มีข่าวขำ ๆ มาฝาก

[tanate@man]

BANPU ได้ชี้แจงต่อตลาดฯ ว่า นายศิวะ งานทวี และกลุ่มบริษัทของนายศิวะ ได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อ BANPU, บริษัทย่อย และผู้บริหารของบริษัท เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 63,500 ล้านบาท โดยกล่าวอ้างว่า BANPU, บริษัทย่อย และผู้บริหารทำการหลอกลวง โดยเข้าร่วมทำสัญญาร่วมทุนกับนายศิวะกับพวก เพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน รวมทั้งรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่เมืองหงสา ประเทศลาว หลังจากนั้นใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จ ทำให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานเมหืองถ่านหิน และสัญญาก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าของนายศิวะกับพวก เพื่อที่ BANPU จะได้เข้าทำสัญญากับรัฐบาลลาวเอง



ความเห็นและคำแนะนำ :

ประเด็นการฟ้องร้องดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อกล่าวหาของนายศิวะ งานทวี และกลุ่มบริษัทของนายศิวะ ซึ่ง BANPU ยืนยันว่าคำฟ้องและข้อกล่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และค่าเสียหายที่กล่าวอ้างก็เลื่อนลอย โดยเดิมทีกลุ่มงานทวีของนายศิวะ ได้รับสิทธิจากรัฐบาลลาวให้ทำสัมปทานเหมืองถ่านหินที่เมืองหงสา ประเทศลาว เมื่อปี 2535 เพื่อผลิตถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ แต่ปรากฎว่าหลังจากทำการศึกษาความเป็นไปได้ของเหมืองถ่านหินดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะไม่คุ้มค่าเชิงการลงทุน กลุ่มงานทวีจึงได้เปลี่ยนจากการทำเหมืองถ่านหิน เป็นการทำโรงไฟฟ้าปากเหมือง 700 เมกะวัตต์ แต่หลังจากเจอวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2540 โครงการดังกล่าวก็ชะงักไป และถูกรื้อมาทำใหม่อีกทีในปี 2547 โดยทางกลุ่มดังกล่าวได้ชักชวน BANPU เข้าไปทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าปากเหมือง 1,800 เมกะวัตต์ (เพิ่มจากแผนเดิมที่จะทำเพียง 700 เมกะวัตต์) และก่อนที่จะมีการทำสัญญาพัฒนาโครงการดังกล่าวกับรัฐบาลลาว ทางกลุ่มของนายศิวะ ก็ได้ขอถอนตัวและบอกเลิกสัญญาร่วมพัฒนาโดยไม่มีเหตุอันควร ดังนั้นรัฐบาลลาวจึงได้ตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าและสัมปทานเหมืองถ่านหินที่ให้แก่นายศิวะและพวก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาประมูลใหม่ เนื่องจากโครงการหงสาฯ ล่าช้ามาเป็นเวลานาน และจากการเข้าประมูลใหม่ ทาง BANPU ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการหงสา อย่างไรก็ตามประเด็นการฟ้องร้องของกลุ่มงานทวี ต่อ BANPU อาจจะมีความยืดเยื้อ เนื่องจากต้องมีการต่อสู้คดีในชั้นศาลพร้อมพยานหลักฐานต่าง ๆ และทาง BANPU เองจะดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายศิวะและพวกกลับด้วย แต่คาดจะไม่มีผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการหงสาฯ เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะดำเนินการต่อไป โดยคาดจะผลิตไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2555-56 AYS ยังคงแนะนำ Buy โดยประเมิน Fair Price ปี 51 ที่ 344 บาท (วิธี Sum-of-the-part Valuation) โดยยังไม่รวมมูลค่าประเมินของโครงการหงสาฯ เข้าไปในประมาณการ


อืมมมมมม......ประวัติคนฟ้องน่าคิด



[/b]