ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
louisetrade
Verified User
โพสต์: 5
ผู้ติดตาม: 0

ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 31

โพสต์

Aprint ด้วยนะ เราว่าตระกูลนี้ค่อนข้างโปร่งใส 8)
teetotal
Verified User
โพสต์: 1667
ผู้ติดตาม: 0

ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ต้องดูวัดที่พวกผู้บริหารไปปฏิบัติด้วย
ว่าเป็น วัดเสก วัดสวด วัดสร้าง หรือ วัดสอน

วัดสวด คงไม่ค่อยมี เพราะเน้น สวดศพ

วัดเสก ก็เน้นปาฏิหารย์ แทนที่จะสอนให้ทำกิจการโดยชอบ ก็ให้บูชา สาริกา กุมาทอง นางกวัก ใช้ ธูป เทียน เป็นเครื่องมือตัดสินใจ

วัดสร้าง เน้น ขายบุญ อาจทำให้ผู้บริหารยอมทำอะไรก็ได้ ที่จะทำให้ตัวเองได้เงินมาทำบุญเยอะๆ หรือ สูบทรัพย์ จากคนอื่นมาทำบุญ

เคยได้ยินไหม พระสูบเงิน ที่สามารถ สูบเงินของคนคนที่มีบุญบารมีน้อยกว่ามาได้ เซลล์ขายบุญ เขาว่าอย่างนั้นนะครับ  :D

ผู้บริหารก็ไม่เคยคิดว่า การสูบเงินผิด เพราะ เขาจะเอาเงินที่สูบได้ไปสร้างวัดที่ได้อานิสงค์ผลบุญ มากๆ
ในตลาดก็มีให้สูบเยอะเสียด้วย เครื่องสูบใหญ่ๆ น้ำจะไปไหนเสีย
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
Wang yun fat
Verified User
โพสต์: 104
ผู้ติดตาม: 0

ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 33

โพสต์

เก็นด้วยครับ ว่า aprint
Cheng
Verified User
โพสต์: 85
ผู้ติดตาม: 0

ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 34

โพสต์

วันนี้ไปทำธุระบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ใน SET
เห็นแล้วถึงกับอึ้ง..เพราะเห็นพนักงาน40-50 วุ่นอยู่กับการยกและห่อองค์จตุคาม ขนาดหน้าตักประมาณ 2 ฟุต จำนวนไม่แน่ใจประมาณ 10 ตู้คอนเทนเนอร์ ได้ยินว่าจะมีการส่งออกไปทางเอเซียใต้ด้วย สอบถามว่าเป็นของเจ้าของ(ผู้บริหาร) เห็นแล้วสงสารผู้ถือหุ้นจัง..เพราะใช้ทรัพย์พยากรของบริษัท เกือบทุกอย่าง
kit556
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

แจก link

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ไหนก็พูดกันเรื่อง ธรรมะแล้ว ว่างๆจากการวิเคราะห์บริษัท จะไปฟังธรรมฟรีๆ ได้ที่นี่ครับ

http://www.dhammathai.org/sounds/dhammapidok.php
Kritsada
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 5

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 36

โพสต์

มูลค่าตลาด"ซัน ฮุง ไก"สูญ4.9พันล้านดอลล์
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, วันที่ 1 เมษายน 2555 11:40
news_img_444818_1.jpg
หุ้นซัน ฮุง ไก ดิ่งต่ำสุดรอบ 14 ปี สูญเสียมูลค่าทางการตลาด 4.9 พันล้านดอลลาร์ หลังผู้บริหารระดับสูง สองพี่น้องตระกูลก๊วกถูกจับคดีคอร์รัปชัน

หนังสือพิมพ์วอล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ราคาหุ้นซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของฮ่องกงและรายใหญ่สุดของเอเชีย ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 14 ปี และสูญเสียมูลค่าทางการตลาดไปมากถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอิสระเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชัน (ไอซีเอซี) ของฮ่องกงควบคุมตัวนายโธมัส และนายเรย์มอนด์ ก๊วก มหาเศรษฐีสองพี่น้อง ซึ่งเป็นประธานบริหารร่วมของบริษัท ซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ ไปสอบสวน ฐานมีส่วนพัวพันกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ในคดีฉ้อฉลที่ถูกระบุว่าใหญ่ที่สุดในรอบ 38 ปี ของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้

