ถามหน่อยครับ ผมหัดเล่น(พอร์ตจำลอง)

[Guiman]

สวัสดีคร้าบพี่ๆ ผุ้เชี่ยวชาญทั้งหลายค้าบ

ผมพึ่งมาใหม่ อยากลองเล่น ลองศึกษาดู อายุ18 จะ 19
ยังไม่มีตังจะไปเล่นจริงๆ
ตอนนี้มีพอร์ตจำลองที่ puntip กับ settrade

ผมอยากทราบว่า
1.จะหาผลกำไร 10 ปีย้อนหลังของบริษัทที่จดทะเบียนใน set ได้ที่ไหนครับ

2.ผมดูใน settrade มันมีกำไรต่อหุ้นมาให้แล้ว สามารถนำมาหา p/e ได้เลยหรือปล่าวครับ p/e ที่ได้จะตรงกับของจริงหรือเปล่าว ถ้าไม่ตรงผมจะสามารถหาค่า กำไรสุทธิ ของบริษัทได้ที่ไหนครับ

3.ในการซื้อ ควรลงเงินไม่เกินกี่เปอเซน ของเงินลงทุนทั้งหมดครับ (พันทิพให้ 1 ล้านบาท , settrade ให้ 50000บาท)

4.วันนี้ผมซื้อ BANPU ไปที่ราคา 154 บาท จำนวน 600 หุ้น (พอร์ตจำลองนะ) อยากทราบว่า ผมซื้อที่ราคานี้ เวลานี้ สมเหตุสมผลหรือเปล่าครับ

ช่วยตอบให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆๆคร้าบ

[kornjackrit]

สวัสดีครับ  :D
ดีใจที่ได้เจอรุ่นเดียวกัน 555+
( ผมก็ 18 ครับ )

ขอตอบให้เท่าที่พอจะทราบนะครับ

ข้อ 1
หาได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ หรือ เว็บไซต์ของตัวบริษัทเอง
หรือไม่ก็ขอไฟล์จากพี่ครรชิตในเว็บบอร์ด Thaivi ได้ครับ

ข้อ 2
 กำไรต่อหุ้นในเว็บ settrade ผมไม่แน่ใจว่าเป็นกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้ว
( 4 ไตรมาส ล่าสุด ) หรือยัง ถ้าเป็นแล้วก็ใช้ได้เลยครับ แต่ถ้าไม่ใช่ต้องปรับปรุงก่อน แต่มีข้อควรระวังนิดนึงในการใช่ค่า P/E
เพราะ ค่า P/E ที่คำนวณได้เป็นค่าในอดีตซึ่งไม่สามารถจะใช้ได้ในอนาคต เราต้องทำการประเมิน กำไรต่อหุ้นในอนาคตก่อนถึงจะหาค่า P/E ในอนาคตของบริษัทได้ สาเหตุที่ต้องใช้ค่าในอนาคต ก็เพราะว่าการที่เราลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทใดก็ตาม เราคาดหวังผลตอบแทน ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต
ดังนั้นการประเมินจึงต้องประเมินอนาคตไม่ใช่ปัจจุบันหรืออดีตครับ

ข้อ 3
 ผมว่าจำนวนเงินที่เราควรจะลงทุนในหุ้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ความรู้เกี่ยวกับบริษัทที่จะลงทุน ระยะเวลาที่ต้องการใช้เงินที่ลงทุน ผลตอบแทนที่คาดหวัง ฯลฯ ดังนั้น จึงไม่มีเกณฑ์ที่แน่นอนว่าเราควรจะลงทุนจำนวนเงินเท่าใดครับ

