Banks face huge losses from $50B 'scam'

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Hughes
Verified User
โพสต์: 1088
ผู้ติดตาม: 0

Banks face huge losses from $50B 'scam'

โพสต์ที่ 1

โพสต์

subprime ไม่พอ เจอนี่ต่อ
ทำไมแบงค์ซื่อบื้อกันจัง
แชร์แมนเก่า NASDAQ โกงเอง

Banks face huge losses from $50B 'scam'
Some of the biggest names in global finance say they have lost hundreds of millions of dollars in an alleged $50 billion "pyramid scheme" that led to the arrest of a New York financier last week. Former Nasdaq chairman Bernard Madoff, pictured above, has been arrested and charged with a single count of securities fraud. full story
http://edition.cnn.com/2008/BUSINESS/1 ... index.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
กระทิงแดง
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

Banks face huge losses from $50B 'scam'

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เหลือเชื่อจริงๆ ยิ่งกว่า Hedgefund อีก...:shock:  :shock:  :shock:

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

ปิดโปง เบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อาชญากรการเงินผู้ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลก

เบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค กลายเป็นบุคคลที่ถูกสปอทไลท์จับจ้องมากที่สุดในเวลานี้ นับตั้งแต่เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) บุกจับกุมตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในข้อหาจัดตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบของ แชร์ลูกโซ่ (ponzi scheme) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งกองทุน นักลงทุนผู้มั่งคั่งและผู้มีชื่อเสียง สูญเงินไปกับการหลอกลวงในครั้งนี้เป็นวงเงินถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมาดอฟฟ์ได้ใช้ประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่ตนเองมีในฐานะผู้บริหารตลาด หุ้นนาสแดคและหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของตลาดหุ้นแห่งนี้ มาเป็นเครื่องมือหลอกลวงให้สถาบันการเงินทุ่มเงินเข้ามาลงทุนในแชร์ลูกโซ่ จนทำให้เขากลายเป็นอาชญากรข้ามคืนไปในที่สุด

คำว่า Ponzi scheme หรือ แชร์ลูกโซ่ คือแผนหลอกลวงที่มีลักษณะคล้ายกับ Pyramid scheme โดยมีเป้าหมายหลอกผู้ที่นำเงินมาลงทุนกลุ่มแรกๆว่าพวกเขาจะได้รับอัตราผลตอบ แทนสูงมาก แต่ผู้หลอกลวงกลับนำเงินลงทุนของนักลงทุนรุ่นหลังๆมาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่ นักลงทุนกลุ่มแรกๆ ซึ่งแชร์ลูกโซ่ประเภทนี้ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกา

        คดีฉ้อโกงของมาดอฟฟ์ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในคดีการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดใน ประวัติศาสตร์สหรัฐ หลังจากที่ได้เกิดคดีใหญ่สะท้านวงการธุรกิจโลกอย่าง "คดีเอ็นรอน" ในปีพ.ศ.2544 ซึ่งครอบคลุมสินทรัพย์ทั้งหมด 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า มาดอฟฟ์สามารถใช้กองทุนจอมปลอมแห่งนี้หากินได้อยู่เป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีบุคคลระดับแนวหน้ามากมายเข้ามาเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ลวงโลก ครั้งนี้ ... แต่ที่สร้างความกังขาให้กับนักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทมากที่สุดคือ ศักยภาพในการตรวจสอบกรณีอื้อฉาวของคณะการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐ (SEC) เพราะ SEC ควรจะต้องตรวจสอบบริษัทของมาดอฟฟ์อย่างละเอียด แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า เมื่อครั้งที่มีการตรวจสอบครั้งแรกในปีพ.ศ. 2535 นั้น SEC ไม่พบความผิดปกติใดๆ นอกจากนี้ การตรวจสอบอีกสองครั้งในปีพ.ศ. 2547 และ 2550 ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติเช่นกัน

        การกระทำของมาดอฟฟ์ไม่เพียงแต่คนทั้งโลกจะไม่สามารถยอมรับได้เท่านั้น แม้แต่บุตรชายทั้งสองของเขา คือ มาร์ค มาดอฟฟ์ และ แอนดรูว์ มาดอฟฟ์ ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพ่อ เพราะเมื่อมาดอฟฟ์ได้สารภาพกับบุตรชายทั้งสองของเขาว่า ธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ที่ตั้งขึ้นในนามของเขานั้นเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมายและสร้าง ความเสียหายให้กับลูกค้าเป็นวงเงินสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งมาร์คและแอนดรูว์ พร้อมใจกันไปแจ้งความต่อ FBI ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมาดอฟฟ์ในที่สุด ในเวลาต่อมาผู้พิพากษาศาลกรุงนิวยอร์กมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของ มาดอฟฟ์