ทั้งนี้ การควบคุมตัวมหาเศรษฐีตระกูลก๊วกทั้งสองราย ไปสอบสวน มีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่มีการจับกุม นายราฟาเอล หุย อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการฮ่องกง พร้อมกับบุคคลอื่นอีก 8 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดสินบนครั้งประวัติศาสตร์

ราคาหุ้นของบริษัทซัน ฮุง ไก ที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ดิ่งลงไป 13% นับตั้งแต่เดือนม.ค. ปี 2541 ปิดตลาดที่ราคา 96.50 ดอลลาร์ฮ่องกง หลังจากหุ้นถูกระงับการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ และราคาหุ้นบริษัทแห่งนี้ ร่วงลงไป 17% นับตั้งแต่นายโธมัส ชาน กุ้ย-หยวน ผู้อำนวยการบริหารของบริษัทถูกไอซีเอซีจับกุมตัวไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.

ขณะเดียวกัน ซิตี้ กรุ๊ป และบาร์เคลย์ พร้อมในกันลดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นของบริษัทซัน ฮุง ไก ส่วนโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ก็ระงับการให้อันดับความน่าเชื่อหุ้นของยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งเอเชียนี้เช่นกัน

"นักลงทุนกังวลว่าบริษัทแห่งนี้กำลังมีปัญหาด้านบรรษัทภิบาลระยะสั้น "ออสการ์ ฉ่อย และเคน เยียง สองนักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป ให้ความเห็นแก่ลูกค้าในวันนี้ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า ซิตี้กรุ๊ป ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือราคาหุ้นของซัน ฮุง ไก เพราะคาดว่า ความแตกต่างระหว่างมูลค่าทางการตลาดและมูลค่าของสินทรัพย์บริษัทจะเพิ่มมากขึ้นหลังจากข่าวการจับกุมผู้บริหารแพร่สะพัดออกไป

โธมัส ก๊วก วัย 59 ปี และ เรย์มอนด์ ก๊วก วัย 58 ปี บริหารบริษัทซัน ฮุง ไกมาตั้งแต่ปี 2551 เมื่อวอลเตอร์ ก๊วก พี่ชายคนโตลาออกจากตำแหน่งประธานในปีดังกล่าว แต่วอลเตอร์ ยังคงมีตำแหน่งในบอร์ดแต่ไม่ได้มีอำนาจในการบริหาร
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
เอก
Verified User
โพสต์: 329
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ผมว่าไม่เสมอไปครับ เคยเห็นมามากที่คนที่ชอบเข้าวัดแต่ยังโลภ นินทาว่าร้ายคนอื่นอยู่เสมอๆ
เงินซื้อความสะดวกสบายได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้ ความสุขเราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง
pat4310
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 733
ผู้ติดตาม: 1

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ดูการกระทำดีกว่าครับ ดูว่ากรรมในอดีตเขาทำอย่างไร ก็บันทึกอยู่ในงบการเงินที่เป็นเหมือนบัญชีหนังหมาล่ะครับ แล้วก็ตัดสินใจดวยตัวเองดีที่สุด

การซื้อ/ขายหุ้นของผู้บริหาร
การเ้ข้าลงทุนกิจการแปลกๆ แล้ววันดีคืนดีก็ตัดขาดทุนซะงั้น (แต่เงินลงไปแล้ว)
ให้กู้บริษัทลูกไปเยอะๆ แล้ววันดีคืนดีก็ตัดขาดทุนซะงั้น
นโยบายจ่ายปันผล
การจ่ายเงินเดือนผู้บริหาร
การออก esop
การเพิ่มทุน
การให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ และนักวิเคราะห์
ลงทุนหุ้นดี มีการเติบโต ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
Laziale
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2147
ผู้ติดตาม: 3

