เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
surachaichia
Verified User
โพสต์: 601
ผู้ติดตาม: 4

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมจำได้ว่า ปีที่แล้ว ผมได้ดูการสัมภาษณ์ของ money channel จากนักลงทุนดีเด่นคนหนึ่ง ได้ พูดถึง การลงทุนในหุ้นน้ำมันว่าไม่ควรเนื่องจาก วัฎจักรกำลังจะเปลี่ยนแต่บอกไม่ได้ว่า จะภายในซัก สองสามปีนี้ , ผมได้มาไตร่ตรองกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมถึงตรงข้ามกับบรรยากาศลงทุน ณ เวลานั้น แล้วมีโอกาสได้ศึกษาเพิ่มแนวทางของ VI จึงเข้าใจว่าทำไม , ถึงวันนี้มาดูข่าวแล้วสะท้อนใจบางอย่างว่า
    ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง 2.01 ดอลลาร์สหรัฐไปปิดที่ระดับ 99.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ราคาดิ่งลงไปแตะที่ระดับ 98.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา

            ความรู้การลงทุนของคนไทยยังน้อย, แต่โชคดีว่า ผมเชื่อคำทำนายดังกล่าวและได้ขาย กลุ่มนำมันไปตั้งแต่ก่อนกลางปี ในอนาคตผมเชื่อว่าน้ำมันก็จะกลับมาได้ แต่ไม่ใช่ช่วงนี้ ถ้าretrospective ไปในวั้นน้น คนทั่วไปส่วนมากแล้วรวมนักวิเคราะห์ทั้งหลายคงไม่เชื่อมากนัก หรือรู้แต่ไม่พูดด้วยเหตุผลที่อาจจะมี conflict of interest ต้องยกนี้วให้ ประธานเว็บนี้จริงๆ
          หวังว่า การคาดการณ์ดีๆน่าจะมีมาอีกนะครับ ขอบคุณมาก :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nongki
Verified User
โพสต์: 1222
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พี่หมอท่านวินิจฉัยได้แม่นยำจริงๆ

ตลาดของเหลวอย่างน้ำมันกำลังร่วง

แต่ตลาดของแข็งอย่างเหล็ก,ทองแดงท่าจะรุ่ง

เลือกซื้อตัวไหนตามพี่ไม่เคยมีพลาด

แต่จังหวะซื้อขายตอนไหน ยังต้องเรียนวิชาจากพี่หมออีกเยอะ

:lol:
เรารักในหลวง  เรารักอำมาตย์  เราเกลียดคนขายชาติ  เรารักประชาธิปไตย
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4562
ผู้ติดตาม: 40

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

พี่หมอ.....ฟันธงงงง...  :8)
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
V_accy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 1

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ชื่นชมพี่ๆด้วยคนครับ
....

แต่ถ้าพี่เขาคาดการณ์ผิดขึ้นมาอย่างไปว่าพี่เขานะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 46

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับที่ให้เครดิต

แต่ไม่กล้ารับครับ

มีนักลงทุนหลายท่านเคยถามผมเมื่อต้นปีว่า
ทองกับน้ำมันน่าลงทุนหรือไม่
เพราะตอนนั้นถ้าใครไม่เล่นทองกับน้ำมัน
ก็น่าจะตกเทรนด์

ผมตอบ(เดา)ว่าในระยะยาวแล้ว
ทองกับน้ำมันน่าจะมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น
แต่ว่าในระยะสั้นๆอาจจะยังขึ้นก็ได้
ซึ่งผลก็ปรากฏว่า
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 46

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 6

โพสต์

อันนี้เป็นมุมมองของดร.นิเวศน์ต่อน้ำมันครับ
บทความนี้ อยู่ในหน้าแรกของเวปเราครับ

http://www.thaivi.com/article/value-inv ... rgies.html

Peak Energies ดอยพลังงาน
โลกในมุมมองของ Value Investor


ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  29 มิถุนายน  2551

               
พฤติกรรมของกำลังการผลิตของน้ำมันปิโตรเลียมที่กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นในช่วงแรกและจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดหลังจากที่แหล่งน้ำมันถูกดูดออกไปใช้ประมาณครึ่งบ่อ  หลังจากนั้นกำลังการผลิตจะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ  จนหมดบ่อ    ซึ่งเราเรียกกำลังการผลิตที่จุดสูงสุดนี้ว่า  Peak Oil นั้น   ในความเป็นจริง  ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะน้ำมันปิโตรเลียม   แต่รวมไปถึงพลังงานประเภทอื่นทั้งหมดที่เป็นพลังงานประเภทใช้แล้วหมดไปไม่สามารถผลิตขึ้นใหม่ได้เช่นเดียวกับน้ำมัน     ลองมาไล่ดูว่ามีพลังงานอะไรบ้าง

