subprime crisis monitor

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news29/02/08

โพสต์ที่ 211

โพสต์

ประธานเฟดเชื่อไม่น่าจะเกิดภาวะ Stagflation
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกต่อคณะกรรมาธิการสายการเงินวุฒิสภาสหรัฐฯที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในคืนที่ผ่านมาเป็นคืนที่สอง โดยกล่าวว่า เฟดไม่ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าจะเกิดภาวะ Stagflation หรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ทะยานสูงขึ้น และโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เกิดภาวะดังกล่าวเหมือนกับในยุคปี 1970 อย่างไรก็ตามประธานเฟดยังคงย้ำเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

S&P ชี้สัดส่วนหนี้เสียพุ่งกระฉูดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือเรตติ้งชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกชี้ว่า อัตราส่วนของหนี้เสีย โดยเฉพาะในส่วนของตราสารหนี้ที่อยู่ในระบบการเงินสหรัฐพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2003 หรือปี 2546 จากอัตราส่วนดังกล่าว กำลังนำไปสู่โอกาสที่หนี้เสียจะกลายเป็นหนี้สูญในอนาคต ทั้งนี้ หากนับเฉพาะวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา มีมูลค่าตราสารหนี้เสียในระบบมาถึง 1.04 แสนล้านเหรียญ หรือราว 3.32 ล้านล้านบาท

CEO ธนาคารดอยช์แบงก์ชี้ อีก 9 เดือนหน้าตลาดเงินป่วน
นายโจเซฟ แอคเคอร์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเยอรมนี กล่าวว่า จะยังคงมีการตัดหนี้สูญเพิ่มขึ้น และต่อเนื่องจากบรรดาธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก จากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) เนื่องจากยังคงมีตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผลประกอบการที่ขาดทุนที่ยังไม่ได้รับการรับรู้ในทางบัญชีอีกมากมาย โดย CEO ธนาคารดอยช์แบงก์มองว่า ในช่วง 6 - 9 เดือนข้างหน้า จะเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับตลาดเงินทั่วโลก

แบงก์ชาติอังกฤษหวั่นเงินเฟ้อพุ่งเกินรับมือ
นายทิม เบสลี่ย์ หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า ต้องเฝ้าจับตาระวังการเคลื่อนไหวของเงินเฟ้ออังกฤษที่มีอัตราเร่งสูงมากขึ้น จากสาเหตุของราคาน้ำมันดิบในตลาดสำคัญทั่วโลกที่ทะยานขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนสำคัญของผู้บริโภคชาวอังกฤษที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ค่าไฟฟ้า และค่าอาหาร อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางอังกฤษยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายเงินเฟ้อของอังกฤษในช่วงระยะ 2 ปีนับจากนี้ไป ที่จะต้องอยู่ภายใน 2%

กลุ่ม G7 จับตาตลาดเงินไม่กระพริบ พร้อมอัดมาตรการทันที
นายยูกิ ชิโนฮาร่า รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 ประเทศ (G7) กำลังจับตามองอย่างไม่กระพริบกับภาวะตลาดเงินทั่วโลกที่เกิดความผันผวนในขณะนี้ ในขณะเดียวกัน กลุ่ม G7 ก็ได้เตรียมความพร้อมที่จะดำเนินมาตรการร่วมกัน เพื่อทำให้ตลาดเงินสำคัญทั่วโลกกลับมาเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ ชิโนฮาร่ายอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจการเงินของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากกว่าที่คิด และที่สำคัญ มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อครั้งการประชุมของกลุ่ม G7 ในเดือน ต.ค. ปีที่ผ่านมา

ธนาคารสหกรณ์ชั้นนำในเยอรมนีตัดหนี้สูญจากวิกฤติ Subprime
ดีซีแบงก์ ธนาคารสหกรณ์ชั้นนำ ที่มีสมาชิกกลุ่มสหกรณ์มากถึง 1 พันแห่งในเยอรมนี เป็นธนาคารสหกรณ์ล่าสุดในเยอรมนีที่มีผลประกอบการที่ย่ำแย่ และยังเตรียมตัดหนี้สูญที่เกิดขึ้นจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ด้วยมูลค่าสูงมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารสหกรณ์ดังกล่าวยังเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนของธนาคารจากมูลหนี้สูญที่ต้องตัดทิ้ง

มูลค่าหุ้น IPO ทั่วโลกหายกว่า 6.7 แสนล้านบาท
ทอมสัน ไฟแนนเชียล สถาบันข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการเงินและการลงทุนชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า มูลค่าการระดมทุนขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นทั่วโลกตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องชะลอตัวออกไปจากกำหนดการเดิม ส่งผลให้เม็ดเงินที่จะได้จากการระดมทุนจากหุ้น IPO ในช่วงเวลาดังกล่าวหายไปมากถึง 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.7 แสนล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าหุ้นไอพีโอที่ต้องเลื่อนออกไปพุ่งขึ้นถึง 2 เท่า

ดัชนีเชื่อมั่นของผู้บริโภคฝรั่งเศสดิ่งเหวในรอบ 21 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสในเดือนกุมภาพันธ์ดิ่งอย่างหนัก และเลวร้ายที่สุดในรอบ 21 ปีหรือนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสะสมค่าดัชนีดังกล่าวเป็นครั้งแรกในปี 2530 โดยค่าดัชนีดังกล่าวทรุดลงแตะที่ระดับติดลบ 35 จุด โดยลดลงต่อเนื่องจากเดือนมกราคมที่ติดลบ 34 จุด นอกจากนี้ ค่าดัชนีชี้วัดการตัดสินใจใช้จ่ายสินค้าของผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสในเดือนกุมภาพันธ์ก็ติดลบ 26 จุดเช่นกัน ซึ่งเป็นระดับที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2540 จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news01/03/08

โพสต์ที่ 212

โพสต์

ประธานเฟดยันUSจะรอดไม่เจอstagflation

โดย ผู้จัดการออนไลน์
29 กุมภาพันธ์ 2551 23:29 น.  

      เอเจนซี - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เบน เบอร์นันกี กล่าวในวันพฤหัสบดี(28)ว่า อเมริกาจะสามารถหลีกเลี่ยงไม่ต้องประสบภาวะ "stagflation" แบบในยุคทศวรรษ 1970 แต่เขาก็ยอมรับว่า แรงกดดันของระดับราคาที่พุ่งทะยานทั่วโลก ทำให้เฟดต้องลำบากยุ่งยากมากขึ้นในความพยายามที่จะประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโต นอกจากนั้น เบอร์นันกียังเอ่ยด้วยว่าคงจะมีธนาคารเล็กๆ บางแห่งต้องล้มไป จากภาวะสินเชื่อตึงตัวสืบเนื่องจากการทรุดฮวบของภาคที่อยู่อาศัย
     
      "ผมไม่คาดหมายหรอกว่าจะเกิด stagflation" เบอร์นันกีกล่าว เมื่อถูกถามในระหว่างไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา เนื่องในโอกาสการแถลงภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อรัฐสภา "ผมไม่คิดว่าเรากำลังเข้าไปใกล้ตรงไหนเลยกับสถานการณ์ที่บังเกิดขึ้นในทศวรรษ 1970 ผมคาดหมายด้วยซ้ำว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดต่ำลงมา" ภาวะ stagflation ซึ่งประธานเฟดกล่าวถึงนั้น คือการที่เศรษฐกิจเจอทั้งปัญหาอัตราเจริญเติบโตชะงักงัน และทั้งอัตราเงินเฟ้อก็ขึ้นสูง
     
      ในการแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันที่สองของการให้ปากคำ หลังจากไปแถลงต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ(27) เบอร์นันกีย้ำว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปัจจุบัน มีสาเหตุจากการที่ทั่วโลกต้องการใช้น้ำมัน โลหะ และอาหาร กันเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ แม้ต่อไปยังจะสูงอยู่ ทว่าน่าที่จะมีเสถียรภาพในระยะไม่กี่เดือนต่อจากนี้ไป
     
      "หากเป็นเช่นนั้นจริง อัตราเงินเฟ้อก็ควรจะลดต่ำลง และเมื่อเป็นดังนั้น เราก็จะมีความสามารถที่จะตอบโต้ต่อภาวะที่ทั้งเกิดการชะลอตัวในอัตราเจริญเติบโต และทั้งมีปัญหาสำคัญในตลาดการเงิน" เขากล่าวต่อ
     
      แต่เขาก็ยอมรับว่า แรงกดดันด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังละลิ่วลอยฟ่อง ในเวลาที่ราคาบ้านในสหรัฐฯกลับกำลังทรุดตัว ทำให้งานของเฟดในการพยุงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกันเอาไว้ ต้องประสบความลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตอนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งสุดท้ายในปี 2001
     
      "เราเจอแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในตอนนี้ ที่มีขนาดใหญ่โตกว่าที่เราเคยเจอในปี 2001" เบอร์นันกีบอก "ผมคิดว่าเป็นความจริงที่ทั้งการดำเนินนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน ต่างก็ต้องเผชิญกับความจำกัดเพิ่มมากขึ้นในบางระดับ"
     
      อย่างไรก็ตาม เบอร์นันกีกล่าวย้ำสิ่งที่เขาแถลงไว้กับทางสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ นั่นคือ ปัญหาหลักอยู่ที่ความเสี่ยงขาลงที่มีต่ออัตราเติบโต และเฟดจะลงมือปฏิบัติการอย่างทันเวลาตามที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโต
     
      เขายังบอกด้วยว่า ธนาคารอเมริกันขนาดเล็กๆ บางแห่งคงต้องล้มไป เนื่องจากความตึงตัวทางการเงินอันเกิดขึ้นจากปัญหาสาหัสของตลาดที่อยู่อาศัย ถึงแม้ระบบการธนาคารของสหรัฐฯโดยตรงจะยังคงมั่นคงแข็งแรง
     
      คำพูดนี้เองเมื่อบวกกับข้อมูลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุดซึ่งส่อไปในทางย่ำแย่ ก็ได้ส่งผลให้ตลาดวอลล์สตรีทถลาลงในวันพฤหัสบดี โดยตอนปิดตลาด ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ติดลบ 112.10 จุด หรือ 0.88%
     
      สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ทำให้ตลาดเป็นกังวลด้วย ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯแถลงอัตราเติบโตของสหรัฐฯในไตรมาส 4/2007 ที่ทบทวนปรับปรุงแล้ว ปรากฏว่ายังคงอยู่ที่ 0.6% เหมือนที่แถลงคราวแรกในเดือนก่อน ทั้งที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมีการปรับให้สูงขึ้นบ้างเป็น 0.8%
     
      นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานก็แจ้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานครั้งแรกประจำรอบสัปดาห์ ซึ่งปรากฏว่าสูงขึ้นมา 19,000 คน ทำให้ยอดรวมหลังปรับปัจจัยผันผวนตามฤดูกาลแล้ว มาอยู่ที่ 373,000 คน อันเป็นตัวเลขที่บางคนมองว่าใกล้กับช่วงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000025471
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news03/03/08

โพสต์ที่ 213

โพสต์

นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชี้สงครามอิรักฉุดเศรษฐกิจ
นายโจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล กล่าวว่า สงครามอิรักเป็นปัจจัยที่กดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังเป็กีดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังประเมินต้นทุนที่เสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการสร้างสงครามในอิรักยาวนานถึง 5 ปี ด้วยงบประมาณรัฐบาลสหรัฐฯสูงถึง 8.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27 ล้านล้านบาท ซึ่งอาจสูงกว่าต้นทุนสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

เฟดเตรียมเพิ่มสภาพคล่องอีก 2 รอบในเดือนนี้เกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศว่า เตรียมเปิดการประมูลสินเชื่อให้กับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ประสบวิกฤติสภาพคล่องในระบบด้วยมูลค่ามากถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1.92 ล้านล้านบาทในเดือนนี้ นอกจากนี้ FED ยังให้คำมั่นว่าจะยังคงใช้วิธีการดังกล่าวในการเพิ่มปริมาณสภาพคล่องในระบบต่อไปเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ จากมูลค่าสินเชื่อดังกล่าว จะแบ่งเป็น 2 ครั้ง ๆ ละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.6 แสนล้านบาท ในวันที่ 10 และ 24 มี.ค.นี้

เจพี มอร์แกน ชี้สิ้นไตรมาส 1/51 ขาดทุนเพิ่มกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มูลค่าทรัพย์สินที่เข้าไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 1/2551 อาจขาดทุนพุ่งสูงถึง 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.44 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้มูลค่าการตัดหนี้สูญสุทธิอาจเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงสิ้นไตรมาส 4/51 ส่วนการตัดหนี้สูญสุทธิของบัตรเครดิตในช่วงเวลาเดียวกันของธนาคารอาจสูงถึง 5% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อาจอยู่ที่ 4.5%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news05/03/08

โพสต์ที่ 214

โพสต์

Morning Brief  

ประธานเฟดแนะธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯให้ทำใจต้องยอมตัดหนี้บางส่วนทิ้ง ด้านซิตี้กรุ๊ปคาดต้องปลดพนักงานรวมเป็น 3 หมื่นคน

Posted on Wednesday, March 05, 2008
ประธานเฟดร้องขอธนาคารตัดหนี้บางส่วนจากลูกหนี้
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวต่อที่ประชุมผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในสหรัฐฯคืนที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณายกเลิกหรือตัดหนี้บางส่วนของลูกหนี้ที่มีปัญหาจากวิกฤติสินเชื่อ Subprime ประธานเฟดกล่าวต่อไปว่า ความพยายามจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและเอกชนในสหรัฐฯ เพื่อเป้าหมายในการลดอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่ไม่จำเป็นของลูกหนี้ เป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกันให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ เงินต้นของเงินกู้ต่าง ๆ ควรได้รับการปรับลดลงเพื่อสร้างความมั่นใจกลับมา

ประธานเฟดชี้ลูกหนี้เงินกู้ Subprime แบกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นกว่า 1%
ประธานเฟดยังพูดในประเด็นภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยว่า การผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียกับสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ จะยังคงเพิ่มสูงมากขึ้นในที่สุด แนวโน้มราคาบ้านที่ตกต่ำมาตลอดในสหรัฐฯจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ลูกหนี้สินเชื่อ Subprime กำลังจะต้องแบกรับต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 1% ถึงแม้ว่า เฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงอย่างมาก ประกอบกับมาตรการริเริ่มใหม่ ๆ ที่ประกาศออกมาในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสามารถชะลอผลกระทบที่เกิดขึ้นได้บ้าง ส่งผลให้ลูกหนี้รีไฟแนนซ์ได้ยาก

รองประธานเฟดเผยธนาคารต้องเพิ่มทุนและทบทวนเงินปันผล
นายโดนัลด์ โคห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวต่อที่ประชุมสภาสหรัฐฯสนคืนที่ผ่านมาเช่นกันว่า ฝ่ายบริหารของเฟดกำลังพิจารณาว่า ทุกวันนี้เฟดได้ดำเนินการสร้างหลักประกันได้เพียงพอหรือไม่ เพื่อตั้งรับและชดเชยกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และส่งผลให้เกิดภาวะชะลอตัวอย่างหนักและต่อเนื่อง นอกจากนี้รองประธานเฟดยังกล่าวเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งดำเนินการเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่อง และต้องทบทวนนโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคารที่มีต่อผู้ถือหุ้นอีกด้วย

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปอาจต้องปลดพนักงานถึง 3 หมื่นคน
ธนาคารซิตี้กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและในโลก อาจต้องปลดพนักงานสูงถึง 3 หมื่นคน หรืออาจเพิ่มสูงมากกว่านี้ ซึ่งคิดเป็น 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยจะเริ่มต้นจากปีนี้ไปจนถึงกลางปี 2553 สาเหตุจากการที่ต้องลดต้นทุนครั้งใหญ่ของธนาคารหลังต้องประสบกับความเสียหาย ด้วยการตัดหนี้สูญจากวิกฤตสินเชื่อ Subprime ที่มีมากขึ้น ทั้งนี้ยอดของพนักงานที่จะถูกปลดมากกว่าที่ประเมินไว้เดิมว่าจะปลดออกเพียง 2.4 หมื่นคนเท่านั้น

กองทุนดูไบชี้ธนาคารซิตี้กรุ๊ปต้องเพิ่มทุนมากขึ้น
กองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติของดูไบ (Dubai International Capital) เปิดเผยว่า ธนาคารซิตี้กรุ๊ปอาจมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจากนักลงทุนภายนอก สาเหตุจากผลจากผลขาดทุนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ก่อนหน้านี้ ซิตี้กรุ๊ปได้รับเงินเพิ่มทุนจากกองทุนดูไบไปแล้วในเดือนพ.ย. 50 ด้วยมูลค่าประมาณ 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.4 แสนล้านบาท

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปขาดทุนเป็นครั้งแรกหลังควบรวมกิจการ
สำหรับผลประกอบการล่าสุดในช่วงไตรมาส 4/50 ซิตี้กรุ๊ปขาดทุนสูงถึง 9,830 ล้านเหรียญ หรือ 3.14 แสนล้านบาท นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของธนาคารหลังจากควบรวมธุรกิจกันระหว่าง ซิตี้คอร์และวิลเล่ย์ ทราเวลเลอร์กรุ๊ป ในปี 2541 หรือประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มูลค่าขาดทุนเป็นผลมาจากการตัดหนี้สูญ Subprime สูงถึง 1.81 หมื่นล้านเหรียญหรือ 5.79 แสนล้านบาท

ไพร์ซวอเตอร์เฮ้าส์ชี้สหรัฐฯเสียแชมป์อันดับเศรษฐกิจ
บริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์ ซึ่งทำธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาและการตรวจสอบบัญชีการเงินชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะต้องสูญเสียตำแหน่งเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2568 หรือในอีก 17 ปีข้างหน้า และเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีขนาดเล็กกว่าเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 30% ภายในปี 2593 หรือในอีก 42 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ยราว 6.8% ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจว่า ยังน้อยกว่าเศรษฐกิจเวียดนามที่ 9.8%

เศรษฐกิจกลุ่ม EU ไตรมาส 4/50 ชะลอตัวมากขึ้น
เศรษฐกิจกลุ่ม EU ในช่วงไตรมาส 4/50 เกิดภาวะชะลอตัวลงอย่างชัดเจน หลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/50 ที่เพิ่มขึ้นถึง 0.7% สาเหตุจากภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลงจากผลของค่าเงินเหรียญยูโรที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ด้านการลงทุนก็เกิดการชะลอตัว หรือเลื่อนระยะเวลาออกไป นอกจากนี้ การใช้จ่ายของชาวยุโรปที่มีสัดส่วนมากถึง 60% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งกลุ่มกลับทรุดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่ปี 2545 โดยลดลง 0.1%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news06/03/08

โพสต์ที่ 215

โพสต์

OECD ลดเป้า GDP ของทั้งกลุ่มลงต่ำกว่า 2%
องค์การความร่วมมือเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ของประเทศสมาชิกในกลุ่ม OECD ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกชาติอุตสาหกรรมทั่วโลก 30 ประเทศ พร้อมเปิดเผยตัวเลขใหม่ว่า จะมี GDP ขยายตัวต่ำกว่า 2% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่ต่ำมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2546 อย่างไรก็ตาม นาย ฌอง ลุค ชไนเดอร์ รองผู้อำนวยการ OECD กล่าวเสริมว่า บรรดาสมาชิกทั้ง 30 ประเทศในกลุ่ม ยังมั่นใจว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ถึงขั้นถอถอยที่สมบูรณ์แบบ

นักลงทุนยุโรปมองวิกฤติไม่สิ้นสุดในไตรมาส 3/51
เซ็นต์ทิกซ์ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำแห่งหนึ่งในยุโรป เปิดเผยผลสำรวจบรรดานักลงทุนในตลาดทุน ได้แก่ นักลงทุนสถาบัน 191 รายและประเภทลูกค้าชั้นดีในยุโรปอีก 601 ราย รวมทั้งสิ้น 792 ราย ระบุว่า ราว 30% ของกลุ่มตัวอย่างคิดว่า สถานการณ์สินเชื่อในระบบการเงินที่ตึงตัวในสหรัฐฯจะมีทิศทางที่ดีขึ้นก่อนถึงไตรมาส 3/51 ในขณะที่อีก 29% มองว่า สถานการณ์จะเลวร้ายไปถึงไตรมาส 4/51 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั้ง 2 กลุ่มมองว่า วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐฯคงไม่ลุกลามไปถึงปีหน้า