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 39

โพสต์

จำได้ว่าเคยได้อ่านนิตยสารที่มีบทสัมภาษณ์ผบหท่านนึงที่กำลังอยู่ในธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง ให้สัมภาษณ์เรื่องชีวิตส่วนตัวเป็นคนรักครอบครัวและชอบปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอเลยรู้สึกชื่นชอบทั้งในแง่การใช้ชีวิตและธุรกิจ แต่หลังจากนั้นไม่ถึงปี ข่าวดีที่เคยให้และทำได้มาตลอด กลับทำไม่ได้ในครั้งนั้นและถึงกับขาดทุนทั้งที่ก่อนงบจะออกก็ยังคงยืนยันให้ข่าวการเติบโตและเงินปันผลที่จ่ายในระดับสูง และคนจำนวนมากยังมองในแง่ดีตามข่าวที่ผบหท่านนี้ได้ให้สัมภาษณ์ ประเด็นคือก่อนงบจะออกไม่กี่สัปดาห์ผบหท่านนี้ได้เทขายหุ้นอย่างหนักมาหลายๆไม้แต่ยังคงให้ข่าวเชิงบวกอยู่ บทสรุปชื่อเสียงที่เคยทำมาตลอดได้หายวับสำหรับนลทหลายๆท่านเท่าที่ได้ตามอ่านมาครับ ไม่ได้จะกล่าวหาอะไรครับ แค่นึกเคสในอดีตขึ้นมาได้เฉยๆ :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 327

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ผู้บริหารปฏิบัติธรรม นักลงทุนปฏิบัติธรรม คนที่ปฏิบัติธรรม ทำไปเพราะผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ซึ่งไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันเลยว่า คนที่ปฏิบัติธรรมจะเป็นคนดี โดยส่วนตัวผมปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้ทำเพื่อให้เป็นคนดี ทำไปก็แค่รู้สึกว่ามันทำให้เราอยู่และจัดการกับความทุกข์ได้มากขึ้น และไม่ได้หวังจะเป็นคนดีเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้นผมว่าอย่าไปคิดเลยครับว่าคนๆ นั้นปฏิบัติธรรมแล้วจะเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น ผมก็ปฏิบัติธรรมและยังรู้สึกว่ายังเชื่อตัวเองไม่ได้เลยครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
996gt3
Verified User
โพสต์: 61
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ก็ต้องดูหลายปัจจัยด้วยครับ

ปฎิบัติธรรมแล้วกลายเป็นคนที่ไม่โลภ ไม่ทะเยอทะยาน นโยบายบริษัทก็เลยไม่ aggressive ไม่ต้องทำยอดขาย หรือ กำไร เิ่พิ่มแล้ว

ทำบริษัทไปแบบนี้ก็พอเพียงแล้ว ไม่ต้องโต แต่อยู่อย่างเพียงพอ ราคาหุ้นก็อยู่กับที่ :shock:
b4solid
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1135
ผู้ติดตาม: 72

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลยครับ
ส่วนตัวคิดว่าคนละเรื่องกันเลย

จริงๆ ปฏิบัติธรรม = ทำให้ตัวเองนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 5

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 43

โพสต์

การปฏิบัติธรรมทางศาสนาพุทธ ก็เพื่อดับทุกข์

เริ่มจากการปฏิบัติธรรมเบื้องต้น คือ ถือศีล 5 เพื่อ สำรวม กาย วาจา ใจ

ผมเดาเจตนาคนตั้งกระทู้ เพื่อ ดูว่าผู้บริหาร นั้นมีโอกาศ ทำผิด ข้อ มุสา กับ ลักทรัพย์ มากกว่า คนที่ไม่ปฎิบัติธรรม นั้นหรือไม่

คำตอบคือ ไม่รู้ครับ ขึ้นกับผู้บริหารว่าถือศีลครบไหม ปฏิบัติธรรมขนาดไหน :D

ดูอย่างตัวเราเอง คิดว่าเป็นคนดี ยังถือศีล 5 ไม่ค่อยจะครบเลยครับ :mrgreen:

และถ้าผมเดาเจตนาของคำถามผิด ก็ขออภัยครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 21

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 44

โพสต์

BeSmile เขียน:การปฏิบัติธรรมทางศาสนาพุทธ ก็เพื่อดับทุกข์

เริ่มจากการปฏิบัติธรรมเบื้องต้น คือ ถือศีล 5 เพื่อ สำรวม กาย วาจา ใจ

ผมเดาเจตนาคนตั้งกระทู้ เพื่อ ดูว่าผู้บริหาร นั้นมีโอกาศ ทำผิด ข้อ มุสา กับ ลักทรัพย์ มากกว่า คนที่ไม่ปฎิบัติธรรม นั้นหรือไม่

คำตอบคือ ไม่รู้ครับ ขึ้นกับผู้บริหารว่าถือศีลครบไหม ปฏิบัติธรรมขนาดไหน :D

ดูอย่างตัวเราเอง คิดว่าเป็นคนดี ยังถือศีล 5 ไม่ค่อยจะครบเลยครับ :mrgreen:

และถ้าผมเดาเจตนาของคำถามผิด ก็ขออภัยครับ
ผมคิดเหมือน พี่ยิ้ม เลยครับสำหรับกระทู้

สำหรับการปฏิบัติธรรมของผมแบ่งเป็น 2 ทางครับ
1. ทางกายภาพ คือปฏิบัติถูกต้อง อย่างเป็นธรรม ไม่โลภไปเบียดเบียนเอาโดยไม่ชอบ
ไม่โกหก หลอกลวง เพื่อหวังผลประโยชน์เข้าตัว และ ไม่ขโมย ลักทรัพย์ ใช้ประโยชน์ส่วนรวมเพื่อตัวเอง
2. ทางจิตภาพ คือ การคิดดี สำนึกดี ไม่ป้องจองร้าย มองโลก positive และ มีใจที่ให้อภัย และช่วยเหลือครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
luangrit
Verified User
โพสต์: 376
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 45

โพสต์

การปฏิบัติธรรม
ไม่ได้แสดงว่าเป็นคนดีนะครับ

คนที่ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่
ก็เนื่องมาจากเห็นความทุกข์ในโลก
จึงเสาะแสวงหาทางที่จะพ้นทุกข์ได้จริงๆ

ซึ่งทางที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงแนะนำสั่งสอนเอาไว้นั้น
สามารถทำให้ทุกข์น้อยลง ได้จริง

คนที่รู้ที่เห็นตามพระพุทธเจ้า จึงได้เกิดศรัทธา
และเพียรพยามเจริญภาวนาเพื่อความพ้นทุกข์
(ปัญญา ศรัทธา ความเพียร)

ทาน ศีล ภาวนา
ถ้าคนที่เข้าใจธรรมะจริงๆจะรู้ได้เลยครับว่า
สิ่งเหล่านี้ทำไปเพื่อสละความเห็นแก่ตัว
ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อให้ผู้อื่นยกยอปอปั้น

และก็ไม่ได้มีตรงไหนที่บอกเลยนะครับว่า
บุคคลท่านนั้นๆเป็นคนดี

คนดีหรือไม่ดีนั้นจริงๆแล้ว
มันอยู่ที่คนอื่นจะให้ค่า หรือ ตีความเอาเองว่า
การมี ทาน ศีล ภาวนา นั้นเป็นคนดี

คนที่ปฏิบัติจริงๆ
เค้าไม่ได้มุ่งเอาคำชมต่างๆเหล่านี้หรอกครับ
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 8

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 46

โพสต์

หุ้นดีเพราะเขามีรายได้และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ
เหตุผลหนึ่งที่เขาดีเพราะผบหเก่ง
ถ้าผบหปฏิบัติธรรมด้วยแล้ว ผมชอบครับ
กาละมัง
Verified User
โพสต์: 1230
ผู้ติดตาม: 3

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ปัจจัยของการพิจารณาตัดสินใจในการลงทุน คือแนวโน้มผลประกอบการ และธรรมาภิบาลของผู้บริหาร

ถ้าผู้บริหารปฏิบัติธรรม เขาน่าจะเป็นคนดีครับ เราก็น่าจะสบายใจเรื่องธรรมาภิบาล

แต่ที่พบเจอไม่น้อย คือ พวก "เหมือนปฏิบัติธรรม" (คือ กล่าวอ้างว่าปฏิบัติธรรม ครับ)
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 25

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 48

โพสต์

ถ้าคนคนนึงไปโรงพยาบาลบ่อยกว่าค่าเฉลี่ย มองมุมนึง เค้าอาจจะป่วยบ่อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะเป็นคนแข็งแรงเพราะดูแลตัวเองดี ไปตรวจร่างกายประจำ
เป็นอะไรนิดเดียวก็ไปหาหมอ

คนไปปฏิบัติธรรมบ่อย มองมุมนึง เค้าน่าจะเย็น สงบ รู้จักพอ ทุกข์น้อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะร้อนรุ่มมาก โลภมาก ทุกข์มาก จนต้องไปปฏิบัติธรรม
เพื่อบบรรเทาความร้อนรุ่มที่ว่า

