หุ้นถูกเรื้อรัง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pp9009
Verified User
โพสต์: 184
ผู้ติดตาม: 1

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จากบทความ หุ้นถูกเรื้อรังของท่าน อาจารย์ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

มีหุ้นตัวไหนบ้างครับ ที่เข้าข่ายเป็น หุ้นถูกเรื้อรัง
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมมอง TR ตัวแรกละกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 38

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

akekarat เขียน:ผมมอง TR ตัวแรกละกัน
คิดเหมือนกันผมเป๊ะๆๆๆ :lol:
zephyr
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 978
ผู้ติดตาม: 31

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

GeneraX เขียน: คิดเหมือนกันผมเป๊ะๆๆๆ :lol:

ผมก็คิดเหมือนกันครับ :(
ภาพประจำตัวสมาชิก
Loby
Verified User
โพสต์: 1650
ผู้ติดตาม: 3

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมคิดว่าน่าจะเป็น TMD มากกว่านะครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2502
ผู้ติดตาม: 9

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ROH, TWFP ครับ  :cry:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
preeda_mark
Verified User
โพสต์: 173
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมว่า TMD  สังเกตุดีดี งบไตรมาสแรก ตัวกิจการกำไรเพิ่มนะ แต่ที่เห็นลดเนื่องจาก ปีที่แล้วมีรายได้พิเศษทางบัญชีเข้ามา และปัจจุบันแม้ราคาเหล็กรีดเย็นจะขึ้นแต่ตัวกิจการก็สามารถขึ้นราคาลูกค้าได้ ผมซื้ออยู่ปีที่แล้ว ถังใบละ 650 ปีนี้ขั้นเป็น 950 ส่วนราคาถังหมุนเวียนตอนนี้ขยับเป็น 450-650 แล้วแต่สภาพ จากเดิม 200-250 เมื่อก่อนผมมักซื้อถังหมุนเวียนแต่ตอนนี้ ราคาไม่ต่างกันมากซื้อถังใหม่่ดีกว่าสบายใจกว่า ดูดีกว่า (น้ำหนักถังเหล็กอยู่ที่ 18-22 kg) ลองเทียบต้นทุนราคาเหล็กดู ยิ่งขึ้นราคาถังกับลูกค้าได้ด้วย ส่วน ธุรกิจอื่นผมว่าก็อยู่ตัวนะทั้ง ตึกที่เช่า โรงงานฉีดขวด พลาสติก แต่รายได้หลักมาจาก ถังเหล็ก ผมว่าน่าสนใจนะ อันนี้มุมมองผมนะที่ทำธุรกิจขายน้ำมันหล่อลื่น
A man from the Islay
Verified User
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

SUC นี่เข้าข่ายมั๊ยฮ่ะ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2913
ผู้ติดตาม: 10

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

akekarat เขียน:ผมมอง TR ตัวแรกละกัน
ขี้เหนียวเงินปันผลซะขนาดนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมีบึงกุ่ม
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 408
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ดร.นิเวศน์ เขียน:อย่าซื้อหุ้นเหล่านี้เมื่อราคาหุ้นเพิ่งมีการปรับตัวขึ้นไปแรง เพราะหลายครั้งการปรับตัวขึ้นไปนั้นเกิดจากแรงซื้อของใครก็ตามที่เข้ามา และเนื่องจากหุ้นมีสภาพคล่องต่ำราคาจึงขึ้นไปแรง แต่เมื่อแรงซื้อหมด ราคาก็มักจะค่อย ๆ ปรับตัวกลับลงมา ดังนั้น ถ้าจะซื้อหุ้นถูกเรื้อรัง เราควรจะซื้อตอนที่หุ้นอยู่นิ่ง ๆ ในราคาถูกมาก
ตรงนี้โดนจริงๆ ครับ เหมือนตอนที่ผมเข้าซื้อ TR หลังประกาศผลประกอบการก้าวกระโดดเลย  หากได้อ่านก่อนก็จะดี

แต่ผมเห็นว่า TR นั้นมีกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นระยะเวลายาวนาน P/E อาจจะลงมาเหมือนเดิม แต่ราคาน่าจะต้องเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการครับ

[/b]
phemstap
Verified User
โพสต์: 1273
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 11