CEO โกลด์แมนแซคชี้วิกฤติสินเชื่อมาถึงครึ่งทางแล้ว
นายลิลอยด์ แบล็งค์ไฟน์ วัย 53 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทหลักทรัพย์โกลด์แมนแซค กล่าวว่า ภาวะวิกฤติสินเชื่อที่ตึงตัวในขณะนี้ ซึ่งเป็นผลจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ได้สร้างความเสียหายต่อระบบสินเชื่อทั่วโลกไปแล้วอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของห้วงเวลาที่วิกฤติเกิดขึ้น ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปี วิกฤติดังกล่าวจะยังคงฉุดให้เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุนและภาพรวมยังคงตกต่ำต่อไป

ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของฝรั่งเศสขาดทุนเป็นครั้งแรกจาก Subprime
ธนาคารเครดิต อกริโคลล์ เอสเอ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของฝรั่งเศส หนีไม่พ้นที่จะต้องประสบความเสียหายจากวิกฤติสินเชื่อและตราสารหนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) โดยล่าสุดต้องประกาศตัดหนี้เสียในไตรมาส 4/50 สูงมากถึง 1,300 ล้านเหรียญ หรือราว 4.16 หมื่นล้านบาท กลายเป็นผลการดำเนินงานที่ขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ธนาคารเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปี 2544 หรือในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงถึง 23%

ดัชนีความเชื่อมั่นชาวอังกฤษทรุดหนักในรอบกว่า 3 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอังกฤษ ในเดือนก.พ. ทรุดต่ำลงมากที่สุดในรอบมากกว่า 3 ปี โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 78 จุด จากราคาน้ำมันและราคาเชื้อเพลิงประเภทอื่น ๆ ที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาจากราคาอาหารและสินค้าเกษตรที่มีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ชาวอังกฤษยังมองว่า เศรษฐกิจอังกฤษและทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวนี้เอง อาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งทะยานขึ้นแตะที่ 3.1% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ

ธนาคารดอยช์แบงก์ชี้ภาวะ Stagflation อาจแย่สุดในรอบ 30 ปี
นายนอร์เบิร์ต วอลเตอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำและขนาดใหญ่ที่สุดในเยอรมนี กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงในขณะนี้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นหรือที่เรียกกันว่า Stagflation หลังราคาพลังงานทุกรูปแบบ และราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายนอร์เบิร์ต วอลเตอร์ กล่าวอีกว่า ภาวะดังกล่าวอาจมีความรุนแรง และเป็นอันตรายมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news12/03/08

โพสต์ที่ 216

โพสต์

5 ธนาคารกลางสำคัญของโลกประกาศแผนปฏิบัติการเพิ่มสินเชื่อสภาพคล่องระบบการเงินทั่วโลก

Posted on Wednesday, March 12, 2008
แบงก์ชาติสหรํฐฯเพิ่มวงเงินสินเชื่อสภาพคล่องกว่า 6 ล้านล้านบาท
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศมาตรการด่วนในคืนที่ผ่านมาด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องมากขึ้น โดยขอปรับเพิ่มวงเงินสภาพคล่องเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ก่อนถึงวันเปิดประมูลสภาพคล่องจริง ซึ่งการปรับเพิ่มวงเงินครั้งนี้ เพิ่มจาก 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.1 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.2 ล้านล้านบาท โดยเน้นตรงไปยังบรรดา Dealer ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯโดยตรง ทั้งนี้ สินเชื่อสภาพคล่องดังกล่าว อนุญาตให้ใช้สินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้สินเชื่อเอกชนได้

แบงก์ชาติสหรัฐฯ เพิ่มวงเงินสินเชื่อ 2 สกุลแลกเปลี่ยนกับยุโร
เฟดยังประกาศเพิ่มวงเงินสกุลแลกเปลี่ยนกับธนาคารกลางสำคัญของโลก 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกลางกลุ่มยูโรโซน (ECB) ด้วยมูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 9.3 แสนล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.1 แสนล้านบาท และธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์เป็นเงิน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.2 หมื่นล้านบาท โดยเฟดให้เหตุผลว่า เพื่อผ่อนคลายภาวะสินเชื่อในระบบที่ยังคงตึงตัวในระดับสูง

แบงก์ชาติยุโรปเพิ่มสินเชื่อในตลาดเงินเกือบ 5 แสนล้านบาท
ECB ได้ออกแถลงการณ์คล้อยหลังการประกาศของเฟดไม่กี่ชั่วโมงว่า ได้ตัดสินใจเพิ่มสินเชื่อสภาพคล่องเข้าไปในระบบกาเรงินกลุ่ม EU ด้วยเช่นกัน ในมูลค่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4.65 แสนล้านบาท และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เฟดร่วมกับ ECB ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ ดำเนินมาตรการเพิ่มสภาพคล่องพร้อมกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้ ECB ชี้แจงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า คงไม่มีจำเป็นต้องเพิ่มสภาพคล่อง

แบงก์ชาติอังกฤษเพิ่มวงเงินสินเชื่อกว่า 6 แสนล้านบาท
ธนาคารกลางอังกฤษเปิดแถลงต่อมาว่า ได้เตรียมเพิ่มสภาพคล่องด้วยสินเชื่ออายุ 3 เดือน มูลค่า 1 หมื่นล้านปอนด์ หรือราว 6.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการร่วมกันของธนาคารกลางชั้นนำในฝั่งตะวันตก หรือในกลุ่ม G 10 ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมดำเนินการเพิ่มสภาพคล่องอีกครั้งในวันที่ 15 เม.ย.นี้ แต่ยังไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่า มูลค่าสินเชื่อสภาพคล่องจะเป็นเท่าไร

แบงก์ชาติแคนาดาเพิ่มสินเชื่อตลาดเงินกว่า 1 แสนล้านบาท
ธนาคารกลางแคนาดาประกาศเตรียมเพิ่มสินเชื่อสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในแคนาดา ตามแผนปฏิบัติการร่วมกันของธนาคารกลางอีก 4 แห่งที่เหลือ ด้วยเม็ดเงินที่เพิ่มเป็นเป็นเงินสดเข้าระบบในเดือน เป็นจำนวน 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.24 แสนล้านบาท ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ และยังเตรียมเพิ่มสภาพคล่องอีกครั้งในเดือนหน้าในวันที่ 3 เม.ย. โดยยังไม่มีการระบุมูลค่าสภาพคล่องที่ชัดเจนเช่นเดียวกับของอังกฤษ ทั้งนี้มูลค่าสภาพคล่องของธนาคารกลางแคนาดามีมูลค่าน้อยกว่าสหรัฐฯ

จอร์จ บุช มั่นใจมาตรการเฟดเพิ่มสินเชื่อแบงก์ในตลาดเงิน
นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจต่อนายเบน เบอร์นันกี้ ประธานเฟด เกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประกาศปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งผู้นำสูงสุดของสหรัฐฯยืนยันว่าไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ ด้านนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า พื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง แต่อาจต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการพลิกฟื้นความปั่นป่วนในระยะสั้นให้กลับคืนสู่สภาพปกติ

ผู้บริหารเฟดไม่พอใจการบริหารงานของธนาคารในสหรัฐฯ
นายแรนดัล คอสเนอร์ กรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวแสดงความไม่พอใจต่อธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ ที่ละเลยต่อวิธีการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยในบางกรณีที่เกิดขึ้น ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ที่เกิดปัญหา ไม่ได้ตระหนักอย่างรอบคอบในการเปิดความเสี่ยงกับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) นอกจากนี้วิกฤติการเงินระบบตลาดทุนที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ได้บั่นทอนความสำคัญของการบริหารจัดการประเมินความเสี่ยงในอนาคตมากขึ้น รวมถึงปัญหาสภาพคล่องที่กระทบต่อทุนของธนาคาร

รมช.คลังสหรัฐฯ ชี้ไตรมาสที่ 2/51 เศรษฐกิจฟื้นตัว
นายโรเบิร์ต คิมมิท รัฐมนตรีช่วยคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ช่วงยากลำบากในขณะนี้ แต่ผลจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลงนามโดยนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่ามากถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.65 ล้านล้านบาทนั้น จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีจุดพลิกฟื้นในช่วงไตรมาสที่ 2/2551 อย่างแน่นอน โดยจะเริ่มต้นจากการกระตุ้นกำลังซื้อของชาวอเมริกัน นำไปสู่การใช้จ่าย และการลงทุนของภาคเอกชนสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาขยายตัวมากขึ้น

ผลสำรวจชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ หลีกพ้นภาวะถดถอยได้
ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย สาขานครลอแองเจิลลิส (UCLA) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2/2551 แต่สามารถที่จะเลี่ยงภาวะถดถอยที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ไปได้ สาเหตุจากภาวะตกต่ำของอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ จะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะปกติตั้งแต่ในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป นอกจากนี้ ในด้านการจ้างงาน ผลสำรวจดังกล่าวชี้ว่า เกิดการชะลอตัวปานกลางเท่านั้น

เงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนแข็งค่ากว่า 1% ในรอบ 6 เดือนครึ่ง
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐฯ ฟื้นตัวในชั่วข้ามคืน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางสำคัญอีก 4 แห่งทั่วโลกในฝั่งตะวันตก ได้เพิ่มสภาพคล่องของตลาดเงิน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทะยานขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 5 ปี และพุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ขณะที่ดัชนีหุ้น S&P 500 พุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 8 ปี นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น และเงินฟรังค์สวิส ยังแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง และแข็งค่าขึ้นจากจุดระดับอ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับยูโรอีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news14/03/08

โพสต์ที่ 217

โพสต์

ราคาทองคำนิวยอร์กทำสถิติทะลุ 1,000 เหรียญต่อออนซ์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน ทำลายสถิติในรอบมากกว่า 28 ปีขึ้นไปเป็นผลสำเร็จ โดยมีราคาพุ่งทะลุ 1,000.01 เหรียญต่อออนซ์สำปรับสัญญาส่งมอบทองคำล่วงหน้าในเดือนเม.ย. 51 ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นถึง 19% นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 51 สาเหตุสำคัญเกิดจากนักลงทุนต้องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ วิกฤติสภาพคล่องที่ลุกลามไม่สิ้นสุด รวมถึงข่าวร้ายเกี่ยวกับกองทุน คาร์ริล กรุ๊ป ที่กำลังเข้าขั้นล้มละลายทุกขณะ

ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯทำสถิติหลุด 100 เยน แตะ 99.77 เยน
ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯทำสถิติอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2539 เมื่อเทียบกับเงินเยน โดยเงินเหรียญสหรัฐฯอ่อนค่าหลุดระดับ 100 เยนต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯเป็นครั้งแรก มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 99.77 เยน สาเหตุสำคัญมาจากความไม่เชื่อมั่นและความกังวลที่เพิ่มสูงมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง จนอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังประเมินว่า แผนปฏิบัติการเพิ่มสภาพคล่องของธนาคารกลางทั้ง 5 ประเทศสำคัญล้มเหลว

ประธานแบงก์ชาติยุโรปไม่พอใจค่าเงินยูโรผันผวนทุกวัน
นายฌอง คล๊อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางกลุ่มประเทศยูโรโซน ทั้ง 13 ชาติ (ECB) กล่าวว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ เป็นไปอย่างไม่เป็นระบบ และเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามได้รับการยืนยันจากนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯและนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯว่า สหรัฐฯยังคงยึดมั่นในนโยบายค่าเงินเหรียญสหรัฐฯแข็งค่า นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังปฏิเสธคำวิจารณ์ที่ว่า เฟด และ ECB สร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่วิกฤติสินเชื่อ Subprime

รมว.คลังสหรัฐฯ เสนอแผนกำกับดูแลธนาคารและสถาบันการเงิน
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวแถลงต่อคณะกรรมาธิการสายการเงิน การธนาคาร รัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ขอนำเสนอข้อแนะนำในการแก้ไขมาตรการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ รวมถึงสถาบันการเงินอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 20 หน้า นอกจากนี้ยังประกาศเพิ่มความเข้มข้นมากที่สุดในการกำกับดูแลสถาบันการเงินทุกประเภท ประเมินการบริหารงานของธุรกิจนายหน้าสินเชื่อบ้าน และรักษามาตรฐานบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ พร้อมเตือนว่า ให้เร่งเพิ่มทุนมากที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

อัตราเบี้ยวหนี้เดือน ก.พ. ในสหรัฐฯ พุ่งสูงเกือบ 60%
อัตราการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในเดือน ก.พ. 2551 ทะยานสูงขึ้นเกือบ 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยบริษัท เรียลลิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีชาวอเมริกันจำนวน 223,651 คนทั่วประเทศ ได้รับใบแจ้งเตือนการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้บ้านอย่างน้อย 1 ครั้งจากเจ้าหนี้ ซึ่งสูงกว่าเดือน ก.พ. 2550 ที่มีอยู่เพียง 139,922 คน โดยรัฐเนวาด้าครองอันดับ 1 อัตราผิดนัดชำระหนี้สูงสุดในสหรัฐฯ

S&P แย้มสถาบันการเงินใหญ่อาจไม่ต้องตัดหนี้สูญ
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชั้นนำของสหรัฐฯ และของโลก เปิดเผยว่า มูลค่าการตัดหนี้สูญที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Subprime) อาจพุ่งสูงถึง 2.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8.83 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณในทางบวกสำหรับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ที่จะสิ้นสุดในการตัดหนี้สูญที่เกิดขึ้นตลอดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ท่ามกลางมูลค่าหนี้สูญบางรายการที่มีความเสียหายมากกว่าผลขาดทุนที่แท้จริง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news21/03/08

โพสต์ที่ 218

โพสต์

เฟดชี้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่กู้เงินวันละ 4 แสนล้านบาท พร้อมเตรียมปล่อยกู้อีก 8 แสนล้านบาทสัปดาห์หน้า

Posted on Friday, March 21, 2008
สถาบันการเงินขอกู้เงินจากเฟดสูงถึงวันละ 4 แสนล้านบาท
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชี้หลังจากได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การประมูลขอกู้ยืมสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีสถาบันการเงินขนาดใหญ่มาขอสินเชื่อเฉลี่ยสูงถึงวันละ 1.34 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯหรือราว 4.15 แสนล้านบาท นอกจากนี้มาตรการล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่เฟดอนุญาตให้กู้ยืมโดยตรงได้ ทำให้มีการขอกู้มสูงถึง 2.88 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 8.92 แสนล้านบาท

เฟดเตรียมเพิ่มสภาพคล่องอีกวันพฤหัสบดีหน้า (27 มี.ค. 51)
ตามแผนที่วางไว้เดิม เฟดจะเสริมสภาพคล่องอีกครั้งในสัปดาห์หน้าในวันพฤหัสบดีที่ 27 มี.ค. 51 ด้วยการเสนอสินทรัพย์ทางการเงินระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ มูลค่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.32 ล้านล้านบาท ต่อจากนั้น จะเสริมภาพคล่องในลักษณะเดียวกันนี้อีกครั้งในวันที่ 3 เม.ย. 51 โดยกำหนดวงเงินกู้ยืมสูงถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.2 ล้านล้านบาท และผ่อนคลายกฎด้วยการอนุญาตให้นำหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมาค้ำประกันได้

ผลตอบแทนพันธบัตร 3 เดือนทรุดต่ำสุดในรอบ 54 ปี
สัญญาณล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นว่าสภาพคล่องยังคงฝืดเคืองในระบบการเงิน คือ อัตราดอกเบี้ยตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 3 เดือน ทรุดต่ำลงมากที่สุดในรอบ 54 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2497 หลังจาก CIT กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำแห่งหนึ่งในสหรัฐฯประกาศขอกู้ยืมเงินมูลค่า 7.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.26 แสนล้านบาท ในคืนที่ผ่านมา

ECRI ชี้ชัดวงจรเศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยชัดเจน
สถาบันวิจัยวงจรเศรษฐกิจแห่งสหรัฐฯ (ECRI) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯได้เข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการถดถอยอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ดังนั้น มาตรการเชิงรุกที่เฟดตัดสินใจลดอกเบี้ยสำคัญในช่วงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ รวมกับมาตรการการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯที่มีความหลากหลายและมีผลบังคับใช้เกือบจะทันที อาจจะช่วยป้องกันไม่ให้อัตราการทรุดตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯรุนแรงและหนักไปกว่านี้ อีกทั้งการที่เฟดตัดสินใจล่าช้าในการเพิ่มสภาพคล่องในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

OECD เผยเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังจะหยุดนิ่งในไตรมาสที่ 2
องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งมีสามาชิกทั้งหมดเป็นชาติอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลก กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังจะหยุดนิ่งจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) กลับยังอยู่ในภาวะที่ดีพอสมควร ด้านเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกอย่างญี่ปุ่น กำลังได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสหรัฐฯ ทั้งนี้ OECD คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 1/51 จะอยู่ที่ 0.1% และเป็น 0% ในไตรมาสที่ 2/51

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปเตรียมปลดพนักงานปีนี้ 2,000 คน
ธนาคารซิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและโลก เตรียมปลดพนักงานในส่วนสายงานธุรกิจหลักทรัพย์ของธนาคารมากกว่า 5% หรือราว 2,000 คน หลังจากผลประกอบการในสายงานดังกล่าวตลอดปีที่ผ่านมาขาดทุนถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.42 แสนล้านบาท เทียบกับปี 2549 ซึ่งมีกำไร 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.64 แสนล้านบาท โดยสาเหตุหลักของการขาดทุนอย่างหนักมาจากวิกฤติ Subprime ในปี 2550

ฮิลลารี คลินตัน เสนอกองทุน 9 แสนล้านบาทช่วยเศรษฐกิจ
นางฮิลลารี คลินตัน วัย 60 ปี คู่ชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเข้าชิงประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ (ในวันที่ 4 พ.ย. 51) เสนอต่อรัฐสภาให้มีการจัดตั้งกองทุนเข้าช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ต้องประสบกับวิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ราว 9.3 แสนล้านบาท เพื่อบรรเทาปัญหาอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น โดยคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะมีอายุราว 2 ปี และมีการกระจายเงินจากกองทุนไปยังรัฐและชุมชนต่าง ๆ ที่ประสบปัญหา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news03/04/08

โพสต์ที่ 219

โพสต์

ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯชี้ครึ่งแรกของปีนี้เศรษฐกิจหดตัว ยอมรับภาวะถดถอยมีความเป็นไปได้

Posted on Thursday, April 03, 2008
ประธานเฟดยอมรับครั้งแรกเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัว 6 เดือน
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการร่วมวุฒิสภา สายการเงิน การธนาคารในคืนที่ผ่านมา โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากภาคก่อสร้างบ้าน อัตราการว่างงาน และการบริโภคในสหรัฐฯ ล้วนเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ประธานเฟดกล่าวเสริมว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมแท้จริงจะไม่ขยายตัวอีกต่อไป นั่นหมายถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่ในระยะยาวแล้วโครงสร้างเศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง

ประธานเฟดชี้จำเป็นต้องอุ้มแบร์สเติร์นส์ก่อนที่จะล้มลาย
ประธานเฟดวัย 53 ปี แถลงต่อไปว่า เฟดมีความจำเป็นต้องปล่อยเงินกู้เข้าไปช่วยเหลือบริษัทหลักทรัพย์แบร์สเติร์นส์เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นแบร์สเติร์นส์จะต้องเข้าสู่กระบวนการขอพิทักษ์ทรัพย์เนื่องจากต้องตกอยู่ในสภาวะล้มละลายตามกฎหมายมาตรา 11 ในวันรุ่งขึ้นทันที นอกจากนี้แม้ในปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะพลิกฟื้นกลับมาขยายตัวได้ แต่ในแง่ภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่สูงมากในระบบ

ประธานเฟดแก้ต่างตั้งบริษัทเฉพาะกิจบริหารและขายแบร์สเติร์นส์
คณะกรรมาธิการร่วมวุฒิสภา สายการเงิน การธนาคารแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ ยังได้ซักถามในกรณีบทบาทของธนาคารกลางสหรัฐฯในฐานะสถาบันการเงินอิสระทีมีหน้าที่ในการกำกับดูแล ซึ่งต้องอำนวยความสะดวกด้านสินเชื่อในกรณีของบริษัทหลักทรัพย์แบร์สเติร์นส์ ซึ่งนายเบอร์นันกี้กล่าวว่า เฟดได้จัดตั้งบริษัทแห่งหนึ่งขึ้นมาและว่าจ้างบริษัทแบล็คร็อก อินคอร์ปอเรชั่นเข้ามาบริหาร โดยการขายสินทรัพย์ของแบร์สเติร์นส์มูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯหรือราว 9.3 แสนล้านบาท