สุดท้ายแล้ว การกระทำจะบอกเราได้ว่า เค้าเป็นแบบไหนกันแน่
คนที่บอกว่าเข้าวัดตั้งแต่เด็กแต่ซื้อใบปริญญา
คนที่อ่านหนังสือธรรมมะแต่โลภสุดๆ ไม่รู้จักพอ
มันจะดีกว่าคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้เป็นแบบนั้นได้ไง

อีกอย่าง หลายคนปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อว่า มันเป็นบุญสูงสุด
ไม่มีอะไรเทียบได้ ผมมองว่ามันก็เป็นการยึดติดแบบใหม่
เปลี่ยนจากยึดติดเงิน ตำแหน่ง ลาภ ยศ มายึดติดบุญแทน
ความโลภอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย
ทุ่มเททุกสิ่งให้แก่ความฝันซึ่งมีแต่คุณเท่านั้นที่มองเห็น

http://WarrenBuffettFan.blogspot.com/
watkij
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 321
ผู้ติดตาม: 1

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 49

โพสต์

WEB เขียน:ถ้าคนคนนึงไปโรงพยาบาลบ่อยกว่าค่าเฉลี่ย มองมุมนึง เค้าอาจจะป่วยบ่อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะเป็นคนแข็งแรงเพราะดูแลตัวเองดี ไปตรวจร่างกายประจำ
เป็นอะไรนิดเดียวก็ไปหาหมอ

คนไปปฏิบัติธรรมบ่อย มองมุมนึง เค้าน่าจะเย็น สงบ รู้จักพอ ทุกข์น้อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะร้อนรุ่มมาก โลภมาก ทุกข์มาก จนต้องไปปฏิบัติธรรม
เพื่อบบรรเทาความร้อนรุ่มที่ว่า

สุดท้ายแล้ว การกระทำจะบอกเราได้ว่า เค้าเป็นแบบไหนกันแน่
คนที่บอกว่าเข้าวัดตั้งแต่เด็กแต่ซื้อใบปริญญา
คนที่อ่านหนังสือธรรมมะแต่โลภสุดๆ ไม่รู้จักพอ
มันจะดีกว่าคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้เป็นแบบนั้นได้ไง

อีกอย่าง หลายคนปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อว่า มันเป็นบุญสูงสุด
ไม่มีอะไรเทียบได้ ผมมองว่ามันก็เป็นการยึดติดแบบใหม่
เปลี่ยนจากยึดติดเงิน ตำแหน่ง ลาภ ยศ มายึดติดบุญแทน
ความโลภอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย

อ่านแล้วใช่เลย เห็นด้วยกับคุณ web ทุกประการ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 327

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 50

โพสต์

WEB เขียน:ถ้าคนคนนึงไปโรงพยาบาลบ่อยกว่าค่าเฉลี่ย มองมุมนึง เค้าอาจจะป่วยบ่อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะเป็นคนแข็งแรงเพราะดูแลตัวเองดี ไปตรวจร่างกายประจำ
เป็นอะไรนิดเดียวก็ไปหาหมอ

คนไปปฏิบัติธรรมบ่อย มองมุมนึง เค้าน่าจะเย็น สงบ รู้จักพอ ทุกข์น้อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะร้อนรุ่มมาก โลภมาก ทุกข์มาก จนต้องไปปฏิบัติธรรม
เพื่อบบรรเทาความร้อนรุ่มที่ว่า

สุดท้ายแล้ว การกระทำจะบอกเราได้ว่า เค้าเป็นแบบไหนกันแน่
คนที่บอกว่าเข้าวัดตั้งแต่เด็กแต่ซื้อใบปริญญา
คนที่อ่านหนังสือธรรมมะแต่โลภสุดๆ ไม่รู้จักพอ
มันจะดีกว่าคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้เป็นแบบนั้นได้ไง

อีกอย่าง หลายคนปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อว่า มันเป็นบุญสูงสุด
ไม่มีอะไรเทียบได้ ผมมองว่ามันก็เป็นการยึดติดแบบใหม่
เปลี่ยนจากยึดติดเงิน ตำแหน่ง ลาภ ยศ มายึดติดบุญแทน
ความโลภอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย
จะว่าเหมือนก็เหมือน จะว่าต่างก็ต่างนะครับพี่