โพสต์

มาลองพิจรนาดู STANLY :

หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีคุณสมบัติร่วมกันบางอย่างดังต่อไปนี้ =>

1) เป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่น่าสนใจ หลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรม ตะวันตกดิน อีกหลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่โตช้าหรืออิ่มตัว (ไม่ใช่)

2) หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีผลการดำเนินงานที่ดีเข้าข่ายเป็นหุ้นคุณค่าทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ตัวเลขยอดขายและกำไรที่ค่อนข้างจะสม่ำเสมอต่อเนื่องมาหลายปี ยอดขายและกำไรของหลายบริษัทอาจจะไม่ค่อยเติบโตมากนัก แต่บางบริษัทก็เติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ เรียกว่าผลการดำเนินงานนั้นอยู่ในข่ายที่สามารถ คาดการณ์ได้ เช่นเดียวกัน บริษัทเหล่านี้มักจะมีปันผลสม่ำเสมอและผลตอบแทนจากปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีคือประมาณ 5- 6 % ต่อปี (ไม่ใช่ Y-Y โต ปันผลก็โต แต่น้อยกว่าการโตของกำไร จ่ายแค่ 3-4%)

3) ฐานะทางการเงินของบริษัทในกลุ่มนี้ค่อนข้างมั่นคง หนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินมักจะมีน้อยหรือไม่มีเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลายบริษัทมีเงินสดมหาศาลจนเกินความจำเป็น  (ใช่)

4) ถ้าวัดความ ถูก ของหุ้นจากค่า PE หรือดูจากราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้นก็จะพบอีกว่า หุ้นเหล่านี้มีค่า PE ที่ค่อนข้างต่ำ นั่นคือ เกือบทั้งหมดมีค่า PE ต่ำกว่า 10 เท่า หลายบริษัทมีค่า PE เพียง 7-8 เท่าหรือต่ำกว่าก็มี (ใช่ 8.x เท่า)

5) ในด้านของการบริหารงานของกิจการ สิ่งที่มักจะพบก็คือ บริษัทน่าจะมีการบริหารที่ดี หลายบริษัทอาจได้รับรางวัลดีเด่นด้านการผลิต หลายบริษัทก็มีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจที่ใช้ได้ มองในด้านของการคุมโรงงานหรือบริหารการขาย หรือการจัดการโดยทั่วไปแล้ว บริษัทเหล่านี้มักอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (ใช่ ได้รับรางวัล)

มองให้ลึกลงไปอีก =>

1) เมื่อมีกำไรบริษัทมักจะจ่ายปันผลในอัตราที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มีสถานะใกล้เคียงกัน หลายบริษัทจ่ายปันผลเพียง 25-30 % ของกำไรทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่ได้มีหนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินเลย (ไม่ใช่ จ่ายที่ 30-40%)

2) บริษัทเหล่านี้ เนื่องจากมีกำไรต่อเนื่องและจ่ายปันผลน้อย หลายบริษัทจึงมีเงินสดเหลือมาก แต่แทนที่จะจ่ายคืนให้กับผู้ถือหุ้น กลับนำไปฝากแบงค์หรือซื้อตราสารการเงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ โดยเหตุผลอาจจะเป็นว่าเพื่อสำรองไว้ใช้ขยายงานหรือรองรับกับภาวะ วิกฤติ ในอนาคต บางบริษัทก็นำเงินสดที่มีไปขยายงานโดยเฉพาะในกิจการที่อยู่ในต่างประเทศหรือบริษัท ในเครือ มากมายไม่มีที่สิ้นสุด (มองว่าใช่นะ)

3) บริษัทเหล่านี้มักมีผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของที่ไม่ค่อยได้แสดงตัวต่อสาธารณชน คนที่ออกมาให้ข่าวและแถลงรายงานตอบคำถามต่าง ๆ มักเป็นผู้จัดการที่เป็นลูกจ้างที่ไม่ได้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ มองอีกด้านหนึ่งก็อาจจะเป็นว่า เจ้าของตัวจริงนั้นมีกิจการอื่น ๆ ที่มีค่าและต้องการเวลามากกว่ากิจการของบริษัทที่พูดถึง และนี่อาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เจ้าของตัวจริงไม่สนใจที่จะจัดสรรเงินของบริษัทให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการจ่ายปันผล แต่อาจจะอยากเก็บเงินไว้ในบริษัทแล้วใช้ประโยชน์จากบริษัทแทนเช่น เอาบริษัทไว้ใช้ในการลงทุนกิจการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับกิจการของเครือ เอาบริษัทไว้ใช้เป็นที่ตั้งให้ผู้มีอุปการคุณเป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นลูกจ้าง และอื่น ๆ อีกร้อยแปด (ไม่ใช่ ก็เห็นคุณอภิชาติออกข่าว และถือหุ้นเยอะ ทำงานหนัก)