ข้อ 4
คำถามนี้ตอบได้ยากมากครับ เพราะ ขึ้นอยู่กับแนวทางการลงทุนของแต่ละคน แต่ผมขอตอบตามหลักการของ VI นะครับ จริงๆ การลงทุนซื้อหุ้นตามแนว VI นั้น เราจะต้องประเมินมูลค่าของบริษัทให้ได้ก่อน
และจะลงทุนก็ต่อเมื่อราคาลดต่ำกว่ามูลค่าที่เราประเมินได้
ดังนั้น การซื้อหุ้นโดยที่ไม่เข้าใจว่าบริษัท
ทำกำไรได้เท่าไหร่ ฐานะการเงินเป็นอย่างไร มีแนวโน้มอนาคตที่ดีหรือไม่ คือ การลงทุนที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งถึงแม้สมมุติว่าเราได้กำไร กำไรที่เราได้นั้นก็ควรจะเรียกว่ากำไรที่เกิดจากความโชคดี มากกว่า ความสามารถ ซึ่งในระยะยาวแล้วไม่มีใครสามารถโชคดีได้ตลอดไปครับ

สำหรับหุ้นบ้านปู ผมต้องยอมรับว่าไม่ได้ติดตาม เพราะไม่มีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทแต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่า ถ้าคุณ Guiman ได้ประเมินบริษัท Banpu มาเป็นอย่างดีแล้ว และเชื่อว่าราคาที่ 154 บาท นั้นต่ำกว่ามูลค่า
ที่ประเมินได้ ผมคิดว่าการลงทุนของคุณ Guiman ก็เรียกได้ว่า
สมเหตุสมผล ครับ

[Guiman]

 ขอบคุนคร้าบบ ท่าน kornjackrit ดีใจเหมือนกัน รุ่นเดียวกัน (แต่ท่าจะเก่งพอตัว)

ข้อ3. ความเสี่ยงผมรับได้สุดๆ (ก้อพอร์ตจำลองอะนะ) ผลตอบแทนที่คาดหวังยังไม่ได้คิด

ข้อ4. ผมยังไม่รุ้ว่าผม เป็นแบบ เทคนิค หรือ ปัจจัยพื้นฐานครับ ผมศึกษาเบื้องต้น มาทั้งสองแบบ คร่าวๆ (คร่าวมากๆ) แล้วก้อชอบทั้งสองแบบ ส่วนการวิเคราะห์ที่ผมใช้นี่คงเรียกว่ามั่วเอาครับ เพราะได้ยิน ชื่อ Banpu จากทีวีบ่อยมากๆ ได้ยินคำร่ำลือมาก้อมาก เลยไปดูว่าเขาทำธุรกิจอะไร และก้อไปดูราคาย้อนหลัง 6 เดือน มันลงจาก 500 มาเหลือ 180 แล้วช่วงนั้นตลาดลงเนื่องจาก วิกฤตการ แฮมเบอเกอ ก้อเลยรอ จนมันผงกหัวขี้น นิดนึง แล้วดูค่า p/e (ประมาณ 9เท่า) และก้อดูกราฟเทคนิค นิดหน่อยคับ

ดูแล้ว วิธีวิเคราะห์ของผมมันก้อมั่วๆ ลวกๆ แต่ผมก้อค่อยๆเก็บความรุ้ไปเรื่อยๆอะคับ ตอนนี้มั่วช่างมัน เพราะมันเงินปลอม ผมคิดว่าถ้าจบมหาลัย ผมน่าจะพอลงทุนในตลาดหุ้นของจริงได้

(ผมจะเข้า เศรษฐศาสตร์ เกษตร คับ กะลังเตรียมตัว แอดมิดชัน เลยมาเล่นหุ้นจำลอง แก้เซง แทนเล่นเกม มันได้ตามข่าวด้วย เปนความรู้รอบตัวดีคับ ถ้าผม ent เสร็จ คงเต็มที่กว่านี้)

ปล.ขอบคุนน้าค้าบบ

[kornjackrit]

ผมก็ VI ฝึกหัดครับ  :roll:
แต่ก็ยินดีครับที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ  

[jajam]

เคยเป็นนักลงทุนฝึกหัดมาเหมือนกัน ฝึกไปๆมาๆคิดว่าเอาเลยดีกว่า ไม่เริ่มก็ไม่เรียนรู้ ต่างกันเยอะมากนะครับ เงินซิม กับเงินจริง