               แก๊สธรรมชาติ  นี่คือพลังงานที่กำลังมาแรงหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ   ผมยังจำได้ว่าในสมัยก่อนเขาต้องจุดไฟเผาทิ้งเวลาที่ขุดเจอน้ำมันแล้วมีแก๊สธรรมชาติผสมมาด้วย    ในปัจจุบันดูเหมือนว่าแก๊สธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่มีค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าน้ำมัน   การใช้แก๊สธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ    ว่าที่จริงในเมืองไทยเรานั้น  ในการผลิตไฟฟ้าดูเหมือนว่าเราจะใช้แต่แก๊สธรรมชาติเป็นหลัก   เพราะนี่คือสิ่งที่เราค้นพบในบ้านเรา   ในระดับโลกเอง   แก๊สธรรมชาติก็มีการใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ  ปริมาณการใช้ประมาณ 60% ของน้ำมัน   อย่างไรก็ตาม   แก๊สธรรมชาติเองนั้นก็มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะมีกำลังการผลิตใกล้  Peak หรือยอดดอยเหมือนกัน   นั่นคือ  บางคนบอกว่าภายใน 3-4 ปีนี้   อย่างมากไม่เกิน 13-14 ปี  กำลังการผลิตถึงจุดสุดยอดแน่นอน   หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ  ลดลง    เรื่องนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้   เพราะอย่างแหล่งแก๊สของไทยเองก็ดูเหมือนว่าจะมีเวลาหมดภายในเวลา 10 หรือ 20 ปีเหมือนกัน

               ถ่านหิน   นี่คือแหล่งพลังงานที่ใหญ่มากหรืออาจจะเรียกว่าใหญ่ที่สุด   แต่นี่ก็เช่นเดียวกัน  มี  Peak Coal  หรือดอยถ่านหินเช่นกัน   เพราะถ่านหินนั้น   ในช่วงที่พบหรือเริ่มผลิตแรก ๆ   เราสามารถที่จะขุดได้ง่าย   แทบจะเรียกว่าตักได้เลยจากพื้น   และถ่านหินที่เริ่มมีการขุดชุดแรก ๆ  มักจะเป็นถ่านหินคุณภาพดีที่ให้พลังงานสูงและมีเศษเหลือที่ไม่พึงประสงค์น้อยพูดง่าย ๆ  เป็นถ่านหินคุณภาพดี   หลังจากนั้น  พอถึงจุดสุดยอด   ถ่านหินที่ขุดง่าย ๆ  ก็จะหมดไป   จะต้องขุดลึกลงไปเรื่อย ๆ  และถ่านหินที่ได้มีคุณภาพแย่ลงเรื่อย ๆ    และนี่คือปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิด  Peak Coal  ในทำนองเดียวกับ  Peak Oil   สรุปว่า   กำลังการผลิตถ่านหินนั้นก็ใกล้ถึงจุดสุดยอด   แม้ว่าจะดูว่าสำรองของถ่านหินนั้นมีมหาศาล  แต่กำลังการผลิตใกล้ถึงจุดสูงสุด   คาดการณ์กันว่าประมาณ  13  ปีข้างหน้าเช่นเดียวกับแก๊สธรรมชาติ

               พลังงานนิวเคลียร์สำหรับหลายคนอาจจะบอกว่าเป็นทางออกหลังจากน้ำมันหมดโลก   เพราะนอกจากจะเป็นพลังงานที่สะอาดแล้ว   มันยังไม่ก่อให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย    แต่นี่ก็เช่นกัน   มันจะเกิดจุดที่กำลังการผลิตถึงจุดสูงสุดคือเกิด Peak เหมือนกัน   เพราะแร่ยูเรเนียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เหมาะสมนั้นก็กำลังใกล้หมดและราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ   การค้นพบก็น้อยลงเรื่อย ๆ   และคาดว่าจะเกิด  Peak  ในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า