สรุปคะแนนทั้งหมด => ไม่ใช่หุ้นถูกเรื้อรัง แต่ว่า => ราคาไม่ไปไหน  :cry:
คลายเครียด
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1741
ผู้ติดตาม: 6

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมเชื่อว่า  หุ้นถูกเรื้อรังที่ว่า  แทบจะทุกตัว
เป็นหุ้นที่เคยถูกปั่นให้ราคาสูงลิบลิ่วมาแล้วทั้งนั้น  
ให้ลองหาราคาหุ้นย้อนหลังดูครับ

ตอนมันราคาแพงมากๆ  เจ้าของก็อาจจะขายทิ้ง
แล้วกลับมารับหุ้นคืน ตอนมันถูกๆ
ก็เท่ากับว่ามีหุ้นเท่าเดิม  
มีอำนาจบริหารเหมือนเดิม
แต่ว่าได้เงินลงทุนกลับออกไปจนหมดแล้ว

ก็เลยไม่สนใจว่า  ราคาหุ้นทุกวันนี้จะเป็นอย่างไร
แค่กินเงินค่าบริหารกับโบนัส   กินปันผลก็พอแล้วครับ
เผลอๆก็อาจจะตั้งบริษัทลูกนอกตลาด
มารับซื้อสินค้าจากบริษัทแม่ในราคาถูกๆ
ไปขายต่อ  กินกำไรอีกทอด
รายงานก็ไม่ต้องรายงาน  เพราะไม่ใช่บริษัทในเครือ


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:
Mr.Freeze
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 13

โพสต์

SVI.... :roll:
Mr.Freeze
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 14

โพสต์

SVI.....

มาลองพิจรนาดู SVI :

หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีคุณสมบัติร่วมกันบางอย่างดังต่อไปนี้ =>

1) เป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่น่าสนใจ หลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรม ตะวันตกดิน อีกหลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่โตช้าหรืออิ่มตัว (No)

2) หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีผลการดำเนินงานที่ดีเข้าข่ายเป็นหุ้นคุณค่าทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ตัวเลขยอดขายและกำไรที่ค่อนข้างจะสม่ำเสมอต่อเนื่องมาหลายปี ยอดขายและกำไรของหลายบริษัทอาจจะไม่ค่อยเติบโตมากนัก แต่บางบริษัทก็เติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ เรียกว่าผลการดำเนินงานนั้นอยู่ในข่ายที่สามารถ คาดการณ์ได้ เช่นเดียวกัน บริษัทเหล่านี้มักจะมีปันผลสม่ำเสมอและผลตอบแทนจากปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีคือประมาณ 5- 6 % ต่อปี (Yes)

3) ฐานะทางการเงินของบริษัทในกลุ่มนี้ค่อนข้างมั่นคง หนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินมักจะมีน้อยหรือไม่มีเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลายบริษัทมีเงินสดมหาศาลจนเกินความจำเป็น  (Yes)

4) ถ้าวัดความ ถูก ของหุ้นจากค่า PE หรือดูจากราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้นก็จะพบอีกว่า หุ้นเหล่านี้มีค่า PE ที่ค่อนข้างต่ำ นั่นคือ เกือบทั้งหมดมีค่า PE ต่ำกว่า 10 เท่า หลายบริษัทมีค่า PE เพียง 7-8 เท่าหรือต่ำกว่าก็มี (Yes 5.x)