รมว.คลังสหรัฐฯชี้รัฐบาลพร้อมอนุมัติแผนลดภาวะเบี้ยวหนี้
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของจอร์จ ดับเบิลยู บุช พร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอของรัฐสภาพสหรัฐฯ ในการควบคุมอัตราการผิดนัดชำระหนี้บ้านเพื่อที่อยู่อาศัยของชาวอเมริกัน ด้วยการขยายการรับประกันสินเชื่อบ้านโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งนี้ อัตราการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนที่ผ่านมาทะยานขึ้นมากถึง 60% หลังจากที่อัตราดังกล่าวพุ่งขึ้นทำลายสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 4/50 ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯพร้อมที่จะปรับมาตรการต่าง ๆ ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

รมว.คลังสหรัฐฯให้ความมั่นใจกับจีนว่า สหรัฐฯกำลังเร่งแก้วิกฤติการเงิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวในขณะเยือนกรุงปักกิ่ง ของจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ทางการสหรัฐฯได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ซึ่งในขณะนี้มีความคืบหน้าของมาตรการต่าง ๆ ไปมากแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯไม่รับรองว่า จะเกิดผลกระทบขึ้นกับระบบการเงินอีกหรือไม่ในอนาคต นอกจากนี้นายพอลสันยังย้ำกับผู้นำจีนว่า ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้น ยังคงแข็งแกร่งอยู่เสมอ ทั้งนี้จีนและสหรัฐฯจะได้มีการหารือเรื่องการค้ากันต่อไป

ยอดขายอพาร์ทเมนท์ย่านใจกลางนิวยอร์กทรุดหนักในรอบ 18 ปี
ยอดขายอพาร์ทเมนท์ในย่านแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองและธุรกิจชื่อดังในมหานครนิวยอร์กสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสที่ 1/51 ตกต่ำลงมากที่สุดในรอบ 18 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตัวเลขยอดขายที่ทรุดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาลดลงมากถึง 34% ส่งผลให้จำนวนห้องอพาร์ทเมนท์ที่ยังคงว่างอยู่ในตลาดเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6,194 หน่วย สาเหตุสำคัญมาจากการที่ลูกค้าชะลอการซื้อ หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯเกิดภาวะถดถอย และมีการปลดพนักงานในธุรกิจหลักทรัพย์และในตลาดหุ้นนิวยอร์กมากขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news11/04/08

โพสต์ที่ 220

โพสต์

เบน เบอร์นันกี้ ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าวิกฤติการเงินสร้างความเสียหายและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

Posted on Friday, April 11, 2008
ประธานเฟดชี้จำเป็นต้องปฏิรูประบบการเงินแก้วิกฤติ
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า องค์กรกำกับดูแลด้านระบบตลาดเงินและตลาดทุนของสหรัฐฯและระดับสากล มีจำเป็นอย่างมากที่จะต้องดำเนินการปฏิรูป เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาให้กับตลาดทุนอย่างรวดเร็วที่สุด หลังถูกกระทบจากวิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ประธานเฟดกล่าวเสริมว่า การปฏิรูประบบตลาดทุนครั้งสำคัญจะต้องเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน ปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง และเข้าถึงการประสานงานร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน

ประธานเฟดยอมรับวิกฤติการเงินครั้งนี้หนักที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลก
ประธานเฟดวัย 52 ปี กล่าวยอมรับด้วยว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีความรุนแรงมากที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันกี้ยืนยันว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่หดตัวลงจนอาจถึงขั้นถดถอยนัน ไม่เหมือนกับในยุควิกฤติเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง (The Great Depression) ในยุคปี 1930 หรือเกือบ 80 ปีที่แล้ว เนื่องจากเฟดในปัจจุบันดำเนินมาตรการในเชิงรุกมากกว่าในอดีต ดังนั้น เฟดจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ระบบการทำงานของตลาดทุนและตลาดเงินจะกลับมาเป็นปกติ

IMF ปฏิเสธไม่มีการประเมินวิกฤติการเงินล่วงหน้า
นายโดมินิค สเคร้าท์ คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อวิจารณ์ว่า IMF ไม่มีการคาดการณ์เกี่ยวกับสัญญาณเบื้องต้นของภาวะวิกฤติการเงินทั่วโลกที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน IMF ยืนยันว่า สหรัฐฯปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการปรับปรุงความมีเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจระดับชาติ หรือโครงการประเมินภาคการเงิน ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง IMF และนาคารโลกที่มีมาตั้งแต่ปี 2542 หรือ 8 ปีมาแล้ว

กองทุน Hedge Fund ชี้ฟื้นระบบการเงินหลังวิกฤติใช้เวลา 25 ปี
นายฮิวจ์ เฮนดรี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน กองทุน อิเล็กทริก้า แอสเซ็ท ซึ่งเป็นกองทุนประกันความเสี่ยง (Hedge Fund) กล่าวในการประชุมสุดยอดกองทุน Hedge Fund ที่จัดขึ้นโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า วิกฤติสินเชื่อและกาเรงินของโลกที่กำลังเกิดขึ้น จะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวยาวนานถึง 25 ปีจึงจะกลับคืนไปสู่ภาวะปกติก่อนที่จะเกิดวิกฤติการเงิน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกจะยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง จนกว่าราคาหุ้น ซึ่งพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา จะกลับไปสู่ระดับราคาเดิม

จอร์จ โซรอส เน้นมูลค่าเสียหายจาก Subprime อาจพุ่งแตะ 1 ล้านล้านเหรียญ
นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีชื่อดังของโลก และเจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายของระบบการเงินที่เกิดขึ้นจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) อาจพุ่งทะลุถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังคงไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่ชี้ชัดได้ว่า วิกฤติการเงินดังกล่าวจะเริ่มผ่อนคลายในช่วงเวลาอันใกล้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ภาวะวิกฤติในความเป็นจริงแล้ว มีความเสียหายมากกว่าที่ฝ่ายทางการออกมาให้ข้อมูลจนถึงทุกวันนี้ นายโซรอสยังมองว่า มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มสภาพคล่องเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ไม่เพียงพอกับวิกฤติในขณะนี้

เมอร์ริลลินช์ชี้อัตราเบี้ยวหนี้ในสหรัฐฯพุ่งสูงต่อเนื่อง
นายเคนเนธ บรูซ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริลลินช์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดบ่งชี้ว่า กลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯที่กำลังประสบภาวะหนี้สินและขาดสภาพคล่องจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น และจะผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น เมอร์ริล ลินช์ระบุว่า ภาคสินเชื่อผู้บริโภคของสหรัฐฯอาจเผชิญกับผลกระทบี่เกี่ยวกับสินเชื่อและการใช้จ่ายในไตรมาสแรกปีนี้ และบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตและการท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบมากที่สุด อันเนื่องมาจากรายได้ที่ลดลงและขาดทุนจากสินเชื่อมากขึ้น

โกลด์แมนแซ็คปลดพนักงานอีกรอบหลังธุรกิจสินเชื่อหดตัว
โกลด์แมนแซ็คกรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและของโลกปลดพนักงานในสายงานวาณิชธนกิจและสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ หลังตลาดสินเชื่อในภาพรวมทรุดตัวลงอย่างหนัก ด้านนายลูคาส แวนแพร็ก โฆษกของโกลด์แมนแซ็ค ไม่ได้ระบุตัวเลขพนักงานที่จะต้องถูกปลดออกจากบริษัทในเดือนนี้ ทั้งนี้หลังจากผลประกอบการขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 1 /51 ที่ทรุดตัวเป็นครั้งแรกหลังเข้าตลาดหุ้นในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการปลดพนักงานในเดือนมกราคมที่ผ่านมาราว 1,500 คน

IMF เตรียมปิดสำนักงานสาขาในเกาหลีใต้และทั่วโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ นอกจากจะทยอยขายทองคำในตลาดโลกราว 403 ตันแล้ว ยังเตรียมเดินหน้าปิดสำนักงานสาขา IMF ในระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ตามประเทศต่าง ๆ เริ่มต้นที่เกาหลีใต้ในเดือนก.ย.ปีนี้ ตลอดจนสำนักงานย่อยในที่อื่น ๆ อีกด้วย จากนั้นจะมีการขยายอำนาจการดูแลให้เหลือเพียงสำนักงานสาขาประจำภูมภาคไม่กี่แห่งเท่านั้น ทั้งนี้ IMF ต้องลดภาวะขาดทุนที่สูงถึง 400 ล้านเหรียญ หรือราว 1.24 หมื่นล้านบาทใน 4 ปีข้างหน้า
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news11/04/08

โพสต์ที่ 221

โพสต์

จอห์น แม็คเคน เน้นหาเสียงแก้วิกฤติสินเชื่อบ้านและการว่างงาน
นายจอห์น แม็คเคน ตัวแทนพรรครีพับรีกัน ที่จะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44 ในเดือนพ.ย. กล่าวตำหนินโยบายหาเสียงด้านเศรษฐกิจของพรรคเดโมแครต และนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจภาพรวมที่เน้นแก้วิกฤติตลาดบ้านและภาวะตกงานของชาวอเมริกัน โดยเสนอออกมาตรการให้ลูกหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงกับเงินกู้ซื้อบ้านสามารถนำออกไปซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนกับสินเชื่อบ้านที่สามารถบริหารจัดการดอกเบี้ยใหม่ได้ พร้อมกับนโยบายภาษีสำหรับคนว่างงาน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news16/04/08

โพสต์ที่ 222

โพสต์

กระทรวงการคลังสหรัฐฯวอนกองทุน Hedge Fund ใช้ตรวจสอบบัญชีใหม่
กระทรวงการคลังสหรัฐฯเปิดเผยว่า ต้องการให้บรรดากองทุนประกันความเสี่ยง (Hedge Fund) เร่งปรับปรุงวิธีการเปิดเผยข้อมูลสินทรัพย์ รวมถึงยินยอมให้มีการนำวิธีการตรวจสอบทางบัญชีกับบริษัทจดทะเบียนทั่วไปมาใช้กับกองทุน Hedge Fund ด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักลงทุน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯเตรียมเปิดเผยหลักการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเปิดเผยข้อมูลการลงทุนสำหรับกองทุน Hedge Fund เพื่อเป้าหมายในการนำไปใช้ปฏิบัติ เพื่อป้องกันความผันผวนที่เกิดขึ้นจากวิกฤติสินเชื่อที่ผ่านมา