               พลังงานอีกอย่างหนึ่งที่เริ่มมีการใช้มากขึ้นก็คือ  ทรายน้ำมันและหินน้ำมันซึ่งมีมากในแคนาดา   การใช้ก็คือ   นำมันมาสกัดเพื่อให้ได้น้ำมันดิบออกมา    แต่การสกัดน้ำมันจากทรายและหินน้ำมันนั้นใช้พลังงานมหาศาลและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก   ดังนั้น   นี่ก็คงจะทำได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

               นอกจากพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป   ทางออกที่จะใช้พลังงานที่ผลิตขึ้นใหม่ได้เองก็มีปัญหาในด้านของกำลังการผลิตเช่นกัน   ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

               พลังน้ำ    นี่คือพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากเขื่อนต่าง ๆ    นับถึงวันนี้อาจจะพูดได้ว่าเขื่อนใหญ่ ๆ  ทั้งหลายในโลกนี้   ถูกสร้างหมดไปแล้วโดยเขื่อนสุดท้ายน่าจะเป็นเขื่อนไตรผาที่เมืองจีน   แต่เขื่อนนั้นรวมกันทั้งหมดสามารถให้พลังงานคิดเป็นเพียงประมาณ 2- 3% ของการใช้พลังงานของโลกเท่านั้น

               พลังงานที่กำลังร้อนแรงมากหลังจากราคาน้ำมันขึ้นไปสูงก็คือพลังงานชีวภาพ  เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ  เอธทานอล  ที่เราเอามาผสมเป็นแก๊สโซฮอล   หลายคนคิดว่านี่คือทางออกโดยเฉพาะในประเทศของเราที่สามารถปลูกพืชผลได้มากพอที่จะทำเอธทานอลใช้แทนน้ำมันได้   แต่ถ้ามองกันในภาพใหญ่ระดับโลกแล้ว   การเอาพืชมาทำเป็นพลังงานนั้น    ในทางทฤษฎี   อย่างน้อยก็ในขณะนี้   เป็นสิ่งที่ยังไม่มีเหตุผล   เพราะการปลูกพืชนั้นเราต้องใช้พลังงานเช่น   ต้องเอารถมาไถหว่าน   ต้องใส่ปุ๋ยซึ่งมาจากน้ำมัน   ต้องรดน้ำ  ต้องเก็บเกี่ยวที่ต้องใช้เครื่องจักร   ต้องนำผลิตผลไปส่งที่โรงงาน   และในโรงงานก็ต้องใช้พลังงานในกระบวนการผลิต   เสร็จแล้วก็ต้องนำเอาเอธทานอลที่ได้ไปส่งที่ปั๊ม    คิดแล้ว   พลังงานที่ใช้ไปในการผลิตเอธทานอลหนึ่งลิตรนั้น   เผลอ ๆ จะมากกว่าพลังงานที่ได้จากเอธทานอลหนึ่งลิตรด้วยซ้ำ   เพราะฉะนั้น   ในระยะยาวแล้ว   พลังงานจากพืชจึงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาพลังงานหมดโลก

         พลังงานที่ดูเหมือนว่าจะมีมากอย่างไม่จำกัดและมีต้นทุนในการผลิตต่ำมากก็คือ  พลังงานแสงแดด   พลังงานลม  พลังงานจากคลื่นในทะเล   และที่น่าสนใจมากก็คือ  พลังความร้อนจากใต้ดินลึกลงไปในโลก    ปัญหาของพลังงานเหล่านี้ก็คือ   การลงทุนสร้างแผงเซลแสงอาทิตย์    การสร้างกังหันลม   การสร้างอุปกรณ์ทั้งหลายที่จะมาจับพลังงานเหล่านี้มาใช้นั้น  ต้องลงทุนและ  "ใช้พลังงาน"  มหาศาล  เช่นต้องใช้เหล็กซึ่งเหล็กเองต้องใช้พลังงานมาถลุงและอื่น  ๆ   อีกมาก    เหนืออื่นใดก็คือ   นับถึงวันนี้   พลังงานในกลุ่มนี้ยังมีการใช้น้อยมากรวมกันแล้วเพียงไม่เกิน  1%  ของการใช้พลังงานทั้งโลก   ดังนั้น  การหวังพึ่งพิงพลังงานจากแหล่งเหล่านี้จึงยังหวังไม่ได้

