกิดขึ้นทำให้คุณเปลี่ยนวิธีการลงทุนหรือไม่
บัฟเฟตต์: มันไม่ได้เปลี่ยนแนวทางการลงทุนของผมเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเรียนรู้การลงทุนจากหนังสือของเบน เกรแฮมตั้งแต่ปี 1949 และไม่เคยเปลี่ยนแนวทางเลยนับจากนั้นมา


ถาม: วิกฤติที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย มีผลกระทบต่อปรัชญาการลงทุนของคุณหรือไม่
บัฟเฟตต์: ไม่เลย เหมือนผมต้องการซื้อฟาร์ม ผมคงไม่เปลี่ยนแนวทางในการซื้อฟาร์มของผม เช่นเดียวกับการซื้อบ้านหรือซื้อธุรกิจ หุ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้าผมต้องการซื้อหุ้นในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งในเมืองนี้ ผมคงใช้แนวทางที่เคยใช้เมื่อสองปีที่แล้วและก็เป็นแนวทางที่จะใช้ในอีกสองปีข้างหน้า
ผมจะดูว่าผมจะได้อะไรจากเงินที่ลงทุนไป ผู้บริหารเป็นอย่างไร บริษัทนั้นมีความสามารถในการแข่งขันหรือไม่และฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร ถ้าพูดถึง "ตลาดหุ้น" ขอให้คุณลืมมันไปได้เลย สำหรับหุ้นทุกตัวที่ผมมีผมว่าผมคงถือต่อไปอย่างมีความสุข ถึงแม้ตลาดหุ้นจะปิดไปสักห้าปีนับจากวันนี้ พูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ผมซื้อธุรกิจ ผมไม่ได้ซื้อหุ้น ผมซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจเหมือนผมซื้อฟาร์ม และมันไม่เคยเปลี่ยน พวกข่าวร้ายต่างๆ ในโลกนี้ไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถซื้อของได้ถูกกว่าวันนี้ มันอาจถูกลง คำถาม ก็คือตอนซื้อนั้นมันคุ้มค่าเงินที่ลงทุนแล้วหรือยัง


ถาม: อะไรเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในการลงทุนของคุณ
บัฟเฟตต์: บทเรียนที่สำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือการมองหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ไม่ใช่สิ่งที่มีราคาขึ้นๆ ลงๆ ไม่ใช่สิ่งที่มีคนแนะนำให้ซื้อ หรือพูดกันถึงเรื่องกำไรที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสหน้า แต่เป็นการมองให้เห็นถึงธุรกิจ ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะประเมินธุรกิจนั้นๆ อย่างไร คุณก็ไม่ควรจะซื้อหุ้นบริษัทนั้น แต่ถ้าคุณรู้ว่าจะประเมินธุรกิจนั้นอย่างไรและซื้อมันได้ในราคาถูก คุณก็ไม่ต้องไปกังวลกับมันว่าจะเป็นอย่างไรในอาทิตย์หน้า เดือนหน้าหรือปีหน้า


ถาม: คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณกำลังทำนั้นถูกต้อง
บัฟเฟตต์: ผมว่าไม่มีปัญหาถ้าพูดถึงอนาคตข้างหน้าของเศรษฐกิจในระยะยาว ในระยะสั้นผมคงมองว่ายังไม่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ตลาดหุ้น ตอนนี้ผมเริ่มซื้อหุ้นแล้ว ถ้าคุณบอกผมว่าเศรษฐกิจจะไม่ดีในอีก 12 เดือนข้างหน้า แต่ถ้าผมพบสิ่งที่น่าสนใจวันนี้ผมก็จะซื้อมันทันที ผมคงไม่รอและคาดหวังว่าจะซื้อมันได้ถูกลงในอีกหกเดือนข้างหน้า เพราะไม่มีใครรู้ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงต่ำสุดหรือยัง..ไม่มีใครรู้ สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือคุณได้อะไรคุ้มค่าต่อเงินลงทุนของคุณหรือเปล่า


