การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า จะตั้ง lowcost สู้เนี่ยจะไหวไหม

[ch_army]

ผมอ่านรายงานประกอบงบการเงิน แล้วเห็นว่า รายได้จากการขนส่งในประเทศ เป็นประมาณ 13-15% ของรายได้ทั้งหมด(เท่าที่จำได้นะครับ) แล้ว ปีนี้มี lowcost ซึ่งทาง การบินไทยก็จะสู้ ซึ่งผมคิดว่า ก็คงshare ลูกค้าใหม่ๆได้เหมือนกันจาก คนที่จะเปลี่ยนใจจากรถไฟ รถทัวร์มาลองเครื่องบินราคาถูก ส่วนชั้นธุรกิจในประเทศก็คงไม่ไปไหนอยู่ในมือ ส่วนลูกค้าเก่าๆที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่อง เงินๆทองๆ เท่าไร ก็อาจจะมั่นใจในบริการของการบินไทย มากกว่า ผมว่าในระยะสั้นกำไรตรงส่วนในประเทศนี้คงลดไปส่วนหนึ่ง แต่ ในระยะยาว หากการบินไทยจะสู้ด้านราคาก็คง ยันอยู่ได้ในวงการ lowcost ซึ่งคงต้องมอง ว่า เป็นการนำสินค้าใหม่(สายการบินราคาถูก) เข้าสู่ตลาดทั้งเดิมและ ใหม่(ลูกค้าที่บินกับการบินไทยแต่เดิม และก็ลูกค้าใหม่ๆที่เปลี่ยนในจาก รถไฟ รถทัวร์) ซึ่งผมไม่ทราบตัวเลขจริงๆว่า จะได้ในส่วนตลาดใหม่มากแค่ ไหนซึ่งคิดว่าคงพอสมควร แต่ในด้านการขนส่งต่างประเทศ เผอิญ ผมได้ยินข่าวเมื่อเช้า(จริงๆแล้วไม่ได้ตามมาก่อนพอได้ยินข่าวเลยสนใจ) บอกว่ามีการเปิดเสรีการบินระหว่าง ไทย-จีน ซึ่งคงเป็นประโยชน์กับสายการบินแห่งชาติ ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมได้ยินจากญาติที่เคยขึ้นเครื่อง ของ สายการบินจียบิกว่า ของใช้ในเครื่องดูเก่าๆ ของเรา(การบินไทย) ดีกว่าไม่รู้ตอนนี้เป็นไงแล้วนะครับ ผมว่าตัวนี้คงต้องดู ยาวหน่อยหรือเปล่าครับจึงจะเห็นอนาคต ที่เป็นตัวเลขชัดเจน ขอความเห็นของทุกท่านด้วยครับ ขอบคุณครับ

[THEPUNG]

แฮะๆๆๆ พึ่ง อ่าน The new Buffetology จบ เรื่องเกี่ยวกับการบิน รู้สึกว่าจะ มาเหมือนๆๆ ในเรื่องของการแข่งขันด้านราคานะครับ ที่เค้าบอกว่า หาก กิจการไหนมีราคาสินค้าหรือบริการที่ถูกกว่า ผู้บริโภคก็มักจะเลือกสินค้าหรือบริการนั้นๆๆ ไม่ ใช่หรือ ครับ

[ch_army]

คือ ในเรื่องการแข่งขันด้านราคานั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ตามหนังสือว่าแหละครับ แต่ในกรณีนี้ผม มองต่างมุม ในแง่ที่ว่า การเปิด lowcost airline นั้น เป็นทั้งอุปสรรคและโอกาสของ สายการบินที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้ง นี้นะครับ ในแง่ของการบินไทยอาจจะเสียลูกค้าเก่าๆไปบ้าง แต่อย่าลืมเร่องการบริการก็มีส่วน แล้ว การบินไทยเองก็ไม่ใช้ว่าจะไม่ลดราคามาแข่งขันด้วย และที่สำคัญ อบ่าลืมเรื่อง ความจำกัดถ้าความสามรรถในการให้บริการ ในแง่เที่ยวบินของแต่ละสายการบิน ซึ่งผมเองมองว่าการบินไทยน่ามีความได้เปรียบเรื่องนี้ คือมีความพร้อมในการให้บริการมากกว่า แต่ราคายังสูงกว่า แต่ลองคืดว่า ถ้าราคา ลงมาพอแข่งกับ รถไฟ รถทัวร์ ซึ่งตรงนี้ขอให้มองว่า การแข่งขันที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียง ระหว่างสายการบิน แต่คิดว่า แข่งกัน รูปแบบการโดยสารแบบอื่นๆ ซึ่ง เครื่องบินดีกว่าในแง่ความปลอดภัยและความเร็วในการเดินทาง ผมว่านักธุรกิจทั้งหลายที่เดินทางด้วยรถไฟ รถทัวร์ อาจเปลี่ยนมาใช้บริการ lowcost airline แทนซึ่งอันนี้ผมมอง ว่าไม่ใช่การแข่งขันของ สายการบินในการแย่ง ลูกค้ากลุ่มเดิมที่เคยขึ้นเครื่องเบินแต่เป็น การแข่งขันกันของสายการบินในการแย่ง ลูกค้าที่จะเปลี่ยนใจมาจาก รถไฟ รถทัวร์มาขึ้นเครื่องบิน แน่นอน สาบการบินที่ราคาต่ำสุด ย่อมได้ลูกค้าไปก่อน แต่ เที่ยวบินก็ย่อมมีจำกัด ดังนั้น คนที่เหลือหากจะเดินทางด้วย เครื่องบินก็ ต้องไปสายการบินอื่นๆ แน่นอน การบินไทยย่อมเป็นตัวเลือกหนึ่งด้วยและการบินไทยก็มีจุดได้เปรียบตรงการสะสมไมล์ อีกซึ่งถือเป็น กลยุทธ์การแข่งขันตัวหนึ่ง ด้วยนะครับ

[ippo]

ได้มีโอกาสดูรายการวิพากษ์หุ้นซึ่งได้เชิญผู้บริหารของการบินไทยและโอเรียนมาคุย
ทางthai คุยถึงตัวเลขว่า ตลาดlow cost อยู่ในรายได้ประมาณ 0.74 % เท่านั้นเอง คู่แข่งที่แท้จริงคือ 440 สายการบินทั่วโลก
เป้า 47 นี้จะเพิ่มรายได้อีก 20000 ล้านบาทให้ได้ ยอดรวม 150000 ล้านบาท
ในแง่ของยุทธศาสตร์การเปิดเส้นทางของthai ได้อานิสงค์จากการที่รัฐบาลได้คุยกับจีน และทางจีนอนุญาตให้thai นำเที่ยวบินมาลงได้ทุกแห่งของประเทศ นอกจากนั้นยังมีประเทศอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลได้พยายามเปิดตลาดให้
มาตรการจัดการกับโรคซาร์ thai เป็นอันดับ 1 ของโลกเพราะมีการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ซึ่งคาดว่า หากมีโรคใดๆ เข้ามาอีก ทางthai น่าจะมีการจัดการที่ดีได้