5) ในด้านของการบริหารงานของกิจการ สิ่งที่มักจะพบก็คือ บริษัทน่าจะมีการบริหารที่ดี หลายบริษัทอาจได้รับรางวัลดีเด่นด้านการผลิต หลายบริษัทก็มีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจที่ใช้ได้ มองในด้านของการคุมโรงงานหรือบริหารการขาย หรือการจัดการโดยทั่วไปแล้ว บริษัทเหล่านี้มักอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (No)

มองให้ลึกลงไปอีก =>

1) เมื่อมีกำไรบริษัทมักจะจ่ายปันผลในอัตราที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มีสถานะใกล้เคียงกัน หลายบริษัทจ่ายปันผลเพียง 25-30 % ของกำไรทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่ได้มีหนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินเลย (Yes)

2) บริษัทเหล่านี้ เนื่องจากมีกำไรต่อเนื่องและจ่ายปันผลน้อย หลายบริษัทจึงมีเงินสดเหลือมาก แต่แทนที่จะจ่ายคืนให้กับผู้ถือหุ้น กลับนำไปฝากแบงค์หรือซื้อตราสารการเงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ โดยเหตุผลอาจจะเป็นว่าเพื่อสำรองไว้ใช้ขยายงานหรือรองรับกับภาวะ วิกฤติ ในอนาคต บางบริษัทก็นำเงินสดที่มีไปขยายงานโดยเฉพาะในกิจการที่อยู่ในต่างประเทศหรือบริษัท ในเครือ มากมายไม่มีที่สิ้นสุด (Yes...SVI China)

3) บริษัทเหล่านี้มักมีผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของที่ไม่ค่อยได้แสดงตัวต่อสาธารณชน คนที่ออกมาให้ข่าวและแถลงรายงานตอบคำถามต่าง ๆ มักเป็นผู้จัดการที่เป็นลูกจ้างที่ไม่ได้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ มองอีกด้านหนึ่งก็อาจจะเป็นว่า เจ้าของตัวจริงนั้นมีกิจการอื่น ๆ ที่มีค่าและต้องการเวลามากกว่ากิจการของบริษัทที่พูดถึง และนี่อาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เจ้าของตัวจริงไม่สนใจที่จะจัดสรรเงินของบริษัทให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการจ่ายปันผล แต่อาจจะอยากเก็บเงินไว้ในบริษัทแล้วใช้ประโยชน์จากบริษัทแทนเช่น เอาบริษัทไว้ใช้ในการลงทุนกิจการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับกิจการของเครือ เอาบริษัทไว้ใช้เป็นที่ตั้งให้ผู้มีอุปการคุณเป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นลูกจ้าง และอื่น ๆ อีกร้อยแปด (Yes)
phemstap
Verified User
โพสต์: 1273
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 15

โพสต์

BAT-3K.....

มาลองพิจรนาดู BAT-3K :

หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีคุณสมบัติร่วมกันบางอย่างดังต่อไปนี้ =>

1) เป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่น่าสนใจ หลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรม ตะวันตกดิน อีกหลายบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่โตช้าหรืออิ่มตัว (รวมๆน่าจะ No ยังขยายตัวเพราะยอดขายรถ)

2) หุ้นถูกเรื้อรังนั้นมีผลการดำเนินงานที่ดีเข้าข่ายเป็นหุ้นคุณค่าทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ตัวเลขยอดขายและกำไรที่ค่อนข้างจะสม่ำเสมอต่อเนื่องมาหลายปี ยอดขายและกำไรของหลายบริษัทอาจจะไม่ค่อยเติบโตมากนัก แต่บางบริษัทก็เติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ เรียกว่าผลการดำเนินงานนั้นอยู่ในข่ายที่สามารถ คาดการณ์ได้ เช่นเดียวกัน บริษัทเหล่านี้มักจะมีปันผลสม่ำเสมอและผลตอบแทนจากปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีคือประมาณ 5- 6 % ต่อปี (Yes)

3) ฐานะทางการเงินของบริษัทในกลุ่มนี้ค่อนข้างมั่นคง หนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินมักจะมีน้อยหรือไม่มีเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลายบริษัทมีเงินสดมหาศาลจนเกินความจำเป็น  (Yes)