เล่าสู่กันฟังละกันนะครับ เผื่อเป็นแนวทาง
1. ก่อนจะลงทุนก็ต้องเปิดพอร์ตก่อน เปิดพอร์ตก็ต้องใช้เงิน ส่วนเงินที่เปิดพอร์ตก็ประมาณห้าหมื่นครับแล้วแค่โบรกเกอร์ ผมก็ไปเปิดบัญชีใหม่บัญชีนึงเพื่อให้เป็นบัญชีสำหรับลงทุนจริงๆ คราวนี้ก็เอาเงินเข้าทุกเดือน เดือนละห้าพัน (เอาตามความเหมาะสมของแต่ละคนครับ คนเราต้องกิน ต้องใช้ ต้องผ่อน เข้าใจครับ) ฝึกให้เป็นนิสัยครับ แรกๆผมก็ขัดๆเหมือนกัน แต่พอทำซัก 3-4 เดือนจะเริ่มชิน ยิ่งเห็นเงินออมเรามีเยอะขึ้นเรื่อยยิ่งดีใจ ลองดูครับไม่ยากจนเกินไป นิสัยการใช้เงินของเราจะเริ่มเปลี่ยนไปเอง ผมเองเคยเป็นคนใช้เงินเก่งก็เริ่มคิดหน้าคิดหลังเวลาใช้เงินครับ เวลาเก็บเงินให้หักก่อนเลยเวลาได้เงินมา อย่าคิดว่าเหลือแล้วค่อยเก็บ ไม่เหลืออยู่แล้วครับ ขอย้ำจริงๆว่าของอย่างนี้ต้องฝึกครับ ปีเดียวก็เปิดพอร์ตได้แล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเอาเงินเข้าบัญชีเหมือนเดิม ก็ถือว่าเป็นการออมเงินครับ ผมทำมาสองปีกว่าแล้ว พอร์ตเล็กๆแต่ก็ภูมิใจที่เปลี่ยนนิสัยได้ครับ

2. ทีนี้พอกลายเป็นการลงทุนด้วยเงินจริง หึหึหึ มันแตกต่างจากพอร์ตจำลองโดยสิ้นเชิงครับ เพราะเงินจริง จ่ายจริง คิดอยู่นานมากก่อนเคาะซื้อตัวแรก เล็งแล้วเล็งอีกครับ แนะนำให้อ่านหนังสือเยอะๆครับ เอาความรู้มาประกอบกันเพื่อเป็นแนวทางของตัวเอง แนวทางของผมคือ

"ใช้เวลากับการเลือกหุ้นให้เยอะ พอเลือกได้แล้วว่าเป็นหุ้นดี คราวนี้ตอนซื้อไม่ต้องคิดมากแล้ว ถ้าราคาต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ก็ซื้อเลย เราลงทุนซื้อเก็บอยู่แล้ว ไม่ได้เก็งกำไร"

ลองดูครับ ไม่ยากมาก มีคนบอกว่า"ถ้าเราไม่เริ่มก้าวเดิน เราจะอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน" หวังว่าทุกคนที่อยากเริ่มลงทุนคงสำเร็จสมความตั้งใจครับ

[Guiman]

ขอบคุนค้าบ ท่าน jajam

ตอนนี้มีตังเกบ ประมาณ พันเดียวเอง - -
ซื้ออะไรๆหมด

แต่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเก็บเงินแล้วครับ เขาให้จ่ายให้ตัวเองก่อน ผมกำลังฝึกอยุ่ครับ เค้าให้แยกเปนงี้
10% เพื่ออิสรภาพทางการเงิน
10% เพื่อการศึกษา
10% เพื่อถลุง (เค้าใช้คำนี้เลย หนังสือชื่อ ถอดรหัสลับ ไขสมองเงินล้าน)
70% ใช้จ่าย
ทำมาได้ 1 เดือนคับ