         ข้อสรุป ณ.วันนี้ก็คือ  พลังงานของโลกทุกแหล่งน่าจะ  Peak  หรือมีกำลังการผลิตสูงสุดในช่วงประมาณปี 2020 ถึง 2025 หรืออีกประมาณ 12-17  ปี ข้างหน้า  ยกเว้นว่าจะมีพลังงานอะไรใหม่ขึ้นมาในโลก  ซึ่งการ Peak  นี้ก็อาจจะนำไปสู่การขัดแย้งเพื่อแย่งแหล่งพลังงานกัน   หนทางแก้ก็คือ   การลดการบริโภคพลังงานลง   และการลดการบริโภคที่ดีที่สุดก็คือ   ราคาของพลังงานก็ควรจะต้องเพิ่มขึ้น   ทั้งหมดนี้   ยังเป็นเรื่องของการคาดเดาและไม่ได้เป็นการบอกใบ้ว่า  ราคาของพลังงานทุกชนิดจะต้องเพิ่มขึ้นหรือหุ้นพลังงานทุกตัวน่าจะดี    พูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเอธทานอล   ผมยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน  คนบอกว่า  ถ้าราคาน้ำมันถึง 40-50 เหรียญต่อบาร์เรล  การผลิตเอธทานอลจะคุ้มค่าเพราะต้นทุนของเอธทานอลอยู่ตรงนี้   แต่พอน้ำมันขึ้นไปเป็น 100  เป็น 130 เหรียญ  การผลิตเอธทานอลก็ยังไม่เห็นได้กำไรเป็นเรื่องเป็นราว  เหตุผลก็คือ   เมื่อราคาน้ำมันเพิ่ม  วัตถุดิบและค่าใช้จ่ายต่าง  ๆ   ในการผลิตเอธทานอลก็ขึ้นตาม   อย่าลืมว่า   การผลิตเอธทานอลนั้นก็ต้องใช้น้ำมันและพลังงานไม่น้อย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 7

โพสต์

[quote="สามัญชน"]
ในเรื่องทองนั้น
ผมยังคิดเหมือนเดิม
เพราะทองเป็นสินค้าที่
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมก็ยังเชื่อว่ามนุษย์จะสามารถคิดค้นพลังงานทดแทนน้ำมันได้ก่อนที่จะถึงวันนั้นครับ เวลาอีกร่วม40 ปีผมเชื่อว่ามากพอที่ทำให้มนุษญ์สามารถปรับตัวได้อย่างสบายๆ

เทคโนโลยีปราศจากน้ำมันหลายอย่างๆก็ถูกคิดค้นลำหน้าไปไกลกว่าข่าวที่เห็นๆกันอยู่ ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ

ยกตัวอย่างบ.น้ำมันยักษ์ใหญ่แห่งนึง เมื่อต้นปีก็เห็นมีการเปิดเผยว่านักวิทยาศาสตร์ของบริษัทได้มีการค้นพบวิธีที่ทำให้รถวิ่งได้โดยไม่ใช้น้ำมันเลยออกมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้โปรโมตข่าวออกมาภายนอกมากนักและไม่ทำเทคโนโลยีนั้นมาใช้เพราะด้วยเหตผลทางธุรกิจ (ถ้าทำก็เป็นเหมือนทำลายธุรกิจน้ำมันตัวเอง)

ยังไงก็ตามสิ่งสำคัญสำหรับวันนี้คือ ประหยัดพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อยืดเวลาให้คนเราได้มีเวลาปรับตัวไปสู้โลกพลังงานใหม่ได้อย่างทรมาณน้อยที่สุด :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 46

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 9

โพสต์

chatchai เขียน:
ผมว่าทองคำไม่เหมือนโลหะอื่นๆ

ดีมานด์คงไม่ใช่มาจากประชาชนซื้อเพื่อเป็นเครื่องประดับอย่างเดียวนะครับ
ทองก็คล้ายโลหะอื่นๆ
ทั้งที่เป็นธาตุและสารประกอบ
คือใช้แล้วไม่หมดไป
ไม่ว่าจะถูกใช้ไปทำอะไร

ทำเครื่องประดับ
ทำมือถือ(เป็นชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคส์ภายในเครื่องนะครับ ไม่ใช่ทำตัวเครื่อง )
ทีวี คอมพิวเตอร์
ใช้เคลือบเครื่องยนต์
เครื่องมือทันตกรรม
ชุดนักบินอวกาศ (เคลือบบางๆเพื่อป้องกันรังสีที่อันตราย)