4) ถ้าวัดความ ถูก ของหุ้นจากค่า PE หรือดูจากราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้นก็จะพบอีกว่า หุ้นเหล่านี้มีค่า PE ที่ค่อนข้างต่ำ นั่นคือ เกือบทั้งหมดมีค่า PE ต่ำกว่า 10 เท่า หลายบริษัทมีค่า PE เพียง 7-8 เท่าหรือต่ำกว่าก็มี (Yes PE 4-5)

5) ในด้านของการบริหารงานของกิจการ สิ่งที่มักจะพบก็คือ บริษัทน่าจะมีการบริหารที่ดี หลายบริษัทอาจได้รับรางวัลดีเด่นด้านการผลิต หลายบริษัทก็มีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจที่ใช้ได้ มองในด้านของการคุมโรงงานหรือบริหารการขาย หรือการจัดการโดยทั่วไปแล้ว บริษัทเหล่านี้มักอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (Yes)

มองให้ลึกลงไปอีก =>

1) เมื่อมีกำไรบริษัทมักจะจ่ายปันผลในอัตราที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มีสถานะใกล้เคียงกัน หลายบริษัทจ่ายปันผลเพียง 25-30 % ของกำไรทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่ได้มีหนี้สินที่เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินเลย (Yes 29-36%)

2) บริษัทเหล่านี้ เนื่องจากมีกำไรต่อเนื่องและจ่ายปันผลน้อย หลายบริษัทจึงมีเงินสดเหลือมาก แต่แทนที่จะจ่ายคืนให้กับผู้ถือหุ้น กลับนำไปฝากแบงค์หรือซื้อตราสารการเงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ โดยเหตุผลอาจจะเป็นว่าเพื่อสำรองไว้ใช้ขยายงานหรือรองรับกับภาวะ วิกฤติ ในอนาคต บางบริษัทก็นำเงินสดที่มีไปขยายงานโดยเฉพาะในกิจการที่อยู่ในต่างประเทศหรือบริษัท ในเครือ มากมายไม่มีที่สิ้นสุด (No ซื้อวัตุดิบ ขยายกำลังการผลิต)

3) บริษัทเหล่านี้มักมีผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของที่ไม่ค่อยได้แสดงตัวต่อสาธารณชน คนที่ออกมาให้ข่าวและแถลงรายงานตอบคำถามต่าง ๆ มักเป็นผู้จัดการที่เป็นลูกจ้างที่ไม่ได้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ มองอีกด้านหนึ่งก็อาจจะเป็นว่า เจ้าของตัวจริงนั้นมีกิจการอื่น ๆ ที่มีค่าและต้องการเวลามากกว่ากิจการของบริษัทที่พูดถึง และนี่อาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เจ้าของตัวจริงไม่สนใจที่จะจัดสรรเงินของบริษัทให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการจ่ายปันผล แต่อาจจะอยากเก็บเงินไว้ในบริษัทแล้วใช้ประโยชน์จากบริษัทแทนเช่น เอาบริษัทไว้ใช้ในการลงทุนกิจการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับกิจการของเครือ เอาบริษัทไว้ใช้เป็นที่ตั้งให้ผู้มีอุปการคุณเป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นลูกจ้าง และอื่น ๆ อีกร้อยแปด (No กลุ่มขอไพมูล ไม่เห็นขายหุ้น ยังทำงานขยันอยู่)

เกือบจะเข้าข่ายแล้วไม้ละ ยังดีว่ายังมีธรรมภิบาลอยู่บ้าง => แต่ราคาก็ไม่ไปไหน   :cry:
MMX
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ผมว่า SMIT ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 52

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 17

โพสต์

Mr.Freeze เขียน:SVI.... :roll:
สำหรับผมเห้นต่างกันในบางกรณีนะครับ

1 no
2 no ผมว่า โต 30%  นี่ไม่น่าจะใช่พอใช้นะครับ ถ้าพอใช้ผมว่าสัก 10%
3 no เพราะใช้ขยายงานครับ จากที่ delay มาตั้งแต่ Q3-Q4 ปีก่อน แต่เงินลงทุนที่ require ทั้งหมดก็มากกว่า เงินสดอยู่ดีครับ จะมีการกู้เพิ่มอีก ที่ผมคิดคือรู้สึกว่า conservative เกินไปหน่อย
4 Yes ครับ ต่ำจริง แต่อย่าลืมว่ามี W อยู่อีกประมาณ 20% นะครับ
5 Yes