ถาม: หุ้น Berkshire Hathaway ลดลงอย่างมาก และมีผลต่อผู้ถือหุ้นมาก
บัฟเฟตต์: ใช่!  ส่วนใหญ่ผู้ถือหุ้นของเราลงทุนระยะยาว ตลาดหุ้นปีที่แล้วลดลงกว่า 50% และเราก็หนีไม่พ้นที่ราคาหุ้นของบริษัทเราจะลดลงตามไปด้วย ตลอดชีวิตของผม ผมเห็นราคาหุ้นเบิร์กไชร์ลดลงมากกว่าครึ่งถึงสามครั้ง ครั้งแรกในปี 1974 ราคาหุ้นลดลงจาก 90 เหรียญเหลือ 40 เหรียญ ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า เปล่าเลยผมกลับชอบซะอีกเพราะผมได้ซื้อหุ้นบริษัทเพิ่ม ดังนั้นผมไม่ได้ตัดสินบริษัทจากราคาหุ้น แต่ผมดูบริษัทจากผลการดำเนินงานของบริษัทว่าเป็นอย่างไรมากกว่า


Tags : วอร์เรน บัฟเฟตต์
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณคุณ ily ครับ

อาจสรุปได้ว่า ลงทุนในธุรกิจที่อยู่ขอบเขตความเข้าใจของนักลงทุน(จะได้ประเมินธุรกิจนั้นได้ดีพอดีกว่าผิดอย่างแม่นยำ)และลงทุนเมื่อธุรกิจนั้นคุ้มค่ากับเงินลงทุน  :mrgreen:
sutian
Verified User
โพสต์: 138
ผู้ติดตาม: 0

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณครับ

สังเกตเห็นว่า การลงทุนของปู่บัพ ยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนเลย
----
Linsu_th
Verified User
โพสต์: 497
ผู้ติดตาม: 1

มุมมองของ Buffett ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 22/1/09

โพสต์ที่ 10

โพสต์

วอร์เรน บัฟเฟตต์' สบายดีอยู่หรือ!โดย : วิบูลย์ พึงประเสริฐ
ถาม: วิกฤติที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย มีผลกระทบต่อปรัชญาการลงทุนของคุณหรือไม่
บัฟเฟตต์: ไม่เลย เหมือนผมต้องการซื้อฟาร์ม ผมคงไม่เปลี่ยนแนวทางในการซื้อฟาร์มของผม เช่นเดียวกับการซื้อบ้านหรือซื้อธุรกิจ หุ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้าผมต้องการซื้อหุ้นในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งในเมืองนี้ ผมคงใช้แนวทางที่เคยใช้เมื่อสองปีที่แล้วและก็เป็นแนวทางที่จะใช้ในอีกสองปีข้างหน้า
ผมจะดูว่าผมจะได้อะไรจากเงินที่ลงทุนไป ผู้บริหารเป็นอย่างไร บริษัทนั้นมีความสามารถในการแข่งขันหรือไม่และฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร ถ้าพูดถึง "ตลาดหุ้น" ขอให้คุณลืมมันไปได้เลย สำหรับหุ้นทุกตัวที่ผมมีผมว่าผมคงถือต่อไปอย่างมีความสุข ถึงแม้ตลาดหุ้นจะปิดไปสักห้าปีนับจากวันนี้ พูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ผมซื้อธุรกิจ ผมไม่ได้ซื้อหุ้น ผมซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจเหมือนผมซื้อฟาร์ม และมันไม่เคยเปลี่ยน พวกข่าวร้ายต่างๆ ในโลกนี้ไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถซื้อของได้ถูกกว่าวันนี้ มันอาจถูกลง คำถาม ก็คือตอนซื้อนั้นมันคุ้มค่าเงินที่ลงทุนแล้วหรือยัง
โพสต์โพสต์