กว่าจะมีตังเปิดพอร์ตจริง คงอีกยาวหลายปี ตอนนี้ก้อจำลองไปก่อนคับผม

ขอบคุณมากคร้าบ  :D

[kornjackrit]

ตอนนี้มีตังเกบ ประมาณ พันเดียวเอง - -
ซื้ออะไรๆหมด

แต่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเก็บเงินแล้วครับ เขาให้จ่ายให้ตัวเองก่อน ผมกำลังฝึกอยุ่ครับ เค้าให้แยกเปนงี้
10% เพื่ออิสรภาพทางการเงิน
10% เพื่อการศึกษา
10% เพื่อถลุง (เค้าใช้คำนี้เลย หนังสือชื่อ ถอดรหัสลับ ไขสมองเงินล้าน)
70% ใช้จ่าย
ทำมาได้ 1 เดือนคับ

ผมว่าคุณ Guiman ทำได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมมากแล้วครับ
 

เงินต้นอาจจะไม่สำคัญเท่ากับที่เราคิดก็ได้ครับ
ผมว่าสิ่งที่สำคัญจริงๆอยู่ที่ระยะเวลาและผลตอบแทนครับ
คุณ Guiman  อายุ 18 ปี ถ้าพร้อมลงทุนตอนอายุ 20 ปี
จนถึง 60 ปี ก้จะมีเวลาลงทุนถึง 40 ปี มากเกินพอครับ
แต่ถ้าคิดจะลงทุนตลอดไปยิ่งมีเวลาเหลือเฟือ
ลองคิดดูว่าได้ผลตอบแทน 10 % ( เฉลี่ยของตลาด) ต่อปี 40 ปี
เงินจะงอกเงยขนาดไหน ไม่นับเงินที่จะสามารถนำมาลงทุนเพิ่มได้อีก
ถ้าอยู่แบบพอเพียงยังไงก้มีอิสรภาพทางการเงินครับ( ก่อน 40 ปีแน่นอน อิอิ )

ผมฟันธง !!
เอิ๊กๆ

ปล.อ่านหนังสือเล่มเดียวกันด้วยครับ 555+
 :D

[kornjackrit]

"ใช้เวลากับการเลือกหุ้นให้เยอะ พอเลือกได้แล้วว่าเป็นหุ้นดี คราวนี้ตอนซื้อไม่ต้องคิดมากแล้ว ถ้าราคาต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ก็ซื้อเลย เราลงทุนซื้อเก็บอยู่แล้ว ไม่ได้เก็งกำไร"

เ้ห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ครับ
 

[jajam]

ดีแล้วครับ เริ่มตั้งแต่อายุน้อยๆ ผมกว่าจะมาคิดได้ก็ 27 แล้ว
คิดช้ากว่าคุณ Guiman ตั้งเกือบสิบปีแหนะ ตอนเรียนอยู่เก็บเงินได้ไม่เยอะก็ไม่เป็นไรครับ ถือเป็นช่วงฝึกหัดการออมเงินไป ตอนทำงานได้เงินเยอะขึ้นจะเก็บเงินมาลงทุนได้เยอะเองเพราะชินแล้ว ถ้าทำงานก็ได้เงินครับแต่นิสัยการออมถ้าไม่ฝึก เงินไม่มีเหลือครับ เคยมาแล้ว...หลายปีด้วย เริ่มฝึกตั้งแต่ตอนนี้แหละครับ...ใจล้วนๆ...เอาใจช่วยครับ

[Guiman]

ขอบคุณ ทุก คอมเม้น

คร้าบบบบผม

[กล้วยไม้ขาว]

ผมแก่กว่า หน่อยนึง แต่ความรู้ยังงู ๆ ปลา ๆ

ตอนนี้ 22 ครับ อยู่ในช่วงทดลองลงทุนด้วยเงินจริงครับ  :8)

เห็นด้วยเรื่องนิสัยการออมครับ ถ้าไม่มีวินัย ได้เยอะก็ใช้หมด