มองลึก
1 Yes เหมือนกัน ตั้งเกณฑ์มาต่ำจริงๆครับ 30%
2 No มีที่จีนที่เดียวที่เป็นโรงงานครับ ไม่ใช่ขยายไปเรื่อยๆอย่างที่ ดร หมายความ แล้วดรงงานที่จีนถ้าปีนี้ยังไม่กำไรจะมีการพิจารณาปิดด้วยครับ
3 No ครับ เพราะเจ้าของเป็นกองทุน แต่ในความหมายของ ดร. จะเป็นว่า เจ้าจะไม่ได้ใส่ใจกิจการ แล้วนำเงินไปลงทุนธุรกิจอื่น ซึ่งผมยังไม่เห้น svi ไปลงธุรกิจอื่น โดยเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นใหญ่นะครับ
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
AuI_a VI
Verified User
โพสต์: 413
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 18

โพสต์

แต่ผมกลับชอบนะ แต่ต้องเป็นหุ้นถูกเรื้อรังสักพักแล้วหาย :lol:  ไม่งั้นหาตังซื้อไม่ทัน แถมกินปันผลที่เพิ่มเรื่อยๆ  


ปล.ผมว่าหุ้นถูกเรื้อรังน่ากลัวพอๆกับหุ้นแพงเรื้อรังเหมือนกันนะ หุ้นถูกวันนึงมันแพงก็ดีไป หุ้นแพงวันนึงมันถูกแล้วจะหนาว :8)
Even Sir Isaac Newton loss in stock market

"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."

ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่  นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 19

โพสต์

bigc ก็เคยเป็นหุ้นถูกเรื้อรังมานาน แล้วราคาก็ลงไปกองอยู่ที่ 12.50 ก่อนมา 50 นะครับ
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 20

โพสต์

มีใครอ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 มิย.บ้างครับ
ใน column ของ ดร. มีรูปประกอบด้วยครับ
มีนิ้วชี้อยู่

อ่านดู เหมือน ...
(ใครมีรูปช่วย post หน่อยก็ได้นะครับ หรือเค้านำมาประกอบเฉยๆ :D )

ตอนนี้หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับ หุ้นถูกเรื้อรัง กับหุ้น VI แบบ Buffet

มันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนนะครับ
เพราะบางครั้ง หุ้นที่เรามองว่า เป็นหุ้นถูกเรื้อรัง
บางทีผ่านไป 2-3 ปี มันขึ้นมาเฉยเลย

บางหุ้นเรามองว่า มันเทพ เรื้อรัง  :D
บางทีมันก็ลงมาได้

ผมคิดว่า ราคาหุ้นนั้น มีทั้งปัจจัยพื้นฐาน และ อารมณ์ของผู้ลงทุนก็มีส่วนนะครับ
(เหมือนที่พี่คลายเครียดบอกไว้)

ส่วนใครจะทราบจริงๆว่าหุ้นที่ ดร.เขียน หมายถึงหุ้นอะไร
คงมีแต่ตัว ดร.เท่านั้นที่ทราบ

(ปล.ใครทราบช่วยบอกผมด้วยนะครับ ยินดีครับ  :lol:)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 21

โพสต์

noooon010 เขียน:อ่านดู เหมือน ...
เหมือนผมเหรอครับพี่นุ่น  :mrgreen:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 27

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 22

โพสต์

WG ล่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 23

โพสต์

CK เขียน:WG ล่ะครับ
แถม MCS ให้อีกตัว pe 4++, Div 8++%

รวมสองตัวนี่ครึ่งพอร์ทผมแล้วครับ :(  :(  ชาตินี้จะรวยกับเขาไหมนี่

ปีนี้ WG มีกระตุกให้ยิ้มได้นิดหน่อย ไตรมาสแรกก็ดูดี แต่คงต้องดูไตรมาสที่เหลือว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าเศรษฐกิจโดยรวมชะลอ ลูกค้า WG ก็คงได้รับผลกระทบเหมือนกัน
ส่วน MCS ช่วงนี้ลงลึกดีจริงๆ คงต้องดูสถานการณ์ต่อไปก่อน ไตรมาสแรกยังดูดี แต่ไม่รู้ว่าเหล็กที่ราคาแพงขึ้น บวกน้ำมันแพงนี่จะกระทบมากหรือเปล่า