ผมเข้าใจว่าเป็นความโลภเหมือนกัน แต่เป็นความโลภที่ละเอียดปราณีตยิ่งขึ้น ซึ่งลักษณะอย่างนี้น่าจะเป็นความโลภที่จะเสพเสวยอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางใจ ซึ่งในกระบวนการพัฒนาจิตตัวเอง มันก็ต้องค่อยๆ ละความโลภไปทีละอย่างๆ อย่างความโลภในระดับที่ละเอียดยิ่งๆ ก็คือความโลภที่จะอย่างได้สภาวะที่สงบ ละเอียดขึ้นไปอีก เพราะ ความโลภในอารมณ์ต่างๆ ยังมีความทุกข์เจือปนอยู่มาก มีศัตรูอันใกล้อยู่เยอะ ซึ่งพอเราเริ่มละความโลภในการเสพอารมณ์แรงๆ ได้ก็จะเกิดความโลภในการเสพอารมณ์ที่ละเอียดปราณีตอย่างความสงบเข้ามาแทนที่ พอเข้าไปลึกๆ ฌาน 1 ไปถึง 4 ก็ยังมีศัตรูใกล้ที่มีทุกข์เจือปนอยู่ จนกระทั่งเห็นทุกข์ที่เกิดในรูปฌาน จึงยกจิตขึ้นสู่อรูปฌาน แต่ก็ยังมีศัตรูใกล้ที่นำมาซึ่งทุกข์อยู่ จนไปถึงขั้นนิพพาน จึงพบกับความสุขที่แท้จริงที่ไม่มีทุกข์เจืออยู่เลย ดังนั้นเราจึงพบว่าพระอนาคามียังมีโลภะและโมหะเหลืออยู่ แต่เบาบางมากแล้ว

ส่วนเรื่องปฏิบัติธรรมนี่ผมว่าเป็น ปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งคงจะยากที่เราจะไปตัดสินเค้าอย่างที่พี่ WEB ว่ามั้งครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1123
ผู้ติดตาม: 1

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 51

โพสต์

picatos เขียน:
WEB เขียน:ถ้าคนคนนึงไปโรงพยาบาลบ่อยกว่าค่าเฉลี่ย มองมุมนึง เค้าอาจจะป่วยบ่อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะเป็นคนแข็งแรงเพราะดูแลตัวเองดี ไปตรวจร่างกายประจำ
เป็นอะไรนิดเดียวก็ไปหาหมอ

คนไปปฏิบัติธรรมบ่อย มองมุมนึง เค้าน่าจะเย็น สงบ รู้จักพอ ทุกข์น้อย
แต่มองอีกมุมนึง เค้าอาจจะร้อนรุ่มมาก โลภมาก ทุกข์มาก จนต้องไปปฏิบัติธรรม
เพื่อบบรรเทาความร้อนรุ่มที่ว่า

สุดท้ายแล้ว การกระทำจะบอกเราได้ว่า เค้าเป็นแบบไหนกันแน่
คนที่บอกว่าเข้าวัดตั้งแต่เด็กแต่ซื้อใบปริญญา
คนที่อ่านหนังสือธรรมมะแต่โลภสุดๆ ไม่รู้จักพอ
มันจะดีกว่าคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้เป็นแบบนั้นได้ไง

อีกอย่าง หลายคนปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อว่า มันเป็นบุญสูงสุด
ไม่มีอะไรเทียบได้ ผมมองว่ามันก็เป็นการยึดติดแบบใหม่
เปลี่ยนจากยึดติดเงิน ตำแหน่ง ลาภ ยศ มายึดติดบุญแทน
ความโลภอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย
จะว่าเหมือนก็เหมือน จะว่าต่างก็ต่างนะครับพี่

ผมเข้าใจว่าเป็นความโลภเหมือนกัน แต่เป็นความโลภที่ละเอียดปราณีตยิ่งขึ้น ซึ่งลักษณะอย่างนี้น่าจะเป็นความโลภที่จะเสพเสวยอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางใจ ซึ่งในกระบวนการพัฒนาจิตตัวเอง มันก็ต้องค่อยๆ ละความโลภไปทีละอย่างๆ อย่างความโลภในระดับที่ละเอียดยิ่งๆ ก็คือความโลภที่จะอย่างได้สภาวะที่สงบ ละเอียดขึ้นไปอีก เพราะ ความโลภในอารมณ์ต่างๆ ยังมีความทุกข์เจือปนอยู่มาก มีศัตรูอันใกล้อยู่เยอะ ซึ่งพอเราเริ่มละความโลภในการเสพอารมณ์แรงๆ ได้ก็จะเกิดความโลภในการเสพอารมณ์ที่ละเอียดปราณีตอย่างความสงบเข้ามาแทนที่ พอเข้าไปลึกๆ ฌาน 1 ไปถึง 4 ก็ยังมีศัตรูใกล้ที่มีทุกข์เจือปนอยู่ จนกระทั่งเห็นทุกข์ที่เกิดในรูปฌาน จึงยกจิตขึ้นสู่อรูปฌาน แต่ก็ยังมีศัตรูใกล้ที่นำมาซึ่งทุกข์อยู่ จนไปถึงขั้นนิพพาน จึงพบกับความสุขที่แท้จริงที่ไม่มีทุกข์เจืออยู่เลย ดังนั้นเราจึงพบว่าพระอนาคามียังมีโลภะและโมหะเหลืออยู่ แต่เบาบางมากแล้ว