        ก่อนหน้านี้ คดีเอ็นรอน ก็เคยสร้างรอยด่างในหน้าประวัติศาสตร์การเงินของสหรัฐอย่างชนิด "ลบไม่ออก"มาแล้ว และทำให้สภาคองเกรสอัดฉีดทั้งงบประมาณและกำลังคนให้กับ SEC เพื่อควานหาตัวผู้กระทำความผิดในตลาดการเงินมาจัดการให้สิ้นซาก แต่มาดอฟฟ์ยังสามารถลอยนวลอยู่ได้ทั้งๆที่อยู่กลางนครนิวยอร์ก ขณะที่อัยการรัฐนิวยอร์กระบุว่า มาดอฟฟ์เก็บงบการเงินธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ของเขาไว้เป็นความลับมาเป็นเวลานาน แล้ว
       
        ข่าวการฉ้อโกงที่ฉกฉวยเอาความไว้วางใจของสถาบันการเงินทั่วโลกมาเป็น "เครื่องมือ" ในการหลอกลวงของมาดอฟฟ์ครั้งนี้ สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากมีข้อมูลระบุว่า สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่งได้รับความเสียหายจากคดีแชร์ ลูกโซ่ครั้งนี้ รวมถึงธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง HSBC

        บัญชีรายชื่อสถาบันการเงิน บริษัท มูลนิธิ กองทุน และบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ต้องสูญเงินไปกับคดีแชร์ลูกโซ่อื้อฉาวของมาดอฟฟ์ ถูกเปิดเผยออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งที่สามารถรวบรวมได้ส่วนหนึ่งมีดังนี้

        - HSBC ธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษ  1,000,000,000 ดอลลาร์
        - โนมูระ โฮลดิ้งส์ บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น 304,000,000 ดอลลาร์
        - บีเอ็นพี พาริบาส์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป 480,000,000 ดอลลาร์
        - โซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของฝรั่งเศส 13.3 ล้านดอลลาร์
        - แฟร์ฟิลด์ กรีนวิช กรุ๊ป 7,500,000,000 ดอลลาร์
        - กรูโป แซนแตนเดอร์ เอสเอ 3,200,000,000 ดอลลาร์
        - แนติกซิส เสียหาย 617,000,000 ดอลลาร์
        - รอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ 612,000,000 ดอลลาร์
        - บีบีวีเอ 452,000,000 ดอลลาร์
        - แมนกรุ๊ป 360,000,000 ดอลลาร์
        - ไรช์มุช แอนด์ โค 332,000,000
        - ยูนิเครดิต 103,000,000 ดอลลาร์
        - ยูเนียน บังแคลร์ ไพรวี หลายพันล้านดอลลาร์
        - เบเนดิค เฮนช์ แอนด์ โน เอสเอ 48,300,000 ดอลลาร์
        - รอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ หลายพันล้านดอลลาร์
        - บังโค ซานตานเดร์ ธนาคารรายใหญ่สุดของสเปน หลายพันล้านดอลลาร์
        - กองทุนคณะกรรมการตำรวจดับเพลิงแห่งรัฐคอนเน็กติกัต 41,900,000 ดอลลาร์
        - กองทุนมอร์ติเมอร์ บี ซูคเคอร์แมน 30,000,000 ดอลลาร์
        - ฟีนิกซ์ โฮลดิ้งส์ 15,000,000 ดอลลาร์
        - ฮาเรียล อินชัวรันซ์ อินเวสท์เมนท์ แอนด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส 14,300,000
        - เครดิต อะกริโคล 13,700,000 ดอลลาร์
        - มูลนิธิโรเบิร์ต ไอ แลพพิน 8,000,000 ดอลลาร์
        - มูลนิธิครอบครัววุฒิสมาชิก แฟงค์ ลอเทนเบิร์ก ยังไม่ทราบจำนวน
        - มูลนิธิสตีเวน สปีลเบิร์ก กว่า 12 ล้านดอลลาร์
        - นอร์แมน แบรแมน อดีตผู้ว่าการรัฐฟิลาเดลเฟีย ยังไม่ทราบจำนวน
        - เจ เอซรา เมอร์กิน ประธานจีเอ็มเอซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ยังไม่ทราบจำนวน ฯลฯ

        สถาบันการเงิน มูลนิธิ และบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้สูญเสียเงินไปแบบชนิดที่ไม่ควรจะเสียกับกอง ทุนแชร์ลูกโซ่ลวงโลกของมาดอฟฟ์  แม้มาดอฟฟ์จะได้รับการยอมรับจากบุคคลในแวดวงการเงินว่าเป็นนักบริหารจัดการ ด้านการเงินที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดคนหนึ่ง แต่ ณ วันนี้ มาดอฟฟ์กลายเป็นอาชญากรเศรษฐกิจที่สามารถลอยนวลอยู่กลางมหานครอย่างนิวยอร์ก หลังจากศาลอนุญาตให้มาดอฟฟ์ได้รับการประกันตัวออกไปโดยใช้สินทรัพย์มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา... การกระทำของมาดอฟฟ์ถือเป็นการ "ซ้ำเติม" สถาบันการเงินทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากภาวะเศรษฐกิจถด ถอยและวิกฤตการณ์การเงิน ซึ่งถือว่ามาดอฟฟ์ "สอบตก" ทุกวิชาในบททดสอบของชีวิต ทั้งในด้านคุณธรรม และมโนธรรม
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
โพสต์โพสต์