ช่วงนี้ทำอะไรไม่ถูกครับ เมาหมัด เลยอยู่เฉยๆดูบอลดีกว่า
จงทนอด และอดทน
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ผมเชื่อว่า อาจารย์น่าจะหมายถึง หุ้นในเครือสหพัฒน์ นะครับ
ส่วนใหญ่หุ้นกลุ่มนี้ ถือหุ้นไขว้กันมั่วไปหมด บริษัทที่เกี่ยวข้องเยอะมาก แต่ถ้ามาดูตัวธุรกิจ ใช้ได้เลยครับ ทำกำไรได้ดี สม่ำเสมอ งบแข็งแกร่ง หนี้น้อย ชอบเก็บเงินไว้ในบริษัทและมักจะนำไปลงทุนในบริษัทที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เกี่ยวข้อง สภาพคล่องของหุ้นไม่มี ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่ไม่วิ่ง ผมไม่แน่ใจว่าอาจารย์ใช้ช่วงเวลาไหนกำหนด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 3

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ปกติถ้าผมจะดูว่าหุ้นตัวไหนถูกแต่ไม่น่าสน ก็จะดูเรื่อง

- ลักษณะการทำธุรกิจว่าเป็น Cylicle หรือเปล่า
- CG ผู้บริหาร
- Cycle ของบริษัท เช่น ไม่ Growth แล้ว อยู่ไปวันๆ
- การใช้สินทรัพย์ หุ้นบางตัวที่มีแต่เงินสดๆๆ กำไรก็ไม่ปันผลออกมา แบบนี้ผมจะดู %Div ดีกว่าว่าน่าซื้อไหมเพราะ PE ไร้ความหมาย

ตอนผมอ่าน column นี้ผมนึกถึง TR ก่อนเลย ส่วน SVI ไม่น่าจะใช่เพราะราคาที่ถูกเกิดจาก H&Q จะขายหุ้น
STANLY นี่ผมมองว่าบริษัทปันผลน้อยเพราะเก็บเงินไว้ลงทุนใน Fixed Asset ซึ่งก็เหมาะสมในระดับนึง แต่น่าจะกู้มากกว่าเพราะตอนนี้ ROE < ROA แล้ว เปลืองเงิน ผถห มากไป
BAT-3K ผมว่ามันถูกเพราะก่อนหน้านี้ตุน RM ไว้เยอะอนาคตต้องแทงหวยเอา ใครจะไปกล้าซื้อราคาแพง
TWFP ผมเห็นด้วยว่าเจ้าของชื่อเสียงไม่ดี แต่เหตุผลหลักที่ PE ต่ำน่าจะเพราะช่วงนี้มีการขยายกำลังการผลิต (>50%) ด้วยการกู้ยืมเงิน ก็ต้องใช้หนี้ก่อน ไม่สามารถปันผลระดับ 10 บาทต่อหุ้นได้เช่นเมื่อก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้น PE ระดับ 1x ต้นๆได้เลยนะครับ เพราะปันผล > กำไร
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
สวนหย่อม
Verified User
โพสต์: 912
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ขอขุดกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้งนะครับ เพราะท่านอาจารย์ IH ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้และมาโพสต์ไว้ที่ห้องบทความน่ะครับ อยากให้เพื่อนๆ พี่มาแลกเปลี่ยนข้อคิดกัน กลัวไม่มีใครเห็นน่ะะครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35016
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
Pun08
Verified User
โพสต์: 114
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ขอขุดขึ้นมาหน่อย

หุ้นถูกเรื้อรัง
ปัจจุบันยังก็ยังใช้เปรียบเทียบได้กับหุ้นหลายๆ ตัว
:cry:
naphas12
Verified User
โพสต์: 950
ผู้ติดตาม: 1

Re: หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ที่พูดมา ส่วนใหญ่เป็นหุ้นวัฏจักร กำไรมันไม่แน่นอน
soros
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 5

Re: หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ตอนนี้ยังมีอีกเหรอ :ohno:
marble
Verified User
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นถูกเรื้อรัง

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ขอส่ง sssc เข้าประกวดด้วยครับ ...
คำว่า listen นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent
โพสต์โพสต์