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าถึงใจกลางภาวะถดถอยแล้ว
นายวิลเลียม รอดด์ รองประธานธนาคารซิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าถึงจุดวิกฤติแห่งการถดถอย หรือเปรียบเสมือนใจกลางของพายุที่สมบูรณ์แบบ โดยในขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเบื้องต้นได้เกิดขึ้นกับสหรัฐฯอย่างชัดเจนแล้ว นอกจากนี้รองประธานธนาคารซิตี้กรุ๊ปยังมองว่า ไม่มีสัญญาณบวกใด ๆ กับภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ที่จะฟื้นตัว หากจะเกิดขึ้นเร็วที่สุด น่าจะเป็นช่วงสิ้นปี หรืออย่างช้าที่สุดคือในกลางปีหน้า

สินเชื่อบ้านสูญพุ่งอีก 57% ในเดือนมีนาคม
เรียลลิตี้ แทรค อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐฯเปิดเผยว่า ภาวะสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯที่กลายเป็นหนี้สูญนั้น ล่าสุด ในเดือนมีนาคมทะยานพุ่งขึ้นถึง 57% โดยมีตัวเลขพุ่งขึ้นเป็น 2.34 แสนรายการ หรือคิดเป็นทุก ๆ 1 ใน 538 ครัวเรือในสหรัฐฯที่กลายเป็นหนี้สูญ เหตุจากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านในตลาด ส่งผลให้สินเชื่อบ้านมีมูลค่ามากถึง 14.7 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เนวาด้า ฟลอริด้า และแคลิฟอร์เนีย เป็น 3 รัฐที่มีจำนวนหนี้สูญพุ่งขึ้นมาก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news16/04/08

โพสต์ที่ 223

โพสต์

เศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยสะเทือนคาสิโนปลดพนักงาน
บริษัทเอ็มจีเอ็ม มิราจ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการและบริหารจัดการศูนย์คาสิโนยักษ์ใหญ่ที่สุดในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า ประกาศปรับลดต้นทุนในการดำเนินการครั้งสำคัญ ด้วยการประกาศแผนปรับลดพนักงานออกจากบริษัทเป็นจำนวนมากถึง 440 ตำแหน่งหลังได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทรุดลงต่อเนื่อง และภาพรวมของอุตสาหกรรมคาสิโนในสหรัฐฯชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้ บริษัท เอ็มจีเอ็มมิราจ เข้าบริหารศูนย์คาสิโนขนาดใหญ่ 10 แห่งในลาสเวกัส ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โรงแรมซีซาร์ พาเลส ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง

สายการบินคอนติเนนตัลหารือควบกิจการกับยูไนเต็ด
สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 และสายการบิน คอนติเนนตัล แอร์ไลน์ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในสหรัฐฯเตรียมเปิดการเจรจาควบรวมเข้าด้วยกัน หลังสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์และนอร์ทเวสต์แอร์ไลน์ ตกลงที่จะเข้าควบรวมกิจการด้วยกัน ซึ่งส่งผลให้กลายเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่เครือข่ายเส้นทางการบินทั่วโลก ทั้งนี้ 2 สายการบิน ได้แก่ ยูไนเต็ด และคอนติเนนตัล จะเริ่มเปิดการเจรจาทันที และอาจกลายเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแทน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news17/04/08

โพสต์ที่ 224

โพสต์

ผู้ว่าการเฟดมิชคินชี้กลุ่ม SMEs ในสหรัฐฯลำบากมากขึ้น
นายเฟดเดริค มิชคิน ผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดเผยต่อบรรดาวุฒิสมาชิกในรัฐสภาสหรัฐฯคืนที่ผ่านมาว่า กลุ่มอุตสาหกรรมของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของสหรัฐฯตกอยู่ในห้วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และการขอกู้เงินจากแหล่งเงินต่าง ๆ และที่สำคัญมีต้นทุนในการกู้ยืมเงินที่แพงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากวิกฤติระบบการเงินและสภาพคล่องที่ยังคงไม่ผ่อนคลายแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายมิชคินชี้ว่า เฟดยังพอมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการจริง ๆ

เฟดสาขาซานฟรานซิสโกและฟิลาเดลเฟียชี้เศรษฐกิจย่ำแย่
นางเจนเน็ท เยลเล็น ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หดตัวลงอย่างหนักและชัดเจนมากขึ้น ท่ามกลางปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนที่มีสูงมากในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องถูกเรียกว่าถดถอยในที่สุด ด้านนายชาร์ล พลอสเซอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวเช่นกันว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯทุกวันนี้เลวร้าย การขยายตัวแทบไม่มี ส่งผลกระทบตั้งแต่การจ้างงานไปถึงการผลิต

เมอร์ริล ลินช์ เล็งตัดหนี้สูญเพิ่มพร้อมปลดพนักงานอีก
บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริล ลินช์ ต้องตัดหนี้สูญรายไตรมาส เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 6 - 8 พันล้านเหรียญ หรือ 1.92 2.56 แสนล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าการตัดหนี้สูยของบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวเพิ่มรวมกันทั้งสิ้น 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.6 แสนล้านบาท นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 จนถึงสิ้นสุดไตรมาส 1 ของปีนี้ นอกจากนี้ยังนับเป็นการขาดทุนถึง 3 ไตรมาสติดต่อกัน สาเหตุมาจากผลกระทบจากวิกฤติสินเชื่อ Subprime และสภาพคล่องสินเชื่อที่ตึงตัว

จีอี ออกหุ้นกู้ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปี
เจนเนอรัล อิเล็กทริคส์ (GE) ซึ่งนอกจากจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯและของโลกแล้ว ยังเป็นบริษัทที่มีฐานะเป็นลูกหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยได้ตัดสินใจประกาศระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ที่มีมูลค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา มูลค่า 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.72 แสนล้านบาท ทั้งนี้การตัดสินใจออกหุ้นกู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังการประกาศผลประกอบการที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ด้วยผลกำไรที่ทรุดลงถึง 12%

จีอี เตรียมทุ่ม 2 พันล้านดอลลลาร์ ลงทุนในจีน
นอกจากนี้ จีอี ยังเตรียมทุ่มทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในการซื้อกิจการและลงทุนในจีนตลอดระยะเวลา 3 ปีหลังจากนี้ หวังเพิ่มผลประกอบการในจีนให้ได้ 2 เท่า โดยบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ กำลังเตรียมจ้างทีมนักการธนาคารเพื่อการลงทุนจำนวน 20 คน เพื่อทำข้อตกลงต่างๆ ในจีน ทางบริษัทมีแผนร่วมลงทุนกับบริษัทชั้นนำของจีนหลายแห่ง เนื่องจากการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติมีข้อจำกัดมากเกินไป

วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจี้ก.ล.ต.เร่งกำกับดูแลบริษัทจัดเรทติ้ง
นายชาร์ลส ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ได้เข้าหารือกับประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อต้องการให้เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลและตรวจสอบ การขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในบริษัทที่ดำเนินการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ เรทติ้ง ตราสารหนี้และพันธบัตรต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงไปถึงตราสารหนี้ค้ำประกันสินทรัพย์ หรือเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ (CDO) ที่กลายเป็นวิกฤติสินเชื่อตราสารหนี้ CDO ประเภท Subprime

กองทุน Hedge Fund มีสินทรัพย์พุ่งขึ้นเฉียด 3 ล้านล้านดอลลาร์
บริษัทเฮดจ์ฟันด์ อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งให้บริการงานวิจัยในการสำรวจอุตสาหกรรมกองทุนประกันความเสี่ยงหรือ กองทุน Hedge Fund ทั่วโลก เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีมูลค่าสินทรัพย์ของกองทุน Hedge Fund ทั่วโลก พุ่งขึ้นไปถึง 2.65 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นถึง 27% จากปี 2550 โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 มูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวชะลอตัวลง สาเหตุจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime)
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news18/04/08

โพสต์ที่ 225

โพสต์

ผู้นำสูงสุดสหรัฐฯชี้ยังไม่จำเป็นต้องเข็นมาตรการเศรษฐกิจรอบ 2 ออกมา
นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐในทุกวันนี้ กำลังอยู่ในเส้นทางที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม รัฐสภาสหรัฐฯ ยังไม่ควรพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯรอบต่อไป แต่ควรจะรอดูผลของการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบแรกที่ผ่านการลงนามไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และกำลังจะเห็นผลในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจากการส่งเช็คเงินชดเชยภาษีมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.84 หมื่นล้านบาทให้กับชาวอเมริกันที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือ

ผู้นำสหรัฐฯและอังกฤษให้คำมั่นหนุนเศรษฐกิจโตต่อไป
นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวในการเยือนสหรัฐฯ และหารือกับนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยสรุปว่า ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการทำให้เศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯและอังกฤษขยายตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้นต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการออกมาตรการต่าง ๆ เช่น มาตรการทางการเงินและการคลังในเชิงรุก ที่จะดำเนินการร่วมกัน ก่อนการประชุมผู้นำสูงสุดจากกลุ่มประเทศชั้นนำอุตสาหกรรมของโลกทั้ง 8 ชาติสมาชิกในวันที่ 7-9 ก.ค. นี้

FBI สหรัฐฯชี้ผลสืบสวนวิกฤติสินเชื่อโยงใยถึง 19 บริษัท
นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกลาง (FBI) กล่าวว่า ผลจากการเข้าไปสืบสวนและสอบสวนของเจ้าหน้าที่ FBI เกี่ยวกับกรณีวิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Subprime) ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การค้นพบอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งโยงใยไปถึงกลุ่มธุรกิจกองทุนประกันความเสี่ยง (Hedge Fund) รวมถึงบรรดากองทุนบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคลอีกหลายแห่ง ทั้งนี้ FBI ได้เข้าตรวจสอบและพิสูจน์บริษัททั้งหมด 19 แห่ง ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว โดยเน้นไปที่การตกแต่งบัญชีสินเชื่อ