ทั้งหมดนี้สามารถรีไซเคิลได้
โลหะอื่นก็เช่นกัน
เพราะสสารย่อมไม่สูญสลาย เพียงแต่เปลี่ยนรูปไปมาจากธาตุเป็นสารประกอบ
หรือสารประกอบไปเป็นธาตุคืน
ยกเว้นยูเรเนี่ยม หรือสารกัมมันตภาพอื่นๆที่มีการสลายตัวตามธรรมชาติที่จะหมดลงเรื่อยๆ

และราคายูเรเนี่ยมคงจะไม่เป็นวัฏจักรเหมือนโลหะอื่นๆ เพราะมันมีน้อยลงเรื่อยๆนั่นเอง
โดยเฉพาะช่วงที่มันใกล้จะหมดจริงๆ

ความนิยมในการรีไซเคิลก็ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่าย
ว่าถูกหรือแพงกว่าการถลุงจากสินแร่
เมื่อไหร่ที่ถูกกว่า
เมื่อนั้นธาตุเหล่านี้ก็จะกลับมาเป็นซัพพลายได้อีก  ไม่มีวันจบ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
surachaichia
Verified User
โพสต์: 601
ผู้ติดตาม: 4

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 10

โพสต์

น่าสนใจกับ วัฎจักรที่จะเปลึ่ยนไปเมื่อระยะเวลาผ่านไป อาจจะเป็น ในแง่ cycle period change หรือ สินค้าวัฎจักรเปลี่ยนเป็นไม่ใช่วัฎจักร ในความเห็นส่วนตัว คือ ประเทศที่กุมเทคโนโลยีกำลังรอให้การใช้น้ำมันหมดไปเรื่อยๆ ถึงจุดหนื่ง กลุ่มนี้จะมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างที่ ยุคของ บิลเกตต์ทำมา ช่าวเล็กๆ ที่ญี่ปุ่นใช้ H2O แปลงอนุมูลเป็นพลังงานวิ่ง รถขนาดเล็กได้ อาจจะเป็นรูปธรรมขึ้นในอนาคต :idea:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nongki
Verified User
โพสต์: 1222
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ทอง รีไซเคิลได้

แต่น้ำมันถูกเผา ระเหยกลายเป็นไอ

อยากได้ทองเส้นใหม่  เอาเส้นเก่ามาหลอมได้

แต่อยากได้น้ำมันถังใหม่  ต้องรอซากทับถมเป็นล้านปี

พี่หมอวิเคราะห์ได้คมจริงๆครับ  เห็นภาพเลย

นาทีนี้  น้ำมันมีค่ากว่าทอง

อนาคต  คงต้องหาพลังงานทดแทนน้ำมัน  แน่ๆเลย  ล้านปีรอไม่ไหว

:lol:
เรารักในหลวง  เรารักอำมาตย์  เราเกลียดคนขายชาติ  เรารักประชาธิปไตย
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ทองคำ  จะสามารถใช้แทน กระดาษใบสีเขียวๆ  ได้เป็นอย่างดีในอนาคต
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Polar Bear
Verified User
โพสต์: 109
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 13

โพสต์

วันนี้ทองน่าจะบวกวันเดียวกว่า 1000 บาทเลยนะครับ ลงทุนในทองคำเมื่อราคาสมเหตุสมผลมันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ก็คงไม่ต่างจากการเลือกซื้อหุ้นช่วงราคาถูกๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Polar Bear
Verified User
โพสต์: 109
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อผมเชื่อการคาดการณ์ของ "สามัญชน"

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ราคาฟิวเจอร์สอย่าไปดูเลยครับ นักลงทุนทั่วๆไปชาวไทยน้อยคนนักที่ไปลงทุนฟิวเจอร์สทอง และก็รู้กันอยู่แล้วว่าฟิวเจอร์สทองไม่มีการส่งมอบจริง

ตอนนี้แค่ราคาทองในประเทศกับต่างประเทศยังไม่สัมพันธ์กันเลยครับ วันนี้อยากเป็นร้านทองจังเลย รับซื้อในประเทศแล้วไปขายนอกประเทศ กำไรบานเลย
โพสต์โพสต์