ส่วนเรื่องปฏิบัติธรรมนี่ผมว่าเป็น ปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งคงจะยากที่เราจะไปตัดสินเค้าอย่างที่พี่ WEB ว่ามั้งครับ
แล้วถ้าเป็นความโลภแบบนี้ละครับ
เชื่อว่า บริจาคยิ่งมาก ยิ่งได้บุญมาก ยิ่งได้ขึ้นสวรรค์
บริจาคยิ่งเยอะ ผลบุญจะส่งให้เรายิ่งรวย
ที่แน่ๆคือ คนที่ทำบุญโดยมีความเชื่อหวังผลอย่างงี้ มีอยู่จริง และไม่ใช่น้อยๆด้วย คนใกล้ตัวผมก็มี โดยเฉพาะคนที่นับถือวัดวัดหนึ่ง....เอ๊ะ หรือลัทธิหว่า??
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
suwicha
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 329
ผู้ติดตาม: 16

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ตามความเข้าใจของผม-แก่นแท้ของการปฏิบัติธรรม เป็นไปเพื่อให้สามารถเห็นทุกอย่างตามที่เป็นจริง
และเข้าถึงความเป็นมายาของสิ่งทั้งปวง ว่าล้วนไม่เที่ยงแท้ แปรผันไปตามเหตุปัจจัย ภายใต้กฎธรรมชาติ
จนเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด สลัดทิ้งความยึดมั่นถือมั่นในตัวเราของเรา กระทั่งสามารถตัดเหตุแห่งทุกข์ คือตัณหาได้

ส่วนการปฏิบัติธรรมที่เป็นไปเพื่อการยึดติด ไม่ว่าทางจิตหรือวัตถุ
ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ปฏิบัติน่าศรัทธากว่าคนที่ไม่ปฏิบัติตรงไหนเลย
ผมจึงขอตอบคำถามตามกระทู้ว่า ไม่ครับ(เพราะเราไม่รู้ว่า ผู้บริหารปฏิบัติธรรมด้วยจุดมุ่งหมายอะไร)

ส่วนฌาณ และคุณวิเศษทั้งหลายเป็นเพียงผลพลอยได้ ถ้าหลงไปยึดติดเข้า กลับทำให้เป็นทุกข์ยิ่งกว่าการยึดติดในวัตถุเสียอีกนะครับ
surachaichia
Verified User
โพสต์: 601
ผู้ติดตาม: 4

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 53

โพสต์

เราควรจะยินดีกับ คนที่ยึดธรรมะ เป็นสรณะ

แม้ว่า จะยังไม่บรรลุอะไร หรือ ตัดกิเลสได้

แต่ย่อม หมายถึง เริ่มเข้าหาวิถีที่ทำให้พ้นทุกข์

ส่วนเรื่อง การลงทุนก็ยึดหลักการลงทุนตามแต่ละบุคคลที่เรียนรู้มา

เราควรยกย่อง หลักของธรรม เสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
satantuey
Verified User
โพสต์: 743
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้บริหารปฏิบัติธรรม ทำให้หุ้นน่าศรัทธามากขึ้นหรือไม่

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ผมไม่ค่อยให้น้ำหนักเรื่องนี้เลย!!! :twisted: :twisted:

เหตุเพราะผมมองว่าการทำธุรกิจมันค่อนข้างจะโน้มเอียงไปในด้านทางโลก...จนโลภ!! :B :B ยิ่งประสบความสำเร็จ...มันยิ่งจะห่างไกลจากทาง"ธรรม" มากขึ้นเท่านั้น