2 ผู้ว่าการเฟดกล่าวตรงกันเงินเฟ้อสูงเกินไป ไม่เอื้อต่อการลดอัตราดอกเบี้ย
นายเจฟเฟอรี่ แล็ตเกอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันของสหรัฐฯเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเงินเฟ้อในขณะนี้สูงเกินไป ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ค่อยดีในการที่จะต้องรอให้เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัว เพื่อเป็นการดึงเงินเฟ้อลงในอนาคต ด้านนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินในทิศทางที่ผ่อนคลายไปมากกว่านี้ โดยส่วนตัวแล้วยังยืนยันที่จะไม่อยากเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีกในอนาคต

ธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯกู้เงินเสริมสภาพคล่องเพิ่มต่อเนื่อง
ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินในสหรัฐฯยังคงเพิ่มมูลค่าการกู้ยืมสภาพคล่องจากระบบการเงินที่ได้รับจากเฟดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มูลค่าการกู้ยืมสภาพคล่องในระบบพุ่งขึ้นถึง 8,830 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.82 แสนล้านบาท ขยับเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพุธในสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 7,340 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.34 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารที่สามารถกู้ยืมโดยตรงจากเฟดกลับกู้ยืมน้อยลง

CEO ธนาคารซิตี้กรุ๊ปชี้อาจต้องปลดพนักงาน 2.5 หมื่นคน
นายวิครา พันดิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ธนาคารซิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ธนาคารต้องเดินหน้ากับแผนการตัดลดต้นทุนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 20% ซึ่งหมายความว่า มีแนวโน้มสูงที่จะต้องปลดพนักงานราว 2.5 หมื่นคน จากที่มีอยู่ทั้งหมด 3.7 แสนคน และมีการปรับปรุงระบบการทำงานด้านคอมพิวเตอร์และหันไปเน้นในธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักของกิจการธนาคารแทน ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ป จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1/51 ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าจะขาดทุนอย่างมาก

เมอร์ริลลินช์ยักษ์หลักทรัพย์อันดับ 3 ปลดพนักงาน 3 พันคน
บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริลลินช์ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ในสหรัฐฯกล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องปลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 พันคน หลังเมื่อวานนี้ยอมรับในผลประกอบการที่ขาดทุนติดต่อกันถึง 3 ไตรมาสจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ทั้งนี้การปลดพนักงานดังกล่าว จะมีส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 1 พันคนจากที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ผลจากการตัดลดพนักงานลงทำให้เมอร์ริลลินช์ประหยัดเงินได้ถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.56 หมื่นล้านบาท

ซาร่าลี ผู้ผลิตอาหารและขนมเค้กชื่อดังของสหรัฐฯปลดพนักงาน 300 คน
บริษัท ซาร่า ลี อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตอาหารและขนมเค้กชื่อดังในสหรัฐฯ และของโลก ประกาศแผนลดต้นทุน ท่ามกลางการดำเนินธุรกิจที่ยากลำบากมากขึ้นในจังหวะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปลดพนักงานออกราว 300 คน หรือคิดเป็น 1% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 2.5 หมื่นคน โดย 100 คนใน 300 คนที่จะปลดออกเป้นพนักงานในสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ชานเมืองชิคาโก และการลดพนักงานลงครั้งนี้จะมีขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน สุดยอดคลาสิกจักรยานยนต์ก็ปลดพนักงานด้วย
บริษัท ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สุดคลาสิกและเป็นอมตะ ภายใต้ยี่ห้อ ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน เลี่ยงไม่พ้นกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่หดตัวลงอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อกิจการที่ถดถอยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับลดต้นทุนเพื่อความอยู่รอด ด้วยการปลดพนักงานออกราว 8% หรือเกอบพันคน และลดการจัดส่งรถจักรยานยนต์ลงมากกว่าพันคันขึ้นไป ทั้งนี้ นายจิม ซีเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฮาร์เล่ย์ เดวิดสันยอมรับว่าเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี

จอร์จ โซรอส ชี้เงินเหรียญยูโรไม่สามารถมาแทนเงินดอลลาร์ได้
นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีรับโลก มองว่า เงินเหรียญยูโร ไม่สามารถที่จะขึ้นมาทดแทนเงินเหรียญสหรัฐฯในฐานะสกุลเงินสำคัญที่ทรงอำนาจและใช้เป็นเงินสำรองของประเทศต่าง ๆ ในสัดส่วนที่มากกว่าเงินเหรียญสหรัฐฯของทุกประเทศในโลกได้ และการที่จะมีเงิน 2 สกุลหลักสำคัญที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินของโลกพร้อม ๆ กัน ย่อมทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพทางการเงินของโลกอีกด้วย ทั้งนี้ จอร์จ โซรอสยังกล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้จากวิกฤติการเงินโลกในปัจจุบันนี้ คือเรื่องของความจำเป็นในการควบคุมสินเชื่อ ไม่ใช่เรื่องของปริมาณเงิน

ธนาคารกลางอังกฤษเตือนราคาบ้านในอังกฤษยังทรุดต่อเนื่อง
นายชาร์ลี บีน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวเตือนว่า ชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าของบ้านทุกวันนี้ ต้องระวังราคาบ้านที่อาจจะทรุดต่ำลงต่อเนื่องตลอดทั้งปี จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤติสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยที่ลุกลามจากสหรัฐฯมาถึงอังกฤษ นอกจากนี้ ผลพวงจาการลดปริมาณธุรกรรมสินเชื่อบ้านของบรรดาสถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาบ้านให้มีแต่ทรง หรือทรุดตัวลงต่อไป ทั้งนี้ นายบีนยังปฏิเสธที่จะกล่าวว่า ภาวะดังกล่าวจะตกต่ำลงไปมากกว่านี้ และยาวนานไปกว่านี้หรือไม่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news21/04/08

โพสต์ที่ 226

โพสต์

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปจำเป็นต้องเร่งเพิ่มทุนหลังขาดทุนอ่วม
ธนาคารซิตี้กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า หลังจากตัดสินใจประกาศปลดพนักงานจำนวน 9 พันคนภายในปีหน้า เนื่องจากไตรมาส 1/51 ผลประกอบการขาดทุนพุ่งขึ้นถึง 5.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.63 แสนล้านบาท ธนาคารซิตี้กรุ๊ป ยังมีความจำเป็นที่จะต้องรักษารับความแข็งแกร่งของเงินทุนต่อผลขาดทุนของธนาคารที่อย่างน้อย 7.5% หลังจากผลขาดทุนล่าสุด กดอัตราส่วนดังกล่าวให้ลงมาเหลือเพียง 7.7% เท่านั้น ทำให้ธนาคารซิตี้กรุ๊ปอยู่ในภาวะจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเร่งเพิ่มทุนมากขึ้น

เวนเจอร์แคปปิตัลลงทุนลดลง 5% ในไตรมาส 1/51
สมาคมกองทุนร่วมลงทุนแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มูลค่าการลงทุนของบรรดากองทุนร่วมลงทุนในธุรกิจเกิดใหม่ หรือ กองทุนเวนเจอร์แคปปิตัล ในไตรมาส 1/51 ลดลง 5% เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 1/50 มาเหลืออยู่เพียง 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.27 แสนล้านบาท ในจำนวนทั้งหมด 922 ธุรกรรม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 861 รายการ ทั้งนี้ แม้ตัวเลขการลงทุนดังกล่าวจะลดลง แต่กลับเป็นมูลค่าการลงทุนที่ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news21/04/08

โพสต์ที่ 227

โพสต์

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศแนะสายการบินทั่วโลกเร่งควบรวมกิจการ
นายจิโอวานี บิสิกนานี ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ชี้ว่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกในปัจจุบันกระจัดกระจายและมีปริมาณมากเกินความต้องการ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของทั้งอุตสาหกรรมการบินตกต่ำลง ดังนั้น ความอยู่รอดของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกขึ้นอยู่กับการปรับตัวทางธุรกิจของสายการบิน ในขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการใหญ่ IATA กล่าวเรียกร้องให้มีการเร่งพิจารณาการเสนอซื้อกิจการสายการบินนอร์ทเวสต์แอร์ไลน์ ของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์

ธนาคารรอยัลแบงก์ออฟสก๊อตแลนด์ตัดหนี้สูญเพิ่มอีก
คณะรรมการธนาคารรอยัลแบงก์ออฟสก๊อตแลนด์ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอังกฤษ เปิดเผยผลการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ธนาคารได้ลงมติรับทราบผลประกอบการของธนาคารที่ขาดทุนสูงถึง 7 พันล้านปอนด์ หรือราว 4.41 แสนล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ที่ยังไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ได้ประกาศขอมติที่ประชุมคณะกรรมการขอเพิ่มทุนสูงมากถึง 1.2 หมื่นล้านปอนด์ หรือราว 7 แสนล้านบาท

อดีต CEO ธนาคาร UBS AG ชี้ UBS ยังไม่พ้นวิกฤติ
นายลักแมน อาร์โนลด์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ซึ่งในปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของธนาคาร UBS AG ธนาคารสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ที่จนถึงทุกวันนี้ได้รับความเสียหายจากวิกฤติสินเชื่อ Subprime มากที่สุดในโลก กล่าวว่า ธนาคาร UBS ยังไม่พ้นห้วงวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และยังเชื่อว่าในงบดุลบัญชีของธนาคารดังกล่าว ยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยงอย่างมากจนถึงทุกวันนี้ โดยมูลค่าตัดหนี้สูญของธนาคาร UBS มีรวมกันทั้งสิ้น 3.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.18 ล้านล้านบาท

อดีตประธานธนาคารกลางอังกฤษเผยแผนแก้วิกฤติสินเชื่อบ้าน
นายวิลเล็ม บิวเตอร์ อดีตประธานธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งในปัจจุบันเป็น ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยลอนดอนสกูลออฟอิโคโนมิคส์ กล่าวว่า มาตรการแทรกแซงตลาดสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ที่จะใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสัญญาสินเชื่ออสังหริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปกับพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารกลางอังกฤษนั้นต้องใช้เงินมูลค่าอย่างน้อย 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.4 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดกันว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะประกาศใช้ภายในสัปดาห์หน้า

ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมประกาศแผนอสังหาฯพรุ่งนี้
ธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศมาตรการแทรกแซงตลาดสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ามากถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.2 ล้านล้านบาท ด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนสัญญาสิเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปกับพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารกลางอังกฤษ ทั้งนี้นายอลิสตาร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยปลดปล่อยภาวะหยุดนิ่งของอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษได้

เทสโก้อังกฤษจ้องปลดพนักงานกว่า 300 คนในอังกฤษ
บริษัทเทสโก้เปิดเตรยมพิจารณาทบทวนแผนการปรับลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของเทสโก้ โดยเน้นไปที่การปลดพนักงงานเป็นจำนวน 300 คน ในส่วนงานที่ไม่ใช้ธุรกิจประเภทอาหาร ที่สำนักงานใหญ่ในอังกฤษ จากสาเหตุของภาวะเศรษฐฏิจอังกฤษที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการหดตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทเทสโก้ได้สร้างงานในปีนี้ที่อังกฤษเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 หมื่นตำแหน่งด้วยกัน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news24/04/08

โพสต์ที่ 228

โพสต์

นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯเกือบหยุดนิ่ง
ผลสำรวจภาวะและความคิดเห็นทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส์ล่าสุดพบว่า บรรดานักเศรษฐศาตร์ในสหรัฐฯ ประเมินว่า เศรษฐฏิจสหรํฐฯเกือบจะหยุดนิ่งในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากนั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเริ่มหดตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรง และกินเวลายาวนานเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นในครั้งสุดท้ายในช่วงปี 2533 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติธุรกิจดอทคอมล่มสลายจากการให้กู้ยืมสูงมากจนเกินไป

ผู้บริหาร GE ชี้ตลาดทุนสหรัฐฯดีขึ้นเล็กน้อย
นายเจฟเฟอรี่ อิมเมลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจนเนอรัลอิเลคทริค (GE) กล่าวว่า ภาวะตลาดทุนสหรัฐฯเริ่มดีขึ้น นับตั้งแต่สิ้นสุดไตรมาส 1/51 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯในภาพรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผู้บริหาร GE กล่าวต่อไปว่า เศรษฐกิจของสหรํฐฯดีขึ้นเล็กน้อย และยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าเมื่อครั้งเกิดวิกฤติทางการเงินจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ในช่วงแรก ซึ่งผลกระทบที่มีต่อแบร์สเติร์นส์ ซึ่งทำให้ GE มีความยากลำบากในธุรกิจ

ผู้บริหาร GE เผยวิกฤติบ้านสหรัฐฯรุนแรงกว่าในอดีต
นายอิมเมลท์ยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯในขณะนี้อยู่ในภาวะยากลำบากมากกว่าในยุคปี 2544 หรือในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสหรัฐฯกำลังประสบกับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่เลวร้ายมากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (ยุค Great Depression) ทำให้ GE มีความจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในการปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่ของบริษัท ด้วยการลดต้นทุนลงสูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.6 หมื่นล้านบาท

ประธานก.ล.ต.สหรัฐฯ เตรียมสั่งธนาคารเพิ่มการสำรองเงินสด
นายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ก.ล.ต.เตรียมพิจารณาให้บรรดาธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินทุกประเภทในสหรัฐฯเพิ่มปริมาณการกันสำรองเงินสดมากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางภาวะวิกฤติทางการเงินและระบบสินเชื่อ รวมไปถึงตลาดการเงินที่ตึงตัวไม่สิ้นสุดในขณะนี้ ทั้งนี้ ก.ล.ต.สหรัฐฯเฝ้าติดตามสัดส่วนเงินสำรองของสถาบันกาเรงินที่มีผลประกอบการตกต่ำอย่างหนัก เช่น แบร์สเติร์นส์ โกลแมนด์แซ็ค และเลห์แมนบราเธอร์ เป็นต้น

บริษัทการเงินแอมแบ็คในสหรัฐฯขาดทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท
บริษัทแอมแบ็ค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ออกและรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้รวมถึงพันธบัตรชั้นนำแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ต้องประสบกับผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ตกต่ำอีกครั้ง ด้วยผลขาดทุนที่ทรุดหนักถึง 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5.1 หมื่นล้านบาท หลังมีความจำเป็นต้องตัดหนี้สูญมากถึง 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.92 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นของแอมแบ็ค ไฟแนนเชียลทรุดลงถึง 97%

เมอร์ริลลินช์ส่งสัญญาณปลดพนักงานที่ลอนดอน
บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริลลินช์เริ่มส่งสัญญาณเตือนพนักงานของบริษัทในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับการปรับลดพนักงาน ตามแผนลดต้นทุนครั้งใหญ่ หลังต้องขาดทุนอย่างหนักจาก Subprime โดยเฉพาะในสายงานธุรกิจด้านการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ และสายงานค้าเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ การส่งสัญญาณให้พนักงานในกรุงลอนดอน ได้รับทราบถึงการปลดพนักงานออกในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 80 คนนั้น เป็นส่วนหนึ่งในการปลดพนักงานทั่วโลกถึง 4 พันคน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news25/04/08

โพสต์ที่ 229

โพสต์

คลังสหรัฐฯมั่นใจมาตรการต่าง ๆ จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง

Posted on Friday, April 25, 2008
คลังสหรัฐฯเชื่อเศรษฐกิจอาจฟื้นตัวในครึ่งปีหลังนี้

นายเดวิด แม็คคอร์มิค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ที่ดูแลฝ่ายการต่างประเทศ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจฟื้นตัวขึ้นบ้างในครึ่งปีหลัง หลังจากผ่านการทดสอบในครึ่งปีแรกไปแล้ว ในขณะเดียวกันตลาดทุนสหรัฐฯ ก็อาจมีสัญญาณที่ดีขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจะมีสาเหตุหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.8 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างงานให้กับชาวสหรัฐฯมากถึง 5 แสนคนในสิ้นปีนี้

S&P ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยในระดับปานกลาง

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) บริษัทชั้นนำด้านการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนจากสหรัฐฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าสู่ช่วงถดถอย แต่จังหวะการชะลอตัวดังกล่าวอยู่ในระดับปานกลาง จากการใช้จ่ายของประชาชนสหรัฐฯไม่ได้ลดน้อยล มากเท่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นมาจากวิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงลุกลาม แต่ก็เป็นไปได้ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาฟื้นตัวขึ้นแล้ว

ยอดขายบ้านในสหรัฐฯ ตกต่ำในรอบเกือบ 17 ปี

ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯประจำเดือนมี.ค. ทรุดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 17 ปี โดเหลือเพียง 526,000 หน่วย หรือคิดเป็น 8.5% เมื่อคิดแบบ 12 เดือน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวตกต่ำลงมาใกล้เคียงกันกับในปี 1991 หรือปี 2534 ที่มียอดขายบ้านใหม่เพียง 575,000 หน่วย โดยมีต้นเหตุจากความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงภาวะราคาบ้านที่ยังคงตกต่ำต่อเนื่องจากการชะลอซื้อบ้านด้วย

ผลประกอบการธนาคารเครดิตสวิสกรุ๊ปทรุดหนักในรอบ 5 ปี

ธนาคารเครดิตสวิสกรุ๊ป ธนาคารที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสที่ย่ำแย่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ด้วยผลขาดทุนที่สูงมากถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.664 แสนล้านบาทในไตรมาส 1/51 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/50 ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารดังกล่าวอยู่ที่ 9.8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 10%

ที่ปรึกษาทั่วไปของ FED ต้อนรับกองทุนต่างชาติ

นายสก๊อต อัลวาเลส ที่ปรึกษาทั่วไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แถลงต่อกรรมาธิการสายการเงินและธนาคารแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า FED ยินดีรับการตัดสินใจลงทุนของกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติจากทั่วทุกมุมโลก ที่สนใจเข้าไปลงทุนธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ ในสหรัฐฯที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินหลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติสินเชื่อด้อยคุฯภาพ (Subprime) จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทั่วไปของ FED มั่นใจว่าหากมีการเข้ามาลงทุนของกองทุนดังกล่าวจริง จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางสหรัฐฯเผยเงินกู้เสริมสภาพคล่องยังพุ่งต่อ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เปิดเผยว่า มูลค่าการปล่อยกู้สภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แบบดั้งเดิม หรือปล่อยกู้โดยผ่านไปยังตัวแทนต่าง ๆ ในระบบการเงิน ซึ่งแตกต่างจากการปล่อยกู้โดยตรง ไปยังธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ก่อนยังคงเพิ่มขึ้น โดยมีเม็ดเงินปล่อยกู้เพิ่มขึ้น 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.24 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าเฉลี่ยเงินกู้เสริมสภาพคล่องในระบบการเงินสหรัฐฯ ขึ้นมาอยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.42 แสนล้านบาท สะท้อนถึงภาวะสภาพคล่องที่ยังมีปัญหา

ประธานแบงก์ชาติยุโรปชี้ สหรัฐฯ ต้องเน้นเงินดอลล์แข็ง

นายฌอง คล๊อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางกลุ่มประเทศสมาชิกเหรียญยูโรในกลุ่มสหภาพยุโรป (ECB) กล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องดำเนินนโยบายสนับสนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างเข้มข้นมากกว่าในอดีต เพราะหากไม่เพิ่มความเข้มข้นในนโยบายดังกล่าว จะกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดกับภาวะเสรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจไปทั่วโลกในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

news12/05/08

โพสต์ที่ 230

โพสต์

CEO ซิตี้กรุ๊ปเผยจะขายทรัพย์สิน 12 ล้านล้านบาท
นายวิคราม พันดิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาซิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและของโลก เตรียมเปิดเผยแผนธุรกิจของธนาคารครั้งสำคัญ ที่เน้นการแก้ไขวิกฤติผลประกอบการของธนาคารที่ย่ำแย่เป็นประวัติกาณณ์ ที่เกิดจากวิกฤติการเงินสินเชื่อในสหรัฐฯคาดว่า แผนดังกล่าว นำไปสู่การตัดขายสินทรัพย์ของธนาคารมูลค่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 12.8 ล้านล้านบาท นอกจากนี้แผนดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงการปลดพนักงานธนาคารออกอีกจำนวนหนึ่ง

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปเตรียมขายทิ้งธุรกิจสินเชื่อบุคคลที่ญี่ปุ่น
ธนาคารซิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยต่อไปว่า กำลังพิจารณา ยุบ และขายทิ้ง สายงานธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคของธนาคาร CFJKK ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นธนาคารร่วมทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นดับดับที่ 5 เพื่อต้องการลดภาระในการประกอบการของธนาคารไม่เพียงเฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานการขายสินทรัพย์ของธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและของโลกที่วางเป้าหมายไว้ถึง 12.8 ล้านล้านบาท
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx